The Heart เพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
เขียนโดย พายุลมหนาว
วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 07.14 น.
แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2558 00.03 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
10) [10] งานเลี้ยง 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
The Heartเพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
Chapter (10)
“ถามจริงเหอะ คิดไงพาฉันมาเต้นรำ” ฉันถามโทโมะหลังถูกเขาลากเข้าฟลอร์เต้น โทโมะมองหน้าฉันแต่ไม่พูดอะไรเพียงทำหน้าที่เป็นฝ่ายนำโยกตัวไปตามจังหวะเพลง นิฉันถามนายอยู่นะ ช่วยตอบคำถามอีแก้วด้วย! ฉันชักหน้างอนไม่สบตาเขาเพราะทำอะไรไม่ได้เมื่ออยู่กลางฟลอร์ซะขนาดนี้แถมพี่แกก็โอบเอวฉันเอาซะดิ้นไม่หลุดด้วย
“นี่” =_=?
“อะไรอีก! จุ๊บ” จังหวะที่ฉันหันไปเป็นเวลาเดียวกับที่เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันทำให้ปากเราทั้งคู่ชนกัน O////O! ฉันอึ้งปนเขินด้วยความตกใจ โทโมะเองก็แอบเล็ดสีหน้าตกใจเหมือนกันก่อนจะโน้มหน้าใกล้..ประกบริมฝีปากบางแล้วสอดลิ้นเข้ามาหยอกล้อกับลิ้นฉัน ฉันตาค้างใบหน้าร้อนผ่าวไม่คาดคิดว่าเขาจะรุกล้ำเกินกว่าเหตุและที่สำคัญฉันก็ดันเผลอตอบสนองรสจูบเขานี้สิ -////-
“อือ อื้ม!” ฉันรีบทุบไหล่กว้างเพราะรู้สึกสมองเริ่มขาดอากาศล่อเลี้ยง หะ หายใจไม่ออก >x<!!! โทโมะยอมปล่อยให้ฉันรีบกวาดอากาศเข้าปอดแล้วแอบยิ้ม นะ นายจงใจแกล้งฉันใช่มั้ย ตาบ้า! ฉันจ้องเขาตาเขียวพลางหายใจถี่หอบ นิยังดีนะอยู่กลางวงคนอื่นเลยไม่ทันสังเกต ไม่งั้นฉันคงต้องเอาปิ๊ปคลุมหัวออกงาน น่ะ ยังจะมายิ้มอีก ไอ้ผีดิบ!
“นายมาจูบฉันทำไม!” ตั้งใจจะแกล้งฉันแง่มๆ >/////<
“เธอเริ่มก่อน” บ้าเรอะ! ฉันไปเริ่มยามไหนของนายย่ะหรือเมื่อกี้ที่ปากชนกันเขาเลยคิดว่าฉันให้ท่า อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยย ใช่ที่ไหนห่ะ!!
“นั้นมันอุบัติเหตุ นายอยากยื่นหน้ามาใกล้ฉันเองทำไมเล่า!” โอย อะไรกันไอ้รอยยิ้มชวนใจละลายนั้น >///<
“เรอะ แต่ฉันตั้งใจ” =[]=!? =////= เอ่อ...จะบอกว่าเมื่อกี้นายจงใจจะจูบฉันอยู่แล้วว่างั้นเหอะ โทโมะยิ้มก่อนหมุนตัวฉันตามจังหวะเพลง เป็นท่าที่ต้องดึงฉันเข้ามาสวมกอดด้านหลังทำให้ผิวหลังฉันกระทบกับแผลงอกกว้างของเขา ความเสียววาบเล่นเอาฉันสั่นสะท้าน ขนลุกซู่ ด้วยเสื้อฉันเป็นชุดราตรีแหวกหลังจนเกือบถึงเอว ไหล่เปิดเล็กน้อยและฉันดันรวบผมขึ้นเผยผิวขาวที่อุส่าถนอมมานานนับปีเพื่อให้ผู้ชายที่ไหนไม่รู้ด้อมๆแถวคอฉัน =_=… เดียวๆๆ
“เพลงจบแล้วน่า เลิกกอดฉันสักที” ฉันรีบอ้างเพลงจบทั้งที่มันมีเรื่อยๆแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะรั้งฉันไว้ต่อหรอก จึงรีบแกะแขนใหญ่ทิ้งแต่โทโมะกลับเข้ามาพูดบางอย่างกับฉัน
“อยากโดนนายท่านลวนลามอีกครั้งรึไง” ฉันชะงักแล้วมองเขาที่เหล่ไปข้างหลังตนเอง ฉันหันตามที่เขามองก็เห็นไอ้แก่นั้นยืนอยู่ไม่ไกลถ้าเกิดเขาไม่บังฉันไว้เชื่อเลยว่ามันต้องมาหาฉันแน่นอน
“นี้มันวันซวยอะไรของฉันกัน” ฉันสบถเบาพลางลอกแลกด้วยความกลัว
“หึ ตามมาเนียนๆ” เขากระซิบบอกฉันก่อนจะดันร่างฉันฝ่าผู้คนออกมาอยู่นอกงานบริเวณแถวระเบียง ฉันเดินมาเกาะราวแล้วสูดอากาศข้างนอกจนชุ่มปอด เฮ้อ ไม่อยากบอกข้างในโครตร้อนแต่พอออกมาเท่านั้นแหละ กลับเย็นสบายบอกไม่ถูกแล้วก็หนาววาบขึ้นมาทันตา ลมหนาวพัดผ่านเรือนร่างเอาซะฉันต้องรีบกอดตัวเองหลวมๆลูบแขนเพิ่มความอุ่นแต่แล้วมันก็อุ่นขึ้นมาซะดื้อๆ เสื้อใคร?
“โทโมะ?” ฉันเหลียวหลังไปหาโทโมะ เขาเอาเสื้อนอกคลุมให้ฉัน O////O โครตสุภาพบุรุษ
“ทีหน้าทีหลังหัดระวังซะบ้าง อย่าทำตัวเป็นภาระ” ปากเรอะนั้น ไม่น่าชมเล้ย
“เอาเสื้อนายคืนไปเลยป่ะ” ฉันเลิกเสื้อออกจะเอาคืนเพราะไม่อยากเป็นอีภาระเขา แต่โทโมะดันเสื้อกลับไม่ให้ฉันถอดออกแล้วส่งสายตาแกมดุ
“ ห้ามเอาออก คลุมไว้อย่างนี้แหละถ้าไม่อยากโดนลากไปข่มขืนหรือถ้าเธอจงใจอยากจะยั่วฉัน เตรียมเหได้เลยเพราะมันสำเร็จ” เขาพูดจบก็โน้มเข้ามายิ้มมุมใกล้หน้าฉันพร้อมเบียดชิดกายตาม ฉันเลยต้องรีบถอยห่าง
“ใคร ใครเขาอยากยั่วนายมิทราบ หลงตัวเองสุดๆ” ฉันรีบสวนพร้อมทั้งเชิดหน้าและไม่ลืมที่จะกระชับเสื้อปกปิดร่างกาย
“ก็หลายคน หนึ่งในนั้นก็เป็นเธอคนหนึ่งล่ะนะ” กรี้ดดดด บอกว่าไม่ก็ไม่ไง >[]<!
“ฉันไม่ดะ...” พอฉันกำลังจะเถียงเท่านั้นแหละ
พลั่ก!!
“โทโมะ!” ร่างของเขาก็ล้มลงไปกองกับพื้นเพราะถูกใครบางคนต่อยและใครบางคนที่ว่าก็คือ ไอ้ป็อป ฉันมองมันที่โกรธจัดอย่างอึ้งทึ่งและมันก็ดึงร่างฉันไปอยู่ข้างหลังมันอย่างเร็ว
“ไอ้โทโมะ มึงทำอะไรแก้ว!!” มันกราดจะเข้าไปเอาเรื่องเขา ฉันจึงรีบยื้อร่างมันไว้พร้อมกับมองโทโมะที่พึ่งจะลุกขึ้นยืนเอานิ้วแตะมุมปากเลือดซิบเพราะรสหมัดของเพื่อนซี้ฉัน เลือดออกเลยอ่ะ O/\O!
“มึงเป็นบ้าอะไรเนี่ย ไปต่อยโทโมะทำไม!?” ฉันด่ามันทันทีด้วยความโมโห
“ก็มันจะทำร้ายมึง” มันชี้หน้าโทโมะมองอย่างขุ่นเคือง
“เขาไปทำร้ายกูยามไหนห่ะ!” ฉันชักหน้ามันมาจ้องตรงๆพยายามให้มันตั้งสติแต่ดูเหมือนการกระทำของฉันจะไม่เป็นที่หน้าพอใจของใครบางคน
“ก็เมื่อกี้..” ก็อะไร =^=?
“ก็อะไรเล่า!” ยังจะมานิ่งอีก เร็วๆดิ
“หึ ขัดจังหวะซะจริง” ไม่ทันได้คำตอบ โทโมะก็แค่นหัวเราะดังแล้วเหยียดยิ้มอย่างปีศาจกราดมองฉันกับไอ้ป็อป นายเป็นอะไรไปน่ะ?
“ถ้ามาช้ากว่านี้อีกสักนิด ป่านนี้ยัยนี้ได้มีความสุขไปแล้วจริงมั้ย” เขาพูดพร้อมกับเหล่มาทางฉันด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
“มึงคิดจะทำอะไร!!!“ ไอ้ป็อปสลัดหน้าออกแล้วชี้หน้าโทโมะพร้อมบอกเล่าคำถามแรกซ้ำ ฉันมองหน้าเขาที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด นิ่งราวน้ำแข็ง แต่แววตากลับดูแข็งกร้าว ไม่เหมือนในตอนแรก
“แล้วมึงคิดว่าอะไรล่ะที่ผู้ชายจะทำให้ผู้หญิงครวญครางได้อย่างสุขสมบนเตียง” .......
“มึง!”
เพี๊ยะ!!!
ใบหน้าหวานหันไปตามแรงตบเข้าแผลเดิมจนเลือดไหลออก ป็อปปี้มองตาค้างเพราะไม่ทันได้ก้าวไปอัดหน้ากลับกลายเป็นเพื่อนคนสนิทตัดหน้าไปเสีย ปากบางขบเม้นเก็บกลั้นอารมณ์กริ้วโกรธ ห้วงความคิดของเธอมีแต่คำถามนับร้อยนับพันขึ้นมาไม่ขาดสาย ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม!!!
“ไอ้แก้ว..” ป็อปปี้มองแผ่นหลังเพื่อนซี้อย่างอ้ำอึ้งคาดไม่ถึง
“นายมันก็ไม่ต่างอะไรกับไอ้แก่นั้น” ผิดหวัง ผิดหวังในตัวเขา ผิดที่ตัวเองดันหลงไว้ใจเขา นึกว่าเขาจะต่างจากคนอื่น ไม่ ไม่เลย เขาแทบไม่ต่างจากพวกมันเพราะอะไรนะเหรอ? ง่ายๆก็เพราะเขาเป็นพวกมันไงล่ะ.....
“สารเลว”
“ว้ายคุณโทโมะ หน้าไปโดนอะไรมาค่ะ!?” มณีถามเมื่อเห็นโทโมะไม่ไกลนัก ชายหนุ่มไม่ปริปากเพียงเดินผ่านร่างมณีไปเฉยๆ หญิงสาวมองตามหลังถึงถอนให้หายใจปลงเพราะรู้นิสัยเขาดีอยู่แล้ว
“หืม โทโมะหน้านายไปโดนอะไรมา?” แสนถามทันทีที่ลูกน้องคนสนิท
“นิดหน่อยครับ” โทโมะตัดบท แล้วหยิบเอาไวน์แดงซดปิดปากไม่อยากตอบข้อสงสัย แสนเหล่นิดหนึ่งก่อนจะหันไปพูดคุยกับพวกลูกน้องด้านหลัง
“จัดการเรียบร้อยไหม” แสนถามพวกลูกน้อง
“ครับนาย พวกตำรวจแอบส่งสายไปตามขบวนเส้นที่เราไปจริงๆครับ” หนึ่งในลูกน้องตอบ
“อืม อย่างว่าล่ะนะ ตามไปก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดีเพราะในนั้นมันไม่มีอะไรให้พวกมันดูสักนิดของก็อยู่ที่นี้จะตามไปให้เสียทำไมโง่ดีจริง แล้วสายพวกไอ้พวกเสืออยู่ที่นั้นด้วยใช่มั้ย” แสนยิ้มก่อนจะถามถึงอีกกลุ่มหนึ่งที่มีปัญหามานานนม ฝ่ายลูกน้องมองหน้ากันเองอ้ำอึ้งก่อนจะพยักหน้าตอบตามที่เขาเข้าใจ โทโมะตงิดใจกับท่าทีพวกลูกกระจ๊อกแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรดื่มไวน์ในมือต่อ
“หึ อย่างที่ไอ้ป็อปมันคิดจริงๆ ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด” เขื่อนที่แอบฟังอยู่วางกล้องที่เขาอัดวิดีโอลงก่อนจะกดส่งคลิปที่ได้ให้กับเพื่อนร่วมทีมและรีบหลบหนีออกมา
ตี๊ดๆ!
“ภีม หมอนั้นส่งมาแล้ว” เฟย์แจ้งข่าวกับชายหนุ่มทันทีและโชว์คลิปให้ดูตาม ภีมพยักหน้าแล้วกวักมือส่งสัญญาณเหล่าพรรคพวกให้เตรียมตัว
“ฉลาดดีเหมือนกัน” เฟย์บ่นเบาๆ ภีมยิ้มแล้วแตะบ่าเฟย์พร้อมทั้งมองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หญิงสาวรู้ตัวถึงสิ่งที่ญาติชายสื่อทันทีว่าควรไว้ใจคนอื่นเสียบ้างก็ถึงกับบึนปากยอมรับผิดก่อนจะยกขบวนไปสกัดพวกกลุ่มสินค้าที่แอบขนของ
“เห้ย พวกมึงเป็นใครว่ะ!?” หนึ่งในกลุ่มสินค้าตกใจเมื่อมีพวกไอ้โม่งดำโผล่ออกมารอบตัว แล้วพุ่งเข้ามาจับตัวพวกเขา ลูกน้องแสนรีบกดสัญญาณเตือนไปถึงกลุ่มสินค้าหลักก่อนจะควักปืนถล่มยิงพวกไอ้โม่งดำกระหน่ำกับพวกของเขาเองอีกหลายคน
“เฮ้ย!! แกนะ” เฟย์อ้อมไปด้านหลังชายคนที่ถือปืนพร้อมเรียกให้รู้ตัวก่อนวิ่งเข้าไปกระโดดขี่คล้องคอแล้วหักตัวทุ่มชายคนนั้นสลบ มือเล็กหยิบเอามีดเล่มบางปาใส่อีกฝ่ายที่จะยิงใส่เธอปักคอตายแต่ไม่ทันได้เห็นอีกคนไม่ไกลทำให้เฟย์เปิดช่องโหว่และจังหวะนั้นเองภีมยิงดักจนชายที่หมายทำร้ายเฟย์ดับได้ก่อนพอดี ชายหนุ่มเข้าไปประคองเฟย์ลุกขึ้นตามแล้วพาไปรวมตัวกับกลุ่มของตน
“เช็ครอบๆเรียบร้อยดีแล้วใช่มั้ย” ภีมถามชัย หนึ่งในกลุ่มเสือ
“เรียบร้อยครับนาย พวกที่เหลือก็จับมัดหมดทุกคนแล้วครับ” ชัยตอบก่อนที่จะสั่งพวกลูกน้องงัดกล่องของทุกกล่อง เฟย์มองตามห่างๆระหว่างยืนกุมแผลถลอกเพราะรบราเมื่อกี้ เธอเหลือบเห็นพวกเฉลยที่จับได้กำลังยิ้มเยาะก็ฉุดใจขึ้นมาว่าพวกมันไม่น่าทำแค่นี้แน่ เธอนึกถึงคำที่แสนพูดในคลิปว่า”จะตามไปให้เสียทำไมโง่ดีจริง”
“ทุกคนอย่าพึ่งเปิด!!!”
ปิ๊บๆๆๆๆ!! ตูมมมมมมมมมมมมมมม!!!!
ครื้นๆๆๆ ครืน ซะ ซ่าๆๆๆๆ
“.......” โทโมะฟังเสียงวิทยุสื่อสารที่ติดต่อกับพวกกลุ่มลูกน้องของเขาก็ยิ้มเยาะแล้วหันไปมองแสนที่นั่งอยู่ไม่ไกล แสนชูแก้วขึ้นแล้วดื่มมันจนหมดก่อนจะจูบเล่นกับพวกสาวๆระหว่างนั่งรอข่าวดี เขาไม่ใช่คนที่จะวางอะไรง่ายๆอย่างน้อยมันต้องมีอะไรติดไม้ติดมือไปบ้างและก็เป็นที่น่าพอใจกับความสำเร็จที่เขาได้รับ
“หนูติดกับง่ายดีจริง ว่าไหมโทโมะ” แสนถามความเห็นจากโทโมะ
“นั้นสิครับ” โทโมะยิ้มสะใจหลังได้เอาคืนพวกเสืออย่างสาสม ที่ครั้งก่อนตนเกือบตายก็เพราะพวกมันส่วนหนึ่งแต่เขาก็ต้องหุบยิ้มลงอย่างไม่มีสาเหตุ ตาคมหรุบต่ำจ้องน้ำรสฝาดที่สั่นไหวในแก้วก่อนจะยกจิบให้รสแผ่ซ่านทั่วปากแต่มันกลับกลบรสหวานเก่าออกไปไม่ได้เสียที รสที่เขาได้สัมผัสเป็นครั้งที่สองโดยเผลอใจไป
ซ่าๆๆ ซ่า
“เฮ้ยๆ ฮาโล่วๆ ภีม เกิดอะไรขึ้นน่ะ ภีม ภีม เวรแล้วไง ปัดโธ่เว้ย!!!” ป็อปปี้สบถทิ้งอย่างหัวเสียหลังขาดการติดต่อจากอีกฝาก ชายหนุ่มเดินวนไปวนมา กระวนกระวายบอกไม่ถูก เขื่อนที่แอบเข้ามาสมทบจุดนัดหมายแปลกใจที่เพื่อนทำหน้าดำคร่ำเครียดก็รีบไปแตะไหล่ป็อปปี้แล้วเขย่าให้ใจเย็นๆก่อน ป็อปปี้สูดหายใจเข้าออกก่อนแล้วยิ้มๆ ก่อนจะเรียกกำลังพลของเขาที่แฝงเข้างานมาด้วยรวมตัว
“มึงได้เรื่องไรบ้าง?” ป็อปปี้ถามเขื่อน
“กูได้ยินว่าพวกมันจะแอบขนยากันข้างหลังรีสอร์ทไม่ไกลนี้เอง แต่ระวังหน่อยนะเว้ย คนเฝ้าเยอะพอสมควรแล้วถ้าเกิดมันรู้ตัวล่ะก็เราซวยแน่ เพราะคนในงานทั้งหมดคือตัวประกัน” เขื่อนบอกเล่าทั้งหมด ป็อปปี้รับทราบแล้วบอกให้เขื่อนแยกตัวไปเรียกความสนใจพวกนายแสนไว้ส่วนตนกับที่เหลือจะไปจัดการเอง เขื่อนรีบไปสะกิดแก้วที่ยืนเหม่อใกล้ๆพวกเขา
“แก้วๆ เราต้องไปกันแล้วเร็วเข้า” ฉันที่กำลังเหม่อลอยอยู่โดนไอ้หน้ายาวสะกิดเรียกแล้วบอกให้ฉันกลับเข้างานพร้อมมันทั้งที่ใจฉันปฏิเสธอย่างแรง ฉันได้แต่มองหน้ามันแล้วรับคำก่อนจะถูกมันจูงมือไป อะไรกัน ฉันไม่เข้าใจเลยสักนิด เหมือนใจฉันมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เจ็บ ทั้งที่ไม่มีแผล เจ็บ ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่มันกลับเจ็บยิ่งกว่าถูกเข็มนับร้อยทิ่มแทง ทำไมล่ะ โทโมะ นายคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆเหรอ นายหลอกฉันทำไมหรือแค่มองฉันเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ
“ยัยแก้ว” .......
“ยัย แก้ว” ..............
“ยัยแก้วววว!!!” +_o!? เฮือก ใครตะคอกหูเนี่ย ฉันหันไปมองเจ้าของเสียงแหลมก็ถึงได้รู้ว่าเป็นพี่กิ่ง แล้วนี้เรามาอยู่นี้ตั้งแต่เมื่อไหร่จำได้ว่าโดนไอ้หน้ายาวลากมา และมันหายหัวไปไหน?
“พี่กิ่ง..” สายตาเลือนลอยทั้งเอียงศีรษะมองหาคนอีกคน แม่หายไปไหนทำไมถึงมีแต่พี่กิ่ง
“ถ้าหาม๊าล่ะก็รออยู่ที่รถ จะกลับเลยไหมจะได้ไปพร้อมๆกัน” ฉันส่ายหน้าตอบพี่กิ่งแล้วก้มมองแก้วแชมเปญที่ไม่รู้ถือยามไหนสงสัยคงเป็นไอ้เขื่อนแน่เลย พี่กิ่งยิ้มแล้วโบกมือลาฉันก่อนไป ฉันกวาดสายตาไปทั่วงานเลี้ยงแล้วยกแชมเปญขึ้นซดทีเดียวเผื่อความเย็นของมันจะช่วยดับใจที่ร้อนรุ่มในอกได้ ใช่ มันดีขึ้น แต่ก็แค่ชั่วคราว ฉันไม่รู้ฉันเป็นอะไร ความรู้สึกอัดอั้นข้างในมันแทบจะฉีกร่างฉันเป็นเสี่ยงๆ ฉันไม่สามารถทำอะไรกับความอึดอัดนี้ได้จริงๆเรอะ
เพี๊ยะ!
“มีสติก่อนแก้ว มีสติ” ฉันรีบตบหน้าตัวเองอย่างแรงจนรู้สึกชาที่ใบหน้าข้างซ้ายและหัวใจ นี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเก็บกดเรายังมีเรื่องที่ต้องทำ ฉันรีบดิ่งตัวเดินสายกลางงานด้วยความมั่นใจพร้อมทั้งยิ้มโปรยเสน่ห์เรียกให้ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว เป้าหมายของฉันในครั้งนี้คือ มิสเตอร์ซัน ถ้าไอ้แก่นั้นอยู่กับฉันลูกน้องมันทั้งงานก็ต้องสนใจฉันกับไอ้แก่โล้นอย่างเดียวจนลืมอย่างอื่น
“โอ้ะโอ้ หนูแก้วไม่ใช่รึ” ไอ้แก่ซันคลี่ยิ้มทันตาพร้อมทั้งเดินมาสนิทแนบชิดกับฉัน แต่ฉันต้องรักษาระยะห่างไว้ก่อนแม้จะมั่นใจว่ายังไงกลางงานมันคงไม่กล้าแตะต้องตัวฉันก็ตามที
“สวัสดีค่ะ มิสเตอร์ซัน” ฉันยิ้มหวานเป็นมารยาทให้แต่ใจนี่อยากเอาอีแก้วไวน์ที่พึ่งได้มาใหม่ทิ่มตามันซะจริง =_=’’
“เรียกอาก็ได้ แล้วนี้หนูแก้วมาคนเดียวเหรอครอบครัวหนูหายไปไหนกันหมด” แก่ปูนนี้ไม่เรียกไอ้งั่กๆก็ดีแค่ไหนแล้ว
“กลับกันไปก่อนแล้วค่ะ” ไอ้แก่ซันยิ้มกริ่มอย่างพอใจ เหอะ ถึงม๊ากับพี่ไม่อยู่ก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะเสร็จแกแบบครั้งก่อน งานนี้ฉันเตรียมความแค้นมาเต็มแม็กซ์ แตะเมื่อไหร่เจอซัดกลางงานแน่ไอ้แก่ ฉันกับมันก็มานั่งคุยกันที่โซฟาส่วนตัวพลางหาเรื่องคุยซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องขี้โม้มันทั้งนั้น พยายามบอกตนดีแสนดีแสนรวยแสนสารพัด ชิ -_- แกเข้าคุกเมื่อไหร่ฉันจะขอผู้คุมยิงหัวแกคนแรก
“รีบๆเข้าหน่อยได้ไหมว่ะ ไอ้ป็อป”
เฮียโมะออกลายจริงอ่ะป่าวเนี่ย ฮะฮ่าๆๆๆ ผู้อ่านอยู่ๆกันอยู่ไหมถ้าอยู่ก็ช่วยๆกันเม้นเรื่องกันซักนิดน้าอยากอ่านความเห็น ไรต์เริ่มเมากับเรื่องแหละ @v@ เขียนเอง งงเองค้าบบบบบบ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ