Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

8.4

เขียนโดย blackKZ

วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.

  20 chapter
  215 วิจารณ์
  29.90K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

17) ตอนที่ 16 แค่วันๆหนึ่ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

CHAPTER16: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

 

ตอนที่ 16 แค่วันๆหนึ่ง

 

 

 

 

           

            “แก้ว” เสียงทุ้มใหญ่ปลุกร่างบางที่นอนแน่นิ่งบนเตียงในยามเช้าของวัน

 

 

 

 

            “......” ไม่มีสัญญาณตอบรับ

 

 

 

 

            “แก้ว” ชายหนุ่มขึ้นคร่อมร่างหญิงสาวแล้วลองสะกิดดู 2-3 ที แต่เธอก็แค่หันมาประจันหน้าเขาแล้วโบกมือไล่อากาศอย่างหงุดหงิดก่อนจะฟุบหลับต่อ

 

 

 

 

            “ยัยขี้เซาตื่นได้แล้ว!” โทโมะรวบคิ้วหนา เริ่มหงุดหงิดจึงก้มลงไปเอ็ดดังใกล้ใบหน้าสวย

 

 

 

 

            “งืม?...” มันได้ผล แก้วยอมลืมเปลือกตาบางขึ้นมาดูสิ่งที่รบกวนเป็นเวลานอนของเธอและ

 

 

 

 

            กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!

 

 

 

 

            หญิงสาวกรี้ดลั่นทันทีที่เห็นใบหน้าของชายหนุ่มอยู่ใกล้เธอแค่เอื้อม สมองสั่งการให้ขาคู่สวยออกแรงถีบเขาในทันใด

 

 

 

 

            “โอ๊ย ยัยบ้าถีบฉันทำไมมันเจ็บนะ!” โทโมะกุมหน้าท้องจุกเสียดรีบว่าหญิงสาว

 

 

 

 

            “แล้วใครใช้ให้นายยื่นหน้ามาใกล้ฉันล่ะ ไอ้ผีดิบ ฉันก็ตกใจเป็นนะ” แก้วว่ากลับ

 

 

 

 

            “หืม? ตกใจหรือว่าเขินฉันกันแน่ หึๆ” โทโมะนิ่งแล้วยิ้มชั่วร้ายพร้อมเขม่นหญิงสาวด้วยดวงตาคู่คม

 

 

 

 

            “ใคร ใครเขินนาย อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย” แก้วเบ้ปากหมั่นไส้ในความขี้หลงของชายหนุ่ม

 

 

 

 

            “อ้อเหรอ นั้นถ้าฉันทำแบบนี้ล่ะ” ชายหนุ่มเชิดคางมนรวบประทับริมฝีปากบางอย่างรวดเร็ว แก้วเบิกตากว้างรีบทุบบ่าแข็งแกร่งแต่กลับโดนเขารุกกลับแรงยิ่งขึ้นจนสมองน้อยพร่าเบลอรสสัมผัส โทโมะยอมถอนจูบแต่โดยดีเมื่อแก้วเลิกทุบเขาก่อนจะเผยรอยยิ้มกริ่ม

 

 

 

 

            “Morning kiss ยัยขี้เซา” โทโมะมองใบหน้าเอ๋อของหญิงสาวอย่างพอใจ

 

 

 

 

            “หึ่ย! ไอ้บ้า ไอ้ๆ ไอ้ผีทะเล!” แก้วได้สติก็เฟ้นคำด่าสารพัดอัดหน้าชายหนุ่มด้วยความโกรธและอาย

 

 

 

 

            “ฮะฮ่าๆๆ ฉันชอบปฏิกิริยาเธอเป็นบ้า น่ารักดี” โทโมะหัวเราะชอบใจรีบหนีแก้วเพราะเธอเล่นเอาหมอนปาไล่เขา

 

 

 

 

            “เครียดจนเพี้ยนรึไงเนี่ย //////” แก้วกุมใบหน้าแดงก่ำบ่นโทโมะ

 

 

 

 

           

            “อ้าวเนย แล้วยัยแจมไปไหนซะล่ะ?” แก้วเห็นเนยนั่งแต่งหน้ากับพวกพี่ทีมงานคนเดียวก็ถามถึงคู่แฝดอีกคน

 

 

 

 

            “หนีไปซื้อไอติมค่ะ” เนยชี้ทิศที่แจมอยู่ แก้วก็มองตามจนเจอยัยน้องสาวอีกคนกำลังกินซอฟครีมอย่างเอร็ดอร่อย หญิงสาวส่ายหน้าเหนื่อยใจ เวลางานแท้ๆยังจะกินอีก รีบเดินไปลากตัวมาแต่งหน้าเพราะนี้ใกล้เวลาเริ่มงานขืนมัวรอให้แจมกินจนหมดคงไม่ทันกันพอดี

 

 

 

 

            “ยัยแจม เวลางานแกยังมีกะจิตกะใจกินอยู่อีกเรอะ” แก้วบ่นน้องสาวที่ชักหน้างองอน

 

 

 

 

            “ไรอ่ะ พี่แก้วก็แจมอยากกินนี้น้า ไม่เห็นต้องดุเค้าเลย” แจมว่าจบก็แก้มป่องสะบัดหน้าหนี  แก้วมองช่างแต่งหน้าแล้วบอกให้จัดการต่อส่วนตัวเองก็ปลีกตัวมานั่งเช็คสถานที่ถ่ายทำ วันนี้เป็นธีมแปลกพอตัวเพราะถ่ายในสวนสนุก และสองสาวของเธอจะได้แต่งชุดในคอนเซ็ปตัวตลกหวานแหวว และมีนายแบบตัวน้อยมาสร้างสีสันในภาพ แก้วมองทีมงานที่กำลังตั้งฉากกับไฟแล้วหันไปเห็นเด็กวิ่งเล่น

 

 

 

 

            “น่ารักจัง” หญิงสาวคลี่ยิ้มแล้วนึกถึงสมัยเด็กที่เธอมากับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา ณ เวลานั้นเอง เด็กชายตัวน้อยที่วิ่งซุกซนดันสะดุดเข้ากับสายไฟล้มคะมำพื้นก่อนจะนั่งร้องไห้เพราะหัวเข่าถลอก และ สายไฟที่เด็กคนนั้นเกี่ยวพันดันไปดึงเอาเสาเหล็กที่ใช้ประกอบฉากล่วงลงมา แก้วเห็นเหตุการณ์ก็รีบพุ่งตัวเข้าไปอุ้มเด็กน้อยแต่ไม่สามารถขยับตัวหนีได้ทันด้วยความเร็วของเสาเหล็ก เธอหลับตาเอาตัวขวางไม่ให้โดนเด็กน้อยที่อุ้มและอยู่ๆร่างของเธอก็ถูกดึงออกมาโดยใครบางคน

 

 

 

 

            โครม!!!! แก๊ก!! ตึง!

 

 

 

 

            ทุกคนในกองหันเป็นตาเดียวรีบเข้าไปดูก็พบเสาเหล็กคานในฉากล้มเกลื่อนกลาด และร่างของแก้วที่กอดเด็กน้อยอยู่ไม่ไกล

 

 

 

 

            “พี่แก้ว!!!” เนยแจมวิ่งเข้ามาสวมกอดร่างพี่สาวทันทีหลังจากที่แก้วส่งเด็กชายให้คนในทีมงาน

 

 

 

 

            “โอ๊ย กอดแน่นไปแล้ว” แก้วดันทั้งคู่ออกแล้วชูสองนิ้วบอกไม่เป็นไร แต่สองสาวก็ยังห่วงอยุ่ดีก่อนแก้วจะไล่สองสาวไปทำหน้าแต่งตัวต่อ

 

 

 

 

            “ขอบคุณนะโทโมะ” แก้วหันมายิ้มให้วิญญาณข้างกายเธอ

 

 

 

 

            “อยากรู้จริงถ้าไม่มีฉันสักคนเธอจะได้ยืนยิ้มแบบนี้ไหม หาเรื่องดีจริงนะยัยเซ่อ” โทโมะหน้าตึงจัดการบี้จมูกหญิงสาวด้วยความโมโหเล็กๆ แก้วหน้ามุ่ยขรึงตาชายหนุ่มกลับก่อนเขาจะคล้องคอเธอแล้วลากไปที่ร่ม

 

 

 

 

            “ถอดเสื้อออก” โทโมะสั่งให้แก้วถอนเสื้อออกหลังถึงเต้นท์ที่พัก

 

 

 

 

            “เห้ย จะบ้าเรอะมาถงมาถอดอะไรนายห่ะ!?” แก้วตกใจรีบสวมกอดตัวเอง

 

 

 

 

            “บ้าอะไร แค่ให้ถอดแจ็คเก็ตออกหรือเธออยากถอดมากกว่านั้นก็ได้นะ ฉันยินดีเป็นผู้รับชม” โทโมะยิ้มกรุ้มกริ่ม

 

 

 

 

            “ไอ้บ้ากาม!” แก้วหน้าร้อนผ่าวรีบว่า

 

 

 

 

            “ยืนเซ่ออยู่ทำไมหรืออยากถอดจริง” โทโมะทำท่าจะเข้าไปกระชากเสื้อแก้วแต่แก้วไหวตัวชี้หน้าสั่งให้หยุดได้ก่อน แล้วเจ้าตัวถึงจะดึงเสื้อแจ็คเก็ตออกตามที่ว่า แก้วก้มดูข้อศอกตัวเองก็พบว่ามันเป็นแผลถลอกแดง น่าจะเกิดตอนที่ถูกดึงออกมาแล้วไถลพื้น ตัวเธอกอดร่างเด็กไว้อยู่ทำให้แขนเธอขูดกับพื้นแข็ง

 

 

 

 

            “เฮ้ย แดงเลยอ่ะ” แก้วพูด

 

 

 

 

            “ไหนดูหน่อยสิ” โทโมะฉุดตัวแก้วมาหมุนไปหมุนมาไล่ดูตามเนื้อจนไม่ได้สังเกตว่าวิธีการของมันสร้างความเขินให้เจ้าของร่าง

 

 

 

 

            “โทโมะพอเหอะ มันมีแค่ที่ศอกตรงอื่นไม่มีหรอก ฉันมึนหัว” แก้วดักห้าม โทโมะหยุดตามที่ขอแล้วไปเอาน้ำเปล่ามาล้างแผลให้แก้ว หญิงสาวยอมให้เขาทำตามใจพลางอมยิ้มในความน่ารักดูเป็นเด็กของโทโมะ

 

 

 

 

            “ยิ้มอะไร?” แก้วสะดุ้งเมื่อถูกชายหนุ่มจ้อง

 

 

 

 

            “เปล่าสักหน่อยฉันก็ยิ้มของฉันไปเรื่อย เสร็จแล้วใช่มั้ยนั้นฉันไปทำงานก่อนนะ” แก้วชักแขนกลับวิ่งหนีชายหนุ่มอ้างไปทำงาน โทโมะลอบขำอย่างอารมณ์ดีไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นว่าเธอเขินแค่แกล้งทำเป็นไม่เห็นแค่นั้นจะได้แอบจ้องได้นานๆ

 

 

 

 

            แชะๆ! แช๊ะๆๆ!!

 

 

 

 

            ระหว่างทำงานแก้วรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองตลอดเวลาที่เธอปฏิบัติงานจึงกวาดไปรอบๆก็รู้ตัวว่าถูกชายหนุ่มที่เล่นขโมยจูบเธอถึงสองครั้งมองอยู่ โทโมะเล่นส่งยิ้มหวานให้ขณะที่จ้องเธอตลอดจนตัวหญิงสาวแอบทำหน้าไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร หรือมันเป็นอาการของคนที่พึ่งอกหักกันแน่ เธอเลิกสนใจหันไปทำงานของตัวเองต่อ จนกระทั่งถ่ายจนเสร็จ แก้วไปรับเงินจากพี่ชาลีโดยตรงเพราะหญิงร่างยักษ์บอกไม่ว่างไปโอนให้และไหนจะค่าจ้างของสองสาวอีก

 

 

 

 

            “นี้ของน้องแก้ว ส่วนนี้ของเนยกับแจม เจ้แยกให้เรียบร้อยล่ะ” ชาลีหยิบยื่นซองขาวที่เป็นค่าจ้างให้แก้ว

 

 

 

 

            “ขอบคุณค่ะ พี่ชาลี” แก้วรับมาเก็บเข้ากระเป๋าก่อนจะมองหาสองสาวและผีอีกหนึ่งตน

 

 

 

 

            “หาใครอยู่เหรอจ้ะ?” ชาลีถามแก้ว

 

 

 

 

            “ก็น้องสาวนะค่ะ แล้วก็นายนั้นหายไปไหนอีกแหละ?” แก้วพูดทั้งๆที่หาอยู่

 

 

 

 

            “นาย ใครเรอะ?” ชาลีพูด

 

 

 

 

            “ก็ตา...เอ่อ..คือเพื่อนแก้วนะค่ะพอดีนัดกันไว้ แฮะๆ แก้วไปนะพอดีเจอตัวน้องสาวแล้ว บายๆค่ะพี่ชาลี” แก้วลาชาลีเสร็จก็ตรงดิ่งไปหาสองแฝด ชาลีมองตามอย่างสงสัยในตัวน้องสาวสุดรัก

 

 

 

 

            “แล้วอย่ากลับดึกนักล่ะ” แก้วเตือนเนยแจมทันทีที่ส่งถึงปากทางเข้าห้างสรรพสินค้า

 

 

 

 

            “ค่ะ พี่แก้ว” เนยตอบ ในขณะที่แจมไม่ยอมคุยกับเธอเลยสักนิดตั้งแต่ออกจากกองมา

 

 

 

 

            “แจม เข้าใจที่พี่พูดไหม” แก้วพูด แจมเหล่นิดหนึ่งแล้วสะบัดหน้าเชอะเพราะยังงอนอยู่

 

 

 

 

            “แจมไม่เอาน่า ที่พี่แก้วทำมันก็ถูกแล้ว” เนยเขย่าแจมให้รู้ตัวว่าตนนะผิด ไม่ใช่พี่สาว

 

 

 

 

            “ก็พี่แก้วอยากด่าแจมทำไมล่ะ ไม่รู้ล่ะงอน เชอะ!” แจมบ่นอุบอิบพี่สาว แก้วถอนหายใจเบาๆก่อนจะล่วงเอาบางอย่างขึ้นโชว์จนแจมยอมหันมาสนใจ

 

 

 

 

            “ถ้าหายงอนพี่ อยากจะเอาบัตรนี้ไปทำอะไรก็เชิญ” แก้ววางเงื่อนไขกับแจม ถ้ายอมเธอจะยกกิฟวอยเชอร์ที่ได้มาให้ แจมเห็นก็ตาเป็นประกายปิ้งๆจะคว้าบัตรแต่แก้วรวบเก็บทัน

 

 

 

 

            “หายไหม?” แก้วถามซ้ำ

 

 

 

 

            “หายแล้วจ้ะ หายแว้ว ขอเค้าน่ะพี่แก้วจ๋า” แจมอ้อนวอนขอพี่สาว แก้วยิ้มแป้นยกให้แจมแล้วกำชับสองสาวอย่ากลับดึกอีกครั้งก่อนที่ตนจะขับรถกลับบ้านตัวเอง

 

 

 

 

           

            “ร้ายเหมือนกันนิ” โทโมะพูด เมื่อเห็นแก้วสวมเสื้อคลุมออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพผมเปียกซิกๆ

 

 

 

 

            “แน่ล่ะ ไม่งั้นฉันก็คุมสองสาวนั้นไม่อยู่” แก้วยิ้ม แล้วหันไปหยิบเอาผ้าเช็ดหัวมานั่งเช็ดผมบนเตียง

 

 

 

 

            “อ้ะ!?” แก้วเงยหน้าตกใจที่ชายหนุ่มแย่งเอาผ้าเช็ดหัวเธอไป แล้วสั่งให้เธอก้มลงก่อนมือใหญ่จะจัดการบรรจงเช็ดผมให้

 

 

 

 

            “ฉันชอบครอบครัวเธอนะ” โทโมะพูด

 

 

 

 

            “ห่ะ?” แก้วอุทาน

 

 

 

 

            “ก็ครอบครัวเธอดูอบอุ่นดี ร่าเริง แจ่มใส สบายๆ จนฉันเนี่ยแอบอิจฉา..” โทโมะพูดก่อนจะซึมลงไปเมื่อนึกถึงครอบครัวของเขาเอง แก้วเงยหน้ามองชายหนุ่มข้างกายที่อยู่ๆมือใหญ่ก็หยุดลง

 

 

 

 

            “ทำไมนายถึงอิจฉาล่ะ พูดเหมือนครอบครัวนายไม่ดียังงั้น?” แก้วถามไปด้วยความสงสัยในสีหน้าเศร้าลงของโทโมะ เขายิ้มอ่อนแล้วก้มลงต่ำเหมือนพยายามเก็บซ้อนใบหน้าอมทุกข์ของตัวเอง ไม่อยากให้เธอเห็น แก้วประคองหน้าชายหนุ่มแล้วจ้องตรงอย่างค้นหาในแววตาคู่คมแม้นัยน์ตาของเขาจะพยายามหนีไม่กล้าสบตากับเธอ แก้วก็ยังรู้สึกได้ว่าเขามีบางอย่างที่ปิดบังไว้อยู่

 

 

 

 

            “มีอะไรก็พูดไม่ใช่เงียบ นายบอกฉันเองนะ” แก้วย้ำคำเก่าที่เขามักพูดกับเธอบ่อยครั้งที่แก้วชอบหนีปัญหาหรือทะเลาะกับเขา

 

 

 

 

            “ฉัน เอ่อ..คือ” โทโมะกลอกตาไปมา ลังเลที่จะพูดบางสิ่งที่เขาปิดเงียบไว้

 

 

 

 

            “โทโมะ” แก้วพูด

 

 

 

 

            “เฮ้อ เธอนี้มันจอมตื้อจริงถ้าเป็นฟางคงไม่ทำขนาดนี้” โทโมะพูดถึงฟางเพราะปกติแฟนสาวเขาไม่เคยตอแหย่บังคับเขาเลยสักครั้ง แก้วหน้างอปล่อยหน้าโทโมะแล้วลุกหนีชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจที่เขาเอาเธอไปเปรียบเปรยกับฟาง

 

 

 

 

            “แก้ว!?” โทโมะดึงแขนแก้วรั้งด้วยความตกใจที่หญิงสาวหนีเขา

 

 

 

 

            “ปล่อย ไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องก็ได้ ฉันไม่อยากรู้ก็ได้” แก้วพูดประชดประชันเล่นชายหนุ่มหน้าเจื่อนรับรู้ว่าตนทำผิด แก้วกระชากมือกลับแต่โทโมะไม่ยอมฉุดร่างเธอมากอดแน่น

 

 

 

 

            “ปล่อย!” แก้วดิ้น

 

 

 

 

            “พูดกันก่อนสิ งอนอะไรฉันอีกเนี่ย?” โทโมะกอดแน่นกว่าเดิม

 

 

 

 

            “ไม่ได้งอนสักหน่อย ก็นายไม่ชอบให้ตื้อฉันก็เลิกแล้วนี้ไง” แก้วก้มหน้าก้มตาพูด โทโมะจับคางมนขึ้นเงยให้ระดับสายตาประสานกัน

 

 

 

 

            “แต่ฉันชอบถ้าเป็นเธอ” โทโมะพูดจบก็แอบจุ๊บปากเบาเป็นการปลอบโยนหญิงสาว แก้วหน้าแดงแปร๊ดที่เขาทำอย่างนี้ ทั้งที่เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันแท้ๆ

 

 

 

 

            “เอะอะจูบ เอะอะจูบ ถามจริงเหอะฉันกับนายเป็นอะไรกันแน่” แก้วเบือนหน้าพลางเช็ดปากถามเขา

 

 

 

 

            “แล้วเธออยากให้เป็นอะไร” โทโมะยิ้มหวานเอยปากถามกลับ แก้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มเอยพูด

 

 

 

 

            “เอ่อ..นายจะเล่าไม่เล่า ถ้าไม่ฉันจะได้ไปแต่งตัวก่อนชักรู้สึกหนาวๆยังไงไม่รู้” แก้วเปลี่ยนประเด็นพร้อมกระชับเสื้อคลุม โทโมะทำเนียนกอดร่างเธอแน่นยิ่งกว่าเดิม

 

 

 

 

            “หนาวตรงไหน อุ่นจะตาย” เขายิ้มกริ่ม แก้วจึงตีไหล่เขาอย่างแรงจนชายหนุ่มหน้ายู่มองแก้วกลับด้วยความเจ็บ หญิงสาวยักคิ้วแล้วสั่งห้ามเขาแอบย่องเข้าห้องแต่งตัวเด็ดขาดไม่งั้นตายก่อนเธอจะปิดประตูดัง ปัง! เล่นชายหนุ่มสะดุ้งทันควันก่อนจะเกาหัวนั่งอมยิ้มเหมือนคนบ้าซึ่งไม่ต่างกับแก้วที่ยืนกุมหน้ายิ้มเขินเช่นกันพลางคิดว่า วันนี้มันวันอะไรกันนะ

 

 

 

 

            “มันก็แค่วันๆหนึ่งเท่านั้น ////”

 

__________________________________________________________

 

 

 

 

 

            เฮ้!! คิดถึงกันบ้างรึป่าว พีสมาอัพให้ตามคำขอแล้วนะแต่ยังสอบไม่เสร็จเห็นมีคนบอกว่าไรต์เตอร์แอบทิ้งเรื่อง ไม่ต้องห่วงนะ พีสจะเขียนเรื่องนี้ให้จบแน่นอนถึงมันจะหนุกหรือไม่ก็ตามที ตอนนี้เอาแก้วกับโมะไปเต็มๆ น่ารักมุ้งมิ้ง ฟินกันไปก่อนนะ พอดีคิดเนื้อไม่ออก ^ ^ ตามเดิมเม้นอัพไม่เม้นไม่อัพนะ

 

 

 

 

LOVETK PF KF!!!!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา