Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง
เขียนโดย blackKZ
วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.
แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
18) ตอนที่ 17 ค่ามัดจำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
CHAPTER17: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง
ตอนที่ 17 ค่ามัดจำ
“พักผ่อนหรือค่ะ?” แก้วเอ่ยขณะที่เก็บอุปกรณ์สุดรักของเธอเข้ากระเป๋า
“ใช่จ้ะ เจ้น่ะพึ่งได้แพ็กเกจไปเที่ยวถึงประเทศญี่ปุ่นเลยนะแต่พอดีเจ้ไม่ว่างแล้วเห็นว่าน้องแก้วทำงานเหนื่อยๆก็เลยอยากให้น้องน่ะไปเที่ยวบ้าง” ชาลีพูดพร้อมยื่นซองให้แต่แก้วดันกลับ
“ไม่เอาอ่ะพี่ชาลี แก้วยังไม่อยากไปไหนยังสนุกกับงานดี พี่เอาให้คนอื่นไปเถอะค่ะ” แก้วยิ้ม
“ได้ไงล่ะ นิเจ้ตั้งใจให้เราเลยนะ ไม่รู้ล่ะเจ้ยกให้แล้วให้เลยห้ามคืนด้วย ถือว่าเจ้ขอ” ชาลีรีบยัดเยียดมือแก้วและกำชับหนักทำให้แก้วไม่มีทางปฏิเสธได้เลย
“แล้วนี้ไปเมื่อไหร่ค่ะ?” แก้วถาม
“มะรืนจ้ะ” ชาลีตอบ
“ห่ะ!!!” แก้วลั่นทันที มันจะปุบปับเร็วเกินไปหรือป่าวแทบจะไม่มีเวลาเตรียมตัวให้เธอเลยด้วยซ้ำแถมนี้ไปไกลถึงญี่ปุ่นนะไม่ใช่เชียงใหม่ ขอนแก่น ภาษาอังกฤษเธอพอได้แต่เจอญี่ปุ่นเข้าไปมีหงายแน่นอน
“เฮ้อ” แก้วซุกหมอนพลางถอนหายใจอยู่หลายรอบ เธอหยิบเอาตั๋วออกมาดูด้วยสีหน้าลำบากใจสุดๆ
“ถอนหายใจอะไรตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้วหืม?” โทโมะขึ้นมานั่งบนเตียงข้างๆถาม
“ก็พี่ชาลีนะดิเอาไอ้แพ็กเกจเที่ยวไกลถึงญี่ปุ่นยัดเยียดให้ฉัน แถมแคนเซิลงานให้ฉันเรียบร้อย” แก้วบ่นถึงพี่สาวสุดที่รักที่อุส่าจัดการให้เธอทุกอย่างซะดิบดีแบบเจ้าตัวไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เก็บกระเป๋าขึ้นเครื่องเตรียมในอีก 2 วันที่จะถึง
“แล้วมันไม่ดีรึไง” โทโมะว่าพลางหยิบตั๋วในมือแก้วมาอ่าน
“ดีตรงไหน ไปคนเดียว เที่ยวคนเดียว เตร่ไปทั่วเมืองที่ไม่รู้จักและไม่พอคุยกันไม่รู้เรื่องด้วย!” แก้วลุกพรวดนั่งยกเหตุผลที่เธอไม่อยากไปเพราะกลัวเหงานั้นแหละ
“คนเดียวที่ไหนกัน” โทโมะพูด
“คนเดียวที่ไหนอะไรก็ตั๋วมันมีใบเดียวอ่ะ!”แก้วแย่งตั๋วแล้วโชว์ให้โทโมะดูว่ามันมีแค่ใบเดียวเท่านั้นก่อนหญิงสาวจะฉุดใจนึกมองหน้าโทโมะสักพักก็ถึงได้รู้ถึงความหมายที่เขาพูด
“หายห่วงฉันจะเป็นไกด์ให้เธอเองและอย่าลืมตอบแทนฉันล่ะ” โทโมะว่าด้วยใบหน้ารื่นเริง แก้วอ้าปากเหว๋อก่อนจะยิ้มแห้งๆ ลืมไปว่าชายหนุ่มเป็นผีและมันไม่จำเป็นต้องใช้ตั๋วเลยสักนิด
“สรุปฉันต้องไปจริงๆใช่มั้ย” แก้วถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ
“เขาให้มาขนาดนี้จะเสียน้ำใจรึไง นั้นขอค่ามัดจำล่วงหน้าเลยล่ะกัน” โทโมะว่าจบก็ยื่นหน้าไปปิดปากหญิงสาวอย่างเร็ว แก้วตกใจแต่ก็ทำได้แค่หลับตาปี๋ตอบสนองสัมผัสชายหนุ่มก่อนจะเผลอโอบรอบคอเขาไปตามอารมณ์ โทโมะถอนจูบแล้วเปลี่ยนเป็นไล่จูบอ้อยอิ่ง ช้าๆ ค่อยๆกวาดรสหวานที่ชวนหลงใหลในโพลงปากของอีกฝ่ายจนพอใจ
“อืม /////” แก้วเริ่มร้องประท้วงชายหนุ่มเพราะเขาชักจะเอามากเกินกว่าเหตุไปแล้ว โทโมะลิ้มรสสุดท้ายแล้วปล่อยให้อิสระหญิงสาวพร้อมเผยรอยยิ้มอิ่มเอมต่างกับฝ่ายถูกกระทำแทบจะเอาหมอนปาหัวเขาถ้าไม่ติดว่าแรงโดนสูบจนเกือบหมด
“แล้วจะมาเอาค่ามัดจำที่เหลือตอนหลัง” โทโมะพูดจบก็รีบปลีกตัวหนีหายไปตามสเต็ปเดิม แก้วฟุบนอนกัดหมอนด้วยความอายอยากจะเอาหัวมุดดินแบบนกกระจอกเทศ พักหลังๆนี้เธอมักจะโดนโทโมะขโมยจูบอยู่บ่อยครั้งจนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเป็นเกือบทุกวัน แรกๆตัวเธอก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่าเจ้าตัวคงอยากแกล้งเธอแต่พอนานๆเข้ากลับกลายเป็นเธอที่ขาดเขาไม่ได้แทน รู้สึกดีที่เขามักทำแบบนี้กับเธอ เธอคนเดียวเท่านั้น
“หืม เดียวนะ” แก้วเด้งตัวขึ้นเมื่อพึ่งคิดได้อย่างหนึ่ง ถ้าเธอไปนู่นเท่ากับว่าจะมีแค่ตัวเธอและชายหนุ่มสองต่อสอง เที่ยวสองคน ไปไหนกันสองคน และนอนห้องเดียวกันสองต่อสอง และที่แย่กว่านั้นเขาได้เปรียบเต็มๆ เธอมีแต่เสียกับเสีย
“เวรแล้วไงอีแก้ว” ถึงปกติจะอยู่ด้วยกันแต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนเก่าเพราะแม้เขาจะชอบเตร่ในห้องเธอแต่เขาก็ไม่เคยนอนเตียงเดียวกับเธอสักครั้งด้วยความเกรงใจน้องสาวแต่รอบนี้ไม่มีใครให้เกรงใจ เธอไม่อาจรู้ได้เลยว่าชายหนุ่มจะทำอะไรบ้างนี้สิ
“ฟาง ฟาง ฟาง!” พิชชี่เขย่ามือบางเรียกคู่ดินเนอร์ของเขาอยู่หลายทีจนเธอสะดุ้งแล้วมองกลับอย่างมึนงง
“เอ่อ พิชมีอะไรเหรอ?” ฟางถาม
“ก็ฉันเห็นเธอนิ่งเลยเป็นห่วง เป็นอะไรอีกล่ะหรือเบื่ออาหารร้านฉันซะแล้ว?” พิชชี่พูด
“ไม่ใช่หรอก อาหารร้านพิชยังอร่อยเหมือนเดิมแต่ฟางแค่...” ฟางรีบปฏิเสธก่อนจะนิ่งไปอีกรอบ
“แค่อะไร” พิชชี่ย้ำด้วยความสงสัยในตัวเพื่อนสาว
“เฮ้อ ฟางแค่ไม่รู้ว่าเราต้องโกหกไปถึงเมื่อไหร่ ไม่ใช่ว่าฟางเบื่อพิชนะ ฟางแค่ไม่อยากให้พิชต้องลำบากเพราะฟาง” ฟางอธิบายชี้ชัดความรู้สึกเธอในตอนนี้ แต่ก่อนเธออาจจะชอบพิชชี่แต่ก็ไม่ได้ความว่าตอนนี้เธอจะชอบเขาเหมือนเก่าในเมื่อในใจเธอมีแต่ชายหนุ่มคนนั้นคนเดียวไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปี
“ฉันเข้าใจแต่เราคบกันมาเป็นเดือนๆแล้วนะไว้อีกสักพักก่อน ฉันจะคุยกับพ่อฟางให้ ไม่ต้องห่วงนะ” พิชชี่พูดพร้อมกุมมือหญิงสาว ฟางเงยหน้ามองแล้วยิ้มๆให้หวังว่าเรื่องมันจะจบโดยง่าย
“นี้พิช ฟางถามอะไรหน่อยสิ” ฟางพูดขึ้นมาหลังพิชชี่มาส่งถึงคฤหาสน์ของเธอ
“อะไรล่ะ” พิชชี่ยิ้ม
“พิชเคยคบกับจินนี่รึป่าว?” ฟางถามสิ่งที่เธอสงสัยมาตลอดหลังที่ป็อปปี้พูดวันนั้นเธอก็แอบตามพิชชี่ไปที่คอนโดก็ถึงได้เห็นพิชชี่อยู่กับจินนี่ซึ่งตอนนั้นทั้งคู่กำลังทะเลาะกันและจินนี่ตบหน้าเขาก่อนรีบหนีขึ้นแท็กซี่ไป เธอสังเกตเห็นพิชชี่อาละวาดพาลเตะอะไรไปเรื่อยก็เลยแอบคิดว่าสองคนนี้ต้องมีบางอย่าง
“เอ่อ..” พิชชี่อ้ำอึ้งพลางคิดทำไมฟางถึงรู้เรื่องเขากับจินนี่แล้วรู้ถึงไหนกัน ฟางจ้องเขาอย่างต้องการรู้จากปากเพื่อนเก่าของเธอ
“ทำไมฟางถามยังงั้นหน่ะ?” พิชชี่ถามกลับ
“แค่สงสัย” ฟางพูด
“ก็ไม่มีอะไรนิ พิชกับเขาก็แค่เคยคุยๆกันสมัยเรียนมหาลัยแค่นั้นเอง” พิชชี่ตอบ
“เหรอ นั้นฟางเข้าบ้านก่อนนะเจอกัน” ฟางโบกมือลาก่อนจะไป พิชชี่ยิ้มส่งก่อนจะหุบลงหลังขับรถออกมา
“ดูท่าคงปล่อยไว้นานไม่ได้แล้วสิ”
“.......” โทโมะนั่งเงียบอยู่ในห้องนอนแก้วเป็นชั่วโมง เขาหยิบเอาตั๋วขึ้นมาดูอีกรอบด้วยสีหน้าสลดใจบางอย่าง ญี่ปุ่น คือประเทศบ้านเกิดของเขาและเขาไม่ได้กลับมาตั้งแต่แยกตัวมาเรียนที่ไทยตอนเข้ามหาลัยแยกมาอยู่คอนโดโดยไม่ฟังคำโต้แย้งจากครอบครัว ทำไมนะเหรอ เขาเกลียด เกลียดทุกคน เขาไม่อยากกลับไปที่นั้นเลยสักนิด แต่ที่ครั้งนี้เขายอมไปก็เพราะไหนๆเขาก็ตายไปแล้วก็ขอกลับไปบ้านเกิดสักครั้ง เห็นหน้าครอบครัวที่เขาเคยรักอีกหน
“ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ” โทโมะเอนตัวพิงเสาก่อนจะหลับตาลงนึกถึงความทรงจำดีๆที่แต่ก่อนครอบครัวเขาเคยมี แต่ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งเจ็บปวดในเมื่อความสุขมันถูกแทนที่ด้วยความทุกข์นับร้อย มันไม่เคยมีอะไรดี ไม่เคยเป็นอย่างเมื่อก่อน ความสุขก็แค่อดีตสิ่งที่อยู่กับตัวเขาในวันนี้คือขมขื่นใจ ตรอกตรำฝั่งลึก
“โหยๆ เปียก เปียกอีกแล้ว” แก้วบ่นขณะวิ่งฝ่ามรสุมฝนเข้าบ้านมาด้วยความที่เจ้าตัวดันลืมพกร่มตามเคยแม้โทโมะจะชอบกำชับเธอบ่อยก็ตามแต่เธอก็มักจะลืมทุกครั้ง
“ดีนะที่ไม่ได้เอาอิตานั้นไปด้วยไม่งั้นเจอบ่นยาว” แก้วพึมพำพลางถอนเสื้อนอกออกทิ้งลงตะกร้าผ้า วันนี้เธอพึ่งกลับจากเที่ยวกับเพื่อนที่ผับเลยไม่ได้เอาเขาไปด้วยเพราะกลัวชายหนุ่มจะเอาแต่ห้ามนู่นสั่งนี้ไม่ได้อย่างนั้นกับเธอ
“แล้วโทโมะไปไหนหรือว่าหลับ?” แก้วย่องเงียบๆเพราะเวลานี้เกือบตี 1 กว่าๆ น้องสาวเธอเข้านอนหมดแล้วมีแค่ตัวเธอเท่านั้นแหละและผีชายหนุ่มอีกคน ถ้าเป็นปกติคงแวบมาดุเธอไปแล้วแต่รอบนี้แปลกไม่ยักกะโผล่มาสักนิด
“อ้ะ!?” แก้วเปลี่ยนชุดจากข้างล่างเรียบร้อยพร้อมเช็ดหัวเสร็จสรรพก็ต้องแปลกใจเมื่อเข้าห้องนอนตนมา โทโมะหลับสนิทอยู่พิงเสาในมุมห้องมุมหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากเตียงนอนเธอเท่าไหร่ แก้วเดินย่องเข้าไปแล้วพรายมือบนหน้าเขา เพื่อดูว่าเขาไม่ได้แกล้งหลับใช่มั้ย
“ผีนี่หลับได้ด้วยหรอ พึ่งรู้นะเนี่ย” แก้วไล่ดูใบหน้าหล่อเหลาป่านเทพบุตร หวานขนาดผู้หญิงเองยังอิจฉารวมทั้งเธอด้วย เธอยิ้มแล้วนั่งกอดเข่าดูสีหน้าตอนหลับของชายหนุ่มด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพราะปกติไม่เคย เจอหน้าทีไรเป็นทะเลาะไม่ก็ด่าด้วยวาจาว่าร้ายดูถูก สารพัด คิ้วหนาที่ชอบผูกเป็นปมทุกครั้งที่เห็นหน้าเธอ จนเธอเองยังไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงจงเกลียดจงชังเธอนักแต่มันก็แค่แต่ก่อน
“หวังอะไรลมๆแล้งๆเนี่ยเรา” แก้วก้มหน้างุดก่อนจะลุกไปนอนบนเตียงโดยหันมามองด้านที่ชายหนุ่มหลับ เธอจ้องเขาอยู่พักใหญ่ก่อนจะงีบด้วยความง่วงในที่สุดพร้อมกับคำถามที่ค้างคาในหัว
ถ้าฉันรักนาย ฉันจะผิดไหม
“พี่แก้วไปดีมาดีนะ ไม่ต้องห่วงเดียวบ้านพวกเราจะดูแลเอง” สองสาวมาส่งหน้าบ้านหลังถึงวันที่แก้วต้องเดินทางไปตามนัดหมายแพ็กเกจเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน เกินกว่านั้นกลับเอง
“ดูบ้านดีๆเข้าใจไหมเนยแจมแล้วบอกไว้ก่อนห้ามเอาบ้านไปจัดปาร์ตี้เด็ดขาด” แก้วสั่งห้ามด้วยความรู้ทันสองสาว ครั้งก่อนที่เธอกลับจากทำงานที่ต่างจังหวัด บ้านเธอเละซะยิ่งกว่าอะไรถึงขั้นต้องโทรเรียกบริษัทรับจ้างมาทำความสะอาด
“สัญญารอบนี้เกลี้ยงกิ๊กแน่นอน” แจมยิ้มยี่ก่อนจะหน้ายู่เพราะโดนเนยบิดเอวสั่งสอน
“ไปเหอะพี่แก้ว เนยเอาอยู่ เดียวไม่ทันเครื่องนะค่ะ” เนยพูด
“นั้นพี่ไปนะ อย่าป่วนให้มันมากนักล่ะสองแสบ” แก้วว่าก่อนจะเดินทางไปสนามบิน เธอนั่งรอเข้าเกจสักพักก็รู้สึกตงิดใจที่โทโมะดูเงียบผิดปกติทั้งที่เมื่อวันก่อนยังดูร่าเริงดี
ครืดๆๆ ครืน!!
เสียงโทรศัพท์สั่นซะก่อนที่แก้วจะเอ๋ยปากถามชายหนุ่ม หญิงสาวผละมือเล็กล้วงกระเป๋าเอาไอโฟนขึ้นมาดูเบอร์ที่โทรหาเธอ
“ฮาโล่ว ยัยเฟย์” แก้วพูดกับปลายสาย
“แก้วฉันคิดถึงแกจัง ไม่ได้คุยตั้งนานแน่ะ” เฟย์พูด
“จะไม่ให้คุยได้ไงก็แกกับสามีสุดที่รักแกเล่นฮันนีมูนถึงเนเธอร์แลนด์ เหอะเป็นไงบ้างล่ะเจอลูกง้อมันเข้าไปหายเลยล่ะสิคุณเพื่อน” แก้วว่าก่อนจะแซวกลับเพราะเขื่อนเล่นไม้ตายง้อเฟย์ด้วยการพาไปเที่ยวไกลถึงเมืองหนาวสวนดอกทิวลิป ทำเอาภรรยาแสนสวยหายงอนทันตา
“โห้วแกอ่ะ อิจฉาอ่ะดิ” เฟย์พูด
“ใครเขาอิจฉา ไม่มี้!” แก้วว่าเสียงสูงแม้จะเป็นอย่างที่ว่า เธออิจฉาเพื่อนสาวที่มีสามีดีๆคอยดูแล
“ก็รีบหาสิจ้ะหรือถ้าแกหาไม่ได้เดียวฉันหาให้แกก็ได้นะ” เฟย์ยื่นข้อเสนอให้
“เหอะๆ ถ้าแบบอีล็อตก่อนล่ะก็บอกไว้เลย ไม่ย่ะ!!” แก้วพูดดักเอาซะเฟย์รีบยกหูออก เฟย์เคยหาผู้ชายให้เธออยู่คนหนึ่งซึ่งตอนนั้นเขาดีไปซะทุกอย่างแต่พึ่งมารู้ว่าพี่แกเป็นพวกโรคจิตชอบสะสมเสื้อในผู้หญิง แก้วเลยจัดการจับส่งตำรวจเรียบร้อยพร้อมกับกำปั้นแห่งความแค้นหนึ่งนัด
“แฮะๆ เก้าก้อโทษ คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดแกพูดเองนะเพราะฉะนั้นจบๆไป แล้วนี้แกอยู่ไหนอ่ะ ทำไมเสียงมันดังแปลกๆ” เฟย์ถามเพราะได้ยินเสียงแก้วไม่ค่อยชัด
“สนามบิน” แก้วตอบ
“แล้วแกไปทำไรสนามบินอ่ะ?” เฟย์ถาม
“ไปญี่ปุ่น” แก้วพูดก่อนจะถูกเสียงอุทานของปลายสายแทงหูจนหญิงสาวหงายและต้องมานั่งบอกว่าไปทำไม ไปกับใคร ไปที่ไหน ไปอย่างไร จนเธอมานั่งคิด สรุปเป็นเพื่อนหรือเป็นแม่ค่ะถามซะละเอียดเชียว
“โทโมะ” แก้วพาตัวเองมาอยู่มุมที่เปลี่ยวผู้คนแล้วรีบเรียกชายหนุ่มที่เอาแต่นิ่งเงียบมานาน
“อะไร?” โทโมะหันมามองตาแก้วตอบ
“นายเป็นอะไรรึป่าว เห็นเงียบๆ” แก้วพูด
“เปล่า ไม่มีอะไร” โทโมะหันไปมองวิวข้างนอกต่อ
“โกหก!” แก้วพูดขึ้นทำให้ชายหนุ่มหันมาอีกครั้ง
“หน้าเครียดซะขนาดเนี่ยบอกไม่มีอะไรได้ไง” แก้วพูดพร้อมจ้องดวงตาคมกริบ มือบางประคองหน้าไม่ให้หนี
“หึ เป็นห่วงเรอะ” โทโมะยิ้มแล้วกุมมือแก้วเข้ามาจูบมือเบาๆ
“ปะ เปล่าสักหน่อยก็แค่ไม่อยากให้บรรยากาศมันหมดสนุกเท่านั้น”หญิงสาวรีบชักมือกลับแล้วลากกระเป๋าหนีชายหนุ่มด้วยความเขิน โทโมะส่ายหน้าแล้วรีบตามตัวร่างบางไปทันที
“เขินก็บอกมาเหอะน่า”
“ไม่ได้เขิน!!!” /////
________________________________________________________
เค้าขอโทษที่อัพช้า นี้พึ่งเสร็จสอบมามาดๆเลยนะทุกคน ผู้อ่านยังอยู่กันดีรึป่าว เราจะกลับมาอัพถี่เหมือนเดิมไม่ห่วงนะ เริ่มเรื่องเข้าสู่ช่วงกลางแล้วสินะ โมะแก้วแลดูหวานๆเนอะ ส่วนเฟย์เขื่อนไม่ต้องไปพูดถึงหรอกหวานกันตลอด พีสยื่นเงื่อนไขเดิม ไม่เม้นไม่อัพนะบอกไว้ก่อน ช่วยๆกันเป็นคอมเม้นด้วยล่ะว่าอยากอ่านอ่ะป่าว >[]<!!!
LOVETK PF KF!!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ