Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง
เขียนโดย blackKZ
วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.
แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
16) ตอนที่ 15 ไม่มีเธอกับเป็นห่วงเธอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
CHAPTER15: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง
ตอนที่ 15 ไม่มีเธอและเป็นห่วงเธอ
หลายวันผ่านมาแก้วเดินได้เกือบปกติ แจมและเนยจึงอาศัยช่วงหยุดยาวลากตัวพี่สาวไปทำบุญแก้ซวยแม้เจ้าตัวจะฮึดฮัดแต่ก็ต้องยอมตามน้ำมาอยู่ดี และเป็นอีกหลายวันที่แก้วไม่เห็นโทโมะอีกเลยจนเกิดคำถามในใจ เขาหายไปไหน?
“พี่แก้ว พี่แก้ว!” แจมเขย่าพี่สาวที่เอาแต่เหม่อตั้งแต่เข้าวัดทำให้แก้วสะดุ้งมองทั้งสองตาปริบๆ
“เกิดไรขึ้น!?” แก้วพูดพลางมองไปรอบตัว มีคนมานั่งฟังพระสวดมากกว่าตอนที่เธอเข้ามาทีแรก
“ไม่มีไรทั้งนั้นแหละ อย่าเอาแต่เหม่อสิพี่แก้วนี้มาทำบุญนะไม่ได้มานั่งหลับ รู้นะเมื่อกี้แอบผงกจะหลับท่าเดียวอ่ะ” แจมพูด เนยพยักหน้าเสริม
“ก็มันง่วงนิน่า เล่นปลุกแต่หัวรุ่งจะให้พี่ทำไง” แก้วหน้างอก้มหน้ากราบพระก่อนลุกหนี ขืนอยู่นานกว่านี้เธอต้องสลบเพราะเสียงสวดพระเป็นแน่
“ห้ามบ่น ห้ามเถียง นี้น้องสาวสุดที่รักอุส่าเจียระไนเวลาอันน้อยนิดเพื่อพี่แก้วเลยนะ” เนยแจมตามมาบ่นแก้วต่อหลังออกโบสถ์
“อ่าจ้ะ วันหลังไม่ต้องนะพี่เกรงใจ โอ๊ย!” แก้วว่าก่อนร้องเสียงหลงเพราะโดนเนยจี้แผลเก่า แก้วจึงลูบหลังหน้ามุ่ยมองทั้งคู่ หญิงสาวหันไปเห็นคนกำลังกรวดน้ำอยู่ใกล้ๆก็เกิดคิดถึงโทโมะ เขาหายหน้าหายตาไปตั้งแต่วันนั้นแต่เธอก็รู้สึกว่าเขายังอยู่ใกล้ๆ
“อ้าวแล้วนี้พี่แก้วจะไปไหน?” เนยทักเพราะแก้วเล่นทิ้งสองสาวไม่บอกกล่าว
“พี่จะไปกรวดน้ำให้เพื่อน!” แก้วตะโกนบอก
เที่ยงวันสามพี่น้องกลับถึงบ้านโดยมีเนยเป็นโชเฟอร์กับแจมนั่งหน้ามุ่ยข้างๆ ถ้าเกิดแจมขับมีหวังได้ถึงบ้านเก่า ก่อนที่สองแฝดจะพากันจัดแจงของเข้าบ้านส่วนแก้วก็ขึ้นห้องมาเก็บของใช้ส่วนตัว
“โทโมะ..” แก้วผงะเมื่อพบโทโมะในห้อง
“ขอโทษ ฉันจะไปเดียวนี่” โทโมะสะดุ้งแล้วรีบเดินหนีแก้วเพราะรู้ดีว่าหญิงสาวยังกลัวตนอยู่
“ไม่ต้องหรอกอยู่ต่อก็ได้” แก้วพูดพร้อมเดินไปเก็บของใช้ โทโมะมองแก้วก็แอบยิ้มนิดๆ
“ขอบคุณที่ทำบุญให้ฉัน เรื่องวันก่อนขอโทษด้วยฉันโมโหจนคุมสติไม่อยู่เผลอทำร้ายเธออีกจนได้” โทโมะพูดขอบคุณที่วันนี้เธอทำบุญให้เขาทั้งที่ยังโกรธเขาอยู่แท้ๆ
“ฉันว่าฉันปล่อยให้เธอพักผ่อนดีกว่า” โทโมะซึมที่แก้วเงียบไม่ยอมพูดด้วย
“อย่าหายไปดื้อๆอีกได้ไหม มันหวิวๆยังไงไม่รู้พอไม่มีนายอยู่ข้างๆ” แก้วดึงเสื้อชายหนุ่มยื้อ โทโมะชะงักนิดหนึ่งก่อนจะอมยิ้มแล้วเดินมานั่งปลายเตียงพร้อมกับแก้ว หญิงสาวหยิบจี้วางลงบนมือใหญ่ก่อนจะเอามืออีกข้างรองใต้มือหนาทำให้ดูเหมือนเขาถือเพราะเขาถือไม่ได้ โทโมะมองจี้ก็คิดถึงฟาง
“เรื่องฟาง ฉันรู้ความจริงทั้งหมดแล้วล่ะแต่ขอได้ไหมถ้าบอกไปนายอย่าโกรธเขานะ” แก้วขอร้องชายหนุ่ม เธอคิดดีแล้วที่จะบอกเพราะถึงยังไงสักวันเขาก็ต้องรู้
“อืม” โทโมะรับคำ แก้วจึงเล่าเรื่องป็อปปี้กับฟางให้ฟังถึงสาเหตุที่พวกเขาเลิกกันและกลับมา ระหว่างเล่าโทโมะไม่มีทีท่าตกใจกลับดูอ่อนลงเหมือนทำใจได้
“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ นายโอเคไหม?” แก้วพูดจบก็รีบถามไถ่ชายหนุ่ม
“อย่างที่คิดไว้จริงๆ..” โทโมะยิ้มทั้งแววตาเศร้าๆ
“รู้ยังงี้นายจะยอมรับและปล่อยฟางไปตามเส้นทางของเขา ให้ฟางเป็นคนกำหนดความรักเองรึป่าว” แก้วพูด
“คงงั้น ยังไงฉันก็ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อฉันตายไปแล้ว” โทโมะถอนหายใจแล้วกุมขมับ
“แล้วถ้ายัง?” แก้วสมมติถาม ถ้าเขายังไม่ตายเขาจะยอมไหม
“ฉัน ฉันก็ไม่รู้ แต่ถึงตอนนั้นคงขึ้นอยู่กับฟางล่ะมั่ง” โทโมะอ้างฟางบังหน้า เพราะถึงตอนนั้นจริงๆเขาก็ไม่รู้จะทำยังไง
“แล้วนายจะทำไงต่อ ในเมื่อทุกอย่างลงล็อคแฟนเก่าฟางคือป็อปปี้ เท่ากับนายหมดเรื่อง....” แก้วพูดก่อนจะหยุดลง ใช่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดหวังเขาหมดเรื่องคาใจเท่ากับเขาต้องไปแล้วแต่ทำไมใจมันกลับอยากรั้งเขาไว้กัน
“นั่นสิ แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงยังไม่อยากไปกันนะ” โทโมะพูดจบก็หันมาสบตากับแก้วที่มึนกับประโยคเมื่อกี้ ก่อนเจ้าตัวจะโน้มลงเข้าไปใกล้ใบหน้าหญิงสาว แก้วตาโตเถิบห่างแต่โทโมะประคองหน้ายื้อแล้วก้มลงจูบอย่างอ่อนโยนก่อนเจ้าตัวจะห้ามใจไม่อยู่รุกล้ำสอดลิ้นเข้าไปช่วงชิมรสหวานในปากจนอีกฝ่ายเคลิ้มตามสัมผัสไปด้วย ลิ้นกวัดแกว่งคล้องเป็นจังหวะตาม ลมหายใจเริ่มขัดเพราะชายหนุ่มเล่นยื้อนานเกินจนหญิงสาวเริ่มหอบ
“พี่แก้วกินข้าว!!” เนยตะโกนเรียกพี่สาวจากข้างล่างทำให้ทั้งสองผละหยุด แก้วไม่พูดอะไรรีบลุกหนี โทโมะมองตามหลังก่อนจะเอานิ้วเกลี่ยริมฝีปากตัวเอง คำคิดแรกที่ผลุบขึ้นมาในหัว“หวาน”
“ถ้าฉันเจอเธอเร็วกว่านี้ บางทีฉันอาจรักเธอไปแล้ว” โทโมะพึมพำโดยไม่รู้ว่าแก้วที่ออกไปวกกลับมาได้ยิน หญิงสาวยิกแก้มแก้ใบหน้าร้อนผ่าวกับหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอส่ายหน้าไล่อาการรีบเดินดุ่มๆลงชั้นล่างก่อนเขาจะเห็น
“แก้วววววววววววว!!!” เฟย์ตะโกนอัดจอคอมผ่านโปรแกรม Skype เล่นอีกฝ่ายอย่างแก้วเกือบหงายตกเก้าอี้
“หูจะแตก! นี้ฉันเบาเสียงแล้วนะ มีอะไรอีกยัยเฟย์ไหงหน้าบูดงั้นอ่ะ” แก้วชี้หน้าเพื่อนสาวที่หน้าเบี้ยวอย่างรู้ทัน
“จะไม่ให้บูดได้ไง ก็ยัยมีนว่าที่แฟนเก่าคุณสามีนะสิ ช่วงเนี่ยออเซาะเขื่อนไม่เว้นวัน ขนาดฉันอยู่ข้างๆยังไม่เลิกยั่วสามีชาวบ้านอีก!” เฟย์รีบบ่นเรื่องตัวเองอย่างหัวเสีย
“ถ้ากังวลมากนัก ทำไมไม่บอกเขื่อนไปล่ะว่าให้เลิกยุ่ง” แก้วพูด
“ทำได้ทำไปแล้ว ถ้าไม่ติดว่ายัยนั้นเป็นแขกคนสำคัญในงานสังสรรค์โรงแรมฉันอ่ะ เขื่อนก็เอาแต่บอก งานๆๆ อย่าให้รู้ว่าแอบไปกิ๊กกันแม่จะอาละวาดให้บ้านแตกเลยคอยดู” เฟย์กำมือแน่นก่อนทุบโต๊ะรัวๆ
“โหดจริง เพื่อนใครเนี่ย” แก้วยิ้มแหย่แอบถอยห่างจอกลัวเพื่อนสาว
“เพื่อนแกไง เอ่อว่าแต่แกเหอะไปคืนดีกับอีตานั่นตั้งแต่เมื่อไร?” เฟย์พูด เพราะเห็นโทโมะยืนเลือกหนังสืออยู่หลังแก้ว
“ตานั่น ตาไหน?” แก้วนิ่วหน้าถาม
“เอ้า! ก็คนที่แกชกเขาไปครั้งก่อนที่ร้านอาหารอ่ะ แน่ะๆไม่ต้องมาทำเนียนเลยเห็นอยู่ทนโท่ด้านหลังแกอ่ะ อ้าวหายไปไหนละ” เฟย์พูดพร้อมชี้ไปด้านหลังแก้วก่อนจะเอะใจงงที่ไม่เห็นชายหนุ่มที่ว่า แก้วหันหลังขวับพึ่งสังเกตเห็นโทโมะนั่งอ่านหนังสืออยู่ริมระเบียงห้อง ชายหนุ่มเงยหน้ามองแก้วตอบก็ตกใจที่แก้วขยิบตาส่งสัญญาณเหมือนไล่
“เฮ้ย!! ว่าไปหมอนั่นตายไปแล้วนะจำไม่ได้เรอะ ฉันเป็นขับรถชนเขาเอง” แก้วรีบแถทำเป็นตกใจชักสีหน้ากลัวผีตามปกติพลางคิดทำไมเฟย์ถึงเห็นโทโมะ
“ห่ะ! อิตาปากร้ายนั่นเรอะที่แกขับชนจริงง่ะฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย เอ๋แต่จำได้ว่าหมอนี้ออกจะดังนิแฟนคลับตั้งเยอะตั้งแยะทำไมไม่เห็นมีข่าวเลยอ่ะเงียบเป็นป่าช้าเชียว แกได้เจอญาติตานั่นป่ะ?” เฟย์สะดุ้งรีบถามด้วยความสงสัย เธอจำได้ว่าแก้วเคยบอกว่าเขาเป็นนายแบบถ้าอยู่วงการเดียวกับเธอ เธอก็ต้องรู้สิถึงเธอจะเป็นนางแบบเก่าเรื่องโซเชียลเจ้าตัวไม่เคยพลาด
“เอ่อ ไม่อ่ะฉันดันสลบไปก่อน มีแต่เนยแจมเท่านั้นที่เจอ” แก้วตอบพลางทบทวนเรื่องโทโมะ
กึกๆ!
ฟางฉงนใจเสียงดังเหมือนมีใครมาเคาะบานกระจกระเบียงห้อง จึงเดินไปเลื่อนบานกระจกดูแต่ไม่เจออะไรก่อนจะโดนรวบตัวมากอดปิดปากโดยคนที่ซุ่มอยู่ในเงามืด ฟางดิ้นขลุกขลักร้องอู้อี้ด้วยความตกใจรีบเงยหน้ามองเจ้าของมือใหญ่
“อ็อบอี้(ป็อปปี้)!” ฟางพูด
“ใช่ ฉันเอง” ป็อปปี้ยิ้ม
“อ่อยอ้ะอ่าอ้า(ปล่อยนะตาบ้า)” ฟางดิ้น ป็อปปี้จึงกอดแน่นกว่าเดิม
“ฉันปล่อยแน่แต่เธอห้ามกรี้ดเด็ดขาด” ป็อปปี้พูด ฟางหน้ามุ่ยยอมหยุดดิ้น ชายหนุ่มเห็นจึงคลายมือลง
“กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดด!! อุ๊บ” เมื่อหลุดพ้นฟางแหกปากลั่นทันทีก่อนจะโดนป็อปปี้จูบปิดปาก ฟางทุบอกชายหนุ่มด้วยความตกใจแต่เขายิ่งรุกหนักบีบแก้มขาวให้เผยอปากแทรกลิ้นร้อน หญิงสาวเผลอตอบสนองรสจูบจนเข่าอ่อนระทวยจะล้ม ยังดีชายหนุ่มประคองร่างเธอไว้
“ถ้ากรี้ดอีกรอบเจอปล้ำ!” ป็อปปี้หยุดแล้วขู่ฟางที่กำลังอ้าปากกรี้ดอีกรอบหลังให้อิสระ ฟางสะดุ้งเขินสวนตีไหล่ชายหนุ่มอย่างแรง ป็อปปี้จึงเลิกกอดลูบไหล่เบาๆแล้วเดินตามฟางที่ฮึดฮัดเจ้าตัวเข้าห้องนอน
“นายต้องการอะไร” ฟางพูดเสียงแข็ง
“เลิกยุ่งกับพิชชี่ซะ” ป็อปปี้ว่า
“เขาเป็นเพื่อนฉัน ทำไมฉันต้องเลิกด้วยไม่มีเหตุผลเอาซะเลย” ฟางเถียง
“เธอยังรู้จักมันไม่ดีพอ หมอนั้นร้ายกว่าที่เธอเห็นเสียอีกฉันเป็นห่วงเธอนะ” ป็อปปี้พูด เขาเป็นผู้ชายย่อมรู้จักผู้ชายด้วยกันดี
“ไม่จำเป็นฉันดูแลตัวเองได้และฉันเชื่อว่าพิชดีกว่านายเป็นไหนๆ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้นเลยก่อนที่ฉันจะเรียกพี่แจ๋ว” ฟางเชิดหน้าว่าก่อนจะไล่ชายหนุ่ม
“แต่มันข่มขืนจินนี่ อย่างนี้เรอะที่เขาเรียกดี!” ป็อปปี้โวยวาย
“ฉันไม่เชื่อ นายอย่ามากุเรื่องโกหกฉันหน่อยเลย มีเหตุผลอะไรที่พิชต้องทำยังงั้นด้วยก็เห็นอยู่พิชกับจินนี่แทบไม่คุยกันด้วยซ้ำไป” ฟางตกใจรีบสวนอย่างไม่เชื่อหู
“เพราะไม่เห็นถึงน่ากลัวต่อหน้าดีลับหลังร้ายยิ่งกว่าอะไร เธอมองโลกในแง่ดีเกินไปแค่เห็นด้านหน้าอย่ามาตัดสินด้านหลังว่าดีไปหมด ผู้ชายน่ากลัวกว่าที่เธอคิด” ป็อปปี้พูดเตือนด้วยความว่าห่วงเธอเป็นอะไรไป
“เหมือนกับนายใช่มั้ย” ฟางนิ่งแล้วมองชายหนุ่มแววตาเศร้าๆ
“ฉันยอมรับ ฉันมันเลวแต่ขอโอกาสให้คนเลวๆคนนี้ไถ่โทษกับความผิดที่ผ่านมาไม่ได้เหรอ” ป็อปปี้ชะงักแล้วรีบขอโอกาสให้เขา
“มันสายไปแล้วล่ะ” ฟางเบือนหน้าหนี
“มันไม่สายไปหรอกฟาง เธอแค่ไม่เปิดใจให้ฉันต่างหาก” ป็อปปี้พูด ฟางหันมามองป็อปปี้ด้วยสีหน้าลำบากใจ
ก็อกๆๆ!!!!
“คุณหนูค่ะเกิดอะไรขึ้น พี่แจ๋วได้ยินเสียงกรี้ดดังไปถึงข้างล่าง!?” แจ๋วเคาะประตูเรียกถามอย่างรีบร้อนทำให้ฟางป็อปปี้หันมาเป็นตาเดียวกัน
“มัวยืนอะไรอยู่ ไปซะสิ!” ฟางรีบดันชายหนุ่มไล่กลับก่อนแจ๋วจะเปิดเข้ามาเห็นทั้งสองอยู่ด้วยกัน
“ไม่! จนกว่าเธอจะยอมตกลงไม่ยุ่งกับไอ้พิชชี่อีก” ป็อปปี้พูดไม่ยอมไป
“โอย อะไรนักหนาฉันเลิกกับเขาไม่ได้เข้าใจไหม กลับไปเดียวนี้!” ฟางพยายามดันร่างเขาอย่างลุกลน
“ฉันจะยืนกอดเธออยู่ตรงเนี่ย เอาให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย ไม่ยอมไม่กลับ” ป็อปปี้สวมกอดฟางแล้วดื้อดึงจนกว่าเธอจะตกลง
“อ้ายย! ตาบ้า เดียวพี่แจ๋วเห็นก็อาละวาดหรอก และฉันเลิกไม่ได้เพราะถ้าฉันเลิกพ่อฉันต้องไม่ยอมแน่ๆ และถ้าฉันจะคบกับพิชมันแปลกตรงไหนในเมื่อแต่ก่อนฉันเคยชอบเขา” ฟางรีบว่า
“แต่เธอ..” ป็อปปี้กำลังจะแย้งแต่ประตูเปิดฮวบเข้ามาเสียก่อน
“คุณหนูฟาง!!” แจ๋วเปิดประตูอย่างเร็วเรียกคุณหนูสาว ก็เห็นฟางยืนกลางห้อง
“คะ ค่ะพี่แจ๋ว” ฟางจัดเสื้อให้เข้าทางพูด
“เมื้อกี้คุณหนูกรี้ดอะไรคะ!?” แจ๋วถามท่าทีร้อนใจ
“อ้อ เมื้อกี้มีแมลงสาบตัวบะเร่อในห้องค่ะ แอบเข้าทางระเบียงแล้วบินมาไต่ฟาง ฟางก็เลยตกใจแต่ไม่อยู่แล้วล่ะค่ะ” ฟางรีบโกหกอ้างป็อปปี้เป็นแมลงสาบ
“อ้อ นั่นพี่แจ๋วขออนุญาตไปทำความสะอาดต่อนะคะ ถ้าเจอรีบบอกพี่แจ๋วนะพี่จะจัดการเอาไฟเผามันเองไม่ต้องห่วงคะ” แจ๋วพูด ป็อปปี้ที่แอบอยู่ใต้เตียงแอบสะดุ้งในความโหดของสาวใช้
“เห้อ ว้าย!” ฟางถอนหายใจหลังแจ๋วไปก่อนจะโดนป็อปปี้ที่แอบย่องเข้าหลังชิงหอมแก้มฟอดใหญ่พร้อมสวมกอดด้านหลัง ฟางหน้าแดงก่ำมองชายหนุ่มตาเขียวกลับ
“นี้แน่ะ หาว่าเราเป็นแมลงสาบคิดได้ไงเป็นด้วงยังจะดีเสียกว่า” ป็อปปี้หน้างอพูด
“บ่นมากจริง มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยนะ” ฟางไล่ชายหนุ่มพร้อมดิ้นตัวหนี
“กลับก็ได้” ป็อปปี้คลายกอดก่อนแอบจุ๊บปากทีหนึ่งแล้ววิ่ง ฟางตกใจจะตีชายหนุ่มกลับแต่ไม่ทันเพราะเขาวิ่งปีนระเบียงห้องไปเสีย
“ฮึ่ย! คนบ้า” ฟางบ่นแล้วถูปากเบาด้วยความอาย
_______________________________________________________
อ้ากกกก ไอ้สองหนุ่มมันร้ายยยยยย สองสาวโดนชิงจูบไปแล้ว ว้าวๆๆ แอบอิจฉาเบาๆ พีสมาอัพส่งท้ายก่อนหายไปเพราะอันนี้แอบเขียนทิ้งไว้พอดี นักอ่านอย่าพึ่งหายนะ เม้นโหวตด้วย ขอไปเขียน GIRL’STOPIC ก่อนลง 1 ตอน เจอกันหลังสอบ คอมเม้นเยอะอาจมาก่อนเร็วกว่าที่คิด
LOVETK PF KF!!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ