แอบรัก
9.5
เขียนโดย Omoji
วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.27 น.
74 ตอน
990 วิจารณ์
112.90K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.51 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
60) แอบรัก ตอนที่ 60
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่60
“ไอมิน..”
“อ่อนว่ะ..แค่นี้ก็ยังทำไม่ได้” ไอสัดนี่!น่าถีบมากบอกเลย!
“พูดดีๆหน่อยไอมิน..กูไม่อยากมีเรื่องกับมึง” คือไม่ใช่อะไรหรอก ถ้าไม่ติดตรงที่มันคือคนที่ฟางเลือก..
นี่ผมดูเป็นคนขี้แพ้มากใช่มั้ย?
“งั้นเดี๋ยวพวกกูไปก่อน พวกมึงคุยกันดีๆล่ะ” ไอเขื่อนเดินมาตบไหลผมสองทีแล้วเดินออกไป ปล่อยให่ผมเผชิญหน้ากับศัตรูหัวใจของตัวเอง
“มึงมีเรื่องอะไรกับกู..”
“แล้วมึงคิดว่ากูมีเรื่องอะไรกับมึงดี...” กวนตีน!!! ผมพยายามกักกั้นอารมณ์ของผมไว้จนแทบทะลักออกมา สัด!
“ทำไม..มึงก็ได้ยัยนั่นไปแล้วนี่!ทำไมวะ!มีอะไรจะคุยจะเคลียร์กับกูอีก!” ผมตะคอกใส่หน้ามันอย่างหมดความอดทน มันมองหน้าผมแล้วเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ
“ทั้งที่มึงก็รู้อยู่แล้วว่าฟางคบกับกู..แต่มึงก็ยังยุ่งกับแฟนกู” ผมมองหน้ามันด้วยคำถามากมาย..มันพูดไม่ผิด ผมยุ่งกับฟางก็เพราะผมอยากได้ฟางคืนมา..
แต่ตอนนี้ผมเองก็รู้ตัวแล้วว่าผมไม่มีสิทธ์นั้น
“อืม”
“ทำไมวะ..” มันหยุดกึกอยู่ตรงหน้าผม เราทั้งสองจ้องตากันเขม็ง แต่ทำไม..ผมถึงเห็นแววตาที่เศร้าของมัน..ทำไมผมถึงไม่เห็นว่าไอมินมันจะดีใจที่มันชนะผม..
“กูอยากได้ฟางคืน..”
“แล้วฟางเป็นของมึงตั้งแต่ตอนไหนวะไอป๊อป..ฟางกับมึงได้กันแล้วหรอ”O_O!!
“ไอเปรต!กูไม่ได้เหมือนมึงนะ! กูจะเอาใครกูต้องแต่งงานก่อนเว้ย! และที่สำคัญกูไม่มีวันทำแบบนั้นกับฟางแน่!” พระเอกมั๊ยครับ? ผมดูเป็นคนอย่างนั้นรึไงกันวะ!..ผมไม่อยากให้ใครมาพูดดูถูกฟางผมเป็นห่วงศักดิ์ศรีของฟางเหมือนกัน
“มึงชอบฟาง..ใช่มั๊ยวะ” ผมหยุดนิ่งกับคำถามของมัน..น้ำเสียงจริงจังและแววตาที่หงอยลงไป
“มึง..”
“ทำไมมึงไม่บอกฟาง..ว่ามึงชอบเขา” คำถามที่ทำเอาผมจุก..
“กู..แล้วมึง..”
“มึงจะเก็บเอาไว้นานแค่ไหนวะ..กูทนเห็นฟางเจ็บไม่ได้อีกแล้วเว้ย..เข้าใจกูมั๊ย”
“…ไอมินแล้วมึงมาบอกกูทำไมในเมื่อฟางเลือก..”
“ฟางไม่ได้เลือกกู” ผมคิ้วขมวดกันเป็นปมพร้อมหัวใจที่กำลังเต้นรัว..ผมไม่รู้ว่าไอมินมันพูดจริงหรือแค่อำผมเล่น..แต่อย่างน้องผมก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้น
“มึงพูดอะไร”
“กูเป็นแค่คนขี้แพ้ไปแล้วว่ะ..มึงว่ามั้ย” ขี้แพ้? คนๆนั้นควรเป็นผมไม่ใช่หรอ
“..มึงพูดให้มันชัดเจนหน่อยดิวะ”ผมกำลังรุกรี้รุกรนผมแทบจะเป็นบ้า! มันจะรู้บ้างไหม!เพราะถ้าฟางไม่เลือกไอมินผมก็ยังมีสิทธิ์
“หึ!! แค่นี้มึงยังคิดไม่ได้..มึงโคตรโง่เลยไอฟาย!” ไอสาดดดดดมิน!!
“อ้าวมึง! พูดอย่างนี้ก็สวยสิครับ” เอาแล้ว มึงอย่าให้กูขึ้น! ไม่งั้นกูจะลงยากนะเฟ้ย! ไอ้…
“มันก็เรื่องของมึง…ถ้ามึงรักฟางจริง มึงก็ต้องรู้..แต่กูขอบอกมึงว่า..มึงยังไม่แพ้กูหรอกนะ”ดะ..เดี๋ยวนะ? ผมแพ้มันแล้วไม่ใช่หรอ? มันต่างหากที่ได้ฟางไป..ไม่ใช่ผม
“….”
“บางที..อาจเป็นกูที่แพ้มึงมาตลอดเลยก็ได้..” มันพูดคำสองคำก่อนจะเดินผ่านผมไปอย่างช้าๆ ปล่อยให้ผมยืนนิ่งอยู่ตรงนี้สักพัก
“มันแพ้หรอ…ไอมินมันหมายถึงอะไร...” ผมนึกย้อนกลับไปในเรื่องต่างๆนาๆ แต่มันก็มีอยู่เรื่องเดียว..
“ฟางไม่ได้เลือกกู”
“มึงพูดอะไร”
“กูเป็นแค่คนขี้แพ้ไปแล้วว่ะ..มึงว่ามั้ย”
“ฟาง..” วินาทีนั้นผมคิดได้อย่างเดียวก็คือยัยบื้อ!ผมไม่ใช่คนที่แพ้..แต่ผมอาจจะเป็นคนที่ชนะ..ชนะหัวใจฟาง
ผมอยากเจอหน้าฟาง!!!!ได้ยินมั้ยครับ!ผมจะไม่ยอมแพ้! รู้ตัวอีกทีผมก็วิ่งออกมาจากห้องสมุดตอนไหนก็ไม่รู้..แต่ตอนนี้หลายๆเรื่องมันก็เด้งเข้ามาในโหมตประสาตของผมอย่างจัง
“ตีหัวบื้อๆของมึงไง!ไม่บอกเขาแล้วเขาจะรู้หรอวะ..แล้วยิ่งมึงเงียบแบบนี้เขาก็เจ็บตายห่าพอดี!” คำพูดของไอเขื่อนที่คอยตอกย้ำใจของผม
.................................................
“มันเป็นเพียง..แค่ความรู้สึกชั่ววูบจริงๆหรอ”
“ที่ผ่านมา..พี่ป๊อปไม่ได้ชอบฉันเลย..ไม่รู้สึก..อะไรกับฉัน..จริงๆหรอคะ”
“จะให้ฉันทำยังไงเมื่อพี่คิดกับฉันเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ พี่คิดว่าฉันจะลืมมันง่ายๆหรอ”
“ฉันไม่ได้ต้องการความสงสาร ฉันชอบพี่ก่อนไม่จำเป็นที่พี่จะต้องทำมาเป็นห่วงใย ไม่จำเป็นต้องถนอมน้ำใจด้วยการทำเป็นรักกัน..เหมือนอย่างตอนนี้” คำถามที่มันยังคอยหลอกหลอนผมในค่ำคืนที่เราอยู่ด้วยกัน
........................................
“…ถ้าไม่ได้รักฟางจริงก็เลิกให้ความหวังเพื่อนแก้วซะ..เพราะฟาง…”
“….”
“..เขาไม่เคยตัดใจจากพี่ได้เลย” คำพูดของแก้วที่เข้ามาทำร้ายผมในตอนที่ผมทิ้งฟางไว้ที่ทางด่วน..
“กูจะบอกมึงไปทำไมวะ..มึงก็แม่งเหี้ยอยู่วันยังค่ำ..มึงก็คอยแต่ทำร้ายฟาง ถ้ากูบอกมึงก็เหมือนกู..ทำให้ฟางเสียใจ”และเควินที่คอยย้ำเตือนผมตลอดเวลาว่าผมคอยแต่ทำร้ายฟาง..
....................................................
“โชคดีนะ…ในที่สุด…พี่ป๊อป…ก็เลือกเธอ”อีกทั้งเรื่องเข้าใจผิดที่ผมเป็นคนก่อมันขึ้นมา..
.............................................
จนตอนนี้ผมก็ควรที่จะไปบอกฟาง..ว่าผมคิดยังไงกับเธอ ควรบอกหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าผมบอกไปบางที..ผมอาจจะได้ฟางกลับมา
……………………………………
อีกฟากหนึ่งของบ้านจิระคุณที่ดูเหมือนจะดูเงียบเหงาถนัดตาหลังจากที่ป๊อปปร่ออกจากบ้าน ถ้าให้ถามถึงแม่เลี้ยงก็ตอบได้เลยวิอยู่ไม่สุข
“ป้า รู้รึเปล่าว่าป๊อปปี้เขาไปอยู่ที่ไหน” ระวีถามป้าน้อมที่กำลังยืนทำกับข้าวอยู่ภายในครัว ทั้งคู่อยู่ด้วยกันเพียงแค่สองคนเท่านั้น
“ไม่ทราบค่ะ”
“จะไม่ทราบได้ยังไง?! เป็นป้า!ภาษอะไรย่ะ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะว่าป๊อปปี้อยู่ไหน? ฉันต้องการพบเขา” ระวีบีบข้อมือของป้าน้อมจนเกิดรอยแดง
“ฉันไม่บอกคุณหรอก แล้วคุณจะอยากรู้ไปทำไมในเมื่อคุณเป็นตัวปัญหา…ทำให้คุณหนูต้องออกจากบ้าน” ป้าน้อมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะค่อยสะบัดมือออกจากมือของระวี
“ถ้าป้าไม่บอก..รู้รึเปล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“….”
“…ฉันจะฟ้องคุณภาคิน ว่าป้า! ทำร้ายฉัน!”
“…เอาที่คุณพอใจเถอค่ะ อยากฟ้องก็ฟ้องเลย คิดว่าฉันกลัวคุณงั้นหรอ?” ป้าน้อมแสยะยิ้มสมเพชแล้วหันกลับไปทำอาหารต่อ
ระวีกำมือตัวเองแน่นอย่างขัดใจ เธอก็แค่อยากรู้ว่าป๊อปปี้อยู่ไหน และที่ต้องสร้างเรื่องข่มขื่นนั้นขึ้นมามันก็เป็นเพราะป๊อปปี้คนเดียวที่ทำให้เธอต้องพูดออกไปแบบนั้น..
“ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าป๊อปปี้อยู่ที่ไหน…จำไว้” พูดจบ แม่เลี้ยงระวีก็เดินออกจากห้องครัวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
ป้าน้อมได้แต่ส่ายหัวอย่างเอือมๆ หล่อนรู้ดีว่าความจริงแล้วแม่เลี้ยงคิดยังไงกับป๊อปปี้ แต่ที่ไม่พูดก็คิดว่ามันคงจะดีกว่าที่คุณผู้ชายหรือภาคินรู้ด้วยตัวเอง…
หวังว่าจะรู้เร็วๆ…
“ชิส์ ป๊อปปี้นะป๊อปปี้ทำไมไม่รับโทรศัพท์กันเลยนะ” หลังจากที่ระวีเดินออกมาจากในครัวเธอก็จัดการโทรหาลูกเลี้ยงของตัวเองอย่างรีบร้อน
ใช่แล้วล่ะ…เธอโทรหาเขาทุกวันแต่ก็ไม่ได้การตอบรับมาเลยสักวัน…
“คุณระวี”
“คุณภาคิน!” เห็นดังนั้นเจ้าตัวจึงรีบซ่อนโทรศัพท์ไว้ข้างหลังในทันที พร้อมสายตาเลิ่กลั่กอย่างกลัวๆ
“เมื่อกี้คุณโทรหาใคร ทำไมต้องซ่อนด้วย” ภาคินหรี่ตามองระวีอย่างจับผิด
“ปะ…ปล่าวค่ะ”
“เห็นผมโง่หรอ”
“….”
“ช่วยตามผมไปที่ห้องนั่งเล่นด้วย” ภาคินพูดจบก็เดินออกไปทางห้องนั่งเล่นอย่างที่บอก
แม่เลี้ยงมองเขาอย่างมึนงง เธอรู้สึกกลืนน้ำลายได้ลำบากยิ่งนัก ประโยคก่อนหน้านี้มันฟังดูน่ากลัวแปลกๆ..
ระวีเดินตรงไปยังห้องนั่งเล่นตามที่ภาคินบอก…และเมื่อเธอเข้ามาก็พบว่าเขากำลังนั่งรออยู่ที่โซฟาเรียบร้อยแล้ว
“คุณเรียกฉันมา…มีอะไรหรอ”
“มานั่งนี่”
“คะ?”
“ผมมีอะไรจะให้คุณดู”
แม่เลี้ยงระวียอมเดินไปนั่งลงข้างๆถาคินแต่โดยดี แต่แล้วทั้งห้องก็เงียบกริบเมื่อไม่มีใครเริ่มเปิดบทสนทนา แต่แล้วความเงียบก็ถูกทำลายด้วยประโยคต่อมา….
“คุณมีอะไรอยากจะบอกผมรึเปล่า คุณระวี”
“…..”
“ผมให้โอกาสคุณอีกครั้งนะ…คุณมีอะไรปิดบังผม!” ภาคินขึ้นเสียงด้วยแรมณืที่ยากจะหยุดยั้ง
“คะ…คุณเป็นอะไรไป”
“ผมคงโง่มากใช่มั๊ยในสายตาคุณน่ะ!”
“คุณภาคิน…”
“ดูนี่สิ” ว่าจบเขาก็เดินไปหยิบรีโมทแถวนั้นพร้อมกดเปิดหน้าจอทีวีและเมื่อเปิดก็เผยภาพสิ่งที่หล่อนถึงกับพูดไม่ออก…
มันเป็นภาพของป๊อปปี้และระวีภายในห้องนั้นตั้งแต่เริ่มต้นแม้จะไม่มีเสียงบรรยายแต่เพียงแค่ดูภาพก็รู้แล้ว…ภาพนั้นทั้งหมด…ตั้งแต่หล่อนขอให้ป๊อปปี้ถอดเสื้อ แล้วยังจูบกับเขา…
“คุณคงลืมไป…ว่าห้องคุณ…มีกล้องวงจรปิดนะ”
“….”
“ที่ผมไล่ป๊อปปี้ออกจากบ้านก็เพื่อคิดว่าสักวันคุณจะคิดได้แล้วมาพูดกับผม! มาบอกกับผมตรงๆ! แต่คุณก็ไม่เคยที่จะพูดแม้แต่คำว่าขอโทษ! การที่คุณหลอกใช้ผม! การที่คุณแต่งงานกับผมเพื่อต้องการเพียงแค่อ่อยลูกชายของผม! แบบนี้…มันน่าสมเพช!”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ”
“พอสักทีเถอะน่า! ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณไม่เคยรักผมเลยใช่มั๊ยระวี”
“….”
“ตอบมาเส้! คุณไม่รักผมเลยใช่มั๊ย!”
“ใช่!”
“….”
“ฉันไม่ได้รักคุณ! ที่ฉันแต่งงานกับคุณก็เพื่อผลประโยชน์ล้วนๆ! ฉันอยากเจอป๊อปปี้! ฉันรักเขาตั้งแต่แรกเห็น! คุณมีก็แค่ไอแก่หัวหงอก! คุณคิดว่าคุณสำคัญมากงั้นหรอ! แก่!”
เพี๊ยะ!
“ออกไปจากบ้านฉะ…ฉัน..”
ตึง!
“คุณภาคิน!”
ร่างสูงใหญ่คราวพ่อล้มลงไปกับพื้นพร้อมมือข้างขวาที่กอบกุมหัวใจของตัวเองไว้ ระวีวิ่งเข้าไปนั่งลงข้างๆแล้วช้อนศรีศะของร่างสูงวางไว้บนตัก
“คุณภาคิน! นี่คุณ! ให้ตายเถอะ!”
…………………….
ฉันได้แต่นั่งเหม่อมองออกไปข้างนอกอย่างเหว้งว้าง วันนี้ฉันต้องเดินกลับหาเพียงคนเดียว เพราะปกติจะเป็นพี่มินที่มาส่งหรือไม่ก็แก้ว แต่ดูเหมือนวันนี้ฉันคงต้องกลับไปใช้ชีวิตตามปกติเหมือนหลายปีที่ผ่านมา…
“ยัยบื้อ!”
สองเท้าที่เดินอยู่หยุดกึก เพราะเสียงเรียกจากทางข้างหลังและฉันก็จำมันได้ดี…
พี่ป๊อปจะมาทำไม…
ฉันไม่รอที่จะฟังอะไรทั้งสิน เมื่อคิดได้ฉันก็ตัดสินใจเดินหนีอย่างรวดเร็ว พยายามสะกดตัวเองไว้ว่าอย่าหันกลับไปเด็ดขาดถ้าไม่อยากเจ็บอีกครั้ง
แต่แล้วพี่ป๊อปก็วิ่วมาจากไหนก็ไม่รู้จู่ๆก็มายืนอยู่ตรงหน้าฉันเรียบร้อย
“เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ” ฉันพยามยามถึงที่สุดที่จะไม่มองหน้าเขา
แต่มันก็ทำยากซะเหลือเกิน…
“อ้ะ!” ฉันตกใจมากเมื่อจู่ๆพี่ป๊อปกคว่ากระเป๋านักเรียนของฉันไปถือไว้เอง
“ฉัน-จะ-ไป-ส่ง”
“ไม่!”
“ไม่ฟัง” อะไรกันเนี่ย!
“พี่ป๊อป!”
“อะไร?! อยู่ใกล้ๆแค่นี้ทำไมต้องตะโกนด้วย..หรือว่า…” จู่ๆพี่ป๊อปก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนจมูกเกือบจะชนกัน
“…ต้องใกล้แบบนี้”
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ไม่นะ..นี่ฉันกำลังจะหวั่นไหวกับพี่ป๊อปอีกแล้วงั้นหรอ บอกกี่ทีๆก็ไม่เคยฟังกันเลยนะหัวใจบ้านี่!
“ถะ…ถอยไป” ฉันผลักพี่ป๊อปจนดูเหมือนเขาจะเซไปนิดหน่อย
“งั้นก็ให้ฉันไปส่งนะ”
ฉันยืนมองหน้าพี่ป๊อปนิ่ง…
“อือ ตามใจ” ฉันไม่กล้าที่จะขัดแล้วล่ะ…ถ้าฉันขัดใจมีหวังอาจจะโดนมากกว่ายื่นหน้าก็ได้ -///-
พี่ป๊อปเดินมาส่งฉันจนถึงหอในที่สุด…ตอนนี้ในใจฉันกำลังว้าวุ่น มันมีคำถามอยู่เต็มไปหมด…ทำไม?
“ขอบคุณค่ะ” ฉันทำท่าจะหยิบเอากระเป๋าคืนแต่ก็ถูกพี่ป๊อปชักกลับไป
“เอากระเป๋าฉันคืนมานะ”
“ไม่ให้”
เอ๊ะ! บ้าไปแล้วรึไงกันนะ ฉันยืนกอดอกอย่างไม่เข้าใจ
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“ไม่ ฉันไม่คุย”
“แต่ฉันจะคุย”
“ก็ฉันบอกว่าไม่!”
“ฉันรู้เรื่องหมดแล้ว!”
อึก….พี่ป๊อปหมายความว่าไง…รู้เรื่องอะไร
“….”
“เธอยังชอบฉันอยู่ใช่มั๊ยฟาง”
อัพช้าอีกแล้ะ! ขอโต้ดดดดดดดด TT คือเอาไงดีอ่ะ เราไม่ค่อยว่างเลย พรุ่งนี้อาจจะมาอัพให้อีกมั้ง...
ทุกค้นนนนนนน ไรต์อยากได้กำลังจายยยยยในการแต่งต่อ โหวตตตคงที่มากอะแกรรร 5555
ขอบคุณทุกคนที่ยังคงติดตามเรื่องนี้ บอก่อนว่าใกล้จบแล้ะแกรรรร 5555
กำลังใจโลดดดดดดดด คิอเราแต่งไว้แล้วแต่ขอดูกำลังใจก่อนว่ามากันรึเปล่า
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ