แอบรัก

9.5

เขียนโดย Omoji

วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.27 น.

  74 ตอน
  990 วิจารณ์
  112.92K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.51 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

11) แอบรัก ตอนที่11

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่11
  
    และสุดท้ายผมกลับต้องมานั่งนิ่งอยู่บนโต๊ะอาหารโดยที่ยัยฟางวางกับข้าวที่บอกว่าทำทิ้งไว้ให้กับผมบนโต๊ะจนเสร็จสรรพแล้วยังจะมานั่งตรงหน้า จะแข่งจ้องตากับผมรึไง “จะจ้องหน้าฉันอีกนานมั๊ยฮะ”  ไม่ใช่อะไรหรอกนะ  ผมแค่รำคาญ
 
“เอ่อ ฉันขอโทษ”
 
“ฮุ้ยย น่าเบื่อว่ะ”  ผมเบื่อจริงๆกับคำว่าขอโทษขนาดผมบอกแล้วนะว่าเลิกพูดคำนี้แต่ยัยนี่ก็ไม่ยอมหยุด
 
   แล้วผมก็เริ่มทานอาหารฝีมือของยัยนั่น แหวะ ไม่เห็นอร่อยตรงไหน ก็แค่หวานนิดเปรี้ยวหน่อย ผสมกันกลมกลืน…ให้ตายสิ มันไม่อร่อยโว้ยยยยย ท่องไว้สิว่าต้องทนกินน่ะ ท่องไว้
 
   ผมก็แค่กินๆมันต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีคำพูดใดเกิดขึ้นจากผมและฟาง
   จนกระทั่งยัยนั่นเริ่มก่อน…
 
“เอ่อ…แผลของพี่ป๊อป..เป็นไงบ้าง”
 
………..…………………….ต่อ……………………………
    ฉันถามพี่ป๊อปเมื่อเห็นว่าที่หน้าแข้งและหัวเข่ายังถูกผ้าพันอยู่นิดหน่อย แต่ฉันกลับรู้สึกเป็นห่วงพี่เขาจับใจจริงๆ…
 
    จากใจจริง…
 
“ดีขึ้นแล้ว”  พี่ป๊อปตอบฉันเสียงเรียบ
 
   เย็นชาจังแฮะ…
 
“ให้ฉันดูแผลหน่อยมั๊ย”  ฉันวิ่งกรูเข้าไปนั่งคุกเข่าแล้วยกขาพี่ป๊อปขึ้นวางบนท่อนขาของฉัน
“นี่! ทำบ้าอะไรฮะ! ฉันกินข้าวอยู่นะ!” 
 
  อุ้ย…ลืมไป
 
“เอ่อ โทษทีคะ”  ฉันรีบวางท่อนขาของพี่ป๊อปลงไว้อย่างเดิมก่อนจะเดินไปนั่งลงตรงหน้าพี่ป๊อปอย่างเดิม                                         
 
“ยัยบื้อ!”
 
    เอิ่ม..ฉันก็อยากเอาหัวโขกกับโต๊ะจริงๆ เพราะความจริงฉันมันก็บื้อแบบนี้ แต่ให้ทำไงได้ก็คนมันชอบ..
 
“อร่อยรึเปล่า เห็นกินไม่หยุดเลยอ่ะ”  เพียงแค่ฉันพูดเท่านั้นล่ะ พี่ป๊อปก้หยุดกินแทบจะทันที แล้วลากจานมาให้ฉัน
 
“เธอไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ..ฉันจะได้ไป”
 
“ดะ..เดี๋ยวสิพี่ป๊อป..”  ก็ไม่รู้อะไรที่ทำให้ฉันต้องเข้าไปจับชายเสื้อพี่เขาให้หยุดเดิน แน่นอนว่าพี่ป๊อปก้หยุดเดิน ตอนนี้เราทั้งคู่ได้เพียงแค่เงียบ…
 
   ตึกตัก ตึกตัก
 
   ใจของฉันกำลังเต้นแรง…ได้ใกล้ชิดกับพี่ป๊อปแบบนี้ฉันก็ควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนกัน..มันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันอยากจะรั้งพี่เขาไว้เพียงเท่านั้น
 
“พี่ป๊อป..อย่าโกรธฉันเลยนะ..ฉันแค่เป็นห่วงพี่..”
 
“…”
 
“พี่ก็รู้..ว่าฉันคิดยังไงกับพี่..เพราะอย่างนั้นฉันเลยทุ่มเททุกอย่างให้กับพี่ตลอด…” คำพูดของฉันมันเก็บทุกความรู้สึกที่มีให้กับพี่ป๊อป
 
    ฉันได้แต่มองพี่เขาด้วยใจท้อแท้ ก็แค่หวังว่าพี่เขาจะเผื่อใจมาให้ฉันบ้างตลอดหลายปีที่ผ่านมา และฉันก็รู้สึกปวดร้าวทุกครั้งที่พี่ป๊อปทำเมินใส่ฉัน แต่ฉันก็ยังชอบพี่เขา
 
“เธอหยุดพูดเส..”
 
“ฉันไม่ได้เสแสร้งนะ! ฉันพูดเพราะฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ฉันพูดเพราะฉันอยากให้พี่มองฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนนึง..ที่ไม่ได้ร่านอย่างที่ใครบอก ไม่ได้แสดงละครแล้วสับรางเปลี่ยนผู้ชายไปทั่ว..แม้ความจริงแล้ว..ฉันก็มองแค่พี่คนเดียว”
 
                                       …………………………ต่อ…………………………
 
    ผมได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่…ความรู้สึกบางอย่างมันเข้ามากระทบใจของผม..แต่ผมไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร ผมอยากหันไปหายัยนั่นแล้วพูดด่า ดูถูกเธอให้เลิกชอบผมอย่างที่ผมชอบทำ..แต่ทำไมมันเหมือนมีอะไรบางอย่างรั้งผมไว้ไม่ให้ทำแบบนั้น
 
“พูดจบแล้วใช่มั้ย..”
 
“อะ..อื้ม จบแล้ว”
 
    เพียงเท่านั้นผมก็รีบเดินออกไปจากห้องของฟางอย่างรวดเร็ว..แต่เพียงแค่ผมออกมาเท่านั้นล่ะ ผมก็รู้สึกเหมือนปากของผมมันกำลังยิ้ม..
 
    ย…ยิ้ม..
  
    ยิ้มหรอ!!!..
 
      ผมสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนั่นออกไปอย่างรวดเร็ว..เป็นอีกครั้งที่ผมอยากจะเอาหัวโขกกับอะไรสักอย่าง แล้วความรู้สึกบางอย่างมันก็กำลังถาโถมเข้ามา..
 
“ไอเหี้ยยย!!!! กูเป็นบ้าอะไรว้าา!!! สัด! หัวกู!!” ผมก็ได้แต่สบถออกมาอย่างหัวเสีย…บางทีผมอาจจะเป็นโรคประสาทแดกเอาก็ได้
 
     ให้ตาย!!
 
     ผมเดินเข้ามาในห้องของผม..ซัดกระเป๋าลงบนเตียง ก่อนที่ร่างของผมจะไปอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว..และผมต้องคอยหลับตาไม่สิ..ต้องเรียกว่าปิดหูปิดตา ก็แม่ง!ไม่อยากจะรับรู้โลกภายนอกอะไรอีกแล้ว…แต่พอผมยิ่งบังคับให้ตัวเองลืมๆเรื่องเมื่อกี้ไป หน้าของยัยนั่นก็ลอยขึ้นมาเฉย..
 
“โว้ยยยยยยยยยย!!! กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!!! กูต้องเป็นโรคประสาทหลอนแน่!!! ไอสัด!นี่กูเป็นอะไรวะ..เพราะเธอคนเดียว!ยัยบื้อ!! หัวกูจะระเบิดเพราะยัยบื้อนั่นคนเดียว!!”
 
    ผมเอาหมอนมาปิดหน้าปิดตา แต่ทำเท่าไหร่มันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น..ผมตัดสินใจเด้งตัวจากที่นอน
 
    แล้วหยิบผ้าขนหนูตรงดิ่งเข้าไปในห้องน้ำ..
    อาบน้ำแม่ง!จะได้ออกจากหัวกูไปได้เร็วๆ!
 
………………ต่อ....................
    ฉันนั่งเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างพลันริมฝีบปากฉันกลับกระตุกยิ้มบางๆ เมื่อกี้ฉันเผลอพูดความในใจที่หลากหลายกับพี่ป๊อป…พี่ป๊อปจะว่ายังไงบ้านะ…
 
    แต่แล้วรอยยิ้มของฉันก็หุบฉับเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพี่ป๊อปเกลียดฉันมากมายขนาดไหน บางที…เขาอาจจะไม่มองหน้าแบะไม่ยอมคุยกับฉํนอีกเลยก็ได้..
 
“มองมาที่ฉันบ้างไม่ได้เลยรึไงนะ…”
 
                                       …………………….ต่อ………………..
 
   หลายวันต่อมาฉันก็สามารถมาโรงเรียนได้แต่คำพูดในวันนั้นที่ฉันพลั้งพลาดออกไป…มันยังวกวนอยู่ในหัวอยู่เลยยยยยย!!
 
“โอ้ยยยยยย!!! ให้ตาย!นี่ฉันพูดอะไรออกไปวะเนี่ย!!! งืออออ”
 
    ฉันอยากเอาหัวซุกไว้กับถังขยะยังสงสารขยะเลย..เมื่อคืนฉันบอกความรู้สึกฉันไปหมดเลย.. แล้วแบบนี้พี่ป๊อปจะมองฉันเป็นคนยังไง งืออออ ฉันอยากจะบ้ากับความบื้อของตัวเองอย่างที่พี่ป๊อปว่า..ฉันมันบื้อๆๆๆๆ
 
 
“ฟางแกเป็นไรวะ..เอาหัวโขกกับโต๊ะอยู่นั่นล่ะ หัวช้ำกันพอดี” แก้วทักฉันเองค่ะ หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ที่ฉันไม่ได้มาโรงเรียน จนแผลของฉันเริ่มหายดีเลยกลับมาเรียนเหมือนเดิม
 
“แก..ฉันมันบื้อจริงๆด้วยว่ะ..ฉันมันทั้งโง่ ทั้งบื้อเลยอ่า” พูดแล้วก็อยากจะร้องไห้ออกมา
 
“เป็นไรวะเนี่ย..อารมณ์ไหนของแกวะ”
 
“แก้ว..ฉันบอกความรู้สึกกับพี่ป๊อปไปหมดแล้วอ่ะ..แล้วฉันจะทำไงดีวะ พี่เขาจะมองฉันหน้าด้านรึเปล่าอะแก้วววววว”  นึกถึงวีรกรรมที่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน..แต่ฉันก็ยังเก็บมันมาขุดหลุมฝังตัวเอง
 
“จริงหรอ!แกบอกพี่ป๊อปหมดแล้วหรอ!อะไร..ยังไง! บอกฉันมานะฟาง!”
 
     และฉันแทบจะมุดหน้าหลบอีกครั้ง เมื่อตอนนี้ข้างหลังของฉันคือกลุ่มแบล็คลิสที่กำลังมาทางฉัน..แน่นอนว่าพวกเขาไม่มาหาฉันแต่มาหาแก้วมันต่างหาก..
 
    และฉันจะไม่ว่าอะไรเลยถ้าพี่ป๊อปไม่มาด้วย…
 
“แก้ว..ฉันขอตัวก่อนนะ” และเพียงเท่านั้นฉันก็ถูกแก้วคว้าแขนไว้ และพอฉันสะบัด แก้วก็จับแขนฉันไว้แน่น
 
    ไม่นานกลุ่มพี่เขาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันกับแก้วจนได้..
 
    ตึกตัก ตึกตัก
 
    โอ้ยยย!!! ไอหัวใจบ้า!เต้นจนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบ้างรึไง อยากจะบอกว่าถึงใจมันไม่เหนื่อยแต่ฉันกำลังเหนื่อยใจตัวเอง..ฉันรีบก้มหน้าก้มตาอยู่อย่างนั้น
 
“แก้ว..ไปหาอะไรกินกันมั้ย” ฉันจำเสียงนั้นได้ มันเป็นเสียงพี่โทโมะ จะว่าไปสองคนนี้เขาคืนดีกันแล้วหรอ..ทว่า
 
    ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้นแหะ..
 
“ฟาง..ไปจากที่ตรงนี้เถอะ!” อะไรของมัน -_-‘ เมื่อกี้ยังบอกให้ฉันอยู่แต่ตอนนี้บอกให้ฉันไป..จะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันจะบอกว่าเพื่อนฉันมันเล่นตัว =_=
 
“แก้ว!..คุยกันก่อนสิ”  ไม่นานพี่โทโมะก็รั้งมือแก้วไว้..ฉันหันฉับไปหาพี่เขาแต่ทำไมสายตาฉันต้องไปหยุดอยู่ที่พี่ป๊อป
 
    O_O !!
 
     และฉันจะจ้องทำไมให้นาน..ฉันก็ต้องรีบหลุบตาต่ำแล้วเมื่อกี้ฉันก็เห็นว่าพี่เขาก็หลบตาฉันเหมือนกัน..ฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยจริงๆ!!!
 
“ปล่อยนะ!เมื่อวานยังพูดไม่รู้เรื่องหรอ!”  แก้วตะคอกใส่พี่เขา…รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันก็คอยบอกกับตัวเองว่าจะอยู่ทำไม TT
 
“ฉันขอโทษนะแก้ว…ฉันขอโทษที่ฉันไม่รู้ว่าไอหมอนั่นมันเป็นแค่เพื่อนของแก้วจริงๆ..ก็จะให้พี่ทำไงก็พี่หึงเป็นเหมือนกันนะ..”   จะผิดมั้ยถ้าฉันเขินแทนแก้วมัน >< เฮ้อออ ฉันล่ะเบื่อกับอาการปากแข็งของแก้วมันซะจริงๆค่ะ
 
“ไม่อายบ้างหรอไง..คนมองเต็มไปหมด”  แก้วพูดขึ้นเองค่ะ ฉันรู้ว่ามันกำลังเขิน ก็แหม่..เป็นฉันฉันก็เขิน..แต่ดูเหมือนว่าบรรยากาศสุดโรแมนติกเมื่อครู่ก็ถูกดับไปเพราะมีเสียงหนึ่งขึ้น
 
“ไอสัดโมะ..มึงรีบดิ กูรีบนะเว้ย..ยิ่งไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆด้วย” 
 
     เสียงพี่ป๊อปดังขึ้นพร้อมใจของฉันที่เต้นขึ้นอย่างแรง..ไม่อยากอยู่ตรงนี้หมายถึงฉันรึเปล่า? พี่เขาคงเกลียดฉันเข้าไปอีกแน่เลย TT
 
“แก้วหายโกรธฉันแล้วใช่มั้ยครับ”
 
    ฉันอยากจะตอบให้มากว่าแก้วมันหายเป็นชาติแล้ว แค่มันเล่นตัวก็เท่านั้น..
 
“ฉันก็ไม่ได้โกรธ..”
 
      ดูมันพูดสิครัช…-_-
 
“ไปได้แล้วมั้งคุณมึง..กูแม่งโคตรอยากจะสำรอกกับคู่ของมึงจริงๆเลยว่ะ” และก็มีเสียงมารผจญเข้ามาแทรกบรรยากาศโรแมนติกของเพื่อนฉันอีกครั้ง
 
“แต่สู้คู่ของกูกับเฟย์ไม่ได้หรอกครับคุณโมะ..เพราะคู่กูกับเฟย์ชนะขาด” ส่วนอันนี้ฉันเป็นพยานให้ก็ได้ค่ะ คู่พี่เขื่อนหวานยิ่งกว่าน้ำหวานที่ใส่น้ำตาลเพิ่มเข้าไปอีก
 
     หวานจนเลี่ยน…เจียนจะอ้วก
 
“เออๆกูไปก็ได้”
                                  …….………………ต่อ……………………..
    ทันทีที่ผมมองดูภาพไอเพื่อนสนิทกับแก้วจนจะสำรอกออกมาเป็นรอบที่สิบ ผมก็เข้าใจครับว่าไอโทโมะมันเป็นพวกคนปากหวานคิดอะไรก็พูด แต่แก้วนี่สิคงจะจัดอยู่ในพวกปากแข็งดูก็รู้ว่าแก้วก็มีใจให้เพื่อนผมแล้ว แต่ที่บอกว่าไม่ชอบอะไรต่างๆนาๆผมเองก็ไม่เข้าใจ
 
    และด้วยความที่ผมไม่เข้าใจนี่แหละครับ สายตาผมก็หันไปหาเพื่อนสนิทของแก้ว แต่ผมก็เห็นยัยนั่นเอาแต่หลบหน้าผม หลบอยู่อย่างนั้นหรือเธอคิดว่าหน้าผมเหมือนที่รองตีนของเธอกันแน่..แล้วผมจะไปสนทำไม? มันไม่ใช่เรื่องของผมเสียหน่อย…
 
   แต่ไอที่ผมไม่เข้าใจตัวเองก็คือผมจะหลบหน้ายัยนั่นทำไมเหมือนกัน…ดูเหมือนเมื่อคืนตอนผมอาบน้ำเสร็จความคิดและภาพหลอนมันคงจะออกจากหัวผมไม่หมด…
 
     จนผมเดินออกมาถึงห้องเรียนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้..
 
“ไอป๊อป! มึงเป็นไรวะ กูเห็นมึงทำหน้าเหมือนตูดมึงอยู่นั่นแหละ..”
     
      ดูปากมัน =_= สงสัยมันเลี้ยงหมาไว้ในปากเพิ่มล่ะมั้งครับ
 
“ไอเวร กูไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
 
“แล้วมึงไปทำอะไรฟาง กูเห็นเขาเอาแต่หลบหน้ามึงอ่ะ”
 
   นั่นสิ…ผมไปทำอะไรยัยนั่น…
 
   แล้วยัยนั่นก็ไม่รู้ทำอะไรกับผมเหมือนกันโว้ยยยยยยยยยยย
“กูเปล่า”
 
“อ้อหรอ งั้นสงสัยว่า….ฟางคงจะโกรธมึงมั้ง”
   
    ว่าไงนะ…ยัยนั่นโกรธผมหรอ แล้วทำไมต้องโกรธผม ผมไม่ได้ทำอะไรผิดใช่รึเปล่า..แล้วโกรธเรื่องอะไร…แล้วผมควรต้องทำยังไง…ทำยังไง…
    ไม่เห็นต้องสนใจเลยนี่หว่า!  เออๆ ผมลืมนึกไป ว่ายัยนั่นจะโกรธหรือจะเกลียดผม…ก็เรื่องของเธอสินะ
“แล้วไงวะ”
 
“มึง…ไม่คิดจะไปง้อ..”
 
“มึงหุบปาก! กูจะไปง้อยัยนั่นเพื่ออะไร กูดีใจซะอีกถ้ายัยนั่นจะโกรธและเลิกชอบกูไปซะ”
 
    ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ…แต่ผมกลับรู้สึกแปลกๆ อะไรบางอย่าง มันก็ควรจะดีแล้วไม่ใช่หรอที่ฟางจะเลิกชอบผม…ในเมื่อตัวผมเองก็ต้องการแบบนั้น
                              ………………………….ต่อ………………………………
 
    ฉันมองหน้าตัวเองในห้องน้ำแต่ยังรู้สึกผวาไม่หาย ตอนที่จินนี่กับพิมรุมกันตบฉัน..มันเจ็บจริงๆแฮะฉันก้มลงล้างหน้าล้างตาเพื่อบรรเทาความง่วงและความนึกคิด
 
    เมื่อล้างหน้าเสร็จฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำแต่ภาพที่ฉันเห็นกลับทำให้ฉันชะงัก…
 
“พี่ป๊อปไปกินข้าวกันเถอะคะ”  จินนี่กำลังคล้องแขนของพี่ป๊อปไว้แน่นแล้วทำท่าว่าจะลากพี่ป๊อปไปโรงอาหาร
 
“ฉันกินแล้ว จินนี่หิวก็ไปเถอะ”
 
“งือออ ไม่เอานะ จินนี่อยากกินกับพี่ป๊อป”
 
“อย่าเอาแต่ใจน่าจินนี่ ฉันบอกแล้วไงว่ากินแล้ว”
 
“ไม่เอาๆๆ จินนี่อยากกินพี่ป๊อป..”
 
   ให้ตายสิ จินนี่พูดอะไรออกมากันเนี่ย ฉันได้ยินก็ถึงกับหน้าร้อนผ่าว…หน้าอายแทนชะมัด แต่ฉันก็ยังคงดูเหตุการณ์ต่อไป
“พูดอะไรของจินนี่น่ะฮะ -//[]//-”  จากที่ฉันดูพี่ป๊อปก็ดูท่าทางจะเขินไม่น้อยเช่นกัน
 
   งื้อออออ TOT ไม่นะ พี่ป๊อปอย่าหวั่นไหวกับจินนี่น้าาา  ความจริงถ้าเกิดพี่ป๊อปจะหวั่นไหวก็คงไม่ผิดหรอกมั้ง…ในเมื่อพวกเขาเป็นแฟนกันไม่ใช่หรอ ใครๆต่างก็คิดกันแบบนั้น
“กะ…ก็..จินนี่หมายถึง…จินนี่อยากกินข้าวกับพี่ป๊อป”  จินนี่หลุบตาลงต่ำ
 
   เหอะ! เขินเป็นด้วยหรอจินนี่น่ะ..โว้ยยย ฉันอยากจะบ้าตายยยย และฉันก็คิดว่าฉันไม่สมควรที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไปเพราะดูเหมือนว่าฉันน่ะ..จะหิวแล้วล่ะ ^^ 
 
                                  …………………………..ต่อ………………………………..
 
   ผมยอมรับว่าสิ่งที่จินนี่พูดเมื่อก็มันทำให้ผมรู้สึกเขินแปลกๆ ใครจะไปคิดวะว่าผู้หญิงหน้าตาหวานๆแบบจินนี่จะพูดอะไรแบบนั้นน่ะ  สายตาของผมพยายามเลี่ยงไปมองทางอื่นและผมกลับต้องสะดุดกับแผ่นหลังบางนั่นที่เหมือนกำลังเดินคอตกออกไป…
“พี่ป๊อปๆๆๆ ไปกินข้าวกินจินนี่เถอะนะ จินนี่หิวแล้วนะ” จินนี่ว่าพลางเขย่าแขนมแรงขึ้นๆ
 
“ไม่ล่ะ ฉันต้องขึ้นเรียนแล้ว”  ผมแกะมือของจินนี่ออก แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมสายตาผมกลับไม่ยอมละจากแผ่นหลังของยัยนั่นที่เดินออกไปไกลๆเรื่อยๆ
“อะ…อ้าวพี่ป๊อป ตอนเย็นมารับจินนี่ด้วยนะ!!!” 
 
   ผมเดินออกมาแล้วแต่ก็ยังได้ยินสิ่งที่จินนี่พูดชัดเจน…แน่นอนว่าผมต้องไปรับไปส่งจินนี่ทุกเย็นตามที่คุณเธอบอกกับผม 
 
   ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะเดินตามยัยนั่นมาทำไมและดูเหมือนยัยนั่นจะเดินเข้าโรงอาหารหลังตึกสาม…ซึ่งมันคือตึกของผม 
 
   ทำไมถึงมานั่งกินตรงนี้วะ…
 
 
เหนื่อยเหมือนกันนะบางที กำกกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ>< เม้นให้กันเยอะๆนร้าา รออยู่ๆ ถ้าเม้นล้นเปี่ยมเนื้อเรื่องก็จะล้นเปี่ยมเช่นเดียวกันงับ^^ 
 
รักเม้นนนนนนนนน
ชอบโหวตตตตตตต
ใครติดใจก็ติดตามม
อย่าลืมแนะนามมม
 
 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา