แอบรัก
เขียนโดย Omoji
วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.27 น.
แก้ไขเมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.51 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
11) แอบรัก ตอนที่11
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่11
และสุดท้ายผมกลับต้องมานั่งนิ่งอยู่บนโต๊ะอาหารโดยที่ยัยฟางวางกับข้าวที่บอกว่าทำทิ้งไว้ให้กับผมบนโต๊ะจนเสร็จสรรพแล้วยังจะมานั่งตรงหน้า จะแข่งจ้องตากับผมรึไง
“จะจ้องหน้าฉันอีกนานมั๊ยฮะ” ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ผมแค่รำคาญ
“เอ่อ ฉันขอโทษ”
“ฮุ้ยย น่าเบื่อว่ะ” ผมเบื่อจริงๆกับคำว่าขอโทษขนาดผมบอกแล้วนะว่าเลิกพูดคำนี้แต่ยัยนี่ก็ไม่ยอมหยุด
แล้วผมก็เริ่มทานอาหารฝีมือของยัยนั่น แหวะ ไม่เห็นอร่อยตรงไหน ก็แค่หวานนิดเปรี้ยวหน่อย ผสมกันกลมกลืน…ให้ตายสิ มันไม่อร่อยโว้ยยยยย ท่องไว้สิว่าต้องทนกินน่ะ ท่องไว้
ผมก็แค่กินๆมันต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีคำพูดใดเกิดขึ้นจากผมและฟาง
จนกระทั่งยัยนั่นเริ่มก่อน…
“เอ่อ…แผลของพี่ป๊อป..เป็นไงบ้าง”
………..…………………….ต่อ……………………………
ฉันถามพี่ป๊อปเมื่อเห็นว่าที่หน้าแข้งและหัวเข่ายังถูกผ้าพันอยู่นิดหน่อย แต่ฉันกลับรู้สึกเป็นห่วงพี่เขาจับใจจริงๆ…
จากใจจริง…
“ดีขึ้นแล้ว” พี่ป๊อปตอบฉันเสียงเรียบ
เย็นชาจังแฮะ…
“ให้ฉันดูแผลหน่อยมั๊ย” ฉันวิ่งกรูเข้าไปนั่งคุกเข่าแล้วยกขาพี่ป๊อปขึ้นวางบนท่อนขาของฉัน
“นี่! ทำบ้าอะไรฮะ! ฉันกินข้าวอยู่นะ!”
อุ้ย…ลืมไป
“เอ่อ โทษทีคะ” ฉันรีบวางท่อนขาของพี่ป๊อปลงไว้อย่างเดิมก่อนจะเดินไปนั่งลงตรงหน้าพี่ป๊อปอย่างเดิม
“ยัยบื้อ!”
เอิ่ม..ฉันก็อยากเอาหัวโขกกับโต๊ะจริงๆ เพราะความจริงฉันมันก็บื้อแบบนี้ แต่ให้ทำไงได้ก็คนมันชอบ..
“อร่อยรึเปล่า เห็นกินไม่หยุดเลยอ่ะ” เพียงแค่ฉันพูดเท่านั้นล่ะ พี่ป๊อปก้หยุดกินแทบจะทันที แล้วลากจานมาให้ฉัน
“เธอไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ..ฉันจะได้ไป”
“ดะ..เดี๋ยวสิพี่ป๊อป..” ก็ไม่รู้อะไรที่ทำให้ฉันต้องเข้าไปจับชายเสื้อพี่เขาให้หยุดเดิน แน่นอนว่าพี่ป๊อปก้หยุดเดิน ตอนนี้เราทั้งคู่ได้เพียงแค่เงียบ…
ตึกตัก ตึกตัก
ใจของฉันกำลังเต้นแรง…ได้ใกล้ชิดกับพี่ป๊อปแบบนี้ฉันก็ควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนกัน..มันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันอยากจะรั้งพี่เขาไว้เพียงเท่านั้น
“พี่ป๊อป..อย่าโกรธฉันเลยนะ..ฉันแค่เป็นห่วงพี่..”
“…”
“พี่ก็รู้..ว่าฉันคิดยังไงกับพี่..เพราะอย่างนั้นฉันเลยทุ่มเททุกอย่างให้กับพี่ตลอด…” คำพูดของฉันมันเก็บทุกความรู้สึกที่มีให้กับพี่ป๊อป
ฉันได้แต่มองพี่เขาด้วยใจท้อแท้ ก็แค่หวังว่าพี่เขาจะเผื่อใจมาให้ฉันบ้างตลอดหลายปีที่ผ่านมา และฉันก็รู้สึกปวดร้าวทุกครั้งที่พี่ป๊อปทำเมินใส่ฉัน แต่ฉันก็ยังชอบพี่เขา
“เธอหยุดพูดเส..”
“ฉันไม่ได้เสแสร้งนะ! ฉันพูดเพราะฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ฉันพูดเพราะฉันอยากให้พี่มองฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนนึง..ที่ไม่ได้ร่านอย่างที่ใครบอก ไม่ได้แสดงละครแล้วสับรางเปลี่ยนผู้ชายไปทั่ว..แม้ความจริงแล้ว..ฉันก็มองแค่พี่คนเดียว”
…………………………ต่อ…………………………
ผมได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่…ความรู้สึกบางอย่างมันเข้ามากระทบใจของผม..แต่ผมไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร ผมอยากหันไปหายัยนั่นแล้วพูดด่า ดูถูกเธอให้เลิกชอบผมอย่างที่ผมชอบทำ..แต่ทำไมมันเหมือนมีอะไรบางอย่างรั้งผมไว้ไม่ให้ทำแบบนั้น
“พูดจบแล้วใช่มั้ย..”
“อะ..อื้ม จบแล้ว”
เพียงเท่านั้นผมก็รีบเดินออกไปจากห้องของฟางอย่างรวดเร็ว..แต่เพียงแค่ผมออกมาเท่านั้นล่ะ ผมก็รู้สึกเหมือนปากของผมมันกำลังยิ้ม..
ย…ยิ้ม..
ยิ้มหรอ!!!..
ผมสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนั่นออกไปอย่างรวดเร็ว..เป็นอีกครั้งที่ผมอยากจะเอาหัวโขกกับอะไรสักอย่าง แล้วความรู้สึกบางอย่างมันก็กำลังถาโถมเข้ามา..
“ไอเหี้ยยย!!!! กูเป็นบ้าอะไรว้าา!!! สัด! หัวกู!!” ผมก็ได้แต่สบถออกมาอย่างหัวเสีย…บางทีผมอาจจะเป็นโรคประสาทแดกเอาก็ได้
ให้ตาย!!
ผมเดินเข้ามาในห้องของผม..ซัดกระเป๋าลงบนเตียง ก่อนที่ร่างของผมจะไปอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว..และผมต้องคอยหลับตาไม่สิ..ต้องเรียกว่าปิดหูปิดตา ก็แม่ง!ไม่อยากจะรับรู้โลกภายนอกอะไรอีกแล้ว…แต่พอผมยิ่งบังคับให้ตัวเองลืมๆเรื่องเมื่อกี้ไป หน้าของยัยนั่นก็ลอยขึ้นมาเฉย..
“โว้ยยยยยยยยยย!!! กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!!! กูต้องเป็นโรคประสาทหลอนแน่!!! ไอสัด!นี่กูเป็นอะไรวะ..เพราะเธอคนเดียว!ยัยบื้อ!! หัวกูจะระเบิดเพราะยัยบื้อนั่นคนเดียว!!”
ผมเอาหมอนมาปิดหน้าปิดตา แต่ทำเท่าไหร่มันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น..ผมตัดสินใจเด้งตัวจากที่นอน
แล้วหยิบผ้าขนหนูตรงดิ่งเข้าไปในห้องน้ำ..
อาบน้ำแม่ง!จะได้ออกจากหัวกูไปได้เร็วๆ!
………………ต่อ....................
ฉันนั่งเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างพลันริมฝีบปากฉันกลับกระตุกยิ้มบางๆ เมื่อกี้ฉันเผลอพูดความในใจที่หลากหลายกับพี่ป๊อป…พี่ป๊อปจะว่ายังไงบ้านะ…
แต่แล้วรอยยิ้มของฉันก็หุบฉับเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพี่ป๊อปเกลียดฉันมากมายขนาดไหน บางที…เขาอาจจะไม่มองหน้าแบะไม่ยอมคุยกับฉํนอีกเลยก็ได้..
“มองมาที่ฉันบ้างไม่ได้เลยรึไงนะ…”
…………………….ต่อ………………..
หลายวันต่อมาฉันก็สามารถมาโรงเรียนได้แต่คำพูดในวันนั้นที่ฉันพลั้งพลาดออกไป…มันยังวกวนอยู่ในหัวอยู่เลยยยยยย!!
“โอ้ยยยยยย!!! ให้ตาย!นี่ฉันพูดอะไรออกไปวะเนี่ย!!! งืออออ”
ฉันอยากเอาหัวซุกไว้กับถังขยะยังสงสารขยะเลย..เมื่อคืนฉันบอกความรู้สึกฉันไปหมดเลย.. แล้วแบบนี้พี่ป๊อปจะมองฉันเป็นคนยังไง งืออออ ฉันอยากจะบ้ากับความบื้อของตัวเองอย่างที่พี่ป๊อปว่า..ฉันมันบื้อๆๆๆๆ
“ฟางแกเป็นไรวะ..เอาหัวโขกกับโต๊ะอยู่นั่นล่ะ หัวช้ำกันพอดี” แก้วทักฉันเองค่ะ หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ที่ฉันไม่ได้มาโรงเรียน จนแผลของฉันเริ่มหายดีเลยกลับมาเรียนเหมือนเดิม
“แก..ฉันมันบื้อจริงๆด้วยว่ะ..ฉันมันทั้งโง่ ทั้งบื้อเลยอ่า” พูดแล้วก็อยากจะร้องไห้ออกมา
“เป็นไรวะเนี่ย..อารมณ์ไหนของแกวะ”
“แก้ว..ฉันบอกความรู้สึกกับพี่ป๊อปไปหมดแล้วอ่ะ..แล้วฉันจะทำไงดีวะ พี่เขาจะมองฉันหน้าด้านรึเปล่าอะแก้วววววว” นึกถึงวีรกรรมที่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน..แต่ฉันก็ยังเก็บมันมาขุดหลุมฝังตัวเอง
“จริงหรอ!แกบอกพี่ป๊อปหมดแล้วหรอ!อะไร..ยังไง! บอกฉันมานะฟาง!”
และฉันแทบจะมุดหน้าหลบอีกครั้ง เมื่อตอนนี้ข้างหลังของฉันคือกลุ่มแบล็คลิสที่กำลังมาทางฉัน..แน่นอนว่าพวกเขาไม่มาหาฉันแต่มาหาแก้วมันต่างหาก..
และฉันจะไม่ว่าอะไรเลยถ้าพี่ป๊อปไม่มาด้วย…
“แก้ว..ฉันขอตัวก่อนนะ” และเพียงเท่านั้นฉันก็ถูกแก้วคว้าแขนไว้ และพอฉันสะบัด แก้วก็จับแขนฉันไว้แน่น
ไม่นานกลุ่มพี่เขาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันกับแก้วจนได้..
ตึกตัก ตึกตัก
โอ้ยยย!!! ไอหัวใจบ้า!เต้นจนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบ้างรึไง อยากจะบอกว่าถึงใจมันไม่เหนื่อยแต่ฉันกำลังเหนื่อยใจตัวเอง..ฉันรีบก้มหน้าก้มตาอยู่อย่างนั้น
“แก้ว..ไปหาอะไรกินกันมั้ย” ฉันจำเสียงนั้นได้ มันเป็นเสียงพี่โทโมะ จะว่าไปสองคนนี้เขาคืนดีกันแล้วหรอ..ทว่า
ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้นแหะ..
“ฟาง..ไปจากที่ตรงนี้เถอะ!” อะไรของมัน -_-‘ เมื่อกี้ยังบอกให้ฉันอยู่แต่ตอนนี้บอกให้ฉันไป..จะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันจะบอกว่าเพื่อนฉันมันเล่นตัว =_=
“แก้ว!..คุยกันก่อนสิ” ไม่นานพี่โทโมะก็รั้งมือแก้วไว้..ฉันหันฉับไปหาพี่เขาแต่ทำไมสายตาฉันต้องไปหยุดอยู่ที่พี่ป๊อป
O_O !!
และฉันจะจ้องทำไมให้นาน..ฉันก็ต้องรีบหลุบตาต่ำแล้วเมื่อกี้ฉันก็เห็นว่าพี่เขาก็หลบตาฉันเหมือนกัน..ฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยจริงๆ!!!
“ปล่อยนะ!เมื่อวานยังพูดไม่รู้เรื่องหรอ!” แก้วตะคอกใส่พี่เขา…รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันก็คอยบอกกับตัวเองว่าจะอยู่ทำไม TT
“ฉันขอโทษนะแก้ว…ฉันขอโทษที่ฉันไม่รู้ว่าไอหมอนั่นมันเป็นแค่เพื่อนของแก้วจริงๆ..ก็จะให้พี่ทำไงก็พี่หึงเป็นเหมือนกันนะ..” จะผิดมั้ยถ้าฉันเขินแทนแก้วมัน >< เฮ้อออ ฉันล่ะเบื่อกับอาการปากแข็งของแก้วมันซะจริงๆค่ะ
“ไม่อายบ้างหรอไง..คนมองเต็มไปหมด” แก้วพูดขึ้นเองค่ะ ฉันรู้ว่ามันกำลังเขิน ก็แหม่..เป็นฉันฉันก็เขิน..แต่ดูเหมือนว่าบรรยากาศสุดโรแมนติกเมื่อครู่ก็ถูกดับไปเพราะมีเสียงหนึ่งขึ้น
“ไอสัดโมะ..มึงรีบดิ กูรีบนะเว้ย..ยิ่งไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆด้วย”
เสียงพี่ป๊อปดังขึ้นพร้อมใจของฉันที่เต้นขึ้นอย่างแรง..ไม่อยากอยู่ตรงนี้หมายถึงฉันรึเปล่า? พี่เขาคงเกลียดฉันเข้าไปอีกแน่เลย TT
“แก้วหายโกรธฉันแล้วใช่มั้ยครับ”
ฉันอยากจะตอบให้มากว่าแก้วมันหายเป็นชาติแล้ว แค่มันเล่นตัวก็เท่านั้น..
“ฉันก็ไม่ได้โกรธ..”
ดูมันพูดสิครัช…-_-
“ไปได้แล้วมั้งคุณมึง..กูแม่งโคตรอยากจะสำรอกกับคู่ของมึงจริงๆเลยว่ะ” และก็มีเสียงมารผจญเข้ามาแทรกบรรยากาศโรแมนติกของเพื่อนฉันอีกครั้ง
“แต่สู้คู่ของกูกับเฟย์ไม่ได้หรอกครับคุณโมะ..เพราะคู่กูกับเฟย์ชนะขาด” ส่วนอันนี้ฉันเป็นพยานให้ก็ได้ค่ะ คู่พี่เขื่อนหวานยิ่งกว่าน้ำหวานที่ใส่น้ำตาลเพิ่มเข้าไปอีก
หวานจนเลี่ยน…เจียนจะอ้วก
“เออๆกูไปก็ได้”
…….………………ต่อ……………………..
ทันทีที่ผมมองดูภาพไอเพื่อนสนิทกับแก้วจนจะสำรอกออกมาเป็นรอบที่สิบ ผมก็เข้าใจครับว่าไอโทโมะมันเป็นพวกคนปากหวานคิดอะไรก็พูด แต่แก้วนี่สิคงจะจัดอยู่ในพวกปากแข็งดูก็รู้ว่าแก้วก็มีใจให้เพื่อนผมแล้ว แต่ที่บอกว่าไม่ชอบอะไรต่างๆนาๆผมเองก็ไม่เข้าใจ
และด้วยความที่ผมไม่เข้าใจนี่แหละครับ สายตาผมก็หันไปหาเพื่อนสนิทของแก้ว แต่ผมก็เห็นยัยนั่นเอาแต่หลบหน้าผม หลบอยู่อย่างนั้นหรือเธอคิดว่าหน้าผมเหมือนที่รองตีนของเธอกันแน่..แล้วผมจะไปสนทำไม? มันไม่ใช่เรื่องของผมเสียหน่อย…
แต่ไอที่ผมไม่เข้าใจตัวเองก็คือผมจะหลบหน้ายัยนั่นทำไมเหมือนกัน…ดูเหมือนเมื่อคืนตอนผมอาบน้ำเสร็จความคิดและภาพหลอนมันคงจะออกจากหัวผมไม่หมด…
จนผมเดินออกมาถึงห้องเรียนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้..
“ไอป๊อป! มึงเป็นไรวะ กูเห็นมึงทำหน้าเหมือนตูดมึงอยู่นั่นแหละ..”
ดูปากมัน =_= สงสัยมันเลี้ยงหมาไว้ในปากเพิ่มล่ะมั้งครับ
“ไอเวร กูไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
“แล้วมึงไปทำอะไรฟาง กูเห็นเขาเอาแต่หลบหน้ามึงอ่ะ”
นั่นสิ…ผมไปทำอะไรยัยนั่น…
แล้วยัยนั่นก็ไม่รู้ทำอะไรกับผมเหมือนกันโว้ยยยยยยยยยยย
“กูเปล่า”
“อ้อหรอ งั้นสงสัยว่า….ฟางคงจะโกรธมึงมั้ง”
ว่าไงนะ…ยัยนั่นโกรธผมหรอ แล้วทำไมต้องโกรธผม ผมไม่ได้ทำอะไรผิดใช่รึเปล่า..แล้วโกรธเรื่องอะไร…แล้วผมควรต้องทำยังไง…ทำยังไง…
ไม่เห็นต้องสนใจเลยนี่หว่า! เออๆ ผมลืมนึกไป ว่ายัยนั่นจะโกรธหรือจะเกลียดผม…ก็เรื่องของเธอสินะ
“แล้วไงวะ”
“มึง…ไม่คิดจะไปง้อ..”
“มึงหุบปาก! กูจะไปง้อยัยนั่นเพื่ออะไร กูดีใจซะอีกถ้ายัยนั่นจะโกรธและเลิกชอบกูไปซะ”
ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ…แต่ผมกลับรู้สึกแปลกๆ อะไรบางอย่าง มันก็ควรจะดีแล้วไม่ใช่หรอที่ฟางจะเลิกชอบผม…ในเมื่อตัวผมเองก็ต้องการแบบนั้น
………………………….ต่อ………………………………
ฉันมองหน้าตัวเองในห้องน้ำแต่ยังรู้สึกผวาไม่หาย ตอนที่จินนี่กับพิมรุมกันตบฉัน..มันเจ็บจริงๆแฮะฉันก้มลงล้างหน้าล้างตาเพื่อบรรเทาความง่วงและความนึกคิด
เมื่อล้างหน้าเสร็จฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำแต่ภาพที่ฉันเห็นกลับทำให้ฉันชะงัก…
“พี่ป๊อปไปกินข้าวกันเถอะคะ” จินนี่กำลังคล้องแขนของพี่ป๊อปไว้แน่นแล้วทำท่าว่าจะลากพี่ป๊อปไปโรงอาหาร
“ฉันกินแล้ว จินนี่หิวก็ไปเถอะ”
“งือออ ไม่เอานะ จินนี่อยากกินกับพี่ป๊อป”
“อย่าเอาแต่ใจน่าจินนี่ ฉันบอกแล้วไงว่ากินแล้ว”
“ไม่เอาๆๆ จินนี่อยากกินพี่ป๊อป..”
ให้ตายสิ จินนี่พูดอะไรออกมากันเนี่ย ฉันได้ยินก็ถึงกับหน้าร้อนผ่าว…หน้าอายแทนชะมัด แต่ฉันก็ยังคงดูเหตุการณ์ต่อไป
“พูดอะไรของจินนี่น่ะฮะ -//[]//-” จากที่ฉันดูพี่ป๊อปก็ดูท่าทางจะเขินไม่น้อยเช่นกัน
งื้อออออ TOT ไม่นะ พี่ป๊อปอย่าหวั่นไหวกับจินนี่น้าาา ความจริงถ้าเกิดพี่ป๊อปจะหวั่นไหวก็คงไม่ผิดหรอกมั้ง…ในเมื่อพวกเขาเป็นแฟนกันไม่ใช่หรอ ใครๆต่างก็คิดกันแบบนั้น
“กะ…ก็..จินนี่หมายถึง…จินนี่อยากกินข้าวกับพี่ป๊อป” จินนี่หลุบตาลงต่ำ
เหอะ! เขินเป็นด้วยหรอจินนี่น่ะ..โว้ยยย ฉันอยากจะบ้าตายยยย และฉันก็คิดว่าฉันไม่สมควรที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไปเพราะดูเหมือนว่าฉันน่ะ..จะหิวแล้วล่ะ ^^
…………………………..ต่อ………………………………..
ผมยอมรับว่าสิ่งที่จินนี่พูดเมื่อก็มันทำให้ผมรู้สึกเขินแปลกๆ ใครจะไปคิดวะว่าผู้หญิงหน้าตาหวานๆแบบจินนี่จะพูดอะไรแบบนั้นน่ะ สายตาของผมพยายามเลี่ยงไปมองทางอื่นและผมกลับต้องสะดุดกับแผ่นหลังบางนั่นที่เหมือนกำลังเดินคอตกออกไป…
“พี่ป๊อปๆๆๆ ไปกินข้าวกินจินนี่เถอะนะ จินนี่หิวแล้วนะ” จินนี่ว่าพลางเขย่าแขนมแรงขึ้นๆ
“ไม่ล่ะ ฉันต้องขึ้นเรียนแล้ว” ผมแกะมือของจินนี่ออก แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมสายตาผมกลับไม่ยอมละจากแผ่นหลังของยัยนั่นที่เดินออกไปไกลๆเรื่อยๆ
“อะ…อ้าวพี่ป๊อป ตอนเย็นมารับจินนี่ด้วยนะ!!!”
ผมเดินออกมาแล้วแต่ก็ยังได้ยินสิ่งที่จินนี่พูดชัดเจน…แน่นอนว่าผมต้องไปรับไปส่งจินนี่ทุกเย็นตามที่คุณเธอบอกกับผม
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะเดินตามยัยนั่นมาทำไมและดูเหมือนยัยนั่นจะเดินเข้าโรงอาหารหลังตึกสาม…ซึ่งมันคือตึกของผม
ทำไมถึงมานั่งกินตรงนี้วะ…
เหนื่อยเหมือนกันนะบางที กำกกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ>< เม้นให้กันเยอะๆนร้าา รออยู่ๆ ถ้าเม้นล้นเปี่ยมเนื้อเรื่องก็จะล้นเปี่ยมเช่นเดียวกันงับ^^
รักเม้นนนนนนนนน
ชอบโหวตตตตตตต
ใครติดใจก็ติดตามม
อย่าลืมแนะนามมม
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ