บ่วงรักรอยอดีต

9.1

เขียนโดย Chapond

วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 13.11 น.

  45 ตอน
  448 วิจารณ์
  105.11K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557 12.18 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) 5 ในอดีต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“นมอุ่นๆได้แล้วค่ะคุณมีน”โบว์เดินเข้ามาพร้อมนมอุ่นนำมาเสิร์ฟให้กับมีนที่แปรงผมตรงกระจกห้อง
นอน
 
 
 
 
 
 
“นี่ กั้งกับเขื่อนนอนแล้วรึยัง”มีนถาม
 
 
 
 
“คุณเขื่อนไปนั่งสมาธิที่ห้องพระค่ะ ส่วนคุณกั้งเห็นดื่มอยู่ด้านล่างค่ะ”โบว์ตอบ
 
 
 
 
 
 
“หึ ออกไปได้แล้วป่ะเธอน่ะ”มีนยิ้มเยาะก่อนจะให้โบว์ออกไปจากห้อง แล้วก็หยิบสร้อยมุกเส้นหนึ่ง
มาสวมใส่
 
 
 
 
 
 
 
“เหลนของย่านี่สวยสะพรั่งเหมือนทวดสมัยนั้นไม่มีผิด”เขริกาปรากฏตัวด้านหลังมีนแล้วพูด
 
 
 
 
 
 
“พวกนั้นแต่งงานกันแล้วค่ะแล้วนี่ทวดจะให้มีนทำยังไงต่อไปดีคะ”มีนหันมาถามย่าทวด
 
 
 
 
 
“ปล่อยให้พวกมันได้มีความสุขกับความรักกันให้พอก่อน แล้วกลังจากนั้นเราค่อยจัดการกับพวกมัน
หึ ของที่แย่งที่ขโมยกันมาน่ะ มันอยู่ได้ไม่นานหรอก”เขริกาพูดแล้วเดินมาลูบผมเหลนสาวด้วย
ความรัก
 
 
 
 
 
 
 
“ใช่ค่ะ สิ่งที่พวกมันทำกับย่าทวดไว้ มีนก็จะไม่ยอมให้มันอยู่กันอย่างมีความสุขแบบนี้หรอกค่ะ
พวกมันต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกมันทำร้ายย่าทวด ทีนี้วิญญาณย่าทวดก็จะได้ไปสู่สุขคติสักที”มีนพูด
แล้วยิ้มกับเขริกา
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ว้าย”โบว์ที่เดินลงมาจากชั้นบนต้องร้องเมื่อถูกกั้งดึงเข้าไปในห้องน้ำ
 
 
 
 
 
“หึ  อย่ามาเล่นตัวไปหน่อยเลยทำอย่างกับไม่เคย”กั้งพูดแล้วก้มลงซุกไซร้ตามตัวของโบว์
 
 
 
 
 
“คุณกั้งไม่ควรจะทำแบบนี้อีกนะคะ มันไม่ดี”โบว์พูดแล้วพยายามขืนตัวจากกั้ง
 
 
 
 
 
 
“เธอเชื่อเรื่องชาติภพมั้ย ชาติที่แล้วเธอกับชั้นเราเจอกัน เธอกับพี่ทำร้ายชั้น ชาตินี้ชั้นจะขอชดใช้
เธอให้สาสม”กั้งพูดแล้วจัดการอุ้มโบว์ขึ้นไปบนห้องโดยไม่สนใจว่าโบว์จะดิ้นขัดขืนสักเท่าไหร่สวนกับเขื่อนที่เดินออกมาจากห้องพระพอดี
 
 
 
 
 
 
 
“อีกแล้วหรอ คราวนี้ก็เพลาๆมือละกันเพราะพรุ่งนี้โบว์ต้องตื่นเช้า”เขื่อนมองกั้งและโบว์แล้วส่ายหน้า
ก่อนที่กั้งจะลากโบว์เข้าไปในห้องนอนตัวเอง เหมือนกับทุกครั้ง โดยที่โบว์ไม่เต็มใจเลย เขื่อนมอง
ประตูห้องของกั้งที่ปิดไปแล้วถอนหายใจ กั้งบังเอิญเกิดมาแล้วจำอดีตชาติได้เลยแค้นโบว์ที่เคย
ทำตัวเองในชาติก่อน
 
 
 
 
 
 
 
“ทำไปเถอะ สุดท้ายก็หนีกันไม่พ้นอยู่ดี เพราะทุกอย่างถูกลิขิตไว้แล้ว”เขื่อนพูดนิ่งๆแล้วเดินกลับ
ห้องตัวเองไป
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“เดี๋ยวป๊อปไปทำงานก่อนนะฟาง เดี๋ยวเลยส่งเฟย์ที่บ้านแม่เลย แล้วเย็นนี้จะกลับมาทานข้าวเย็น
ฝีมือเมียคนนี้นะครับ”ป๊อปปี้พูดเมื่อเตรียมตัวจะออกไปทำงานก่อนที่จะก้มลงหอมแก้มฟางฟอดนึง
แล้วเดินไปที่รถ ป๊อปปี้กำลังจะยกมือไหว้ย่าจำปาที่กลับมาจากถวายสังฆทานที่วัดกับแก้ว แต่ย่า
จำปาเบือนหน้าหนี ชายหนุ่มก้มหน้านิดนึงแล้วเดินไปขึ้นรถ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ไปถวายสังฆทานที่วัดก็ไม่บอกฟาง ฟางจะได้ชวนป๊อปไปทำบุญก่อนไปทำงาน”ฟางพูดแล้วยิ้ม
ให้กับย่า
 
 
 
 
 
 
 
 
“วันนี้ไม่ทัน พรุ่งนี้ก็ได้นิ จะได้มีบุญช่วยกันหนุนในเรื่องความรัก”ย่าจำปาพูดแล้วเดินหนีไป
 
 
 
 
 
 
“แก้ว นี่คุณย่าเค้าโกรธฟางจริงๆหรอเรื่องแต่งงานกับป๊อป”ฟางไม่สบายใจรีบถามแก้ว
 
 
 
 
 
 
“คงไม่ใช่หรอกค่ะ คุณฟางอย่าคิดมากเลยนะคะ เอางี้เดี๋ยวคุณฟางก็ทำขนมหวานอย่างที่คุณฟาง
ชอบทำเอาไปให้ท่านด้านบนสิคะ”แก้วพูดพร้อมกับเสนอไอเดีย ก่อนจะขอตัวแยกไปทำงาน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“บัวลอยน้ำขิงของโปรดคุณย่า คุณฟางนี่รู้ใจคุณย่าจังเลยนะคะ”พิมพูดเมื่อเห็นฟางตักบัวลอยใส่
ชาม
 
 
 
 
 
 
 
“เรามีย่าแค่คนเดียวนี่นา ต้องใส่ใจกันหน่อย จริงสิ พิมปอกแอปเปิ้ลใส่กล่องแบบนี้เอาไว้รอพี่โท
โมะล่ะสิ”ฟางแซว
 
 
 
 
 
 
“ไม่หรอกค่ะ พอดีไปจ่ายตลาดแล้วบังเอิญเจอไม่มีอะไรนะคะ”พิมพูดด้วยความเขินก่อนจะรีบเอา
แอปเปิ้ลที่ปอกเสร็จใส่ตู้เย็น ฟางมองพิมที่ทำทุกอย่างให้โทโมะก็อดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะเดินเอาของ
หวานไปให้ย่าจำปาชั้นบน
 
 
 
 
 
 
 
 
แอ้ด
 
 
 
 
 
 
ทันทีที่ฟางเปิดประตูเข้าไปในห้อง ก้พบว่าคุณย่าจำปาเอนหลังพิงกับหมอนอยู่บนเตียงแล้วเปิด
แผ่นเสียงเพื่อฟังเพลงสุนทราภรณ์ ฟางยิ้มเมื่อเห็นภาพนั้น พลันสายตาฟางหันไปเห็นกล่องไม้ใบ
หนึ่งที่ย่าจำปาเปิดดูรูป รูปพวกนี้เป็นรูปขาวดำของสมัยก่อน ฟางดูรูปย่าจำปาสมัยเด็กๆก็ยิ้มก่อน
จะต้องตกใจที่เก็นรูปใบหนึ่ง ย่าจำปาในวัยเด็นถ่ายภาพกับผู้หญิงผมสั้นประมาณบ่า หน้าตายิ้ม
แย้มแจ่มใสหน้าเหมือนกับเธอไม่มีผิด
 
 
 
 
 
 
 
 
“อะไร ทำไมหน้าตาเหมือนกับชั้นเลย”ฟางอึ้งมองดูรูปใบนั้นด้วยความตกใจ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“นันท์ เดี๋ยวช่วยแม่ห่อขนมแล้ไปขายในตลาดนะลูก”เสียงของแม่บอกให้นันท์ที่นึ่งขนมอยู่ในครัว
รีบเดินมาช่วยแม่ห่อขนมต่อที่ชานบ้าน แม่ของนันท์มองลูกสาวที่ขยันขันแข็งช่วยงานบ้านทุกอย่าง
ก็อดปลื้มไม่ได้ สองแม่ลูกเดินหาบขนมไปขายที่ตลาดเป็นในยามเช้าทุกวันเป็นประจำ เพื่อหา
เลี้ยงชีพ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“อ้าวพ่อมีอะไรรึเปล่าจ้ะ”นันท์ถามผู้เป็นพ่อที่เดินข้ามาหาเธอกับแม่ที่ตลาด
 
 
 
 
 
 
“นังนันท์เดี๋ยวขายขนมเสร็จแล้วเอ็งไปเก็บข้าวเก็บของแล้วมากับข้านะ”พ่อของนันท์พูด
 
 
 
 
 
 
“เก็บข้าวของ ไปไหนกันจ้ะ พ่อจะพานันท์ไปไหน”นันท์ถามพ่อตัวเองทันที
 
 
 
 
 
 
“เอาเป็นว่าจายของเสร็จแล้วกันเดี๋ยวข้าจะบอกเอ็ง”พ่อนันท์พูดแล้วดึงแขนแม่ของนันท์ไปคุย แม่
ของนันท์มีท่าทางตกใจและหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด นันท์มองตามด้วยความสงสัยก่อนที่พ่อแม่ตัว
เองะเดินไปอีกทาง
 
 
 
 
 
 
 
 
“เอาบัวลอยไข่หวานถ้วยหนึ่งจ้ะ”เสียงของชายคนหนึ่งทักทำให้นันท์หันกลับมาสนใจลุกค้าแล้ว
ต้องยิ้มออกมาเมื่อมีดอกไม้ยื่นมาให้เธอ นันท์ยิ้มก่อนจะรับดอกไม้มาดม
 
 
 
 
 
 
 
“ดอกโบตั๋นกำลังออกดอกสวยเลย พี่กรเห็นแล้วนึกถึงน้องนันท์พี่กรเลยเอามาให้จ้ะ”กรพูดแล้วยิ้ม
ให้นันท์
 
 
 
 
 
 
 
“แล้วนี่พี่กรไม่ไปทำงานหรอคะ เดี๋ยวเสมียนไปทำงานที่ไปรษณีย์ไม่ทันจะแย่เอานะจ้ะ”นันท์พูด
 
 
 
 
 
“เอ้า ก็ก่อนไปทำงานพี่ก็ขอได้เห็นหน้าคนที่พี่รักก่อนสิจ้ะ นี่พี่จะซื้อบัวลอยไปเผื่อคนที่งานด้วยนะ
เนี่ย”กรพูด
 
 
 
 
 
 
 
“ทำเป็นซื้อขนมให้เค้า ที่แท้หาเรื่องอู้ล่ะสิ”นันท์รีบพูด
 
 
 
 
 
 
“ไม่ได้อู้นะ นี่ทำงานเก็บเงินจะครบแล้ว เตรียมตัวจะขอคนแถวนี้ได้แล้วนะ”กรพูดทำให้นันท์อึ้ง
 
 
 
 
 
 
 
“บ้าพี่กร นันท์ก็ไม่ได้รีบอะไรนี่จ้ะ”นันท์พูดแล้วบิดไปมาด้วยความเขิน
 
 
 
 
 
 
“แต่พี่รีบนิจ้ะ พี่น่ะอยากแต่งงานแล้วพานันท์ไปอยู่ที่บ้านด้วยใจจะขาดแล้ว”กรพูด
 
 
 
 
 
 
 
“นันท์เดี๋ยวขายบัวลอยหมดหม้อนี้ก็กลับบ้านเลยนะ พ่อเรารอที่บ้าน”แม่ของนันท์พูด กรรีบยกมือ
ไหว้แม่คนรักทันที
 
 
 
 
 
 
 
“แต่ขนมใส่ไส้ยังขายไม่หมดนี่จ้ะแม่”นันท์รีบแย้งแม่
 
 
 
 
 
 
 
“ขายไม่หมดก็แจกจ่ายคนในตลาดไป ไปได้แล้ว”แม่ของนันท์พูด ทำให้นันท์และกรมองหน้ากัน
ด้วยความไม่เข้าใจก่อนที่จะช่วยกันเอากระจาดขนมใส่ไส้ไปแจกจ่ายในตลาด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ไม่เข้าใจแม่จริงๆว่าทำไมถึงมีพิรุธแบบนี้”นันท์พูด
 
 
 
 
 
 
“สงสัยน้าแกคงจะรีบพานันท์ไปทำธุระมั้ง มาเดี๋ยวพี่ช่วยนันท์ถือนะ”ระหว่างข้ามถนนกรได้อาสา
ถือกระจาดแทนนันท์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ปี้นๆ
 
 
 
 
รถยุโรปคันหรูคันหนึ่งขับมาด้วยความเร็วกรและนันท์ตกใจรีบกระโดดหลบข้างทางทำให้แขนของ
นันท์ครูดเข้าที่พิ้น
 
 
 
 
 
 
 
“นี่ยืนเซ่อะไรของพวกแกห้ะ คนยิ่งรีบๆอยู่”ชายคนหนึ่งเดินลงรถมาแล้วรีบว่านันท์และกร
 
 
 
 
 
 
 
“นี่คุณพวกผมก็ข้ามถนนกันดีๆคุณเองต่างหากล่ะที่ขับรถมาด้วยความเร็วแบบนี้ นี่มันในตลาดนะ
ครับไม่ใช่อยู่บนท้องถนนใหญ่”กรโมโหไม่พอใจที่ชายคนนั้นว่านันท์ก็ว่า
 
 
 
 
 
 
 
“อ๋อ นี่แกกล้าว่าชั้นหรอ นี่ชั้นจะบอกอะไรให้นะว่าถ้าชั้นชนพวกแกมาแล้วไอ้กระจาดขนมถูกๆพวก
นี้มันหกใส่รถชั้นน่ะ พวกแกจะมีตังค์ค่าล้างให้ชั้นรึเปล่า หึ ก็อีกแค่ข้าราชการกระจอกๆ”ชายคนนั้น
ดูถูกกร
 
 
 
 
 
 
 
“นี่คุณดูถูกพวกผมแบบนี้ได้ยังไง/พี่กรอย่าจ้ะ”กรตรงจะไปเอาเรื่องแต่นันท์รีบรั้งกรไว้
 
 
 
 
 
 
“พี่ใหญ่คะ เร็วๆเถอะค่ะเดี๋ยวเราไปรับพี่เขมไม่ทัน จะเอาอะไรมากกับคนพวกนี้คะ ให้เงินไปก็
จบ”เสียงหวานของสาวน้อยคนหนึ่งลงรถมาแล้วพูด
 
 
 
 
 
“นั่นสินะ ก็แค่คนจนๆที่โวยวายอยากได้เงินพวกเรา”ภาณุว่าก็จะควักเงินยื่นให้
 
 
 
 
 
 
 
“ถึงพวกเราจะจนพวกเราก็ไม่ได้อยากได้เงินจากพวกคนรวยแต่ใจสกปรกอย่างพวกคุณ พี่กร ไป
กันเถอะจ้ะ”นันท์เดินไปปัดเงินที่ภาณุยื่นให้ทิ้งแล้วพูด ก่อนจะจ้องหน้าภาณุอย่างไม่กลัวแล้วเดิน
ไป
 
 
 
 
 
 
 
“หนอย จนแล้วยังทำตัวอวดเก่ง มันน่านัก”คุณเล็กพูดเมื่อเห็นท่าทีเย่อหยิ่งของนันท์
 
 
 
 
 
 
“เหอะ ทำเป็นอวดดีไปกันเถอะน้องเล็ก”ภาณุพูดก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ตายแล้วนี่มันอะไรกันทำไมนันท์ถึงมีสภาพแบบนี้ได้”พ่อของนันท์พูดเมื่อกรพานันท์ส่งที่บ้าน
 
 
 
 
 
 
“ผมผิดเองครับน้าที่พานันท์ไปเป็นอันตรายแบบนี้”กรรีบขอโทษพ่อนันท์
 
 
 
 
 
 
“ช่างเถอะจ้ะพี่กรไม่ต้องโทษตัวเอง นันท์เองก็ผิดเหมือนกันที่ไม่ดูทางทำให้โดนรถเฉี่ยวเอา
ได้”นันท์พูด
 
 
 
 
 
 
 
 
“อ่ะๆไม่เป็นไรมากก็ดีละรีบขึ้นไปอาบน้ำเก็บเสื้อผ้าสิ”พ่อของนันท์พูดแล้วดันลูกสาวเข้าไปในห้อง
ตัวเอง
 
 
 
 
 
“นี่น้าจะพานันท์ไปไหนหรอครับ”กรถามพ่อนันท์ด้วยความสงสัย
 
 
 
 
 
 
 
“ไม่ต้องมายุ่งหรอกน่า นี่มันเรื่องในครอบครัวชั้น นี่ก็สายมากล่ะไปทำงานสิ”พ่อของนันท์ไม่พูด
มากก็ไล่กรออกไป
 
 
 
 
 
 
 
“พ่อพานันท์มาที่นี่ทำไมกันล่ะจ้ะ”นันท์พูดแล้วมองไปที่บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง
 
 
 
 
 
 
 
 
“มาแล้วหรอนายศร นี่จะเอาเงินมาจ่ายชั้นแล้วล่ะสิ”พระยาพิชัยเดชาพูดแล้วเดินลงมาจากชั้นบน
พร้อมคุณหญิงแขไข
 
 
 
 
 
 
 
“ท่านครับผมจะมาขอผัดผ่อนได้มั้ยครับ เงินจำนวนตั้ง1พันบาทผมหาไม่ทัน”พ่อนันท์พูด
 
 
 
 
 
 
 
“อะไรกันนี่พ่อยืมเงินท่านพระยามาตั้ง1พันบาทเลยหรอจ้ะพ่อเอาเงินไปทำอะไรตั้งเยอะแยะ”นันท์
รีบถาม
 
 
 
 
 
 
“ข้าก็เอาไปลงทุนน่ะสิ ตั้งแต่ค่าเล่าเรียนที่ส่งแกไปเรียนวิชาชีพครูอะไรนั่นของแกไง”พ่อนันท์พูด
 
 
 
 
 
 
“แต่พ่อก็ส่งนันท์แค่ปีเดียวนี่จ้ะ นันท์เองก็ยังเรียนไม่จบหลักสูตรด้วย”นันท์แย้งพ่อ
 
 
 
 
 
 
“ก็ค่าใช่จ่ายที่เหลือก็เอามาให้แม่แกทำทุนขายขนมน่ะสิวะ”พ่อนันท์พูดด้วยความโมโห
 
 
 
 
 
 
“นี่บ้านของชั้นไม่ใช่ตลาดสดนะที่จะมานั่งฟังพวกเธอเถียงกันทั้งวัน”คุณหญิงแขไขพูด
 
 
 
 
 
 
 
“ถ้าไม่มีแล้วจะมาทำไม แล้วเอาลูกสาวมาอีกเนี่ยชั้นไม่ว่างพอที่จะมาฟังเรื่องพวกนี้นะ”พระยา
พิชัยเดชาพูด
 
 
 
 
 
 
 
“ท่านครับได้โปรดเถอะนะครับ ผมอยากจะผ่อนผัน ถ้าไม่มีเอานังนันท์ลูกผมมาเป็นทาสที่นี่ก็ได้
ครับ มาขัดดอกก่นก็ได้”พ่อของนันท์พูดแล้วดันนันท์ไปใกล้ๆคุณหญิงแขไขและพระยาพิชัยเดชา
 
 
 
 
 
 
 
“ไม่นะจ้ะพ่อ นี่มันเรื่องอะไรทำไมพ่อถึงพูดแบบนี้ นันท์ไม่ไปนะพ่อ”นันท์ตกใจแล้วจะหนี แต่พ่อ
นันท์รั้งไว้
 
 
 
 
 
 
 
“นังนันท์ ช่วยพ่อช่วยแม่แค่นี้ไม่ได้รึไงวะ”พ่อนันท์โวยวาย
 
 
 
 
 
 
 
 
ฉับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
 
 
 
 
พาทอดีตยังมีต่อจ้าาาา แต่ขอตัดไว้ก่อน
 
 
 
ตอนแรกว่าจะอัพให้รวดนึงในวันนี้ แต่ขอโทษน้า ไรเตอร์มีธุระเลยเพิ่งมาอัพอ่าาาา
 
 
 
เดี๋ยวพรุ่งนี้อัพอีกตอนนะๆ อย่าพึ่งหายไปๆ
 
 
 
 

 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา