เพียงเงา

9.5

เขียนโดย sunyo

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 02.35 น.

  51 ตอน
  435 วิจารณ์
  79.68K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 23.00 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

22)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

                         แสงตะวันสอดส่องผ่านม่านบาง ทำให้ร่างสูงที่เปลือยปล่าว รี่ตาขึ้น เขามองร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาทั้งคืน ก่อนจะเผยให้เห็นรอยยิ้มบางๆบนหล่อหล่เหลาของเขา ร่างสูงยื่นหน้ามาใกล้ร่างเล็กเรื่อยๆ ก่อนจะหอมแก้มเธออย่างอ่อนโยน เพราะไม่อยากจะรบกวนเวลานอนของเธอเท่าไหร่นัก  แต่เธอนะสิ ทำไมถึงได้รู้สึกตัวเร็วขนาดนี้   

 

 

                         ทันทีที่จมูกโด่งของคนข้างๆมาสัมผัสกับใบหน้าหวานของเธอ เธอหรี่ตาขึ้นแล้วผลิกตัวอย่างช้าๆ ไปมองคนที่โอบกอดเธออยู่  มือเรียวไต่จมูกโด่งช้าๆ ไล่จากสันจมูกมาจนถึงปลายจมูก แล้วขยี้มันอย่างหมั่นเคี้ยว  

 

 

 

               

               "  แกล้งแบบนี้ เดี๋ยวเจอบทลงโทษนะ  "  ชายหนุ่มพลิกตัวคร่อมร่างเล็กเอาไว้ 

 

 

 

 

                "  ไม่เอาแล้วนะ  แก้วจะไปเที่ยวว  "  แก้วอ้อนเหมือนลูกไก่ตัวน้อยๆที่อยู่ในกำมือของเขา  แววตาอ้อนๆบวกกับเสียงสุดอ้อนของเธอมันทำใหเขาต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของเธออย่างไม่รูตัว  โทโมะลุกขึ้นทันที ที่ได้ยินคำอ้อน

 

 

 

 

                "  ขอจูบก็ได้นะ  จูบหน่อยนะ  " สักนิดก็ยังดี โทโมะอ้อนกลับ  แต่แก้วลุกหนีจากเตียง  

 

 

 

 

                "  ขอไม่ให้  ก็คงต้องขโมย  "  โทโมะเดินตามแก้วที่กำลังจะเข้าห้องน้ำ จนทัน แล้วผลิกร่างเล็กให้หันมาประชันหน้ากับเขา ก่อนจะจุ๊ฟให้ 1 ที  ^^

 

 

 

 

                 "  ยังหวานเหมือนเดิม  ^^  " แล้วเขาก็ยิ้มกว้างให้กับเธอที่ยืนเก้อเขิลอยู่ตรงหน้า

 

 

 

 

                  "  จริงๆเลยนะ ผู้ชายคนนี้  "  แก้วบ่นๆ เพราะเขิล แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป  โทโมะนั่งรอแก้วอยู่บนเตียง

 

 

 

 

 

 

                                  บริษัทวีรวิทย์  ในเวลานี้ วีรวิทย์คุยกับลูกค้าอยู่ที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ได้อยู่ในอาคารของบริษัท หากแต่เป็นกวาง แฟนสาวของเขา ที่ยืนอาละวาดเลขาของวีรวิทย์อย่างไม่อายใคร

 

 

 

 

 

                      "  พูดย้ำอยู่นั้นแหละว่าคุยงานกับลูกค้า  ชั้ลรู้แล้วไม่ต้องย้ำมากๆ แต่ที่ชั้ลถาม คือ สถานที่ที่ไปคุยมันอยู่ตรงไหน  !!    "  กวางพูด 

 

 

 

 

                      "  เอ่อ  ท่านประธานไม่ได้บอกไว้นะค่ะ  "  เลขาพูด ก้มหน้านิ่ง

 

 

 

 

                       "  แกก็โทรไปถามสิ ว่าเค้าคุยงานกันอยู่ที่ไหน อย่าแกล้งโง่นักหน่อยเลย  "  กวางพูด  เลขาหน้าเสีย ไม่รู้จะพูดยังไง  เธอยื่นก้มหน้านิ่งเพราะจนปัญญาที่จะอธิบายให้กวางฟัง  อีกอย่างเธอก็ไม่สามารถที่จะบอกกวางได้ว่าวีรวิทย์อยู่ที่ไหน เพราะมันเป็นคำสั่งของวีรวิทย์

 

 

 

 

 

                        "  ตกลงไม่บอกใช่มั้ยย   ก็ดี  ชั้ลหาเองงง  ถอยไป !!!   "  กวางผลัก เลขาให้พ้นทาง ก่อนจะจ้ำฝีเท้าอย่างเร็วไปที่โต๊ะของเลขาเพื่อหาตารางงานของวีรวิทย์แต่ก็ไม่เจอ  เธอจึงเดินเข้าไปในห้องของวีรวิทย์  เธอหาอยู่นานสุดท้ายก็เจอ  

 

 

 

 

 

                          "  แล้วชั้ลจะกลับมาคิดบัญชีกับเธอ ! " กวางชี้หน้าด่าเลขาที่กล้าโกหกเธอ ก่อนจะรีบเดินไปที่รถ แล้วขับออกไปอย่างเร็ว  

 

 

 

 

 

                          "  โทรหาท่านประธานก่อนเร็ว  "  พนักงานที่ยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่เมื่อครู่ สั่งให้เลขารีบโทรหาวีรวิทย์

 

 

 

 

 

                         "  ท่านประธานไม่รับโทรศัพท์  ทำยังไงดี  "  เลขาร้อนใจ ทำอะไรไม่ถูก 

 

 

 

 

 

                        "  โทรต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะติด  ถ้าไม่ติดก็ไม่ต้องหยุด "  พนักงนานที่เหลือรอลุ้นให้วีรวิทย์รับสาย 

 

 

 

 

 

 

 

 

                              แก้ว  -  โทโมะ

 

 

 

 

 

                 "  จ๋าาาาาาาาาาาา  !!!!  "  โทโมะ ที่อยู่ในห้องน้ำกระโตนเสียงดัง  แก้วที่นั่งดูทีวีอยู่ รีบวิ่งไปหาอย่างเป็นห่วง 

 

 

 

 

 

                  "  เป็นอะไร  เปิดประตูสิ !   "  แก้วบิดประตูอย่างร้อนใจ  โทโมะ เปิดประตูออกมา ในสภาะที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว

 

 

 

 

                    "  เมื่อกี้ชั้ลได้ยินนายร้อง เป็นอะไรรึปล่าวว "  แก้วพูดหน้าตาตื่น  โทโมะมองหน้าแก้วนิ่ง

 

 

 

 

                    " พูดใหม่สิค่ะ  ที่รัก " โทโมะเดินเข้ามากระซิบข้างหู

 

 

 

 

 

                    "  เมื่อกี้เค้าได้ยินจ๋าร้อง  จ๋าเป็นอะไรรึปล่าวว  "  แก้วพูดเสียงหวาน โทโมะพอได้ยินก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ รีบคว้าร่างเล็กมาหอมแก้มทันที

 

 

 

 

                     "  เปียกหมดแล้วว  "  แก้วรีบผละตัวออก   "  ตกลงเมื่อกี้เป็นอะไร "

 

 

 

 

                      "  เมื่อกี้สบู่ตก  ช่วยก้มเก็บสบู่ให้หน่อยสิ " โทโมะพูด พร้อมส่งสายตาหื่นมาให้แก้ว  แก้วนี่ขนลุกทันที

 

 

 

 

 

                      "  ทะลึ่ง !! "  แก้วเดินกลับไปนั่งดูทีีเหมือนเดิม  โทโมะ ยิ้มบางๆก่อนจะเข้าไปอาบน้ำต่อ   ไม่นานก็กลับออกมา พร้อมกับกระป๋องแป้งง

 

 

 

 

 

                       "  จ๋าา  ทาแป้งที่แผ่นหลังให้เค้าหน่อสิ  "  โทโมะเดินโถงๆ ทำหน้าอ้อนๆ เหมือนเด็กต้องการของเล่น เขาเดินมานั่งข้างๆแก้ว แล้วยื่นกระป๋องแป้งให้  แก้วรับมา แล้วส่ายหัวไปมา

 

 

 

 

                        "  หันหลังมาสิ  "  แก้วพูด  โทโมะหันหลังให้  แก้วมองแผ่นหลังขาวๆของโทโมะ ที่มีรอยแดงๆ เหมือนรอยข่วน อยู่หลายแห่ง  เธอเอามือไปลูบรอยข่วนนั้น 

 

 

 

 

                         "  ไปโดนอะไรมา  "  แก้วพูดอย่างสงสัย 

 

 

 

 

                       "  เมื่อคืนโดนแม่เสือสาวข่วนเอานะ "  โทโมะพูด ก่อนจะขำในลำคอ  แก้วพอได้ยินก็นึกออก  ว่าแผลดังกล่าวเธอเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเองแหละ  แก้วนิ่งไปทันที เพราะรู้สึกเหมือตัวเองปล่อยไก่ ยังไงยังงั้น

 

 

 

 

 

                      "  ทาเบาๆหน่อยสิ  ตัวโยกหมดแล้วเนี่ยย  "  แก้วที่อายจนทำตัวไม่ถูก ทาแป้งที่หลัโทโมะรุนแรงไปหน่อย  โทโมะ ก็นะ พูดสองแง่สองง่าม  แล้ววเป็นไง  ก็ถูกหยิกหนะสิ 

 

 

 

 

 

                        "  ไปแต่งตัวได้แล้ว หิวข้าวแล้วเนี่ย  " แก้วพูดจบก็เดินเลี่ยงไปอีกมุมหนึ่งของห้อง

 

 

 

 

                     "  จ๋าา ของเค้า เวลาเขิลนี่โครตน่ารักเลยนะ  "  โทโมะมองแก้วตาเป็นมัน   แก้วไม่พูด หันหน้าไปทางอื่น แล้วนั่งยิ้มคนเดียว  

 

 

 

 

 

       

 

                                   ร้านอาหารหรูใจกลางเมือง กวาง จอดรถ แล้วรีบขึ้นมาที่ห้องอาหารทันที  เธอชะเง้อมองหาวีรวิทย์จนทั่วร้าน  วีรวิทย์ที่ได้รับโทรศัพท์จากเลขา ก็รีบคุยงานแล้วส่งลูกค้ากลับไปก่อน เขามาแอบมองกวางอยู่ด้านหลัง ซึ่งกวางเองก็ไม่รู้ตัว

 

 

 

 

 

                   "  อย่าให้ชั้ลเจอนะ  "  กวางพูด แล้วเดินเข้าไปในร้านอาหาร เธอเดินไปทุกซอกทุกมุมของร้าน แต่ก็ไม่เจอ เลยเดินออกมา  แต่ในระหว่างที่เดินออกมา วีรวิทย์ปรากฎตัวให้เธอเห้นอยู่ตรงหน้าร้าน  กวางรีบเดินออกไปหาวีรวิทย์ทันที  เธอเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าวีรวิทย์ แล้วมองซ้ายมองขวาเหมือนหาใครอยูู่

 

 

 

 

                     "  พี่วีมากับใครค่ะ  "  กวางพูดเสียงนิ่ง 

 

 

 

 

                     "  มาคนเดียว  "  วีรวิทย์โกหก 

 

 

 

 

                     "  จะมาคนเดียวได้ยังไง ก็....  "  กวางหลุดพูดออกไป วีรวิทย์มองอย่างจับผิด แต่ที่จริงก็รู้อยู่แล้วว่ากวางไปอาละวาดที่บริษัทมา 

 

 

 

 

                     "  กวางรู้หรือวาพี่อยู่ที่นี้  พี่นึกว่าเราบังเอิญเจอกันซะอีก "  วีรวิทย์พูด

 

 

 

 

                     "  อ่อ  ไม่รู้ค่ะ  เราก็แค่บังเอิญเจอกันเท่านั้นแหละค่ะ  ถ้าพี่มาคนเดียวไปทานข้าวกับกวางมั้ยค่ะ " กวางเปลี่ยนเรื่องทันที

 

 

 

 

                     "  ไม่หละ  พี่เพิ่งทานข้าวเสร็จ  งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ "  วีรวิทย์พูดจบก็จะเดนไป แต่กวางเรียกไว้ 

 

 

 

 

                      "  พี่จะไปไหน  ! "  กวางพูด  วีรวิทย์ไม่ตอบ  เดินต่อไป 

 

 

 

 

                      "  พีวี  กวางถามว่าจะไปไหน !!! "  กวางรีบเดินตามวีรวิทย์จนทัน แล้วรั้งแขนเขาให้หันมาคุยกับเธอ

 

 

 

 

                       "  พี่ว่าเราห่างกันสักพักดีกว่านะกวาง  กวางเริ่มก้าวก่ายงานของพี่มากเกินไปแล้ว  พี่บอกกวางแล้วใช่มั้ย ว่าพี่ไม่ชอบ  "  วีรวิทย์พูดเสียงเย็น แต่มันฟังดูรู้ว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริงๆ 

 

 

 

 

                        "  แล้วทำไมพี่ไม่รับโทรศัพท์กวาง  แค่พี่รับโทรศัพท์กวางทุกอย่างก็จบ  กวางแค่อยากรู้ว่าพี่อยู่ที่ไหน  ทำอะไรอยู่  "  กวางพูด  เธอกลัวเหลือเกินกับคำพูดเมื่อกี้  เธอกลัวว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริงๆ 

 

 

 

 

                        "  มันไม่จบแค่นั้นหรอกกวาง  เพราะถ้าพี่บอกกวางต้องตามมา แล้วทุกอย่างมันก็พัง  เพราะ  กวาง  "  วีรวิทย์พูด  กวางน้ำตาคลอ 

 

 

 

 

                        "   ถ้าพี่ไม่เปลี่ยนไป กวางคงไม่เป็นแบบนี้  "  กวางพูดทั้งน้ำตา

 

 

 

 

                         "  ที่พี่เปลี่ยนไป เพราะกวางไม่เคยเปลี่ยนเลย  กวางเอาแต่ใจตัวเอง  กวางไม่เคยฟังใคร  กวางแยกแยะไม่ออกว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ   ทำไมกวางไม่ทำตัวให้มันมีประโยชน์ ให้มันมีค่ากว่านี้ "  วีรวิทย์พูดอย่างใส่อารมณ์    กวางช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน น้ำตาเธอไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว

 

 

 

 

                          "  สำหรับพี่กวางไม่มีค่าเลยหรอ  "  กวางพูดทั้งน้ำตา

 

 

 

 

                          "  กวางทำให้ค่าของตัวเองลดลง  "  วีรวิทย์พูด 

 

 

 

 

                         "  ไม่ใช่ว่าค่าของกวางลดลงเพราะพี่รักกวางน้อยลงหรอกหรอ "  กวางพูด  วีรวิทย์นิงไป เพราะไม่แน่ใจตัวเองว่ารักกวางหรือปล่าว  

 

 

 

 

                         "  เอาเป็นว่าเราห่างกันสักพักแล้วกันนะกวาง  อย่าไปยุ่งกับที่ทำงานของพี่อีก  "  วีรวิทย์พูดจบก็เดินจากไป  กวางไร้แรงจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่  เธอร้องไห้อย่างไม่อายใคร กวางมองวีรวิทย์ที่เดินจากไปจนสุดสายตา  

 

 

 

 

 

 

 

                           แก้ว -  โทโมะ 

 

 

 

 

                   "  จ๋าา  อยากกินข้าวต้มปลากระพง  "  โทโมะเรียกแก้วที่เดินนำหน้าตัวเองอยู่  คนข้างๆ ที่ยืนรอซื้อข้าวต้มอยู่หน้าร้าน หันมามองโทโมะที่พูดเหมือนเด็ก  ก็พากันแซวใหญ่

 

 

 

 

                  "  นายยย  อย่าเรียกแบบนี้  อายเค้าาา  "  แก้วเดินมาหาโทโมะ ก่อนจะกระซิบเบาๆ เพราะเริ่มเขิลอายกับสายตาชาวบ้านที่เอาแต่จ้องมอง 

 

 

 

 

 

                 "  ก็แล้วทำไมหละ  ก็เค้าชอบเรียกเธอว่า จ๋าาาา  "  โทโมะพูดเสียงดัง  ผู้คนต่างหันมามอแล้วยิ้ม ราวกับอิจฉา 

 

 

 

 

                 "  นายยยย  หยุดได้แล้ว  ชั้ลอายเค้าาา  "   แก้วพูด  โทโมะ คว้าเอวบางมาชิดตัว

 

 

 

 

                  "  ไอคำว่านายกับชั้ล เนี่ย พอได้ละ  เปลี่ยนเป็นจ๋าาา  กับเค้าา  ได้มั้ยย "  โทโมะพูด  แก้วฮึกฮักไม่ยอมตอบ  แต่เขากับดันแผ่นหลังให้ชิดร่างเขามากขึ้นเรื่อยๆ  บอกับสายตาผู้คนที่เอาแต่จ้องมอง แล้วซุบซิบนินทา  เธอเองก็จำต้องยอม

 

 

 

 

                   "  จ๋าา  ปล่อย เค้าา  "  แก้วกระเดี๊ยดปาก  แค่ก็จำต้องพูด ชีวิตนี้ก็ไม่เคยพูดหวานกับเค้าเลย    โทโมะได้ยิน ก็ปล่อยทันที  แล้วเปลี่ยนป็นจับมือแก้ว พาเข้าไปในร้านข้วต้ม  ผู้คนยังคงมองเห็นสายตาเดียวกับ  แก้วเดินก้มหน้าตามหลังโทโมะ  ผิดกับโทโมะที่ยืนอก เดินไปอย่างสง่า พร้อมกับป่าวประกาศึงความสัมพันของเค้าและเธอ

 

 

 

 

 

                   "  เธอชื่อแก้วครับ  เป็นแฟนของผม  แก้วค่อยข้างขี้อายนะครับ แต่แก้วน่ารักมากเลยนะ  ผมรักแก้วมากครับ  "  โทโมะพูดเมื่อเห็นคนกลุ่มนั้นให้ความสนใจ  คนกลุ่มนั้นต่างพากันยิ้มและหัวเราะในความกล้าของเขา  ผิดกับแก้วที่เขิลอายจนแทบจะมุดหน้าเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกับแผ่นหลังกว้างของโทโมะ  

 

 

 

 

                    "  นาย  เอ่ยย  จ๋าจะไปบอกเค้าทำไม ว่าเราเป็นอะไรกัน "  แก้วพูด เมื่อมาถึงโต๊ะอาหาร

 

 

 

 

                     "  ก็เค้าภูมิใจของเค้าหนิ  ที่มีจ๋าเป็นแฟน "  โทโมะพูด  แก้วยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู

 

 

 

 

                    "  ไม่ต้องบอกกได้  เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะหมั่นไส้เอา  "  แก้วพูด 

 

 

 

 

                     "  บอกแหละดีแล้ว  คนอื่นจะได้รู้ ว่าจ๋าของเค้าหนะ มีเจ้าของแล้วว  "  โทโมะพูด 

 

 

 

 

                     "  รีบอะไรดีครับ  "  พนักงานมาขัดจังหวะ  ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา

 

 

 

 

                       "  เอาข้าวต้มปลากระพง  2 ที่ครับ  "  โทโมะพูด  พนังานพยักหน้ารับ แล้วเดินออกไป 

 

 

 

 

                      "  จ๋าาา  จ๋าต้องอยู่กับเค้าแบบนี้ตลอดไปนะ "  โทโมะยังอ้อนไม่เลิก 

 

 

 

 

                      "  รับน้ำอะไรดีครับ  "  พนักงานคนเดิมเดินกลับมา  โทโมะมองหน้าไม่พอใจ

 

 

 

 

                       "  น้ำเปล่า !! " โทโมะพูด  พนักงานพยักหน้ารับ

 

 

 

 

                        "  รับปากก่อนสิ  นะ  อยู่กับเค้านะ  "  โทโมะคว้ามือแก้วมากุมไว้  แก้วยิ้ม แต่ยังไม่ตอบ

 

 

 

                        "  รับอะไรเพิ่มอีกไม่ครับ  "  พนักงานคนเดิม เดินกลับมาอีกครั้ง  โทโมะเหลือกตาใส่

 

 

 

 

                       "  ไม่แล้วโว้ยยยยยย  "  โทโมะพูด  พนักงานเดินกลับไป 

 

 

 

 

                       "  แก้ว รับปากนะ ว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป "  โทโมะพูดจริงจรัง  สีหน้าแววตาเค้าดูจริงจังมากขึ้น

 

 

 

 

                         "  ชั้ลจะรักนายคนเดียวจนตาย "  แก้วเองก็ตอบอย่างจริงจังเหมือนกัน  เธอไม่กล้ารับปากว่าจะอยู่กับเขาได้ตลอดไปหรือเปล่า  เพราะภารกิจที่มีมันยังไม่เสร็จสิ้นไป  เธออาจจะต้องแยกจากเขาไป  แต่ที่แน่นอน คือ เธอจะรักเค้าแค่คนเดียว ตลอดไป 

 

 

 

                         "  ชั้ลก็จะรักเธอคนเดียว  ตลอดไป  "  โทโมะพูด แววตาเขาดูจริงจังกับคำพูดนี้มาก  มือหนากุมมือเล็กแล้วจับมันขึ้นมาหมายจะจูบ  แต่.....

 

 

 

 

 

 

                           "  ข้าวต้มได้แล้วครับบ   "  ถ้วยข้าวต้มถูกวางลงอยางเร็ว  พนักงานคนเดิมมีใบหน้าที่ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้สบตากับโทโมะ  ที่ตอนนี้แทบจะกระโดดถีบให้ลอยหายไปจากโลก 

 

 

 

 

                           "  หมดอารมณ์ซึ้งเลย  "  โทโมะพูดอย่างเสียอารมณ์ ก่อนจะคว้าถ้วยข้าวต้มมากิน  แล้วมองโทโมะที่นั่งกินข้วต้ม คิ้มขมวดก็อดขำไม่ได้ 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา