Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

9.7

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.

  45 ตอน
  590 วิจารณ์
  94.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก




 
Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน
 
ตอนที่๒
 
สายตาของภาณุยังคงจับจ้องรูปภาพที่อยู่ในมืออย่างเลื่อนลอย ให้ตายซะยังจะดีกว่า นี่มันเรื่องบ้าอะไรที่เขาต้องถูกจับคลุมถุงชน เรื่องบ้าบอคอแตกนี่มันเกิดขึ้นกับเขาได้อย่างไร มันหมดยุคสมัยกาลกิณีนั่นไปนานแล้วโว้ย!
 
ปัง!
 
ภัทรดนัยและวิศวะ รวมถึงนักบินรุ่นน้องต่างตกใจกันยกโขยงเมื่อคุณชายจอมเย็นชาทุบโต๊ะไม้สักเสียเสียงดัง ในมือแกร่งนั้นขยำรูปภาพจนเขาเองก็นึกไม่ออกว่ามันจะกลายเป็นผุยผงไปแล้วหรือยัง แต่ที่แน่ๆคือหากดวงตาเรียวคมคู่นั้นเป็นดั่งไฟโลกันตร์ ตอนนี้เขาและเพื่อนอาจจะกลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว
 
“เห้ยไอ้เขื่อน มึงไปดูไอ้ป๊อปดิ”เขาพุ่งเข้าไปหาภาณุโดยไม่ทันตั้งตัวเมื่อเพื่อนรักและรุ่นน้องพร้อมใจกันผลัก หรือจะเรียกให้ถูกคือถีบเขาเข้าไปหาภาณุ ที่ใครดูก็รู้ว่ากำลังอารมณ์ร้อนขนาดไหน..
 
ภัทรดนัยกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะถอยเก้าอี้และนั่งลงข้างๆภาณุ พยายามทำใจดีสู้เสือเข้าไว้ เพราะเขานั้นรู้ดีว่าแม้ภาณุจะอารมณ์ร้อนหรืออารมณ์ไม่ดีขนาดไหนก็ไม่มีวันลงมือทำร้ายใครโดยไม่มีเหตุผลแน่ๆ
 
“ใจเย็นๆน่าไอ้ป๊อป มีอะไรปรึกษาพวกกูได้นะเว้ย”เขาหันไปพยักเพยิดกับวิศวะและรุ่นน้องที่เดินเข้ามาล้อมตัวภาณุไว้
 
“กูอยากหาเมีย!”
 
“ฮะ!!!!!!”
 
เพียงคำพูดเดียวของภาณุก็ทำเอาพวกพ้องถึงกับตกใจกันไปตามๆกัน เพราะนั่นมันผิดกับวิสัยของหนุ่มนักบินจอมเย็นชาอย่างมากถึงมากที่สุด ภาณุไม่ใช่คนแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หากเขาไม่อยากแต่งงานจริงๆ สิ่งที่พวกเขาคิดว่าภาณุจะทำนั่นก็คือการเจรจากับคุณพรพิมล
 
“มึง..มึงพูดจริง?”
 
วิศวะเอ่ยถามทันทีที่ตั้งสติได้ และคำตอบต่อมาก็ทำให้เขารู้ทันทีว่าภาณุนั้นแน่วแน่ขนาดไหน
 
“ผู้หญิงสักคนที่พร้อมจะเป็นแม่ของลูกกูได้ หลังจากนั้นเราจะหย่าหรืออยู่ด้วยกันก็อีกเรื่องหนึ่ง กูไม่สนอะไรอีกแล้วว่ะ กูไม่อยากแต่งงานกับยายเด็กนั่น ไม่อยากให้แม่มาบงการชีวิตกูอีก”
 
“เห้ย ใจเย็นๆดิวะ กูว่ามีทางอื่นที่ดีกว่านี้นะ”เขาเอ่ยกับเพื่อนอย่างให้กำลังใจ
 
“ไม่มีทางแล้วไอ้โมะ แม่กูจัดการตัดชุด เลือกของชำร่วยเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็แค่รอฤกษ์เท่านั้น กูไม่รู้จะทำยังไงแล้วว่ะ”เขากุมขมับอย่างเครียดขึงไม่ต่างไปจากเพื่อนคนอื่นๆ ให้ตายเถอะ นี่สามารถถึงขนาดตัดชุดโดยไม่ต้องพาภาณุไปวัดตัว จัดการทุกอย่างได้อย่างลงตัว แค่ลากตัวเพื่อนเขาไปเข้าพิธีให้จบๆคงไม่เกินความสามารถคุณพรพิมลแน่ๆ
 
“อีกแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น กูต้องทำอะไรสักอย่าง”ทุกคนถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองไปทางไหนก็เจอแต่ทางตัน ไอ้ทางที่พอจะออกได้ก็ดันมีขวากหนามมากมาย...
 
“เห้ย อย่าเครียดดิวะ เดี๋ยวกูออกไปซื้ออะไรมากินดีกว่า กินแก้เครียดไง อย่าคิดมากถึงวันนั้นจริงๆ กูนี่แหละจะอุ้มมึงหนีงานแต่งเอง ฮ่าๆ”
 
ภัทรดนัยเอ่ยแก้เครียดเรียกเสียงหัวเราะอันขมขื่นจากทุกคนได้เป็นอย่างดี แม้จะหัวเราะออกไปอย่างนั้นแต่ในหัวของภาณุกลับครุ่นคิดถึงวิธีเอาตัวรอดจากการจับคลุมถุงชนครั้งนี้อยู่ดี...คิดไม่ตกเลยจริงๆ ทำไมชีวิตภาณุมันถึงได้ยุ่งยากอย่างนี้วะ!
 
ภัทรดนัยขับรถออกจากกองบินเพื่ออกไปหาอาหารกลางวันสำหรับเพื่อนที่เข้าเวรวันนี้ ดวงตาของเขาจ้องรถคันงามที่ขับสวนเข้ามาอย่างนึกคุ้นเคย เหมือนเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง...แล้ว....
 
“ตายห่_”เขาหักเลี้ยวรถกลับแทบไม่ทันเมื่อนึกขึ้นได้ว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถของคุณพรพิมล นี่ลงทุนมาอุ้มภาณุใส่ถุงถึงในกองบินเลยหรอวะ แล้วอย่างนี้เพื่อนเขามันจะหนีไปไหนรอด เขาเหยียบคับเร่งแซงรถคันหน้าอย่างเสียมารยาท มือควานหาโทรศัพท์เพื่อโทรหาภาณุวุ่นวาย
 
“รับสิวะ”
 
“ว่าไง”
 
“ฉิ_หายแล้วไอ้ป๊อป แม่มึงมา หนีเร็วๆ”เขาได้ยินคำอุทานจากเพื่อนชุดใหญ่ ก่อนมันจะวางสายไป เขาไม่รอช้ารีบจอดรถทันทีเมื่อเห็นว่าได้มาถึงลานจอดรถแล้ว เขาวิ่งเร็วๆไปหาคุณพรพิมลที่กำลังลงจากรถ
 
“สวัสดีครับคุณแม่ มาหาไอ้ป๊อปหรอครับ”เขาแกล้งทำไขสือ ไม่รู้ว่าว่าคุณพรพิมลมาที่นี่ด้วยเหตุผลใด
 
“จ้ะ แม่ขอตัวก่อนนะ”เขารีบสวมกอดร่างท้วมของคุณพรพิมลเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเบี่ยงตัวหลบ
 
“จะรีบไปไหนล่ะครับ ผมไม่เจอแม่ตั้งนาน ขอกอดหน่อยนะ”
 
“จ้ะๆ”แม้คุณพรพิมลจะตอบกลับมาและสวมกอดเขากลับมา แต่เขาก็รู้ดีว่าท่านคงจะกำลังมองหาภาณุอยู่เป็นแน่
 
“ทำไมคุณแม่ดูรีบจังเลยครับ ไอ้ป๊อปมันก็อยู่ในกองบินนั่นแหละครับ เออว่าแต่คุณแม่มาหาไอ้ป๊อปมีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าครับ”เขาแกล้งถามเพื่อถ่วงเวลา สายตายังคอยสอดส่องหาร่างของเพื่อนที่ยังไม่ออกมาเสียที พลางสบถในใจที่ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามแผนของคุณพรพิมล
 
“ไม่มีอะไรมากหรอกลูก แต่แม่ขอตัวก่อนนะ”คุณพรพิมลผละเขาออกจากอ้อมกอดก่อนจะเดินแกมวิ่งไปที่หมาย เขากุมขมับแต่ยังคอยถ่วงเวลามารดาของภาณุอย่างไม่ยอมแพ้...
 
‘แล้วแต่เวรแต่กรรมมึงละกันไอ้ป๊อป...กูช่วยมึงได้แค่นี้แหละ’
 
เสี้ยวใบหน้าคมเข้มโผล่ออกมาจากกำแพง ลอบมองร่างท้วมของมารดาที่มีร่างสูงของภัทรดนัยคอยเกาะแกะอยู่ไม่ห่าง อดที่จะอมยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นไอ้เพื่อนตัวแสบคอยถ่วงเวลาด้วยสารพัดวิธีอย่างที่คนฉลาดอย่างมารดาต้องจับพิรุธได้แน่ๆ...แต่จะอะไรก็ช่าง ขอเพียงแค่วันนี้เขาหนีไปจากเงื้อมมือมารดาได้เป็นพอ
 
เท้าแกร่งเดินย่องออกมาจากที่ซ้อนเมื่อลับแผ่นหลังของมารดาและภัทรดนัย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นวิ่งเร็วไปยังรถยนต์คันโปรดที่จอดอยู่ไม่ไกล เขาปลดล็อกรถคันโปรด ตั้งใจจะปิดประตูลงให้เร็วที่สุด แต่เหมือนมันกำลังถูกยื้อไว้ไม่ให้ปิดลง
 
“!!!!”
 
สายลมอ่อนๆพัดเอาความชุ่มชื้นหลังฝนตกมาปะทะผิวกายร่างบอบบางที่นั่งอยู่ระเบียงบ้านหลังเล็ก ในมือบางยังจับดินสอร่างภาพสวนหย่อมลงบนกระดาษปอนด์ด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
 
“น้ำลูก...เมื่อใดจะแล้ว(เสร็จ)หืม”เธอหันไปยกแก้วน้ำที่มารดายกมาให้ขึ้นดื่ม ก่อนจะตอบ
 
“ใกล้แล้วเจ้า แต่น้องว่ามันยังบ่ค่อยดี แม่จ้วยผ่อ(ดู)หื้อ(ให้)น้องหน่อยก่ะว่าตรงไหนมันยังดูแปลกๆอยู่”เธอยืนภาพที่ร่างไว้ในมารดาดู ท่านรับไปดูก่อนจะยิ้มบางๆ
 
“แม่ก่อว่าดีแล้วหนา แต่ดอกไม้ตี้น้องจะเอาไปลงหื้อเปิ้นมีแต่ดอกไม้กลิ่นหอมแรงๆ แม่ว่าเมื่อคืนมาเปิ้นจะเป๋นลมกันหมดบ้านแน่ๆเลย”เธอหัวเราะ ก่อนจะพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะเธอเอาแต่คิดถึงความสวยของดอกไม้เมื่อมันเบ่งบานจนลืมนึกเรื่องกลิ่นหอมที่คงแรงเกินไปเสียจนสนิท
 
“จะอั้นน้องเปลี่ยนตรงนี้เป็นดอกเข็มแทนดีก่อเจ้า สวยบ่มีกลิ่นแรง”
 
“ดอกเข็มก่อสวยดี เจ้าของบ้านเปิ้นชอบสีขาวก๊ะลูก แม่เห็นน้องลงแต่ดอกไม้สีขาวทั้งนั้น”
 
“เจ้า เปิ้นชอบสีขาว”เธอพยักหน้ารับก่อนจะลงมือแก้แบบแปลน
 
“น้องจะไปลำปางวันไหน”
 
“วันฮือเจ้า(มะรืน)”เธอตอบมารดาก่อนจะหันมายิ้มให้
 
“แม่อยากไปแอ่วก่อ น้องเสร็จงานแล้วจะปาแอ่ว”
 
“บ่เอาหรอก ไกล๋บ้านแม่บ่เกย(คุ้นเคย) ขออยู่เฝ้าบ้านดีกว่า มีแตงมันอยู่ตวย(ด้วย)บ่เหงาหรอก นั่งฟังมันอู้ไปๆมาๆก็คงหลับไปคนเดียว(เอง) ฮ่าๆ”เธอหัวเราะก่อนจะนึกถึงแตงกวาลูกสาวน้าพรคนงานของเธอที่ช่างพูดช่างเจรจา
 
“จะอั้น(ถ้านั้น)น้องจะรีบทำงาน จะได้รีบกลับมาเอาใจ๋แม่”เธอหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่ก่อนจะสวมกอดท่านอย่างอบอุ่นใจ จะมีอ้อมกอดของใครอบอุ่นเท่าของมารดาอีก แม้ว่านี่จะไม่ใช่การไปทำงานต่างถิ่นครั้งแรก แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงท่าน เธอไม่สบายใจทุกครั้งที่ต้องทิ้งมารดาให้อยู่บ้านเพียงคนเดียว งานครั้งนี้เธอต้องเร่งรีบในการทำงานให้งานเสร็จเร็วที่สุด
 
หากแต่หญิงสาวนั้นไม่อาจรู้เลยว่าการไปทำงานครั้งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นจะไม่เป็นไปตามที่เธอคาดไว้ อาจจะมีเรื่องปวดหัวมากมายให้เธอขบคิดจนไม่เป็นอันทำงานเลยด้วยซ้ำ
 
เมื่อโชคชะตาได้ถูกฟ้าลิขิตไว้แล้ว ยากที่ใครจะปฏิเสธได้ เมื่อผู้หญิงได้ถูกสร้างให้เกิดมาเพื่อผู้ชายสักคน และในเมื่อถึงเวลาที่ทั้งสองจะต้องใช้ชีวิตเป็นคู่ของกันและกัน จึงไม่มีใครปฏิเสธโชคชะตาและหัวใจ...ที่กำลังเคลื่อนเข้าหากันอย่างช้าๆ หัวใจสองดวงกำลังจะพบกัน รักกัน และอยู่เคียงคู่กันไปตลอดไป...
 
 
                                                                ...สายลมแห่งตะวัน
 
 
 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา