(FANFIC) THE HUNGER GAME EVOLUTION
1.7
เขียนโดย JOMTUP
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.49 น.
6 chapter
0 วิจารณ์
10.82K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2557 08.20 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) เปิดตัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “โอ๊ยยยย” ฉันร้องลั่นตอนที่เวเนียดึงแถบผ้าสีขาวและขนหย่อมสุดท้ายของฉันติดไปด้วย “เสร็จแล้วใช่ไหมค่ะ” ฉันถามหวังว่าคงเป็นหย่อมสุดท้ายของฉันจริงๆ “เสร็จแล้วล่ะ!” เธอพูดเสียงแหลมสำเนียงงี่เงาตามแบบแคปิตอลแต่ฉันก็เกลียดพวกเขาไม่ลงอยู่ดี ก่อนจะพยุงฉันนั่งแล้วพาไปแช่อ่างน้ำกลิ่นหอมลื่นๆตอนแรกที่แช่ลงไปผิวปวดแสบปวดร้อนไปหมดจากนั้นทิ้งไว้แต่ความเย็นสบาย จากนั้นพวกเขาก็อาบน้ำให้ฉันแล้วพาฉันไปยืนหน้ากระจกแล้วค่อยๆถอดขนที่เหลืออยู่ตามตัว
“เยี่ยม เธอดูเฟอร์เฟกแล้ว” อ๊อตตาเวียพูดแล้วปรบมือกับฟลาเวียสที่ลูบผมฉันเบาๆ “ดีนะที่เธอไม่มีขนใต้วงแขน อีกอย่างผมเธอลื่นอย่างกับสายไหมแนะ เราเลยไม่ได้จัดการอะไรมาก” ฟลาเวียสพูดพล่ามแล้วเดินสำรวจรอบตัวฉัน
“ตามซินน่าเถอะ เขาต้องประทับใจเธอแน่” ทั้งสามคนพูดแล้วเดินออกไปทิ้งฉันไว้ตามลำพังใจฉันอยากจะหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าแต่ซินน่าจะต้องสั่งถอดออกแน่ฉันเลยยกมือขึ้นกอดอกไว้ตอนประตูเปิดออก เป็นซินน่าเดินเข้ามาเขาตัดทรงผมสั้นเกือบติดศรีษะ ทาอายไลน์เนอร์สีทองบางๆใต้ตาเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขาตัวเป็นๆไม่ใช่มองผ่านทางทีวีเขาดูผอมกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก
“หวัดดี แวนด้า ฉันซินน่า” เขาพูดแล้วยิ้มให้ฉันเล็กน้อย “ขอเวลาครู่เดียวนะ” ซินน่าเดินวัดตัวฉันบันทึกทุกตารางนิ้วด้วยสายตาก่อนจะหยิบเสื้อคลุมมาสวมให้ฉัน
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มอย่างเป็นมิตร “หิวหรือยังล่ะ” ซินน่าถาม ฉันส่ายหัวเป็นเชิงปฏิเสธ
“ยังค่ะฉันเพิ่งกินจนจุกมาบนรถไฟ” ซินน่าพยักหน้าแล้วพาฉันนั่งที่โซฟา
“ว่าแต่ ปีนี้คุณออกแบบชุดยังไงค่ะ” ฉันถามเพราะฉันกับปีเตอร์ต้องแต่งตัวจากสิ่งที่เกี่ยวกับถ่านหิน “เดี๋ยวก็รู้” ซินน่ายิ้มแบบมีเล่ห์นัย แต่บอกตรงๆว่ารอยยิ้มนั้นเขาแอบทำให้ฉันกลัวเหมือนกัน
ทีมแต่งตัวมาถึงตอนที่ได้เวลาแต่งตัวสำหรับพิธีเปิด เวเนียจัดการสางผมฉันและพ่นสเปรย์ใส่และค่อยถักเปียผมฉัน อ๊อตาเวียจัดการขัดเล็บและทางสี ส่วนฟลาเวียแต่งหน้าให้ฉันด้วยไฮไลต์สีขาว ดำ ตอนที่แต่งหน้าและตัวเสร็จฉันแทบจำตัวเองในกระจกไม่ได้ซินน่าถือชุดมาให้แล้วให้ทีมแต่งตัวช่วยกันสวมให้ฉันเป็นชุดเดรสสีดำสลับลายขาวด้านหลังตกแต่งด้วยโครงเหล็กออกมาคล้ายปีกนกเมื่อแต่งตัวเสร็จฉันก็ตระหนักว่าตอนนี้ตัวเองดูน่าเกรงขามเพียงใด ซินน่าเดินมาแล้วกดปุ่มที่อยู่ด้านหลังปีกและจัดห้องให้มืดสนิทสักครู่ชุดฉันค่อยๆเรืองแสงก่อนที่เปลวไฟจะลุกพรึ่บทั่วร่าง ทีมแต่งตัวพากันกรี๊ด ฉันมองตัวเองในกระจกแล้วก็ต้องตะลึง ชุดเดรสสีดำมีเปลวไฟวนไปมาทั่วทั้งชุดโครงเหล็กด้านหลังมีไฟเป็รประกายวูบไหวขึ้นมาเป็นรูปปีกนกและยิ่งกว่านั้นตรงหน้าอกของฉันที่ฉันเข้าใจว่ามันคือเครื่องประดับกับมีเปลวไฟวูบไหวและทิ้งสะเก็ดเปลวงประกายเป็นรูป นกม็อกกิ้งเจย์ !
“สวยมากซินน่า เหลือเชื่อจริงๆ” ฉันพูดด้วยความประหลาดใจและมหัศจรรย์ใจ
“ฉันกับพอร์เตียคิดอยู่นานว่าฉันจะนำเสนอรูปแบบใด จนกระคิดได้ว่า สัญลักษณ์นี่เป็นที่นิยม” ซินน่าพูด “ฉันอยากพวกเขาจดจำเธอใน แวนด้าหญิงสาวผู้เปล่งประกาย” ความนิ่งของเขาซ่อนความบ้าคลั่งไว้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่แคตนิสเคยบอกฉันไว้จริงๆ
“ตอนที่เปิดตัวฉันอยากให้เธอ ยิ้มเข้าไว้แล้วพวกเขาจะรักเธอ” ซินน่าพูดทิ้งท้ายก่อนจะพาฉันออกไปเขาพาฉันลงไปยังชั้นใต้ดินของศูนย์แปลงโฉมซึ่งเป็นลานกว้างขวางซึ่งบรรณาการจะมารวมตัวกันก่อนพิธีเปิดแล้วให้ฉันรอที่รถเทียมม้าของตัวเองก่อนที่จะต้องไปทำอะไรอีกเล็กน้อย ฉันเลยยืนอยู่ตามลำพัง ฉันแอบรู้สึกได้ว่ามีสายตาหลายคู่จ้องมองฉันอยู่ทั้งเกลียดชังและชื่นชม ดูเหมือนบรรณาการชายจากเขตสี่จะมองฉันแทบไม่ล่ะสายตาฉันพยายามทำตัวไม่ตกเป็นเป้ามากนักทั้งที่รู้ว่าเป็นเป้ามานานแล้ว
ทว่าไม่ได้ผล
เสียงฝีเท้าหนักๆจากรองเท้าบู๊ตเดินมาช้างฉันก่อนที่จะรู้ตัวเขาก็มายืนอยู่หน้าฉันแล้วเมื่อหันไปมอง บรรณาการชายจากเขตสี่ยืนพิงม้าฉันท่าทางสบายๆ
“หวัดดี ฉัน เจสัน โรเนอร์” เขาแนะนำตัวเองและยื่มมือออกมา ราวกับว่าฉันอยากจะรู้ ฉันเลี่ยงที่จะไม่จับมือกับเขา
“หวัดดี ฉัน แวนด้า เอฟเวอร์ดีน” ฉันเอามือกอดอก เขาไม่ค่อยน่าไว้ใจเพราะเขามาจากเขต4บางทีเขาอาจะมาแอบสอดแนมไม่ก็แอบศึกษาคู่ต่อสู้ก็เป็นได้ แต่ฉันไม่เข้าใจเลยว่ามีคนตั้งมากมายที่ดูน่ากลัวและเก่งกว่าฉันทำไมเขาไม่ไปหาแต่กลับเป็นฉันที่มีความสามารถแค่หยิบมือ?
“ดูเหมือนว่าเธอเป็นที่น่าจับตามองเหมือนกันนะ” เจสันพูดแล้วหันหน้าไปทาง บรรณาการจากเขต 1และ2 ฉันหันไปดูก็พบกับแววตาอำมหิตจากเด็กสาวเขต2และเด็กหนุ่มเขต1 ที่มองมาทำเอาฉันเสียวสันหลังวาบ “กลัวเหรอ?” เจสันถาม
“ฉันไม่ได้กลัวพวกเขาแต่กลัวนายมากกว่า” เขาดูสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะทำหน้าตาเรียบเฉยปกติ “ดูเหมือนคู่หูเธอมาแล้วฉันไปล่ะ อ้อ ขอให้โชคเข้าข้างเธอตลอดไป” เจสันพูดทิ้งทายก่อนจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดีทิ้งท้าย และจะเดินจากไป
“ได้เพื่อนใหม่แล้วเหรอ” ปีเตอร์ถามขณะเดินมาถึง เขาอยู่ในชุดคสูทตัวใหญ่สวมทับกับเสื้อคลุมสีดำทั้งชุดแต่ที่แขนเสื้อมีสีขาวแซมๆอยู่ด้านหลังมีโครงเล็กคล้ายปีกเหมือนกับฉันแต่ดูหนาและใหญ่กว่าและสวมสร้อยคอที่ติดกับชุดเป็นรูป นกม็อกกิ้งเจย์เหมือนกัน
“ก็ไม่เชิง คงแค่มาคุยหรือไม่ก็…สอดแนม” ฉันพูดแทนที่ปีเตอร์จะเครียด แต่เขากลับหัวเราะร่วน
“ฉันคิดว่าน่าจะอยากเห็นเธอใกล้ๆมากกว่า” ปีเตอร์พูด อยากเห็นฉันใกล้ๆ ทำไมหรือ?
“ทำไมนายคิดแบบนั้นล่ะ” ฉันถาม ปีเตอร์คิดชั่วครู่ก่อนที่จะพูดออก “เธอไม่รู้ตัวเหรอว่าตัวเองสวยแค่ไหน” คำตอบของเขาทำเอาฉันหน้าร้อนผ่าว ก่อนที่ฉันจะทันได้ถามอะไรประตูตรงหน้าก็เปิดออก ฉันจึงรีบขึ้นไปบนรถเทียมม้า
“อย่าลืมที่ซินน่าบอกล่ะ ยิ้มเข้าไว้ ” ปีเตอร์บอก “ไม่ลืมหรอก” ฉันบอก เรารอให้เขตหนึ่งสองออกไปเรื่อยๆจนกระทั่งรถของเราเริ่มเคลื่อนออกไปเราจึงกดปุ่มที่ชุดของเรา
“เขตสิบสอง เขตสิบสอง!!!” น้ำเสียงตื่นเต้นจากผู้ชมที่ล้นหลามพูดก่อนที่ทุกคนจะหัดมามองเราเป็นตาเดียว เสียงโห่ร้องและเสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่ว ความตื่นเต้น แต่เมื่อเห็นภาพบนจอขนาดใหญ่ฉันก็ต้องตกตะลึงกับความงดงาม เปลวไฟวูบไหวเป็นประกายที่อยู่ด้านหลังเรานั้นเป็นรูป ปีกนก กับท้องฟ้ายามเย็นที่กำลังมืดลงแสงไฟส่องสว่างเป็นประกายบนใบหน้าและตามตัวทำให้เราดูเปล่งรัศมีราวกับดวงอาทิตย์ มันทำให้เราทั้งคู่ดูน่าสนใจและเป็นที่น่าจดจำแน่นอน
ฉันเชิดหน้าและฉีกยิ้มและกุมมือ ปีเตอร์ไว้แน่น เมื่อใกล้ถึงจัตตุรัสปีเตอร์ชูมือของเราสองคนขึ้นและโบกให้พวกเขาเรียกเสียงร้องของผู้ชมได้อย่างดีทุกคนตะโกนเชียร์เรา ชื่อเรา พร้อมกระเสียงดนตรีที่บรรเลงกระหน่ำ ฉันโบกมือให้กับฝูงชนแทบระงับความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ ทุกคนเรียกชื่อชื่อฉันจะต้องมี สปอนเซอร์สักรายที่อยากรับฉันไว้ในความอุปถัมภ์ และความช่วยเหลือ ทั้งอาหาร ยา หรืออาวุธ ทำไมฉันถึงไม่มีทางสู้ล่ะ ฉันสู้ได้ ซินน่าทำให้ฉันได้เปรียบอย่างเหลือเชื่อจะไม่มีใครลืมหน้าฉันชื่อฉัน แวนด้า หญิงสาวผู้เปล่งประกาย
“แวนด้า ปีเตอร์ แวนด้า ปีเตอร์” เสียงเรียกทั้งชื่อฉันและปีเตอร์ดังมาจากทุทิศทางใครก็ก็ชอบฉัน ฉันโบกมือให้พวกเขาทุกคนในวงเวียนโบอกมือตอบและยิ้มให้อย่างตื่นเต้น จนกระทั่งถึงวงเวียนกลางเมือง ม้าลากเราผ่านทำเนียบก่อนที่จะหยุดลง
ประธานาธิบดีกล่าวต้อนรับเรา ทำเนียมต้องตัดภาพให้เห็นหน้าบรรณาการทุกคนฉันคิดไปเองหรือเปล่าว่ากล้องหยุดแช่ที่เรานานกว่าปกติ เมื่อเพลงชาติเริ่มบรรเลงอีกครั้ง พวกเขาตัดภาพอย่างรวดเร็วก่อนจะมาแช่ที่ รถเทียมม้าของเขต12
ทีมแต่งตัววิ่งเข้ามาห้อมล้อมพร่ำชมไม่หยุดปาก“ดีมากแม่สาวน้อย”เฮย์มิตต์พูด “อาบเหล้าต่างนำแบบคุณลองเล่นกับไฟไหมล่ะ” ฉันถามแบบประชดเล็กๆ
“สบายมากถ้าเป็น…” เฮย์มิตต์หยุดแล้วมองไปด้านหลัง เราเลยมองตามแล้วก็พบว่า บรรณาการจากเขต1และ2มองมาทางพวกเราด้วยสายตาชิงชัง “ฉันว่าเราขึ้นไปข้างบนดีกว่า” เฮย์มิตต์พูด
“เยี่ยม เธอดูเฟอร์เฟกแล้ว” อ๊อตตาเวียพูดแล้วปรบมือกับฟลาเวียสที่ลูบผมฉันเบาๆ “ดีนะที่เธอไม่มีขนใต้วงแขน อีกอย่างผมเธอลื่นอย่างกับสายไหมแนะ เราเลยไม่ได้จัดการอะไรมาก” ฟลาเวียสพูดพล่ามแล้วเดินสำรวจรอบตัวฉัน
“ตามซินน่าเถอะ เขาต้องประทับใจเธอแน่” ทั้งสามคนพูดแล้วเดินออกไปทิ้งฉันไว้ตามลำพังใจฉันอยากจะหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าแต่ซินน่าจะต้องสั่งถอดออกแน่ฉันเลยยกมือขึ้นกอดอกไว้ตอนประตูเปิดออก เป็นซินน่าเดินเข้ามาเขาตัดทรงผมสั้นเกือบติดศรีษะ ทาอายไลน์เนอร์สีทองบางๆใต้ตาเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขาตัวเป็นๆไม่ใช่มองผ่านทางทีวีเขาดูผอมกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก
“หวัดดี แวนด้า ฉันซินน่า” เขาพูดแล้วยิ้มให้ฉันเล็กน้อย “ขอเวลาครู่เดียวนะ” ซินน่าเดินวัดตัวฉันบันทึกทุกตารางนิ้วด้วยสายตาก่อนจะหยิบเสื้อคลุมมาสวมให้ฉัน
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มอย่างเป็นมิตร “หิวหรือยังล่ะ” ซินน่าถาม ฉันส่ายหัวเป็นเชิงปฏิเสธ
“ยังค่ะฉันเพิ่งกินจนจุกมาบนรถไฟ” ซินน่าพยักหน้าแล้วพาฉันนั่งที่โซฟา
“ว่าแต่ ปีนี้คุณออกแบบชุดยังไงค่ะ” ฉันถามเพราะฉันกับปีเตอร์ต้องแต่งตัวจากสิ่งที่เกี่ยวกับถ่านหิน “เดี๋ยวก็รู้” ซินน่ายิ้มแบบมีเล่ห์นัย แต่บอกตรงๆว่ารอยยิ้มนั้นเขาแอบทำให้ฉันกลัวเหมือนกัน
ทีมแต่งตัวมาถึงตอนที่ได้เวลาแต่งตัวสำหรับพิธีเปิด เวเนียจัดการสางผมฉันและพ่นสเปรย์ใส่และค่อยถักเปียผมฉัน อ๊อตาเวียจัดการขัดเล็บและทางสี ส่วนฟลาเวียแต่งหน้าให้ฉันด้วยไฮไลต์สีขาว ดำ ตอนที่แต่งหน้าและตัวเสร็จฉันแทบจำตัวเองในกระจกไม่ได้ซินน่าถือชุดมาให้แล้วให้ทีมแต่งตัวช่วยกันสวมให้ฉันเป็นชุดเดรสสีดำสลับลายขาวด้านหลังตกแต่งด้วยโครงเหล็กออกมาคล้ายปีกนกเมื่อแต่งตัวเสร็จฉันก็ตระหนักว่าตอนนี้ตัวเองดูน่าเกรงขามเพียงใด ซินน่าเดินมาแล้วกดปุ่มที่อยู่ด้านหลังปีกและจัดห้องให้มืดสนิทสักครู่ชุดฉันค่อยๆเรืองแสงก่อนที่เปลวไฟจะลุกพรึ่บทั่วร่าง ทีมแต่งตัวพากันกรี๊ด ฉันมองตัวเองในกระจกแล้วก็ต้องตะลึง ชุดเดรสสีดำมีเปลวไฟวนไปมาทั่วทั้งชุดโครงเหล็กด้านหลังมีไฟเป็รประกายวูบไหวขึ้นมาเป็นรูปปีกนกและยิ่งกว่านั้นตรงหน้าอกของฉันที่ฉันเข้าใจว่ามันคือเครื่องประดับกับมีเปลวไฟวูบไหวและทิ้งสะเก็ดเปลวงประกายเป็นรูป นกม็อกกิ้งเจย์ !
“สวยมากซินน่า เหลือเชื่อจริงๆ” ฉันพูดด้วยความประหลาดใจและมหัศจรรย์ใจ
“ฉันกับพอร์เตียคิดอยู่นานว่าฉันจะนำเสนอรูปแบบใด จนกระคิดได้ว่า สัญลักษณ์นี่เป็นที่นิยม” ซินน่าพูด “ฉันอยากพวกเขาจดจำเธอใน แวนด้าหญิงสาวผู้เปล่งประกาย” ความนิ่งของเขาซ่อนความบ้าคลั่งไว้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่แคตนิสเคยบอกฉันไว้จริงๆ
“ตอนที่เปิดตัวฉันอยากให้เธอ ยิ้มเข้าไว้แล้วพวกเขาจะรักเธอ” ซินน่าพูดทิ้งท้ายก่อนจะพาฉันออกไปเขาพาฉันลงไปยังชั้นใต้ดินของศูนย์แปลงโฉมซึ่งเป็นลานกว้างขวางซึ่งบรรณาการจะมารวมตัวกันก่อนพิธีเปิดแล้วให้ฉันรอที่รถเทียมม้าของตัวเองก่อนที่จะต้องไปทำอะไรอีกเล็กน้อย ฉันเลยยืนอยู่ตามลำพัง ฉันแอบรู้สึกได้ว่ามีสายตาหลายคู่จ้องมองฉันอยู่ทั้งเกลียดชังและชื่นชม ดูเหมือนบรรณาการชายจากเขตสี่จะมองฉันแทบไม่ล่ะสายตาฉันพยายามทำตัวไม่ตกเป็นเป้ามากนักทั้งที่รู้ว่าเป็นเป้ามานานแล้ว
ทว่าไม่ได้ผล
เสียงฝีเท้าหนักๆจากรองเท้าบู๊ตเดินมาช้างฉันก่อนที่จะรู้ตัวเขาก็มายืนอยู่หน้าฉันแล้วเมื่อหันไปมอง บรรณาการชายจากเขตสี่ยืนพิงม้าฉันท่าทางสบายๆ
“หวัดดี ฉัน เจสัน โรเนอร์” เขาแนะนำตัวเองและยื่มมือออกมา ราวกับว่าฉันอยากจะรู้ ฉันเลี่ยงที่จะไม่จับมือกับเขา
“หวัดดี ฉัน แวนด้า เอฟเวอร์ดีน” ฉันเอามือกอดอก เขาไม่ค่อยน่าไว้ใจเพราะเขามาจากเขต4บางทีเขาอาจะมาแอบสอดแนมไม่ก็แอบศึกษาคู่ต่อสู้ก็เป็นได้ แต่ฉันไม่เข้าใจเลยว่ามีคนตั้งมากมายที่ดูน่ากลัวและเก่งกว่าฉันทำไมเขาไม่ไปหาแต่กลับเป็นฉันที่มีความสามารถแค่หยิบมือ?
“ดูเหมือนว่าเธอเป็นที่น่าจับตามองเหมือนกันนะ” เจสันพูดแล้วหันหน้าไปทาง บรรณาการจากเขต 1และ2 ฉันหันไปดูก็พบกับแววตาอำมหิตจากเด็กสาวเขต2และเด็กหนุ่มเขต1 ที่มองมาทำเอาฉันเสียวสันหลังวาบ “กลัวเหรอ?” เจสันถาม
“ฉันไม่ได้กลัวพวกเขาแต่กลัวนายมากกว่า” เขาดูสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะทำหน้าตาเรียบเฉยปกติ “ดูเหมือนคู่หูเธอมาแล้วฉันไปล่ะ อ้อ ขอให้โชคเข้าข้างเธอตลอดไป” เจสันพูดทิ้งทายก่อนจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดีทิ้งท้าย และจะเดินจากไป
“ได้เพื่อนใหม่แล้วเหรอ” ปีเตอร์ถามขณะเดินมาถึง เขาอยู่ในชุดคสูทตัวใหญ่สวมทับกับเสื้อคลุมสีดำทั้งชุดแต่ที่แขนเสื้อมีสีขาวแซมๆอยู่ด้านหลังมีโครงเล็กคล้ายปีกเหมือนกับฉันแต่ดูหนาและใหญ่กว่าและสวมสร้อยคอที่ติดกับชุดเป็นรูป นกม็อกกิ้งเจย์เหมือนกัน
“ก็ไม่เชิง คงแค่มาคุยหรือไม่ก็…สอดแนม” ฉันพูดแทนที่ปีเตอร์จะเครียด แต่เขากลับหัวเราะร่วน
“ฉันคิดว่าน่าจะอยากเห็นเธอใกล้ๆมากกว่า” ปีเตอร์พูด อยากเห็นฉันใกล้ๆ ทำไมหรือ?
“ทำไมนายคิดแบบนั้นล่ะ” ฉันถาม ปีเตอร์คิดชั่วครู่ก่อนที่จะพูดออก “เธอไม่รู้ตัวเหรอว่าตัวเองสวยแค่ไหน” คำตอบของเขาทำเอาฉันหน้าร้อนผ่าว ก่อนที่ฉันจะทันได้ถามอะไรประตูตรงหน้าก็เปิดออก ฉันจึงรีบขึ้นไปบนรถเทียมม้า
“อย่าลืมที่ซินน่าบอกล่ะ ยิ้มเข้าไว้ ” ปีเตอร์บอก “ไม่ลืมหรอก” ฉันบอก เรารอให้เขตหนึ่งสองออกไปเรื่อยๆจนกระทั่งรถของเราเริ่มเคลื่อนออกไปเราจึงกดปุ่มที่ชุดของเรา
“เขตสิบสอง เขตสิบสอง!!!” น้ำเสียงตื่นเต้นจากผู้ชมที่ล้นหลามพูดก่อนที่ทุกคนจะหัดมามองเราเป็นตาเดียว เสียงโห่ร้องและเสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่ว ความตื่นเต้น แต่เมื่อเห็นภาพบนจอขนาดใหญ่ฉันก็ต้องตกตะลึงกับความงดงาม เปลวไฟวูบไหวเป็นประกายที่อยู่ด้านหลังเรานั้นเป็นรูป ปีกนก กับท้องฟ้ายามเย็นที่กำลังมืดลงแสงไฟส่องสว่างเป็นประกายบนใบหน้าและตามตัวทำให้เราดูเปล่งรัศมีราวกับดวงอาทิตย์ มันทำให้เราทั้งคู่ดูน่าสนใจและเป็นที่น่าจดจำแน่นอน
ฉันเชิดหน้าและฉีกยิ้มและกุมมือ ปีเตอร์ไว้แน่น เมื่อใกล้ถึงจัตตุรัสปีเตอร์ชูมือของเราสองคนขึ้นและโบกให้พวกเขาเรียกเสียงร้องของผู้ชมได้อย่างดีทุกคนตะโกนเชียร์เรา ชื่อเรา พร้อมกระเสียงดนตรีที่บรรเลงกระหน่ำ ฉันโบกมือให้กับฝูงชนแทบระงับความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ ทุกคนเรียกชื่อชื่อฉันจะต้องมี สปอนเซอร์สักรายที่อยากรับฉันไว้ในความอุปถัมภ์ และความช่วยเหลือ ทั้งอาหาร ยา หรืออาวุธ ทำไมฉันถึงไม่มีทางสู้ล่ะ ฉันสู้ได้ ซินน่าทำให้ฉันได้เปรียบอย่างเหลือเชื่อจะไม่มีใครลืมหน้าฉันชื่อฉัน แวนด้า หญิงสาวผู้เปล่งประกาย
“แวนด้า ปีเตอร์ แวนด้า ปีเตอร์” เสียงเรียกทั้งชื่อฉันและปีเตอร์ดังมาจากทุทิศทางใครก็ก็ชอบฉัน ฉันโบกมือให้พวกเขาทุกคนในวงเวียนโบอกมือตอบและยิ้มให้อย่างตื่นเต้น จนกระทั่งถึงวงเวียนกลางเมือง ม้าลากเราผ่านทำเนียบก่อนที่จะหยุดลง
ประธานาธิบดีกล่าวต้อนรับเรา ทำเนียมต้องตัดภาพให้เห็นหน้าบรรณาการทุกคนฉันคิดไปเองหรือเปล่าว่ากล้องหยุดแช่ที่เรานานกว่าปกติ เมื่อเพลงชาติเริ่มบรรเลงอีกครั้ง พวกเขาตัดภาพอย่างรวดเร็วก่อนจะมาแช่ที่ รถเทียมม้าของเขต12
ทีมแต่งตัววิ่งเข้ามาห้อมล้อมพร่ำชมไม่หยุดปาก“ดีมากแม่สาวน้อย”เฮย์มิตต์พูด “อาบเหล้าต่างนำแบบคุณลองเล่นกับไฟไหมล่ะ” ฉันถามแบบประชดเล็กๆ
“สบายมากถ้าเป็น…” เฮย์มิตต์หยุดแล้วมองไปด้านหลัง เราเลยมองตามแล้วก็พบว่า บรรณาการจากเขต1และ2มองมาทางพวกเราด้วยสายตาชิงชัง “ฉันว่าเราขึ้นไปข้างบนดีกว่า” เฮย์มิตต์พูด
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ