The painful เธอกับเขา และรักของเรา
9.5
เขียนโดย keang_sujittra
วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.28 น.
40 session
182 วิจารณ์
58.22K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 14.18 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
39) งอนจริงๆนะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“อ้าวฟาง ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะ” พิชชี่ทักขึ้นทันทีเมื่อเห็นเพื่อนสาวเดินหน้างอมาแต่ไกล
“เปล่าหรอก ไม่ได้เป็นอะไร” หญิงสาวตอบก่อนจะกระแทกตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างเซ็งๆ ทุกคนในโต๊ะทั้งเหล่าเพื่อนซี้อย่างพิชชี่ แก้ว เฟย์ หวาย จินนี่ รวมไปถึงสองหนุ่มอย่างโทโมะและเขื่อนต่างก็หันมามองหน้ากันอย่างงงๆ โดยเฉพาะเขื่อนที่ถึงขั้นงงหนัก ก็เมื่อกี้ก่อนที่เขาจะแยกตัวมา ฟางก็ยังอาการดีๆอยู่เลยนี่นา แล้วไหงถึงได้หน้าบึ้งแบบนี้ได้ล่ะ
“ไอ้เขื่อน มึงแน่ใจนะว่ามึงไม่ได้ไปวางระเบิดอารมณ์ไว้ที่โต๊ะนู้นน่ะ” โทโมะกระซิบถามเพื่อนอย่างไม่ไว้ใจ เขื่อนส่ายหน้าดิกทันที
“กูเปล่านะเว้ย ถ้าจะมีใครวางระเบิด กูว่าน่าจะเป็นไอ้ป๊อป หรือไม่ก็ยัยอสรพิษนั่นมากกว่า” โทโมะหันไปเหล่มองที่โต๊ะเพื่อนก่อนจะหันกลับมาตอบ
“กูว่าน่าจะเป็นอย่างหลังว่ะ”
“เอ่อ น้องฟาง... กินขนมหน่อยมั้ยครับ” เขื่อนพยายามทำให้หญิงสาวอารมณ์ดีขึ้นด้วยการยื่นจานขนมไปให้ แต่ฟางดันหันไปเห็นตอนที่พิมป้อนขนมแบบเดียวกันให้ป๊อปปี้พอดี ยิ่งทำให้หญิงสาวหน้าหงิกเข้าไปใหญ่
“ไม่ล่ะค่ะ ฟางไม่หิว” หญิงสาวปฏิเสธ อารมณ์หงุดหงิดพุ่งขึ้นสูงจนแทบทะลุเพดานเมื่อเห็นภาพบาดตาตรงหน้า พี่ป๊อปนะพี่ป๊อป ไหนบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับพี่พิมแล้วไง แล้วไอ้ท่าทางแบบนั้นมันแปลว่าอะไรกันล่ะ!!!
“ไอ้เขื่อน มึงไปลากไอ้ป๊อปมานั่งนี่ดิ๊ เจ้าของวันเกิดอยู่นี่ ดันไปนั่งหลบมุมกับหญิงอยู่ได้” โทโมะสะกิดเพื่อน
“ไม่เอา มึงนั่นแหละไปดิ”
“ก็มึงเป็นเจ้าของวันเกิด มึงก็ต้องไปดิ”
“มึงนั่นแหละ กูขี้เกียจ”
“พอ! ไม่ต้องเถียงกันครับ เดี๋ยวผมไปเอง” พิชชี่ลุกพรวดขึ้นก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะของชายหนุ่มรุ่นพี่ทันที ส่วนสองหนุ่มอย่างโทโมะและเขื่อนก็ได้แต่ทำหน้าจ๋อยเมื่อหันไปเห็นแววตาตำหนิของสองสาวเพื่อนซี้อย่างเฟย์และแก้ว
“พี่ป๊อปครับ” พิชชี่เอ่ยเรียก ป๊อปปี้เงยหน้าขึ้นมอง “ไปนั่งด้วยกันโต๊ะนู้นมั้ยครับ เฮฮาดี”
“เอาสิ พี่ก็กะว่ากำลังจะไปเหมือนกัน” ป๊อปปี้สบช่องรีบลุกขึ้นทันที แต่ก็โดนแรงดึงจากพิมให้หงายหลังนั่งลงไปอีก
“จะไปทำไมล่ะคะป๊อป นั่งตรงนี้ดีกว่า ตรงนั้นปล่อยให้เด็กๆเขาสนุกกันเถอะค่ะ ใช่มั้ยคะน้องพิชชี่” พิมหันไปส่งยิ้มหวานหยดให้ชายหนุ่มตรงหน้า
“โทษทีครับเจ๊ พอดีว่าผมเป็นลูกคนเดียว” พิชชี่สวนกลับหน้าตาย เล่นเอาอีกฝ่ายถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“ไปเหอะพี่ อยู่ตรงนี้พี่ก็อยู่ได้แค่ตัว ใจพี่ลอยไปอยู่ตรงนู้นตั้งนานแล้ว อยู่กับคนแก่ไม่สนุกเท่าอยู่กับเด็กหรอกครับ” ชายหนุ่มพูดจ้อยๆ พลางปรายตามองไปยังมือของพิมที่ยังกอดแขนรุ่นพี่สุดหล่อของเขาไว้แน่น
“ปล่อยเถอะพิม วันนี้วันเกิดไอ้เขื่อนนะ เราจะมานั่งอุดอู้อยู่ตรงนี้ได้ไงล่ะ เสียมารยาทแย่เลย” ชายหนุ่มพูด ก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะที่เขื่อนนั่งอยู่ทันทีอย่างโล่งอกที่สามารถสลัดอีกฝ่ายออกได้
“เดี๋ยวเจ๊...” พิชชี่รีบคว้าแขนพิมไว้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจะเดินตามชายหนุ่มรุ่นพี่ไป
“ปล่อยฉันนะไอ้เด็กบ้า มาจับฉันไว้ทำไม!” พิมเหวี่ยงใส่อย่างไม่ปิดบังอารมณ์ ก่อนจะสะบัดแขนจนหลุด ไม่มีป๊อปปี้อยู่ใกล้ๆ เธอก็คงไม่ต้องแสร้งปั้นหน้าเป็นคนดีนักหรอกนะ
“คิดว่าผมอยากจับนักเหรอไง เผลอๆเนื้อหลุดติดมือผมมาด้วยล่ะยุ่งเลย ต้องเสียเวลาไปหาหมอให้ช่วยอีก” พิชชี่พูดหน้าตาย เล่นเอาพิมถึงกับตัวสั่นด้วยความโกรธ แต่ก็โวยวายมากไม่ได้ กลัวป๊อปปี้ที่นั่งอยู่ไม่ไกลนักจะได้ยิน
“อ้าว! ทำไมไม่กรี๊ดล่ะครับ หรือว่ากลัว...” พิชชี่เว้นเสียงค้างไว้อย่างจงใจ
“กลัว? กลัวอะไร” พิมถามเสียงกระชากอย่างสงสัย
“ก็กลัวว่าไหมที่อุตส่าห์ไปร้อยมามันจะหย่อนยังไงล่ะครับ” พิชชี่ลอยหน้าตอบอย่างกวนๆ พิมมองอย่างโกรธแค้น แต่ต้องพยายามเก็บอาการไว้สุดฤทธิ์ เมื่อรู้ว่าทำอะไรไม่ได้จึงตัดสินใจที่จะเดินเลี่ยงไปแทน
“ผมแค่อยากจะเตือนคุณเรื่องพี่ป๊อป” พิมชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินชายหนุ่มพูด สรรพนามที่เปลี่ยนไปกับน้ำเสียงที่ไม่มีแววกวนเหลืออยู่ทำให้เธอเลือกที่จะหันกลับมามองอีกครั้ง พิชชี่หันมาเผชิญหน้าก่อนจะพูดต่อ
“คุณก็รู้ว่าระหว่างคุณกับพี่ป๊อปไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว คุณจะไปยุ่งกับพี่ป๊อปให้เขารำคาญใจเล่นทำไม”
“ป๊อปไม่เคยบอกว่าเขารำคาญฉัน” หญิงสาวมองหน้าอีกฝ่ายนัยน์ตาแข็งกร้าว
“ไม่เคยบอกแต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่รู้สึก” พิชชี่สวนขึ้นทันที “คุณเองก็ไม่ใช่คนโง่ น่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จะไปขัดขวางเรื่องของเขาสองคนทำไม”
“ก็เพราะฉันไม่โง่ยังไงล่ะ ฉันถึงไม่ยอมที่จะปล่อยป๊อปไปง่ายๆ” พิมดวงตาวาวโรจน์ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะมาพูดถึงเรื่องอะไร
“ถึงจะรู้ว่าพี่ป๊อปเขาไม่มีวันกลับมาหาคุณน่ะเหรอ” พิชชี่ย้อนถามเสียงเยาะ
“อย่าดูถูกความสามารถกันนักสิหนุ่มน้อย นายยังไม่รู้จักฉันดีพอ คนอย่างฉันทำอะไรได้มากกว่าที่นายคิด” พิมยิ้มอย่างเย้ยๆ ก่อนจะผลักอกเขาเบาๆจนเซ แล้วเดินหนีไปทันที พิชชี่มองตามแล้วถอนใจ ดูท่าสิ่งที่เขาพยามจะทำคงไม่ได้ผลแฮะ ขอโทษด้วยก็แล้วกันนะครับ... พี่ชาย
.
.
.
.
.
“เดี๋ยวฟาง จะไปไหน” จินนี่รีบคว้าแขนเพื่อนไว้ เมื่อจู่ๆฟางก็ลุกพรวดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“เอ่อ... ไปเข้าห้องน้ำน่ะ เดี๋ยวมานะ” หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนจะเดินออกจากกลุ่มไปทันที
“อะไรของเขา ทำไมท่าทางรีบร้อนจัง” หวายมองตามหลังเพื่อนไปอย่างสงสัย
“จะอะไรซะอีกล่ะครับ ตัวต้นเหตุมานี่แล้วไง” เขื่อนพูด เป็นจังหวะเดียวกับที่ป๊อปปี้เดินมาถึงโต๊ะพอดี สาวๆจึงร้องอ๋อออกมาพร้อมกันอย่างเข้าใจ ที่แท้ยัยเพื่อนตัวแสบก็หนีหน้าพี่ป๊อปนี่เอง
“มีอะไรกันรึเปล่า ทำไมถึงมองหน้าพี่แบบนั้นล่ะ” ป๊อปปี้ถามขึ้นอย่างเก้อๆ เมื่อเห็นกลุ่มสาวๆมองมาที่เขาแล้วเอาแต่อมยิ้ม
“พี่ป๊อปนั่นแหละค่ะ ไปทำอีท่าไหนถึงทำให้ยัยฟางงอนตุ๊บป่องหนีไปแบบนี้ล่ะคะ” ร่างสูงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ
“ก็... นิดหน่อยน่ะ แล้วนี่ฟางไปไหนแล้วอ่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อมองไปรอบๆก็ไม่เห็นวี่แววของคนตัวเล็กเลย
“ไปห้องน้ำน่ะค่ะ พี่ป๊อปจะตามไปด้วยมั้ยคะ?” เฟย์ถามอย่างขำๆ
“ไม่เป็นไรหรอก รอฟางออกมาก็ได้” ป๊อปปี้ตอบยิ้มๆ รู้ตัวว่าโดนแซวที่พักนี้ฟางไปไหนต้องมีเขาตามไปด้วยเป็นเงาติดตัวตลอด เรียกว่าไม่ให้คลาดสายตาเลยทีเดียว
“อ้าว! แล้วนี่ตัวช่วยของมึงหายไปไหนซะแล้วล่ะไอ้ป๊อป หรือว่าจะโดนยัยอสรพิษนั่นงาบไปกินซะแล้ว” เขื่อนพูดขึ้นอย่างติดตลก เมื่อไม่เห็นพิชชี่เดินตามเพื่อนมาด้วย
“โห่พี่เขื่อน อย่าแช่งผมแบบนั้นสิพี่ ผมไม่อยากมีแฟนแก่อ่ะ” พิชชี่ที่เดินมาทันได้ยินประโยคของเขื่อนส่งเสียงขึ้นทันที เรียกเสียงหัวเราะจากคนในกลุ่มได้มากโข
“ไอ้เราก็เห็นว่าหายไปนาน นึกว่าจะเปลี่ยนรสนิยมซะแล้ว” แก้วแซวขึ้นบ้าง พิชชี่ส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะหันไปทางป๊อปปี้
“นี่พี่ป๊อป เสร็จงานนี้แล้วอย่าลืมเลี้ยงข้าวผมด้วยนะ เมื่อกี้โดนยัยนั่นพ่นพิษใส่ เกือบตายแน่ะ”
“ขอบใจมากไอ้น้อง รับรองไม่ลืมแน่” ป๊อปปี้ยิ้มรับ
“แล้วนี่พิมไม่ตามมึงมาด้วยเหรอไอ้ป๊อป ยัยนั่นไม่น่าจะปล่อยมึงมาง่ายๆนะ” โทโมะที่เงียบมาตลอดพูดขึ้นบ้าง
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ” ป๊อปปี้ส่ายหน้า ก่อนจะหันไปมองหน้าพิชชี่ “ว่าไงไอ้พิช”
“เมื่อกี้ผมก็เห็นยัยเจ๊นั่นเดินมาทางนี้แล้วนะ แต่หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”
“เอาเหอะนา แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอไง ให้ไอ้ป๊อปมันได้หายใจหายคอหน่อย เมื่อกี้ตอนนั่งอยู่กับพิมทำหน้าเหมือนคนไม่ได้ถ่ายมาเจ็ดวัน” เขื่อนพูดเรียกเสียงหัวเราะได้อีกรอบ
“มึงลองมาเป็นกูบ้างไหมล่ะ จะได้รู้สึก” ป๊อปปี้ย้อน แต่เขื่อนส่ายหน้าพรืดทันที
“ไม่เอาหรอก กูมีคนที่กูชอบอยู่แล้ว”
ฮิ้ววววววว~~~~~~~ ทุกคนในโต๊ะพร้อมใจกันโห่เชียร์ทันที เล่นเอาเฟย์ที่นั่งอยู่ข้างๆแก้วถึงกับหน้าแดงแปร๊ด เพราะเขื่อนไม่ได้พูดเปล่า กลับส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้เธอด้วยอีกต่างหาก
“ว้า!~~ นี่กลุ่มเราจะมีแฟนไปอีกคนหนึ่งแล้วเหรอเนี่ย” หวายหันมามองหน้าเพื่อนอย่างล้อๆ ยิ่งทำให้เฟย์เขินเข้าไปใหญ่ ต้องหันไปส่งสายตาดุๆให้คนตัวโตแทน
“ใครบอกว่าหนึ่ง สองต่างหาก... ใช่มั้ยครับพี่โทโมะ” พิชชี่หันไปแซวชายหนุ่มรุ่นพี่บ้าง โทโมะคลี่ยิ้มบางๆก่อนจะตอบ
“ไม่รู้สิ... ต้องแล้วแต่เจ้าตัวเขา”
ฮิ้ววววววว~~~~~~ เสียงโห่แซวดังขึ้นอีกระลอก สองสาวอย่างเฟย์และแก้วแทบจะมุดหน้าหนีเข้าไปใต้โต๊ะเพราะความเขิน ได้แต่นิ่งเงียบ ทั้งๆที่ใบหน้ายังร้อนผ่าวๆเหมือนจะเป็นไข้ ท่ามกลางเสียงโห่แซวที่ยังคงดังต่อเนื่องไปหยุด
“แบบนี้สมาชิกคานทองนิเวศของพวกเธอก็หายไปตั้งสองอ่ะดิ น่าสงสารซะจริง ต้องนั่งเล่นอยู่บนคานแค่สองคน” หลังจากแซวคู่ของแก้วเสร็จ พิชชี่จึงย้ายเป้าหมายไปที่หวายและจินนี่บ้าง
“พูดมากน่ะไอ้พิช” หวายฟาดฝ่ามือลงบนกลางหลังเพื่อนหนุ่มทันที เล่นเอาอีกฝ่ายถึงกับจุก
“นายน่ะไปหาแฟนตัวเองมาให้ได้ก่อนเหอะ ถึงค่อยมาเย้ยพวกฉัน” หวายพูด จินนี่แอบยกนิ้วโป้งให้เพื่อนอย่างสะใจ ส่วนพิชชี่ก็... นั่งจุกไปตามระเบียบ
.
.
.
.
.
เม้นๆๆๆ
“เปล่าหรอก ไม่ได้เป็นอะไร” หญิงสาวตอบก่อนจะกระแทกตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างเซ็งๆ ทุกคนในโต๊ะทั้งเหล่าเพื่อนซี้อย่างพิชชี่ แก้ว เฟย์ หวาย จินนี่ รวมไปถึงสองหนุ่มอย่างโทโมะและเขื่อนต่างก็หันมามองหน้ากันอย่างงงๆ โดยเฉพาะเขื่อนที่ถึงขั้นงงหนัก ก็เมื่อกี้ก่อนที่เขาจะแยกตัวมา ฟางก็ยังอาการดีๆอยู่เลยนี่นา แล้วไหงถึงได้หน้าบึ้งแบบนี้ได้ล่ะ
“ไอ้เขื่อน มึงแน่ใจนะว่ามึงไม่ได้ไปวางระเบิดอารมณ์ไว้ที่โต๊ะนู้นน่ะ” โทโมะกระซิบถามเพื่อนอย่างไม่ไว้ใจ เขื่อนส่ายหน้าดิกทันที
“กูเปล่านะเว้ย ถ้าจะมีใครวางระเบิด กูว่าน่าจะเป็นไอ้ป๊อป หรือไม่ก็ยัยอสรพิษนั่นมากกว่า” โทโมะหันไปเหล่มองที่โต๊ะเพื่อนก่อนจะหันกลับมาตอบ
“กูว่าน่าจะเป็นอย่างหลังว่ะ”
“เอ่อ น้องฟาง... กินขนมหน่อยมั้ยครับ” เขื่อนพยายามทำให้หญิงสาวอารมณ์ดีขึ้นด้วยการยื่นจานขนมไปให้ แต่ฟางดันหันไปเห็นตอนที่พิมป้อนขนมแบบเดียวกันให้ป๊อปปี้พอดี ยิ่งทำให้หญิงสาวหน้าหงิกเข้าไปใหญ่
“ไม่ล่ะค่ะ ฟางไม่หิว” หญิงสาวปฏิเสธ อารมณ์หงุดหงิดพุ่งขึ้นสูงจนแทบทะลุเพดานเมื่อเห็นภาพบาดตาตรงหน้า พี่ป๊อปนะพี่ป๊อป ไหนบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับพี่พิมแล้วไง แล้วไอ้ท่าทางแบบนั้นมันแปลว่าอะไรกันล่ะ!!!
“ไอ้เขื่อน มึงไปลากไอ้ป๊อปมานั่งนี่ดิ๊ เจ้าของวันเกิดอยู่นี่ ดันไปนั่งหลบมุมกับหญิงอยู่ได้” โทโมะสะกิดเพื่อน
“ไม่เอา มึงนั่นแหละไปดิ”
“ก็มึงเป็นเจ้าของวันเกิด มึงก็ต้องไปดิ”
“มึงนั่นแหละ กูขี้เกียจ”
“พอ! ไม่ต้องเถียงกันครับ เดี๋ยวผมไปเอง” พิชชี่ลุกพรวดขึ้นก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะของชายหนุ่มรุ่นพี่ทันที ส่วนสองหนุ่มอย่างโทโมะและเขื่อนก็ได้แต่ทำหน้าจ๋อยเมื่อหันไปเห็นแววตาตำหนิของสองสาวเพื่อนซี้อย่างเฟย์และแก้ว
“พี่ป๊อปครับ” พิชชี่เอ่ยเรียก ป๊อปปี้เงยหน้าขึ้นมอง “ไปนั่งด้วยกันโต๊ะนู้นมั้ยครับ เฮฮาดี”
“เอาสิ พี่ก็กะว่ากำลังจะไปเหมือนกัน” ป๊อปปี้สบช่องรีบลุกขึ้นทันที แต่ก็โดนแรงดึงจากพิมให้หงายหลังนั่งลงไปอีก
“จะไปทำไมล่ะคะป๊อป นั่งตรงนี้ดีกว่า ตรงนั้นปล่อยให้เด็กๆเขาสนุกกันเถอะค่ะ ใช่มั้ยคะน้องพิชชี่” พิมหันไปส่งยิ้มหวานหยดให้ชายหนุ่มตรงหน้า
“โทษทีครับเจ๊ พอดีว่าผมเป็นลูกคนเดียว” พิชชี่สวนกลับหน้าตาย เล่นเอาอีกฝ่ายถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“ไปเหอะพี่ อยู่ตรงนี้พี่ก็อยู่ได้แค่ตัว ใจพี่ลอยไปอยู่ตรงนู้นตั้งนานแล้ว อยู่กับคนแก่ไม่สนุกเท่าอยู่กับเด็กหรอกครับ” ชายหนุ่มพูดจ้อยๆ พลางปรายตามองไปยังมือของพิมที่ยังกอดแขนรุ่นพี่สุดหล่อของเขาไว้แน่น
“ปล่อยเถอะพิม วันนี้วันเกิดไอ้เขื่อนนะ เราจะมานั่งอุดอู้อยู่ตรงนี้ได้ไงล่ะ เสียมารยาทแย่เลย” ชายหนุ่มพูด ก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะที่เขื่อนนั่งอยู่ทันทีอย่างโล่งอกที่สามารถสลัดอีกฝ่ายออกได้
“เดี๋ยวเจ๊...” พิชชี่รีบคว้าแขนพิมไว้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจะเดินตามชายหนุ่มรุ่นพี่ไป
“ปล่อยฉันนะไอ้เด็กบ้า มาจับฉันไว้ทำไม!” พิมเหวี่ยงใส่อย่างไม่ปิดบังอารมณ์ ก่อนจะสะบัดแขนจนหลุด ไม่มีป๊อปปี้อยู่ใกล้ๆ เธอก็คงไม่ต้องแสร้งปั้นหน้าเป็นคนดีนักหรอกนะ
“คิดว่าผมอยากจับนักเหรอไง เผลอๆเนื้อหลุดติดมือผมมาด้วยล่ะยุ่งเลย ต้องเสียเวลาไปหาหมอให้ช่วยอีก” พิชชี่พูดหน้าตาย เล่นเอาพิมถึงกับตัวสั่นด้วยความโกรธ แต่ก็โวยวายมากไม่ได้ กลัวป๊อปปี้ที่นั่งอยู่ไม่ไกลนักจะได้ยิน
“อ้าว! ทำไมไม่กรี๊ดล่ะครับ หรือว่ากลัว...” พิชชี่เว้นเสียงค้างไว้อย่างจงใจ
“กลัว? กลัวอะไร” พิมถามเสียงกระชากอย่างสงสัย
“ก็กลัวว่าไหมที่อุตส่าห์ไปร้อยมามันจะหย่อนยังไงล่ะครับ” พิชชี่ลอยหน้าตอบอย่างกวนๆ พิมมองอย่างโกรธแค้น แต่ต้องพยายามเก็บอาการไว้สุดฤทธิ์ เมื่อรู้ว่าทำอะไรไม่ได้จึงตัดสินใจที่จะเดินเลี่ยงไปแทน
“ผมแค่อยากจะเตือนคุณเรื่องพี่ป๊อป” พิมชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินชายหนุ่มพูด สรรพนามที่เปลี่ยนไปกับน้ำเสียงที่ไม่มีแววกวนเหลืออยู่ทำให้เธอเลือกที่จะหันกลับมามองอีกครั้ง พิชชี่หันมาเผชิญหน้าก่อนจะพูดต่อ
“คุณก็รู้ว่าระหว่างคุณกับพี่ป๊อปไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว คุณจะไปยุ่งกับพี่ป๊อปให้เขารำคาญใจเล่นทำไม”
“ป๊อปไม่เคยบอกว่าเขารำคาญฉัน” หญิงสาวมองหน้าอีกฝ่ายนัยน์ตาแข็งกร้าว
“ไม่เคยบอกแต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่รู้สึก” พิชชี่สวนขึ้นทันที “คุณเองก็ไม่ใช่คนโง่ น่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จะไปขัดขวางเรื่องของเขาสองคนทำไม”
“ก็เพราะฉันไม่โง่ยังไงล่ะ ฉันถึงไม่ยอมที่จะปล่อยป๊อปไปง่ายๆ” พิมดวงตาวาวโรจน์ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะมาพูดถึงเรื่องอะไร
“ถึงจะรู้ว่าพี่ป๊อปเขาไม่มีวันกลับมาหาคุณน่ะเหรอ” พิชชี่ย้อนถามเสียงเยาะ
“อย่าดูถูกความสามารถกันนักสิหนุ่มน้อย นายยังไม่รู้จักฉันดีพอ คนอย่างฉันทำอะไรได้มากกว่าที่นายคิด” พิมยิ้มอย่างเย้ยๆ ก่อนจะผลักอกเขาเบาๆจนเซ แล้วเดินหนีไปทันที พิชชี่มองตามแล้วถอนใจ ดูท่าสิ่งที่เขาพยามจะทำคงไม่ได้ผลแฮะ ขอโทษด้วยก็แล้วกันนะครับ... พี่ชาย
.
.
.
.
.
“เดี๋ยวฟาง จะไปไหน” จินนี่รีบคว้าแขนเพื่อนไว้ เมื่อจู่ๆฟางก็ลุกพรวดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“เอ่อ... ไปเข้าห้องน้ำน่ะ เดี๋ยวมานะ” หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนจะเดินออกจากกลุ่มไปทันที
“อะไรของเขา ทำไมท่าทางรีบร้อนจัง” หวายมองตามหลังเพื่อนไปอย่างสงสัย
“จะอะไรซะอีกล่ะครับ ตัวต้นเหตุมานี่แล้วไง” เขื่อนพูด เป็นจังหวะเดียวกับที่ป๊อปปี้เดินมาถึงโต๊ะพอดี สาวๆจึงร้องอ๋อออกมาพร้อมกันอย่างเข้าใจ ที่แท้ยัยเพื่อนตัวแสบก็หนีหน้าพี่ป๊อปนี่เอง
“มีอะไรกันรึเปล่า ทำไมถึงมองหน้าพี่แบบนั้นล่ะ” ป๊อปปี้ถามขึ้นอย่างเก้อๆ เมื่อเห็นกลุ่มสาวๆมองมาที่เขาแล้วเอาแต่อมยิ้ม
“พี่ป๊อปนั่นแหละค่ะ ไปทำอีท่าไหนถึงทำให้ยัยฟางงอนตุ๊บป่องหนีไปแบบนี้ล่ะคะ” ร่างสูงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ
“ก็... นิดหน่อยน่ะ แล้วนี่ฟางไปไหนแล้วอ่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อมองไปรอบๆก็ไม่เห็นวี่แววของคนตัวเล็กเลย
“ไปห้องน้ำน่ะค่ะ พี่ป๊อปจะตามไปด้วยมั้ยคะ?” เฟย์ถามอย่างขำๆ
“ไม่เป็นไรหรอก รอฟางออกมาก็ได้” ป๊อปปี้ตอบยิ้มๆ รู้ตัวว่าโดนแซวที่พักนี้ฟางไปไหนต้องมีเขาตามไปด้วยเป็นเงาติดตัวตลอด เรียกว่าไม่ให้คลาดสายตาเลยทีเดียว
“อ้าว! แล้วนี่ตัวช่วยของมึงหายไปไหนซะแล้วล่ะไอ้ป๊อป หรือว่าจะโดนยัยอสรพิษนั่นงาบไปกินซะแล้ว” เขื่อนพูดขึ้นอย่างติดตลก เมื่อไม่เห็นพิชชี่เดินตามเพื่อนมาด้วย
“โห่พี่เขื่อน อย่าแช่งผมแบบนั้นสิพี่ ผมไม่อยากมีแฟนแก่อ่ะ” พิชชี่ที่เดินมาทันได้ยินประโยคของเขื่อนส่งเสียงขึ้นทันที เรียกเสียงหัวเราะจากคนในกลุ่มได้มากโข
“ไอ้เราก็เห็นว่าหายไปนาน นึกว่าจะเปลี่ยนรสนิยมซะแล้ว” แก้วแซวขึ้นบ้าง พิชชี่ส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะหันไปทางป๊อปปี้
“นี่พี่ป๊อป เสร็จงานนี้แล้วอย่าลืมเลี้ยงข้าวผมด้วยนะ เมื่อกี้โดนยัยนั่นพ่นพิษใส่ เกือบตายแน่ะ”
“ขอบใจมากไอ้น้อง รับรองไม่ลืมแน่” ป๊อปปี้ยิ้มรับ
“แล้วนี่พิมไม่ตามมึงมาด้วยเหรอไอ้ป๊อป ยัยนั่นไม่น่าจะปล่อยมึงมาง่ายๆนะ” โทโมะที่เงียบมาตลอดพูดขึ้นบ้าง
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ” ป๊อปปี้ส่ายหน้า ก่อนจะหันไปมองหน้าพิชชี่ “ว่าไงไอ้พิช”
“เมื่อกี้ผมก็เห็นยัยเจ๊นั่นเดินมาทางนี้แล้วนะ แต่หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”
“เอาเหอะนา แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอไง ให้ไอ้ป๊อปมันได้หายใจหายคอหน่อย เมื่อกี้ตอนนั่งอยู่กับพิมทำหน้าเหมือนคนไม่ได้ถ่ายมาเจ็ดวัน” เขื่อนพูดเรียกเสียงหัวเราะได้อีกรอบ
“มึงลองมาเป็นกูบ้างไหมล่ะ จะได้รู้สึก” ป๊อปปี้ย้อน แต่เขื่อนส่ายหน้าพรืดทันที
“ไม่เอาหรอก กูมีคนที่กูชอบอยู่แล้ว”
ฮิ้ววววววว~~~~~~~ ทุกคนในโต๊ะพร้อมใจกันโห่เชียร์ทันที เล่นเอาเฟย์ที่นั่งอยู่ข้างๆแก้วถึงกับหน้าแดงแปร๊ด เพราะเขื่อนไม่ได้พูดเปล่า กลับส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้เธอด้วยอีกต่างหาก
“ว้า!~~ นี่กลุ่มเราจะมีแฟนไปอีกคนหนึ่งแล้วเหรอเนี่ย” หวายหันมามองหน้าเพื่อนอย่างล้อๆ ยิ่งทำให้เฟย์เขินเข้าไปใหญ่ ต้องหันไปส่งสายตาดุๆให้คนตัวโตแทน
“ใครบอกว่าหนึ่ง สองต่างหาก... ใช่มั้ยครับพี่โทโมะ” พิชชี่หันไปแซวชายหนุ่มรุ่นพี่บ้าง โทโมะคลี่ยิ้มบางๆก่อนจะตอบ
“ไม่รู้สิ... ต้องแล้วแต่เจ้าตัวเขา”
ฮิ้ววววววว~~~~~~ เสียงโห่แซวดังขึ้นอีกระลอก สองสาวอย่างเฟย์และแก้วแทบจะมุดหน้าหนีเข้าไปใต้โต๊ะเพราะความเขิน ได้แต่นิ่งเงียบ ทั้งๆที่ใบหน้ายังร้อนผ่าวๆเหมือนจะเป็นไข้ ท่ามกลางเสียงโห่แซวที่ยังคงดังต่อเนื่องไปหยุด
“แบบนี้สมาชิกคานทองนิเวศของพวกเธอก็หายไปตั้งสองอ่ะดิ น่าสงสารซะจริง ต้องนั่งเล่นอยู่บนคานแค่สองคน” หลังจากแซวคู่ของแก้วเสร็จ พิชชี่จึงย้ายเป้าหมายไปที่หวายและจินนี่บ้าง
“พูดมากน่ะไอ้พิช” หวายฟาดฝ่ามือลงบนกลางหลังเพื่อนหนุ่มทันที เล่นเอาอีกฝ่ายถึงกับจุก
“นายน่ะไปหาแฟนตัวเองมาให้ได้ก่อนเหอะ ถึงค่อยมาเย้ยพวกฉัน” หวายพูด จินนี่แอบยกนิ้วโป้งให้เพื่อนอย่างสะใจ ส่วนพิชชี่ก็... นั่งจุกไปตามระเบียบ
.
.
.
.
.
เม้นๆๆๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ