The painful เธอกับเขา และรักของเรา
เขียนโดย keang_sujittra
วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.28 น.
แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 14.18 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
38) แขกพิเศษ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเย็นวันนั้น
“กูว่า... ไอ้ป๊อปมันอาการหนักกว่ามึงที่เป็นเจ้าของวันเกิดอีกนะเนี่ย” โทโมะพูดขึ้น
“กูก็ว่างั้น” เขื่อนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เมื่อเห็นป๊อปปี้ที่เอาแต่เดินไปเดินมาจนเขากับโทโมะถึงกับมึน
“นั่งก่อนดีมั้ยไอ้ป๊อป ต่อให้มึงเดินจนขาลาก มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรนะเว้ย” โทโมะพูด ป๊อปปี้หันมามอง ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวข้างๆ ด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“แล้วมึงจะให้กูทำยังไงล่ะ มึงเข้าใจมั้ยเนี่ยว่ากูเครียด!”
“เออ กูเข้าใจ แต่มึงจะเครียดไปทำไมวะ ในเมื่อสิ่งที่มึงจะทำน่ะมันถูกต้องที่สุดแล้ว ไว้รอให้น้องฟางมีกิ๊กนู่น มึงถึงค่อยเครียด” เขื่อนพูด เลยโดนป๊อปปี้ฟาดฝ่ามือใส่ทันที
“นี่มึงแช่งกูเหรอ ระวังเหอะ กูจะแช่งกลับขอให้น้องเฟย์มีแฟนแล้ว” ป๊อปปี้ว่ากลับบ้าง เลยกลายเป็นว่าแทนที่สถานการณ์จะดีขึ้นกลับกลายเป็นสองหนุ่มที่มานั่งทำสงครามกันทางสายตาแทน
“เออ จ้องกันเข้าไป จ้องกันนานๆท้องขึ้นมากูไม่รับผิดชอบนะเว้ย” โทโมะที่นั่งอยู่ตรงกลางพูดขึ้นอย่างขำๆ สองหนุ่มหันขวับมามองหน้าเพื่อนตาขวางทันที
“มึงจะบ้าเหรอ คนนะเว้ยไม่ใช่ปลากัด จ้องกันแล้วจะท้อง” ป๊อปปี้ว่า
“นั่นดิ หรือถ้ากูสองคนเป็นปลากัดจริงๆนะ ให้นั่งจ้องไอ้ป๊อปทั้งชาติกูก็ไม่มีอารมณ์จะทำให้มันท้องหรอก” เขื่อนพูดบ้าง
“ไอ้...” ป๊อปปี้อ้าปากจะด่า แต่โดนโทโมะเบรกไว้ซะก่อน จึงได้แต่ฮึดฮัดอย่างขัดใจ
“กัดกันเป็นหมาเลยนะพวกมึง โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วยังจะกัดกันอีก” โทโมะว่า
“แต่ไอ้เขื่อนมันมาแช่งกูก่อนนะเว้ย” ป๊อปปี้โวย
“มึงก็แช่งกูกลับเหมือนกันแหละ” เขื่อนว่าบ้าง สองหนุ่มตั้งท่าจะทำสงครามกันต่อ โทโมะส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้
“เฮ้ย! สาวๆมาแล้ว” โทโมะร้องขึ้น ได้ผล สองหนุ่มพร้อมใจกันหันไปมองทันที
“ไหนวะ? ไม่เห็นมีเลย” เขื่อนพูดเพราะชะเง้อดูจนคอยาวก็ไม่เห็นใครเลยสักคน
“ไอ้โมะ นี่มึงหลอกพวกกูเหรอ!” ป๊อปปี้หันมามองหน้าเพื่อนอย่างเอาเรื่องเมื่อรู้ตัวว่าโดนหลอก โทโมะยักไหล่อย่างไม่แคร์
“ช่วยไม่ได้ ก็พวกมึงอยากทะเลาะกันเองทำไมล่ะ” โทโมะพูด ก่อนจะมองหน้าเพื่อนอย่างกวนๆ “แล้วกูก็ได้รู้ว่า พวกมึงกลัวสองสาวนั่นยิ่งกว่าแม่ซะอีก” เขื่อนหันไปมองหน้าป๊อปปี้อย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันไปมองหน้าโทโมะแล้วทำตาโต
“อ้าว! น้องแก้ว หวัดดีครับ”
“เฮ้ย! ไหนๆ แก้วมาแล้วเหรอ!” โทโมะผุดลุกขึ้นมองทันที สองหนุ่มพากันขำกลิ้งเมื่อเห็นท่าทางเพื่อน โทโมะเริ่มรู้ตัวจึงหันมามองเพื่อนตาขุ่นที่โดนหลอก
“ไอ้พวกบ้า! หลอกกันแบบนี้ได้ไงวะ” โทโมะนั่งลงอย่างอารมณ์เสียเมื่อรู้ว่าโดนหลอกเข้าเต็มเปา
“เป็นไงล่ะ ว่าแต่คนอื่น มึงน่ะหัวหดเหมือนอยู่ในกระดองเลยนะเว้ย” เขื่อนพูด ก่อนจะหัวเราะต่อ แต่แล้วก็ต้องอ้าปากค้าง ป๊อปปี้เองก็เช่นกัน
“เอ่อ... น้องแก้ว มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย” ป๊อปปี้พูด โทโมะมองหน้าเพื่อนแล้วส่ายหน้า
“มุขเดิมไอ้ป๊อป ไม่ต้องเล่น ไม่ขำแล้วเว้ย”
“มุข? มุขอะไรกันเหรอคะ พี่เขื่อน พี่ป๊อป” อีกเสียงหนึ่งส่งเสียงถามขึ้น โทโมะชักสีหน้าอย่างหงุดหงิด
“ก็มุข... เฮ้ย!!!” โทโมะลุกพรวดทันที เพราะเสียงนั่นฟังยังไงก็ไม่ใช่เสียงเพื่อนเขาแน่นอน ก่อนจะยกมือขึ้นลูบคอตัวเองอย่างเก้อๆ เมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร
“มีอะไรกันเหรอแก้ว” ฟางที่เดินเข้ามาพร้อมกับเฟย์ จินนี่ หวายและพิชชี่ถามขึ้น
“ไม่รู้ดิ” แก้วพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าสามหนุ่มอย่างสงสัย “เมื่อกี้ตอนเข้ามา เห็นพวกพี่ป๊อปนั่งหัวเราะกันอยู่อ่ะ แต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้”
“หัวเราะอะไรกันเหรอคะพี่ป๊อป” ฟางหันมาถามแฟนตัวเองบ้าง ป๊อปปี้อ้าปากจะตอบ แต่โดนทั้งเขื่อนและโทโมะตะครุบปิดปากไว้ซะก่อน
“คือ... คือพวกพี่กำลังนั่งเถียงกันอยู่น่ะครับ ว่าน้องฟางจะมารึเปล่า ใช่มั้ยไอ้ป๊อป” เขื่อนพูด ประโยคท้ายหันไปมองหน้าเพื่อนเชิงบังคับ ป๊อปปี้จึงยอมพยักหน้า นั่นแหละ สองหนุ่มถึงได้ปล่อยป๊อปปี้ให้เป็นอิสระ
“คือไอ้สองคนนี่มันกลัวว่าเฟย์กับแก้วจะไม่มาน่ะก็เลยแกล้งพี่” พอปากเป็นอิสระ ป๊อปปี้ก็หันไปฟ้องกลุ่มสาวๆทันที เล่นเอาสองหนุ่มที่ถูกพูดถึง ถึงกับเต้น
“ไอ้ป๊อป!!!”
“ป่ะฟาง เดี๋ยวพี่พาไปที่โต๊ะ” ป๊อปปี้รีบชิ่งทันที โดยไม่ลืมที่จะลากฟางมาด้วย ปล่อยให้เพื่อนอีกสองคนยืนทำหน้าไม่ถูกอยู่ตรงนั้น
“นี่เฮีย ตกลงวันเกิดเฮียจริงๆรึเปล่าเนี่ย ไม่คิดจะชวนแขกไปนั่งบ้างเหรอไง ผมเมื่อยล่ะนะ” พิชชี่พูดขึ้น เขื่อนหันไปมองชายหนุ่มรุ่นน้องตาขวาง
“เออๆ รู้แล้วล่ะนา รู้แบบนี้ไม่น่าชวนแกมาด้วยเลยจริงๆ” เขื่อนว่า ก่อนจะเดินนำทั้งหมดไปยังโต๊ะที่เตรียมไว้ ปิดท้ายด้วยโทโมะที่เดินตามมาเงียบๆ ส่วนคู่ของป๊อปปี้และฟาง ก็หายวับไปจากกลุ่มอย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครได้ทันสังเกต
.
.
.
.
.
“พี่ป๊อปๆ เดี๋ยวสิคะ พี่จะพาฟางไปไหนเนี่ย” ฟางรีบขืนตัวเองไว้ก่อนที่จะโดนชายหนุ่มลากไปไกลกว่านี้ ป๊อปปี้ยอมหยุดโดยดีก่อนจะหันมาตอบ
“อ้าว! ก็ถ้าพี่ไม่ชิ่งออกมาแบบนี้พี่ก็โดนไอ้สองตัวนั่นกระทืบอ่ะดิ” ชายหนุ่มพูด ก่อนจะยิ้มกว้าง
“ยิ้มอะไรคะพี่ป๊อป มีอะไรน่าตลกเหรอ?” หญิงสาวเอียงคอถามอย่างสงสัย ก่อนจะก้มลงสำรวจตัวเอง วันนี้เธอก็แต่งตัวปกตินี่หว่า แล้วพี่ป๊อปยิ้มทำไมเนี่ย
“ขอบคุณนะครับ” ประโยคถัดมายิ่งทำให้หญิงสาวมึนเข้าไปใหญ่
“เรื่องอะไรคะ? นี่พี่ป๊อปกินยาผิดขวดรึเปล่าเนี่ย อยู่ๆก็ลากฟางออกมา อยู่ๆก็ยิ้มคนเดียว แล้วยังจะมาขอบคุณอีก ไม่สบายรึเปล่าคะ” หญิงสาวพูดพลางเอื้อมมือไปแตะหน้าผากอีกฝ่ายเป็นการวัดไข้ “ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา”
“พี่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” ชายหนุ่มว่าก่อนจะจับมือหญิงสาวมากุมไว้ “ขอบคุณนะครับ ที่ยอมใส่สร้อยพี่”
หญิงสาวชะงัก ก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“ก็... ก็อุตส่าห์มีคนซื้อให้นี่นา ถ้าฟางไม่ใส่เดี๋ยวคนใจน้อยแถวนี้จะน้อยใจเอาอีก ขี้เกียจง้อค่ะ” หญิงสาวยู่หน้าใส่ เลยโดนชายหนุ่มบีบจมูกเข้าให้อย่างหมั่นเขี้ยว
“คนปากแข็ง อยากใส่ก็บอกมาเหอะ พี่ไม่ได้จะเอาคืนสักหน่อย”
“อื้อออ พี่ป๊อปอ่ะ บีบทำไมเนี่ย ถ้าเกิดจมูกหักไปมีแฟนไม่สวยนะจะบอกให้”
“ไม่เห็นแคร์เลย จะสวยไม่สวย ยังไงฟางก็เป็นแฟนพี่คนเดียวอยู่แล้ว”
“พี่ป๊อปบ้า!” ฟางซัดเผี้ยะเข้าที่มือชายหนุ่มทันที ก่อนจะชะงักเพราะรู้สึกถึงความผิดปกติ แล้วก็เป็นดังคาด เพราะสายตาดันเหลือบไปเห็นร่างสูงโปร่งของใครอีกคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
“พี่ป๊อปคะ....” เอ่ยเรียกแฟนหนุ่มเสียงแผ่ว จนร่างสูงต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“มีอะไรเหรอฟาง” ชายหนุ่มเอ่ยถาม ก่อนจะหันไปมองตามสายตาของร่างเล็ก แล้วก็นิ่ง
“อ้าวพิม มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” ชายหนุ่มเอ่ยทักเสียงเรียบ เป็นอย่างที่ไอ้เขื่อนบอกจริงๆด้วยแฮะ
“เมื่อกี้นี้เอง เห็นเขื่อนบอกว่าป๊อปหายไปไหนก็ไม่รู้นานแล้วพิมก็เลยออกมาตาม ที่แท้ก็อยู่กับน้องฟางนี่เอง” อีกฝ่ายพูดยิ้มๆ แต่สายตาไม่ได้ยิ้มตามคำพูดไปด้วย ดวงตาคู่สวยเริ่มมีแววขุ่นเคืองตั้งแต่ตอนที่เห็นร่างสูงอยู่กับผู้หญิงคนอื่นแล้ว ยิ่งเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นคือฟางด้วยแล้วก็ยิ่งไม่สบอารมณ์มากขึ้นไปอีก
“อืม สงสัยป๊อปคงจะคุยกับฟางเพลินไปหน่อยน่ะ ลืมดูเวลาเลย” ชายหนุ่มพูด พิมยิ้มหวานให้ ก่อนจะเอ่ยชวนอีกฝ่ายให้เข้าไปในร้านด้วยกัน แต่โดนร่างสูงปฏิเสธ
“พิมเข้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวป๊อปตามไป ป๊อปยังมีเรื่องจะคุยกับฟางอีกนิดหน่อย”
“คุยกับน้องฟางเหรอ?” พิมหันมามองหน้าฟาง ความไม่พอใจคุกรุ่นขึ้นมาจนแทบจะปิดไม่มิด ใช่ผู้หญิงคนนี้จริงๆสินะที่กำลังจะแย่งป๊อปไปจากเธอ แล้วสายตาก็ต้องสะดุดลงเมื่อเห็นมือของคนทั้งสองที่ยังจับกันไว้แน่น ฟางที่เห็นสายตาของอีกฝ่ายก็ทำท่าจะดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุม แต่ร่างสูงข้างๆกายก็ยังจับไว้แน่น
“ใช่ เรื่องสำคัญเลยล่ะ” ป๊อปปี้พูดยิ้มๆ ฟางหันไปมองร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ นี่เขาคิดจะทำอะไรของเขากันน่ะ ก็ไหนบอกว่ายังไม่อยากให้พี่พิมรู้เรื่องนี้ไง แล้วมาจับมือให้เห็นแบบนี้พี่พิมจะคิดยังไงเนี่ย
“เอางั้นก็ได้ แต่อย่าลืมตามมานะป๊อป พิมรออยู่นะ” พิมตัดสินใจถอย รู้ตัวว่ายกนี้เธอเป็นคนแพ้ แต่เธอไม่มีทางให้มันจบง่ายๆหรอก ยกต่อไปคนชนะต้องเป็นเธอ!
“พี่ป๊อป! ทำอะไรของพี่น่ะ” ฟางหันมาส่งเสียงแหวใส่ชายหนุ่มทันทีที่ลับร่างพิม
“ทำอะไร?” ร่างสูงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้จนฟางหงุดหงิด
“ก็ไหนพี่เคยบอกฟางว่าไม่อยากให้พี่พิมรู้เรื่องของเราตอนนี้ไง แล้วพี่มาจับมือฟางให้พี่พิมเห็นแบบนั้น ไม่กลัวพี่พิมจะคิดมากเหรอไง” ชายหนุ่มถอนหายใจ เขาล่ะกลัวจริงๆเลยเวลาที่ฟางมีความคิดเป็นผู้ใหญ่แบบนี้น่ะ
“พิมเขาไม่ใช่เด็กแล้วนะฟาง เขาควรจะแยกแยะได้แล้วว่าอดีตกับปัจจุบันน่ะมันคนละเรื่องกัน” ฟางเงียบ
ในฐานะผู้หญิงด้วยกันเธอยอมรับว่ารู้สึกสงสารถ้าเกิดรู้ว่าพี่พิมรู้เรื่องระหว่างเธอกับพี่ป๊อป แต่อีกใจหนึ่งเธอก็อยากให้พี่ป๊อปบอกความจริงไปเหมือนกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้หึงไม่ได้หวงพี่ป๊อปเลยสักหน่อย เพื่อนๆในกลุ่มเธอต่างรู้ดีว่าเธอเป็นคนขี้หึงแค่ไหน แต่เพราะรู้จักชายหนุ่มดี รู้ว่าเขาไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับชีวิตส่วนตัวเขามากไป เธอจึงพยายามที่จะไม่ทำให้เขาต้องไม่สบายใจ แต่การที่เธอเฉย ก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรเลยที่มีผู้หญิงคนอื่นมาวุ่นวายกับแฟนตัวเองหรอกนะ
“เฮ้อ! ทำไมต้องเอาเรื่องนี้มาพูดให้เสียบรรยากาศด้วยเนี่ย หมดอารมณ์โรแมนติกเลย” ร่างสูงว่า ก่อนจะแกล้งทำหน้าเบ้ ฟางเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเบ้หน้าใส่บ้าง
“ชิส์! ผู้ชายก็แบบเนี้ย อะไรๆก็ให้ผู้หญิงผิดหมดนั่นแหละ”
“อะไรเล่า พี่ยังไม่ได้บอกสักคำว่าฟางผิด ไม่เอาแล้ว ไม่พูดเรื่องนี้และ เข้าไปข้างในกันเหอะ ป่านนี้ไอ้เขื่อนมันบ่นเป็นคุณทวดไปแล้วมั้งเนี่ย” ป๊อปปี้พูด ก่อนจะคว้าข้อมือเล็กดึงให้เดินไปด้วยกัน แต่ฟางขืนตัวไว้
“อะไรอีกล่ะครับคุณผู้หญิง”
“พี่ป๊อปยังมีอะไรที่ไม่ได้บอกฟางอีกมั้ยคะ?”
“ฟางสงสัยอะไรเหรอ? เรื่องที่เห็นพิมวันนี้รึเปล่า?”
“ไม่หรอกค่ะ เพราะถึงฟางจะถามไป เดี๋ยวพี่ป๊อปก็บอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญอีกนั่นแหละ” ร่างสูงอมยิ้มเมื่อได้ยินที่หญิงสาวพูด
“แล้วเรื่องอะไรล่ะ?”
“พี่กับพวกพี่เขื่อนวางแผนจะทำอะไรกันอีกรึเปล่าคะ บอกฟางได้มั้ย” ฟางจ้องหน้าแฟนหนุ่มอย่างรอคำตอบ แต่ชายหนุ่มกับยักไหล่น้อยๆอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะตอบ
“เรื่องที่พี่จะทำน่ะ มีแน่ครับ” ชายหนุ่มพูด ก่อนจะบีบมือหญิงสาวเบาๆ “แต่พี่ยังบอกฟางไม่ได้”
“ทำไมล่ะคะ ทำไมจะบอกฟางไม่ได้อ่ะ” หญิงสาวเริ่มหน้างอ เรื่องอะไรมันจะสำคัญขนาดนั้นกันเชียว อยากจะรู้จริงๆ
“เพราะว่ามันเป็นความลับไงล่ะ” หญิงสาวหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ ยิ่งเห็นร่างสูงทำหน้าเจ้าเล่ห์แบบนี้ด้วยแล้วยิ่งไม่น่าไว้ใจเข้าไปใหญ่
“เกี่ยวกับเรื่องของเราด้วยรึเปล่าคะ?”
“ก็... เกี่ยวครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะพูดต่อ “แต่พี่สัญญานะ ว่าสิ่งที่พี่จะทำก็เพื่อความรักของเรา พี่จะไม่ทำให้ฟางลำบากใจอีก เชื่อพี่นะครับ”
“โอเคค่ะโอเค ไม่บอกก็ไม่บอก” ฟางจำต้องพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ ลงแบบนี้ต่อให้เธอเค้นให้ตายยังไงพี่ป๊อปก็ไม่มีวันบอกเธอแน่ แล้วเธอก็ไม่ได้อยากจะทะเลาะกับเขามากนักหรอกนะ
“ขอบคุณนะครับ งั้นเราเข้าไปข้างในกันดีกว่า ฟางจะได้เป็นเกราะกันภัยให้พี่ด้วย เผื่อไอ้เขื่อนกับไอ้โมะมันบ้าเลือดวิ่งไล่เตะพี่ขึ้นมาอีก” ชายหนุ่มเอ่ยติดตลก ฟางเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะโดนร่างสูงดึงให้เดินเข้าไปในร้านด้วยกัน
.
.
.
.
.
“กว่าจะมาได้นะครับคุณชาย มึงพาน้องฟางไปไหนมาเนี่ยไอ้ป๊อป นานซะ!” เขื่อนทักขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าเพื่อนรัก
“เอ้า! คนเป็นแฟนกันจะไปสวีทกันบ้างไม่ได้เหรอไงล่ะครับ คุณเขื่อนอิจฉากระผมเหรอไง” ป๊อปปี้พูดอย่างกวนๆ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาโดยไม่ลืมดึงฟางลงมานั่งข้างๆด้วย ไม่ทันสังเกตเห็นพิมที่เดินถือถาดขนมเข้ามาพอดี
เขื่อนหันไปเห็นพิมจึงแกล้งแซวต่อว่า “เออซิวะ ก็มึงเล่นหวานกับน้องฟางขนาดนี้ เพลาๆลงบ้างก็ได้นะเพื่อน เดี๋ยวคนโสดอย่างกูกับไอ้โมะจะอกแตกตายซะก่อน”
“สมน้ำหน้า ไอ้คนนึงก็กะล่อนปลิ้นปล้อนลื่นเป็นปลาไหล อีกคนนึงก็นิ่งซะเป็นเจ้าชายน้ำแข็งไม่ยอมหาแฟนสักที” ป๊อปปี้ว่า แต่เขื่อนกลับยิ้มร่า
“งั้น... เดี๋ยวกูไปหาแฟนบ้างดีกว่า จะได้ไม่อิจฉาคู่ของมึงกับน้องฟาง” ป๊อปปี้หรี่ตามองอย่างสงสัยกับท่าทางที่ออกจะลิงโลดมากเกิดปกติของเพื่อน แล้วก็เข้าใจเมื่อเห็นพิมที่ยืนเงียบอยู่ข้างหลังเขื่อน
“ไอ้เขื่อน” ชายหนุ่มส่งเสียงปรามเพื่อน เขื่อนยิ้มยั่วอย่างไม่สะทกสะท้านก่อนจะเดินลิ่วไปยังโต๊ะของกลุ่มพิชชี่ที่มีโทโมะนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ปล่อยให้เพื่อนเคลียร์ปัญหาตามลำพัง
“มีวันไหนบ้างมั้ยวะเนี่ยที่มึงจะไม่สร้างปัญหาให้กูน่ะไอ้เขื่อน” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าแฟนสาวเมื่อโดนสะกิด
“ชวนพี่พิมนั่งหน่อยสิคะพี่ป๊อป เสียมารยาท” ฟางกระซิบเบาๆ ชายหนุ่มจึงจำต้องเบนสายตาไปหาหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ยืนมองอยู่
“นั่งก่อนสิพิม”
“ขอบคุณนะป๊อป” พิมยิ้มออกมาทันทีเมื่อได้ยินชายหนุ่มชวน หลังจากเผลอหน้าบึ้งไปนานกับคำพูดของเขื่อน เธอจัดการนั่งลงข้างๆร่างสูงทันที
“พิมเอาขนมมาให้อ่ะ ลองกินดูสิ เห็นเขาบอกว่าอร่อย” หญิงสาวว่าพลางหยิบขนมขึ้นมาป้อน
“เอ่อ เดี๋ยวป๊อปกินเองก็ได้ พิมไม่ต้องป้อนหรอก” ชายหนุ่มรีบพูด ไม่ได้เกรงใจนะ แต่ลำบากใจกับสายตาของคนตัวเล็กที่กำลังมองมาต่างหาก แอบเคืองเพื่อนตัวเองเล็กน้อยที่ทิ้งให้เขาต้องนั่งอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
“ไม่เห็นเป็นไรเลยป๊อป เมื่อก่อนพิมก็ป้อนป๊อปออกจะบ่อย” พิมว่า แล้วจัดการให้ชายหนุ่มกินขนมที่เธอป้อนจนได้ ก่อนจะหันไปทางฟาง
“กินด้วยกันมั้ยคะน้องฟาง พี่แบ่งให้ แต่อย่าเอาไปหมดนะคะ เพราะว่าขนมนี่พี่ชอบมาก พี่หวง” ฟางมองจานขนมที่ถูกส่งมายังเธอ สลับกับเจ้าของใบหน้าหวานแล้วยิ้ม รู้ถึงความนัยที่อีกฝ่ายตั้งใจส่งถึงเธอ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่พิม ฟางยังไม่ค่อยอยากทานเท่าไหร่ เดี๋ยวถ้าฟางหิวฟางค่อยกินก็แล้วกันนะคะ เพราะว่าฟางกินเองได้... ไม่ต้องมีคนป้อน” ประโยคท้ายทำเอาคนถูกเหน็บถึงกับสำลัก ขนมติดคอจนต้องดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่
“ตายแล้วป๊อป เป็นอะไรมากรึเปล่าเนี่ย อยู่ๆก็สำลักไปเฉยเลย” พิมหันไปหาร่างสูงอย่างเป็นห่วง ป๊อปปี้ทำได้แค่โบกมือบอกว่าไม่เป็นอะไร ทั้งๆที่ยังสำลักจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด ฟางมองท่าทางของชายหนุ่มแล้วแอบเบ้หน้า อาการแบบนี้มันร้อนตัวชัดๆนี่นา
“ฟางขอตัวก่อนนะคะ ไม่อยากเป็นก้างขวางคอ” หญิงสาวพูดก่อนจะลุกเชิดไปยังกลุ่มเพื่อน ไม่แม้แต่จะชายตามองชายหนุ่มที่ได้แต่นั่งมองตามตาละห้อย
“ฟาง เดี๋ยวก่อนสิ” ชายหนุ่มลุกทำท่าจะตาม แต่พิมที่รู้ทันอยู่ก่อนแล้วดึงแขนชายหนุ่มให้นั่งลงอีกครั้งก่อนจะเลื่อนจานขนมมาตรงหน้า
“ป๊อปกินนี่หน่อยสิ เขาพึ่งอบเสร็จใหม่ๆเลยนะ ท่าทางจะน่าอร่อย”
“ไม่เป็นไรหรอกพิม ป๊อปอิ่มแล้ว”
“อะไรกันน่ะป๊อป พึ่งกินไปได้คำเดียวเองนะจะอิ่มได้ไง กินหน่อยน้า” หญิงสาวยังคงอ้อนต่อ ชายหนึ่งจึงต้องอ้าปากรับอย่างเสียไม่ได้ ทั้งที่ในใจกำลังวุ่นหนัก ไม่รู้ป่านนี้ยัยแสบจะงอนไปถึงไหนแล้ว ดูท่าทางก็รู้ คราวนี้งอนจริงไม่อิงนิยายแน่นอน
.
.
.
.
.
เม้นๆๆๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ