fic taokacha
10.0
เขียนโดย onni
วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.00 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
13.61K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 16.47 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) รู้ใหม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ.....แอบมองสายตาของเธออยู่ อยากรู้เธอคิดยังกับฉัน.....
"คชาๆรู้ใหมเวลาที่หนูยิ้มน่ะ มันทำให้โลกดูสดใสมากเลยรู้ใหม"เสียงของครูใหญ่บอกผมในขณะที่พวกเรากำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่โต๊ะกินข้าวของบ้านล่าฝัน เพื่อรอเข้าคลาสเรียนต่อไป และยังมีเสียงต่างๆนาๆที่พากันพูดถึงอาการหน้านิ่งของผม จนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับผมที่ถูกจับจองด้วย"เพื่อนสนิท"ที่สุดในบ้านของผม ผิวขาวสว่างอย่างที่หลายคนอิจฉานั่งมองผมอยู่ตรงกันข้ามพร้อมกับพูดอะไรบ้างอย่างๆที่ในหูผมไม่ได้ยินเสียงใดๆนอกจากรอยยิ้มของคนผิวสว่าง จนคนที่เพื่อนๆในบ้านล่าฝันต่างขนานนามว่า"หนาเดียว" อย่างผมก็อดไม่ได้ที่จะแย้มรอยยิ้มออกมาอย่างช้าๆ ก่อนจะตกใจที่ใครหลายคนต่างรอบข้างต่างหัวเราะเพราะได้ยินเสียง ครูเอ๋พูดออกมาว่าผมต้องยิ้มแบบนี้สิถึงจะใช้ได้ แต่จะมีซักกี่คนละครับที่รู้ว่าความจริงแล้วรอยยิ้มที่แย้มออกมานั้นแท้จริงเกิดจากอะไร นอกจากผมคนเดียว
.....คิดว่าเป็นแค่เพื่อนกัน หรือมีอะไรปิดบังไว้.....
"อ้าวคชาไปไหนมาอ่ะ ไปรอที่สระน้ำตั้งนาน"น้ำเสียงตัดพ้อทำเอาผมรู้สึกจุกนิดๆบริเวณอก อย่างที่ตอบอะไรออกไปไม่ได้และไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกไปเพราะตอนนี้เสียงที่ดังก้องอยู่ในหัวทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองได้ใหมว่าเขาก็"แคร์"ผมเหมือนกัน
"อ่ะ..ฮ่ะ"มันคงจะเป็นอะไรที่แปลกและงี่เง่าที่สุดเมื่อเสียงที่ผมเปล่งออกไปไม่ได้เป็นแม้กระทั่งคำตอบของคำถาม อย่างที่คนถามได้แต่ยู่ปากน้อยๆแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องอาบน้ำไป แต่หัวใจของผมนี่สิกลับเต้นเสียงดังอย่างที่กลัวว่าคนชงตัวแม่ที่นั่งอยู่บริเวณนั้นจะได้ยินเสียงด้วย
.....สบตาของเธอกับฉันหน่อย อย่างน้อยให้พอมีหวังได้ใหม
ช่วยมองตอบฉันอย่างตั้งใจ ให้ใจฉันได้สัมพัสใจเธอ.....
ผมนั่งเหม่อน้อยๆอยู่ริมสระน้ำของบ้านเพื่อทบทวนคำพูดของคนบ้างคนที่แม้จะเรียบเฉย แต่ก็เต็มไปความน้อยใจ ความน้อยใจของเพื่อนที่ผมควรจะนั่งเครียดที่ผิดคำสัญญากับมัน แต่ทำใมตอนนี้ใบหน้าของผมกลับแย้มยิ้มอย่างที่หลายๆคนอยากเห็นนักหนาพร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นดังกระหน่ำจนอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นไปกดมันเบาๆ หรือเพราะหัวใจดวงนี้มันไม่รักดี ที่ไม่คิดว่าคนขี้น้อยใจนั้นเป็นเพียงเพื่อนแค่เพื่อนเท่านั้น ผมมาตามหาความฝันที่พยายามจะสานให้สำเร็จมาหลายปีและหลายที่อย่างไม่ลดละความฝัน จนกระทั่งปีที่สามของผมกับเวทีล่าฝันแห่งนี้ของผม ที่ผมไม่มีความมั่นใจซะนิดว่าครั้งนี้ผมจะทำสำเร็จหรือป่าว แม้กระทั่งตอนนี้ที่ผมติดในแปดคนสุดท้ายนั้นผมก็ยังคิดว่ามันเป็นเพียงความฝัน หลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมเริ่มท้อกับความฝันของตัวเองจนอย่างจะหยุดแล้วเริ่มจะยอมแพ้ กับความกดดันของตัวเองภายในบ้าน ผมคงจะแพ้ไปนานแล้วถ้าไม่มีมือแกร่งคู่นั้นที่คอยพยุงผมทุกครั้งที่เราอยู่บนเวทีแห่งเสียงเพลงด้วยกัน
"ทำใมยังไม่ขึ้นไปนอน เดี๋ยวก็โดนครูใหญ่ดุหรอก"เสียงห้วนๆดังขึ้นข้างหลังทำให้ผมหันไปก็พบกับคนที่วนเวียนอยู่ในความคิดของผมตลอดเวลา
"กำลังจะขึ้นไปแล้ว แล้วเต๋าละทำใมยังไม่นอนไม่กลัวครูใหญ่หรอ"ผมถามพร้อมกับยิ้มให้กับคนตรงหน้าบางๆความจริงผมก็เป็นคนที่ยิ้มง่ายนะแต่ก็ไม่มากคนนักหรอกที่จะได้เห็น แต่สำหรับคนๆนี้ที่มีความหมายต่อผมเสมอ ไม่รู้ทำใมผมถึงอยากยิ้มให้เขาตลอดเวลา ผมมองคนตรงหน้าที่ยกมือเกาคอตัวเองอย่างที่เพลอทำเป็นประจำเพื่อแก้เขิน
"นี่ไงละจะไปแล้ว แล้วก็ลุกได้แล้วคชาไปนอนเดี๋ยวนี้เดี๋ยวก็ถูกครูใหญ่ทำโทษหรอก"เต๋าพูดเสียงรัวพร้อมกลับไม่วายสั่งให้ผมที่นั่งแช่อยู่ลุกขึ้นทันทีเพื่อเดินตามหลังคนที่เดินอยู่ด้านหน้าด้วยรอยยิ้มที่ใครมาเห็นตอนนี้แล้วละก็อาจจะบอกได้ว่าเป็นรอยยิ้มที่หวานที่สุดก็ได้
.....จากเพื่อนที่รู้จักเป็นคนที่รู้ใจ เมื่อความรู้สึกมันเปลี่ยนไปจะทำยังไงก็ไม่เหมือนเดิม
รู้ใหมในวันนี้ไม่เหมือนเก่า รู้ใหมใครแอบเหงาคิดถึงเธอ
รู้ใหมอยากบอกรักแต่กลัวเก้อ ทนไม่ไหว ได้แต่ห้ามใจ
ไม่ให้รักเธอ.....
แต่ถ้าคุณรู้แล้วว่าผมใจสั่นเมื่ออยู่ใกล้ใคร
ยิ้มได้หวานที่สุดเพียงเพราะใครบ้างคนจะนอนไม่หลับถ้าคนที่นอนข้างๆยังไม่ขึ้นไปเสียทีจนต้องลงมาตาม
รบกวนบอกเขาหน่อยนะครับว่า "เพื่อน"คนนี้กลัวเหลือเกินว่าวันหนึ่ง อะไรที่มันอยู่ข้างในอาจออกมาได้ง่ายดายถ้าเขายังทำตัวแสนดีอยู่ข้างกันแบบนี้ ช่วยบอกเค้าหน่อยนะครับว่าอย่าใจร้ายให้ความหวังผมนักเลย เพราะในเมื่อผมคนนี้คิดกับเขาไปไกลเกินกว่าคำนั้นจนยากที่จะหันหลังกลับเสียแล้ว แต่ถ้าเขารู้แล้วต้องเสียงเขาไปก็อย่าเพิ่งบอกเลยครับอย่างน้อยให้ผมได้ใจสั่นกับคำว่า"เพื่อนสนิท"ดีกว่าคนแปลกหน้าดีกว่าครับ แต่ตอนนี้ผมต้องรีบเดินซะหน่อยแล้วเมื่อคนที่เดินนำหน้าอยู่หันมาทำหน้าบึ้งบ่งบอกว่าง่วงจัดเป็นการเร่งให้ผมรีบเดินตามขึ้นห้องนอนไป.......
.......รู้ใหมในวันนี้ไม่เหมือนเก่า รู้ใหมใครแอบเหงาคิดถึงเธอ.....
......รู้ใหมอยากบอกรัก แต่กลัวเก้อ ทนไม่ไว้ ที่จะห้ามใจ ไม่ให้รักเธอ......
อ่าเกือบลืมฝันดีนะครับเพือนๆทุกคน^____^
***************************************************************
onni:ยังคงเป็นฟิคเต๋าคชาเหมือนเดิมนะค่ะไม่ใช่คชาเต๋า อิอิ
สุดท้ายเม้นส์เล็กonniแสนดีใจไม่เท้นส์ไม่่เป็นไรขอแค่มีคนอ่านก็พอ^^
**หนีนิยายมาแต่งฟิคอย่าลืมพี่คิมกะน้องทรีนะคะไปต่อแน่นอนแต่ไม่มีสต๊อกเพราะแต่งสดขออนุญาติบิ๊วตัวเองแว๊บนะคร้าบ^__^*
"คชาๆรู้ใหมเวลาที่หนูยิ้มน่ะ มันทำให้โลกดูสดใสมากเลยรู้ใหม"เสียงของครูใหญ่บอกผมในขณะที่พวกเรากำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่โต๊ะกินข้าวของบ้านล่าฝัน เพื่อรอเข้าคลาสเรียนต่อไป และยังมีเสียงต่างๆนาๆที่พากันพูดถึงอาการหน้านิ่งของผม จนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับผมที่ถูกจับจองด้วย"เพื่อนสนิท"ที่สุดในบ้านของผม ผิวขาวสว่างอย่างที่หลายคนอิจฉานั่งมองผมอยู่ตรงกันข้ามพร้อมกับพูดอะไรบ้างอย่างๆที่ในหูผมไม่ได้ยินเสียงใดๆนอกจากรอยยิ้มของคนผิวสว่าง จนคนที่เพื่อนๆในบ้านล่าฝันต่างขนานนามว่า"หนาเดียว" อย่างผมก็อดไม่ได้ที่จะแย้มรอยยิ้มออกมาอย่างช้าๆ ก่อนจะตกใจที่ใครหลายคนต่างรอบข้างต่างหัวเราะเพราะได้ยินเสียง ครูเอ๋พูดออกมาว่าผมต้องยิ้มแบบนี้สิถึงจะใช้ได้ แต่จะมีซักกี่คนละครับที่รู้ว่าความจริงแล้วรอยยิ้มที่แย้มออกมานั้นแท้จริงเกิดจากอะไร นอกจากผมคนเดียว
.....คิดว่าเป็นแค่เพื่อนกัน หรือมีอะไรปิดบังไว้.....
"อ้าวคชาไปไหนมาอ่ะ ไปรอที่สระน้ำตั้งนาน"น้ำเสียงตัดพ้อทำเอาผมรู้สึกจุกนิดๆบริเวณอก อย่างที่ตอบอะไรออกไปไม่ได้และไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกไปเพราะตอนนี้เสียงที่ดังก้องอยู่ในหัวทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองได้ใหมว่าเขาก็"แคร์"ผมเหมือนกัน
"อ่ะ..ฮ่ะ"มันคงจะเป็นอะไรที่แปลกและงี่เง่าที่สุดเมื่อเสียงที่ผมเปล่งออกไปไม่ได้เป็นแม้กระทั่งคำตอบของคำถาม อย่างที่คนถามได้แต่ยู่ปากน้อยๆแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องอาบน้ำไป แต่หัวใจของผมนี่สิกลับเต้นเสียงดังอย่างที่กลัวว่าคนชงตัวแม่ที่นั่งอยู่บริเวณนั้นจะได้ยินเสียงด้วย
.....สบตาของเธอกับฉันหน่อย อย่างน้อยให้พอมีหวังได้ใหม
ช่วยมองตอบฉันอย่างตั้งใจ ให้ใจฉันได้สัมพัสใจเธอ.....
ผมนั่งเหม่อน้อยๆอยู่ริมสระน้ำของบ้านเพื่อทบทวนคำพูดของคนบ้างคนที่แม้จะเรียบเฉย แต่ก็เต็มไปความน้อยใจ ความน้อยใจของเพื่อนที่ผมควรจะนั่งเครียดที่ผิดคำสัญญากับมัน แต่ทำใมตอนนี้ใบหน้าของผมกลับแย้มยิ้มอย่างที่หลายๆคนอยากเห็นนักหนาพร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นดังกระหน่ำจนอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นไปกดมันเบาๆ หรือเพราะหัวใจดวงนี้มันไม่รักดี ที่ไม่คิดว่าคนขี้น้อยใจนั้นเป็นเพียงเพื่อนแค่เพื่อนเท่านั้น ผมมาตามหาความฝันที่พยายามจะสานให้สำเร็จมาหลายปีและหลายที่อย่างไม่ลดละความฝัน จนกระทั่งปีที่สามของผมกับเวทีล่าฝันแห่งนี้ของผม ที่ผมไม่มีความมั่นใจซะนิดว่าครั้งนี้ผมจะทำสำเร็จหรือป่าว แม้กระทั่งตอนนี้ที่ผมติดในแปดคนสุดท้ายนั้นผมก็ยังคิดว่ามันเป็นเพียงความฝัน หลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมเริ่มท้อกับความฝันของตัวเองจนอย่างจะหยุดแล้วเริ่มจะยอมแพ้ กับความกดดันของตัวเองภายในบ้าน ผมคงจะแพ้ไปนานแล้วถ้าไม่มีมือแกร่งคู่นั้นที่คอยพยุงผมทุกครั้งที่เราอยู่บนเวทีแห่งเสียงเพลงด้วยกัน
"ทำใมยังไม่ขึ้นไปนอน เดี๋ยวก็โดนครูใหญ่ดุหรอก"เสียงห้วนๆดังขึ้นข้างหลังทำให้ผมหันไปก็พบกับคนที่วนเวียนอยู่ในความคิดของผมตลอดเวลา
"กำลังจะขึ้นไปแล้ว แล้วเต๋าละทำใมยังไม่นอนไม่กลัวครูใหญ่หรอ"ผมถามพร้อมกับยิ้มให้กับคนตรงหน้าบางๆความจริงผมก็เป็นคนที่ยิ้มง่ายนะแต่ก็ไม่มากคนนักหรอกที่จะได้เห็น แต่สำหรับคนๆนี้ที่มีความหมายต่อผมเสมอ ไม่รู้ทำใมผมถึงอยากยิ้มให้เขาตลอดเวลา ผมมองคนตรงหน้าที่ยกมือเกาคอตัวเองอย่างที่เพลอทำเป็นประจำเพื่อแก้เขิน
"นี่ไงละจะไปแล้ว แล้วก็ลุกได้แล้วคชาไปนอนเดี๋ยวนี้เดี๋ยวก็ถูกครูใหญ่ทำโทษหรอก"เต๋าพูดเสียงรัวพร้อมกลับไม่วายสั่งให้ผมที่นั่งแช่อยู่ลุกขึ้นทันทีเพื่อเดินตามหลังคนที่เดินอยู่ด้านหน้าด้วยรอยยิ้มที่ใครมาเห็นตอนนี้แล้วละก็อาจจะบอกได้ว่าเป็นรอยยิ้มที่หวานที่สุดก็ได้
.....จากเพื่อนที่รู้จักเป็นคนที่รู้ใจ เมื่อความรู้สึกมันเปลี่ยนไปจะทำยังไงก็ไม่เหมือนเดิม
รู้ใหมในวันนี้ไม่เหมือนเก่า รู้ใหมใครแอบเหงาคิดถึงเธอ
รู้ใหมอยากบอกรักแต่กลัวเก้อ ทนไม่ไหว ได้แต่ห้ามใจ
ไม่ให้รักเธอ.....
แต่ถ้าคุณรู้แล้วว่าผมใจสั่นเมื่ออยู่ใกล้ใคร
ยิ้มได้หวานที่สุดเพียงเพราะใครบ้างคนจะนอนไม่หลับถ้าคนที่นอนข้างๆยังไม่ขึ้นไปเสียทีจนต้องลงมาตาม
รบกวนบอกเขาหน่อยนะครับว่า "เพื่อน"คนนี้กลัวเหลือเกินว่าวันหนึ่ง อะไรที่มันอยู่ข้างในอาจออกมาได้ง่ายดายถ้าเขายังทำตัวแสนดีอยู่ข้างกันแบบนี้ ช่วยบอกเค้าหน่อยนะครับว่าอย่าใจร้ายให้ความหวังผมนักเลย เพราะในเมื่อผมคนนี้คิดกับเขาไปไกลเกินกว่าคำนั้นจนยากที่จะหันหลังกลับเสียแล้ว แต่ถ้าเขารู้แล้วต้องเสียงเขาไปก็อย่าเพิ่งบอกเลยครับอย่างน้อยให้ผมได้ใจสั่นกับคำว่า"เพื่อนสนิท"ดีกว่าคนแปลกหน้าดีกว่าครับ แต่ตอนนี้ผมต้องรีบเดินซะหน่อยแล้วเมื่อคนที่เดินนำหน้าอยู่หันมาทำหน้าบึ้งบ่งบอกว่าง่วงจัดเป็นการเร่งให้ผมรีบเดินตามขึ้นห้องนอนไป.......
.......รู้ใหมในวันนี้ไม่เหมือนเก่า รู้ใหมใครแอบเหงาคิดถึงเธอ.....
......รู้ใหมอยากบอกรัก แต่กลัวเก้อ ทนไม่ไว้ ที่จะห้ามใจ ไม่ให้รักเธอ......
อ่าเกือบลืมฝันดีนะครับเพือนๆทุกคน^____^
***************************************************************
onni:ยังคงเป็นฟิคเต๋าคชาเหมือนเดิมนะค่ะไม่ใช่คชาเต๋า อิอิ
สุดท้ายเม้นส์เล็กonniแสนดีใจไม่เท้นส์ไม่่เป็นไรขอแค่มีคนอ่านก็พอ^^
**หนีนิยายมาแต่งฟิคอย่าลืมพี่คิมกะน้องทรีนะคะไปต่อแน่นอนแต่ไม่มีสต๊อกเพราะแต่งสดขออนุญาติบิ๊วตัวเองแว๊บนะคร้าบ^__^*
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ