Because of you เพราะนายฉันถึงเป็นแบบนี้

5.0

เขียนโดย Avalle_Cafe

วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  11 ตอน
  0 วิจารณ์
  18.16K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 00.22 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

9) Chapter 9

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Chapter 9

 

[Sandeul talk]

 

     ผมผิดด้วยหรอที่ผมป่วยแทนบาโร ทั้งที่เขาควรจะดีใจไม่ใช่หรอ...ทำไมถึงชอบทำให้ผมสับสนจัง แล้วตอนเช้าก็โดนแกล้งอีก ผมคงผิดทั้งแต่เกิดมาแล้วสินะ ต้นเหตุที่แม่ของผมเสียชีวิต เป็นต้นเหตุของหนี้ทั้งหมด เป็นต้นเหตุที่พ่อต้องเสียชีวิต แล้วก็เป็นภาระของชินวูฮยอง...น่าสมเพชชะมัดเลย เฮ้อ...แต่ความรู้สึกของครอบครัวผมก็ลืมไปหมดแล้ว ถึงแม้จะมีชินวูฮยองอยู่เคียงข้างก็ตาม

 

     ผมส่ายหัวไปมาเพื่อที่จะสลัดความทรงจำเหล่านั้นออก แล้วเดินไปตักข้าวต้มกิน เพราะถ้าไม่รักษาตัวให้หายเดี๋ยวจะโดนว่าอีก แล้วก็โดนอะไรอีกก็ไม่รู้ คนอย่างเขาไม่ควรได้รับสิ่งดีๆเลยจริงๆ ผมกินข้าวต้มช้าๆอย่างไม่เร่งรีบ แล้วกินยาหลังอาหารตามที่บาโรส่ง ก่อนจะทำความสะอาดหอแล้วก็ซักผ้า แล้วผมก็ไม่ลืมที่จะทำอาหารเอาไว้เผื่อบาโรด้วย แต่แล้วผมก็รู้สึกมึนๆ ผมเลยเลือกที่จะเดินเข้าไปในห้องเพื่อจะหลับสักงีบ

 

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

 

 

[Jinyoung talk]

 

     “นายยังไม่ได้บอกเลยนะว่าจะพาไปที่ไหน” ผมเริ่มบ่นอีกครั้ง เพราะชินวูขับรถออกมาสักพักแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมบอกว่าจะไปไหน ผมก็ดันจำทางไม่ได้ด้วย

     “อีกประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้วน่า เดี๋ยวก็รู้”

     “เมื้อกี้นายก็พูดแบบนั้น” ผมแย้ง

     “ก็นายเพิ่งถามก่อนหน้านี้ไม่ถึง 3 นาทีด้วยซ้ำ” ชิ ผมสะบัดหน้าหนี พลางคิดในใจไปด้วยว่าทำไมถึงโดนต้อนจนมุมแบบนี้

     “เห็นไหม บอกแล้วว่า 15 นาทีถึงแน่ๆ” ผมหันไปมองชินวู ก่อนจะมองผ่านกระจกด้านคนขับรถ แล้วก็ผมอะไรแปลกๆมากมาย...สวนสนุก

     “นายพาฉันมาสวนสนุกหรอเนี่ย ฉันยังไม่เคย...ไม่เคย...” ไม่เคยมา...จะพูดออกไปได้ไงล่ะ คนอย่างจินยองต้องเคยมาอยู่แล้ว จะบอกยังไงดีว่ะเนี่ย

     “ไม่เคยอะไรหรอ...อย่าบอกนะว่านายไม่เคยไปสวนสนุกน่ะ!” บ้าหรอ! เอ่อ หมายถึงรู้ได้ไงฟร่ะ!

     “เวอร์ๆ ฉันแค่จะบอกว่าฉันไม่เคย...เล่นเครื่องเล่นอันนั้นต่างหากเหล่า!” ผมชี้ไปมั่วๆ

     “ม้าหมุนน่ะนะ?”

     “ห๊ะ...ว..ไวกิ้ง! ไวกิ้งต่างหากเหล่า!” ผมเอามือลงก่อนจะหาเครื่องเล่นสักเครื่องมาแทน

     “หืม? เราเคยขึ้นไวกิ้งด้วยกันตั้งหลายรอบ นายจำไม่ได้หรอ” เคยด้วยหรอว่ะ...จินยองสินะ

     “อ่อ! จ..จริงด้วยแหะ โทษที แหะๆ” ผมเอามือเกาหัวอย่างช่วยไม่ได้

     “ฮ่าๆ ไม่เห็นต้องขอโทษเลย นายนี่จริงๆเลยน้า” ชินวูพูดก่อนจะเอื้อมมือมายี้หัวผม

     “หยุดเลยนะ ผมเสียทรงหมดแล้วเนี่ย”

     “ผมนายยุ่งๆดูน่ารักกว่าตอนที่นายเซ็ตผมนะ”

     “ก็แค่ผม ไม่เห็นจะน่ารักเลย”

     “ผมของคนน่ารักก็ต้องน่ารักสิ”

ป๊าบบ!!

     “บ้า!”

     “โอ๊ย ล้อเล่นเฉยๆ”

ป๊าบบ!!

     “โอ๊ย! อ..อะไรของนายอีกล่ะที่รัก”

     “ล้อเล่นเฉยๆหรอ!”

ป๊าบบ!!

     “แล้วที่รักอะไรล่ะ”

    “ขอโทษคร๊าบบ TT__TT ผมไม่ได้ต้องใจจะพูดอย่างนั้นเลยจริงๆนะครับที่รัก เอ๊ย จินยอง”

     “รีบๆขับเลย วันนี้จะถึงไหมเนี่ย” ผมเบินหน้าหนีเพราะผมแทบจะกลั้นรอยยิ้มของผมเอาไว้ไม่ได้ ไม่แปลกใจเลยที่จินยองรักนาย...แล้วฉันก็รักนาย

     “คร๊าบๆ ถึงแล้วเนี่ย ขี้บ่นจริงนะเรา” ชินวูเอื้อมมือมาผลักหัวผมเบาๆ

     “บ่นแล้วไม่รักไงล่ะ”

     “รักสิ รักมากๆ รักสุดๆ รักมากที่สุด รักโคตรๆ รักโคตะระ รัก...”

     “รู้แล้วน่า! ย้ำจริง //-3-”

     “ย้ำเยอะๆ จะได้ไม่ลืมไง ว่าผมรักคุณมากๆ”

     “ไอ่บ้า! อย่ามาพูดสุภาพนะ ขนลุกหมด” พูดเสร็จแล้วผมก็รีบลงจากรถทันที

 

     ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ่จุกมันจะทำให้ผมยิ้มได้ขนาดนี้ ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนตอนอยู่กับกงชานด้วย เพราะไม่ต้องเก็บอาการกับความรู้สึกเอาไว้มากนัก ผมเดินไปซื้อตั๋วโดยที่ไม่รอชินวู ช่วยไม่ได้นี่ก็อยากบอกรักเอง(เกี่ยว?) แต่ด้วยความใจดี มีน้ำใจสุดๆ ผมก็เลยซื้อเผื่ออันนึงให้ชินวูด้วย

    

     “แฮ่กๆ ไม่รอกันเลยนะ”

     “นายจะได้ไม่ต้องต่อแถวไง เข้าไปข้างในกันเถอะ” ผมยื่นตั๋วให้ ก่อนจะเข้าไปคล้องแขนชินวู แล้วเดินเข้าไปในสวนสนุก ผมเงยหน้ามองชินวูแต่มันกลับหันหน้าไปอีกทาง แต่ผมเห็นนะว่ามันหน้าแดงอ่ะ หลบไม่พ้นหรอก อิอิ

     “แปลกเนอะ”

     “อะไรแปลกหรอ”

     “ก็...ที่นายไม่ได้เป็นประธานสุดโหดเจ้าระเบียบจริงๆเสียหน่อย”- - ก็มันไม่จริงน่ะสิ

     “นายอยากให้ฉันเป็นแบบนั้นสินะ”

     “ม..ไม่ใช่แบบนั้นเสียหน่อยจินยองอา ฉันก็ชอบนายทั้ง 2 แบบแหละ แต่แค่มันยังไม่ชินเฉยๆ” ตอนหน้าเจ้านี่เหวอตอนที่ผมพูดเสียแข็งตะกี้นี้ตลกชะมัด

     “งั้นก็พยายามทำให้ชินเองล่ะกัน แบร่” ผมแลบลิ้นใส่ แต่ผมกลับหน้าแดงแทน ไอ่บ้านี่ประหลาดวุ้ย

     “เอ่อ...ฮึ่ม งั้นเราไปเล่นอะไรสักอย่างเถอะ นายเลือกเลย” มีการไอด้วยนะ - -!!

     “งั้น~ ไปไวกิ้งกัน ฉันอยากเล่นมันอีกอ่า”

     “งั้นก็ไปสิ”

.

.

.

.

.

 

     “นาย 2 คนจะไม่มีวันมีความสุขเลยคอยดู คนที่หักหลังจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป ส่วนคนที่หลอกลวงก็จะโดนกลับอย่างคาดไม่ถึงแน่ ฮ่าๆๆๆๆ” จะหาว่าเขาโรคจิตก็คงจะเรียกอย่างนั้นได้ เขาขับรถตามทั้ง 2 คนมาตลอด แล้วก็นั่งดูทั้ง 2 คนจนเข้าสวนสนุกไป เขามองอย่างเครียดแค้น ก่อนจะคิดแผนการชั่วร้ายขึ้นอย่างคนไม่มีหัวใจเลยก็ว่าได้! สิ่งที่ทุกคนทำกับเขาไว้ จะได้รับกลับอย่างสาสม!!

 

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

 

[Sandeul talk]

 

     “ฮ...ฮัดชิ้ววววว~”     ผมจามอย่างแรง แม้ไข้ผมจะลดลงไปเยอะแล้ว เพราะนอนไปหลายชั่วโมง แต่ก็ยังคงมีไข้อยู่ดี บ่าย 3 แล้วหรอเนี่ย ต้องรีบทำกับข้าวก่อนบาโรกลับมา แต่พอผมลุกจากเตียงเท่านั้นแหละ ทุกสิ่งก็มืดไปหมด ผมเซอย่างไม่มีแรงจะยืน ก่อนที่จะมีแรงๆนึงดึงตัวผมเข้าไปหาเหมือนจะช่วยพยุง ใครกัน?

     “คิดจะทำอะไรน่ะ” บาโร! กลับมาตั้งแต่เมื่อไรกัน

     “...”

     “เฮ้อ...นั่งลงซะ โชคดีที่ฉันกลับมาแล้วน่ะ ไม่งั้นนายล้มหัวฟาดพื้นตายไป ฉันคงเสียใจแย่เลย” ส...เสียใจ?

     “ที่ไม่มีเครื่องมือสินะ” ผมพึมพำ

     “บ่นอะไร”

     “ปล่าว แค่บอกว่ายังไม่ได้กินอะไรสินะ” ผมแถอย่างน่าเกลียดสุดๆ

     “กินแล้ว นายนั่นแหละ นอนทั้งวันเลยสินะ ไข้ลดยัง” บาโรยกมือมาแตะหน้าผากของผม มันทำให้ผมหน้าแดงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “ตัวเย็นลงแล้ว แต่ทำไมนายยังหน้าแดงๆ ร้อนไง”

     “ป...ปล่าวสักหน่อย จะไปอาบน้ำก่อนนะ จะได้ไล่ไข้”

     “อาบไหวหรือไง”

     “ไหวสิ”

     “ทั้งที่เมื้อกี้แค่ยืนก็ล้มอ่านะ”

     “เมื้อกี้หน้ามืดเพราะลุกเร็วไปต่างหาก”

     “ไปอาบไป ไม่ต้องล็อคประตู”

     “บ้าหรอ!” ไม่ให้ล็อคได้ไงล่ะ

     “บอกให้ทำก็ทำไง!”

     “โอเคๆ เข้าใจแล้ว” ชิ เจ้ากี้เจ้าการจริงๆเลย ผมบ่นในใจก่อนที่จะเดินเข้าห้องอย่างช้าๆ เพราะยังปวดหัวอยู่นิดๆ แล้วก็ไม่อยากล้มต่อหน้าบาโรด้วย เดี๋ยวโดนด่าอีก

     “เป็นห่วงน่ะ...เข้าใจบ้างไหม”

.

.

.

.

.

[Baro talk]

 

     “กินยาเสร็จก็ไปนอนเลย” ผมบอกคนตรงหน้าที่กำลังจะทานยา

     “แต่ฉันนอนมาทั้งวันแล้วนะ นอนไม่หลับหรอก”

     “บอกให้นอนไง!” นอนเล่นก็ยังดี!

     “ไม่ขึ้นเสียงไม่ได้หรอ”

     “ก็ทำตามที่สั่งตั้งแต่แรกสิว่ะ” ผมตอกกลับอย่างช่วยไม่ได้

     “ก็นอนเยอะแล้วนี่นา” เฮ้อ อย่าให้ไข้หายนะ ให้ตายสิ...ก็อยากทำดีด้วยหรอกนะ แต่ทำไมชอบทำหงุดหงิดจังว่ะเนี่ย นายนี่มันดื้อด้านชะมัด

     “...”

     “...”

     “...” ผมจ้องหน้าซานดึลเงียบๆ

     “...ขอโทษ แต่ฉันนอนไม่หลับจริงๆ”

     “ก็ไม่ต้องนอนสิ” ซานดึลหันมามองผมอย่างงงๆ

     “เอ๋ นายเพิ่งบอกให้ฉันไปนอนเองนะ”

     “แล้วนายไปหรือเปล่าล่ะ”

 

     ซานดึลทำหน้ามุ้ยเหมือนเด็ก ก่อนจะส่ายหัวไปมาเล็กน้อย ผมยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนที่จะอุ้มคนตรงหน้าเข้าไปในห้อง โดยที่ซานดึลก็ดิ้นเล็กน้อย แต่เพราะกลัวตกเลยเลือกที่จะอยู่นิ่งๆแทน...หรือเพราะกลัวผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ก้มหน้างุดเชียว กลัวขนาดนั้นเลย?

     “นอนเล่นอยู่บนเตียงเนี่ยแหละ”

     “แต่มันน่าเบื่อนี่”

     “เอาไอแพทไปเล่นไป แต่อย่าใช้สายตาเยอะ” ผมยื่นให้ซานดึล ก่อนจะเดินไปนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะ

 

     ผมนั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ ประมาณครึ่งชั่วโมงได้แล้วมั้ง ห้องมันเงียบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผมนึกสงสัยว่าซานดึลจะหลับไปหรือยัง เลยหันไปดู แต่ซานดึลกลับรีบหลบสายตาผมทันที เหมือนเขาจะรู้ว่าจ้องผมนานเกินไป ส่วนไอแพทก็วางไว้บนโต๊ะเล็กๆข้างเตียง นี่เขาไม่ได้ใช้เลยหรอ?

     “เบื่อไอแพทแล้วหรือไง”

     “เปล่า...แค่ไม่อยากใช้สายตาเยอะๆ” หืม? ฟังผมด้วยหรอ

     “แล้วที่จ้องฉันน่ะ ไม่ได้ใช้สายตาเยอะหรือไง” ซานดึลสอดตัวเข้าไปในผ้าห่ม ก่อนจะคลุมโปงเหมือนไม่อยากให้ผมเห็นหน้าอย่างนั้นแหละ แล้วไหนว่าไม่อยากนอนไง แต่แล้วสักพักซานดึลก็ดึงผ้าออกอย่างรวดเร็ว

     “แฮ่กๆ” หอบเชียว

     “ช่วยตัวเองหรอไง” ผมถาม - -

     “บ้าหรอ! หายใจไม่ออกต่างหากเหล่า!” อ่าวหรอ หึ

     ผมหันกลับมาอ่านหนังสือต่อ แต่ติดตรงที่ว่า...”จะจ้องอีกนานไหม” ผมถาม

     “ก็มันไม่มีอะไรทำนี่”

     “เฮ้อ...ออกไปตรวจหอด้วยกันไหมล่ะ” ผมนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้ตรวจหอเลย

     “ไปสิไปๆ”

 

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

 

[Jinyoung talk]

 

     แกร๊ก

 

     ผมเปิดประตูเข้าห้องของตัวเองหลังจากที่แยกจากชินวู แล้วเดินเข้าห้องนอนเพื่อที่จะไปหยิบชุดเข้าไปอาบน้ำ แต่ก็พบตัวของกงชานนอนอยู่บนเตียง เหมือนจะหลับมานานแล้ว ผมเลยเลือกที่จะไปนั่งข้างๆอย่างเงียบๆ รู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก แต่ผมต้องการที่จะรู้จักความรัก คนไหนที่ให้ผมได้ผมก็ไม่สนหรอกนะ ไม่รู้อะไรทำให้ผมรู้สึกอึดอัดมากขึ้นทุกทีๆที่อยู่ใกล้กงชาน เป็นเพราะผมปิดเรื่องของชินวูหรือเปล่าผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

 

     ใบหน้าเรียวคม จมูกที่โด่งดูดี ริมฝีปากที่อิ่มอวบดูน่าชิม ทุกสิ่งทุกอย่างเหมาะสมกันไปหมด ที่เขาจูบผม กอดผม จับมือผม สัมผัสผม...เขาทำจากใจหรือเปล่านะ ผมเป็นคนที่สอนความรักให้เขาหรือเปล่านะ สอนคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้จักมันเลยเนี่ยนะ ผมค่อยๆเลื่อนนิ้วไปตามวงหน้าของกงชานอย่างช้า ก่อนจะก้มลงไปจูบกงชานอย่างแผ่วเบา แล้วเอ่ยถามออกมาเบาๆ

     “นาย...เคยรักฉันบ้างไหม เชื่อใจฉันไหม รู้จักฉันหรือเปล่า เข้าใจฉันบ้างไหม รับได้ในสิ่งที่ฉันเป็นหรือเปล่า...รักที่ฉันเป็นฉันหรือเปล่า นายอยากให้ฉันอยู่กับนายหรือเปล่า นาย...” ผมยิ้มสมเพชตัวเอง ก่อนจะเอ่ยสิ่งสุดท้ายออกมา “...รู้จักคำว่ารักหรือเปล่า”

.

.

.

.

     “...แล้วที่ถามผม ฮยองมีคำตอบให้ผมบ้างไหมล่ะ”

.

.

.

.

     หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็ออกมาตรวจหอทันที เพราะผมปล่อยให้บาโรตรวจหอคนเดียวมาหลายวันแล้ว หลังจากที่อ้างนู้นอ้างนี่ไป ผมก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองกล้าโกหกแล้วก็ที่จะคุยบาโรขนาดนี้แล้วหรอ ผมอยากให้ซานดึลกับบาโรลงเอยกันด้วยดีนะ แต่ผมเองก็แค้นซานดึลกับสิ่งที่เขาทำอยู่ดี ผมไม่ใช่จินยองที่อ่อนแอคนนั้น ผมไม่ยอมให้มันทำร้ายผมได้คนเดียวหรอก

     “สรุปแล้วจินยองฮยองคบกับไอ่กงชานจริงดิ” แล้วผมก็ได้ยินเสียงที่ซอกตึกดังขึ้นมา

     “ก็เออน่ะสิว่ะ เห็นหวานกันขนาดนั้น” อีกเสียงนึงพูดขึ้นบ้าง

     “ใช่หรอว่ะ แค่วันก่อนข้าเห็นจู๋จี๋กับชินวูฮยองที่สวนสัตว์นะเว้ย” ยิ่งผมเดินเข้าไปใกล้ก็ยิ่งได้ยินชัดเจนขึ้น

     “หรอว่ะ แมร่งหลายใจว่ะ” ฉึก! หลายใจอย่างนั้นหรอ ผิดแล้ว...ฉันไม่ได้ชอบใครเลยต่างหากล่ะ

     “แล้วอยากรู้ไหมว่าฉันเลือกใคร” ผมถามไปบ้าง และนั้นก็ทำให้ทั้ง 2 คนที่กำลังนินทาผมหันมาทันที ใบหน้าของทั้งคู่เริ่มซีดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน หึ! ออกจากหอเกินเวลาก็ผิดแล้ว ซ้ำยังจะผิดกฏของผมอีก

     “ม...ไม่อยากรู้ครับประธานนักเรียนจอง จินยอง”

     “เอ๋ ก่อนหน้านี้นายไม่ได้เรียกฉันอย่างนี้นี่นา” ผมย้อน

     “ผ...ผมไม่ได้ต...ตั้งใจครับ ขอโทษครับ ขอโทษจริง”

     “ไหนๆก็ออกมาเกินเวลาเข้าหอแล้วนี่ ไปวิ่งสัก 20 รอบแล้วค่อยขึ้นหอแล้วกันนะ อย่าลืมล่ะว่ามีกล้องจับตาดูนายอยู่น่ะ แล้วก็ไปหาผู้อำนวยการพรุ่งนี้ด้วยนะ เข้าใจไหม”

     “ค...ครับ” ทั้งสองคนก้มหน้า แล้วรีบวิ่งไปที่สนามทันที

     “จินยองหรอ?”

     “อื้ม พอดีจะมาเดินตรวจหอน่ะ แล้วนาย...ซานดึล? มาได้ยังไงน่ะ” ผมถามบาโรเมื่อสายตาผมดันเหลือบไปเห็นคนด้านหลังบาโรที่เดินมาด้วยกัน

     “พอดีเบื่อๆน่ะ ก็เลยพาซานดึลมาเดินตรวจหอเป็นเพื่อน แล้วนายล่ะ หายป่วยแล้วหรอ ถึงได้ลงมาเดินตรวจหอน่ะ” บาโรเดินเข้ามาถามผม ก่อนจะยกมือขึ้นมาทาบที่หน้าผากของผม

     “อ...อื้ม หายแล้วล่ะ”

     “ก็ดีแล้วล่ะ”

     “...บาโร”

     “อะไรหรอ?” บาโรมองผมอย่างสงสัย

   “ฉันต้องเล่นเป็นแฟนกงชานนานแค่ไหนหรอ” แต่ดูเหมือนคำถามนี้จะทำให้บาโรนิ่งไปพักใหญ่

     “...”

     “นายจะเซอร์ไพร์ซานดึลตอนไหนหรอ”

     “...อีกสักพักนึงนะจินยอง”

     “อื้ม แล้วนี่ซานดึลรู้หรือเปล่าว่านายให้ฉันแกล้งคบกับกงชานน่ะ”

     “เอ่อ...คิดว่ารู้นะ” อ่าว ไหงไม่แน่ใจล่ะ แต่คงจะรู้อยู่แล้วล่ะ เพราะเมื้อกี้เขายังได้ยินคนนินทาเขาเลย แล้วมีหรอที่ซานดึลจะไม่ได้ยิน

     “บาโร ถ้านายจะคุยกับจินยองกันสองคน ฉันก็จะกลับหอแล้วนะ” เสียงซานดึลแย้งขึ้นมา ทำให้ผมกับบาโรหันไปทันที เหมือนเพิ่งนึกได้ว่าซานดึลยืนอยู่ไม่ไกลนี่เอง

     “โทษทีๆ งั้นก็ไปเดินตรวจหอกันเถอะ”

 

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

 

     “ไงๆ ไม่ได้คุยกันอย่างจริงจังนานเลยนะ” เสียงทุ้มนิดๆเอ่ยขึ้น

     “ครับ นายน้อย”

     “นายคิดจะทำอะไรไม่ทราบ”

     “นายน้อยหมายถึงอะไรครับ ผมไม่เข้าใจ”

     “นายก็น่าจะรู้ดีว่านายไม่เคยห่างสายตาฉันเลยแม้แต่นิดเดียว นายอยากตายมากใช่ไหม” เจ้าของเสียงทุ้มนิดๆเอ่ยอย่างเรียบๆ

     “นายน้อยพูดเรื่องอะไรครับ ผมไม่เข้าใจ”

     “หนี้ของนายที่ติดไว้กับพี่ชายของฉัน ก็จ่ายคืนหมดแล้วไม่ใช่หรอไง แล้วทำไมนายถึงไม่ยอมเลิกลากับพี่ชายของฉัน” ใบหน้าเจ้าของร่างสูงนั้นถึงกับปกปิดความตกใจเอาไว้ไม่ได้กับคำถามที่ได้ยิน

     “นายน้อยรู้หรอครับ”

     “แล้วมีอะไรที่ฉันไม่รู้บ้าง นายก็น่าจะรู้ดีว่าฉันมาเพื่ออะไร เพราะฉะนั้นนายก็ควรจะห่างๆ ไม่ใช่ทำให้เรื่องมันยุ่งยากแบบนี้!!”

     “ผม...เข้าใจแล้วครับ แต่ช่วยเก็บเรื่องหนี้เป็นความลับด้วยเถอะนะครับ ผมขอล่ะครับนายน้อย”

     “หึ! ได้ ถ้านายอยู่ห่างๆ”

     “เข้าใจแล้วครับนายน้อย”

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

 

[Jinyoung talk]

 

     “กงชานๆ ตื่นหรือยัง” ผมถามหลังจากที่เข้ามาในห้องแล้ว ซานดึลไม่สบายก็ดีน่ะสิ จะได้ไม่วุ่นวายมากนัก แต่ก็ยังคงแสดงออกเยอะเหมือนเดิมว่าไม่ต้องการให้ผมยุ่งกับบาโร

     “ตื่นแล้วครับ ฮยองทานอะไรหรือยังครับ” กงชานเดินมาหาผมก่อนจะกอดผมหลวมๆ

     “ทานแล้วๆ อ่านหนังสือจนดึกเลยสินะ ถึงได้เผลียหลับไปแบบนั้น แล้วสอบเป็นไงบ้าง”

     “แน่นอนว่าผมทำได้ครับ ก็ฮยองให้กำลังใจขนาดนั้นเลยนี่นา”

     “บ้า! พูดมากน่า ไปนอนไป๊ ง่วงไม่ใช่หรอ” ผมไล่อย่างเขินๆ เขิน?

     “โห ผมอุส่าตั้งใจสอบ ไม่ให้รางวัลผมบ้างหรอครับ” กงชานอ้อนผม แล้วเอากางมาคลอเคลียกับไหล่ผม บ้าจริง นี่ผมเขินได้เพราะกงชานหรอเนี่ย ความรู้สึกที่ผมมีให้กงชานยังไม่หมดไปสินะ

     “ให้คะแนนออกก่อนล่ะกัน ถ้าดีจริงๆ จะให้ขออะไรก็ได้อย่างนึงเลย สัญญา” ผมยื่นนิ้วไปเกี่ยวกับกงชาน

     “ก็ได้ฮะ แต่...ตอนนี้ผมขอนอนกอดฮยองก่อนก็แล้วกัน” กงชานพูดขึ้น ก่อนจะอุ้มตัวผมเข้าในห้องนอนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะโยนผมลงบนเตียงเบาๆ แล้วขึ้นคล่อมผมทันที ไหนว่านอนกอดไงว่ะ!

     “...” ผมกลืนน้ำลายตัวเอง

     “ผมรักฮยองมากนะ รักคนเดียวมาเสมอ แล้วฮยองก็ต้องรักผมคนเดียว...ตลอดไปนะ” ผมมองเข้าไปในดวงตาของกงชาน ที่หนักแน่นไปด้วยความรู้สึกหลายๆที่รวมกัน ที่แทบจะมองไม่ออกว่ามีอารมณ์ไหนบ้าง

     “...เรารักกันจริงๆหรอ ไม่ใช่เพราะเราต้องแกล้งเป็นคู่รักตบตาซานดึลหรอกหรอ”

     “...ผมรักฮยองจริงๆ แต่คงไม่ใช่เรา เพราะฮยองคงไม่ได้รักผม” กงชานลุกไปนั่งข้างเตียง

     “ที่ฉันถาม ก็เพราะอยากรู้ว่านายรักฉันบ้างไหมก็เท่านั้นเอง แต่ไม่ได้แปลว่าฉันไม่รักนายสักหน่อย” ผมลุกไปกอดกงชานจากด้านหลัง

     “แต่ความรักของผม...คือต้องการหัวใจฮยอง ร่างกายฮยอง ทุกอย่างที่เป็นฮยอง เป็นของผมคนเดียวเท่านั้น” กงชานหันมาสบตาผม หลังจากที่ผมคลายแขนของผมที่กอดกงชาน

     “นายก็เอาไปสิ” ผมพูดทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะให้ได้หรือเปล่า ชินวู นายจะทำให้ฉันรักนายได้หรือนะ

     “เมื่อถึงเวลา...ผมเอาแน่ครับ : )” ถึงเวลาอย่างนั้นหรอ?

 

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

 

[Sandeul talk]

 

     “ฉัน...ไปนอนโซฟานะ เดี๋ยวนายจะติดหวัดแล้วไปงานโรงเรียนพรุ่งนี้ไม่ได้” ผมบอกบาโรที่ขึ้นไปนอนบนเตียงเรียบร้อยแล้ว

     “โซฟามันหนาว เดี๋ยวไข้ก็ขึ้นอีก นอนบนเตียงเนี่ยแหละ”

     “แต่ว่า...”

     “ไม่มีแต่”

     “แต่...อุ๊บ อ๊ะ!” จู่ๆบาโรก็ดึงหมอนไปจากมือผม แล้วดึงผมลงไปนอนบนเตียง

     “ถ้าพรุ่งนี้นายไปเดินไม่ได้ ก็ไม่ต้องไป”

     “เดี๋ยวนายก็ติดหวัดไปด้วยไม่ได้หรอก”

     “ก็อยู่กับนายแทนไง” คำพูดสั้นๆกลับทำให้ผมหน้าแดงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ นี่ผมเข้าข้างตัวเองได้หรือเปล่านะ

     “ไม่เอาอ่ะ นายชอบว่า” ผมดันบาโรออก แต่เจ้าตัวกลับดึงผมเข้าไปกอดแน่นกว่าเดิม

     “ก็เป็นเด็กดี เชื่อฟังสิ จะได้ไม่ต้องว่า” เด็กดีหรอ _////_ ดูน่ารักไปไหมเนี่ย

     “ง...ง่วงแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ไข้ก็ไม่ลดหรอก” ผมเปลี่ยนเรื่องคุย ก่อนจะจัดที่นอนตัวเองแล้วล้มตัวนอนทันที

     “โอเคๆ” บาโรลุกไปปิดไฟ ก่อนที่จะขึ้นมานอนบนเตียง แล้วดึงผมเข้ากอด

     “อืมม บาโร เดี๋ยวติดหวัด”

     “นอนแบบนี้แหละ” แต่เมื่อบาโรพูดอย่างนั้น ผมเลยต้องจำใจนอนนิ่งๆ “ฝันดีนะ เด็กดี”_////_zZZ

     “ฝันดีเหมือนกันนะ”

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

 

วันงานเลี้ยงฉลองหลังสอบที่โรงเรียน

 

     [Jinyoung talk]

 

     วันนี้เป็นวันที่ทุกคนมีความสุขที่สุด...ทำไมน่ะหรอ? ก็เพราะวันนี้เป็นวันที่ทุกคนเฮฮาและอยู่นอกหอได้เกินเวลาที่จำกัด และ...เป็นวันที่ไม่มีกฏของประธานนักเรียนจินยอง มันคือวันซวยดีๆของผมนั้นเอง เพราะ...

     “ผ...ผมชอบคุณ!”- -* เห็นไหม!??

     “แต่ฉันเกลียดนาย”

 

     “ผมก็ชอบคุณเหมือนกันครับ”

     “ฉันก็เกลียดนายเหมือนกัน”

 

     “คบกันเถอะนะครับ”

     “เลิกรู้จักกันเลยดีกว่า”

 

     “ผมรักฮยองจริงๆนะ”

     “ฉันโคตรเกลียดนายเลยจริงๆ”

 

     อยากจะบ้าตาย!!!! จะอะไรนักหนาว่ะเนี่ย! ไปบอกรักคนอื่นบ้างเซ่! โลกนี้ไม่ได้มีฉันแค่คนเดียวนะเว้ย! ให้ตายเถอะ ผมต้องทนกับวันนี้อีกนานแค่ไหนล่ะเนี่ย แล้วไอ่เจ้ากงชานก็หายไปอีก ชินวูก็หายจุก เอ๊ย หายหัวไปด้วย บาโรก็ไร้วี่แวว ซานดึลก็...ช่างมันเถอะ

     “ขอโทษนะครับ” เจ้าของเสียงสะกิดผมเบาๆ อะไรอีกว่ะเนี่ย!

     “มีอะไร”

     “คือ...นายคบกับกงชานชิคจริงๆน่ะหรอ” พอไม่มีกฏก็เรียกซะสนิทสนมเชียวนะ!

     “ถามทำไม”

     “ก็ถ้าไม่ได้คบกัน งั้นช่วยเดท เอ่อ เดินเที่ยวกับผมสักวันได้ไหมครับ”

     “ไม่!” ผมตอบอย่างไร้เยื่อใยก่อนที่จะเดินหนี

     “คงคบกับกงชานชิคจริงๆสินะครับ แต่น่าสงสัยจังว่าที่เขาเดินควงกับซานดึลเมื่อกี้คืออะไรกัน”!!! เดินควงกับซานดึลอย่างนั้นหรอ? เป็นไปไม่ได้ กงชานก็น่าจะรู้ดีว่าเรื่องของฉันกับซานดึลมันเป็นยังไง

     “อยากรู้แล้วทำไมไม่ถามล่ะ” แล้วผมก็เดินไปที่อื่นทันที

.

.

.

.

     “จินยองฮยอง? ฮยองจริงๆด้วย! ผมหาฮยองตั้งนานแหนะ ไปเดินเที่ยวซุ้มไหนมาบ้างแล้วครับ?”

     “ยังไม่ได้เที่ยวเลย” ผมตอบก่อนจะชะเง้อมองหาตัวซานดึล “ซานดึลล่ะ?”

     “ฮยองพูดเรื่องอะไรหรอครับ? ซานดึลจะมากับผมได้ยังไงกัน ก็ผมเห็นเขาอยู่กับบาโรนี่ครับ” อ่าว งั้นแสดงว่าฉันก็ถูกได้บ้านั้นหลอกเอาน่ะสิ ชิ! อย่าให้ถึงพรุ่งนี้เถอะ จะไม่ให้ไปเที่ยวตอนปิดเทอมเลยคอยดู!

     “เปล่าหรอกๆ ว่าแต่นายเถอะ อยากเข้าซุ้มไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า”

     “ไม่มีหรอกครับ แค่อยู่กับฮยองก็พอแล้ว”

     “...รู้แล้วน่า”(///-.) ผมหลับสายตาของกงชานที่ยิ้มหยีๆมาให้ ก่อนจะถามออกไป “แล้วเห็นชินวูไหม?”

     “...อ๋อ เห็นบอกว่าวันนี้ต้องไปจองโรงแรมน่ะครับ เลยมาไม่ได้” ผมพยักหน้าเบาๆ ไม่มีชินวูก็ค่อยโล่งอกหน่อย อย่างน้อยชินวูจะได้ไม่มาเห็นผมอยู่กับกงชาน

 

     พวกเราเลยเลือกที่จะเดินหนีออกมาที่โรงอาหาร แต่ก็ยังมีคนเยอะอยู่ดี แม้จะไม่เยอะเท่าที่หน้าโรงเรียนก็ตาม วันนี้ตัวอาคารเรียนปิดก็เรียนไม่สามารถขึ้นไปที่ห้องทำงานของผมได้ ก็เลยต้องมาโรงอาหารแทน

     “ฮยองจะกินอะไรหรอครับ เดี๋ยวผมไปต่อแถวซื้อให้” กงชานถามผมเบาๆ

     “อะไรก็ได้ อ๊ะ! บาโรกับซานดึลนี่นา”

     “แล้วฮยองจะเอายังไงหรอครับ” ผมหันไปมองกงชานที่ทำหน้าหนักใจ

     “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ก็ไปนั่งกับพวกเขาเนี่ยแหละ” หึ งานนี้มีเฮแน่นอน

     “จะดีหรอครับ อ๊ะ” ผมดันกงชานก่อนจะบอกให้รีบๆไปซื้อ กงชานก็เลยได้แต่เดินออกไปแล้วหันมามองผมเป็นระยะๆ

 

     “ว่าไงบาโร ซานดึล มานานหรือยัง” ผมเดินเข้าไปถาม

     “อ้าวจินนี่ มาสักพักแล้วล่ะ มาคนเดียวหรอ มานั่งด้วยกันสิ” บาโรทักผมกลับ

     “มากับกงชานน่ะ มันไปซื้อข้าวกลางวันให้อยู่น่ะ แล้วกินอะไรกันยัง” ผมเหลือบไปมองซานดึลนิดๆ ผมเลือกที่จะนั่งตรงข้ามซานดึล ก่อนจะถาม

     “ยังเลย มานั่งพักน่ะ ก็ไอ่เป็ดอ้วนนี่สิ ไม่สบายแล้วยังจะซนอีก เข้าซุ้มนู้นซุ้มนี้จนปวดหัว ก็เลยต้องหาที่พัก” บาโรผลักหัวซานดึบเบาๆ แต่จะว่าไปแล้ว...เขาสองคนก็ดูเข้ากันดีอยู่หรอกนะ แต่อีกใจนึงผมก็ยังแค้นซานดึลอยู่

     “นายสองคนคบกันแล้วหรอ”

     “เอ๋ บ้าน่า ฉันไม่มีทางไปคบกับเจ้าเป็ดปากเจ่อนี่หรอก” บาโรยิ้มอย่างร่าเริง แต่ผิดกับซานดึลที่แสดงออกนิดๆว่าเสียหน้าที่บาโรพูดแบบนั้น

     “แหมๆ อายไปได้นะซานดึล ฉันแค่ล้อเล่นเอง” ผมพูดก่อนจะเหยียบเท้าซานดึลอย่างเต็มแรง

โอ๊ย! เสียงร้องของซานดึลดังขึ้นทันที

     “ปวดหัวหรอซานดึล? เป็นอะไรมากหรือเปล่า จะเอายาไหม ไปห้องพยาบาลดีไหม?” บาโรรีบถามคนข้าตัวทันที แล้วมาทำเป็นปากแข็งว่าไม่มีทางคบกัน ทั้งๆที่เป็นห่วงกันถึงขนาดนี้เนี่ยนะ

     “เอาไงดี วันนี้อาคารก็ปิด ยาก็ไม่มี ไปที่ห้องฉันไหม” ซานดึลมองผมตาขวางทันที ก่อนจะลดความแข็งกร้าวลงเพราะบาโรอยู่ด้วย

     “ไม่เป็นไรหรอก ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจน่ะ อ๊ะ กงชานมาแล้วนั้นไง”

     “มาช้าจริงๆเลย นี่อุตส่าตั้งใจจะมาบอกเรื่องสำคัญกับบาโรแล้วก็ซานดึลแท้ๆ” กงชานทำหน้างงนิดๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร เหมือนกำลังคิดว่าผมจะพูดเรื่องอะไรกับบาโรแล้วก็ซานดึล

     “เรื่องอะไรหรอ”

     “นี่คงจะรู้เรื่องข่าวลือระหว่างฉันกับกงชานบ้างใช่มั้ย”

     “ก็พอได้ยินมาบ้าง ทำไมหรอ” ซานดึลถาม

     “คือ...เราสองคนคบกันแล้วนะ”

     “ห๊ะ! / อะไรนะ! / เอ๋?” เสียงซานดึล บาโร กงชาน ดังขึ้นพร้อมกัน

     “‘เอ๋’ เนี่ย หมายความว่ายังไงห๊ะ” ผมหันไปถาม

     “อ่อๆ คือผมแค่ตกใจเฉยๆ ไม่คิดว่าฮยองจะบอกออกไปตรงๆน่ะครับ”

     “เมื่อไรกัน” ซานดึลถามผมอย่างงงๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าบาโร

     “นั้นสิ แล้วไปคบกันได้ยังไงเนี่ย เห็นเกลียดขี้หน้ากันอยู่ไม่ใช่หรอ” อ้าว ก็นายไม่ใช่หรือไงที่บอกให้ฉันกับกงชานคบกันตบตาซานดึลน่ะ อ๋อ นี่คงเป็นบทละครของนายสินะ

     “ก็สักพักแล้วล่ะ ก็เรื่องแบบนี้มันช่วยไม่ได้นี่นา” ขอโทษก็แล้วกันนะชินวู แต่มันก็แค่เรื่องตบตาเท่านั้น ฉันจะอธิบายให้นายฟังตอนนายกลับมาก็แล้วกัน ผมหันไปมองซานดึลเหมือนจะสื่อว่า ผมไม่ได้ชอบบาโร เราจะได้ไม่มีเรื่องกันอีก เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นเพื่อนของจินยอง ไม่ใช่ผม...เวลาผมเริ่มหมดลงแล้ว

     “...งั้นก็ขอให้รักกันนานๆนะ” ซานดึลมองผมกลับ แต่ในสายตากลับดูกังวล สับสน ไม่เข้าใจ เหมือนไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อเมื่อรู้เรื่องนี้ หมายความว่ายังไงกัน

     “งั้น...ฉันก็ขอให้เข้าใจกันนะ ใช้เหตุผลแทนอารมณ์ จะได้อยู่ด้วยกันนานๆ”

     “เราสองคนไม่ได้จะแต่งงานกันนะบาโร!” ผมแว้ดใส่บาโร ก่อนที่จะหันไปขอความช่วยเหลือจากกงชาน แต่กงชานกลับมองบาโรนิ่งๆ สายตาเย็นชา...ไม่เคยเห็นเลย คิดอะไรอยู่นะ ดูเครียดๆจัง

     “กงชานๆ กินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวข้าวจะเย็นหมด” ผมเรียกให้สติของกงชานกลับ กงชานหันมามองผมก่อนจะยิ้ม แล้วพยักหน้าให้ผมน้อยๆ ก่อนจะตักข้าวกิน วันนี้ดูเงียบๆแหะ แต่ผมก็เหลือบเห็นสีหน้าหนักใจของบาโรด้วย แต่จะใช่หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะบาโรไม่แสดงออกมาเยอะ อาจจะเรื่องของซานดึลก็ได้มั้ง

 

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

 

     “จินยอง! เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ” ซานดึลเรียกจินยองหลังจากที่เห็นจินยองขอตัวเข้าไปห้องน้ำ จึงตามไปเพื่อที่จะถามเรื่องที่เขาสงสัย

     “ฉันก็ว่าอย่างนั้นนะ” จินยองยิ้มให้ซานดึลน้อยๆ เหมือนจะเยาะเย้ย

   “ระหว่างบาโรกับกงชาน นายเลือกกงชานใช่มั้ย”

     “ก็ไม่แน่หรอกนะ แค่หลอกให้ใครแถวนี้ให้หึงก็เท่านั้นเอง” ซานดึลมองรอยยิ้มที่มุมปากของจินยองอย่างไม่ไว้ใจ เพราะเขาไม่เคยคิดว่าจินยองจะเชื่อในสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นเรื่องจริง

     “ฉันไม่ได้ชอบกงชาน ฉันไม่ได้หึงสักหน่อย”

     “แล้วใครบอกว่าเป็นนาย? บาโรต่างหาก ไม่เห็นสีหน้าของเขาหรือไง แล้วก็...พี่ชายสุดที่รักนายด้วย”

 

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

 

 

 

ฝากนิยายผมด้วยนะคับ

ย้ายมาจากเด็กดี

ฝากเพจผมด้วย

ลิ้งเพจคับ

ขอบคุณที่ติดตามคับ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา