Because of you เพราะนายฉันถึงเป็นแบบนี้
เขียนโดย Avalle_Cafe
วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.
แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 00.22 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
8) Chapter 8
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Chapter 8
[Jinyoung talk]
สรุปแล้วกงชานก็ไม่ได้มีสอบวันจันทร์ = =;; กงชานบอกผมว่าเขามึนๆ จำผิดว่าสอบวันจันทร์ และวันนี้ก็โชคดีที่กงชานไปสอบถูกวัน แต่วันนี้ช่วงบ่ายผมไม่มีเรียน ผมเลยจะไปเดินเล่นที่มอลล์สักหน่อย
“จินยองใช่มั้ย จินยองๆ” ผมหันไปตามเสียงเรียก เจ้าเดิม...ชินวู
“ว่าไง” วันนี้มันดูดีผิดปกตินะ เพราะมันเซ็ตผม? ใส่เสื้อเข้ากับหน้าตา? ไม่ใช่แว่น? ดูดีไปนะ
“อึ้งล่ะสิ” เออ อึ้งน่ะสิ = =; ตึกตัก ตึกตัก อย่าเป็นแบบนี้สิฟร่ะ อย่าลืมสิว่าต้องมีแค่กงชานคนเดียว...แต่ใช่กงชานแล้วจริงๆน่ะหรอ ไม่สิๆ ต้องใช่กงชานแน่ๆ
“ไม่สักหน่อย”
“ฮะๆ อ่าๆ แล้วนี่มาทำอะไรน่ะ”
“เดินเล่น”
“นี่ก็บ่ายแล้วนะ ทานอะไรยัง” เรื่องกินตลอดเลยนะ - -!
“ทานแล้ว” มันมองผมแล้วคิดอะไรสักพัก ก่อนจะถามผมอีกครั้ง
“งั้นไปที่ๆนึงด้วยกันหน่อยสิ”
“ไปไหนอ่ะ”
“เอาน่า รับรองว่าคุ้ม” คุ้มอย่างนั้นหรอ
“อืมๆ รีบๆพาไปเลยไป”
“ไม่ต้องรีบหรอก ที่นี้น่ะ ถ้าไปตอนเช้าก็ไม่สวยน่ะสิ ไปดูหนังกันไหม จะได้รอเวลาไปด้วยเลย” ดูหนังอีกแล้วหรอ = =; อยู่กับมันสักพักสงสัยได้ดูทุกเรื่องแน่ๆ
“อ่าๆ” มันยิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีกไปถึงใบหู จะดีใจไปไหนเนี่ย ตึกตัก ตึกตัก แต่รอยยิ้มนี้ก็ทำให้หัวใจผมเต้นผิดจังหวะอีกแล้วนะเนี่ย ชินวูจับมือผมก่อนที่จะลากไปซื้อตั๋ว โดยที่ไม่ถามผมสักคำว่าอยากดูเรื่องอะไร
“รีบๆเข้าโรงเลยดีกว่า นี่ก็ใกล้จะเริ่มแล้วด้วย” ให้ตายสิ หนังที่มันเลือกช่าง...หวานแว๋วเสียเลยเกิน
“นายนั้นแหละที่ต้องรีบ มัวซื้ออะไรอยู่ได้ กินหมดหรอนั้นน่ะ” ผมมองดูขนมในอ้อมแขนของชินวูอย่างแปลกใจ ซื้ออะไรเยอะเยะว่ะเนี่ย กินก็กินคนเดียว เดี๋ยวก็อ้วนตายกันพอดี
“ก็ฉันยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าเลยนี่นา ก็ซานดึลมานอนที่ห้อง ก็เลยนึกว่าจะมีอาหารเตรียมไว้ให้ แต่ซานดึลดันไม่ได้ทำให้น่ะสิ” หมายความว่ายังไงกันล่ะเนี่ย ทำไมซานดึลถึงจะมาอยู่ห้องเดียวกันกับชินวูล่ะ ก็ในเมื่ออยู่กับบาโรน่าจะมีความสุขกว่า...หรือว่าไม่จริงกัน
“อย่างนั้นหรอ งั้นก็ไปกันได้แล้ว จะเริ่มแล้วเนี่ย”
“ครับๆที่ร๊ากก” ตึกตัก ตึกตัก
“ที่รักน้องนายสิ!” พูดอะไรเพี้ยนๆ
“ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่าๆ ไปได้แล้ว จะเริ่มแล้วไม่ใช่หรอ”
“ก็ไปสิ”
.
.
.
.
“เป็นแบบที่ผมคิดจริงๆด้วย...ผมเกลียดคุณ”
::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
“บาโรๆ ตื่นได้แล้ว บ่ายแล้วนะ”
“อืม...”
“ตื่นสิบาโร” ซานดึลพยายามเขย่าตัวของบาโร
“ขอ...นอนอีกนิดนะ” ซานดึลส่ายหน้าไปมาอย่างอดไม่ได้ เพราะยากนักที่จะเห็นบาโรทำตัวเป็นเด็กแบบนี้
“อ่าๆ”
ปึก...เสียงปิดประตูเงียบๆ บาโรเงยหน้ามองไปทางประตูสักพักก่อนจะล้มตัวนอนลงไปอีกครั้ง
บาโรถีบผ้าห่มออกอย่ารำคาญใจ เพราะเขารู้สึกร้อนเหลือเกิน แม้ในห้องนี้จะเปิดแอร์แล้วก็ตาม และด้วยความร้อนจากร่างกายที่บ่งบอกว่ามีไข้นั้น เลยผล่อยหลับไปอีกครั้ง
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ก๊อกๆ
“ฉันเข้าไปนะ” ซานดึลเอ่ยขออนุญาติ แต่คนที่อยู่ในห้องกลับไม่ได้ยิน เพราะนอนจมอยู่กับพิษไข้อยู่ “บาโรๆ” ซานดึลเรียกเบาๆ
“...”
“ตื่นได้แล้วนะบาโร นี่มันบ่าย 3 แล้วนะ” แต่เมื่อหันไปมองร่างบนเตียงก็ต้องรีบหันหน้าหนีทันที เพราะลืมไปว่าร่างโปร่งกำลังเปลือยท่อนบนอยู่ “ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าให้ดีนะ ห้องก็หนาว”
“บาโรๆ ตื่นได้แล้ว” เมื่อเห็นว่าคนที่ตนเองนั้นเรียกอยู่ไม่มีท่าทางจะตื่นขึ้นมาหรือได้ยินเสียงของเขา ก็เลยเอื้อมมือไปขยับแขนบาโรเบาๆ แต่ก็รีบชักออกมาแทบจะทันที เพราะเมื่อสัมผัสแขนของบาโรก็ได้รับความร้อนที่แผ่ออกมาจากตัวของบาโรได้ทันที “นี่ตัวร้อนขนาดนี้เลยหรอเนี่ย เมื่อกี้ยังไม่ร้อนขนาดนี้เลย”
เมื่อเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นมีไข้สูง ก็เลยห่มผ้าให้ก่อนที่จะออกไปเอากะละมังกับผ้า เพื่อที่จะเอามาเช็ดตัวให้บาโร โดยที่ไม่ลืมเบาแอร์ด้วย ซานดึลค่อยๆบิดผ้าหมาดๆแล้วค่อยๆเช็ดจากต้นแขนลงมาทั้งสองข้าง ก่อนจะเปลี่ยนไปเช็ดที่รอบคอ ซานดึลมองใบหน้าของบาโรแล้วแววที่บ่งบอกถึงความเป็นห่วง...ด้วยความรักที่มี ก่อนจะค่อยๆเช็ดที่หน้าผากลงมาที่แก้ม แล้วซับที่ตาเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบ...ที่หน้าผากอย่างแผ่วเบา
“หายไวๆนะ” แล้วซานดึลก็เปลี่ยนมาเช็ดที่หน้าอกของบาโร
บาโรขยับตัวนิดๆ เหมือนหงุดหงิดที่มีคนมาขัดจังหวะเวลานอน ก่อนจะนิ่งไปเพราะความเหนื่อย ซานดึลก็ทำได้เพียงส่ายหน้าเบาๆ แล้วอมยิ้มให้กับความน่ารัก...เป็นส่วนที่ทำให้ซานดึลรักบาโรมาถึงทุกวันนี้ ซานดึลค่อยๆเช็ดที่หน้าอกแล้วลงมาเรื่อยๆจนถึงบริเวณหน้าท้อง
“แค่นี้ก็คงพอแล้วมั้ง” ซานดึลเลยชุดน้ำอีกครั้ง แล้วบิดหมาดๆก่อนที่จะเอาไปวางไว้ตรงหน้าผากของบาโร “ฝันดีนะ” แล้วซานดึลก็เดินออกไปและไม่ลืมที่จะห่มผ้าให้บาโรด้วย
[Baro talk]
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนเพลีย สายตาผมกวาดไปรอบๆห้องอย่างช้าๆ ก่อนจะพบร่างเล็กๆน้อยอยู่ข้างๆ ความเย็นบนหน้าผากทำให้ผมต้องเอื้อมมือไปจับด้วยความสงสัย แล้วก็พบผ้าผืนนึงที่เปียกอยู่หมาดๆ ทำถึงมาอยู่ตรงที่หน้าผากผมล่ะ ผมหันไปมองซานดึลอย่างสงสัย เขาเป็นคนเอามาวางหรือเปล่า
เมื่อคืนก่อน คืนที่ซานดึลเดินออกจากห้องไป แล้วไปค้างที่ห้องของชินวู มันทำผมแทบคลั่งจนเป็นบ้า ผมยังจำได้อยู่เลยว่าวันนั้นผมปัดทุกสิ่งทุกอย่างในห้องของผม ผมอยากจะตะโกนให้เขากลับมาแต่ผมก็ทำไม่ได้ ผมทำเรื่องเลวร้ายกับเขาไว้มาก...มากมายเหลือเกิน ทั้งโยนความผิด ทั้งทำร้ายร่างกายและใช้เป็นเครื่องมือ น่าสมเพชตัวเองชะมัดเลย เพราะผมเองก็เป็นเครื่องมือของใครอีกคนเหมือนกัน คนที่ผมรักแล้วก็เกลียดที่สุดในชีวิต...แล้วมันก็กลับมาอีกครั้ง มันไม่ใช่ผมเลยที่คิดจะใช้ซานดึลเป็นเครื่องมือ
สองพี่น้องคู่นี้อาจจะติดเงินครอบครัวผม แต่เงินพวกนั้นมันก็ถูกใช้คืนหมดแล้ว แล้วมันกลับย้อนมาทำร้ายตัวผมเอง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะทำร้ายกันเองได้ กงชาน...ผมเกลียดมันชะมัด มันกลับมาที่นี่ทำไม ทำไมไม่ปล่อยผมใช้ชีวิตของอย่างมีความสุข หัวใจของผมอยู่ที่ใคร ผมนั้นรู้ดีที่สุด...แต่ทุกคนกลับไม่รู้
“...บาโร ตื่นแล้วหรอ” ซานดึลถามผมอย่างงัยเงย
“อืม” แต่ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร ซานดึลก็ยกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของผมอย่างแผ่วเบา
“ไข้ลดลงแล้วนี่ แต่ก็ยังมีไข้นะ หิวไหม? เดี๋ยวไปทำข้าวต้มให้กิน จะได้กินยาด้วยเลย แล้วก็นอนเยอะนะ จะได้หายไวๆ แล้ว...” ซานดึลมองหน้าผมเหมือนเด็กที่โดนผู้ใหญ่ดุ “ขอโทษนะที่ก้าวก่ายเรื่องของนาย”
“ไปต้มข้าวต้ม” ผมบอกสั้นๆ แค่นั้นแหละ ซานดึลก็เหมือนจะมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เหมือนต้นไม้ได้รับน้ำอีกครั้ง
“ได้ๆ งั้นนายก็ไปเคลียร์ตัวเองรอเลยนะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” ผมมองตามแผ่นหลังของซานดึลที่เดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางเหมือนเด็ก
ไม่ว่าผมจะเลวจะร้ายกับเขาแค่ไหน เขาก็ไม่เคยเกลียดผมเลย ดีกับผมเสมอ...ผมมีความสุขนะ แต่คนจะไม่มีก็คือตัวของเขาเอง ผมอยากจะไล่ให้เขาไปไกลๆจากชีวิตผม จะได้ไม่ต้องมาเจอกับเรื่องเลวร้ายนี่ แต่ผมก็ทำไม่ได้ เพราะผมไม่สามารถปล่อยเขาไปได้ เขาจำเป็นต่อผม...ในตอนนี้
15 นาทีผ่านไป
“ข้าวต้มเสร็จแล้วนะบาโร รีบๆออกมากินนะ เดี๋ยวจะหายร้อนหมด” มือที่กำลังจะเปิดประตูถึงกับชะงัก เมื่อไรเขาจะเลิกทำตัวดีๆกับผมสักที ผมจะได้ไม่ต้องมาลำบากใจแบบนี้
“อืม” ผมเดินออกจากห้อง แล้วก็พบถ้วยข้าวต้มวางอยู่ ผมมองมันสักพักก่อนจะนั่งลง ข้าวต้มสูตรโปรดของผม...ยังจำได้อีกหรอ
“อึ้งเลยหรอๆ อร่อยเหมือนเดิมเลยนะ เชื่อสิ” ผมมองซานดึลนิ่งๆ ผมอยากจะเห็นรอยยิ้มของเขาตลอดไปจัง แต่ก็คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะจินยอง แต่ซานดึลกับจินยองก็สำคัญกับผมมากๆทั้งคู่ แต่คนล่ะแบบ...จินยองคือคนที่ผมต้องการ แต่ซานดึลคือคนที่ผม...
“นั่งลงสิ” ผมสั่ง
“ชิมเลยสิ” ผมเลยตักข้าวต้มขึ้นมาเพื่อที่จะกิน แต่ซานดึลก็ห้ามผมเสียก่อน “กินอย่างนั้นไม่ได้นะ เดี๋ยวก็ลวกลิ้นชาหมด แล้วก็จะกินไม่อร่อยเอา มา” แล้วซานดึลก็แย่งช้อนจากมือผมไป
ผมมองซานดึลตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าเบาๆสองสามรอบ แล้วค่อยยื่นให้ผม เหมือนจะให้ผมจับ แต่ผมขี้เกียจนี่ ผมป่วย(?) ผมเลยชี้ไปที่ปากผมแทน
“นายนี่จริงๆเลยนะบาโร” ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่สุดท้ายแล้วซานดึลก็ป้อนผมจนหมดถ้วย
“ฉันไปนอนล่ะ”
“อื้ม ได้ๆ เดี๋ยวฉันล้างจานเสร็จก็จะไปนอนแล้วเหมือนกัน 4 ทุ่มแล้วหรอเนี่ย” ซานดึลบ่น(?) แล้วก็เก็บจานไปล้างให้ผม ผมเลยเดินเข้าไปในห้องด้วยความอ่อนล้า อยากจะรู้จริงๆเลย ว่าจินยองคิดยังไงกับผมกันแน่ เคยรักผมจริงๆบ้างไหม
“นายจะรักฉันได้หรือยัง” ผมพึมพำเบาๆ
[Sandeul talk]
“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่านายจะรักฉันได้หรือยัง” ผมพึมพำเบาๆ บาโรคงไม่รู้หรอกว่าผมได้ยินที่เขาพูด แต่ผมอยากให้เขาสนใจผมบ้าง ผมสนใจเขา ดูแลเขา อยู่เคียงข้างเขา ทำทุกอย่างเพื่อเขา รอเขามาตลอด ทำไมถึงเป็นผมไม่ได้ ทำไมผมถึงเป็นคนๆนั้นไม่ได้
ผมล้างจานคนเดียวเงียบๆ อยากจะรู้จริงๆเลยว่ามันจะมีวิธีไหนที่จะได้เงินเยอะๆเร็วๆไหม ผมไม่อยากไปทำงานขายตัวหรืออะไรประเภทนั้นด้วย ผมควรจะทำยังดี ถึงจะหลุดพ้นสถานะนี้ไป แล้วไปให้ไกลจากชีวิตของบาโรสักที เขาจะได้หายไปจากใจผมสักที หลังจากที่ผมล้างจานเสร็จ ผมก็เปิดเข้าไปอย่างเงียบๆ เพื่อว่าบาโรจะนอนหลับไปแล้ว จะได้ไม่ไปปลุกให้ตื่น
“ตัวยังร้อนอยู่เลย ไข้แทบไม่ลดเลย” พูดเอ่ยกับตัวเองเบาๆ พรุ่งนี้บาโรมีสอบเสียด้วยสิ ส่วนผมสอบเสร็จตั้งแต่เช้านี้แล้ว ช่วงนี้ทุกคนมีสอบกันเพราะจะหมดเทอม 3 ขอปีแล้ว ศุกร์นี้ก็ปิดเทอมฤดูหนาวแล้ว สงสัยอากาศเปลี่ยนกระทันหัน บาโรถึงป่วยแบบนี้ ความจริงบาโรก็เป็นแบบนี้ทุกเทอม แต่ผมก็ยังไม่ชินสักที ผมเลยตัดสินใจขึ้นไปนอนข้างๆบาโร
“ฝันดีนะ แล้วก็โชคดีกับสอบพรุ่งนี้ล่ะ ฉันจะเป็นคนเอาไข้นายออกเอง”
::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Jinyoung talk]
“ชินวู เมื่อไรจะถึงเนี่ย นี่มัน 4 ทุ่มนะ ให้บาโรเดินตรวจหอคนเดียวบ่อยๆ แล้วมันก็โกรธฉันหรอก” ผมบอกไอ่จุกที่มันลากมันมาตั้งนาน
“อีกนิดเดียวจริงๆ ถึงแหละๆ” ชินวูพาผมมาที่สะพานแห่งนึง แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไม
“นายพาฉันมาที่นี่ทำไมเนี่ย”
“อีก 5 นาทีๆ อย่าหลับตาล่ะ”
“นายจะบ้าหรือไง 5 นาทีไม่ให้หลับตาเลย”
“หมายถึงอย่าพลาดต่างหากเหล่า”
“ร..รู้น่า” โด่ว! ผมรู้หรอก ก็พูดประชดไปก็เท่านั้นเอง ชิชะ
“...”
“...”
“ฉันถามจริงๆนะ” ชินวูพูดขึ้นทำลายความเงียบของเรา 2 คน ทำไมวันนี้ไม่มีคนมาเดินแถวนี้เลยว่ะ
“จะถามไรล่ะ”
“นายชอบบาโรจริงๆหรอ”
“...ถ้าเอาจริงๆนะ” ผมคิดสักพัก บาโรไม่เคยทำให้ผมหัวใจเต้นแรงได้เหมือนตอนที่อยู่กับกงชานหรือชินวูเลยสักครั้ง ผมไม่รู้ว่าหัวใจของผมอยู่ที่ใครเสียด้วยสิ “ฉัน...ไม่ได้ชอบบาโร”
“งั้นนายชอบใครล่ะ” ฉันยังไม่รู้เลย
“แล้วนายถามฉันทำไมล่ะ”
“เพราะฉัน...”
ฟิ๊วววว ตูม!!! ตูม ตู๊ม! ฟิ๊ววว ฟิ๊ววว ตูม! ตูมมมม!!!
ผมหันไปมองตามเสียงที่ดังจนไม่ได้ยินเสียงของชินวู และสิ่งที่ผมเห็นก็คือแสงที่ลอยขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะระเบิดออกมาเป็นสีสันสวยงาน...พลุ ผมยิ้มกว้างให้ชินวู ทั้งแต่ผมตื่นขึ้นมาในร่างของจินยองก็ไม่มีใครเคยพาผมมาดูพลุเลย ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่ผมชอบมากๆ ชินวูค่อยๆโน้มตัวลงมาหาผม ก่อนจะพูดเสียงดังพอที่ผมจะได้ยิน
“ฉันรักนาย” ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก นายรักฉันอย่างนั้นหรอ... นายไม่รักที่ฉันเป็นจินยองใช่มั้ย “ฉันรัก...ที่นายเป็นแบบนี้ แม้นายจะเปลี่ยนไปหน่อย แต่ฉันก็รักนาย รักทุกอย่างที่เป็นนาย ฉันรักนายมาตลอด 5 ปีเลยนะจินยอง” นายรักที่ฉันเป็นแบบนี้ แต่นายก็ยังคงรักจินยองมาโดยตลอด...แต่ผมจะไม่สนอีกแล้ว ไม่ว่าตอนนี้ผมอาจจะเปิดใจให้กงชานแล้วก็ตาม แต่ชินวูก็เป็นคนที่จินยองชอบไม่ใช่หรอ
“ฉันก็รักนาย” ชินวูค่อยๆขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ผม จนกระทั่งผมสามารถรับรู้ถึงลมหายใจของเขาได้ แล้วเขาก็ค่อยๆทาบริมฝีปากลงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหนักแน่นขึ้นเหมือนโหยหามาโดยตลอด
ฟิ๊ววววว ตูม! แล้วพลุดอกสุดท้ายก็ดับลงไป เราสองคนถึงจะถอดจูบ
“คบกับฉันนะ” ผมมองชินวูอย่างไม่เชื่อว่าจะได้ยินคำนี้ออกมา แล้วกงชานล่ะ...ทำไมผมรู้สึกผิดจัง
“อื้ม คบกันนะ”
.
.
.
.
.
“ผมเกลียดคุณ! ผมเกลียดที่คุณทำลายชีวิตผม!! ผมเกลียดที่คุณทำให้ผมเป็นแบบนี้! คุณหลอกลวงผมมาโดยตลอด แล้วคุณก็จะได้รับรู้ถึงความรู้สึกของผม คุณจะได้สัมผัสมันแน่! ฮ่าๆๆๆๆๆ!!!!” เสียงนึงตะโกนอย่างไม่กลัวว่าใครจะได้ยิน เพราะเสียงพลุกลบเสียงของเขาไปหมด เขามองดูคน 2 คนตรงหน้าอย่างเครียดแค้น ก่อนจะหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเหมือนคนสติไม่เต็ม...ใช่แล้ว สภาวะจิตของเขาตอนนี้มันไม่เต็มอยู่แล้ว!!!
ห้องของจินยอง
“ส่งแค่นี้พอ ไปนอนได้แล้ว” ผมบอกชินวู
“ได้ครับ ^^ ฝันดีนะคนดีของผม” ชินวูเอ่ยเสร็จ ก็โน้มใบหน้ามาจูบบนหน้าผากของผม
“ทีนี้ล่ะปากหวานเชียวนะ ไปนอนได้แล้วไป”
“พรุ่งนี้ฉันจะมารับออกไปข้างนอกนะ”
“อื้ม ไม่ลืมหรอก”
“ครับผม” ผมมองดูแผ่นหลังของชินวูที่กำลังจากไป ก่อนจะปลดล็อคประตูเข้าไปข้างใน
แกร๊ก
“กลับมาแล้วหรอครับ กลับดึกจัง”
“อ่าว ยังไม่นอนอีกหรอ”
“ครับ ฮยองไปไหนมาหรอครับ”
“เอ่อ...ไปดูหนังมาน่ะ รอบมันดึกน่ะ”
“หรอครับ งั้นฮยองคงจะเหนื่อยแล้วสิ ไปนอนเถอะครับ ฝันดีนะครับ ผมจะอ่านหนังสือต่ออีกหน่อย แล้วค่อยไปนอนนะครับ” ผมพยักหน้าให้ แล้วกงชานก็เดินเข้ามาหาผม ก่อนจะโน้มใบหน้ามาจูบผม...รู้สึกแย่ ผมไม่อยากหักหลังคนๆนี้เลย แต่ชินวูมาก่อนไม่ใช่หรอ ผมไม่ได้ใจง่ายนะ แต่เรื่องทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะจินยองเองไม่ใช่หรือไงกัน ที่รักทั้ง 2 คน ผมก็เลยสนองให้ทั้ง 2 คนเลยไง แล้วพอนายกลับมา...นายก็มาแก้เองก็แล้วกัน
“อื้ม รีบๆนอนล่ะ”
“ฮยองรู้ไหม...”
“อะไรหรอ”
“...ผมไม่อยากให้ใครจูบฮยองนอกจากผมเลย ไม่อยากให้ใครสัมผัส ไม่อยากให้ใครบอกรักนอกจากผม ผมรักฮยองจังเลย” ฉึก! เหมือนมีมีดจิ้มลงไปที่หัวใจของผม ก่อนจะกรีดลงมาอย่างช้า ฉันขอโทษนะกงชาน แต่ฉันทำให้นายไม่ได้จริงๆ
“นายพูดเรื่องอะไรน่ะ จะมีใครหน้าไหนมาทำอะไรฉันนอกจากนายกัน คิดมากแล้วเด็กน้อย” ผมเดินเข้าไปกอดกงชาน “ฉันรักนายนะ”
“ครับ ไปนอนเถอะครับ ดึกแล้ว” ผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องไป ฉันขอโทษนะกงชาน ที่ฉันไม่สามารถรักนายได้เพียงคนเดียว และฉันไม่สามารถทำตามที่นายขอได้
::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Baro talk]
ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าอย่างงงๆ ก่อนจะหันไปมองนาฬิกาข้างๆเตียง 8 โมงเช้า วันนี้ผมมีสอบตอนบ่าย แล้วพรุ่งนี้ก็วันสุดท้ายแล้ว วันที่ทุกคนไม่มีสอบ เป็นวันฉลองของเด็กมหาลัยนี้ ที่โรงเรียนจะมีงานเล็กน้อย พวกอาจารย์เป็นคนจัดกัน แต่เดี๋ยวก่อน...ทำไมผมรู้สึกสบายหัวจัง ผมยกมือไปแตะที่หน้าผากของผม แล้วก็พบว่าผมไม่มีไข้แล้ว แปลก...ทำไมไข้หนักขนาดนั้นถึงหายเร็วขนาดนี้
“อืม...ตื่นแล้วหรอบาโร โชคดีกับสอบวันนี้นะ มีข้าวต้มจากเมื่อคืน...อุ่นกินเอาเองนะ” ผมหันไปตามเสียงอู้อี้ของซานดึล เมื่อคืนนอนข้างๆผมหรอ...หรือว่า! ผมเอื้อมมือตัวเองไปแตะที่หน้าผากของซานดึล ก่อนจะพบว่าซานดึลมีไข้สูงมาก สภาพเหมือนผมเมื่อวานเลย
“นาย...ตั้งใจทำแบบนี้ใช่มั้ย”
“ก็นายมีสอบนี่ แล้วฉันก็คิดว่า...นายคงจะส่งให้ทำแบบนี้ แต่ไม่มีแรงสั่ง” ไอ่บ้าเอ๊ย! ผมอยากจะต่อยตัวเองจริงๆ ผมคงจะทำไม่ดีกับเขามากจนคิดมากขนาดนี้เลยสินะ
“...ยังไงก็แล้วแต่ นายต้องทำให้นายหายไข้ภายในคืนนี้ เข้าใจไหม”
“มัน...สั่งได้ด้วยหรอ” ซานดึลเงยหน้ามองผมตาแป๋ว ผมอยากจะบ้าตาย
“เออ!”
“อืม จะพยายามนะ แต่ถ้าไม่หาย...นายอย่าโกรธฉันนะ”- -…คันไม้คันมือ อยากจะบีบคอคนตาย
“โกรธแน่!”
“...ฮึก” กำ นี่ผมลืมอะไรไปหรือเปล่า ตอนมันไม่สบายน่ะ มันอารมณ์อ่อนไหวที่สุด!! เวรกรรมจริงๆ
“นอนไป! ไม่ต้องมาร้องไห้เลย แล้วออกไปกินข้าวต้ม...ให้หมด! แล้วกินยาด้วย! ไม่งั้นฉันจะทำให้นายป่วยอย่างนี้ไปเรื่อยๆเลยคอยดู” ผมขู่
“อืมมม ฮึก เข้าใจแล้ว” ซานดึลค่อยๆล้มตัวลงไปนอนอีกครั้ง เฮ้อ...ทำตัวเหมือนเด็กเลยจริงๆ
ผมเลือกที่จะออกจากห้องนอน ดีกว่าอารมณ์เสียในนั้น นี่มันใช้อะไรคิดกันนะ ถึงได้ทำแบบนี้ ผมเดินไปอุ่นข้าวต้มที่พอสำหรับ 5 คน ทำเยอะไปไหม - - แต่ก็โชคดีไป เพราะว่าวันนี้มันป่วย ผมเลยเดินเข้าไปในห้องเงียบๆ ก่อนจะเดินไปหยิบชุดของตัวเอง แล้วเข้าห้องน้ำไป
ผมกินข้าวคนเดียวเงียบๆ...เงียบเกินไป เงียบแบบนี้มันไม่ชินเลยแหะ ผมเลยเดินไปหยิบยามาวางบนโต๊ะ มันจะได้ไม่ลืมกินยา แล้วก็เดินไปอุ่นข้าวต้มอีกชามสำหรับซานดึล แล้วเดินกลับมากินต่อ แต่มันก็ยังเงียบๆอยู่ดี ผมเลยเดินไปหยิบหนังสือมาอ่านสอบ จนในที่สุดข้าวต้มในชามผมก็หมด เมื่อผมมองไปดูนาฬิกา ก็พบว่า 9 โมงกว่าแล้ว ผมเลยตั้งใจจะเดินไปปลุกซานดึล
แกร็ก พอผมเปิดประตูเท่านั้นแหละ ก็มีร่างที่กำลังมีไข้อย่างหนักล้มใส่ทันที ทำให้ผมต้องรีบรับเอาไว้
“ข..ขอโทษ”
“ลุกขี้นมาเองทำไม” ผมพูดเสียงแข็ง รู้สึกไม่พอใจนิดๆ
“ก็มันสายแล้ว กลัวนายหิว” มันพูดเสียงอ่อย - -* ชักหงุดหงิด
“ฉันจะเป็นตายร้ายดีแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย”
“ขอโทษ...” ซานดึลหน้าจ๋อยทันทีที่ผมพูด “ฉันอยากลุกแล้ว”
“...อืม” ผมพยุงซานดึลขึ้น ก่อนจะอุ้มมันท่าเจ้าหญิง
“อ๊ะ ฉันเดินเองได้”
“แล้วก็ล้มแบบเมื้อกี้” มันหันมามองหน้าผม แต่ด้วยท่านี้แล้ว มันทำให้หน้าของมันเกือบชนกับหน้าของผม ทำให้ผมสามารถเห็นได้ชัดเจนขึ้น ตัวตากลมใสเบิกกว้างด้วยความตกใจ ริมฝีปากที่อวบอวนชวนให้ชิม ผิวที่ขาวเนียนอมชมพู แล้วเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
“ข..ขอโทษ” ซานดึลรีบหันหน้ากลับทันที
“นายทำอะไรผิดอย่างนั้นหรอ” ผมแกล้งถาม ก่อนจะขยับหน้าไปซุกแถวๆซอกคอ
“อ๊ะ ม..ไม่รู้ อย่าทำแบบนี้สิ”
“ทำแบบไหนหรอ” ยิ่งซานดึลพูด ผมก็ยิ่งซุกหนักกว่าเก่า สนุกชะมัด
“อย่าแกล้งกันสิ ฉันป่วยอยู่นะ”
“นั้นก็ความผิดนาย ฉันไม่ได้บอกให้เอาไข้ฉันไปเสียสักหน่อย”
“บาโร ฉันง่วงแล้ว” มีการช้อนสายตามามองผมด้วย อ้อนกันหรือไง
“ก็ไปนอนสิ ใครห้ามนาย”
“ก..ก็นายอุ้มฉันอยู่นะ”
“ก็เดี๋ยวนายจะล้มอีก”
“แต่ฉันเดินเองได้”
“แล้วก็จะล้ม”
“บาโร อย่าแกล้งกันได้ไหม ปล่อยได้แล้วนะ” หึ ผมปล่อยซานดึลลงช้าๆ ก่อนส่งเข้านอน จะได้แน่ใจว่าซานดึลไม่ได้หกล้มอีก แล้วผมก็เดินออกไปหยิบกระเป๋าและหนังสือก่อนออกจากห้องไป
::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
[Jinyoung talk]
“โชคดีนะกงชาน ตั้งใจสอบล่ะ” ผมอวยพรให้กงชาน ก่อนที่กงชานจะก้มตัวมาจูบผม
“มีของขวัญกับคนอวยพรแบบนี้ ได้ที่ 1 แน่ๆ : )”
“บ้าหรอ! พูดอะไรแบบนั้นน่ะ ไปสอบได้แล้ว ไปเลยๆ” ผมไล่กงชาน
“งั้นผมไปแล้วนะ แล้วเดี๋ยวเย็นนี้ไปเที่ยวกัน”
“อื้ม” โชคดีไปที่ผมมีนัดกับชินวูตอนบ่าย ไม่งั้นเวลาชนกันล่ะจะแย่แน่ๆ
ผมมองตามแผ่นหลังของกงชาน แล้วเดินไปนั่งเล่นที่โซฟา เพื่อที่จะแอบงีบสักพักเอาแรง แล้วผมก็ไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ด้วย เดี๋ยวจะหลับเผลินเอา ผมนอนเล่นอยู่สักพักจนสุดท้ายก็เผลอหลับไป
‘นายรู้ไหม ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาน่ะ ฉันมีความสุขมากเลยนะ ที่ได้อยู่กับนาย’ ผมมองดูตัวเองพูดกับคนๆนึง คนๆนี้อีกแล้ว...นี่คือความทรงจำอีกแล้วสินะ
’รู้สิครับ ก็ฮยองบอกผมทุกวันเลยนี่นา’ เสียงนี้มัน...ทำไมคราวนี้มันชัดเจนกว่าครั้งอื่นๆ นี่มันเสียงของ...
’แล้วนายล่ะ เมื่อไรจะรักฉันสักที’
’ผม...ผมยังไม่รู้ครับ รู้แค่ว่าผมเองก็มีความสุขเวลาอยู่กับฮยองแบบนี้’ ...กงชานบอกผม สุดท้ายแล้วคือกงชานเองหรอเนี่ย กงชานจริงๆสินะ คนที่ผมเห็นในความทรงจำบ่อยๆ มีแค่นายสินะ
.
.
.
แล้วจู่ๆสถานที่แล้วก็รูปภาพก็เปลี่ยนไป
’นี่คือซานดึล เด็กใหม่ที่ย้ายเข้ามาตอนเทอม 4 พอดีจำเป็นต้องย้ายน่ะ’ บาโรอธิบายให้ผมฟัง
’อืม’
’แล้วก็...เขาเป็นน้องของชินวูฮยองด้วย’
’น้องของชินวู?? จริงหรอเนี่ย’
’ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ’ ผมมองเหตุการณ์นั้นอย่างเงียบๆ
’อืม บาโร...ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย 2 คน ขอโทษนะซานดึล’
’ไม่เป็นไรหรอกครับจินยองฮยอง’
.
.
.
’มีอะไรหรอจินยองฮยอง ทำไมดูรีบจัง ถึงขนาดแยกตัวออกมาก่อนเลย’
’ก็...คือว่า...’
’อย่าอ้ำอึงสิ มีอะไรจะพูดก็พูดมาเลย’
’คือ...เรื่องที่เราพนันกันน่ะ’
’ทำไมล่ะ จะยอมแพ้หรือไงกัน’
’เปล่า แต่กงชานบอกรักฉันแล้ว’
’...พูดจริงหรอ’
’แล้วจะล้อเล่นไปทำไมล่ะ’
’...บ้าจริง! ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้นะ!’ บาโรดูหัวเสียไม่น้อยเลยทีเดียวที่รู้เรื่องนี้
’แต่...ฉัน...’
’...’
’ฉัน...ฉันรัก...’
’อย่าบอกนะว่านายรักมันน่ะ’
’เปล่านะ แค่จะบอกว่าฉัน...ยังรักชินวูอยู่เหมือนเดิม เพราะงั้นนายตัดใจเสียเถอะ’
’...ไม่ ต่อให้นายชนะ นั้นก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะไม่รักนายอีกเลย’
’...ก็แล้วแต่นายนะ’
กริ๊ง~ กริ๊ง~ กริ๊ก!
ผมค่อยๆพยุงตัวเองขึ้น ก่อนจะนั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองสักพัก สรุปแล้วผมพนันกับบาโรเรื่องทำให้คนมารักผมอย่างนั้นหรอ แล้วคนๆนั้นที่พูดถึงคือใครกัน แล้วสรุปคือผมรักชินวูสินะ...อย่างนั้นสินะ
“ทำไมเรื่องนี้มันไม่ง่ายเลยนะ นายจะทำให้มันยุ่งยากทำไมกัน ทำไมไม่บอกฉันมาให้หมดเลย” ผมบ่นกับตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ สรุปแล้วที่ผมเลือกที่จะคบกับชินวูก็ถูกแล้วสินะ
แต่จะคิดอะไรตอนนี้มันก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร ผมเลยเลือกที่จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้ารอชินวูมารับไปเที่ยว แล้วหาอะไรทำระหว่างรอ จะได้ไม่คิดมากกับเรื่องนี้ แล้วผมก็ดันไปสะดุดตากับตู้ๆนึง ที่ผมไม่ได้สังเกตุมาก่อนเลยว่าผมไม่เคยเปิดดูเลย แปลกมากๆ...ทำไมผมถึงมารู้ตอนนี้นะ ผมเลยเดินเข้าไปหาตู้นั้น และตั้งใจที่จะเปิดออกดู แต่มันดันล็อค...สงสัยนั้นจะเป็นเหตุผลที่ผมให้ผมลืมไปว่ายังไม่ได้เปิดตู้นี้ดูว่ามีของอะไร ผมจึงเดินเข้าไปในห้อง ไปเอากุญแจดอกนึงที่ผมสงสัยมานานแล้วว่าสำหรับอะไร และคิดว่ามันคงจะใช้เปิดตู้ใบนี้
แล้วผมก็พยายามเอากุญแจนี้เปิด...แล้วในที่สุดผมก็ไขได้! เป็นกุญแจสำหรับตู้นี้จริงๆสินะ ผมดึงกุญแจออกก่อนจะค่อยๆเปิดตู้ใบนี้ มันเป็นตู้เล็กๆ แล้วก็อยู่ในมุมลับตาคนอีกด้วย เลยทำให้ผมลืมมันไป เมื่อผมเปิดตู้ใบนี้...ผมก็พบกับสมุดหลายๆเล่ม ไดอารี่หรอ? แล้วก็อัลบั้มรูปภาพ ผมหยิบมันทั้งหมดออกมา ก่อนจะเอามานั่งอ่าน โดยที่ผมเลือกดูรูปภาพเป็นสิ่งแรก
เมื่อผมเปิดอัลบั้มรูปเล่มแรก...ผมก็พบรูปของผมกับบาโร แล้วก็ชินวู...แล้วก็กงชาน แล้วก็มีภาพของซานดึลเล็กน้อย ผมเลยหยิบอีกเล่มมาดูต่อ ก็พบว่ามันเป็นรูปที่พวกผมทั้ง 5 คนไปเที่ยวกัน แล้วเล่มสุดท้าย...พอผมเปิดเข้าไป ก็พบกระดาษแผ่นนึงตกลงบนตักผม ผมเลยหยิบมันขึ้นมาอ่าน
‘อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ฉันรักมากที่สุด มีแต่ความทรงจำดีๆระหว่างเรา
รู้ไหมว่าตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ฉันรักนายมากๆเลยนะ
แม้ฉันอาจจะบอกนายไม่บ่อย แต่ฉันรักนายจริงๆนะ
ฉันอยากจะมอบอัลบั้มนี้ให้นาย เพราะฉะนั้น...
นายต้องรักษามันดีๆนะ รักนายนะ...จองจินยอง’
“เราเขียนให้ใครกัน?” ด้วยความสงสัย ผมเลยเปิดอัลบั้มรูปทันที ต้องเป็นชินวูแน่ๆ
เมื่อผมเปิดอัลบั้ม...คนที่ผมเห็นก็คือ...กงชาน ทำไมถึง...ไม่เป็นชินวู สรุปนายรักใครกันแน่จินยอง นายเพิ่งบอกฉันไม่ใช่หรอว่านายรักชินวู แล้วทำไมอัลบั้มนี้กับโน๊ตของนายถึงเป็นกงชาน อัลบั้มนี้มีภาพตอนไปเที่ยวที่ถ่ายกัน 2 คน มีภาพถ่ายคู่กัน ภาพที่หัวเราะด้วยกัน ความทรงจำทุกๆอย่างเกี่ยวกับนาย แล้วก็มีโน๊ตอีกแผ่นเสียบอยู่ในเล่ม
‘รูปพวกนี้ ฉันสะสมมาตั้งแต่วันแรกๆที่เราเจอกัน
จนถึงทุกวันนี้ นายทำให้ฉันมีความสุขมากเลยล่ะ
ขอบใจมากๆนะ ที่มอบเวลาดีๆให้ฉันจดจำ’
ผมเลยเปิดผ่านๆไปเรื่อยๆ เผื่อจะมีโน๊ตอีก แล้วผมก็พบอีก 2 ใบ แต่แน่นอนว่าพอผมอ่านเสร็จก็เสียบมันไว้ที่เดิม เผื่อจินยองกลับมาจะได้ไม่ต้องมาเสียบใหม่
‘ฉันมีเรื่องจะบอกนายด้วยนะ แล้วมันก็เลวร้ายมาก
นายอาจจะไม่ให้อภัยฉัน แต่ฉันก็อยากจะให้นายฟังฉันก่อน
ฉันอยากจะบอกนายว่าตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน
ทุกสิ่งทุกอย่าง...ล้วนมาจากใจฉันทั้งนั้น
ฉันไม่เคยเสแสร้งเลยสักครั้งเดียว แต่ฉันก็ยอมรับนะ
ว่าแรกๆอาจจะไม่ใช่ แต่พอรู้จักตัวตนนาย
นายก็หลงรักนายไปหมดแล้วทั้งหัวใจ’
‘ฉัน...กับบาโร พนันกันไว้ ว่าถ้าฉันทำให้นายรักฉันได้
เขาจะไม่มาวุ่นวายกับฉัน เพราะเขารักฉันอยู่
เพราะฉันรักชินวูมาก ฉันถึงได้ทำแบบนี้
แล้วฉันเองก็ดันสับสนแทน ว่ารักใครกันแน่
คนที่ฉันรักนั้น...ฉันได้ตัดสินใจแล้วล่ะ
ว่าใครคือคนที่ฉันรัก แล้วแน่นอนว่าคือ...’
แล้วผมก็ไม่พบกระดาษแผ่นอื่นอีกเลย สรุปแล้วนายรักใครกันแน่ ทำไมครั้งนี้นายถึงทำเหมือนนายรักกงชานแทนล่ะ นายจะบอกความจริงกับเขา เรื่องที่นายพนันกับบาโร...แล้วนายก็สับสน แล้วในจดหมายก็บอกว่านายรักกงชานในตอนแรก นายทำฉันงงมากเลยนะจินยอง สรุปแล้วนายรักหงชานหรือบาโรกันแน่ หรือที่นายเขียนลงไปทั้ง...นายแค่ต้องการให้นายชนะพนันบาโรกันแน่
ผมปิดอัลบั้มรูป ก่อนจะหยิบไดอารี่มาอ่าน 2 เล่มแรกก็ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็ชีวิตประจำวันในแต่ละวัน ซึ่งเขียนสั้นมากๆ ก็แน่ล่ะ ผมเหมือนคนที่ชอบเขียนไดอารี่เสียซะที่ไหนกัน แต่พอเริ่มเล่มที่ 3 ก็พบว่าจินยองเริ่มจะเขียนยาวขึ้น ซึ่งมันเกี่ยวกับแผนการในการจีบกงชาน พอมาเล่มที่ 4 จินยองกลับเขียนได้เพียงครึ่งเล่มเท่านั้น ซึ่งมันเกี่ยวกับกงชานแล้วก็ชินวู นายเองก็คงจะสับสนเหมือนฉันในตอนนี้สินะ
แต่สิ่งที่ผมแปลกใจก็คือ...ทำไมบาโรถึงได้ดูตกใจที่กงชานกลับมาเรียนที่นี่ มันเป็นเพราะกงชานรู้เรื่องการพนันนี้หรือเปล่า แล้วทำไมกงชานถึงออกจากโรงเรียนนี้ไป ทำไมผมถึง ’ความจำเสื่อม’ เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ สรุปแล้วเป็นผมหรือเปล่า ที่เป็นต้นเหตุในเรื่องนี้ ทำไมทุกอย่างมันถึงได้วุ่นวายขนาดนี้นะ
ผมอยากจะบอกกับตัวเองได้จัง ว่าผมรักใครชอบใคร ผมจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไง จะรับรู้เรื่องนี้ยังไง จะหาความจริงจากไหน แล้วจะต้องทำยังไงเมื่อรู้ความจริงแล้ว
ติ๊งต่อง! ชินวูสินะ ผมเก็บสมุดกับอัลบั้มทุกเล่มกลับเข้าตู้ แล้วเดินไปเก็บกุญแจ
“มาแล้วๆ”
::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::
ฝากนิยายผมด้วยนะคับ
ย้ายมาจากเด็กดี
อ่อ มีบทนำด้วย รู้ใช่มั้ยคับ?
ไม่ได้เรื่องที่ตอนที่ 1
ฝากติดตามเพจด้วยนะคับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ