Because of you เพราะนายฉันถึงเป็นแบบนี้

5.0

เขียนโดย Avalle_Cafe

วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.14 น.

  11 ตอน
  0 วิจารณ์
  18.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 00.22 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

10) Chapter 10

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Chapter 10

 

 

“แล้วใครบอกว่าเป็นนาย? บาโรต่างหาก ไม่เห็นสีหน้าของเขาหรือไง แล้วก็...พี่ชายสุดที่รักนายด้วย” ซานดึลมองคนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าเขาจะรู้ว่าพี่ชายเขาชอบตัวเองด้วย และยังคิดที่จะทำร้ายพี่ชายของเขาอีก

 

[Sandeul talk]

                ผมไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ ผมเข้าใจนะว่าผมทำร้ายเขา แต่ไม่คิดว่าเขาจะเชื่อในการกระทำของผม ทั้งๆที่เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน เขาคิดที่จะทำร้ายผมผ่านคนที่ผมรัก นี่มันไม่เหมือนเขาเลยจริงๆ ทำไมทุกอย่างมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ

                จินยองแสยะยิ้มให้ผม ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ส่วนผมก็ได้แต่มองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ คนที่เคยเย็นชาเพราะถูกกดดันจากเหตุการณ์ร้ายๆครั้งนั้น ทำให้ตัวตนจริงๆเป็นแบบนี้อย่างงั้นหรอ? คำว่าเพื่อนที่ผมให้ไปมันคงจะไม่มีค่าเลยสินะ

                “ไปเวทีใหญ่กันเถอะ เดี๋ยวมันจะเริ่มแล้ว” หลังจากที่ผมเดินกลับมา ผมก็ไม่เห็นกงชานแล้ว แถมบาโรยังทำหน้าเรียบๆด้วย ดูดีจริงๆ...

                “เป็นอะไรหรือเปล่า” ผมถามอย่างอดที่จะเป็นห่วงเขาไม่ได้จริงๆ

                “...กงชาน...” กงชาน? “...มันไปก่อนแล้วนะ”

“อ่อ อื้ม” บาโรแทบจะไม่ฟังเสียงตอบของผมเลยด้วยซ้ำไป เขาลากแขนผมออกไปทันที

 

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

[Jinyoung talk]

                ผมยืนยิ้มอยู่ในห้องน้ำกับภาพใบหน้าของซานดึลที่ผมเห็น เขายังเป็นคนที่หลอกง่ายอยู่เหมือนเดิม เพราะอย่างนี้ไง ผมถึงรู้ว่าเขาร้ายไม่ได้เท่าผมหรอก

ผมเดินออกจากห้องน้ำ ก่อนจะพบว่ากงชานหายไปแล้ว ผมเลยมองดูรอบๆอย่างช้าๆ ก่อนที่จะมีใครบางคนสะกิดเข้าที่แขนของผม

“เอ่อ...คบกับผมได้ไหมครับ” นึกว่าจะเป็นกงชานเสียอีก

“คงไม่ได้ เพราะเขาเป็นแฟนผม” เสียงที่ดังจากข้างหลังทำเอาผมตกใจ เสียงกงชาน...

“อย่ามาอ้างเลยดีกว่า! นายมีดีอะไรมาบอกว่าจินยองของผมเป็นแฟนนาย” กงชานมองเด็กนั้นด้วยสายตาขุ่นๆ ก่อนจะเอ่ยอีกครั้ง

“นายนั้นแหละมีดีอะไร ถึงพูดออกมาว่าจินยองฮยองเป็นของนาย รู้เอาไว้ซะ ว่าเขาเป็นของผมคนเดียว Na mean?” ไอ่บ้า!

“...ไม่จริง ข..ขอโทษครับ” เด็กคนนั้นก้มหัวให้กงชานกับผม ก่อนจะรีบวิ่งออกไปเลย

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ตามไม่ทันเลย แค่นายพูดอังกฤษใส่ มันก็วิ่งหนีเลยหรอ” ผมถามขึ้นอย่างงงๆ

“ไม่รู้สิ”

“กงชาน นายอย่าทำหน้าบึ้งสิๆ ยิ้มให้ฉันหน่อยสิ นะๆ” ผมยิ้มบางๆให้กงชาน ก่อนจะอ้อนเล็กน้อย

“...ครับ : )” กงชานยิ้มให้ผม ก่อนจะสอดมือเข้ามาในมือผม “ไปเวทีใหญ่เถอะครับ”

ผมพยักหน้าให้กงชานเบาๆ ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นชินวูที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ซึ่งไกลอยู่แต่ก็คงไม่ต้องเดาว่าเห็นผมกับกงชานจับมือกันอยู่ แถมเมื่อกี้กงชานก็พูดซะดังด้วย ว่าเราเป็นแฟนกัน แต่ที่รู้ๆ ผมก็วางแผนไว้แล้วล่ะ สำหรับเรื่องที่ชินวูจะเข้าใจผิด เพราะผมไม่เคยทำอะไรโดยไม่วางแผนอยู่แล้ว

 

ณ เวทีใหญ่

 

“สวัสดีครับนักเรียนทุกคน วันนี้ก่อนที่ผมจะพูดเรื่องกิจกรรม ผมก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ตั้งใจและพยายามกันมาถึงจุดนี้ได้ วันนี้เป็นวันเชื่อมมิตรสัมพันธ์ ก็อยากจะให้ทุกคนเที่ยวชมกันอย่างสนุกสนานนะครับ” ประธานชมรมลีดเดอร์ชิปดงฮยอนเอ่ยเปิดพิธี

 

“ผมต้องขอขอบคุณประธานชมรมต่างๆที่ช่วยกันจัดงานนะครับ ผมหวังว่าทุกคนจะได้พักพ่อนกันก่อนที่จะปิดเทอมกันจริงๆ เห็นหน้าเห็นตากันก่อนที่จะจากกันไป ทุกๆคนคงรู้สินะครับ ว่ารุ่นพี่ส่วนใหญ่จะย้ายออกกันไปหมด เพราะปี 4 ของเรานั้น คัดแต่คนที่มีความสามารถ หลักสูตรจะเข้มข้นกว่าที่อื่นๆ น้อยคนนักที่จะเหลืออยู่ เพราะฉะนั้นเทอมหน้าก็เป็นเทอมสุดท้ายแล้ว ขอให้มีเวลาดีๆกันนะครับ” ดงฮยอนพูดปิดงานหลังจากที่ผมขึ้นไปพูดอะไรเล็กน้อย ในสถานะประธานนักเรียน ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไป

 

“ปีหน้า...ฮยองคงจะอยู่ต่อสินะฮะ” กงชานถามผมขึ้น

“แน่นอน นายก็รู้ว่าพ่อฉันนอกจากจะเป็นผูอำนวยการแล้วยังมีชื่อเสียงด้วย เรียนได้อยู่แล้ว”

 

ปี 4 ของมหาลัยนี้ไม่เหมือนกับที่อื่นๆ เพราะปี 4 ที่นี่จะเน้นหลักสูตรด้านการรับช่วงต่อของแต่ล่ะตระกูล จะมีครูสอนตามต้นตระกูล อย่างผมก็คงจะต้องเข้าเรียนในห้องตระกูลนักธุรกิจของพ่อ ส่วนคนอื่นๆก็อาจจะเรียนในห้องยากูซ่าหรือมาเฟียหรือการตลาดหรืออะไรก็ตาม ที่ตระกูลต้องการ ซึ่งคนที่มีอำนาจหรือคนที่ร่ำรวยหรือคนที่มาจากตระกูลธุรกิจชื่อดังเท่านั้นถึงจะมีความสามารถที่จะเรียนต่อได้

 

และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะฉะนั้นคนที่ผมจะต้องคบหาด้วยก็คือคนพวกนั้น เพื่ออนาคตสำหรับการทำธุรกิจต่อๆไป พวกเราก็จะมีเวลาน้อยลงในการทำอย่างอื่นนอกจากเรียน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทุกคนถึงไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าเรียนที่นี่ได้ แต่ก็ใช่ว่าคนจากมหาลัยอื่นจะเข้าไม่ได้

 

“ดีจัง...” ผมหันไปมองกงชาน ดีอย่างงั้นหรอ “ผมจะได้อยู่กับฮยองต่อ”!! คำพูดของกงชานทำเอาผมถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว เพราะมันคือความจริง ห้องของผมนั้นเป็นห้องประจำมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยย้ายมาก่อน เพราะฉะนั้นก็คงจะใช้ห้องเดิม แล้วกงชานเองก็น่าจะอยู่ห้องเดียวกันเหมืนเดิม เพราะพ่อของผมนั้นแหละ

“นายรีบๆไปเข้าซุ้มสิ เดี๋ยวก็ไม่ได้เดินกันพอดี” ผมพูดปัดเพื่อปกปิดความอายของตัวเองอย่างช่วยไม่ได้...อายอย่างนั้นหรอ!! เดี๋ยวสิ...ผมรู้สึกอายหรอเนี่ย?

“^^ ถ้าฮยองเบื่อแล้ว เราก็ขึ้นห้องกันนะครับ” ขึ้นห้อง!! โอ๊ย จะบ้าตาย ที่ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย

“ดะ..ได้ รีบๆเดินไปสิ” ผมพูดโดยที่หันไปด้านข้าง แกล้งทำเป็นมองซุ้มอื่นๆ แล้วรีบเดินหนีกงชานทันที

“รอผมด้วยสิฮะ!”

หมับ!

“อ..อะไรของนาย!” อยู่ๆก็วิ่งมาจับมือผมเฉยเลย!

“ก็ฮยองเดินเร็วนี่ครับ อย่างนี้แหละ จะได้เดินไปพร้อมๆกันได้”

 

‘อย่างนี้แหละ จะได้เดินไปพร้อมๆกันได้’ !!!

 

“..จินยองฮยอง!”

“ห๊ะ!!? ร..เรียกเสียงดังทำไม” ผมหันไปมองกงชานอย่างตกใจ

“ก็ฮยองเหม่อ แล้วก็ยืนนิ่งๆนี่ครับ เป็นอะไรหรือป่าว ไหวไหมครับ” ผมมองกงชานนิ่งๆ เหมือนมาก...เหมือนกันมากๆ เหมือนกันอย่างกับแกะ

“กงชาน...”

“ครับ?”

“...” จู่ๆเสียงในใจผมกลับไม่อยากพูดออกไป แต่ผมจำเป็นต้องพูด “...ผมยาวแล้วนะ ไปตัดผมไหม”

“...” กงชานนิ่งไปสักพัก หรือเขารักผมมาก?

“ไม่อยากตัดก็ไม่เป็นไรนะ ฉันไม่ได้ว่าอะไรหรอก”

“...ไปตัดเลยไหมล่ะครับ” กงชานยิ้มบางๆให้ผม ก่อนที่จะจับมือผมเหมือนให้เดินตามเขาไป

 

พวกเราเดินออกมาจากงานโรงเรียน แล้วก็ออกประตูรั้วโรงเรียน เพื่อที่จะไปร้านตัดผม ซึ่งกงชานก็เลือกทรงผมอย่างรวดเร็วจนผมงง เขามีทรงผมที่อยากตัดอยู่แล้วหรอ เหมือนอยากตัดมานาน แต่แล้วทำไมเมื่อกี้นี้ถึงเงียบไปกันนะ ช่างทำผมตัดผมอย่างระมัดระวัง แต่ความรู้สึกของผมเหมือนโดนจ้อง เลยเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองหาสายตาคู่นั้น แล้วก็พบว่ากงชานกำลังมองมาที่ผมผ่านกระจก

 

ตอนนี้ช่างกำลังจัดทรงผมให้กงชาน ซึ่งมันเข้ากับกงชานมากๆ จากเด็กน้อยคนนึงเหมือนหายไปในพริบตา แล้วมองอีกทีก็โตเสียแล้ว แต่ความรู้สึกของผมเหมือนมีใครกำลังบีบหัวใจของผมอยู่เลย ทำไมกัน ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนกับว่ากงชานเคยทำทรงนี้มาก่อน ทำไมสายตาที่กงชานมองมาที่ผมถึงได้ดูเย็นชาขนาดนั้น ทำไมรู้สึกเหมือนเขาจ้องที่จะกัดกินผมอย่างนั้นล่ะ

 

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

 

[Sandeul talk]

 

“เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้วน่า” บาโรพูดใส่ผมด้วยท่าทีรำคาญ

“รู้แล้วน่า”

“ให้ตายสิ พี่น้องคู่นี้มีความรู้สึกถึงกันหรือยังไงกันว่ะ ทำหน้าเหมือนกันเลย ให้ตายสิชินวู นายไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ” บาโรยังคงบ่นต่อไป ทำไมเขาไม่เรียกฮยองกันนะ

“นั้นน่ะสิชินวูฮยอง ฮยองเป็นอะไรหรอถึงทำหน้าแบบนี้” ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆชินวูฮยอง

“ฮยอง...ขอคุยกับบาโรได้ไหม” บาโร? ทั้งๆที่ผมเป็นน้องชายแม้ๆกลับไม่ยอมเล่าเนี่ยนะ? ผมคงไร้ความหมายจริงๆสินะ

“ก็ได้ฮะ งั้นเดี๋ยวผมไปเดินเล่นรอนะ บาโรโทรมาด้วยก็แล้วกัน” ผมเอ่ย ก่อนจะเดินออกจากมุมนั้นด้วยความเจ็บใจ ไม่มีใครต้องการคนไร้ค่าแบบนี้ไว้ข้างกายหรอก เหอะ

 

ผมมองดูกระแสน้ำที่ไหลไปเรื่อยๆอย่างใจลอย ถ้ากระโดดลงไปตอนนี้จะเป็นอะไรไหมน้า คงไม่มีใครใส่ใจหรอก แต่ชืนวูฮยองอาจจะไม่ต้องลำบากเพราะผมอีกก็เป็นได้ ผมหยิบก้อนหินขึ้นมาสองสามก้อน ก่อนจะปาออกไปอย่างหงุดหงิด แต่แล้วผมก็เห็นกงชานจากเงาบนน้ำ

                “ไม่ไปเดินเล่นกับแฟนนายหรือไงกงชาน” ผมพูดโดยไม่คิดที่จะหันกลับไป

“อย่าพูดแบบนั้นสิครับ แฟนอะไรกัน แล้วฮยองก็รู้ว่าผมไม่มีวันให้ฮยองตายเด็ดขาด” นั้นสินะ

“ชินวูฮยองน่ะ...กำลังหักหลังนายอยู่สินะกงชาน” หึ ผมเบื่อละครน้ำเน่า! เบื่อที่ต้องเสแสร้ง แม้จะดูเหมือนง่าย แต่การที่จะหลอกคนอื่นน่ะ เราต้องหลอกตัวเองให้สำเร็จก่อน ซึ่งผมก็ทำสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ ผมไม่ใช่น้องสุดที่รักของชินวูฮยอง เพราะผมถูกเขาขายโดยที่ไม่คิดจะบอกกันสักคำ!! แน่ล่ะว่าเขาเก็บเป็นควาลับ

 

ผมขว้างหินลงไปในน้ำอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆนั่งลงไปข้างๆริมแม่น้ำ ค่อยๆคิดเรื่องที่ผ่านมา ผมถูกขายหลังจากที่พ่อเสียไปไม่นาน ให้กับตระกูลชา โดยที่ไม่มีใครรับรู้เรื่องนี้นอกจากพ่อของบาโรกับชินวูฮยอง โดยมีเงื่อนไขที่ว่าจะยกผมให้หลังเรียนจบ

“ฮยองก็น่าจะรู้ว่าฮยองมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ผมไม่ปล่อยฮยองไปหรอก” ใช่แล้วล่ะ กงชานต่อรองกับพ่อของบาโรไม่สำเร็จ

 

แต่เพราะพ่อของบาโรนั้นดันหลงรักแม่กงชาน แล้วมีกงชานหลังบาโรไม่นาน โดยที่เรื่องนี้ถูกปิดเป็นความลับ โดยที่กงชานใช้นามสกุลของแม่เขาโดยตลอดมา เรียกง่ายๆว่ากงชานกับบาโรเป็นพี่น้องกันต่างมารดา เป็นเรื่องที่ฟังดูตลกจริงๆ พ่อของบาโรนั้นรักแม่ของกงชานมาก จึงยอมยกผมให้แก่กงชาน

“กงชาน นายก็รู้ว่าฉันรักใครไม่ได้อีกแล้ว”

“ผมไม่สน”

“นายก็รู้ว่าฉันรักใคร”

“แล้วยังไง มันไม่ได้รักฮยอง” นั้นสินะ...

“แต่ฉันรัก...”

“ผมไม่สนว่าฮยองจะรักใคร! แต่ผมรักฮยอง! ฮยองได้ยินไหม!?” อ่า... ใช่แล้ว

 

กงชานที่ถูกประนามว่าเป็นลูกเมียน้อยก็เก็บกด แล้วดันถูกคนที่ไว้ใจหลอกลวง จนทำให้ช็อคไปนานพอสมควร กว่าจะกลับมาพูดได้ก็แทบทำให้ผมท้อ แต่คนที่ทำลายกงชานในตอนนั้นก็คือบาโร พี่ชายต่างมารดาแท้ๆของเขา บาโรไม่เคยพอกับคำว่าเหนือกว่ากงชาน ยิ่งกดยิ่งเหยียบได้ก็ยิ่งทำ แล้วคนที่ดูแลกงชานมาตั้งแต่ไหนแต่ไรก็คือผมเอง ผมรู้จักกับบาโรด้วยชื่อเสียงมานานแล้ว แต่เจอตัวจริงแล้วเริ่มสนิทได้เพราะบาโรรู้ว่าผมสนิทกับกงชาน เขาต้องการแย่งผมไปจากกงชาน

 

กงชานที่ได้รับบาดแผลทางใจหลายเรื่องตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เขาสร้างโลกส่วนตัวขึ้นมา ซึ่งเป็นโลกที่เลวร้าย ทำให้เขาอยู่ในสภาวะจิตไม่ปกติ แต่เขาก็เพิ่งออกมาจากโลกนั้นได้ไม่นาน แล้วหลังจากนั้นเขาก็เริ่มหลงรักผมเกินกว่าคนดูแลของเขา แล้วก็กลับมาหาคนที่ทำร้ายพวกเรา เพื่อจัดการกับทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งผมไม่ยอมปล่อยให้เขาทำอย่างนั้น ผมเลยให้สัญญากับเขา ว่าเขาจะสามารถย้ายมาเรียนที่เดียวกับผมแล้วก็คนที่ทำร้าพวกเราได้ ก็ต่อเมื่อกงชานจะรับช่วงต่อจากตระกูล โดยไม่สนใจคำพูดของคำอื่น

“ผมทำตามสัญญาแล้วแท้ๆ”

“แต่ฉันไม่ได้บอกว่าจะรักนายได้”

หมับ...

“ผมรู้ ผมรู้ความรู้สึกของฮยอง เพราะผมเองก็รู้สึกเหมือนกัน” ฉันเหลือนายแค่คนเดียวก็จริง แต่ฉันอยากจะรักษานายไว้ คอยดูแลนายมากกว่าคนรัก

“แล้วจินยองล่ะ”

“...ผมจะจัดการให้เสร็จโดยเร็วครับ เราจะได้มาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง” ไม่เคยฟังคนอื่นเหมือนเดิมเลยนะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ ก็เขาไม่ได้หายร้อยเปอร์เซ็นนี่นา เขาจึงรับรู้แค่สิ่งที่เขาต้องการเท่านั้น เพื่อปกป้องตัวเอง...

 

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

[Baro talk]

 

“มีอะไร” ผมถามชินวูอย่างเบื่อหน่าย

“กงชานเคลื่อนไหวแล้วจริงๆ ระวังตัวด้วย นายก็รู้ว่าฉันคอยช่วยนายทำไม” เพราะเป็นคนของพ่อน่ะสิ เหอะ คนที่จะยกตำแหน่งให้ลูกชายของเมียน้อยแทนเขาน่ะ ไม่สมควรเป็นพ่อเขาเลยด้วยซ้ำ

 

กงชานมันแย่งทุกอย่างไปจากผม คนที่ผมรัก แม่ผมต้องตายจากผมไปก็เพราะมัน ถ้าไม่มีมันกับแม่เลวๆของผม ผมก็คงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ พ่อผมก็ดันหลงเมียนอยหัวปักหัวปำ ชินวูมันฝากน้องของมันไว้ที่พ่อของผม เพื่อคอยดูแลผม แต่พ่อกลับยกมันให้กงชานแทน ชินวูต้องมาคอยรับใช้ รอวันที่น้องจะเป็นอิสระ เหอะ

 

เวลานี้หลายคนคงจะมีความสุข โดยเฉพาะจินยอง คนที่หนีความจริงไปจนไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิน ผมแค้นซานดึล กงชาน จินยอง ชินวู พ่อ ทุกคน ผมเกลียดพวกมัน ซานดึลต้องรับใช้ผมเท่านั้น! ถ้าวันนั้นผมไม่ไปเจอชินวูที่เกือบจะถูกคนของพ่อฆ่าตาย มันก็คงตายไปแล้วทั้งตระกูล! ให้ตายเถอะ

 

ผมเป็นคนคิดทางเลือกให้แก่ตระกูลต่ำของมัน แต่พวกมันกลับทรยศ ไปหาลูกเมียน้อยนั้น! แต่พอผมแย่งคนที่ควรจะอยู่กับผมคืนมา กงชานก็เคลื่อนไหวทันที แสดงว่าเมื่อก่อนผมยังสั่งสอนมันไม่ดีพอสินะ แต่การที่มันกลับมาแก้แค้นครั้งนี้ ทำไมความรู้สึกของผมบอกว่ามันไม่ได้ตั้งใจจะจัดการผมล่ะ มันต้องการจะทำอะไรกันแน่ หรือมันสติแตกไปแล้วกันแน่

 

“นายพอจะเดาออกไหมว่ากงชานตั้งใจจะทำอะไร”

“ไม่รู้สิครับ ผมเองก็เดาไม่ถูก แต่เขาน่าจะกลับมาเอาซานดึลแน่ๆ แต่นอกจากนั้นผมเดาไม่ออกจริงๆ” ชินวูก้มหน้าอย่างสำนึกผิด

“แสดงว่านายยังจับตามองไม่ดีพอ”

“แต่ผมรู้อย่างนึกครับ ผมว่าจินยองน่าจะมีอิทธิพลต่อเขาอยู่แน่ๆ เพราะผมลองทดสอบดูแล้ว ผมว่าบางทีเป้าหมายของเขาอาจจะเป็นจินยองก็ได้นะครับ” เป็นอย่างที่ผมเดาจริงๆด้วย จินยองยังไปอิทธิพลสินะ งานนี้สนุกแน่ๆ จินยอง...นายเตรียมตัวกลับมายอมรับความจริงได้เลย หึหึ

“อ่อ นายคุยกับกงชานแล้วนี่ คุยอะไรกันล่ะ” ผมถามขึ้น เพราะนึกได้ว่าผมเห็นกงชานเรียกชินวูเข้าไปคุย น่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญหรือไม่ก็ออกคำสั่งอะไรบางอย่าง

“ผมก็บอกแล้วไงครับ ว่าจินยองยังมีอิทธิพลอยู่ เพราะเขาบอกกับผมว่าผมรู้ว่าเขากลับมาเพื่ออะไร หนี้ของผมกับคุณก็จ่ายจนหมดสิ้นแล้ว อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยาก”

“หมายความว่าไง”

“ก็หมายความว่า ผมรู้ว่าเขากลับมาเพื่อทวงหัวใจของเขาคืน อย่างที่เขาประกาศตอนแรกเลย เขากลับมาเอาซานดึลของเขายังไงล่ะครับ หนี้ของผมกับคุณก็คือซานดึล แล้วผมก็เข้าหาจินยอง ทำให้เรื่องมันยุ่งยากสำหรับเขา แต่ที่ผมทำไปนั้น ก็เพราะเป้าหมายของผม”

“ไม่ยอมยกให้สินะ แต่ฉันก็ไม่ให้ใครเหมือนกัน ซานดึลเป็นของฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่มีสิทธิไปเสนอหน้าดูแลคนอื่น ไม่ว่าใครทั้งนั้น!”

“ผมเข้าใจครับ ผมฝากเขาไว้ที่คุณพ่อของคุณ หรือจะให้คุณทางอ้อม เพื่อทดแทนบุญคุณ เพราะฉะนั้นผมก็ไม่ยอมให้ใครเอาไปอีกเป็นครั้งที่ 2 แน่ๆครับ” ผมพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะเดินออกจากตรงนั้น เพื่อที่จะไปตามหาซานดึล

 

ผมรู้ว่ซานดึลเกลียดผมแค่ไหน แต่เขาเป็นของๆผม ผมมีสิทธิที่จะครอบครองตัวของเขา ในเมื่อมีคนคิดที่จะแย่งไป ผมก็มีสิทธี่จะขัดขืน โดยเฉพาะกงชาน นายมันเป็นก้างขวางคอในทุกๆเรื่องเลย ถ้าไม่มีนายสักคน ชีวิตฉันคงจะดีกว่านี้ และตำแหน่งผู้สืบทอดก็ควรจะเป็นของฉันด้วย! ถ้าไม่ใช่เพราะมันยอมรับคำขอของพ่อเมื่อปีที่แล้ว ทุกวันนี้ตำแหน่งสืบทอดก็ควรเป็นของผม!

 

นายคิดว่าซานดึลสำคัญกับนายเพียงคนเดียวหรือไง นายคงลืมไปแล้วสินะ ว่าใครเคยสำคัญต่อนายมากขนาดไหน คนที่ทำให้นายเกือบหลุดจากตำแหน่งผู้สืบทอด คนที่เคยทำให้นายรู้สึกตายทั้งเป็น! ถ้านายไม่ได้แย่งซานดึลไปล่ะก็ ทุกวันนี้นายก็คงตายไปแล้วด้วยซ้ำ! แต่ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะพี่ชายนายคนนี้จะเป็นคนฆ่านายอีกรอบเอง ด้วยคนที่นายรักทั้งหมด เหอะ!

 

“บาโร! คุยกันเสร็จแล้วทำไมไม่โทรตามฉันล่ะ ปล่อยให้ฉันรอตั้งนาน” เสียงซานดึลดังขึ้นมาขัดความคิดผม นายคิดว่าทุกวันนี้นายมีความสุขไหมนะซานดึล

“ขึ้นห้องเถอะ”

“อ่า ได้สิๆ แล้วนายจะกินข้าวเย็นไหม เผื่อต้องซื้อของก่อนขึ้นไปน่ะ”

“กินสิ แต่มันมีอยู่แล้ว ของที่ฉันจะกินน่ะ”

“อ่อ งั้นก็ขึ้นห้องเลยก็ได้ ไปกันเถอะ” ซานดึลเอ่ยชวน นั้นสินะ ก็ของที่ผมจะกินคืนนี้มันอยู่ข้างๆผมแล้วไงล่ะ ทำไมจะต้องไปหาอะไรอย่างอื่นกินอีก

  

“บาโรไปอาบน้ำก่อน แล้วค่อยกินข้าวก็แล้วกันน้า เดี๋ยวฉันไปเก็บผ้าก่อน” ผมหันมองซานดึลหลังจากที่เราเข้าห้องกันเรียบร้อยแล้ว

หมับ

“ไปทานยาก่อน เดี๋ยวไข้ขึ้น” ผมบอก

“เก็บผ้าแปปเดียวเอง”

“เดี๋ยวก็ต้องพับต่อ ไปกินก่อน” ซานดึลมองผมนิดๆ ก่อนจะพยักหน้า แล้วเดินไปกินยา

“นายก็ไปอาบน้ำได้แล้ว” หึ แล้วคิดหรอว่าผมจะไปคนเดียว

“ก็ไปอาบด้วยกันสิ สั่งอยู่ได้”

“บ้าหรอ! นายไม่อายหรือไง ติ๊งต๊องน่า อ๊ะ!” ผมไม่สนใจในสิ่งที่ซานดึลพูด ก่อนจะลากเขาเข้าห้องน้ำ โดนไม่ลืมเอาผ้าเช็ดตัวกับเสื้อเข้าไปเปลี่ยนด้วย

 

“ถอดสิ”

“เอ่อ...”

“ถอดเร็วๆด้วย!” ซานดึลดูจะตกใจที่จู่ๆผมก็ตะคอกใส่ “หรือจะให้ถอดให้ล่ะ” เพียงเท่านั้น ซานดึลก็รีบส่ายหน้าไปมาทันที ก่อนจะค่อยๆถอดเสื้อออกช้าๆ

 

ซานดึลค่อยๆปลดกระดุมของตัวเองทีล่ะเม็ดอย่างช้าๆ เนื่องจากมือสั่นสะท้านเหมือนลูกเป็ดกำลังถูกเชือด จากนั้นมันก็ถอดเสื้อกล้ามออก เรือนร่างที่ผมยังจำได้ติดตาทุกครั้ง ดูเหมือนแผลที่ถูกสาดน้ำร้อนใส่จะหายไปเยอะพอสมควรแล้วด้วย ซึ่งก็ดีที่มันหาย เพราะผมชอบสีผิวขาวนวลของซานดึล มากกว่าตอนที่มันเป็นสีแดงในตอนนั้น ผมกวาดสายตามองทั่วทั้งเรือนร่างนั้นแล้วอดที่จะคิดไม่ได้ ว่าน่ากินอย่างเอร็ดอร่อยเลยทีเดียว หึหึ

 

ผมถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก แล้วถอดกางเกง จนไม่เหลือสิ่งใดปกปิด เช่นเดียวกันกับซานดึล ในขญะนี้ที่เอาแต่ก้มหน้า แล้วแก้มก็แดงซ่านด้วย น่ากินจริงๆ มื้อนี้ผมคงจะอิ่มน่าดูเลยล่ะ

“อาบให้หน่อย”

“ห๊ะ นายก็อาบเองสิ” หึ

“ก็ฉันจะให้นายอาบให้” ซานดึลส่ายหัวไปมา “งั้นจะให้ฉันอาบให้ก่อนสินะ” หึหึ

“มะ..ไม่ต้อง! ฉันอาบเอง อ๊ะ อ๊า” ซานดึลที่พยายามจะปฏิเสธผมด้วยเสียงแข็ง ก็ครางออกมาเบาๆ ทันทีที่ผมเอื้อมมือไปจับแก่นกายของซานดึล ที่ตอนนี้ค่อยๆจะขยายขนาด แล้วแข็งขึ้นเรื่อยๆ

“มีอารมณ์เร็วจังเลยน้า อดอยากมาจากไหน”

“ยะ..อ๊า หยุดนะ อ๊ะ อืมม พอก่อน อ๊า” ซานดึลพยายามจะกลั้นเสียงครางหวานน่าฟังนั้น โดยการเม้มปากของเขา ผมเลยเร่งความเร็วมือข้างที่กำลังขยับอยู่ที่แก่นกายซานดึลหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

 

ซานดึลพยายามจะขยับมือมาปัดป้องและปิดหน้าตัวเอง ใบหน้าหวานแดงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความต้องการที่เพิ่มพูน ยิ่งเมื่อผมแกล้งเร่งความเร็วแล้วก็ขยับมือผ่อนช้าสลับไปมา เพื่อที่จะปั่นหัวมันเล่น ทำให้ซานดึลเผลอหลุดครางเสียงหวานออกมา ตอนนี้ซานดึลกำลังทรมาน อดกลั่น อยากที่จะปลดปล่อยออกมาเต็มที

“อ๊า อืม บา อ๊ะ บาโร อ๊า อ๊า”

 

แต่ท้ายที่สุด ความต้องการที่มากกว่าก็ชนะความเขินอายอยู่ดี หึหึ ซานดึลเลิกที่จะเม้มปากแล้วครางออกมาโดยตรง แต่ครางเบาๆแทน แล้วมันก็ขยับแขนขึ้นมาโอบคอผม เหมือนพยายามจะพยุงตัวเองให้ยืนอยู่ได้ในตอนที่ผมกำลังทำให้ ดวงตาหวานฉ่ำปรือเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่ผมมอบให้

“อืม อ๊า ไม่ไหว อึก แล้ว อ๊า บาโร”

“หึ เร็วจังน้า”

“อึก เพราะใครล่ะ อืม อ่า ไม่ไหว อ่า อ๊ะ!”

 

ร่างตรงหน้าผมกระตุกเล็กน้อย ของเหลวขุ่นขาวค่อยๆไหลออกมา ก่อนที่จะหมดแรง แล้วทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นห้องน้ำแล้วหอบหายใจถี่รัว แต่ลงไปนั่งก็ดีแล้วล่ะ

“อ้าปาก” ผมสั่งคนที่กำลังเอาแต่ก้มหน้า

“เอ๋ มะ..ไม่เอานะ อึก!” แต่ใช่ว่าผมจะสนในสิ่งที่มันกำลังพูด

 

ผมก็ใช้จังหวะที่ซานดึลกำลังพูด ยัดแก่นกายของผมเข้าไปในโพรงปากของซานดึล ก่อนที่จะสั่งให้มันทำหน้าที่ของมันที่มันควรจะทำให้ผมรู้สึกดี

“ทำให้เสร็จเร็วๆ” ซานดึลมองผม นัยตาหวานมีน้ำใสคลออยู่เล็กน้อย ก่อนจะก้มลงแล้วค่อยๆขยับปากเข้าออกช้า แต่มันคงไม่รู้สินะ ว่าการที่มันลงน้ำหนักนิดๆของมันตอนที่ขยับ ทำให้ฟันมันขูดแก่นกายผมเล็กน้อย ยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์ หึหึ

“อ๊ะ อืม แฮ่กๆ ทำไมมันใหญ่ขึ้นล่ะ”

 

ผมหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ซานดึลมองผมเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆใช้ลิ้นของมันโลมเลียแก่นกายของผม ค่อยๆไล่จากปลายแล้วลึกเข้าไป ตวัดวนอยู่แถวปลายแก่นกายผมสักพัก ก่อนจะใช้มือมาช่วยขยับให้แก่นกายของผม รู้หน้าที่ดีจนไม่คิดว่าเป็นครั้งแรกของมันเลยด้วยซ้ำ

“ช่ำช่องเชียวนะ อ่า ทำให้ใครมาก่อนรึไง อืมม”

“เคยเห็น” มันพูดแค่นั้น ก่อนจะขบฟันของมันลงบนแก่นกายผมเบาๆ แล้วใช้ลิ้นเลียแล้วขูดฟันไปถึงปลายยอดแก่นกายผมพร้อมๆกัน

“อ่า ดีนี่หว่า” ผมเลยจับหัวซานดึล ให้ขยับตาจังหวะมือของผม

“อึก” สักพักผมก็กระตุกเกร็งปลดปล่อยออกมาในโพรงปากของซานดึล

“อ่า เยี่ยม หึหึ กลืนลงไป” ผมถอนแก่นกายออก แล้วสั่งซานดึล มันมองผมน้อยๆ ก่อนจะจำใจกลืนลงไปอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆลุกขึ้นยืน

“พอใจแล้วใช่มั้ย ฉันจะได้อาบน้ำให้”

“จะรีบอาบไปทำไม มาทำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยอาบก็ไม่สายหรอก”

 

ผมดึงแขนซานดึลแล้วออกแรงให้ซานดึลมาทางผม ก่อนจะรวบแขนทั้งสองของขึ้นติดกับผนังห้องน้ำ แล้วเอาตัวผมเข้าไปแทรกระหว่างขาของซานดึล ก่อนจะก้มลงไปตวัดลิ้นชิมเม็ดทับทิมชมพูอ่อนๆ ที่ตัดกับสีผิวที่ดูยั่วยวนนั้น แล้วบดขยี้ด้วยมือของผมอีกข้างลงบนยอดอกอีกข้าง ซึ่งนั้นก็เรียกเสียงครางหวานของซานดึลได้ดีเลยทีเดียว

“อ๊ะ อย่ากัด อ๊า พอแล้ว อืม อ่า” แก่นกายของซานดึลก็เริ่มจะกลับมาแข็งตัวอีกรอบ หลังจากที่ผมลุกเล้าลุกโลมร่างกายของซานดึล ผมค่อยๆมอบรอยประทับความเป็นเจ้าของลงบนลำตัวซานดึลช้าๆ

 

ผมค่อยๆขบเม้มที่ซอกคอของซานดึล แล้วเลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ ทำร่องรอยสีแดงกุหลาบไว้ ประกาศความเป็นเจ้าของ ผมยกขาของซานดึลขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเม้มลงไปที่ต้นขาของซานดึลทั้งสองข้างช้าๆ แต่รอยที่คอมันไม่เด่ดเท่าไรน่ะสิ ผมเลยกลับไปเม้มที่คอใหม่อีกรอบ ให้สูงขึ้นไปอีก ทำไว้หลยยจุดเลยทีเดียว ผมมองผลงานตรงหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มซานดึลเบาๆ

ฟอด

“อึก หยุดเถอะบาโร อ๊ะ อืมม” ผมบีบที่ยอดอกของซานดึล ก่อนจะใช้โอกาสนั้นแทรกลิ้นอุ่นของผมเข้าไปในโพรงปากของซานดึล ไล่คว้านลิ้นน้อยๆที่เงอะงะ ที่กำลังกลัวอยู่อย่างร้อนแรงและหนักหน่วง แต่ลิ้นน้อยๆที่หวาดกลัวก็พยายามจะจูบตอบผม ซึ่งก็ทำได้ดีทีเดียว ก่อนที่ซานดึลจะทุบอกผมรัวๆ เหมือนจะขาดอากาศหายใจ ผมจึงค่อยๆถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง แล้วขบปากล่างนั้น จนปากแตกเป็นแผล เลือดซึมออกมาเล็กน้อย

“แฮ่กๆ มันเจ็บนะ”

 

ผมเลียริมฝีปากบางๆนั้น แล้วซานดึลก็สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหอมแก้มนุ่มนั้นอีกที แล้วยกขาของซานดึลขึ้นไปพาดบนบ่าของผมข้างนึง ก่อนที่ผมจะจับแก่นกายของผมที่แข็งตัวขึ้นอีกครั้งเหมือนกัน สอดเข้าไปโดยที่ไม่มีการบุกเบิกทางไว้เลยสักนิดเดียวอย่างช้าๆ

“อ๊า! ไม่เอา มันเจ็บ อ๊า! อืมม เอาออกไป อ่า” ซานดึลส่ายหน้าไปมา ก่อนจะพยายามถอยหลัง ขยับสะโพกไปชิดผนังห้องน้ำ แต่ผมก็จับเอวบางนั้นไว้มั่น แล้วค่อยๆกดแก่นกายผมแทรกเข้าไป

“อย่าเกร็ง ผ่อนคลายซะ” ผมก้มลงไปกระซิบเบาๆที่ข้างหูของซานดึล ก่อนจะก้มจูบซานดึล

 

ซึ่งซานดึลเองก็ค่อยๆผ่อนคลาย ผมจึงสอดแก่นแกนได้จนมิด ก่อนจะนิ่งไปสักพักให้ซานดึลพักเล็กน้อย ผมรู้สึกได้ถึงของเหลวที่ไหลลงพื้นบริเวณระหว่างขาของซานดึล ประตูหลังถูกเปิดครั้งแรกโดนไม่มีการบุกเบิกและตัวช่วยใดๆ ทำให้ช่องทางฉีกขาดอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้มีเลือดไหลออกมาเยอะมากนัก

“จะขยับล่ะนะ”

“อย่าเพิ่ง อ๊า อ่า อ๊ะ อ๊ะ อื้มม” ผมไม่สนใจเสียงคัดค้านของซานดึลแม้แต่น้อย เพราะความต้องการมันมากขึ้นเรื่อยๆจนเกินกว่าจะควบคุมได้ ผมค่อยๆขยับช้าๆ ก่อนจะเร่งความเร็วและเพิ่มแรงกระแทกมากขึ้นทีล่ะน้อยๆ ซานดึลทำหน้านิ่วเพราะยังคงเจ็บอยู่ แม้ตอนนี้จะรู้สึกดีเหมือนผมขึ้นมาบ้างแล้วก็ตาม

“อ่า รัดแน่นดีชะมัด”

“อ๊า บาโร อ๊ะ อ่า อืออ อ่า” ซานดึลครางออกมาไม่เป็นซับ แต่ก็มีชื่อผมอยู่ในนั้น ยิ่งทำให้ผมต้องการขึ้นอีก มากขึ้นอีก

 

ผมยกขาอีกข้างของซานดึลขึ้นมาพาดไว้ที่ไหล่อีกข้าง ก่อนจะกระแทกลงไป แล้วย้ำจุดที่ทำให้ซานดึลครางออกมาดังๆ ด้วยความเสียวซ่านและต้องการผม

“อ๊า อ๊าง ช้า อืม หน่อย ฮ่า” ผมซอยเข้าออกเร็วๆอยู่สักพัก ก่อนจะเปลี่ยนท่า ผมถอดแก่นกายของผมออก ก่อนจะพลิกตัวซานดึล ให้ซานดึลหมอบลงกับพื้น แล้วยกสะโพกของมันขึ้นมา ก่อนจะใส่แก่นกายของผมลงจนมิดในทันที ซึ่งมันง่ายกว่าครั้งแรก เพราะครั้งนี้มีเลือดที่ไหลออกมาเป็นตัวช่วย

“อ๊า ไม่เอาท่านี้ อืออ บาโรไม่เอา” มันไม่เอาแต่ผมจะเอา แล้วทำอะไรผมได้ ก็ผมกำลังคุมเกมนี้อยู่ หึหึ

“อือ อ่า แน่นอย่างนี้ให้ได้ตลอดนะมึง รัดกูเข้าไป อยากให้กูปล่อยใส่มึงเร็วขนาดนั้นเลยไง อ่า”

 

ซานดึลส่ายหน้าไปมาน้อยๆ ก่อนจะครางออกมา ผมกระแทกลงไปตามอารมณ์และความต้องการ นั้นก็รู้สึกดีไม่น้อยเลยดีเทียว ยิ่งซานดึลครางเท่าไร อารมณ์ผมก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น ผมโน้มตัวลงไปกอดร่างบางนั้น ก่อนจะเอื้อมมือไปขยับแก่นกายให้ซานดึล ซึ่งนั้นก็ทำให้ซานดึลครางไม่เป็นคำยิ่งกว่าเดิม

“อ๊า อย่า อื้ออ จะไม่วะ..อ๊า ไหว อืออ”

“อ่า มึงอย่ารัดของกูแน่นมากดิว่ะ อือ”

“ไม่ไหว อ๊า อ่า อ๊ะ! อ่า” ซานดึลปลดปล่อยออกมาเมื่อถึงจุด

พั่บๆๆ พึ่บๆๆ

“อ่า สุดยอด รัดโคตรแน่นเลย อ่า” ผมกระแทกลงไป ก่อนที่จะเสร็จตามซานดึล

 

ซานดึลหอบอยู่สักพักอย่างหมดแรง ผมจึงอุ้มมันไปอาบน้ำ หลังจากทำสิ่งที่ผมต้องการไป ผมค่อยๆสระผมให้ซานดึล ที่ใกล้จะหลับเพราะความเหนื่อย ผมนุ่มของผมสุขภาพดีมาก เพราะมันไม่เคยทำสีผมหรือโดนแดดมากนัก และถูกรักษาเป็นอย่างดี ผมหยิบฝักบัวมา แล้วเปิดน้ำเพื่อจะล้างฟองแชมพูออก

“อ๊ะ แสบตาอ่า มันเข้าตา อืออ” ซานดึลขยับมือมาตีแขนผมเบาๆ

“โทษที ล้างตาก่อน” ผมพยุงมันที่นอนอยู่ในอ่างขึ้นมานั่งล้างตาข้างที่แชมพูมันไหลเข้าไป

“ฮึก แสบอ่า”

“อย่าร้อง เดี๋ยวก็หาย ตาแดงนิดเดียวเอง”

“ก็นายไม่ได้โดนเองนิ”

“อย่างอแง ไม่ได้ตั้งใจ”

“รู้แล้วน่า รีบๆล้างเลย ง่วงแล้ว” ผมมองคนตรงหน้างอแงเหมือนเด็กๆ เอาแต่ใจจริงๆนะ

“โอเคๆ งั้นล้างสบู่ออกด้วยเลยล่ะกัน มานี่สิ” ผมบอกให้มันมาอยู่ใกล้ๆฝักบัว แล้วล้างออกให้

 

“บาโร...รอยเดิมยังไม่หายเลย สร้างใหม่อีกแล้ว” รอยน้ำร้อยลวกน่ะหรอ

“รอยนั้นกูไม่ชอบ กูชอบรอยนี้” ซานดึลหันมามองผมทันที ก่อนที่ใบหน้าหวานจะค่อยๆแดงซ่าน แล้วหันกลับไปก้มหน้าหงุด

“งะ..ง่วงแล้ว”

“อ้อนจริง กินข้าวเย็นก่อน”

“อืม ก็ได้”

 

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

[Jinyoung talk]

 

“ตื่นแล้วหรอครับ”

“ฉันหลับไปหรอ? เอ๋?? นี่อยู่ในห้องแล้วหรอ ฉันเป็นลมหรอ”

“ประมาณนั้นมั้งครับ แล้วฮยองจะทานยาไหมครับ” ผม...ผมเป็นอะไรนะ ผมพยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้น อ๋อ! ผมเห็นกงชานตัดผมแล้วผมก็ปวดหัว แล้วก็มาตื่นที่นี่

“อื้ม ขอยาตัวเดิมนะ” กงชานพยักหน้ารับ เหมือนรู้หน้าที่ดี ก็เดินไปหยิบยาให้ผม ปล่อยให้ผมจมอยู่กับความคิดของตัวเองสักพัก

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ผมเคยเห็นเขาตัดผมทรงนี้แล้ว ผมกับเขาเคยรู้จักกัน ผมรู้แค่ว่าเขาต้องสำคัญกับผมแน่ๆ คนที่จะทำให้ผมหายได้ คนที่บาโรบอกผม ต้องใช่กงชานแน่ๆ แต่ก็หมายความว่ากำแพงที่จินยองสร้างก็จะค่อยๆพังลง เขาจะต้องกลับมาเร็วกว่าที่ผมคาดเอาไว้ นั้นคือสิ่งที่ผมต้องยอมรับมันสินะ

 

แผลเป็นที่ข้อศอกกับต้นขา เป็นสิ่งย้ำเตือนให้ผมได้ดีทีเดียว คนที่รู้เรื่องนี้ก็มีพ่อ บาโร ซานดึล แล้วก็ชินวูสินะ กงชานจะรู้ด้วยไหมนะ แต่ก็คงจะไม่รู้

 

“นี่ครับยา ดื่มน้ำตามเยอะๆหน่อยก็ดีนะครับ” กงชานพูดอย่างเป็นห่วง...ล่ะมั้งนะ

“ขอบใจนะกงชาน ที่คอยช่วยฉันเสมอเลย ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะอ่อนแอต่อหน้าคนอื่นได้ขนาดนี้ ฉันที่มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลย”

“ผมไม่ใช่คนอื่นสักหน่อยครับ ผมน่ะรักฮยองมากแค่ไหน ฮยองก็รู้”

“นายรักฉันจริงๆหรอ หรือแค่เพราะต้องทำตามบทหรอ”

“...แล้วฮยองคิดว่าทั้งหมดนั้น ผมทำลงไปเพราะทำตามบทหรอครับ” อึก! ผมดันพูดจาไม่ดีใส่เสียแล้วสิ จะทำยังไงดี ผมเป็นคนที่แย่ขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย

“ฉันไม่รู้หรอก ถ้านายไม่บอก”

“ผมรักฮยองมาตั้งนานแล้ว แต่ก็แล้วแต่ฮยองนะครับ ว่าจะเชื่อคำพูดของผมไหม แต่ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครที่หน้าตาเหมือนกัน ชื่อเดียวกัน แล้วจะไม่ใช่คนเดียวกันหรอกครับ ยังไงก็ต้องเป็นฮยอง” ตึกตัก ตึกตัก...ทำไมหัวใจของผมถึงได้เต้นแรงขนาดนี้เนี่ย

 

::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::*::

 

 

 

 

ฝากนิยายผมด้วยนะคับ

ย้ายมาจากเด็กดี

ใครที่ตามมาตอนนี้ ก็อ่าน NC ได้แล้วนะคับ

ผมลงให้แล้ว ก็ขอบคุณที่ติดตามนะคับ

แล้วผมจะพยายามปั่นตอนที่ 11

ฝากเพจผมด้วยนะคับ ลิ้งเพจ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา