ปมรัก

7.7

เขียนโดย rukpopfanggg

วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.04 น.

  13 ตอน
  134 วิจารณ์
  25.10K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 มกราคม พ.ศ. 2557 21.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7) คุณอาของป๊อปปี้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
 
 
 
“แกรู้งี้จะเอาไงต่อกับโทโมะละ” แก้วถามฟาง
 
“ไม่รู้สิ แต่ชั้นไม่ได้รักโทโมะแล้ว จะให้กลับไปคบก็คงไม่ได้” ฟางตอบ
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น ปลายสายที่โทรมาก็คือคุณอาที่ไปดูงานที่สวิตของชายหนุ่มที่รับโทรศัพท์
 
“ป่ะ แก้วไปรับคุณอาที่สนามบินกัน คุณฟางก็ไปด้วยกันสิ” เขาเอ่ยชวนน้องสาว และไม่ลืมที่จะชวนเธอไปด้วย
 
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะคุณอา” ทั้งสามกล่าวทักทายคุณนิมิตรอย่างสุภาพ
 
“นี่คงเป็นหนูฟาง เพื่อนยัยแก้วสินะ” นิมิตพูด ฟาง แก้ว และป๊อปปี้ มองหน้ากันงงๆ ว่าคุณอาไปรู้จักฟางได้อย่างไร
 
“เอ่อใช่ค่ะ” ฟางยิ้มรับ
 
“แก้วพูดถึงหนูให้ชั้นฟังบ่อยๆน่ะ ป่ะ กลับบ้านกันเถอะ” นิมิตลูบผมฟางด้วยความเอ็นดู จนฟางเองก็เริ่มสงสัยในท่าทางแปลกๆของคุณอาคนนี้
 
“หนูนี่สวยเหมือนแม่จริงๆเลยนะ” นิมิตพูดต่อ หญิงสาวที่ถูกเอ่ยถึงชะงัก แม่งั้นหรอ
 
“คุณอารู้จัก แม่ฟางด้วยหรอค่ะ” เธอถามกลับอย่างตื่นเต้น
 
“รู้สิ เป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยน่ะ เราสนิทกันมากเลยนะ แม่หนูน่ะทั้งสวยทั้งเก่ง ใครๆก็รัก ใครๆก็ชอบ” นิมิตพูดถึงแม่ของเธอ ยิ่งทำให้เธอใจเต้น เพราะแม่เธอเสียตั้งแต่เธอยังเด็ก
 
ทำให้จำเรื่องราวของแม่ไม่ได้มากนัก จะมีก็แต่พวกอัลบั้มรูปที่เป็นความทรงจำในวัยเด็กของเธอ
 
“รวมถึงอาด้วยน่ะ ฮ่าๆ” นิมิตว่า ทำเอาทั้งสามที่นั่งอยู่ในวงสนทนา ชะงักกันเป็นแถว
 
“งี้แปลว่าคุณอาก็เคยปิ้งแม่ยัยฟางงั้นหรอค่ะ” แก้วถามบ้าง
 
“ฮ่าๆ ใช่ รักวัยเรียนน่ะ นี่ก็ผ่านมาเป็นยี่สิบกว่าปีแล้วเนอะ” นิมิตตอบ แต่ทว่าสายตาที่มองฟางนั้นทำให้เธอเริ่มรู้สึกอึดอัดพอควร
 
ป๊อปปี้ที่ไม่ชอบพูดเป็นนิสัย กลับคอยสังเกตอยู่ตลอดเวลาเมื่อเห็นอย่างนั้น ก็เปลี่ยนเรื่องทันที
 
“ว่าแต่ที่คุณอาไปดูงานที่สวิตมาเป็นไงบ้างครับ” เขาเริ่มถาม
 
“เรียบร้อย อาได้ส่งคนไปประจำอยู่ที่สาขาที่นู่นแล้วล่ะ” นิมิตตอบ
 
“คุณอารู้จักกับแม่ฟาง งั้นคุณอารู้จักจะคุณพ่อฟางมั้ยค่ะ” เธอถาม เพราะเรื่องที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือเรื่องพ่อเท่านั้น
 
“ทรงพล น่ะเหรอ รู้จักสิ พ่อหนูน่ะโชคดีน่ะที่ได้แต่งงานและใช้ชีวิตกับผู้หญิงดีๆอย่างเฟี๊ยต” นิมิตตอบ
 
นี่จะเรียกว่าโลกกลมหรือยังไง พ่อของเธอหายไป เธอมาอาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทอย่างแก้ว และอาของแก้วดันบังเอิญเป็นเพื่อนกับพ่อและแม่ของเธออีก
 
“แก้วไม่รู้มาก่อนเลยน่ะค่ะว่า คุณอาจะรู้จักกับพ่อแม่ฟางด้วย” แก้วว่า
 
“อาเสียใจกับหนูด้วยนะที่แม่เสียตั้งแต่ยังเล็กๆ เฟี๊ยตเป็นคนดีไม่น่าอายุสั้นเลยจริงๆ” นิมิตพูดเสียงเศร้าและสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
 
“ค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุ” ฟางตอบ
 
“แน่หรอ” นิมิตพูดเบาๆ
 
“คุณอาว่าอะไรนะค่ะ ฟางได้ยินไม่ชัด” เธอถามย้ำ
 
“อ๋อ เปล่าจ้ะ หลานๆไปพักผ่อนเถอะ อาเหนื่อยแล้ว” นิมิตตัดบทสนทนาแล้วเดินขึ้นห้องนอนไป
“พี่ป๊อปไปไหนน” แก้วถามเมื่อเห็นพี่ชายกำลังเดินลงมาจากชั้นบนและแต่งตัวเหมือนจะไปข้างนอก
“ว่าจะเข้าบริษัทหน่อยน่ะ” เขาตอบ สายตาคมพลันเห็นสร้อยรูปกุญแจซอลที่ตัวเองซื้อให้สวมใส่อยู่ที่คอของเธอ ก็อมยิ้ม
 
“เออเอ่อก็มันสวยดีก็เลยใส่น่ะ” เมื่อเห็นเขาจ้องที่คอ เธอก็ตอบแก้เขิน
 
“แหนะๆ อะไรกันคู่นี่” แก้วแซว
 
“ป่าวซะหน่อย” ทั้งคู่ตอบปฎิเสธเสียงสูงพร้อมกันจนแก้วหลุดขำ
 
“พี่ป๊อปไปบริษัทใช่ปะ งั้นแก้วฝากพาฟางไปด้วยสิ ไปทางเดียวกันพอดี” แก้วบอกพี่ชายเพราะฟางเองก็กำลังจะออกไปหา เฟย์ ลูกพี่ลูกน้องที่เพิ่งเรียนจบจากนิวซีแลนด์
 
“เห้ยแก้วชั้นก็มีรถ ชั้นขับไปเองได้หน่า” ฟางส่ายหน้า ปฏิเสธ
 
“ไปทางเดียวกันจะเอารถไปสองคนทำไม ประหยัดค่าน้ำมันๆ ไปด้วยกันนี่แหละคุณ” ป๊อปปี้ดุ แล้วลากแขนฟางขึ้นรถไปทันที
 
“คาดเข็มขัดด้วยสิ” เขาพูด เธอทำหน้างง
 
“ห้ะ”
 
“งงอะไรเล่าก็เนี่ย เข็มขัดนิรภัย เอ๋อไปแล้วหรอครับบ” เขาพูดกวนๆ แล้วเอื้อมมือไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ ทำให้หน้าทั้งสองใกล้กันมาก
 
หญิงสาวตัวเล็กที่นั่งแข็งทื่ออยู่ก็พูดไม่ออก ลมหายใจอุ่นๆของเขากระทบกับแก้มทั้งสอง ทำให้เธอเขินหน้าแดงสุดๆ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
 
“คาดแล้วก็ออกรถสิค่ะ” เธอรีบขัด ก่อนที่จะเขินมากไปกว่านี้
 
“ใครแถวนี้หน้าแดงเป็นลูกตำลึงเลยดูสิ” เขาพูดลอยๆ
 
“จะไปไหน” เขาถาม
 
“เอ่อไปสนามบินน่ะ เดี่ยวให้ชั้นลงแถวๆบริษัทคุณก็ได้” เธอว่าเพราะอีกนิดก็จะถึง บริษัท จิระคุณ แล้ว
 
“อ้าว มันเลยแล้วคุณภาณุ” เธอโพล่งขึ้นมาเพราะ รถคันหรูถูกขับเลยป้ายบริษัท จิระคุณไปเมื่อกี้นี้เอง
 
“ก็จะไปสนามบินไม่ใช่หรอ เดี๋ยวไปส่ง จะนั่งรถทำไมหลายต่อ” เขาตอบหน้าตาเฉย
 
“เอ่อ ขอบคุณนะ คุณกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวชั้นไปรับยัยเฟย์ แล้วว่าจะไปหาอะไรทานต่อเลย” เธอกล่าวขอบคุณแล้วโบกมือลา เมื่อรถจอดหน้าสนามบิน
 
 
“เจ้ฟางง ทางนี้ๆ” เสียงใสของเฟย์ดังขึ้น พร้อมกับโบกมือเรียกพี่สาว
 
“ยัยเฟย์ไม่เจอกัน ปีสองปีสวยขึ้นเป็นกองเลย” สองพี่น้องกอดกันกลมด้วยความคิดถึงแม้ว่าเฟย์จะไม่ใช่น้องสาวแท้ๆของเธอ แต่ช่วงเวลาที่เธอเรียนอยู่อเมริกา และเฟย์เรียนอยู่ นิวซีแลนด์
 
ทั้งคู่ก็มักผลัดกันบินไปเที่ยวหาอีกคน ตอนช่วงซัมเมอร์บ่อยๆ ทำให้ทั้งคู่รักกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน แต่ก็จะมีช่วงปีสองปีนี้ที่ไม่เจอกันเพราะเธอเรียนจบและกลับไทยมาก่อน
“แหมม ใครจะเหมือนเจ้ล่ะ น้องกลับมาวันแรกก็พาแฟนมาเปิดตัวเลยน้าา” เฟย์แซว เมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีเดินตามเข้ามาแล้วยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร
 
“ห้ะแฟน แฟนที่ไหน ชั้นยังไม่มีแฟนเลย” เธอส่ายหน้า และต้องหันไปตามสายตาเฟย์ที่ยิ้มตาหยีให้ใครคนนึงข้างหลังเธอ ป๊อปปี้
 
“คุณภาณุทำไมยังไม่กลับอีกล่ะ ไหนว่าจะเข้าบริษัท” เธอถาม เพราะเมื่อกี้ก็เห็นอยู่ว่าเขาออกรถไปแล้ว สงสัยคงจะแค่เอารถไปจอด
 
“ก็เดี๋ยวขากลับก้ต้องผ่านบริษัทอยู่ดี ก็เลยรอรับพวกคุณดีกว่า” เขาตอบ
 
“โหยย แฟนเจ้นี่หล่อแถมนิสัยดีสุดๆเลยอะ เฟย์ให้ผ่านค่าา” เฟย์ปรบมือยกใหญ่ ฟางและป๊อปปี้เขินหน้าแดง
“ไอ้น้องบ้า บอกแล้วไงว่าไม่ใช่แฟน นี่คุณภาณุ เป็นพี่ชายของเพื่อนชั้น คุณภาณุนี่ เฟย์ น้องสาวตัวแสบของฟาง” เธอพูดพลางหยิบแก้มน้องสาวอย่างหมันเขี้ยว
 
“สวัสดีครับ / สวัสดีค่าาา” ทั้งคู่กล่าวทักทาย
 
“ไปเถอะ เดี๋ยวผมไปส่งคุณกับน้องเอง จะไปทานข้าวที่ไหนกันล่ะ” เขาถาม
 
“งั้นเอาร้านแถวๆบริษัทคุณก็ได้” เธอตอบ เพราะเป็นร้านประจำที่เธอนัดเจอกับแก้วบ่อยๆ
 
“พี่ภาณุไปทานด้วยกันไหมค่ะ เฟย์เลี้ยงเอง” เฟย์ชวน
 
“คุณภาณุเขามีธุระต้องทำน่ะเฟย์ อย่าไปรบกวนเวลาเลย” เธอรีบปฏิเสธแทน เฟย์หน้ามุ่ย
 
“ไปสิครับ ผมยังไม่ทานอะไรตั้งแต่เช้าเลย แต่ขอแวะไปเอางานที่บริษัทซักครู่นะ” เขาตอบตกลง เฟย์ร้องไชโย เพราะดูเหมือนสาวน้อยจะเชียร์เขาให้พี่สาวตัวเองเสียจริง
 
“น้องเฟย์เรียกพี่ว่า พี่ป๊อป ก็ได้ครับ ไม่เหมือนคนแถวนี้หรอกเรียกชื่อจริงซะเต็มยศ” เขาพูดต่อ และหันยิ้มกวนๆให้ฟางที่นั่งเหวออยู่สักครู่
“จะรอในรถ หรือจะลงไปด้วยกันล่ะ” เขาถามเมื่อถึงบริษัท
 
“เจ้ฟาง เฟย์อยากเข้าห้องน้ำ” เฟย์พูด ฟางส่ายหน้าน้อยๆ แล้วตัดสินใจลงไปพร้อมกับป๊อปปี้
 
 
 
“อ้ะ ขอโทษค่ะ” เธอกล่าวคำขอโทษเมื่อเดินชนกับพนักงานคนหนึ่งในบริษัทของป๊อปปี้ ร่างเล็กก้มลงไปเก็บเอกสารที่เธอเดินชนจนหล่นกระจายทั่วพื้น
 
“ขอบคุณครับ คุณ เอ่อ…” ชายหนุ่มคนนั้นกล่าวขอบคุณแล้วเงยหน้าขึ้นมาก็นิ่งกับความสวยของเธอทันที
 
“ฟางค่ะ แล้วคุณ” เธอแนะนำตัวแล้วถามกลับ
 
“ธามไทครับ” ธามไทมองเธอตาเยิ้ม
 
“หวังว่าจะได้พบกันอีกนะครับคุณฟาง” ธามไทพูดแล้วเดินไป
 
 
“กรี๊ดดดดด ไอลามก ไอโรคจิต” เฟย์ร้องลั่นและเอามือบิดตา
 
เมื่อขณะที่ตัวเองกำลังก้าวเข้าห้องน้ำหญิง ก็พบกับชายคนหนึ่งกำลังถอดเสื้ออยู่
“เห้ย คุณณ หยุดกรี้ดดๆๆๆ” เขาตกใจรีบวิ่งเอามือปิดปากห้ามไม่ให้เฟย์ร้อง
 
ทำให้เธอตกใจหนัก งับมือเขาเต็มๆแล้ว เตะผ่าหมาก จนชายแปลกหน้าร้องโอ้ย แล้วทรุดตัวลงไปนอนกับพื้น
“โอ้ยยคุณนี่มัน” เขานอนบิดตัวด้วยความเจ็บบ
 
“เจ้ฟาง พี่ป๊อป ช่วยด้วยย มีไอ้โรคจิตในห้องน้ำ” เฟย์ตะโกนลั่น จนป๊อปปี้ที่เพิ่งทำธุระเสร็จเดินลงมาได้ยินก็รีบวิ่งมาดูทันที
“อ้าว เขื่อน” ป๊อปปี้ทักเพื่อนสนิทที่นอนกองอยู่กับพื้น
 
“ไอ้ป๊อป ลากยัยบ้านี่ออกไปที” เขื่อนพูดแล้วชี้ไปที่เฟย์ที่ยืนงง
 
“เฟย์ไม่บ้านะพี่ป๊อป ก็ไอ้ลามกเนี่ยมันกำลังถอดเสื้อในห้องน้ำหญิงแถมจะทำไม่ดีกับเฟย์ด้วย” เฟย์ส่ายหน้าแล้วรีบฟ้อง
 
“ก็คุณเล่นร้องลั่น ผมก็ต้องปิดปากห้ามสิครับ ผิดเองแล้วยังจะมาโบ้ยให้ผมอีก” เขื่อนเริ่มประคองตัวเองให้ลุกแล้วเถียงต่อกับเฟย์
 
“หนอยแหนะ ก็ใครใช้ให้นายมาแก้ผ้าในห้องน้ำหญิงเล่า” เฟย์เถียงไม่เลิก
 
“โอ้ยย พอๆ ทั้งคู่นั่นแหละ เขื่อนแล้วนายมาถอดเสื้อในห้องน้ำหญิงทำไม” ป๊อปปี้ถาม
 
“ก็เด็กมันวิ่งมาชนชั้นตอนกำลังดื่มกาแฟ มันก็เปื้อนหมดเนี่ย ห้องน้ำชายคนก็เต็ม ชั้นเห็นว่าห้องน้ำหญิงไม่มีคนก็เลยกะจะมาเปลี่ยนเสื้อแปปเดียว แล้วยัยบ้านี่ก็โผล่มา” เขื่อนพูดพลางสวมเสื้อยืดอีกตัว
 
“เอ่อ งั้นชั้นก็ซอรี่ละกัน” เฟย์เมื่อรู้ว่าตัวเองเข้าใจผิด แถมยังไปเตะเขือนยกใหญ่ก็ทำอะไรไม่ถูก รีบขอโทษทันที
“แล้วแกมาหาชั้นมีอะไรหรอ” ป๊อปปี้ถามบ้าง
 
“ก็ว่าจะมาชวนไปทานข้าว” เขื่อนตอบ
 
“อ๋อ ชั้นก็กำลังจะไปทานข้าวพอดีเลยไปด้วยกันสิ” ป๊อปปี้ชวน หลังจากหันไปถามความเห็นฟางที่เพิ่งเดินตามเข้ามาทีหลัง
 
“ไปกับยัยบ้าหัวหอมนี่อะนะ” เขื่อนเริ่มโวยวาย
 
“ชั้นอยากไปกับนายตายละ ไอ้หน้ากบ” เฟย์โวยกลับ
 
“เฟย์นี่ถอดแบบคุณมาเป้ะๆเลยนะ ถ้าไม่บอกก็คิดว่าเป็นน้องแท้ๆไปแล้ว” ป๊อปปี้หันไปพูดกับฟางที่ส่ายหน้ากับเขื่อนและเฟย์ที่เถียงกันอยู่ไม่เลิก
 
“แน่นอน น้องชั้นซะอย่าง” ฟางหัวเราะ
 
 
 
 
 
 

ทั้ง4ทานอาหาร ที่ร้านประจำของฟาง ซึ่งเขื่อนกับเฟย์ก็ยังคงกัดกันไม่เลิก
 
“แล้วเฟย์จะพักที่ไหนอะ เพราะบ้านเราตอนนี้...” ฟางถามเสียงเศร้าเมื่อพูดถึงบ้านตัวเองที่โดนยืดอยู่
 
อีกทั้งยังเป็นห่วงว่าน้องสาวจะพักที่ไหน เพราะปกติเวลาเฟย์กลับไทยมาก็จะมาค้างกับเธอที่บ้านนีระสิงห์
 
“อ๋อเฟย์ก็นอนคอนโดก็ได้ค้า สบายใจหายห่วง” เฟย์ยิ้มร่าตอบ ใช่สินะ นอกจากบ้านนีระสิงห์ แม่ของเฟย์ซึ่งก็คือน้องสาวของพ่อเธอ ก็เคยซื้อคอนโดไว้ให้เฟย์เอาไว้ไปพักผ่อน
 
“คุณฟางเดี๋ยวเขื่อนอาสาไปส่งเฟย์ที่คอนโดนะครับ เป็นทางผ่านพอดี” เขื่อนพูดขึ้นมา เพราะอยากให้ฟางอยู่กับป๊อปปี้สองต่อสอง
 
“เอ่องั้นฟางก็ฝากเฟย์ด้วยละกันนะคะ” ส่วนฟางเองก็ตอบตกลงเพราะว่าเธอไม่อยากรบกวนป๊อปปี้แล้ววันนี้เขาก็เป็นเหมือนคนขับรถพาเธอไปส่งที่นั่นที่นี่ทั้งวัน
 
“เห้ยเจ้ฟาง” เฟย์กำลังจะโวยวายแต่ โดนเขื่อนลากตัวไปก่อน
 
“นี่คุณหัวหอม คุณอยากให้พี่สาวคุณกับเพื่อนผมได้อยู่กันสองคนไม่ใช่หรอ งั้นเลิกโวยวายได้แล้วว” เขื่อนดุเพราะตลอดมื้ออาหารก็สังเกตได้ว่าเฟย์เชียร์ป๊อปปี้ให้พี่สาวตัวเองตลอด
 
 
 
 
 
 
“ขอบคุณนะค่ะที่วันนี้เสียเวลาทำงานไปรับเฟย์เป็นเพื่อนฟาง” เธอยิ้มหวานให้และกล่าวขอบคุณ
 
“ก็เอ่อเห็นเป็นเพื่อนน้องสาวน่ะ” เขาตอบแก้เขิน แล้วเดินนำเข้าบ้านไป
 
“อ้าว คุณอาออกไปไหนหรอครับ ดึกป่านนี้” เขาทักนิมิตที่กำลังใส่นาฬิกาข้อมือเตรียมออกจากบ้าน
 
“อาว่าจะไปทำธุระนิดหน่อยนะ” นิมิตยิ้มตอบแล้วเดินออกไปที่รถ
 
สายตาหวานที่เดินตามเข้าทีหลังสะดุดตากับนาฬิกาข้อมือสีทองที่สวมใส่อยู่บนข้อมือของนิมิตทันที
 
“อ้ะ นาฬิกานั่น”
 
 
-------ขอเม้นเยอะๆๆ นะค้าาา จุ้บๆๆ------

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา