Inequality รักเรา...ไม่เท่ากัน
9.8
เขียนโดย สายลมแห่งตะวัน
วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.44 น.
43 ตอน
1179 วิจารณ์
136.64K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
39)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความInequality รักเรา...ไม่เท่ากัน
ตอนที่39
สายตาคมจดจ้องถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยกองหิมะขาวโพลน เมืองซินซินเนติ ใน
มลรัฐโอไฮโอ ช่างเงียบเชียบในเวลานี้ การจราจรไม่ติดขัดเพราะแทบจะไม่มีรถบนท้องถนนเลยด้วย
ซ้ำ เขาขับรถในความเร็วที่พอเหมาะสำหรับสภาพถนนลื่นจากการละลายตัวของหิมะเช่นนี้ ภายในรถ
คันหรูเปิดฮิตเตอร์จนอบอุ่น หากแต่หัวใจของผู้ถือพวงมาลัยกลับหนาวเหน็บ
ภาณุมองสองข้างทางด้วยหัวใจอันว้าเหว่ บ้านช่องของที่นี่ปิดเงียบเชียบเพื่อหลบจาก
อากาศหนาวเหน็บของพายุหิมะอยู่ในบ้านที่อบอุ่น
“เฮ้อ...”เขาทอดถอนหายใจ เมื่อการประชุมวันนี้ผ่านไปด้วยดี และเขากำลังจะเดิน
ทางกลับในวันนี้ สามวันมาแล้วที่เขาเดินทางมาที่นี่ นั่นก็เท่ากับว่าเขาเสียเวลาที่จะได้อยู่ร่วมกับ
ภรรยาสาวไปอีกสามวัน
“เห้ย!”
มือหนาหักพวงมาลัยหลบรถที่พุ่งออกมาจากซอยได้อย่างหวุดหวิด แต่ความลื่นของ
ถนนทำให้รถของเขาเสียการทรงตัว รถคันหรูไถลไปตามข้างทางที่มีหิมะขาวโพลน ก่อนจะค่างเติ่ง
บนกองหิมะกองใหญ่
ภาณุเปิดประตูรถ ก่อนจะกวาดหิมะที่ติดอยู่ตรงประตูออก และค่อยๆเปิดประตูกว้างขึ้น
เขาเดินลงมาจากรถคันหรู ก่อนจะมองสภาพรถแล้วส่ายหน้าน้อยๆ สภาพนี้คงต้องให้คนของเขามา
จัดการทีหลัง เขาจัดการปิดประตูรถ ก่อนจะล็อกไว้ และซุกมือหนาภายใต้ถุงมือหนังเข้าในเสื้อโค้ต
สีเข้ม เขาเดินไปตามทางเดิน เพื่อเดินยังร้านกาแฟเล็กๆที่ขับรถผ่านมาเมื่อกี้
มือหนาดึงประตูกระจกออก เสียงกระดิ่งในร้านดังขึ้น เขามองภายในร้าน ก่อนจะส่าย
หน้า
“นี่มันร้านขายดอกไม้นี่หว่า...”เสียงเข้มสบถกับตัวเองเบาๆ เตรียมที่จะเดินออกจาก
ร้าน แต่เสียงหวานของเจ้าของร้านกลับรั้งเขาไว้
“Good afternoon.”
“Sorry ,I think...”
“ฟาง ฟางจริงๆใช่ไหม”
หัวใจแกร่งเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเห็นใบหน้าสวยหวานที่โผล่พ้นเคาท์เตอร์ดอกไม้ขึ้น
มา ร่างแกร่งโผเข้ากอดร่างเล็กที่แสนคิดถึง
“พี่ป๊อป...”
ธนันต์ธรญ์พึมพำเรียกชื่อของชายหนุ่ม ดวงตากลมโตค้างเติ่งที่อยู่ๆก็ถูกคนที่คิดถึงสุด
หัวใจดึงเข้าสู่อ้อมกอด มือเล็กยกขึ้นกอดตอบชายหนุ่ม น้ำตาพาลไหลรินลงมา...
“พี่คิดถึงฟางมาก พี่ตามหาเรามาโดยตลอด แล้วทำไมถึงต้องหนีพี่มา ทำไมถึงมาอยู่
ที่นี่...บอกพี่สิ”เธอก้มหน้าลงน้อยๆเมื่อถูกคนตัวโตถาม เขาก็รู้ทั้งรู้แล้วจะถามเธอไปเพื่ออะไร
“ร้องไห้ทำไมครับ”นิ้วแกร่งกรีดเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน น้ำเสียง
ของเขาอ่อนโยนจนเธอหัวใจเต้นแรง
“แต่งงานแล้วหรอคะ สบายดีหรือเปล่า”เธอเลี่ยงที่จะตอบคำถามของเขา แต่กลับถาม
เขากลับ เธออยากจะรู้เรื่องของเขามากกว่าที่เขาจะมารู้เรื่องของเธอ
“แต่งแล้วครับ แต่ไม่ค่อยมีความสุข”
“ทำไมคะ”เธอเอ่ยถามอย่างร้อนรน เป็นห่วงทั้งคนที่รักและน้องสาวต่างมารดา
“เมียพี่หนีพี่มาที่นี่”
“อะไรนะคะ!”เธอถามอย่างไม่เข้าใจชายหนุ่มตรงหน้า เขากำลังพูดอะไรของเขา
“พี่แต่งงานแล้วเมื่อสามปี แปดเดือน สามวันที่แล้ว และพี่ก็รักเมียพี่มาก แต่เธอกลับ
หนีพี่มา”
“ไม่จริง...พี่ป๊อปรักพิม อย่ามาปั่นหัวฟางเล่นนะ”เธอทุบหน้าอกแกร่งอย่างไม่เล่นด้วย
เขากล้าดียังไงเอาหัวใจของเธอมาล้อเล่น
“ฟางจะตีพี่อีกเท่าไหร่ก็ได้ แต่พี่อยากจะบอกว่าพี่รักเรา ที่ผ่านมามันเป็นเพราะอคติ พี่
ไม่พอใจที่ถูกจับแต่งงาน เลยพยายามหาเกราะกำบังหัวใจตัวเอง และการไม่ยอมรับหัวใจตัวเอง
ทำให้พี่ต้องทนทุกข์ทรมาน กลับมาเถอะนะฟาง”
“แต่สามปีที่แล้วไม่ได้พูดแบบนี้”
“พี่ไม่เถียงหรอก แต่ตอนนี้พี่รู้แล้วว่ารักฟางคนเดียว ให้อภัยผู้ชายคนนี้เถอะนะ”
“ยังไม่ได้แต่งงานจริงๆหรอคะ”
ภาณุยิ้ม ก่อนจะแตะริมฝีปากของเขาที่ริมฝีปากอิ่มเบาๆ ก่อนจะรั้งร่างเล็กเข้ามากอดไว้
“แต่งแล้วครับ แต่แต่งกับฟางนะ”เขาจูบที่ขมับบางเบาๆ ก่อนจะลูบศีรษะสวย เมื่อ
สัมผัสได้ว่าคนตัวเล็กกำลังร้องไห้อย่างหนัก
“รักฟางจริงๆหรอคะ”
“รักครับ รักมาก”เขาตอบอย่างหนักแน่น ไม่เคยลังเลสักนิดที่จะบอกว่ารักผู้หญิงใน
อ้อมกอดนี้เพราเขาได้รู้แล้วว่าคำว่ารักที่มาจากความรักมันมีค่าและมีความหมายขนาดไหน มัน
มากมายเสียจนเขาไม่สามารถเก็บมันไว้ได้อีกแล้ว...ต้องบอกว่ารักเธอ
รักเธอทุกๆลมหายใจ...
“แต่ฟางดื้อ เอาแต่ใจตัวเอง แถมยังร้ายกาจด้วยนะ”
“รัก พี่รักทุกอย่างที่เป็นเรา...ขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา พี่ดีใจที่ความโลเลของพี่มันไม่
ได้บั่นทอนความรักของฟางที่มีต่อพี่...พี่เข้าใจถูกใช่ไหมคนดี”
“ฟางรักพี่ป๊อป ฮึก แต่ให้พี่จะร้ายกับฟางแค่ไหน ฟางก็ยังจะรักพี่ ความรักสำหรับฟาง
มันไม่มีเหตุผล ขอให้คนนั้นเป็นพี่ป๊อป ฟางก็พร้อมที่จะให้อภัย แล้วก็รัก”
“ปากหวานอย่างนี้ คืนนี้ต้องชิมทั้งคืนแล้วสิ”เขานิ่วหน้า เมื่อมือเล็กบิดเข้าให้ที่แผ่น
หลัง แม่ตัวดีนี่พิษสงรอบตัวจริงๆ คิดแล้วก็น่าตลก การพบเจอระหว่างเขาและเธอนี่จะว่าง่ายก็ง่าย
ยากก็ยาก เดาไม่ถูกเลยสักนิดว่าจะมาเจอหัวใจตัวเองที่นี่ ขอบคุณไอ้รถที่มันปาดหน้าเขา ขอบคุณ
สายตาของเขาที่มองว่าร้านนี้มันเป็นร้านขายกาแฟ ขอบคุณโชคชะตาที่ดลบันดาลให้เขาได้กลับมา
พบกับเธออีกครั้ง...
“คนเราถ้าเป็นของกันและกันจริงๆ ต่อให้ห่างไกลกันแค่ไหนโชคชะตาก็
จะพาเรามาพบกันค่ะ แต่ถ้าหากเขาไม่ใช่ ก็ไม่มีวันที่จะกลับมาพบเจอกันหรอกค่ะ”
สองหนุ่มสาวหันไปมองนมทิพย์ที่เดินออกมาจากหลังบ้าน รอยยิ้มของคนแก่ที่มอง
หนุ่มสาวอยู่นานผุดขึ้น หล่อนดีใจที่คุณหนูของหล่อนก็ไม่ได้โชคร้ายเหมือแม่ของแก ธนันต์ธรญ์มี
คนที่รักอยู่เคียงข้าง และหล่อนเชื่อว่าภาณุจะดูและคุณหนูและคุณหนูน้อยของหล่อนไปอีกนานแสน
นาน...
“ต้องขอบคุณรถที่มันขับปาดหน้าผมนะครับนม”หล่อนหัวเราะ เมื่อภาณุเล่าให้ฟังด้วย
น้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ผิดกับธนันต์ธรญ์ที่โพล่งออกมาเสียงดัง
“โดนขับปาดหน้าหรอคะ แล้วเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
ภาณุมองคนตัวเล็กที่ผละออกจากอ้อมกอดของเขา ก่อนจะหมุนเขาไป-มาเพื่อสำรวจ
ร่างกายของเขา
“อยากรู้คงต้องสำรวจกันยาวๆคืนนี้นะครับ...โอ้ย!”
“ทะลึ่ง!”เขาแก้แค้นมือเล็กที่ฟาดลงบนอกด้วยการไล่หอมแก้มนุ่มอย่างมันเขี้ยว ก่อน
จะยอมปล่อยร่างเล็กออก เมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องไห้วอแว
“ตาหนู”เสียงหวานพึมพำ ดีดตัวออกจากอ้อมกอดเขา ก่อนจะผลุบหายไปที่หลังร้าน
“ลูกใครน่ะฟาง!”
จัดให้หวานๆ ด้วยความขี้เกียจเลยอัพเลยแล้วกัน ขี้เกียจรีไรท์อิอิ เดี๋ยวอัพให้อีกตอน ชดเชยหมด
แล้วนะ งอนเค้าไม่ได้แล้วนะ
ตอนที่39
สายตาคมจดจ้องถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยกองหิมะขาวโพลน เมืองซินซินเนติ ใน
มลรัฐโอไฮโอ ช่างเงียบเชียบในเวลานี้ การจราจรไม่ติดขัดเพราะแทบจะไม่มีรถบนท้องถนนเลยด้วย
ซ้ำ เขาขับรถในความเร็วที่พอเหมาะสำหรับสภาพถนนลื่นจากการละลายตัวของหิมะเช่นนี้ ภายในรถ
คันหรูเปิดฮิตเตอร์จนอบอุ่น หากแต่หัวใจของผู้ถือพวงมาลัยกลับหนาวเหน็บ
ภาณุมองสองข้างทางด้วยหัวใจอันว้าเหว่ บ้านช่องของที่นี่ปิดเงียบเชียบเพื่อหลบจาก
อากาศหนาวเหน็บของพายุหิมะอยู่ในบ้านที่อบอุ่น
“เฮ้อ...”เขาทอดถอนหายใจ เมื่อการประชุมวันนี้ผ่านไปด้วยดี และเขากำลังจะเดิน
ทางกลับในวันนี้ สามวันมาแล้วที่เขาเดินทางมาที่นี่ นั่นก็เท่ากับว่าเขาเสียเวลาที่จะได้อยู่ร่วมกับ
ภรรยาสาวไปอีกสามวัน
“เห้ย!”
มือหนาหักพวงมาลัยหลบรถที่พุ่งออกมาจากซอยได้อย่างหวุดหวิด แต่ความลื่นของ
ถนนทำให้รถของเขาเสียการทรงตัว รถคันหรูไถลไปตามข้างทางที่มีหิมะขาวโพลน ก่อนจะค่างเติ่ง
บนกองหิมะกองใหญ่
ภาณุเปิดประตูรถ ก่อนจะกวาดหิมะที่ติดอยู่ตรงประตูออก และค่อยๆเปิดประตูกว้างขึ้น
เขาเดินลงมาจากรถคันหรู ก่อนจะมองสภาพรถแล้วส่ายหน้าน้อยๆ สภาพนี้คงต้องให้คนของเขามา
จัดการทีหลัง เขาจัดการปิดประตูรถ ก่อนจะล็อกไว้ และซุกมือหนาภายใต้ถุงมือหนังเข้าในเสื้อโค้ต
สีเข้ม เขาเดินไปตามทางเดิน เพื่อเดินยังร้านกาแฟเล็กๆที่ขับรถผ่านมาเมื่อกี้
มือหนาดึงประตูกระจกออก เสียงกระดิ่งในร้านดังขึ้น เขามองภายในร้าน ก่อนจะส่าย
หน้า
“นี่มันร้านขายดอกไม้นี่หว่า...”เสียงเข้มสบถกับตัวเองเบาๆ เตรียมที่จะเดินออกจาก
ร้าน แต่เสียงหวานของเจ้าของร้านกลับรั้งเขาไว้
“Good afternoon.”
“Sorry ,I think...”
“ฟาง ฟางจริงๆใช่ไหม”
หัวใจแกร่งเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเห็นใบหน้าสวยหวานที่โผล่พ้นเคาท์เตอร์ดอกไม้ขึ้น
มา ร่างแกร่งโผเข้ากอดร่างเล็กที่แสนคิดถึง
“พี่ป๊อป...”
ธนันต์ธรญ์พึมพำเรียกชื่อของชายหนุ่ม ดวงตากลมโตค้างเติ่งที่อยู่ๆก็ถูกคนที่คิดถึงสุด
หัวใจดึงเข้าสู่อ้อมกอด มือเล็กยกขึ้นกอดตอบชายหนุ่ม น้ำตาพาลไหลรินลงมา...
“พี่คิดถึงฟางมาก พี่ตามหาเรามาโดยตลอด แล้วทำไมถึงต้องหนีพี่มา ทำไมถึงมาอยู่
ที่นี่...บอกพี่สิ”เธอก้มหน้าลงน้อยๆเมื่อถูกคนตัวโตถาม เขาก็รู้ทั้งรู้แล้วจะถามเธอไปเพื่ออะไร
“ร้องไห้ทำไมครับ”นิ้วแกร่งกรีดเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน น้ำเสียง
ของเขาอ่อนโยนจนเธอหัวใจเต้นแรง
“แต่งงานแล้วหรอคะ สบายดีหรือเปล่า”เธอเลี่ยงที่จะตอบคำถามของเขา แต่กลับถาม
เขากลับ เธออยากจะรู้เรื่องของเขามากกว่าที่เขาจะมารู้เรื่องของเธอ
“แต่งแล้วครับ แต่ไม่ค่อยมีความสุข”
“ทำไมคะ”เธอเอ่ยถามอย่างร้อนรน เป็นห่วงทั้งคนที่รักและน้องสาวต่างมารดา
“เมียพี่หนีพี่มาที่นี่”
“อะไรนะคะ!”เธอถามอย่างไม่เข้าใจชายหนุ่มตรงหน้า เขากำลังพูดอะไรของเขา
“พี่แต่งงานแล้วเมื่อสามปี แปดเดือน สามวันที่แล้ว และพี่ก็รักเมียพี่มาก แต่เธอกลับ
หนีพี่มา”
“ไม่จริง...พี่ป๊อปรักพิม อย่ามาปั่นหัวฟางเล่นนะ”เธอทุบหน้าอกแกร่งอย่างไม่เล่นด้วย
เขากล้าดียังไงเอาหัวใจของเธอมาล้อเล่น
“ฟางจะตีพี่อีกเท่าไหร่ก็ได้ แต่พี่อยากจะบอกว่าพี่รักเรา ที่ผ่านมามันเป็นเพราะอคติ พี่
ไม่พอใจที่ถูกจับแต่งงาน เลยพยายามหาเกราะกำบังหัวใจตัวเอง และการไม่ยอมรับหัวใจตัวเอง
ทำให้พี่ต้องทนทุกข์ทรมาน กลับมาเถอะนะฟาง”
“แต่สามปีที่แล้วไม่ได้พูดแบบนี้”
“พี่ไม่เถียงหรอก แต่ตอนนี้พี่รู้แล้วว่ารักฟางคนเดียว ให้อภัยผู้ชายคนนี้เถอะนะ”
“ยังไม่ได้แต่งงานจริงๆหรอคะ”
ภาณุยิ้ม ก่อนจะแตะริมฝีปากของเขาที่ริมฝีปากอิ่มเบาๆ ก่อนจะรั้งร่างเล็กเข้ามากอดไว้
“แต่งแล้วครับ แต่แต่งกับฟางนะ”เขาจูบที่ขมับบางเบาๆ ก่อนจะลูบศีรษะสวย เมื่อ
สัมผัสได้ว่าคนตัวเล็กกำลังร้องไห้อย่างหนัก
“รักฟางจริงๆหรอคะ”
“รักครับ รักมาก”เขาตอบอย่างหนักแน่น ไม่เคยลังเลสักนิดที่จะบอกว่ารักผู้หญิงใน
อ้อมกอดนี้เพราเขาได้รู้แล้วว่าคำว่ารักที่มาจากความรักมันมีค่าและมีความหมายขนาดไหน มัน
มากมายเสียจนเขาไม่สามารถเก็บมันไว้ได้อีกแล้ว...ต้องบอกว่ารักเธอ
รักเธอทุกๆลมหายใจ...
“แต่ฟางดื้อ เอาแต่ใจตัวเอง แถมยังร้ายกาจด้วยนะ”
“รัก พี่รักทุกอย่างที่เป็นเรา...ขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา พี่ดีใจที่ความโลเลของพี่มันไม่
ได้บั่นทอนความรักของฟางที่มีต่อพี่...พี่เข้าใจถูกใช่ไหมคนดี”
“ฟางรักพี่ป๊อป ฮึก แต่ให้พี่จะร้ายกับฟางแค่ไหน ฟางก็ยังจะรักพี่ ความรักสำหรับฟาง
มันไม่มีเหตุผล ขอให้คนนั้นเป็นพี่ป๊อป ฟางก็พร้อมที่จะให้อภัย แล้วก็รัก”
“ปากหวานอย่างนี้ คืนนี้ต้องชิมทั้งคืนแล้วสิ”เขานิ่วหน้า เมื่อมือเล็กบิดเข้าให้ที่แผ่น
หลัง แม่ตัวดีนี่พิษสงรอบตัวจริงๆ คิดแล้วก็น่าตลก การพบเจอระหว่างเขาและเธอนี่จะว่าง่ายก็ง่าย
ยากก็ยาก เดาไม่ถูกเลยสักนิดว่าจะมาเจอหัวใจตัวเองที่นี่ ขอบคุณไอ้รถที่มันปาดหน้าเขา ขอบคุณ
สายตาของเขาที่มองว่าร้านนี้มันเป็นร้านขายกาแฟ ขอบคุณโชคชะตาที่ดลบันดาลให้เขาได้กลับมา
พบกับเธออีกครั้ง...
“คนเราถ้าเป็นของกันและกันจริงๆ ต่อให้ห่างไกลกันแค่ไหนโชคชะตาก็
จะพาเรามาพบกันค่ะ แต่ถ้าหากเขาไม่ใช่ ก็ไม่มีวันที่จะกลับมาพบเจอกันหรอกค่ะ”
สองหนุ่มสาวหันไปมองนมทิพย์ที่เดินออกมาจากหลังบ้าน รอยยิ้มของคนแก่ที่มอง
หนุ่มสาวอยู่นานผุดขึ้น หล่อนดีใจที่คุณหนูของหล่อนก็ไม่ได้โชคร้ายเหมือแม่ของแก ธนันต์ธรญ์มี
คนที่รักอยู่เคียงข้าง และหล่อนเชื่อว่าภาณุจะดูและคุณหนูและคุณหนูน้อยของหล่อนไปอีกนานแสน
นาน...
“ต้องขอบคุณรถที่มันขับปาดหน้าผมนะครับนม”หล่อนหัวเราะ เมื่อภาณุเล่าให้ฟังด้วย
น้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ผิดกับธนันต์ธรญ์ที่โพล่งออกมาเสียงดัง
“โดนขับปาดหน้าหรอคะ แล้วเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
ภาณุมองคนตัวเล็กที่ผละออกจากอ้อมกอดของเขา ก่อนจะหมุนเขาไป-มาเพื่อสำรวจ
ร่างกายของเขา
“อยากรู้คงต้องสำรวจกันยาวๆคืนนี้นะครับ...โอ้ย!”
“ทะลึ่ง!”เขาแก้แค้นมือเล็กที่ฟาดลงบนอกด้วยการไล่หอมแก้มนุ่มอย่างมันเขี้ยว ก่อน
จะยอมปล่อยร่างเล็กออก เมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องไห้วอแว
“ตาหนู”เสียงหวานพึมพำ ดีดตัวออกจากอ้อมกอดเขา ก่อนจะผลุบหายไปที่หลังร้าน
“ลูกใครน่ะฟาง!”
จัดให้หวานๆ ด้วยความขี้เกียจเลยอัพเลยแล้วกัน ขี้เกียจรีไรท์อิอิ เดี๋ยวอัพให้อีกตอน ชดเชยหมด
แล้วนะ งอนเค้าไม่ได้แล้วนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ