สลับขั้วมาลุ้นรัก

9.4

เขียนโดย Water_Fall

วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.31 น.

  14 ตอน
  45 วิจารณ์
  24.34K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 23.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) หวั่นไหว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
                   เสียงกรีดร้องอันแสนจะโหยหวนของโทรศัพท์สีแดงสด ที่ดังขึ้นอยู่ตรงหัวเตียงไม้ไผ่ เตียงคู่ขนาดใหญ่สำหรับคนสองคน หมอนข้างสองอันแต่คนละสีกำลังพาดไปที่ร่างของหญิงชายที่กำลังเคลิ้มหลับได้ที่ ผ้าคลุมที่นอนลายเดียวกันแต่กับแยกกันเป็นสองฝั่งกำลังยับยู่ยี่เนื่องจากคนพี่ที่นอนดิ้นประจำ พี่สาวที่นอนฝั่งสีแดงลืมตาตื่นด้วยสีหน้าเซงๆ เพราะเสียงโหยหวนชวนขนลุกนั่น ทำเอาเธอรำคาญเอามากๆ
 
 
                   "พี่ฟางนี่ ต้นกล้า นี่ไอ้กล้ารับแทนฉันที" พลันเห็นเจ้าของเบอร์ที่โทรมา เธอก็ใช้เท้าอันแสนอ่อนนุ่มของเธอ แหย่ไปที่ก้นน้องชายที่นอนหันหลังให้เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรับสายจากพี่สาวคนโต เพราะเธอรู้ว่า ที่พี่สาวโทรมาหาเธอ คงจะเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะฟังสุดๆ
 
               
                   แต่เหมือนน้องชายของเธอจะหลับลึกจนไม่รู้สึกอะไร จากเท้าที่แหย่เล่นเปลี่ยนไปเป็นถีบเต็มแรง
 
 
                  "โอ้ยยัยบ้า ทำอะไำรของเธอ" แฝดน้องตื่นขึ้นทันควันพลางมองพี่สาวด้วยความรู้สึกขุ่นเคือง เพราะเจ้าหล่อนกำลังรบกวนเวลานอนของเขา
 
 
                  "ก็นายอยากหลับลึกทำไมล่ะ เอา รับสายซะสิ" กิ่งแก้วยื่นโทรศัพท์สีแดงสดให้น้องชาย ก่อนที่เขาจะกดรับอย่างใจเย็น
 
 
                  "ครับพี่ฟาง"
 
 
                  "เอาโทรศัพท์ไปให้ยัยกิ่งแก้วเดี๋ยวนี้" พลันได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวอันน่าหงุดหงิดของพี่สาวคนโต ต้นกล้าถึงกับเอาโทรศัพท์ที่แนบหูออกไป ก่อนยื่นกลับไปให้พี่สาวฝาแฝด
 
 
                  "พี่ฟางอยากคุยกับเธอน่ะ"
 
 
                  "อะไรกันนักหนาเนี่ย" เมื่อได้ยินเช่นกัน กิ่งแก้วถึงกับสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะป้าบไปที่หัวของน้องชายเพื่อระบายอารมณ์และรับโทรศัพท์ของพี่สาว พลางเปลี่ยนสีหน้าที่หงุดหงิด เป็นใบหน้าที่อารมณ์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนทางต้นกล้า ก็ได้แต่มองหน้าของพี่สาวอย่างงุนงง ว่าทำไมจะต้องเป็นตูทุกที
 
 
                  "ค่ะพี่ฟางสุดสวย"
 
 
                  "ไม่ต้องมาเสแสร้งเลยยัยกิ่งแก้ว นี่มันกี่โมงแล้วห่ะ รีบๆไปแต่งตัวเลยนะ วันนี้พี่จะพาไปเจอลูกค้าคนสำคัญ ถ้าเกิดเธอเบี้ยวหรือหาข้ออ้างไม่มาล่ะก็ คงรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอ" เสียงของปลายสายทำเอาแก้วหูของแฝดพี่ชาไปหมด
 
 
                  "ให้ต้นกล้าไปแทนไม่ได้เหรอค่ะ"
 
 
                  "เอาอีกแล้วนะยัยกิ่งแก้ว เวลาเกิดเรื่องอะไรก็จะเอาแต่พึ่งน้อง พึ่งน้องตลอดเลย พี่สงสารต้นกล้าจริงๆที่เกิดมาเป็นแฝดของเธอเนี่ย"
 
 
                  "แต่ว่าเรื่องนี้มัน อุบ..." พลันได้ยินเช่นนั้น ต้นกล้าก็เอามือมาปิดปากแฝดพี่ทันที เพราะเกรงเธอจะปากโป้งที่เขาเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
 
 
                  "จะบ้าเรอะยัยถึก นี่เธอคิดจะแฉฉันรึไง"
 
 
                  "ก็นายไม่ใช่รึไง ที่ปากไำม่ดีเองอ่ะ"
 
 
                  "แต่ฉันก็แก้ไขทุกอย่างแล้วนะ เธอจะโทษฉันไม่ได้"
 
 
                  "แก้ไขยังงั้นเรอะ ยิ่งทำให้เรื่องมันยุ่งยากมากขึ้นล่ะสิไม่ว่า นี่ฉันจะต้องทนแต่งตัวเหมือนนายไปแบบนี้อีกนานแค่ไหนกันย่ะไอ้ต้นกล้า"
 
 
                  "ก็จนกว่าจะบ้านของหมอนั่นจะเสร็จนั่นแหละ"  
 
                                  
                    บัดนี้ ทั้งสองต่างจ้องกันตาเป็นมัน ราวกับโกรธกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน แลดูเหมือนมีประกายบางอย่างกำลังชนกันอยู่ ณ ที่แห่งนั้น 
 
 
                  "กิ่งแก้ว ยัยกิ่งแก้ว ฟังพี่อยู่หรือป่าวเนี่ย" เสียงเกรี้ยวกราดดังเล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์สีแดงสด ทำเอาแฝดทั้งสองต้องหยุดสงครามสายตากันสักพัก ก่อนที่แก้วจะหันมาคุยกับพี่สาวคนโตบ้าง
 
 
                   "ค่ะฟังอยู่ค่ะ" 
 
 
                   "ตกลงเธอจะไปหรือป่าวเนี่ยห่ะ" 
 
 
                   "เฮ้อ ก็ได้ค่ะ" แก้วตอบอย่างปลงๆ เพราะตัวเองไม่สามารถที่ทำอะไรได้อีกแล้ว จากนั้นคุณเธอก็รีบลุกไปแต่งตัวเป็นต้นกล้าน้องชายฝาแฝดของเธอ เพื่อไม่ให้คนที่เธอกำลังจะไปหาแปลกใจ 
 
 
                  รถปอร์ตสีแดงแล่นมาจอดที่บริษัท@FKK ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวลงจากรถ แว่นสีตาสีชาถูกถอดไปไว้ที่หัวแทน ก่อนที่สาวเจ้าจะเดินไปข้างใน พลันได้เห็นท่าทางการเดินและการแต่งตัวที่เหมือนกับผู้ชาย ทำเอาพนักงานต้อนรับถึงกับสงสัยอยู่ไม่น้อย ถึงแม้จะเจอหน้าสองฝาแฝดอยู่บ่อยครั้งก็ตาม แต่กับแยกพวกเขาไม่ออกเลยสักนิด และยิ่งเธอดันแต่งตัวแบบนี้ยิ่งทำให้ทั้งสองเหมือนกันเข้าไปใหญ่
 
 
                   "นี่ค่ะพี่เจี้ยบ พอดีแก้วไปเจอข้างทางมาก็เลยซื้อมาฝาก" หญิงสาวยื่นกล้วยปิ้งให้กับพนักงานต้อนรับ ทำเอาเธอรู้ได้ทันทีว่า คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็คือแฝดพี่ เพราะพี่สาวจะซื้อของฝากให้กับเธอประจำ ในทางกลับกัน ตัวน้องชายเองกับมาขอเธอกินตลอด และนี่ก็ทำให้เธอแยกพวกออกจากกันได้อย่างสิ้นเชิง 
 
 
                  ครั้นเมื่อเห็นหน้าของน้องสาว เธอถึงกับแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะน้องสาวตัวแสบดันใส่ชุดผู้ชายมาทั้งๆที่เธอก็เป็นผู้หญิง
 
 
                    "เธอเป็นอะไรของเธอห่ะยัยกิ่งแก้ว ผู้หญิงที่ไหนเขาจะใส่ชุดผู้ชายกัน" 
 
 
                   "โถ่พี่ข้าวฟาง สมัยนี้เขาฮิตแนวทอมบอยกันจะตาย" หญิงสาวตอบก่อนจะไปนั่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามกับพี่สาว
 
 
                   "ฉันล่ะเชื่อเธอเลยจริงๆ" ข้าวฟางบ่นพลางทำหน้าเซงกับน้องสาวจอมซนของเธอ
 
 
                   "ท่านประธาณค่ะ คือว่า คุณโทโมะจาก@To มาถึงแล้วนะค่ะ ตอนนี้กำลังรอคุณฟางกับคุณกิ่งแก้วที่ชั้นล่างค่ะ"  
 
       
                   "อืม เดี๋ยวฉันจะลงไป" ข้าวฟางพูดอย่างสุขุม ก่อนที่เลขาหน้าสวยจะทำตามที่เธอบอก
 
 
                   "ไปกันเถอะยัยแก้ว" ข้าวฟางหันไปพูดกับน้องสาว จากนั้นเธอก็ลุกพรวดออกไป แต่ใจเจ้ากรรม โทรศัพท์ของเธอดันมาดังเอาซะก่อน จึงทำให้ข้าวฟางต้องรับสายจอมกวนอย่างเลี่ยงไม่ได้
 
 
                   "ว่าไงต้นกล้า"
 
 
                   "พี่ฟาง" เสียงต้นกล้าดูสั่นๆ ยิ่งทำให้ข้าวฟางแปลกใจ
 
 
                   "ต้นกล้าเป็นอะไร ไหนบอกพี่มาสิ" ข้าวฟางเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เพราะเหมือนเสียงของเขาจะขาดๆหายๆระหว่างที่คุยกัน ทั้งๆที่สัญญาณในโทรศัพท์ก็เต็มหลอดซะอย่างนั้น
 
 
                   "คือว่า ผมไม่สบายนะครับพี่ฟาง สงสัยจะเป็นไข้เลือดออก" เสียงของต้นกล้าทำเอาข้าวฟางแทบจะเป็นลม
 
 
                   "งั้นรอพี่ก่อนนะ นี่ยัยกิ่งแก้ว สงสัยเธอคงต้องไปกับคุณโทโมะสองคนแล้วล่ะ ยังไงก็ห้ามตบหน้าเขาอีกล่ะ ถ้าฉันรู้เรื่องเข้าล่ะก็ เธอคงจะรู้นะ ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง" ข้าวฟางกำชับน้องด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบก่อนที่เธอจะวิ่งพรวดไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่เปิดโอกาสให้น้องสาวของเธอเอ่ยคำอะไรใดๆออกมาเลยสักคำ
 
 
                   "เป็นอะไรของเขานะ เอ๊ะ ต้องไปกับเจ้าหมอนั่นสองต่อสองยังงั้นเรอะ ตายแน่ฉัน"
 
 
                   กิ่งแก้วเดินลงมาหาชายหนุ่มนักธุรกิจที่นั่งอยู่ในส่วนรับรองของบริษัทด้วยใบหน้าเครียดๆบ่นหงุดหงิดเล็กน้อย พลันเห็นหญิงสาวในร่างชายหนุ่ม เขาก็จ้องตาเขม้ง อย่างกับเกลียดอะไรสักอย่าง 
 
 
                   "เอ่อ...ไม่ทราบว่า" ถึงแม้จะเป็นคนที่เธอเกลียดขี้หน้า แต่ด้วยคำขู่ของพี่สาวคนโต เธอถึงกับทำอะไรไม่ถูก
 
 
                   "ไปกันได้แล้ว" ชายหนุ่มพูดก่อนจะเดินนำเธอไป กิ่งแก้วก็ได้แต่ตามเขาคนนั้นเสมือนเบ้คนนึง
 
 
                   "นี่เราจะไปไหนกันเหรอครับ" กิ่งแก้วถามพลางทำหน้างง 
 
 
                   "โรงแรม" คำพูดสั้นๆของเขา ทำเอากิ่งแก้วแทบจะหมดสติลงตรงนั้น นี่เรากำลังจะขึ้นโรงแรมกับผู้ชายสองต่อสองเหรอเนี่ย 
 
 
                   "ผมว่า คงไม่ดีหรอกมั้งครับ ถ้าจะให้มาขึ้นโรงแรมกับคุณสองต่อสอง ถ้าเกิดนักข่าวมาเห็นเข้า ผมเกรงว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่น่ะครับ" 
 
 
                   "ทำไม คุณกลัวผมเรอะ เราเป็นผู้ชายด้วยกันไม่เห็นต้องแคร์คนอื่นเลยนี่ครับ" นักธุรกิจหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ก่อนจะมองทางข้างหน้า ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังนั่งอยู่ในรถราคาหลายสิบล้าน ที่จวนจะถึงที่หมายเต็มที 
 
 
                    รถสีดำคันหรูแล่นมาจอดหน้าโรงแรมระดับห้าดาว ก่อนที่พนักงานจะรับกุญแจจากเขาและนำรถคันหลายสิบล้านไปเก็บ ณ จุดที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุด ชายหนุ่มพาหญิงสาวในคราบเด็กหนุ่มขึ้นโรงแรมไปอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะขึ้นลิฟท์เพื่อเข้าห้องที่เขาโทรจ้องล่วงหน้าไว้แล้ว 
 
 
                    ภายใต้ห้องสุดหรูที่มีเครื่องประดับหายากเรียงรายอยู่เต็มห้อง ยิ่งมองก็ยิ่งทำให้หญิงสาวเพลิดเพลินใจยิ่งนัก 
 
 
                   "ว่าแต่ มีเรื่องอะไรเหรอครับที่ต้องเรียกผมมาที่นี้ คงไม่ใช่เรื่องที่ผมตบหน้าคุณไปหรอกนะครับ เพราะถ้าเกิดคุณอยากจะให้ผมขอโทษ ผมคงต้องปฏิเสธ เพราะคนที่ผิดก็คือคุณไม่ใช่ผม" กิ่งแก้วในคราบต้นกล้ามองหน้าชายหนุ่มพลันนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น ที่เหมือนไม่อยากจะจำ 
 
 
                   "แค่อารมณ์ของเด็กๆผมไม่ถือสาหรอกนะครับ คุณคงเป็นประเภทอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายสินะ งานที่คุณทำก็เลยไำม่ได้เรื่องแบบนั้น"
 
 
                   "นี่นาย เอ่อ... คือว่าคำพูดของคุณดูไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ ถึงผมจะเป็นแค่เด็ก แต่ผมก็มีความคิดสูงส่งยิ่งกว่าใครบางคนแถวๆนี้อีกนะครับ" กิ่งแก้วพูดเหมือนหลอกด่าเขา แต่ท่าทางที่เรียบเฉยนั่น ทำเอากิ่งแก้วหวาดกลัวยิ่งนัก
 
 
                   "เอาเถอะครับ ผมจะไม่ตอล้อตอเถียงกับคุณอีกก็แล้วกัน แล้วไหนล่ะครับ งานที่ผมสั่งให้ไปทำ" โทโมะตัดคำด่าของเธอออกไปจากสมอง ก่อนจะหันมาทวงของๆเขาทันที
 
 
                   "ใครจะไปมีเวลาทำกันย่ะ อะเอ่อ คือว่าผมไม่สบายน่ะครับก็เลยออกไปไหนมาไหนไม่ได้ หวังว่าคุณคงจะไม่โกรธที่ผมทำผิดสัญญาหรอกนะครับ" มันก็แน่ล่ะ เพราะหลังจากวันนั้น เธอก็เอาแต่นั่งเครียดตลอด จนไม่มีกะจิตกะใจจะัทำอะไรสักอย่าง
 
 
                   "ชั่งเถอะครับ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า" นี่ยังจะมีเรื่องนอกเหนือจากนั้นอีกเหรอเนี่ย
 
 
                   "เรื่องอะไรเหรอครับ" กิ่งแก้วถามอย่างแปลกใจ
 
 
                   "ในฐานะที่เราก็เป็นผู้ชายทั้งคู่ ผมแค่อยากจะทราบว่า คุณชอบผู้หญิงประเภทไหนก็เท่านั้นเอง อะ อย่าเข้าใจผิดนะครับ ที่ผมอยากรู้ ก็เพื่อจะเก็บข้อมูลของคนที่ผมจะร่วมงานด้วยก็เท่านั้น เพราะสมัยนี้ คนดีๆมันหายาก และผมก็ค่อนข้างจะไม่ไว้ใจคนง่ายๆซะด้วย" แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องงานตรงไหนย่ะ
 
 
                   "ผมคิดว่าคุณคงจะนอกประเด็นแล้วมั้งครับ ผมเป็นสถาปนิกนะ ไม่ใช่นักรักที่จะต้องตอบคำถามแบบนั้น" กิ่งแก้วเบือนหน้าหนีอย่างเซงแซ่
 
 
                  ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ก่อนที่จะปรากฏพนักงานชายคนหนึ่งที่เหมือนจะเข็นรถมาด้วย และข้างบนรถนั้นคงจะเป็นอาหารที่ชายหนุ่มได้สั่งเอาไว้แล้ว
 
 
                   "ทานสิครับไม่ต้องเกรงใจ" โทโมะกล่าวพร้อมกับจ้องหน้าเธอนิ่ง
 
 
                   กิ่งแก้วตักอาหารเข้าปากโดยไม่ทันสังเกตุว่า อาหารที่เธอทานเป็นอะไร อาจเป็นเพราะนักธุรกิจหนุ่มที่เอาแต่จ้องมองเธอตลอดเวลา เหมือนกำลังรอให้เธอแสดงพิรุจอะไรออกมา
 
 
                  "คะ แค่ก แค่ก" กิ่งแก้วไอเสียงดังก่อนจะเอามือไปจับที่หน้าอก พลันเห็นดังนั้นชายหนุ่มก็รีบเข้าไปดูอาการของเธอโดยเร็ว
 
 
                  "คุณต้นกล้า เป็นอะไรหรือป่าวครับ ท่าทางคุณดูไม่ดีเลยนะ"
 
 
                  "คือว่าผม ผมแพ้กุ้งน่ะครับ" พลันได้ยินเช่นนั้น โทโมะก็เขาไปตรวจดูจานที่เธอเพิ่งกินเข้าไป ก็พบว่ามันเป็นข้าวต้มกุ้งสูตรพิเศษของทางร้านนี่เอง
 
 
                  "งั้นรีบไปห้องน้ำเร็ว" โทโมะประคองร่างที่โรยรินของหญิงสาวเข้าห้องน้ำไปอยากทุลักทุเล ก่อนที่เขาจะลูบที่หลังของเธอเบาๆ เพื่อให้หญิงสาวอ้วกออกมา  
 
 
                   เมื่อเสร็จสิ้นการล้างท้อง กิ่งแก้วถึงกับทรุดลงตรงนั้น แต่ยังดีที่โทโมะรับเธอไว้ทัน ก่อนจะพยุงตัวเธอไปที่เตียง แต่ด้วยร่างที่ใกล้จะหมดสติเต็มที โทโมะจึงเผลอไปโดนที่เอวของเธอคนนั้นเข้า เอวบางที่เหมือนกับผู้หญิงของเด็กหนุ่มทำเอาโทโมะแปลกใจอยู่ไม่น้อย และดูเหมือนเขาจะรู้ว่าเด็กหนุ่มใส่เสื้อมาไม่ต่ำกว่าสามชิ้น ผู้ชายเอวบางแบบนี้ก็มีด้วยเรอะเนี่ย แถมยังใส่เสื้อมาหนาซะขนาดนั้น เขาไม่ร้อนเลยหรือไงนะ 
 
 
                   ทันทีที่เด็กหนุ่มร่างบางนอนอยู่บนเตียง โดยที่มีนักธุรกิจหนุ่มนั่งดูแลอยู่ข้างๆ พลันได้เห็นใบหน้าที่ขาวสะอาดของเด็กหนุ่ม หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นรัวทันควัน นี่เราหวั่นไหวกับเขาเหรอเนี่ย ไม่จริงน่า ถึงปากของเขาจะปฏิเสธยังไง แต่ร่างกายของเขามันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แค่ครู่เดียวปากของเขาก็อยู่ห่างจากปากของเธอไม่ถึงเิซน เขาบรรจงจูบไปที่ริมฝีปากสีแดงระเรื่อ ก่อนจะตวัดลิ้นเข้าไปข้างในอย่างไม่รู้ตัว ทำไมเราถึงควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำไมปากของเราต้องชนกับเขา ทำไมเราต้องทำแบบนี้กับเขา นี่เรา ชอบเขายังงั้นเรอะเนี่ย 
 
 
   ติดตามตอนต่อไปนะครับ
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา