สัญญารักลวง...

10.0

วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.08 น.

  36 ตอน
  12 วิจารณ์
  76.62K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 20.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

21)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
นิยายเรื่อง สัญญารักลวง
 
ตอนที่21 สาบาน...
 
 
 
 
 
                    ควันสีขาวลอยพวยพุ่งออกมาจากปล้องบนยอดเมรุ ลอยคละคลุ้งไปในอากาศ ลอยไปพร้อมๆกับ
 
 
หัวใจอีกดวงของชายหนุ่มที่เฝ้ามองมันอยู่ตอนนี้ การจากไปโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้เขายังทำใจไม่ได้ และไม่มีทาง
 
 
ที่เขาจะทำใจได้ลง ทำไมเธอต้องมาจากเขาไปในเวลาที่เขาต้องการและรักเธอ อยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอ ผู้ชาย
 
 
อย่างเขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอกลับมา หากแต่ตอนนี้มันคงไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว เธอจากไปพร้อมๆ
 
 
กับความเข้าใจผิด เขายังไม่ได้ฟังเขาเลยว่าความจริงมันเป็นอย่างไร เพียงเพราะคำพูดพล่อยๆของเด็กไม่รู้จักโต
 
 
ทำให้คนที่รักจากไป...เพราะเธอ เธอทำลายชีวิตที่กำลังจะไปได้สวยของเขาจนไม่มีชิ้นดี ต่อจากนี้ไปเขาสัญญา
 
 
ว่าจะทำให้เธอเจ็บปวดไปไม่ให้น้อยกว่าที่พิมต้องพบเจอเลยหรืออาจจะมากกว่านั้น.... สาบานเขาจะทำมันให้
 
 
สำเร็จจงได้...เธอต้องชดใช้อย่างสาสม
 
 
“พี่ป๊อป ฝนจะตกแล้วไปเถอะค่ะ”เสียงหวานปะทะโสตประสาทของเขา เขาหันไปมองคนตัวเล็กที่เกาะแขนเขาอยู่
 
 
ด้วยสายตาเย็นชา
 
 
“อยากกลับก็กลับไปสิ ฉันจะรอจนกว่าพิมจะจากไปจริงๆ”
 
 
“งั้นฟางอยู่เป็นเพื่อนนะ”เธอตอบกลับเสียง่ายๆก่อนจะนั่งลงข้างๆเขา
 
 
“ฟางขอโทษที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันเลวร้ายแบบนี้...ฟางจะยกเลิกงานแต่งงานของเรา”น้ำเสียงหวานเอ่ยอย่าง
 
 
เศร้าๆ
 
 
“มันจะไม่สายไปหน่อยหรือไง เธอเพิ่งจะมาสำนึกได้อะไรตอนนี้”สายตาดุดันถูกส่งมาให้เธออย่างเปิดเผย เธอ
 
 
หลบดวงตาคู่นั้นอย่างหวาดหวั่น กลัวเหลือเกินว่าเขาจะกลายร่างเป็นซาตานร้ายอีกครั้ง ความจริง เธอไม่เคยคิด
 
 
เลยว่าเรื่องราวมันจะบานปลายใหญ่โตถึงขนาดนี้ เธอไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าความรักของเธอต้องแลกด้วยชีวิตของ
 
 
ใคร...หากเธอรู้เธอจะไม่ตัดสินใจที่จะทำอย่างนี้เลย...
 
 
“ฟางขอโทษค่ะ แต่พี่ป๊อปคะฟางไม่คิด...”
 
 
“ไม่ต้องมาแก้ตัว...ตอนนี้ฉันยังไม่อยากชำระความกับเธอตอนนี้ เงียบๆไปซะ” หญิงสาวก้มหน้างุดมือเล็กจิกหลัง
 
 
ฝ่ามืออย่างประหม่า เธอรู้สึกไม่ดีสักนิด ทำไมเขาต้องตั้งแง่กับเธอขนาดนี้ เขาทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน ทำเหมือน
 
 
เธอเป็นแค่ธาตุอากาศ...พี่ป๊อปคนเดิมของเธอหายไปไหนกัน... แต่มันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรือ...
 
 
เธอทำลายชีวิตที่สวยงามของเขา ทั้งคนรักและลูกของเขา เธอมันเห็นแก่ตัว
 
 
หากเธอไม่หน้าด้านหรือไม่ไร้ยางอายเพื่อแย่งชิงเขามาครอบครองเรื่องทุกอย่างก็คงไม่ต้องจบแบบนี้ บางทีการที่
 
 
เธอไม่คิดจะวางแผนบ้าๆนี้ขึ้นมา แล้วยอมถอยไปตั้งแต่วันที่เขาบอกเธอว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว เรื่องทุกอย่างคงไม่
 
 
เป็นแบนี้ อาจจะจริงที่เธอต้องเจ็บปวด ระยะเวลา9ปีไม่ใช่น้อยๆ แต่เธอก็พร้อมจะตัดใจหากรู้ว่ามันต้องแลกมาด้วย
 
 
ชีวิตของคนสองคน ยอมปล่อยให้เขาไปมีความสุขกับคนที่เขารักดีกว่า...แต่เรื่องนี้มันเป็นเพราะเธอ
 
 
เธอที่เห็นแก่ตัวเกินไป...
 
 
“กลับกันเถอะค่ะ วันนี้ข่าวว่าพายุจะเข้า ขับรถอันตรายนะคะ”เธอเอ่ยขึ้นเมื่อสังเกตว่าท้องฟ้าเริ่มครึ้มขึ้นกว่าเดิม
 
 
เมฆที่เคยสดใส บัดนี้กลับแปรเป็นเมฆฝนสีทมิฬน่ากลัว สายฟ้าและเสียงฟ้าร้องดังกัมปนาทกำลังบ่งบอกว่าอีกไม่กี่
 
 
นาทีข้างหน้านี้สายฝนกำลังจะทิ้งตัวลงมา
 
 
“อยากกลับก็กลับไปสิ” ชายหนุ่มตอบเธอขณะที่ยังไม่ละสายตาไปจากเมรุที่ร่างของพิมอยู่ในนั้น ถึงแม้ว่าตอนนี้
 
 
พิมจะไม่มีตัวตนแล้ว แต่เธอเชื่อว่าความรักของพิมและชายหนุ่มยังคงมีตัวตนอยู่...ความรักที่แม้แต่ความตายก็ยัง
 
 
 
ไม่สามารถพรากพวกเขาออกจากกันได้...แล้วนับประสาอะไรกับเธอ
 
 
 
 
 
 
 
                 ร่างเล็กของหญิงสาวยังนั่งเคียงคู่กับร่างสูงแกร่งของชายหนุ่มไม่ห่างกาย เสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าทำ
 
 
เอาร่างเล็กสะดุ้งโหยงเป็นครั้งคราว สายตาแลบที่พาดลงมาบนผืนฟ้ามืดสนิททำเอาเธอหลับตาแน่นอย่างหวาด
 
 
กลัว มือเล็กกำเข้าหากันอย่างให้กำลังใจตัวเอง ใจหนึ่งเธอก็อยากกลับ แต่อีกใจเธอก็เป็นห่วงเขา กลัวว่าหากเขา
 
 
อยู่ที่นี่คนเดียว แล้วอยู่ๆเกิดอารมณ์เปลี่ยวขึ้นมาทำอะไรสิ้นคิดแล้วคนที่จะต้องเสียใจก็คือคนรอบตัว...เธอไม่ได้
 
 
มองโลกในแง่ร้ายหรอกนะ แต่อารมณ์แบบนี้ ใครก็ไม่มีสติมากพอ หากเธอเป็นอย่างเขา เธออาจจะทำอย่างที่เขา
 
 
อยากทำตอนนี้ก็ได้ เธอทนไม่ได้หากต้องมองเขาจากไปต่อหน้าต่อตา...อย่างที่เขากำลังพบพาน
 
 
“พี่ป๊อปรอฟางด้วย”เมื่อเธอเพิ่งรู้ตัวว่าตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองนานเกินไป จนเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเขาก็
 
 
หายไปแล้ว เธอพยายามซอยเท้าวิ่งตามเขาไป แต่ทำไมยิ่งวิ่งตามเขาก็เหมือนยิ่งห่างออกไป...เขาวิ่งหนีเธอ
 
 
“อย่าวิ่งหนีเค้านะ”เธอตะโกนเสียงดังแข่งกับเสียงฟ้าฝน แต่เสียงเธอมันไม่ดังพอหรือไรเขาถึงยังวิ่งหนีเธอ นี่อย่า
 
 
บอกนะว่าเขาคิดจะแก้แค้นเธอด้วยวิธีนี้...บ้าไปแล้ว เธอพยายามวิ่งตามเขาไปหากแต่เท้าเจ้ากรรมกลับสะดุดเข้า
 
 
กับก้อนหินก้อนใหญ่ เธอไม่ทันตั้งตัวทำให้ล้มลงกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้ แผลที่หัวเข่าเริ่มเจ็บขึ้นมาอีกครั้ง สายฝน
 
 
ที่กระหน่ำตกลงมาเป็นเหมือนเข็มแหลมๆนับพันเล่มทิ่มแทงลงบนแผลถลอกบนหัวเข่า ที่ตอนนี้คงจะใหญ่ขึ้นกว่า
 
 
เดิมเป็นเท่าตัว
 
 
“ยัยบ้าเอ้ย ฮือ เจ็บชะมัด”เธอสบถด่าตัวเองอย่างคนบ้าเมื่อเปิดแผลออกกลับพบว่าแผลที่เริ่มตกสะเก็ดเมื่อวาน
 
 
ตอนนี้กลับแตกออกจากกันพร้อมๆกับเลือดที่ไหลออกมาอย่างมากมาย...หัวเข่าแตก เธอมองแผลเจ้าปัญหาที่เริ่ม
 
 
ทวีความเจ็บขึ้นเรื่อยๆ สายตากวาดมองที่ร่มพอให้ตัวเองให้หยุดรอจนกว่าฝนจะหยุดตก แต่ปัญหาใหญ่ไม่ได้อยู่ที่
 
 
หัวเข่าแตกอย่างเดียวหรอก แต่มันอยู่ที่เธอไม่มีรถกลับบ้าน ไม่มีโทรศัพท์มือถือ เพราะตอนนี้เครื่องมันคงพังไป
 
 
แล้วจากสายฝนที่เธอเพิ่งวิ่งฝ่ามา มือเล็กเช็ดน้ำฝนออกจากใบหน้า
 
 
 
 
 
เปรี้ยง!!!!!
 
 
         มือเล็กยกขึ้นอุดหูพร้อมกับหลับตาแน่น เมื่อสายฟ้าฟาดลงผ่าต้นตาลที่ห่างเธอไปไม่ถึงสองร้อยเมตร
 
 
น้ำตาแห่งความหวาดกลัวไหลรินลงมาอย่างเสียไม่ได้ เมื่อกี้เธอเพิ่งรอดพ้นจากการถูกย่างสดไปสดๆร้อนๆ มือเล็ก
 
 
ลูบแขนไป-มาอย่างสยดสยอง
 
 
“ฮือๆ ฮึก ฮือ”เสียงสะอ้นยังดังออกมาอย่างไม่ขาดสาย เธอค่อยๆกระถดตัวไปหลบศาลาที่อยู่บริเวณทางออกของ
 
 
สถานฌาปนกิจ เสียงสายฝนกระทบกับหลังคาสังกะสีของศาลายิ่งทำให้เธอหวาดกลัวกว่าเดิม แถมนี่ก็ใกล้จะมืด
 
 
อยู่แล้ว เขาใจร้ายมาก ทำไมต้องทิ้งเธอไว้ที่นี่ด้วย รู้ทั้งรู้ว่าเธอกลัวผี
 
 
“คนใจร้าย ฮือๆ ฮึก”ปากก็พร่ำต่อว่าชายหนุ่มที่ทิ้งเธอไว้ที่นี่ มือเล็กก็ใช้ชายกระโปรงเช็ดเลือดที่ไหลออกมา
 
 
อย่างไม่ยอมหยุด ทำไมต้องเป็นที่หัวเข่า หากเป็นที่อื่นเธอจะไม่ทรมานเท่านี้เลย แผลแตกตรงนี้ก็ไม่ต่างจากการ
 
 
ตัดขาไปสักเท่าไหร่หรอก...เจ็บจะแย่อยู่แล้ว อยากไปจากตรงนี้ แต่ก็ไปไม่ได้...
 
 
“คุณพ่อคุณแม่ช่วยฟางด้วย ฮือๆ ฟางกลัว ฮือ” สายตาตื่นตะหนกมองไปรอบๆตัวอย่างหวาดกลัว
 
 
สายฝนยังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสายและไม่มีท่าทีจะหยุดตกเสียที แสงรอบๆตัวที่เคยมีกลับจางหายลงไป
 
 
เรื่อยๆยิ่งดวงอาทิตย์ที่เคยส่องแสงสว่างกลับถูกเมฆฝนบดบังทำให้ทุกสรรพสิ่งรอบตัวดับแสงตามลงไปด้วย
 
 
เธอไม่อยากอยู่ที่นี่นะ...
 
 
เธอหันรีหันขวางมองหาทางที่พอออกจากที่นี่ไปได้ เธอที่นี่มันป่าช้านะรถที่ไหนจะผ่าน...
 
 
“ฮือๆๆๆ”เธอร้องไห้ฟูมฟายเมื่อทำอะไรไม่ได้ มือเล็กทุบตีแผลแตกที่หัวเข่าอย่างโมโหร้าย เธอไม่สนหรอกว่ามัน
 
 
จะเจ็บมากแค่ไหน แต่มันเป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องลำบาก ไปจากที่นี่ไม่ได้อย่างที่ต้องการ...
 
 
 
 
 
 
 
 
 
...............................................................................................................................
มาแล้วตอนที่หนึ่ง อีกตอนรอสองทุ่มครึ่งนะ ไม่ดึกไปใช่มั้ย
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา