HURT รักหลอกลวง...

9.5

วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 17.36 น.

  39 ตอน
  215 วิจารณ์
  97.97K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 17.15 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

33)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

HURT รักหลอกลวง...

 

ตอนที่33

 

 

 

 

 

                  ทนายความประจำตระกูลจิระคุณถูกเรียกตัวเข้ามาพบในตอนคล้อยบ่ายของวันเดียวกัน ชายหนุ่ม

 

และหญิงสาวนั่งพับเพียบต่อหน้าคุณพริ้มเพราอย่างสำรวม คนอาบน้ำร้อนมาก่อนเอ่ยเกริ่นนำเมื่อในอีกไม่กี่นาที

 

ข้างหน้านี้เป็นฤกษ์ดีและในเวลาเดียวกันก็จะเป็นเวลาที่ชาย-หญิงคู่นี้จะมีหัวใจ ลมหายใจ และชีวิตร่วมกัน

 

 

 

                  “การแต่งงานถือเป็นเรื่องสำคัญของคนสองคน หากพื้นฐานไม่ได้ปูด้วยความรักของทั้งสองก็ยากที่

 

จะไปได้สวย ชีวิตคู่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด หากแต่เป็นจุดเริ่มต้น ต่อจากนี้ไปให้จำไว้ว่าหลานทั้งสองไม่ได้ตัวคนเดียว

 

จะคิด จะพูด จะกระทำอะไรก็ควรจะคิดถึงคู่ชีวิตของเราด้วย หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน อย่าลืมว่าตอนนี้เรา

 

สองคนมีโซ่ทองคล้องใจแล้ว...ทำอะไรให้นึกถึงลูกมากๆ”

 

 

 

                “ครับ/ค่ะ”

 

                คุณพริ้มเพรารับไหว้หลานทั้งสอง ก่อนนายประพลทนายเก่าแก่ประจำตระกูลจะยื่นทะเบียนสมรส

 

และปากกาให้ทั้งสอง สายตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย กังวลว่าเธอจะคลางแคลงใจ ไม่สบายใจ และคิดไป

 

ว่าเขาไม่ให้เกียรติเธอ หากแต่สายตาหวานก็ส่งคำตอบมาในแบบเดิมๆ แบบที่เธอกำลังใช้สายตาบอกเขาว่าเธอไม่

 

ได้คลางแคลงใจ ละยินดีที่จะเป็นของเขา แค่คิดหัวใจแกร่งดั่งหินผาก็พองโต มือใหญ่จรดปากกาลงบนกระดาษ

 

แผ่นบางอย่างไม่รั้งรอ ก่อนจะเลื่อนให้เจ้าสาวหมาดๆที่ควบตำแหน่งแม่ของลูกไปเรียบร้อยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

 

มือเล็กหยิบปากกาขึ้นมาก่อนจะจรดลงบนแผ่นกระดาษทั้งสองใบ

 

 

 

                “ยินดีด้วยนะครับคุณภาณุ คุณธนันต์ธรญ์ รักกันนานๆนะครับ นายน้อยของผมจะได้มีความสุข”

 

               ใบหน้าแสนหวานร้อนผ่าวๆเมื่อชายหนุ่มตอบรับอย่างอารมณ์ดี เธอนั่งพูดคุยกับคุณพริ้มเพราและ

 

คุณประพลอยู่เป็นเวลานานพอสมควร ก่อนแขกจะขอตัวกลับ

 

 

 

 

 

                 ลำแขนโอบกอดรอบเอวบางของหญิงสาวก่อนจะลดใบหน้าลงสูดดมความหอมจากแก้มนวลอย่าง

 

ห้ามใจไม่อยู่ มือหนาซุกซนเลื่อนขึ้นบีบเคล้นทรวงอกอวบอิ่มซึ่งยังผลมาจากเจ้าตัวเล็กในครรภ์อย่างหลงใหล

 

 

 

                “คุณภาณุ อย่าค่ะ...ฟาง ฟางท้องอยู่นะคะ”

 

 

 

               “ท้องแล้วยังไงฮึ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ ไม่ฟังคำทัดทานของหญิงสาวและฉกริมฝีปากลงปิด

 

เรียวปากอิ่มอย่างหวานล้ำ ไล่เกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กที่ไม่ประสีประสาอย่างไม่รู้เบื่อ ก่อนจะถอนจูบและเอ่ยกระเซ้า

 

ภรรยาสาว

 

 

 

                 “กี่ปีแล้ว ยังจูบไม่เป็นอีก”

 

 

 

                  “ก็...คุณไม่เคยจูบดีๆ ฟางไม่รู้...”

 

                  แววตาใสซื่อบวกเข้ากับน้ำเสียงสั่นๆของผู้หญิงที่อวดดีและอวดเก่งมาโดยตลอดทำให้หัวใจเขา

 

พองโตและนึกเอ็นดูภรรยาสาวอย่างเสียมิได้ เมื่อเขากำลังมีอิทธิพลเหนือร่างกายและไม่รู้ว่าจะรวมไปถึงหัวใจของ

 

เธอหรือไม่ แต่ที่แน่ๆคือเขามี

 

 

 

               “งั้นฟางพร้อมจะเรียนรู้รึยังครับ”

 

                เขาก้มลงมองดวงหน้าหวานที่ก้มลงต่ำ หากแต่เจ้าตัวก็ยังสะบัดหน้าอย่างแรงจนผมนุ่มสลวยฟุ้ง

 

ยุ่งเหยิง เขาหัวเราะเบาๆ มีคนบอกว่าฮอร์โมนของคนท้องจะเปลี่ยนไปจากเดิม คนอื่นอาจจะโกรธเกี้ยวหรือโมโห

 

มากขึ้นกว่าเดิม แต่สำหรับเขาถือว่าจัดอยู่ในกลุ่มผู้โชคดี เมื่อผู้หญิงที่แข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวราวกับนางพญา

 

เปลี่ยนเป็นลูกแมวตัวน้อยๆขี้อ้อน หากบางทีอารมณ์ก็อ่อนไหวเหลือเกินและต้องการคนดูแลเอาใจใส่อย่างมากถึง

 

มากที่สุด แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เมื่อเขานั้นแสนจะเต็มใจ...

 

 

 

               “แหม ถ้าท้องแล้วน่ารักอย่างนี้ ให้ผมมีลูกสักสองโหลยังไหวเลยนะ” เขากระเซ้าคนตัวเล็ก และได้

ผลเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะส่งค้อนขวับๆ

 

 

 

                “ลูกคนนะคะ ถ้ามีเยอะขนาดนั้น ฉันคงกลายร่างเป็นยายเผิ้งรวมร่างกับผีเสื้อสมุทรแน่ๆ”

 

                ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะกอดรัดร่างเล็กและกดศีรษะสวยลงแนบอกและหลับตาลงอย่างสุขใจ

 

ไม่คิดว่าเขาจะมีวันนี้ ชีวิตผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องแต่งงานและคิดว่าผู้หญิงทุกคนล้วนเห็นแก่เงิน ไม่มีใคร

 

ที่มองข้ามสมบัติพัสถานของเขาสักคน ผู้หญิงพวกนั้นผ่านมาและผ่านไป ไม่ออดอ้อนเอาของมีค่าราคาแพง ก็ฝัน

 

สูงอยากเป็นสะใภ้จิระคุณ ทั้งๆที่พวกเธอไม่มีคุณสมบัติพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ...หากแต่ฟางเป็นผู้หญิงที่เปลี่ยนชีวิตที่

 

เงียบเหงาของเขาให้เปลี่ยนไป ผู้หญิงตัวเล็กๆดูบอบบางน่าทะนุถนอมในสายตาของใครต่อใคร หากแท้จริงแล้ว

 

เธอแข็งแกร่งยิ่งกว่าหินผา หัวใจดวงน้อยไม่เคยย่อท้อไม่ว่า ณ ตอนนั้นเธอกำลังรู้สึกแย่อย่างไรก็ตาม

 

เธอเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขาแปลกใจอยู่ตลอดเวลา...

 

 

 

                “คุณภาณุ...ฟางหายใจไม่ออก”

 

                ร่างเล็กดิ้นขลุกขลักภายใต้อ้อมกอดของชายหนุ่ม ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองใบหน้าหล่อคม

 

เมื่อเขายังดูเหม่อลอยราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ เธอลูบแขนของเขาเบาๆเพื่อเรียกเขาอีกหน ชายหนุ่ม

 

ก้มลงมองหน้าเธอ ก่อนจะอุทานที่เผลอตัวกอดเธอแน่นเกินไป เธอถูกปล่อยให้เป็นอิสระจากอ้อมแขนแกร่ง ชาย

 

หนุ่มจูงมือร่างเล็กให้นั่งลงบนเตียงก่อนจะจับมือบางไว้

 

 

 

                  “มีสิ่งหนึ่งที่ติดตัวผมมาตั้งแต่เกิด คุณย่าให้ผมไว้ บอกว่าเป็นแหวนแต่งงานของคุณปู่และคุณย่า

 

ท่านตั้งใจจะให้เป็นแหวนหมั้นของคุณพ่อที่ใช้หมั้นคุณแม่ของผม แต่คุณแม่ท่านไม่รับ”

 

                  “ทำไมล่ะคะ”เธอเอ่ยถามขึ้นอย่างเสียมิได้ เมื่อใบหน้าหล่อคมสลดวูบ ก่อนรอยยิ้มขมๆจะถูกแต้ม

 

ลงบนมุมปากของชายหนุ่ม

 

 

 

                 “เพราะมันเป็นเพียงแหวนเงินเรียบๆ ไม่มีเพชรสักกะเม็ดเดียว”

 

                  น้ำเสียงเข้มเอ่ยขึ้น ก่อนจะคลี่ยิ้มให้กับเธอ ดวงตาคมส่งแววตาที่เธอมองแวบเดียวก็รู้ว่าเขา

 

ต้องการจะถามว่าอะไร และเธอก็รู้ว่าเธอสมควรจะตอบว่าอะไรดี เพื่อรดน้ำให้กับต้นรักที่กำลังเบ่งบานภายในหัวใจ

 

ของเขาและเธอ

 

 

 

                  “ฉันไม่เคยรังเกียจ ต่อให้แหวนวงนั้นจะไม่มีราคาเลยก็ตาม ฉันยินดีจะสวมมันไว้จนกว่าฉันจะตาย

 

ไปจากคุณ เพราะมันคือแหวนของคนที่ฉันรักค่ะ”

 

 

 

                “ผมดีใจ...ผมก็รักคุณที่รัก”

 

                เป็นหญิงสาวที่โผเข้ากอดร่างหนาแกร่งของชายหนุ่ม เธอสะอื้นฮักกับอกแกร่งอย่างที่เจ้าตัวก็ยังงงว่า

 

มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือ ถึงต้องอ่อนไหวมากมายถึงเพียงนี้...อาจจะเป็นเพราะลูกน้อยในท้องก็เป็นได้  

 

 

 

               “พอแล้ว ร้องไห้เยอะเดี๋ยวลูกเราจะออกมาไม่สวยไม่หล่อกันพอดี”

 

               ชายหนุ่มเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าแสนหวาน ก่อนจะถอดแหวนเงินจาก

 

นิ้วก้อยข้างซ้าย และสวมมันลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของหญิงคนรัก

 

 

 

              “ดูแลหัวใจผมด้วยนะครับ”

 

               ชายหนุ่มพูดจาออดอ้อน ก่อนจะซบลงบนเนินอกของหญิงสาวราวกับแมวน้อยขี้อ้อน หากแต่ใน

 

สายตาของหญิงสาวเห็นจะเป็นราชสีห์ตัวใหญ่โตน่าเกรงขามที่ริอ่านจะทำตัวเป็นแมวน้อยแสนเชื่องมากกว่า ดูยัง

 

ไงก็ดูไม่จืด

 

 

 

               “พอเถอะค่ะ ฉันขนลุกไปหมดแล้ว”

 

                 หญิงสาวพูดเสียงสั่นๆ แก้มแดงระเรื่อเมื่อชายหนุ่มช้อนตาขึ้นมองสายตาหวานฉ่ำจนคนถูกมอง

 

สะท้านอาย ใช้มือดันใบหน้าของเขาออกห่างด้วยความขัดเขิน

 

 

 

                “งั้นให้ผมกอดปลอบขวัญคุณนะ”

 

 

 

                 “อย่าค่ะ”

 

                 มือเล็กดันอกกว้างไว้แน่นไม่ยอมให้เขาได้กอดเธออย่างที่ต้องการ เพราะถ้าเขากอดแล้ว ก็คงไม่

 

หยุดแค่ที่กอดแน่ เธอก้าวเท้าเร็วๆไปที่ห้องน้ำ ก่อนจะเข้าไปทำธุระส่วนตัว หัวใจเบ่งบานเมื่อทุกอย่างดูจะลงตัว

 

ชีวิตต่อจากนี้ก็เธอจะมีความสุขเสียที...แต่ แม่กับเฟย์ล่ะ หากทั้งสองรู้เรื่องนี้ เขาจะคิดอย่างไร?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา