LOVE PAIN.. รักนี้โหดร้าย
เขียนโดย yingyoy
วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 17.10 น.
แก้ไขเมื่อ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 22.43 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
22)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความภายในบ้านพัก บนโต๊ะอาหารร่างบางเริ่มหยิบช้อนและตักชิมอาหารที่เขาทำโดยมีชายหนุ่มนั่งลุ้นอยู่ข้างๆ เธอ
ตักอาหารเข้าปากก่อนจะแสดงสีหน้าเรียบเฉยทำให้ป๊อปปี้แปลกใจ
“อร่อยมั้ย?”
“ก็พอกินได้” เธอตอบแล้วกินต่อไป ชายหนุ่มมองดูเธออย่างหมั่นไส้ก่อนจะเริ่มทานส่วนของตัวเองบ้าง
ภายในโต๊ะอาหารไม่มีเสียงพูดคุยใดๆเกิดขึ้น หญิงสาวเมื่อกินเสร็จก็ลุกออกไปซะเฉยๆ ป๊อปปี้หันมองร่างบางที่
เดินออกไปนั่งบนโซฟาเปิดทีวีอย่างสบายใจเฉิบ เขานึกหมั่นไส้นิดๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร และเก็บจานทั้งหมดมา
ล้าง เขามัวแต่เหม่อลอยมือที่มีแต่ฟองจึงเกิดพลาดทำจานตกแตก
เพล้งง!!!
ฟางที่ได้ยินเสียงก็ตกใจหันมาทางห้องครัวทันที ป๊อปปี้ที่เหมือนจะตื่นจากภวังค์และหัวเสียนิดๆก่อนจะก้มลง
เก็บแต่ด้วยความที่ไม่ทันได้ระวังทำให้โดนบาด
“โอ้ยยย!!”
“ป๊อปเป็นอะไรหน่ะ!!” ฟางที่วิ่งมายังห้องครัวก็ถามขึ้น เขาไม่ได้ตอบอะไรแต่ก็พยายามเก็บเศษจานต่อ
“นี่จะทำอีกทำไม เป็นแผลขนาดนี้” ฟางนั่งลงพร้อมเลื่อนมือไปจับมือเขาอย่างเป็นห่วง
“แผลลึกจัง เจ็บมากมั้ย” เธอถามเขาอย่างเป็นห่วงแต่เมื่อเงยหน้ามามองคนบาดเจ็บ เธอจึงปรับสีหน้าเป็น
หงุดหงิดทันที
“ยิ้มอะไร?”
“ใครยิ้ม ไม่มีนี่”
“ก็เห็นอยู่เมื่อกี้ แล้วเนี่ยทำยังไงถึงจานแตกเนี่ยแล้วยังจะโดนบาดอีก”
“ใครจะไปรู้เล่า แล้วจะถามอีกนานมั้ย เจ็บนะ”
“มานี่สิ” ฟางเดินนำเขามาที่ห้องนั่งเล่น เขาเดินไปนั่งที่โซฟาและมองฟางที่เดินหาของบางอย่าง
“มีกล่องปฐมพยาบาลมั้ย” เธฮถามเขาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ ป๊อปปี้ยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะชี้ไปที่ลิ้นชัก
ตรงมุมบ้าน
“อะ ทำแผลซะ” ฟางพูดแล้วยื่นกล่องปฐมพยาบาลให้
“นี่คนโดนจานบาดนิ้วเกือบขาดจะให้ทำแผลเองได้ไง ผู้หญิงอะไรใจร้ายชะมัด” ป๊อปปี้พูดพรางทำหน้าน้อยใจ
“แล้วไงอ่า”
“ป๊อปเจ็บแผลจะตายอยู่แล้ววว ทำเองไม่ได้หรอก ฟางทำให้ป๊อปหน่อยสิ”
“ทำไมฟางจะต้องทำให้ด้วย ไม่มีทาง”
“หรือว่าฟางจะให้แผลนี่มันเน่าก็ได้นะ คราวนี้ป๊อปก็จะขับรถไม่ได้ ล้างจานก็ไม่ได้ ทำอาหารก็ไม่ได้ ที่สำคัญ
อาบน้ำก็ไม่ได้ คราวนี้หล่ะฟางก็จะต้องเป็นคนทำแทนทั้งหมดแทน เอ๊ะอย่างนั้นก็ดีนะ” ป๊อปปี้พูดพร้อมทำ
หน้าเจ้าเล่ห์
“นี่น้อยๆหน่อย แค่จานบาด ไม่ได้แขนขาดซะหน่อย เอามือมาสิ” เมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็ยิ้มกริ่มทันที แวว
ตาหวานเริ่มสับสนกับคนตรงหน้าและก็เริ่มทำแผลให้เขาอย่างระมัดระวัง ระหว่างทำแผลป๊อปปี้มองหน้าเธอและ
ยิ้มหวานตลอดเวลา
“จะมองอีกนานมั้ย” เธอถามขึ้นแต่มือเล็กก็ยังทำแผลให้เขาเรื่อยๆ
“มองจนกว่าคนใจแข็งจะยอมใจอ่อนซักที ” เขาโน้มหน้ามาพูดข้างหูเธอก่อนจะยิ้มหวานให้เธออีกครั้ง ฟางที่
ได้ยินเช่นนั้นก็กดมือตัวเองลงบนแผลของเขาอย่างหมั่นไส้
“โอ้ยยยย ฟางจะฆ่าป๊อปรึไง”
“สมน้ำหน้า อยู่นิ่งๆหน่อยสิ มัวพูดเพ้อเจ้ออะไรก็ไม่รู้ ไม่งั้นทำเสร็จไปนานแล้วว”
“ขอบใจนะ” ป๊อปปี้พูดเมื่อเธฮทำแผลให้เขาเสร็จ
“ไม่ต้องขอบใจหรอก ก็แค่กลัวไม่ได้กลับ แล้วจะกลับได้ยังเนี่ย”
“ขอพักก่อนได้ไหม ไม่ต้องห่วงหรอกยังไงฟางก็ได้ไปหาคนรักของฟางอยู่แล้ว” เขาพูดแล้วลุกขึ้นเดินออกมา
ตรงไปยังห้องครัวและมองดูจานที่แตกด้วยความเศร้า
‘จานที่แตกใบนั้นก็คงเหมือนเรื่องระหว่างเราที่ไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วใช่มั้ย?’
ฟางมองตามแผ่นหลังที่เดินเข้าห้องครัวไปก่อนจะเก็บอุปกรณ์ทำแผล
‘เสียงหัวใจยังคงดังอยู่เสมอ และมันเต้นรัวเร็วทุกครั้งที่อยู่ใกล้เค้า แต่สิ่งที่เราควรทำตอนนี้ก็ควรจะเป็นการที่
หลุดออกมาจากวังวนของเขาสินะ’
ภายในรถ
เขาขับรถมาโดยไม่พูดอะไรซักคำ ฟางเองก็มองไปนอกหน้าต่างไม่หันมาทางเขาอีกเลย
การเดินทางอันยาวนานทำให้ร่างบางเผลอหลับไป จนรถเคลื่อตัวเข้ามาจอดที่หน้าหอ เขายังคงไม่ลงจากรถ
เขามองร่างาที่หลับไปอยู่นานก่อนจะปัดผมให้เธออย่างอ่อนโยน
“ฉันทำร้ายเธอลงไปได้ยังไงกันนะฟาง ฟางคงเกลียดป๊อปแล้วจริงๆ ป๊อปอยากจะดูแลฟางจริงๆนะ ฟางจะ
ยอมให้ป๊อปแก้ไขสิ่งที่ป๊อปทำผิดพลาดไปแล้วได้รึป่าว” สายตาคมมองเธอด้วยสายตาที่เศร้าและรู้สึกผิด เขา
มองเธออยู่นาน จนร่างบางเริ่มรู้สึกตัว
“ถึงแล้วหรอ” ฟางที่ตื่นขึ้นมาก็เห็นเขาจ้องเธอ จึงถามกลบเกลื่อน
“อื้ม ไปกันเถอะ” ป๊อปปี้พูดแล้วลงไปเปิดประตูลงไปเอาของหลังรถแล้วเดินนำเข้าบ้านไป
“อะไรของเค้านะ”
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ฟางนั่งทบทวนบทเรียนกับเพื่อนๆในกลุ่มของเธอที่โต๊ะประจำ
“เฮ้อออ….วิทย์ๆๆทำไมมันยากอย่างนี้เนี่ย” แก้วบ่นด้วยใบหน้าเหมือนจะร้องไห้หลังจากที่นั่งติวกันมาจะเป็น
ชั่วโมงแล้ว
“เอาน่า จะให้มันง่ายเหมือน 1+1 ได้ไงเล่า มาดูนี่ต่อ ห้ามบ่น” ขนมจีนพูดขึ้น แล้วทำท่าจะติวต่อ
“พักก่อนก็ได้นะจีน เราก็ติวกันมานานแล้วนะ” หวายที่เห็นท่าทางแก้ว และเฟย์เหมือนจะไม่ไหวเลยพูดขึ้น
“ก็ได้ๆ”
“เย้ๆ กินขนมแก้เครียดดีกว่า” เฟย์พูดขึ้นพร้อมกินขนมอย่างเอร็ดอร่อย
กรี๊ดดดดดดๆๆ เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น ผู้คนต่างพากันกรูวิ่งไปยังสนามบาส
“มีอะไรกันอ่า ไปดูกันเถอะ ” เฟย์ลุกพรวดขึ้น พร้อมชวนทุกคนไปดูอย่างอยากรู้อยากเห็น
เมื่อเธอเดินมาถึงสนามบาส ม ผู้คนมากมายยืนดูล้อมรอบกันอยู่ข้างสนาม ภายในสนามมีนักเรียนอยู่สองกลุ่มที่
ยืนประจันหน้ากัน
“นั่นมันป๊อปปี้ กับ พิชชี่ นี่ฟาง” แก้วที่เห็นก็พูดขึ้น
“ถ้าเรื่องบาสหล่ะก็ฉันไม่แพ้นายหรอกนะป๊อป คิดยังไงถึงรับคำท้าฉัน ” พิชชี่ถามด้วยหน้าตาที่เหนือกว่า
เพราะเขาเป็นถึงนักกีฬาของโรงเรียน ป๊อปปี้ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเขามองหน้าพิชชี่นิ่งๆ ก่อนจะหันหา
กรรมการให้เริ่มเกมส์ทันที
“โวยวายไปได้ แสดงให้ดูหน่อยสิ เก่งนักนี่” ป๊อปปี้พูดแล้วกระโดดปัดบาสทันทีที่กรรมการจัมพ์ลูกบาสขึ้น
เขาปัดส่งไปให้เขื่อนก่อนที่เขาจะฝ่าฝั่งตรงข้าม และชู้ตลงห่วงไปอย่างสวยงาม
“มัวโอ้เอ้อะไรอยู่ล่ะ เก่งไม่ใช่รึไง” ป๊อปปี้พูดแล้วทำหน้าเยาะเย้ยฝั่งตรงข้าม ทำให้พิชชี่เริ่มหงุดหงิดและ
จริงจังกับเกมส์นี้ทันที เกมส์นี้ดำเนินไปเรื่อยๆ โดยที่มีเสียงเชียร์ของผู้คนรอบๆสนามที่ให้ความสนใจอยูไม่
ขาดสาย เหลือก็แต่เพียงแต่ฟางที่มองดูพวกเขาด้วยความไม่เข้าใจ
‘ทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร ทั้งสองคนทำไปเพื่ออะไร มันมีประโยชน์อะไรขึ้นมาหล่ะ’
เธอหันหลังจะเดินกลับ แต่ก็ต้องหันกลับมาเมื่อมีเสียงโห่ของผู้คนที่เชียร์อยู่รอบๆ
ป๊อปปี้ที่ถูกกระแทกร่างเขาล้มลงไปทันที แต่เขากุกขึ้นและเล่นต่ออีกครั้ง ดูเหมือนเกมส์นี้จะหนักขึ้นเรื่อยๆ
กรรมการก็ไม่ได้เป่าอะไรเลย ยังคงปล่อยให้เกมส์ดุเดือดนี้ดำเนินต่อไป จนป๊อปปี้ถูกกระแทกลงไปอีกครั้งแต่
ครั้งนี้เมื่อเขาลุกขึ้นกลับซุดลงไปอีกครั้ง ทำให้ฟางวิ่งพรวดพราดออกไปที่สนาม
“พอได้แล้ว เลิกเล่นซะที!!!” ฟางตะโกนห้ามอย่างเสียงดัง
“พวกนายคิดจะทำอะไร จะเอาให้ตายกันไปข้างนึงเลนรึไง”
“ก็แค่แข่งบาส ฟางไปรอดูเฉยๆเถอะนะ” พิชชี่พูดแล้วเดินมาหาเธอ
“ไม่ พอได้แล้วดูสิป๊อปเป็นขนาดนี้แล้วยังจะเลานกันอยู่อีกหรอ”
“ฟาง มันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง อย่าห่วงไปเลยนะ” เควิน เพื่อนของพิชชี่พยายามอธิบายให้เธอเข้าใจ
“แต่พวกนายเล่นกันแรงไปรึป่าว อีกอย่างกลุ่มพิชมีหก กลุ่มป๊อปมีห้า เล่นรุมกันขนาดนั้น มันไม่เกินไปหน่อย
หรอ”
“ก็รับคำท้าเอง ช่วยไม่ได้”จีโฮพูดอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะมองไปยังป๊อปปี้ที่นั่งอยู่ที่พื้น
“ไม่เป็นไรหรอก ฟางออกไปเถอะ ป๊อปรับคำท้าแล้วยังไงก็ต้องเล่นให้จบ” ป๊อปปี้พูดขึ้นก่อนจะเดินกระเพกมา
หาร่างบาง
“เลิกพูดเถอะ ไหนว่าจะทำตามที่ฟางบอกไง มานี่ !!” ฟางพูดแล้วดึงป๊อปปี้ออกมาจากสนามทันที
“โอ้ยยย ดึงเบาๆสิ เจ็บนะ” ป๊อปปี้โวยวายออกมาแต่ก็เดินตามฟางออกมาอย่างโดยดี
“คราวนี้คงได้ยินอะไรเจ๋งๆแล้วสินะ สองคนนั้นต้องมีอะไรกันแน่ๆเนอะ ฟางออกจะเป็นห่วงไอ้ป๊อปซะออกนอก
หน้าขนาดนั้น” เขื่อนพูดเยาะเย้ยพิชชี่ทันที
“นั่นสิ ป๊อปปี้ผู้ไม่เคยยอมใคร แต่ยอมฟางขนาดนั้นก็น่าสงสัย” โทโมะเห็นพิชชี่เริ่มหงุดหงิด ก็เสริมทันที
พิชชี่หันมองคำซุบซิบรอบๆสนามที่มองมายังเขา ก่อนจะเดินออกไปจากสนามด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย
‘นี่คงเป็นคำตอบของฟางสินะ… ’
==========================================================
เย้!!! มาอัพเเล้วน้าาาาา อิอิ ขอเม้นหน่อยน้าาาาา ถ้าพุ่งนี้ว่างจะมาอัพให้อีก
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ