เอล คนทะลุมิติ chapter 1
-
เขียนโดย pong43
วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.34 น.
48 ตอน
0 วิจารณ์
56.22K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 20.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
46) เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 46 ลีโอหรือ...
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความลีโอหรือ...
บ่ายโมงครึ่ง
เอลเดินทางมายังเรือนจำกลางเพื่อพบกับลีโอ บัสโซ่ตามคำเชิญ
นั่นเป็นสิทธิพิเศษหนึ่งเดียวที่ทางเรือนจำอนุญาตให้นักโทษสามารถร้องขอได้ก่อนการประหารชีวิตหนึ่งวัน เอลแปลกใจมากว่าทำไมลีโอกลับเลือกที่จะพบเขาในวันสุดท้ายเช่นนี้
เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก คิดว่าลีโอต้องการอะไรหรือ ทำไมเขาไม่เลือกที่จะพบญาติพี่น้อง
รายงานของเราสำเร็จแล้ว...
เขารู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้ทิ้งรายงานไปก่อนหน้านี้
“นายเป็นอะไรกับเจ้านั่นหรือ”
เจ้าหน้าที่เรือนจำพูดขึ้นขณะที่ใช้สายตาสำรวจเอลตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ผมเป็นแฟนนิยายของเขาครับไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวครับ”
“แปลก เจ้านั่นอยากพบนายทำไมกันไม่ใช่ญาติเสียหน่อย..” เจ้าหน้าที่แปลกใจ “ระยะนี้เจ้านั่นดูเพี้ยนๆยังไงพิกล จำได้ว่าตั้งแต่วันที่เจ้าหนุ่มหน้าอ่อนคนนั้นมาเยี่ยม เจ้านั่นก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย”
“เปลี่ยนยังไงหรือครับ”
“เปลี่ยนจากซึมๆเป็นร่าเริงหัวเราะทั้งวัน ทั้งที่ใกล้ตายอยู่แล้ว”
ตั้งแต่เจ้าหนุ่มหน้าอ่อนมาเยี่ยมลีโอ ลีโอก็เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน ...
ใครกันเจ้าหนุ่มหน้าอ่อน..
เขาจึงตัดสินใจโพล่งถามเจ้าหน้าที่คนนั้น
“ขอโทษครับ หนุ่มหน้าอ่อนคนที่มาเยี่ยมคนนั้นชื่ออะไรครับ”
เจ้าหน้าที่ไม่ว่าอะไรเปิดสมุดเยี่ยมย้อนหลังก็พบชื่อ
“เจ้านั่นอายุมากกว่านายหลายปีนะ เห็นบอกว่าทำงานที่หอสมุด..ชื่อนาห์ม”
“นาห์ม..” เอลพึมพำชื่อนั้น “ทำงานหอสมุด..”
คุ้นๆ นะชื่อนี้...เราก็ไปหอสมุดอยู่บ่อยๆ...
“ตามฉันมา” เจ้าหน้าที่เรียกด้วยเสียงอันดังเพราะเห็นเขาเหม่อลอย เขาจึงรีบเดินตามไป
ทั้งคู่เดินไปถึงประตูเหล็กซึ่งเป็นทางเข้าแดนเยี่ยม ห้องเยี่ยมนักโทษเป็นห้องสี่เหลี่ยมทึบมีประตูสองด้านอยู่ตรงข้ามกัน ด้านหนึ่งเป็นทางเข้าของผู้มาเยี่ยมอีกด้านหนึ่งเป็นทางเข้าของนักโทษ เจ้าหน้าที่พาเอลเข้าไปนั่งรอในห้องนั้นแล้วจึงเดินออกไป
เอลเข้าไปนั่งรออย่างใจจดใจจ่อใช้นิ้วเคาะโต๊ะไปเบาๆ เขามองพัดลมระบายอากาศที่ติดอยู่ที่ผนังเพราะรู้สึกว่าอึดอัดยังไงชอบกล แหงนหน้ามองขึ้นไปก็พบกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งไว้ เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือ พลางคิดว่านี่หลายนาทีแล้วนะ ทำไมไม่มาเสียที เขาไม่ค่อยมีความอดทนในการรอใครหรอกนะ
จู่ๆประตูฝั่งตรงข้ามก็เปิดออก ผู้คุมอีกคนหนึ่งเปิดประตูนำลีโอเข้ามาในห้องและล๊อคกุญแจข้อมือของลีโอเข้ากับที่ล๊อคบนโต๊ะแล้วจึงเดินกลับออกไป
เอลมองหน้าลีโอแล้วทักทาย
“สวัสดีครับ”
ลีโอหนวดเครารกครื้มในชุดนักโทษสีน้ำเงินกางเกงขาสั้น มือทั้งสองข้างวางไว้บนเก้าอี้ ยิ้มให้กับเอล
“ยินดีที่ได้พบเจ้า”
เสียงนั้นดูแข็งๆ เย็นยะเยือก เอลไม่คิดว่าลีโอจะมีเสียงแบบนี้
“ได้ยินว่าอยากพบข้ามาก”
คำพูดของลีโอทำให้เอลรู้สึกแปลกเข้าไปอีก
“ครับๆ”
เขาแปลกใจกับคำพูดของลีโอ แต่ยังไม่คิดจะถามออกไป คำว่า เจ้า กับคำว่า ข้า
“คงดีใจที่ได้พบข้าสินะ”
ภาษาพูดของลีโอเหมือนภาษาพูดโบราณ
“ครับ คุณไม่เคยตอบจดหมายของผมสักฉบับ คุณคิดอย่างไรถึงเชิญผมมาที่นี่” เอลถาม
“เด็กน้อยเอ๋ย ข้าคงไม่ต้องอธิบายเหตุผลให้เจ้าฟังหรอกนะ”
ลีโอยังคงใช้ภาษาพูดโบราณ ทำให้เอลคิดว่าควรพูดตอบกลับไปด้วยภาษาแบบเดียวกัน
“กระผมต้องการทราบเหตุผลขอรับ” เอลจำคำพูดมาจากนิยายย้อนยุคซึ่งเคยผ่านตามาก่อน
คิดอีกทีก็ไม่เห็นจะแปลกที่พูดภาษาเช่นนี้ ลีโอคงเอาคำพูดมาจากเฮเว่นเกตที่ตัวร้ายมักพูดภาษาโบราณ และการพูดโต้ตอบก็ไม่เห็นจะยากเพราะเขาจำมาจากตอนเล่นละครเวทีของเช็คสเปียร์ในงานโรงเรียนมาแล้วหลายเรื่องนี่นา
ที่จริงลีโอคนนี้เป็นคนอย่างไรกันแน่คิดจะล้อเล่นกันไปถึงไหน...
“ขอทราบเหตุผลของพระคุณท่านด้วยครับ”
เขาพูดไปก็ก้มหน้ายิ้มเพราะจะหัวเราะออกมาก็คงเสียมารยาทหนักเข้าไปอีก แค่ล้อเล่นแบบนี้ก็เสียมารยาทพอแล้ว
“ไม่ตลกหรอกนะเจ้าหนู”
คำพูดของลีโอทำให้เขารู้สึกว่าเสียมารยาทไปแล้ว ลีโอแก่กว่าเขานับสิบปี เขาไม่ควรล้อเล่นแบบนี้
จู่ๆ เขากลับรู้สึกว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ลีโอ บัสโซ่
คิดบ้าๆ ไม่ใช่ได้ไง.. ก็ลีโอนี่ไง เต็มสองตาแบบนี้จะเป็นคนอื่นไปได้ยังไงกัน..
เขาคิดว่านี่เป็นแค่ความรู้สึกหรือว่าสัมผัสพิเศษกันนะ จู่ๆ ลีโอกลับเปลี่ยนมาใช้ภาษาพูดตามยุคสมัยแล้ว
“งงหรือไง..ฉันแค่แกล้งล้อนายเล่นเท่านั้น” ลีโอยิ้ม
“ล้อผมเล่นนะ…”
“นายเป็นคนมีไหวพริบ ตอนแรกนึกว่าเป็นเด็กเรียนใส่แว่นตาหนาเตอะเสียอีก หน้าตาดีเสียด้วยนี่”
“ครับ” เอลรู้สึกเขินๆเมื่อถูกชม
“เห็นบอกว่าจะทำรายงานเรื่องของฉันส่งครูใช่มั้ย”
“นั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งครับ”
“แล้วเหตุผลอื่นล่ะ”
“ใครๆที่เป็นแฟนคุณก็อยากพบคุณด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ ก็อีกไม่กี่วันคุณก็...”
“ฉันไม่กลัวเรื่องนั้นหรอก”
เอลเริ่มรู้สึกเป็นกันเองเมื่อลีโอกลับมาใช้คำพูดตามยุคสมัย
“นี่คงเป็นกำลังใจเล็กน้อยให้กับฆาตกรใจโหดอย่างฉัน เห็นนายบอกว่าไม่เชื่อว่าฉันคือฆาตกร น่าปลื้มใจจริงๆ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า” ลีโอหัวเราะลั่นห้อง
เอลยิ้ม เขาคิดว่าตัวจริงของลีโอดูเพี้ยนยังไงชอบกล ไม่เหมือนกับที่คิดไว้สักนิด
“นายอาจจะคิดว่าฉันบ้าเหมือนผู้คุมพวกนั้น”
“เปล่าครับ” เอลรีบปฏิเสธ “ผมไม่ได้คิด..”
“ไม่จริง ฉันรู้ว่านายคิด แถมยังคิดว่าฉันไม่ใช่ลีโอตัวจริงเสียด้วย”
“..” เอลอึ้งไปเพราะรู้สึกว่าลีโอเหมือนรู้ความคิดของเขา
“นายเคยเจอฉันแล้วหรือ ถึงบอกว่าฉันไม่ใช่ลีโอ นายไม่เคยเจอฉันมาก่อนเลยนะ
“…….” เอลยังคงอึ้งพูดไม่ออก
“ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าฉันใช่ลีโอหรือเปล่าเลย พูดก็พูดเถอะนะ ลีโออาจจะมีอยู่หลายคนก็ได้ ฉันอาจจะเป็นลีโออีกคนซึ่งไม่ใช่ลีโอที่นายรู้จักฉันอาจจะไม่ใช่ลีโอตัวจริง”
เอลฟังแล้วมึน จึงคิดว่าควรนั่งนิ่งฟังลีโอพูดดีกว่า
“นายเคยได้ยินชื่อคนที่ถูกเรียกว่า ผู้แสวงหาความตาย มั้ย”
“ผู้แสวงหาความตายอะไรครับ…”
ใช่สิ เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้จากในเฮเว่นเกตมาก่อน เขาคิดไม่ออกว่ามีตัวละครตัวนี้หรือเปล่า ไม่มีเขาจำได้ว่าไม่มีชื่อนี้
“กาลครั้งหนึ่ง มีชายคนหนึ่งมีพลังอำนาจอย่างหนึ่งซึ่งทำให้มีผู้ขนานนามว่า ผู้แสวงหาความตาย พลังของเขาจะเพิ่มพูนขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเขาหาวิธีฆ่าตัวตายใหม่ๆ เพื่อจิตจะได้ไปเกิดใหม่ยังโลกมิติอื่น ไปเรื่อยๆ และการตายแต่ละครั้งจะเพิ่มพูนความสามารถให้กับเขาจนสุดคณานับ”
“ฆ่าตัวตายเพื่อเกิดใหม่..”
“ยิ่งฆ่าตัวตายด้วยวิธีพิสดารเพียงใด ก็จะยิ่งทำให้มันได้รับพลังยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นหลังเกิดใหม่ มันคือการสะสมพลังอำนาจเหนือโลกไว้เพื่อการครองโลก
พลังอำนาจเหนือโลก...
“พลังอำนาจนั้นสุดจะหยั่ง หมือนการสะสมพลังอำนาจที่พวกเหนือมนุษย์ทำกัน แรงดึงดูดของพลังทำให้พวกเหนือมนุษย์หลีกไม่พ้นชะตากรรม ผู้แสวงหาความตายก็มีชะตากรรมไม่แตกต่างกัน หากมันหยุดแสวงหาความตาย มันก็จะสูญสิ้นพลังอำนาจ ดังนั้นมันจึงหลบซ่อนเหมือนพวกเดียวกันอื่นๆ ซ่อนตัวไม่ให้มีใครพบเห็น และชะตากรรมได้นำพาให้มันต้องเดินทางไปยังโลกมิติอื่นเรื่อยๆไป เรื่อยๆ ไป ไม่รู้จักจบจักสิ้น”
“แสดงว่าผู้แสวงหาความตายก็คือพวกเหนือมนุษย์...” เอลพูดแทรกขึ้น
“นายคิดว่าใช่หรือไม่ล่ะ”
“ผมมึนไปหมดแล้ว ทั้งหมดคือเรื่องในเฮเว่นเกตตอนใหม่หรือครับ”
“สุดแล้วแต่จะคิด”
“คุณเล่ามาเหมือนจริงมากครับ”
“นายมีสัมผัสพิเศษอันยอดเยี่ยมน่าจะใช้มันมากกว่านี้”
เอลสะดุ้งเมื่อได้ยินเรื่องสัมผัสพิเศษ
หรือว่าเขาหยั่งรู้..
“พวกเหนือมนุษย์มีสัมผัสพิเศษกันทุกคน” ลีโอยังคงพูดต่อ “ถ้านายเป็น นายก็ต้องมี”
คำพูดนั้นทำให้เอลหน้าเปลี่ยนสี รู้สึกในทันทีว่าลีโอเหมือนกับรู้เรื่องของตน มันอะไรกันนี่ ยิ่งพูดด้วยยิ่งมีปริศนา ที่พูดเรื่องผู้แสวงหาความตายนั้นคงไม่ใช่แค่เรื่องในนิยาย ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว
“ฉันอาจจะเป็นผู้แสวงหาความตายนะ” ลีโอยกมือชี้ที่ศีรษะ “ฉันคิดว่าฉันเป็นเจ้านั่น ฉันไม่ได้บ้าหรอกนะ สติของฉันยังยอดเยี่ยม ฉันเองก็มีสัมผัสพิเศษเหมือนอย่างนาย ฉันรู้ว่านายไม่ใช่คนธรรมดา นายเป็นพวกนั้น”
คำพูดของลีโอทำให้เอลตาโต เลือดฉีดแรง สมองตื้อไปหมด เขาคิดอะไรไม่ออกได้แต่เงียบและฟังลีโอพูดไปเรื่อยๆ
...ไม่ใช่ลีโอนี่นา….
เขาคิดถึงคำพูดของลีโอที่ว่า
...นายเคยเจอฉันแล้วหรือ ถึงได้พูดว่าฉันไม่ใช่ลีโอ..
ใช่สิ เขาไม่เคยเจอลีโอมาก่อน โดยเฉพาะลีโอตัวจริง อย่างเก่งก็เคยเห็นหน้าลีโอไกลๆ ในวันที่ลีโอออกโปรโมทหนังสือในห้างแห่งหนึ่งแถวถนนไฮแอท
เขาพร่ำอะไรออกมาแบบนั้นนะ...
หรือว่าเพี้ยนไปแล้ว....
..................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ