เอล คนทะลุมิติ chapter 1

-

เขียนโดย pong43

วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.34 น.

  48 ตอน
  0 วิจารณ์
  56.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 20.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

43) เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 43 ปาฏิหาริย์แห่งจิต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
ปาฏิหาริย์แห่งจิต  
 
โลกแห่งวิญญาณนั้นคือโลกต่างมิติโลกหนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับโลกต่างมิติมากมายในจักรวาล แต่โลกแห่งนี้มีเพียงจิตเท่านั้นที่สามารถเดินทางอยู่ในโลกนี้ได้ และผู้มีพลังวิญญาณจะสามารถเชื่อมต่อโลกวิญญาณกับโลกต่างมิติใดใดก็ได้ 
มีพวกเหนือมนุษย์พวกหนึ่งสามารถถอดจิตออกจากร่างเพื่อเข้าสู่โลกแห่งวิญญาณได้  และเตียงดองกันคือหนึ่งในพวกนั้น  
เอลถูกพลังถอดวิญญาณของฮัค เฟนดีดึงจิตให้เข้าไปอยู่ในโลกแห่งวิญญาณ มันคือไม้ตายสุดท้ายของวายร้ายที่วางเอาไว้หากตนเองเป็นฝ่ายปราชัย
                มันรู้ว่าอย่างไรเสียเอลก็ต้องตายตามมันไป
แต่เหตุการณ์ทั้งหมดล้วนอยู่ในสายตาของเตียงดองกันชายชุดดำ ผู้ซึ่งมีพลังเข้าสู่โลกวิญญาณ ดินแดนต้องห้ามได้
เอลย่อมไม่รู้ว่าชายชุดดำนั้นคือใคร แต่หากเขารู้จักชื่อ เขาต้องอ้าปากร้องอ๋อในทันที นั่นเพราะเตียงดองกันผู้นี้เป็นผู้มีชื่อเสียงในวงสังคม 
พวกเหนือมนุษย์นั้นมีความแตกต่างกันทางพลังอำนาจ แทบจะไม่มีใครสักคนที่มีพลังเหมือนกันเลยก็ว่าได้  สำหรับเตียงดองกันผู้มีความสามารถเดินทางเข้าสู่โลกวิญญาณได้โดยทางจิตเท่านั้น แตกต่างกับเอลตรงที่เอลเข้าสู่โลกต่างมิติได้ทั้งร่างกาย
แต่พลังวิญญาณกลับสามารถนำจิตของเตียงไปยังสถานที่ใดก็ได้ที่จิตสั่งการ แต่ขณะนี้พลังของเขายังไม่กล้าแข็งพอ หากเขาบรรลุพลังจิตขั้นสูงสุดได้ก็จะสามารถเดินทางทะลุโลกไปยังโลกต่างมิติใดใดซึ่งมีตัวตนของเขาอีกตัวตนหนึ่งที่นั่น ตัวตนซึ่งกฎเหนือโลกเรียกว่า คู่เหมือน
ที่สำคัญพลังของเขามีความสามารถในการเข้าถึงจิตของพวกเหนือมนุษย์ด้วยกันอย่างน่าอัศจรรย์ เหนือชั้นกว่าสัมผัสเหนือมนุษย์ของเอลอยู่หลายขั้น การเข้าถึงจิตนั้นสามารถทะลุทะลวงเข้าไปยังส่วนลึกของจิตของเป้าหมายได้อย่างลึกล้ำ
เขารู้ตัวว่าตนเองยังไม่สามารถไขปริศนาของพลังเพื่อไปสู่จุดสูงสุดได้ และการที่เข้าถึงจิตของพวกเดียวกันนั้นทำให้จิตของเขาสามารถเดินทางไปยังตำแหน่งแห่งหนของผู้ถูกเข้าถึงจิตได้  นี่คือความสามารถอันเป็นปริศนา เขาเคยคิดว่าหรือนี่คือชะตากรรมที่ทำให้เขาต้องคอยเข้าไปช่วยเหลือพวกเดียวกัน นี่อาจจะเป็นภารกิจซึ่งพระเจ้ามอบหมายให้กับเขา
การเดินทางนั้นเป็นการกระโดดข้ามมิติอย่างรวดเร็วรูปแบบหนึ่ง  แต่ทุกครั้งเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น จิตของเขาจะกลับเข้าร่าง เขาจะสูญเสียความทรงจำไปชั่วขณะและพลังวิญญาณจะลดถอยลงอย่างน่าใจหาย
 
เขาคิดว่าสาเหตุอาจจะเกิดจากการถอดจิตออกจากร่างเป็นเวลานานเกินไป และขณะถอดจิตนั้นหากร่างกายที่หลับใหลอยู่นั้นเกิดอันตรายขึ้น จิตนั้นจะพุ่งกลับมาเข้าร่างได้อย่างรวดเร็ว นี่คือพลังในการปกป้องร่างกายขณะถอดจิต 
 
ชะตากรรมดึงให้เขาเข้าไปพัวพันกับพวกเดียวกันและพวกปีศาจ เขาจึงต้องระมัดระวังตัวและพยายามไม่เปิดเผยตัวตนให้ใครทราบว่าเขาคือใคร เขารู้ดีว่าปีศาจมีพลังจู่โจมเหนือกว่าพวกเดียวกัน แต่หากเผชิญหน้ากันแล้ว ปีศาจอาจจะพ่ายแพ้แก่ชั้นเชิงของพวกเหนือมนุษย์ก็ได้ นี่คือจุดอ่อนของปีศาจเพราะปีศาจส่วนใหญ่ฉลาดน้อยและมีสมองเพียงก้อนเนื้อนิดเดียวเท่านั้น
ดังนั้นปีศาจจึงมักไม่ยอมเผชิญหน้า แต่จะคอยลอบกัดจู่โจมเหยื่อเพียงครั้งเดียวเพื่อพิฆาตให้สิ้นชีพ
 
ไม่นานมานี้เตียงดองกันได้ค้นพบทางเชื่อมสู่โลกปีศาจ ทางนั้นเป็นทางแยกจากโลกวิญญาณของเขา มันเชื่อมต่อกันด้วยทางเชื่อมอันน่ากลัว
ขณะนั้นเขาคล้ายตกลงไปในหลุมอากาศอย่างแรง เมื่อทรงตัวได้ก็พบกับโลกอันแสนน่ากลัวนั้น โลกที่เขาไม่อยากย่างกรายไปอีกเลยนับจากนั้น นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้ไปถึงโลกปีศาจซึ่งเขาสันนิษฐานว่าเชื่อมต่ออยู่ระหว่างโลกวิญญาณกับโลกมนุษย์
หลังจากนั้นเขาก็ไม่พบเส้นทางเชื่อมต่อนั้นอีก
...........................................................................................................................
 
ณ ห้องกรรมฐานบ้านสายลม
จิตของเตียงได้กลับสู่ร่างซึ่งนั่งทำสมาธิอยู่ เป็นธรรมดาเมื่อจิตกลับสู่ร่าง ร่างของเขาจะอ่อนเพลียเนื่องจากได้สูญเสียพลังวิญญาณและความทรงจำไปบางส่วน ก่อนจะถอดจิตทุกครั้งเขาจะล๊อคห้องเอาไว้อย่างแน่นหนาไม่ให้ใครเข้ามาแตะต้องร่างของเขาได้ แม้กระทั่งภรรยาของเขา เขายังห้ามเอาไว้ไม่ให้เข้ามา
เขาลุกขึ้นยืนด้วยความอ่อนเพลีย สีหน้าไม่สู้ดีนัก เขารู้สึกว่าทำไมครั้งนี้จึงได้รู้สึกอ่อนแรงเช่นนี้ อ่อนแรงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เขาไม่มีแรงจะก้าวเท้าเดินด้วยซ้ำ ขาของเขาคล้ายจะไม่มีเรี่ยวแรง แต่เมื่อพยายามก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าห้าหกก้าวก็ถึงประตูห้อง
ประตูเปิดออกโดยภรรยาของเขา
“คุณ”
หญิงสาวในชุดคลุมยาวสีดำผมยาวดำสลวยร้องเรียกเขาเมื่อเห็นว่าเขามีสีหน้าไม่สู้ดี
“คุณยังไม่นอนอีกหรอ”
เตียงถามกลับ แต่เธอสังเกตุเห็นเขามือจับประตูไว้แน่นเหมือนคนยืนต่อไม่ไหวจึงถามขึ้น
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
เธอเข้าประคองเขาไว้ ตัวเธอสูงกว่าเขา
“ไม่เป็นไรหรอก คุณไม่ต้องห่วง”
เธอพาเขาเดินมานั่งที่ห้องรับแขก หญิงสาวเป็นคนมีรูปร่างดีสูงสง่า ชุดสีดำใส่สร้อยเป็นหินหลากสีเม็ดเท่าไข่มุกสีดำสะท้อนแสงส่งประกายแวววาว
เธอคือฮีแดภรรยาของเขา แม้ว่าใบหน้าของเธอดูสวยคมแต่กลับดูเร้นลับน่ากลัว
“ผมไม่เป็นอะไรหรอก..แค่เป็นตะคริวเท่านั้น”
“คุณนั่งกรรมฐานอีกแล้วหรือคะ ถ้าร่างกายไม่ไหวก็อย่าเลยนะคะ”
“จ้ะที่รัก ผมไม่เป็นอะไรหรอก ว่าแต่ว่าคุณจะออกไปไหนหรือ” เตียงถามเพราะเข้าใจว่าเธอกำลังจะออกไปนอกบ้านอีกแล้วเพราะชุดที่สวมใส่ไม่ใช่ชุดนอน
“จะออกไปธุระหน่อยค่ะ นัดไว้กับเพื่อน แล้วจะรีบกลับนะคะ”
“...........” เขาคิดจะพูดห้ามไม่ให้ไป แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
“คุณคงไม่ลืมนัดทานข้าวตอนเย็นนะคะ”
“อ๋อใช่สิผมเกือบลืมแน่ะ ถ้าไม่พูดขึ้นมาผมคงลืมไปแล้ว”
เตียงพูดพลางใช้มือขวาลูบศีรษะด้วยความเก้อเขิน
“หมู่นี้ทำไมความจำของผมแย่ลงแบบนี้ไม่รู้”
“คุณควรพักผ่อนบ้างนะคะ”ภรรยาแสนสวยพูดพลางหันหลังเดิน
“อย่าลืมนะคะเย็นนี้ที่ภัตตาคารฮั่วหยาง” เสียงหวานๆของเธอทำให้เตียงดองกันรู้สึกดีขึ้น
“รีบกลับนะครับ”
เขามองตามเงาหลังของภรรยาไปจนเธอพ้นไปจากประตูบ้าน
...........................................................................................................
 
เขาเดินไปนั่งที่โต๊ะห้องครัว หยิบเหยือกเทน้ำใส่แก้วและดื่มอย่างกระหาย เมื่อเทน้ำอีกหนึ่งแก้ว แต่ไม่ทันจะดื่ม เขามองลงไปน้ำในแก้ว น้ำซึ่งนิ่งไม่มีแรงกระเพื่อมใดๆ มันทำให้เขาหวนนึกไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
เหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือคนผู้หนึ่ง
เวลานั้นเขายืนดื่มน้ำที่ตรงนี้เช่นกัน เขามองน้ำในแก้ว จู่ๆ ก็มีแรงกระเพื่อมของน้ำจากกลางแก้วไปถึงขอบแก้ว เขารู้ในทันทีว่านี่คือสัมผัสเหนือมนุษย์ของเขาซึ่งกำลังบอกถึงเรื่องราวบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกต่างมิติ
น้ำสั่นกระเพื่อมขึ้นเรื่อยๆ เกิดภาพใบหน้าอันเลือนลางในน้ำ
ใบหน้าของพวกเหนือมนุษย์
ใครสักคนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ ณ แดนไกลแสนไกล แต่เหมือนใกล้แค่เอื้อม
จิตของเขาสื่อถึงกันกับคนที่ปรากฏใบหน้าในน้ำ ทำให้เขาได้เห็นใบหน้านั้น
“เด็กนั่นอีกแล้วรึ...หรือว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย...”
เขาบ่นพึมพำและจ้องมองหน้าใบหน้าอันเลือนลางของเด็กหนุ่มในแก้วน้ำ มันคือใบหน้าของเอลนั่นเอง เขาเห็นหน้าเอลในนิมิตมาหลายวันแล้ว
มีใครส่งภาพนั้นมา...
เขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่เด็กหนุ่มจะเป็นคนส่งกระแสจิตมาถึงเขาโดยตรง
ต้องมีใครเป็นคนส่งจิตของเอลมาให้เขา คนผู้นั้นต้องมีพลังอำนาจแต่ทำไมเขาไม่ไปช่วยเด็กหนุ่มเสียเองล่ะ มันต้องมีเหตุผลมากกว่านั้นอย่างแน่นอน
หรือว่าชายผมขาวคนนั้น
เขาจำชายผมขาวปริศนาคนหนึ่งได้ ชายผมขาวเป็นใยไหมคนนั้น  เขาเคยพบเห็นอยู่เสมอ แต่ไม่สามารถสื่อสารเพื่อพูดคุยด้วยได้
เป็นเพราะชายผมขาวไม่ยอมพูดกับเขาเอง และคงเป็นผู้เชื่อมโยงเขากับเอลก็ได้ เด็กหนุ่มเอลกำลังจะตาย หากเขาไม่ช่วย นั่นทำให้เขาไม่สามารถอยู่เฉยโดยไม่ให้ความช่วยเหลือได้
เขาคิดไม่ตกเสมอว่า ชายผมขาวทำไมไม่ช่วยเสียเอง ทำไมต้องเป็นเขา และชายผมขาวคือใครกัน เขาไม่เคยเห็นใบหน้าชัดเจนเสียที แม้พยายามจะมองให้ออกว่าเป็นใครก็ไม่เคยสำเร็จ
หรือว่าเขาเป็นคนเดียวที่ทำได้
ชายผมขาวไม่สามารถเข้าสู่โลกวิญญาณด้วยจิต เหตุนี้เองที่เขาต้องมาขอความช่วยเหลือ...
นี่คือเหตุผล...
หรือว่าโลกวิญญาณมีเพียงไม่กี่คนที่เข้ามาได้ 
เขาคิดว่าเด็กหนุ่มต้องมีความสำคัญอะไรบางอย่างกับเขาหรือกับใครๆเป็นแน่ เขาไม่มีเวลาคิดหาเหตุผลว่าเพราะอะไร เขาต้องรีบช่วยชีวิตนั้นให้ได้โดยไว เขาจึงไปช่วยเอลอย่างไม่รอช้า
เขารู้ว่าอาจจะต้องสูญเสียพลังวิญญาณไปบ้าง แต่เขาคิดว่าการได้พบเอลและได้รับรู้ถึงพลังอำนาจของชายผมขาวอาจจะสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เขาเชื่อว่านี่คือลิขิตแห่งชะตากรรมของพวกเหนือมนุษย์เพื่อจะได้ร่วมมือกันไขปริศนาของพวกเหนือมนุษย์ทั้งหลาย
          เขารู้สึกคุ้นหน้าเอลอย่างมาก นึกไม่ออกว่าเคยพบเห็นที่ไหน อาจจะเคยเห็นหน้าทางหนังสือพิมพ์หรือข่าวโทรทัศน์ที่ไหนสักแห่ง
 
เขามักถอดจิตและออกเดินทางเข้าไปในโลกวิญญาณอันเร้นลับ เขาพยายามศึกษาค้นคว้าถึงอาณาเขตอันกว้างใหญ่ของโลกวิญญาณ เขาแปลกใจที่มันสามารถเชื่อมต่อกับโลกต่างมิติต่างๆได้อย่างสมดุล นี่คือจักรวาลอันกว้างใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาซึ่งหาคำอธิบายไม่ได้ โลกต่างมิติมากมายเชื่อมต่อกันเหมือนประเทศซึ่งมีหลายจังหวัดเชื่อมต่อกันอยู่
เขาคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเข้าไปยังดินแดนต่างมิตินั้น แต่กลับไม่มีข้อมูลใดยืนยันว่าเขาได้ไปมาแล้ว นั่นเพราะปัญหาใหญ่ซึ่งเป็นข้อจำกัดของเขามานานแล้ว
เขามักตกอยู่ในสภาพความทรงจำสูญหาย มักจำอะไรไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง บางครั้งเขาลืมเรื่องราวซึ่งเขาได้ทำมาเมื่อชั่วโมงที่แล้ว 
หรือว่าการที่เขาสูญเสียพลังวิญญาณก็ทำให้ความทรงจำขาดหาย และยังทำให้ร่างกายอ่อนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เขาเองก็เคยตกอยู่ในสภาพคนหลงในโลกต่างมิติ ทำให้เขานิ่งนอนใจไม่ได้ ถ้าปล่อยให้เด็กนั่นอยู่ในนั้นนานกว่านี้ คงต้องตายภายในเวลาไม่เกินห้าวัน
เขาเคยหลงอยู่ในนั้นเกือบสองวัน พลังวิญญาณของเขาเกือบจะสิ้นสูญ แต่จู่ๆ จิตของเขาก็สว่างวาบขึ้น เขาพบกับชายผมขาวผู้นั้นยืนอยู่ไกลๆ  และกำลังเดินหนีเขาไปในความมืด เขาพยายามเดินตามชายนั้นไปทั้งที่กำลังจะสิ้นเรี่ยวแรง
แล้วเขาก็พบทางออก เขารู้ว่าที่รอดตายมาได้ก็เพราะชายผมขาว
เขาเรียกชายผมขาวว่า ผู้เชื่อมโยง หลังจากนั้นเขาจึงได้ล่วงรู้ถึงเรื่องราวอะไรบางอย่างขึ้นมาอย่างประหลาด เรื่องราวซึ่งอธิบายถึงความอยู่รอดของพวกเหนือมนุษย์ อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้เขาออกจากโลกวิญญาณไม่ได้ว่าเป็นเพราะความแปรปรวนซึ่งเกิดขึ้นจากคลื่นต่างมิติ คลื่นความถี่บางชนิดที่ทำให้โลกต่างมิติเกิดความแปรปรวนทำให้ทางเข้าออกถูกปิดลงชั่วขณะ เขากระจ่างเพราะคำอธิบายเหล่านั้น คำอธิบายซึ่งมาจากกฎอะไรบางอย่าง กฎซึ่งควบคุมจักรวาลทั้งหลายเอาไว้
กฎเหนือโลก คือชื่อเรียกของกฎนั้น
กฎเหนือโลกทำให้เขาเข้าใจเรื่องราวของคลื่นต่างมิติว่าทำให้เกิดการผันแปรทางมิติ และปิดทางเข้าออกของโลกวิญญาณ เมื่อเข้าจากทางใดก็ต้องกลับออกไปทางนั้น และสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขานั้นไม่ใช่เรื่องคลื่นต่างมิติเรื่องเดียว มันเกิดจากการที่เขาสูญเสียความทรงจำไปชั่วขณะ เขาจดจำทางเข้ามาไม่ได้นั่นเอง
เขาจะยอมให้ความทรงจำเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ ต้องรู้ให้ได้ว่าความทรงจำที่สูญหายเกี่ยวข้องอะไรกับพลังวิญญาณซึ่งถดถอยลงไปเรื่อยๆนั้น
............................................................................................................................................   
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา