เอล คนทะลุมิติ chapter 1
เขียนโดย pong43
วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.34 น.
แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 20.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
44) เอล คนทะลุมิติ ตอนที่ 44 พลังที่เพิ่มขึ้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
พลังที่เพิ่มขึ้น
ที่โรงเรียนเซนต์แอนเจิ้ล
ตึกซีบริเวณทางลงชั้นสามมาชั้นสอง ขณะที่เอลเดินสวนขึ้นไปก็พบกับครูแคทาลีนผู้ลึกลับ เอลรู้สึกว่าครูคนนี้มีอะไรแปลกๆ
เขาค้อมศีรษะเล็กน้อยและหลีกทางให้ครูสาว เขารู้สึกว่าครูสาวดูใจลอยชอบกล คงมีเรื่องไม่สบายใจเป็นแน่
จู่ๆ เขาได้ยินเสียงหนึ่ง
เสียงไร..
เขาไม่เห็นใครอยู่แถวนั้น เขาอ้าปากค้าง เพราะมันคือเสียงความคิดของครูสาว..
“ใครคือสาวบริสุทธิ์ที่ถูกเลือกคนนั้นนะ...”
เอลหันหลังกลับไปดูครูซึ่งเดินลงไปด้านล่างแล้ว
ความคิดของครูแคท….ทำไมเราได้ยินความคิดพวกนั้น
หมู่นี้เขาได้ยินเสียงรำพึงรำพันในใจของผู้คนรอบๆตัวอยู่บ่อยๆ เขาไม่ได้ตั้งใจจะไปอ่านความคิดของใครเลยสักนิดแต่มันมาเข้าหูเขาเอง
เขาคิดว่ามันเป็นผลมาจากการที่พบกับเอ็ท หรือว่าเอ็ทคือพวกที่อ่านใจคนได้ เมื่อเอ็ทตายไป พลังบางส่วนได้ถูกดูดกลืนมาด้วยกฎเหนือโลกที่ว่า พลังดึงดูดพลัง
พลังหูทิพย์ของเอ็ทมาอยู่กับเขาแล้ว นั่นแสดงว่าเอ็ทสิ้นสูญไปแล้วจากจักรวาลนี้
ไม่รู้ว่าดีหรือร้าย การที่เสียงจากความคิดผู้อื่นดังเข้ามาในรูหูแบบนี้บ่อยๆ ก็ไม่ไหวหรอกนะ
เขาวิ่งลงมามองตามเงาหลังของครูสาวที่กำลังเดินไปยังห้องพักครูซึ่งอยู่ไม่ไกล
..สาวบริสุทธิ์อะไรกัน..หรือว่าบทกวีอะไรสักอย่าง....
คิดอะไรอยู่นะ..
แล้วเอลก็รู้สึกว่าไปยุ่งอะไรกับเขาล่ะ มันเรื่องส่วนตัวของเขานะ...
พลังอ่านใจกำลังทำให้เขารู้สึกรำคาญใจแล้ว เสียงมากมายเข้ามาในหูเขาจนเขาทนไม่ได้ บางครั้งมันก็หายไป บางครั้งก็เข้ามาจนทำให้เขาเสียสมาธิ
เขาใช้มือทุบด้านบนของศีรษะเบาๆ เพื่อให้มันหยุด
นี่หรืออำนาจพระเจ้า ไม่เห็นจะชอบเลยสักนิด...
เสียงกริ่งหมดคาบเรียนดังขึ้น เอลยังตกอยู่ในภวังค์ความคิด นักเรียนมากมายกรูออกมาจากห้องเพราะเป็นเวลาพักเที่ยงทำให้เกิดการเบียดกันที่บันได หลายคนดันเขาจนกระเด็น เอลกลับไม่รู้สึกตัวได้ยืนอยู่ตรงนั้น
นี่คือเหตุผลที่ทำให้เอ็ทบ้าไปขนาดนั้น เมื่อรวมกันมากเข้า จะเป็นพระเจ้าแห่งโลก
‘เจ้านี่ยืนขวางทางเดินทำไมนะ’ ‘เอลจอมเพี้ยนอีกแล้วเหรอ’ ‘อย่าไปยุ่งกับเขาน่ะ’
เขาได้ยินเสียงคนสองสามคนกำลังนินทาจึงหันไป
เขาเห็นเด็กสาวกลุ่มหนึ่งซึ่งยืนขวางทางอยู่ เธอคือสามสาวห้องดีซึ่งขณะนี้กำลังเป็นสาวฮอตในโรงเรียน เธอคือลินดา แจน และเคียร่า เด็กมัธยมต้นไม่มีใครแสบเกินสามสาวผู้นี้แล้วล่ะ
“เฮ้เอล”
เอลเห็นลินดาทัก แต่ก็ทำเป็นไม่ได้ยินและเดินเบียดออกไป วันนี้เขาไม่มีอารมณ์คุยด้วย ทั้งสามจ้องเอลตาเป็นมัน
เสียงเด็กสาวผมแดงเคียร่าก็พูดเข้ามาในหูของเอล
หล่อจังฉันอยากเป็นแฟนเธอจัง...
ยัยบ้าใครอยากเป็นแฟนเธอ..
เคียร่าพูดขณะที่ลินดาผมสีม่วงซึ่งเป็นหัวหน้าแก็งค์ใช้นิ้วบิดหูของเคียร่าจนร้องลั่น
“โอ้ยยยยยยยยปล่อยยยยย”
“เอลน่ะของฉัน”
ลินดายังตะคอกเสียงลั่น เอลได้ยินเสียงนั้นเต็มหู
"ของฉันโว้ย"
เคียร่ายังไม่เข็ดกัดฟัน แจนใช้มือบีบคอเคียร่าอย่างแรง
"เอลเป็นของฉันต่างหาก"
“โอ้ยยยยยยยยปล่อยยยยย”
ไร้สาระที่สุด เอลสั่นศีรษะขณะที่เคียร่าแหกปากยกมือร้องเรียก
"ช่วยด้วย"
เอลไม่สนใจเดินเลี้ยวไปแถวห้องน้ำชั้นล่าง ในใจของเขากลับนึกถึงใครบางคนขึ้นมา
สาวสวยคนหนึ่งซึ่งอยู่ห้องดีเมื่อสองปีที่แล้ว สาวซ่าสดใสนิสัยร้ายเกินตัวตั้งตัวเป็นหัวหน้าแก็งค์ที่ชื่อว่า แก้งค์คมกุหลาบซึ่งถูกยุบไปแล้ว
เธอชื่อ จิล ไอร์แลนด์
ทุกวันนี้เขายังสงสัยไม่หายว่าจิลหายตัวไปไหน เกือบสองปีแล้วที่เธอหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว จะว่าไม่บอกกล่าวก็ไม่ถูก เขาไม่ใช่คนสนิทของเธอนี่นา แม้กระทั่งคนสนิทของเธอในแก๊งค์ก็ยังไม่รู้เลยว่าเธอหายไปไหน
จิลได้ชื่อว่าเป็นหวานใจต่างวัยที่เอลเพ้อพกอยู่พักหนึ่ง เธออายุมากกว่าเขาราวๆ สองปี
จู่ๆเธอก็หายตัวไป ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปไหน มีแต่ข่าวไม่จริงว่าเธอตั้งครรภ์กับนักร้องวงร๊อคชั้นมัธยมปลายต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ
บ้างก็ว่าเธอถูกคู่อริต่างโรงเรียนเก็บไปแล้ว ช่วงนั้นเอลถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นเดือน
ล้องก์บอกว่าจิลเป็นรักแรกของเอล แต่เอลปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ลึกๆ เขาก็คิดว่าคงจะเป็นอย่างที่ลองก์ว่า
เขาอาจจะชอบเธอจริงๆ ก็ได้ แต่ทำยังไงได้ล่ะ คนก็จากไปแล้วจะมัวละเมอเพ้อพกไปทำไมกันอีก
จิล เธอไปอยู่ไหนนะ..
………………………………………..
เช้าวันเสาร์ เวลา 10.50 น.
เกือบสองอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เอ็ทหายตัวไป
เอลเพิ่งตื่นนอนลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจอยู่ที่ระเบียงห้องด้านหลัง จู่ ๆ เสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้นสองครั้ง เขาจึงเดินไปดูที่ช่องมองก็พบว่าคนที่มาหาคือ เดลสารวัตรแห่งหน่วยสืบสวนกลางนั่นเอง
เอลแปลกใจจนทำอะไรไม่ถูกที่จู่ๆตำรวจคนนี้มายืนอยู่ที่หน้าห้อง
ยืนนึกอยู่นานสองนานว่าจะเอายังไงดีก่อนตัดสินใจบิดลูกบิดเปิดประตูออก
เดลในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มมองเอลในชุดกางเกงนอนขาสั้นไม่ใส่เสื้อตาไม่กระพริบ
“มี มีธุระอะไรเหรอ”
“ฉันมีเรื่องถามอะไรหน่อย” เดลขมวดคิ้วเพราะรู้สึกได้ว่าเอลมีท่าทีแปลกๆ
“เรื่องอะไรทำไมต้องเช้าแบบนี้คุณนักสืบ”
“เรียกเดลก็ได้ ฉันอายุมากกว่านายแค่สองปีเท่านั้นเอง”
“กลัวแก่ก็ไม่ว่า เข้ามาข้างในก่อนสิ” เอลแซวก่อนเปิดประตู “มีอะไรก็พูดมาเลย”
เอลผลักเก้าอี้มาให้เดลนั่ง ส่วนเขาก็หย่อนก้นนั่งลงบนเตียงนอน
“โทษทีห้องเล็กไปหน่อย”
เอลยกมือชี้โน่นชี้นี่ด้วยความรู้สึกเขินเล็กน้อยที่ห้องอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย "โทษทีห้องฉันรกแบบนี้แหละอยู่คนเดียว”
เดลมองรอบๆห้อง ก่อนจะพูดขึ้นว่า
"ที่จริงห้องนายน่าอยู่ดีนะ”
“เทียบไม่ได้กับบ้านนายหรอกคงจะใหญ่โตอย่างกับวังมั้ง”
เดลนิ่งและเปลี่ยนมาคุยเรื่องที่เขาต้องมาถึงที่นี่
“นายรู้จักเอ็ทห้องจีหรือเปล่า” เดลเปิดฉากถามเรื่องเอ็ท
แย่แล้วมันมาตามเจ้านั่น...
ทำไงดีล่ะ มันรู้เรื่องของเราขนาดไหนแล้วนี่...
เห็นเอลนิ่งเงียบ เดลจึงถามอีกครั้ง
“ฉันกำลังตามหาตัวเอ็ท ดีโดห้องจีที่หายตัวไป นายรู้จักเจ้านั่นใช่มั้ย”
“เอ็ท...รู้จักสิ”
“เอ็ทหายตัวไปหลายวันแล้ว พ่อแม่ของเขาวานให้ฉันช่วยตามหา”
“อ้าว แล้วทำไมมาหาที่ฉันล่ะ ทำไมไม่ไปถามคนในห้องจีล่ะ มาถามฉันทำไม..”
“ฉันตรวจสอบจนได้ข้อมูลบางอย่างมาจึงมานายสิ ภาพสุดท้ายของเอ็ทในรถไฟฟ้าเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ในรถขบวนนั้นมีนายอยู่ด้วย นายเป็นคนเดียวในโรงเรียนที่อยู่ที่นั่น”
“...”
“วงจรปิดในรถไฟฟ้า เอ็ทอยู่บนรถและนายคงไม่ปฏิเสธว่าไม่เห็นเอ็ท”
เอลลุกขึ้นจากเตียงขึ้นมายืนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“แต่ฉันไม่เห็นเจ้านั่นนี่นา..”
...........................................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ