Chance ขอเพียงโอกาส
9.4
เขียนโดย benrodjana
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 20.53 น.
24 ตอน
263 วิจารณ์
50.43K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 21.23 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
8)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่8
วันรุ่งขึ้น
แก้วตื่นขึ้นมาก็ตกใจเพราะลูกชายของเธอหายไป เมื่อคืนเธอก็อุ้มลูกชายมานอนในห้องนี้แล้ว แต่พอตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นลูก หญิงสาวออกตามหาลูกทั้งห้องน้ำหรือสนามเด็กเล่นก็ไม่เจอรวมถึงห้องพักของเกล สองพี่น้องจึงรีบตามหาน้องการนต์ ถามใครก็ไม่มีใครรู้ว่าลูกเธอหายไปไหน
“หรือว่า....พี่โทโมะ” เมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบโทรหาเขาทันที เธอกลัวเขาจะทำอะไรน้องกรานต์ ตอนนี้ลูกคือทุกอย่างในชีวิต เมื่อโทรหาชายหนุ่มกลับโทรไม่ติด นั่นยิ่งทำให้เธอเป็นกังวลมากขึ้น ความรู้สึกของคนเป็นแม่ตอนนี้น้ำก็ไหลออกมาแล้ว
“พี่แก้วค่ะ หรือน้องกรานต์จะไปบ้านพี่กวินรึเปล่า?” เกลตั้งข้อสงสัยเพราะน้องกรานต์ไปบ้านกวินบ่อย แต่ทุกครั้งก็ต้องมาขออนุญาตแก้ว หรือไม่ก็เธอก่อน
“งั้นเกลอยู่รอที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะบ้านพี่กวินก่อน” พูดจบแก้วก็รีบเดินทางไปบ้านกวินแต่เมื่อกำลังจะหันหลังกลับก็เจอกวินพอดี
“ เป็นอะไรกันครับสาวๆหน้าตาเครียดๆ แล้วน้องกรานต์ล่ะครับ” กวินถามเพราะเห็นสีหน้าของสองพี่น้องไม่ค่อยดีเท่าไร รวมถึงปกติก็จะเห็นเจ้าตัวเล็กอยู่ด้วยเสมอ
“น้องกรานต์หายตัวไปค่ะพี่กวิน พี่แก้วกับเกลตามหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ ถามพนักงาน คนงานในรีสอร์ก็ไม่มีใครเห็น”
“อะไรนะครับ! น้องกรานต์จะหายไปไหนได้ล่ะ โทรแจ้งตำรวจกันรียัง” กวินถามเขาเองก็ตกใจไม่น้อยเพราะเขาเองก็เอ็นดูเด็กคนนี้มากทีเดียว
“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่กวิน แก้วพอจะรู้แล้วล่ะคะ ว่าน้องกรานต์ไปกับใคร” แก้วบอกแต่ขออย่าให้เขาทำอะไรลูกเธอเลย ใจหนึ่งก็คิดว่า เขาคงอยากอยู่กับลูก แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าเขาอาจจะทำร้ายลูกของเธอก็ได้ ถ้าเขายังมีสัญชาติตญาณความเป็นพ่อคนอยู่เขาคงไม่ทำอะไรแบบนั้น อย่างน้อยน้องกรานต์ก็มีสายเขาอยู่เหมือนกัน
.
.
.
อีกด้านหนึ่งสองพ่อลูกนั่งอยู่บนรถ เขาแอบพาลูกมาเที่ยวเพราะเขาอยากทำอะไรให้ลูกมีความสุขบ้าง ถึงจะรู้ว่าคนเป็นแม่อย่างแก้วจะเป็นห่วงมากแค่ไหนดูจากสายเรียกเข้าทำให้เขาตัดสินใจปิดเครื่อง แต่เขาก็มีสิทธ์ในตัวเด็กคนนี้เหมือนกัน สิทธิ์ของความเป็นพ่อ
“พ่อครับ ป่านนี้แม่กับน้าเกลคงเป็นห่วงกรานต์แล้วล่ะครับ กรานต์ออกข้างนอกยังไม่ได้บอกแม่เลย กรานต์กลัวแม่ตีครับ” เด็กชายพูดขึ้นเพราะกลัวแม่กับน้าเป็นห่วง
“มากับพ่อแล้วน้องกรานต์จะกลัวอะไรครับ พ่อไม่ยอมให้ลูกพ่อถูกตีหรอกครับ น้องกรานต์หิวรึยังครับ อยากทานอะไรหรือเปล่าเดี๋ยวพ่อพาไป” โทโมะพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มไปให้ลูกชาย เพราะดูท่าว่าจะหิวแล้ว
“กรานต์อยากทานไอติมครับ พ่อครับทำไมเราไม่พาแม่มาด้วยล่ะครับ”
“พ่ออยากทดแทนเวลาที่พ่อไม่ได้อยู่กับกรานต์ไงครับ มากับพ่อไม่สนุกเหรอครับ ว้า แบบนี้พ่อน้อยใจแย่” ชายหนุ่มทำหน้าน้อยใจเล็กน้อยเพื่อเรียกความสนใจจากลูกชาย
“ไม่ใช่นะครับ กรานต์แค่อยากมาเที่ยวกันทั้งครอบครัวบ้าง แค่พ่อกลับมาหากรานต์แค่นี้กรานต์ก็ดีใจแล้วล่ะครับ” เด็กชายพูดแล้วฉีกยิ้ม โทโมะเกิดอาการหน้าเศร้านิดหน่อย แก้วคงไม่เคยเล่าเรื่องของเขาให้ลูกฟังเลยสินะ เขาคงไม่มีความดีให้เธอจดจำหรอก เพราะเขาทำร้ายทั้งเธอและลูกมาตลอดแม้แต่คำว่าพ่อเขายังไม่สมควรจะให้ลูกเรียกด้วยซ้ำ เขาชื่นชมในตัวแก้วมากที่เลี้ยงลูกของเขากับเธอได้ดีอย่างนี้
“พ่ออย่าร้องสิครับ แม่บอกกรานต์ว่าเป็นลูกผู้ชายต้องไม่ร้องให้นะครับ” น้องกรานต์เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ผู้เป็นพ่อ ทั้งที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันไหลออกมาตอนไหน
“ขอบคุณนะครับลูกชาย ป่ะถึงแล้วรีบทานกันดีกว่าเดี๋ยวพ่อพาไปเที่ยวที่อื่นอีก”
หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็พาลูกชายไปเที่ยวต่ออีกหลายที่ นี่คงเป็นวันสุดท้ายที่เขาจะได้อยู่ที่นี่ เพราะพรุ่งนี้เขาก็จะกลับกรุงเทพแล้ว คงไม่มีโอกาสได้เจอแก้วกับลูกอีก เขายอมทำตามข้อเสนอเธอเพื่อที่จะให้แก้วให้อภัยเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่กับเธอและลูกก็ตาม เมื่อเที่ยวกันจนเย็นแล้วเขาก็พาลูกกลับที่พัก เมื่อไปถึงก็เห็นแก้วที่ยืนคอยลูกชายอยู่ พอน้องกรานต์ลงจากรถเธอก็รีบดึงลูกมาหาเธอแล้วตีที่ก้นอย่างแรง
เพี๊ย! เพี๊ย!
“ไปไหนทำไมไม่บอกแม่ห๊ะรู้มั้ยแม่เป็นห่วงขนาดไหน เพี๊ย!”
“ฮื่อๆ..แม่ครับกรานต์เจ็บ โอ๊ย!” เพี๊ย! เพี๊ย! รู้ว่าลูกเจ็บแต่ก็ต้องตีให้หลาบจำบ้าง ที่เธอทำไปก็เสียใจแต่เมื่อลูกทำผิดก็ต้องทำ
“แก้วพอเถอะ! น้องกรานต์ไม่ผิด พี่ผิดเอง ถ้าจะทำอะไรมาทำพี่ อย่ามาลงที่ลูกแบบนี้” โทโมะเมื่อเห็นลูกถูกแก้วตีก็รีบมาขว้างแล้วกอดลูกที่ยืนร้องให้
“คุณไม่ต้องมาพูด! คุณไม่มีสิทธิ์พาลูกไหนทั้งไหนน้องกรานต์เป็นลูกของฉัน!” แก้วถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“ใช่! แก้วมีสิทธิ์ในความเป็นแม่ แต่พี่ก็มีสิทธิ์ในความเป็นพ่อเหมือนกัน!” โทโมะพูดเขาเข้าใจว่าแก้วเป็นห่วงลูก แต่ทำไมถึงกับต้องตีลูกด้วย
“น้องกรานต์เป็นลูกฉันคนเดียว! ฉันเลี้ยงเขามาฉันมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้!”
“แน่ใจเหรอว่าเป็นลูกของแก้วคนเดียว! ฉันพี่ไม่ทำแก้วจะท้องมั้ยล่ะ ถึงแก้วจะเลี้ยงน้องกรานต์มาแก้วก็ไม่มีสิทธิ์ตีลูกแบบนี้ ถ้าจะทำมาทำที่พี่ ไม่ใช่กับลูก!” โทโมะพูดแก้วถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก
“ฮื่อๆ..แม่ ครับ กรานต์ ขอโทษ” น้องกรานต์ก้มลงกราบเท้าผู้เป็นแม่แล้วสักพักร่างของลูกชายก็ทรุดลงกับพื้น
“น้องกรานต์! เป็นอะไรไปครับ แม่ขอโทษ ฮื่อๆ แม่ขอโทษ” เมื่อโทโมะเห็นดังนั้นจึงรีบอุ้มร่างที่หมดสติของลูกชายขึ้นรถพร้อมกับแก้วแล้วไปส่โรงพยาบาลทันที
ตอนแรกไรเตอร์คิดว่าฟิคชั่นเรื่องนี้จะไปไม่รอดซะอีก แต่หลังมากนี้รีดเดอร์ให้กำลังใจไรเตอร์โดยการเม้น โหวตมากขึ้น ทำให้ไรเตอร์มีกำลังเพิ่มขึ้น ขอบคุณนะคะ ไรเตอร์ก็ไม่มีอะไรมากซ้ำๆเดิม ฝากเม้นโหวตด้วยนะคะ ^^
วันรุ่งขึ้น
แก้วตื่นขึ้นมาก็ตกใจเพราะลูกชายของเธอหายไป เมื่อคืนเธอก็อุ้มลูกชายมานอนในห้องนี้แล้ว แต่พอตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นลูก หญิงสาวออกตามหาลูกทั้งห้องน้ำหรือสนามเด็กเล่นก็ไม่เจอรวมถึงห้องพักของเกล สองพี่น้องจึงรีบตามหาน้องการนต์ ถามใครก็ไม่มีใครรู้ว่าลูกเธอหายไปไหน
“หรือว่า....พี่โทโมะ” เมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบโทรหาเขาทันที เธอกลัวเขาจะทำอะไรน้องกรานต์ ตอนนี้ลูกคือทุกอย่างในชีวิต เมื่อโทรหาชายหนุ่มกลับโทรไม่ติด นั่นยิ่งทำให้เธอเป็นกังวลมากขึ้น ความรู้สึกของคนเป็นแม่ตอนนี้น้ำก็ไหลออกมาแล้ว
“พี่แก้วค่ะ หรือน้องกรานต์จะไปบ้านพี่กวินรึเปล่า?” เกลตั้งข้อสงสัยเพราะน้องกรานต์ไปบ้านกวินบ่อย แต่ทุกครั้งก็ต้องมาขออนุญาตแก้ว หรือไม่ก็เธอก่อน
“งั้นเกลอยู่รอที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะบ้านพี่กวินก่อน” พูดจบแก้วก็รีบเดินทางไปบ้านกวินแต่เมื่อกำลังจะหันหลังกลับก็เจอกวินพอดี
“ เป็นอะไรกันครับสาวๆหน้าตาเครียดๆ แล้วน้องกรานต์ล่ะครับ” กวินถามเพราะเห็นสีหน้าของสองพี่น้องไม่ค่อยดีเท่าไร รวมถึงปกติก็จะเห็นเจ้าตัวเล็กอยู่ด้วยเสมอ
“น้องกรานต์หายตัวไปค่ะพี่กวิน พี่แก้วกับเกลตามหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ ถามพนักงาน คนงานในรีสอร์ก็ไม่มีใครเห็น”
“อะไรนะครับ! น้องกรานต์จะหายไปไหนได้ล่ะ โทรแจ้งตำรวจกันรียัง” กวินถามเขาเองก็ตกใจไม่น้อยเพราะเขาเองก็เอ็นดูเด็กคนนี้มากทีเดียว
“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่กวิน แก้วพอจะรู้แล้วล่ะคะ ว่าน้องกรานต์ไปกับใคร” แก้วบอกแต่ขออย่าให้เขาทำอะไรลูกเธอเลย ใจหนึ่งก็คิดว่า เขาคงอยากอยู่กับลูก แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าเขาอาจจะทำร้ายลูกของเธอก็ได้ ถ้าเขายังมีสัญชาติตญาณความเป็นพ่อคนอยู่เขาคงไม่ทำอะไรแบบนั้น อย่างน้อยน้องกรานต์ก็มีสายเขาอยู่เหมือนกัน
.
.
.
อีกด้านหนึ่งสองพ่อลูกนั่งอยู่บนรถ เขาแอบพาลูกมาเที่ยวเพราะเขาอยากทำอะไรให้ลูกมีความสุขบ้าง ถึงจะรู้ว่าคนเป็นแม่อย่างแก้วจะเป็นห่วงมากแค่ไหนดูจากสายเรียกเข้าทำให้เขาตัดสินใจปิดเครื่อง แต่เขาก็มีสิทธ์ในตัวเด็กคนนี้เหมือนกัน สิทธิ์ของความเป็นพ่อ
“พ่อครับ ป่านนี้แม่กับน้าเกลคงเป็นห่วงกรานต์แล้วล่ะครับ กรานต์ออกข้างนอกยังไม่ได้บอกแม่เลย กรานต์กลัวแม่ตีครับ” เด็กชายพูดขึ้นเพราะกลัวแม่กับน้าเป็นห่วง
“มากับพ่อแล้วน้องกรานต์จะกลัวอะไรครับ พ่อไม่ยอมให้ลูกพ่อถูกตีหรอกครับ น้องกรานต์หิวรึยังครับ อยากทานอะไรหรือเปล่าเดี๋ยวพ่อพาไป” โทโมะพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มไปให้ลูกชาย เพราะดูท่าว่าจะหิวแล้ว
“กรานต์อยากทานไอติมครับ พ่อครับทำไมเราไม่พาแม่มาด้วยล่ะครับ”
“พ่ออยากทดแทนเวลาที่พ่อไม่ได้อยู่กับกรานต์ไงครับ มากับพ่อไม่สนุกเหรอครับ ว้า แบบนี้พ่อน้อยใจแย่” ชายหนุ่มทำหน้าน้อยใจเล็กน้อยเพื่อเรียกความสนใจจากลูกชาย
“ไม่ใช่นะครับ กรานต์แค่อยากมาเที่ยวกันทั้งครอบครัวบ้าง แค่พ่อกลับมาหากรานต์แค่นี้กรานต์ก็ดีใจแล้วล่ะครับ” เด็กชายพูดแล้วฉีกยิ้ม โทโมะเกิดอาการหน้าเศร้านิดหน่อย แก้วคงไม่เคยเล่าเรื่องของเขาให้ลูกฟังเลยสินะ เขาคงไม่มีความดีให้เธอจดจำหรอก เพราะเขาทำร้ายทั้งเธอและลูกมาตลอดแม้แต่คำว่าพ่อเขายังไม่สมควรจะให้ลูกเรียกด้วยซ้ำ เขาชื่นชมในตัวแก้วมากที่เลี้ยงลูกของเขากับเธอได้ดีอย่างนี้
“พ่ออย่าร้องสิครับ แม่บอกกรานต์ว่าเป็นลูกผู้ชายต้องไม่ร้องให้นะครับ” น้องกรานต์เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ผู้เป็นพ่อ ทั้งที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันไหลออกมาตอนไหน
“ขอบคุณนะครับลูกชาย ป่ะถึงแล้วรีบทานกันดีกว่าเดี๋ยวพ่อพาไปเที่ยวที่อื่นอีก”
หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็พาลูกชายไปเที่ยวต่ออีกหลายที่ นี่คงเป็นวันสุดท้ายที่เขาจะได้อยู่ที่นี่ เพราะพรุ่งนี้เขาก็จะกลับกรุงเทพแล้ว คงไม่มีโอกาสได้เจอแก้วกับลูกอีก เขายอมทำตามข้อเสนอเธอเพื่อที่จะให้แก้วให้อภัยเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่กับเธอและลูกก็ตาม เมื่อเที่ยวกันจนเย็นแล้วเขาก็พาลูกกลับที่พัก เมื่อไปถึงก็เห็นแก้วที่ยืนคอยลูกชายอยู่ พอน้องกรานต์ลงจากรถเธอก็รีบดึงลูกมาหาเธอแล้วตีที่ก้นอย่างแรง
เพี๊ย! เพี๊ย!
“ไปไหนทำไมไม่บอกแม่ห๊ะรู้มั้ยแม่เป็นห่วงขนาดไหน เพี๊ย!”
“ฮื่อๆ..แม่ครับกรานต์เจ็บ โอ๊ย!” เพี๊ย! เพี๊ย! รู้ว่าลูกเจ็บแต่ก็ต้องตีให้หลาบจำบ้าง ที่เธอทำไปก็เสียใจแต่เมื่อลูกทำผิดก็ต้องทำ
“แก้วพอเถอะ! น้องกรานต์ไม่ผิด พี่ผิดเอง ถ้าจะทำอะไรมาทำพี่ อย่ามาลงที่ลูกแบบนี้” โทโมะเมื่อเห็นลูกถูกแก้วตีก็รีบมาขว้างแล้วกอดลูกที่ยืนร้องให้
“คุณไม่ต้องมาพูด! คุณไม่มีสิทธิ์พาลูกไหนทั้งไหนน้องกรานต์เป็นลูกของฉัน!” แก้วถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“ใช่! แก้วมีสิทธิ์ในความเป็นแม่ แต่พี่ก็มีสิทธิ์ในความเป็นพ่อเหมือนกัน!” โทโมะพูดเขาเข้าใจว่าแก้วเป็นห่วงลูก แต่ทำไมถึงกับต้องตีลูกด้วย
“น้องกรานต์เป็นลูกฉันคนเดียว! ฉันเลี้ยงเขามาฉันมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้!”
“แน่ใจเหรอว่าเป็นลูกของแก้วคนเดียว! ฉันพี่ไม่ทำแก้วจะท้องมั้ยล่ะ ถึงแก้วจะเลี้ยงน้องกรานต์มาแก้วก็ไม่มีสิทธิ์ตีลูกแบบนี้ ถ้าจะทำมาทำที่พี่ ไม่ใช่กับลูก!” โทโมะพูดแก้วถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก
“ฮื่อๆ..แม่ ครับ กรานต์ ขอโทษ” น้องกรานต์ก้มลงกราบเท้าผู้เป็นแม่แล้วสักพักร่างของลูกชายก็ทรุดลงกับพื้น
“น้องกรานต์! เป็นอะไรไปครับ แม่ขอโทษ ฮื่อๆ แม่ขอโทษ” เมื่อโทโมะเห็นดังนั้นจึงรีบอุ้มร่างที่หมดสติของลูกชายขึ้นรถพร้อมกับแก้วแล้วไปส่โรงพยาบาลทันที
ตอนแรกไรเตอร์คิดว่าฟิคชั่นเรื่องนี้จะไปไม่รอดซะอีก แต่หลังมากนี้รีดเดอร์ให้กำลังใจไรเตอร์โดยการเม้น โหวตมากขึ้น ทำให้ไรเตอร์มีกำลังเพิ่มขึ้น ขอบคุณนะคะ ไรเตอร์ก็ไม่มีอะไรมากซ้ำๆเดิม ฝากเม้นโหวตด้วยนะคะ ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ