I can say...ได้ไหมถ้าฉันจะบอกว่ารักเธอ
8.5
11)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความจู๊กกกกกรู้ว!!~
เสียงนกประหลาดๆร้องดังขึ้นทำให้ฉัน(จำเป็น)ต้องตื่นขึ้นมาด้วยความรำคาญ หาได้ตื่นเองโดยธรรมชาติไม่! นี่..รู้ไหมว่าถ้าฉันนอนน้อยเกินไปไม่ครบเวลามาตรฐานระหว่าง 8-10 ชม. ใบหน้าและขอบตาสวยๆของฉันอาจจะหม่นหมองและฉันก็คงกลายเป็นหมีแพนด้าไปในที่สุด และฉัน...ยอมไม่ได้!>_<!
อัยหยา...ทำไมฉันถึงรู้สึกหนักๆที่เอวจังหว่า=()= รู้สึกแบบนั้นปุ๊ปสมองก็สั่งการให้หันไปมองที่เอวปั๊บ! และ..จ้ากกกกก ดิออส มิโอ!!!!!!>O< ด้วยความตกใจที่เห็นนายผีดิบแวมไพร์ทนั่นนอนกอดฉันอยู่ ฉันก็เลยเปล่งคำอุทานออกมาเป็นภาษาสเปนได้อย่างสวยงาม แปะๆๆๆ กรุณาตบมือให้ฉันด้วย^O^ (ถ้าคิดว่าฉันจะไม่ปัญญาอ่อนจนเกินไป-__-^)
“เฮ้ย โทโมะตื่นๆๆ ลุกออกไปจากที่นอนของฉันได้แล้ว”
“หืมมมม~ ฉันง่วง จะนอน เธอนั่นแหละออกไป=__=” หน็อย ให้ตาย! ยังมีหน้ามาไล่ฉันอีกเรอะ นี่มันห้องนอนของฉันนะถึงแม้ว่ามันจะเป็นบ้านของเขาก็ตาม แต่ไงก็...ควรจะเกรงใจฉันบ้างอะไรบ้าง อย่านึกว่าเป็นเจ้าของบ้านแล้วจะนึกทำอะไรตามใจชอบก็ได้แบบเน้ กร๊อซซซ อย่าให้คนสวยโมโหจนต้องใช้ไม้ตายนะ ขอบอก..ฉันเคยทำพี่ชายต้องแอดมิทเข้าโรง’บาลมาแล้วด้วยนะบอกให้!-3-
“นายจะตื่นหรือไม่ตื่นโทโมะ ฉันให้เวลานายได้คิดรักษาชีวิตตัวเองอีกสามนาทีเท่านั้นนะ!”
“โว้ยยย ยัยเด็กผี! เธอหุบปากอยู่นิ่งๆบ้างได้ม่ะ? คนจะนอนโว้ยยย” ว่าแล้วอีตาโทโมะก็คว้าหมอนใบใหญ่ขึ้นมาปิดหูแล้วมุดหัวลงไปใต้ผ้าห่ม เอ๊อะ! ปิดการรับฟังทุกอย่างจากฉัน-_-^ ก็ได้...ฉันถือว่าฉันให้โอกาสนายแล้วนะ และนายก็เป็นคนทิ้งโอกาสนั้นไปเอง เพราะฉะนั้น ตาย!
ฉันลุกขึ้นพรืดยืนบนเตียงด้วยความรวดเร็วก่อนจะเสียวแปลบๆที่ข้อเท้าจากการสะดุดล้มเมื่อวาน ฮึ พูดแล้วก็เจ็บใจนัก เพราะหมอนี่คนเดียวที่ทำให้ฉันต้องเจ็บตัวแบบนี้ กรี๊ดดๆๆๆๆ โมโหๆค่ะ>[]< ดีเลย...ได้เวลาเอาคืนเสียบ้าง ทำฉันเจ็บมาเยอะ คราวนี้แหละ ไม่รอดเงื้อมมือฉันแน่ นายจะต้องเจ็บมากกว่าที่ฉันเจ็บ วะฮ่าๆๆ
ฉันยืนเท้าสะเอวอยู่บนเตียงอย่างใช้ความคิด ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนใจเป็นสงสารหมอนี่แต่ประการใด เพียงแต่คิดว่า 1. เอาแค่เบาะๆ 2. เอาให้เจ็บ 3. เอาให้ตาย! เออะ! ซึ่งข้อสุดท้ายฉันคงทำไม่ได้ เพราะฉันไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นฆาตกรอ่ะนะ^^’’ เอาเป็นว่าเบาะๆมันน้อยไป งั้นขอเจ็บๆละกัน ฮี่ๆ ก่อนที่ฉันจะกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านของฉันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขอทำอะไรให้หมอนี่จดจำไปจนวันตายซะหน่อยก็แล้วกัน ฮิๆ
โอเค ทุกอย่างพร้อม....ย๊าสสสสสสสสสสสส์!!!!!!!!!!!!!
ตุ้บ! พลั่ก! อ๊ากกกกกกกกกกก!!!!~
ฉันเด้งตัวขึ้นไปบนอากาศก่อนจะทิ้งตัวลงบนแผ่นหลังของมองนั่นที่กำลังหฤหรรษ์อยู่กับการนอนอย่างมีความสุขของเขา และตามด้วยเสียงร้องของโทโมะทันทีที่ฉันทิ้งตัวลงไป หมอนั่นพลิกตัวกลับมาพลางส่งสายตาอำมหิตพิศวาส เอ่อ ไม่ใช่ละ>< ส่งสายตาดุดันราวกับต้องการจะฉีกเนื้อฉันออกเป็นชิ้นๆ กรี๊ดดดด!~ กลัวตายแหละ!
“ยัยบ้า ยัยเด็กผี ยัยโรคจิต ซาดิสถ์ เธอทำบ้าอะไรกับฉันเนี่ย โอ้ยย เจ็บนะโว้ย!” หมอนั่นกุมบริเวณก้นกบตัวเองด้วยสีหน้าปวดร้าว เอ๋...หรือฉันจะเล่นแรงไปหว่า แน่สิ..ฉันเคยใช้วิธีนี่กับพี่ทีเจมาก่อน ตอนที่พี่ชายขี้เซาของฉันไม่ยอมตื่นไปโรงเรียนจนพลอยทำให้ฉันต้องไปสายด้วย ฉันก็เลยปลุกพี่ทีเจด้วยวิธีเดียวกันกับโทโมะตอนเนี่ย และผลปรากฏออกมาว่า พี่ชายฉันกระดูกเคลื่อนจนต้องเข้าเฝือกเป็นอาทิตย์ๆ ส่งผลให้ฉันโดนคุณแม่ด่าไปตามระเบียบ ฮี่ๆ
“ฉันให้เวลานายคิดแล้ว นายไม่ลุกเอง ก็...ช่วยไม่ได้ ถือซะว่าเราหายเรื่องที่นายเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุกับ ฉัน ฉันเลยต้องเจ็บตัวเมื่อวานแล้วกัน!”
“ยัยบ้า ไอ้เรื่องที่เธอหกล้ม อันที่จริง มันไม่สมควรจะเรียกว่าอุบัติเหติเลยด้วยซ้ำ!”
“อ้ายยยยย เจ็บตัวแล้วยังปากดีอีกนะโทโมะ >__< ฉันเจ็บจริงๆนะ แล้วตอนนี้ก็ยังเจ็บอยู่ด้วย รู้ไว้ซะ!”
“แล้วที่ฉันเจ็บปางตายอยู่เนี่ย เรียกว่าอะไร ยัยเด็กผี เธอเป็นคนจงใจแกล้งฉัน โอยยยยย~” โทโมะร้องโอดครวยด้วยความเจ็บ อันที่จริงก็ไม่รู้แน่ชัดเหมือนกันว่าหมอนี่ใช้มารยาเจ้าเล่ห์อะไรหรือเปล่า? ไม่ได้ๆๆ ไม่น่าเชื่อถือ คนอย่างเขาเสียเท่าไหร่!
“นายสำออยแล้วโทโมะ ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฉันจะไปมีปัญญาอะไรทำให้นายเจ็บปางตายแบบน้านน>O<”
“ตัวเล็ก? เฮอะ! นี่ไม่เคยมีใครบอกเธอมาก่อนเหรอ ว่าเธอนะ..หนักยิ่งกว่าลูกหมูร้อยตัวรวมกันเสียอีก กลับไปชั่งน้ำหนักดูซะบ้างนะยัยแก้วแตก!”
O__O
ฮะ? ว่าอะไรนะ ฉันรู้สึกเหมือนหูตัวเองจะฝาดๆ อะไรหมูๆนะ หมอนั่นคงไม่ได้ว่าฉันอ้วนเป็นหมูใช่ไหม(?)
“ฮะ เดี๋ยวนะ ขออีกรอบ เมื่อกี๊นายว่ายังไงนะ!”
“ฮึ ฉันก็บอกว่าเธอนะ อ้วนเป็นหมู หนักก็หนัก นี่ถ้าหลังฉันหักไปคงไม่ต้องสงสัยเลย เพราะเธอนั่นแหละยัยแม่หมู!!!”
“กรี๊ดดดด!~ รับไม่ได้ ฉันไม่ใช่หมู TOT ให้ตายเหอะ โทโมะนายใส่ร้ายฉันเกินไปแล้ว ถอนคำพูดของนายนะบัดNow เด็กผู้หญิงเอวบางร่างงามอย่างฉันจะเป็นแม่หมูได้ยังไง ไม่จริงอ่ะT^T” ในขณะที่ฉันกำลังฟูมฟายกับคำพูดเย้ยหยันของเขา โทโมะก็เอี้ยวตัวมาดึงขากดให้ฉันนั่งลงข้างๆแถมยังลากสังขารกระเถิบเข้ามาใกล้ๆพลางกระซิบกระซาบชวนจั๊กจี้-///- อยู่ข้างๆหู
“เอวบางร่างงาม? จริงเหรอ ขอดูหน่อยสิ!” อ๊ากกกก ปากเหรอที่พูด>< สาบานว่านายคือคนเจ็บใกล้ตายอย่างที่สำออยพูดไว้เมื่อกี๊ เลวร้ายมาก>__< คำพูดนายช่างแสดงถึงความหื่นเอาไว้เต็มเปี่ยม บ้าที่สุเสียยิ่งกว่าอะไร ทำไมฉันจะต้องน่าแดงไปกับคำพูดวาบหวิวของเขาด้วยนะ ฉันควรจะโกรธไม่ใช่หรือยังไงกัน!?
“อี๋ ไอ้โรคจิต นี่แหนะๆๆ”ฉันฟาดฟาดมือลงบนไหล่หนาของเขาด้วยความเขินอายที่ถูกเขาพูดจาจาบจ้วงแบบนั้น
“โอ้ยย โอ๊ยยยยย เจ็บ ฉันเจ็บหลัง แก้วพาฉันไปหาหมอที เร็ว”
“ไม่ ฉันจะปล่อยให้นายนอนโอดครวญอยู่ตรงนี้แหละ คนลามก>__<”
“เธอว่าฉันลามก แต่เธอก็ชอบไม่ใช่เหรอ?” เขาแกล้งกระเซ้าล้อเลียนจนฉันละอยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีความอับอายนั่น ว่าแต่ บ้า เขาบ้าไปแล้ว ฉันไปชอบความลามกของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่คน คนบ้า คนโรคจิต กรี๊ดดด ตาบ้า พูดจาแบบนี้ฉันเสียหายนะยะ แบบนี้ต้องมีเคลียร์-___-!~
“ไอ้บ้า ฉัน..-/////- ฉัน ฉันไม่ได้ชอบซะหน่อย”
“เธอชอบสิ อะๆ ไม่อย่างนั้นเธอจะหน้าแดงเป็นลูกตำแบบนี้หรือไงเล่า? จะให้เดาก็คงไม่อยาก ที่เธอหน้าแดง 1. ก็เพราะเธอกำลังโกรธที่ฉันพูดจาแบบนั้นใส่เธอ 2. เธอกำลังเขินที่ฉัน...พูดเรื่องจริง^^”
“ใช่! นายเข้าใจถูกแล้วว่าฉันกำลังโกรธ ฉัน..ฉันไม่ได้เขินซะหน่อย จำเป็นด้วยเหรอว่าฉันต้องเขินนะ นายไม่มีอิทธิพลมากพอกับหัวใจของฉันนักหรอก โทโมะ!”
“งั้นเหรอ? แต่ฉันคิดว่า เธอกำลังรักฉันซะแล้วสิ น่าแปลกนะที่ฉันคิดแบบนั้น..หรือเธอว่า ฉันคิดผิดละเด็กน้อย” เขาโค้งใบหน้าหล่อเนียนเข้าหาฉัน ลืมเลือนความเจ็บปวดโดยสิ้นเชิง คำพูดของเขาทำเอาใจของฉันกระตุกวูบอย่างใจหาย กลัวเหลือเกินที่ฉันจะหลุดอาการใดๆออกไปจนเขารู้ตัวขนาดนั้น เฮ้ยยยO__< ไม่สิ...ฉัน ฉัน ไม่ได้รักเขาเสียหน่อย ไม่จริง ฉันไม่ได้รักผีดิบอย่างเขาแน่ ไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่ออออ!!!~
“บะ บะ บ้า-//////- นายคิดเองเออเอง..ฉัน...ฉันไม่ได้รักนาย”
“งั้นบอกฉันสิ...เธอหลบสายตาฉันทำไม?” โทโมะช้อนคางเรียวของฉันขึ้นให้สาตาของฉันอยู่ในระนาบเดียวกันกับสายตาของเขา แต่ก็ยังไม่วายที่ฉันจะเสสายตามองไปทางอื่น ด้วยเพราะอะไรก็ไม่รู้...ฉันถึงไม่สามารถสบตาของเขาได้เลย มันเป็นเพราะอะไร หวังว่าไอ้การที่ฉันไม่กล้าสบตากับเขาแค่นี้ มันจะคือความรัก! งั้นความรักสำหรับฉันคงยังไม่เกิดขึ้นหรอก เพราะทุกอย่างมันยังดู ง่าย-เกิน-ไป!
“เปล่า...ฉันแค่ไม่อยากเห็นหน้าไอ้บ้ากามแถวนี้ตะหาก”
“เหรอ? ฮะๆ แล้วทำไมตัวแข็งทื่อแบบนี้ละ กลัวอะไรงั้นหรือ?”
“ก็นาย...นาย..นาย! นายนี่มันกวนประสาทชะมัดเลย ปล่อยฉันนะไอ้ลามก!” เขาอมยิ้มน้อยๆแต่ดูแล้วหล่อละลายโค-ตะ-ระๆ มิน่าละ ยัยแพทอะไรนั่นถึงยังไม่ยอมรามือจากโทโมะ ฮึ! อันที่จริง ยัยนั่นจะเป็นอะไรกับโทโมะ หรือโทโมะจะเป็นอะไรกับยัยนั่นมันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันเลย แล้วทำไม..ฉันต้องมานั่งหงุดหงิดอยู่คนเดียวในใจด้วยว่ะเนี่ย กรี๊ดดดด แก้วใจอยากบ้าคร่า!
“หน้าแดงเธอน่าเด็กอีกแล้วนะเด็กผีของฉัน เธอมันน่ารักจริงๆเลย ให้ตาย...” สายตาคมเข้มดุจนกเหยี่ยวจดจ้องฉันไม่วางตา โทโมะอมยิ้มน้อยๆก่อนที่เขาจะเลื่อนใบหน้าเข้าหาฉันทีละช้าๆ ๆ หัวใจของฉันสูบฉีดเลือดอีกแล้ว อีกไม่นานมันคงจะวายตายเพราะทำงานรวดเร็วเกินไปเป็นแน่แท้ ฉันหลับตาปี๋ด้วยความเกรง มือไม้เย็นเฉียบ ตัวสั่นระริกเพียงเพราะเขาเข้าใกล้ฉันมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น
“เธอต้องดูและฉันจนกว่าฉันจะหายนะคนดี” โทโมะกดจูบลงบนปลายคางฉันแผ่วเบา ความร้อนจากริมฝีปากขงเขาแผ่ซ่านจากช่วงที่เขาจูบลุกลามไปยังแก้มขาวทั้งสองข้างที่บัดนี้มันกำลังร้อนซ่านจนแทบระเบิด ไม่อยากให้เขาเห็นฉันในตอนนี้เลยจริงๆ !
“หะ...หา” ฉันลืมตาขึ้นพร้อมตั้งคำถามทันที
“เธอทำให้ฉันเจ็บตัว เพราะฉะนั้น...เธอต้องดูและฉันนะ”
“-0- จำเป็นด้วยเหรอที่ฉัน เอ่อ ฉันต้องดูและนาย เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย หรือว่า ถ้านายอยากจะให้มีคนมาดูแลนักละก็...ฉันโทรหายัยแพทอะไรนั่นให้เอาม่ะ?”
“นี่หยุดเลยนะ ไม่ต้องคิดอะไรบ้าๆนั่นเลย! แล้วใครบอกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ใครหน้าไหนมันบอกเธอแบบนั้น!” เขาเอ่ยเสียงขุ่นด้วยความไม่พอใจที่ฉันพูดคำว่า ‘ไม่ได้เป็นอะไรกัน’ ออกมา อ้าว...แล้วฉันพูดอะไรผิดตรงไหนละ ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆนี่นา
ไม่อยากจะเอ่ยปากเถียงโทโมะให้เมื่อยปาก ฉันจำต้องยอมดูแลเขาไป อันที่จริงฉันก็ผิดที่เล่นอะไรรุนแรงแบบนั้น แต่ว่า..อีตานี่ร้ายกาจกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะ เขาบอกว่าอะไรรู้ไหม? ภารกิจแรกที่ฉันจะต้องทำก็คือ ถอดเสื้อ และ..อาบน้ำให้เขา อยากจะบ้า..หมอนั่นทำไมถึงคิดอะไรอุบาทว์ๆแบบนี้ได้ลงคอนะ แต่ก็ไม่มีทางเลือกนี่นา ในเมื่อโทโมะใช้แผน(ตื้นๆ)บอกกับฉันว่า...
“ก็ถ้าเธอไม่ถอดให้แล้วใครจะถอด ฉันก้มหลังไม่ได้ เพราะเธอนั้นแหละ-__-^” ...นั่นไง มันเป็นแผนตื้นๆแต่ทว่า...ก็ทำให้ฉันพูดไม่ออกและปฏิเสธไม่ลงเลยทีเดีย ชิ คนร้ายกาจ! ...จะทำยังไงได้ ในเมื่อตอนนี้ทั้งเขาและฉันอยู่ในห้องอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว-/////- แง้...เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย แล้วถ้าเกิดฉันเห็นอะไรแวบๆขึ้นมาละ จะทำยังไง ฉันไม่อยากเป็นตากุ้งยิงนะบอกให้!>///<!
“ถูหลังให้ฉันด้วยสิ ฉันเจ็บหลัง ไม่ถนัดอ่ะ” หมอนั่นโยนยัยบัวที่ใช้สำหรับขัดผิวใส่หน้าฉันอย่างจังจนหน้าฉันเลอะไปด้วยฟองสบู่ แต่เดี๋ยว...กรี๊ดดดดด>__< หมอนี่ขัดตรงไหนไปแล้วบ้างเนี่ย ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นที่เขาถูๆแวบๆ นั่นมัน ตรง...ช่วงล่างนี้ อ๊ากกกกกกกก จ้ากกกกก กรี๊ดดดดดดด!!!~ ทำแบบนี้กับฉันได้ไง ไม่ย้อมYOY
“แง้..ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย ไม่เข้าใจเลยYOY”
“อย่ามาคร่ำครวญ เธอนั่นแหละตัวปัญหา จัดการกับฉันซะ เราจะได้รีบไปทานอาหารกันซะที ฉันหิวจะแย่อยู่แล้ว อีกอย่างนะ อยากจะชิมฝีมือเธอใจจะขาดแล้วด้วย^^” หมอนั่นพูดไปยิ้มไป ฮัมเพลงไปอย่างลั้นลามีความสุขต่างจากฉันลิบลับ! ขมขื่นมากค่ะ นอกจากฉันจะอาบน้ำให้ผู้ชาย? ไม่เป็นแล้ว การทำอาหารยังจัดได้ว่า อยู่ในระดับยื่นให้สุนัข สุนัขยังเมินหน้าอีกต่างหาก ฉันว่าให้เด็ก ป.1 มาทอดไข่ให้ยังจะกินได้มากกว่าฉันทำอีกนะ แหะๆ :’)
“ทำอาหาร?”
“ใช่สิ! หรือว่า เธออย่าบอกนะว่า...เธอห่วยจนไม่สามารถปรุงอาหารให้ฉันได้ โฮะๆ โธ่เอ๋ย! ยัยเบบี๋ ชาตินี้เธอจะได้แต่งงานออกเหย้าออกเรือนหรือเปล่าเนี่ย ฮ่าๆๆ ใครเขาจะหน้ามืดตามัวมาขอเธอเป็นแม่ของลูกกันหนอ(ถ้าไม่ใช่ฉัน)” แว้กกกก แดกดัน ดูถูกฉันสารพัดสารเพอย่างนี้ แก้วใจยอมไม่ได้คร่า>__< เอาก็เอาฟ่ะ ยอมขายผ้าเอาหน้า(สวยๆ)รอดไปก่อนก็แล้วกัน คนอย่างแก้วใจ ฆ่าได้ แต่ห้ามหยาม (เพราะฉันจะรู้สึกว่าฉันเสียศักดิ์ศรีม๊ากมาก และฉันยอมไม่ได้เด็ดขาด!) แต่เอ๊ะ เมื่อกี๊ได้ยินแว่วๆกับประโยคต่อสุดท้ายของเจขา อะไร ฉันๆ นะ ไม่ได้ยินอ่ะ! แต่ช่างเหอะ ดูถูกกันขนาดนี้ก็ออกจะเกินไปหน่อยแล้ว ชิ ฉันจะแสดงฝีมือทำอาหารให้นายดูแล้วกัน!
“เหอะ!ถอนคำพูดของนายนะโทโมะ ฉันนะทำให้คุณแม่ทานบ่อยจะตาย แถมคุณแม่ยังบอกอีกด้วยว่าอร๊อยอร่อยจนถึงขนาดเปิดร้านเป็นของตัวเองก็ยังได้!”
“ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน คุณเชฟใหญ่ ฮ่าๆๆ” -__-^^ เอ่อ..ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดเลยนะ แล้วฉันดม้ไปเยอะขนาดนั้นเกิดออกมาแล้วมันกินไม่ได้ ไม่ต้องถูกโทโมะหัวเราะเยาะตายเลยเหรอนั่น เวรแล้วYOY
ฉันค่อยๆลากสังขารโทโมะออกมาจากห้องน้ำด้วยความทุลักทุเล ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาเจ็บหลังหรือเป็นง่อยกันแน่ เห็นบอกว่าเดินไม่ถนัด-__- ...ก็ว่ากันไป กรรมซ้ำซ้อนอะไรของฉันวะเนี่ย! หมอนั่นใช้ให้ฉันแต่งตัวให้อีกอ่ะ สงสันเขาจะเป็นง่อยฉับพลันขึ้นมาทันทีทันใดเลยมั้งเนี่ย โว๊ะ! ฉันค่อยๆติดกระดุมให้เขาทีละเม็ดๆไปตามแผงอกล่ำบึกนั่น แว้กกก เขินเป็นบ้าเลย-////- หมอนี่แข็งแรงชะมัดยาดเลย
“อะแฮ่ม จ้องจะงาบฉันเหรอไง? ทำสายตาแบบนั้นเดี๋ยวฉันก็กินเธอแทนข้าวหรอก!”
“O////O บ้า! ไอ้บ้า!!”
“ฮะๆ ไปกันได้แล้ว ฉันหิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว ได้เวลาโชว์ฝีมือแล้วคุณเชฟคนเก่ง^^”
“ได้! คอยกินสปาเกตตี้ปลาเค็มที่อร่อยที่สุดในโลกได้เลย”
“ครับผม^__^” เขายิ้มกว้างก่อนจะเดินนำลงไปนั่งคอยในห้องครัว ส่วนฉันอะเหรอ ยืนสวดมนต์ภาวนาขอให้คุรพะคุณเจ้าคุ้มครองให้รอดปลอดภัยจากคำขู่ของโทโมะก่อนที่ฉันกำลังจะลงมือทำอย่างเก้ๆกัง
“จำไว้นะ ถ้าทำไม่อร่อยย่างที่พูดไว้ละก็...ฉันจะกินเธอแทนมื้อเช้า!”
O////O ไอ้บ้านี่จะให้ฉันอายไปถึงไหนกัน?
ฉันเลยรีบลงมือทำอย่างทุลักทุเลพอสมควร หยิบโน่นใส่นี้หยิบนี้ใส่นั่นผสมปนเปกันไปหมดจนไม่รู้ว่าไอที่ทำอยู่นะ มันคือสปาเกตตี้ปลากเค็มของโปรดของเขาหรือเปล่า? ไม่รู้อ่ะ กินได้ก็กิน กนไม่ได้ก็..ต้องกิน!
ไม่นานนักสปาเกตตี้หน้าตาประหลาดๆก็ถูกวางลงต่อหน้าโทโมะ หมอนั่นทำหน้าฉุนตอนที่ก้มหน้าไปสูดกลิ่นอาหาร คิ้วเข้มขมวดกันเป็นปมจนฉันชักจะหมั่นไส้ ตกลงจะกินหรือดมกันแน่
“เอาล่ะ หน้าตาก็โอเค้..ถึงแม้ว่ามันจะดูมั่วๆไปหน่อยก็ตาม”
น่านปาก-__-^ ขอบคุณนะที่ชม!
“กินๆเข้าไปเหอะน่า มันอร่อยมากแน่ๆ ฉันการันตี ฮิๆ” ฉันยืนกอดอกยืนยิ้มอย่างพอใจ ก่อนที่หมอนั่นจะกระตุกยิ้มใส่อย่างเย้ยหยัน มือหนาของเขาจับช้อนส้อม พร้อมจะกินอาหารของฉันแล้ว^^
และทันทีที่เส้นสปาเกตตี้เข้าสู่ปากของเขา โทโมะก็...
“อ๊ากกกกก ยัยเด็กผีนี่มันสปาเกตตี้ปลาเค็มหรือเส้นหมี่ดองเกลือกันหา? เค็มโว้ยยย!!!!!!!!”
..................................................................................................................................
เจี๊ยกกกกก~ หวังว่าเค้าคงไม่หายไปนานเกินไป
-/\- ขออภัยเว่อๆ แหะๆ :') ช่วงนี้ตัวขี้กเกียจ
กำลังครอบงำจิตใจและร่างกายยยยยยย~เฟี้ยวว
เสียงนกประหลาดๆร้องดังขึ้นทำให้ฉัน(จำเป็น)ต้องตื่นขึ้นมาด้วยความรำคาญ หาได้ตื่นเองโดยธรรมชาติไม่! นี่..รู้ไหมว่าถ้าฉันนอนน้อยเกินไปไม่ครบเวลามาตรฐานระหว่าง 8-10 ชม. ใบหน้าและขอบตาสวยๆของฉันอาจจะหม่นหมองและฉันก็คงกลายเป็นหมีแพนด้าไปในที่สุด และฉัน...ยอมไม่ได้!>_<!
อัยหยา...ทำไมฉันถึงรู้สึกหนักๆที่เอวจังหว่า=()= รู้สึกแบบนั้นปุ๊ปสมองก็สั่งการให้หันไปมองที่เอวปั๊บ! และ..จ้ากกกกก ดิออส มิโอ!!!!!!>O< ด้วยความตกใจที่เห็นนายผีดิบแวมไพร์ทนั่นนอนกอดฉันอยู่ ฉันก็เลยเปล่งคำอุทานออกมาเป็นภาษาสเปนได้อย่างสวยงาม แปะๆๆๆ กรุณาตบมือให้ฉันด้วย^O^ (ถ้าคิดว่าฉันจะไม่ปัญญาอ่อนจนเกินไป-__-^)
“เฮ้ย โทโมะตื่นๆๆ ลุกออกไปจากที่นอนของฉันได้แล้ว”
“หืมมมม~ ฉันง่วง จะนอน เธอนั่นแหละออกไป=__=” หน็อย ให้ตาย! ยังมีหน้ามาไล่ฉันอีกเรอะ นี่มันห้องนอนของฉันนะถึงแม้ว่ามันจะเป็นบ้านของเขาก็ตาม แต่ไงก็...ควรจะเกรงใจฉันบ้างอะไรบ้าง อย่านึกว่าเป็นเจ้าของบ้านแล้วจะนึกทำอะไรตามใจชอบก็ได้แบบเน้ กร๊อซซซ อย่าให้คนสวยโมโหจนต้องใช้ไม้ตายนะ ขอบอก..ฉันเคยทำพี่ชายต้องแอดมิทเข้าโรง’บาลมาแล้วด้วยนะบอกให้!-3-
“นายจะตื่นหรือไม่ตื่นโทโมะ ฉันให้เวลานายได้คิดรักษาชีวิตตัวเองอีกสามนาทีเท่านั้นนะ!”
“โว้ยยย ยัยเด็กผี! เธอหุบปากอยู่นิ่งๆบ้างได้ม่ะ? คนจะนอนโว้ยยย” ว่าแล้วอีตาโทโมะก็คว้าหมอนใบใหญ่ขึ้นมาปิดหูแล้วมุดหัวลงไปใต้ผ้าห่ม เอ๊อะ! ปิดการรับฟังทุกอย่างจากฉัน-_-^ ก็ได้...ฉันถือว่าฉันให้โอกาสนายแล้วนะ และนายก็เป็นคนทิ้งโอกาสนั้นไปเอง เพราะฉะนั้น ตาย!
ฉันลุกขึ้นพรืดยืนบนเตียงด้วยความรวดเร็วก่อนจะเสียวแปลบๆที่ข้อเท้าจากการสะดุดล้มเมื่อวาน ฮึ พูดแล้วก็เจ็บใจนัก เพราะหมอนี่คนเดียวที่ทำให้ฉันต้องเจ็บตัวแบบนี้ กรี๊ดดๆๆๆๆ โมโหๆค่ะ>[]< ดีเลย...ได้เวลาเอาคืนเสียบ้าง ทำฉันเจ็บมาเยอะ คราวนี้แหละ ไม่รอดเงื้อมมือฉันแน่ นายจะต้องเจ็บมากกว่าที่ฉันเจ็บ วะฮ่าๆๆ
ฉันยืนเท้าสะเอวอยู่บนเตียงอย่างใช้ความคิด ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนใจเป็นสงสารหมอนี่แต่ประการใด เพียงแต่คิดว่า 1. เอาแค่เบาะๆ 2. เอาให้เจ็บ 3. เอาให้ตาย! เออะ! ซึ่งข้อสุดท้ายฉันคงทำไม่ได้ เพราะฉันไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นฆาตกรอ่ะนะ^^’’ เอาเป็นว่าเบาะๆมันน้อยไป งั้นขอเจ็บๆละกัน ฮี่ๆ ก่อนที่ฉันจะกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านของฉันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขอทำอะไรให้หมอนี่จดจำไปจนวันตายซะหน่อยก็แล้วกัน ฮิๆ
โอเค ทุกอย่างพร้อม....ย๊าสสสสสสสสสสสส์!!!!!!!!!!!!!
ตุ้บ! พลั่ก! อ๊ากกกกกกกกกกก!!!!~
ฉันเด้งตัวขึ้นไปบนอากาศก่อนจะทิ้งตัวลงบนแผ่นหลังของมองนั่นที่กำลังหฤหรรษ์อยู่กับการนอนอย่างมีความสุขของเขา และตามด้วยเสียงร้องของโทโมะทันทีที่ฉันทิ้งตัวลงไป หมอนั่นพลิกตัวกลับมาพลางส่งสายตาอำมหิตพิศวาส เอ่อ ไม่ใช่ละ>< ส่งสายตาดุดันราวกับต้องการจะฉีกเนื้อฉันออกเป็นชิ้นๆ กรี๊ดดดด!~ กลัวตายแหละ!
“ยัยบ้า ยัยเด็กผี ยัยโรคจิต ซาดิสถ์ เธอทำบ้าอะไรกับฉันเนี่ย โอ้ยย เจ็บนะโว้ย!” หมอนั่นกุมบริเวณก้นกบตัวเองด้วยสีหน้าปวดร้าว เอ๋...หรือฉันจะเล่นแรงไปหว่า แน่สิ..ฉันเคยใช้วิธีนี่กับพี่ทีเจมาก่อน ตอนที่พี่ชายขี้เซาของฉันไม่ยอมตื่นไปโรงเรียนจนพลอยทำให้ฉันต้องไปสายด้วย ฉันก็เลยปลุกพี่ทีเจด้วยวิธีเดียวกันกับโทโมะตอนเนี่ย และผลปรากฏออกมาว่า พี่ชายฉันกระดูกเคลื่อนจนต้องเข้าเฝือกเป็นอาทิตย์ๆ ส่งผลให้ฉันโดนคุณแม่ด่าไปตามระเบียบ ฮี่ๆ
“ฉันให้เวลานายคิดแล้ว นายไม่ลุกเอง ก็...ช่วยไม่ได้ ถือซะว่าเราหายเรื่องที่นายเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุกับ ฉัน ฉันเลยต้องเจ็บตัวเมื่อวานแล้วกัน!”
“ยัยบ้า ไอ้เรื่องที่เธอหกล้ม อันที่จริง มันไม่สมควรจะเรียกว่าอุบัติเหติเลยด้วยซ้ำ!”
“อ้ายยยยย เจ็บตัวแล้วยังปากดีอีกนะโทโมะ >__< ฉันเจ็บจริงๆนะ แล้วตอนนี้ก็ยังเจ็บอยู่ด้วย รู้ไว้ซะ!”
“แล้วที่ฉันเจ็บปางตายอยู่เนี่ย เรียกว่าอะไร ยัยเด็กผี เธอเป็นคนจงใจแกล้งฉัน โอยยยยย~” โทโมะร้องโอดครวยด้วยความเจ็บ อันที่จริงก็ไม่รู้แน่ชัดเหมือนกันว่าหมอนี่ใช้มารยาเจ้าเล่ห์อะไรหรือเปล่า? ไม่ได้ๆๆ ไม่น่าเชื่อถือ คนอย่างเขาเสียเท่าไหร่!
“นายสำออยแล้วโทโมะ ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฉันจะไปมีปัญญาอะไรทำให้นายเจ็บปางตายแบบน้านน>O<”
“ตัวเล็ก? เฮอะ! นี่ไม่เคยมีใครบอกเธอมาก่อนเหรอ ว่าเธอนะ..หนักยิ่งกว่าลูกหมูร้อยตัวรวมกันเสียอีก กลับไปชั่งน้ำหนักดูซะบ้างนะยัยแก้วแตก!”
O__O
ฮะ? ว่าอะไรนะ ฉันรู้สึกเหมือนหูตัวเองจะฝาดๆ อะไรหมูๆนะ หมอนั่นคงไม่ได้ว่าฉันอ้วนเป็นหมูใช่ไหม(?)
“ฮะ เดี๋ยวนะ ขออีกรอบ เมื่อกี๊นายว่ายังไงนะ!”
“ฮึ ฉันก็บอกว่าเธอนะ อ้วนเป็นหมู หนักก็หนัก นี่ถ้าหลังฉันหักไปคงไม่ต้องสงสัยเลย เพราะเธอนั่นแหละยัยแม่หมู!!!”
“กรี๊ดดดด!~ รับไม่ได้ ฉันไม่ใช่หมู TOT ให้ตายเหอะ โทโมะนายใส่ร้ายฉันเกินไปแล้ว ถอนคำพูดของนายนะบัดNow เด็กผู้หญิงเอวบางร่างงามอย่างฉันจะเป็นแม่หมูได้ยังไง ไม่จริงอ่ะT^T” ในขณะที่ฉันกำลังฟูมฟายกับคำพูดเย้ยหยันของเขา โทโมะก็เอี้ยวตัวมาดึงขากดให้ฉันนั่งลงข้างๆแถมยังลากสังขารกระเถิบเข้ามาใกล้ๆพลางกระซิบกระซาบชวนจั๊กจี้-///- อยู่ข้างๆหู
“เอวบางร่างงาม? จริงเหรอ ขอดูหน่อยสิ!” อ๊ากกกก ปากเหรอที่พูด>< สาบานว่านายคือคนเจ็บใกล้ตายอย่างที่สำออยพูดไว้เมื่อกี๊ เลวร้ายมาก>__< คำพูดนายช่างแสดงถึงความหื่นเอาไว้เต็มเปี่ยม บ้าที่สุเสียยิ่งกว่าอะไร ทำไมฉันจะต้องน่าแดงไปกับคำพูดวาบหวิวของเขาด้วยนะ ฉันควรจะโกรธไม่ใช่หรือยังไงกัน!?
“อี๋ ไอ้โรคจิต นี่แหนะๆๆ”ฉันฟาดฟาดมือลงบนไหล่หนาของเขาด้วยความเขินอายที่ถูกเขาพูดจาจาบจ้วงแบบนั้น
“โอ้ยย โอ๊ยยยยย เจ็บ ฉันเจ็บหลัง แก้วพาฉันไปหาหมอที เร็ว”
“ไม่ ฉันจะปล่อยให้นายนอนโอดครวญอยู่ตรงนี้แหละ คนลามก>__<”
“เธอว่าฉันลามก แต่เธอก็ชอบไม่ใช่เหรอ?” เขาแกล้งกระเซ้าล้อเลียนจนฉันละอยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีความอับอายนั่น ว่าแต่ บ้า เขาบ้าไปแล้ว ฉันไปชอบความลามกของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่คน คนบ้า คนโรคจิต กรี๊ดดด ตาบ้า พูดจาแบบนี้ฉันเสียหายนะยะ แบบนี้ต้องมีเคลียร์-___-!~
“ไอ้บ้า ฉัน..-/////- ฉัน ฉันไม่ได้ชอบซะหน่อย”
“เธอชอบสิ อะๆ ไม่อย่างนั้นเธอจะหน้าแดงเป็นลูกตำแบบนี้หรือไงเล่า? จะให้เดาก็คงไม่อยาก ที่เธอหน้าแดง 1. ก็เพราะเธอกำลังโกรธที่ฉันพูดจาแบบนั้นใส่เธอ 2. เธอกำลังเขินที่ฉัน...พูดเรื่องจริง^^”
“ใช่! นายเข้าใจถูกแล้วว่าฉันกำลังโกรธ ฉัน..ฉันไม่ได้เขินซะหน่อย จำเป็นด้วยเหรอว่าฉันต้องเขินนะ นายไม่มีอิทธิพลมากพอกับหัวใจของฉันนักหรอก โทโมะ!”
“งั้นเหรอ? แต่ฉันคิดว่า เธอกำลังรักฉันซะแล้วสิ น่าแปลกนะที่ฉันคิดแบบนั้น..หรือเธอว่า ฉันคิดผิดละเด็กน้อย” เขาโค้งใบหน้าหล่อเนียนเข้าหาฉัน ลืมเลือนความเจ็บปวดโดยสิ้นเชิง คำพูดของเขาทำเอาใจของฉันกระตุกวูบอย่างใจหาย กลัวเหลือเกินที่ฉันจะหลุดอาการใดๆออกไปจนเขารู้ตัวขนาดนั้น เฮ้ยยยO__< ไม่สิ...ฉัน ฉัน ไม่ได้รักเขาเสียหน่อย ไม่จริง ฉันไม่ได้รักผีดิบอย่างเขาแน่ ไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่ออออ!!!~
“บะ บะ บ้า-//////- นายคิดเองเออเอง..ฉัน...ฉันไม่ได้รักนาย”
“งั้นบอกฉันสิ...เธอหลบสายตาฉันทำไม?” โทโมะช้อนคางเรียวของฉันขึ้นให้สาตาของฉันอยู่ในระนาบเดียวกันกับสายตาของเขา แต่ก็ยังไม่วายที่ฉันจะเสสายตามองไปทางอื่น ด้วยเพราะอะไรก็ไม่รู้...ฉันถึงไม่สามารถสบตาของเขาได้เลย มันเป็นเพราะอะไร หวังว่าไอ้การที่ฉันไม่กล้าสบตากับเขาแค่นี้ มันจะคือความรัก! งั้นความรักสำหรับฉันคงยังไม่เกิดขึ้นหรอก เพราะทุกอย่างมันยังดู ง่าย-เกิน-ไป!
“เปล่า...ฉันแค่ไม่อยากเห็นหน้าไอ้บ้ากามแถวนี้ตะหาก”
“เหรอ? ฮะๆ แล้วทำไมตัวแข็งทื่อแบบนี้ละ กลัวอะไรงั้นหรือ?”
“ก็นาย...นาย..นาย! นายนี่มันกวนประสาทชะมัดเลย ปล่อยฉันนะไอ้ลามก!” เขาอมยิ้มน้อยๆแต่ดูแล้วหล่อละลายโค-ตะ-ระๆ มิน่าละ ยัยแพทอะไรนั่นถึงยังไม่ยอมรามือจากโทโมะ ฮึ! อันที่จริง ยัยนั่นจะเป็นอะไรกับโทโมะ หรือโทโมะจะเป็นอะไรกับยัยนั่นมันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันเลย แล้วทำไม..ฉันต้องมานั่งหงุดหงิดอยู่คนเดียวในใจด้วยว่ะเนี่ย กรี๊ดดดด แก้วใจอยากบ้าคร่า!
“หน้าแดงเธอน่าเด็กอีกแล้วนะเด็กผีของฉัน เธอมันน่ารักจริงๆเลย ให้ตาย...” สายตาคมเข้มดุจนกเหยี่ยวจดจ้องฉันไม่วางตา โทโมะอมยิ้มน้อยๆก่อนที่เขาจะเลื่อนใบหน้าเข้าหาฉันทีละช้าๆ ๆ หัวใจของฉันสูบฉีดเลือดอีกแล้ว อีกไม่นานมันคงจะวายตายเพราะทำงานรวดเร็วเกินไปเป็นแน่แท้ ฉันหลับตาปี๋ด้วยความเกรง มือไม้เย็นเฉียบ ตัวสั่นระริกเพียงเพราะเขาเข้าใกล้ฉันมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น
“เธอต้องดูและฉันจนกว่าฉันจะหายนะคนดี” โทโมะกดจูบลงบนปลายคางฉันแผ่วเบา ความร้อนจากริมฝีปากขงเขาแผ่ซ่านจากช่วงที่เขาจูบลุกลามไปยังแก้มขาวทั้งสองข้างที่บัดนี้มันกำลังร้อนซ่านจนแทบระเบิด ไม่อยากให้เขาเห็นฉันในตอนนี้เลยจริงๆ !
“หะ...หา” ฉันลืมตาขึ้นพร้อมตั้งคำถามทันที
“เธอทำให้ฉันเจ็บตัว เพราะฉะนั้น...เธอต้องดูและฉันนะ”
“-0- จำเป็นด้วยเหรอที่ฉัน เอ่อ ฉันต้องดูและนาย เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย หรือว่า ถ้านายอยากจะให้มีคนมาดูแลนักละก็...ฉันโทรหายัยแพทอะไรนั่นให้เอาม่ะ?”
“นี่หยุดเลยนะ ไม่ต้องคิดอะไรบ้าๆนั่นเลย! แล้วใครบอกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ใครหน้าไหนมันบอกเธอแบบนั้น!” เขาเอ่ยเสียงขุ่นด้วยความไม่พอใจที่ฉันพูดคำว่า ‘ไม่ได้เป็นอะไรกัน’ ออกมา อ้าว...แล้วฉันพูดอะไรผิดตรงไหนละ ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆนี่นา
ไม่อยากจะเอ่ยปากเถียงโทโมะให้เมื่อยปาก ฉันจำต้องยอมดูแลเขาไป อันที่จริงฉันก็ผิดที่เล่นอะไรรุนแรงแบบนั้น แต่ว่า..อีตานี่ร้ายกาจกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะ เขาบอกว่าอะไรรู้ไหม? ภารกิจแรกที่ฉันจะต้องทำก็คือ ถอดเสื้อ และ..อาบน้ำให้เขา อยากจะบ้า..หมอนั่นทำไมถึงคิดอะไรอุบาทว์ๆแบบนี้ได้ลงคอนะ แต่ก็ไม่มีทางเลือกนี่นา ในเมื่อโทโมะใช้แผน(ตื้นๆ)บอกกับฉันว่า...
“ก็ถ้าเธอไม่ถอดให้แล้วใครจะถอด ฉันก้มหลังไม่ได้ เพราะเธอนั้นแหละ-__-^” ...นั่นไง มันเป็นแผนตื้นๆแต่ทว่า...ก็ทำให้ฉันพูดไม่ออกและปฏิเสธไม่ลงเลยทีเดีย ชิ คนร้ายกาจ! ...จะทำยังไงได้ ในเมื่อตอนนี้ทั้งเขาและฉันอยู่ในห้องอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว-/////- แง้...เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย แล้วถ้าเกิดฉันเห็นอะไรแวบๆขึ้นมาละ จะทำยังไง ฉันไม่อยากเป็นตากุ้งยิงนะบอกให้!>///<!
“ถูหลังให้ฉันด้วยสิ ฉันเจ็บหลัง ไม่ถนัดอ่ะ” หมอนั่นโยนยัยบัวที่ใช้สำหรับขัดผิวใส่หน้าฉันอย่างจังจนหน้าฉันเลอะไปด้วยฟองสบู่ แต่เดี๋ยว...กรี๊ดดดดด>__< หมอนี่ขัดตรงไหนไปแล้วบ้างเนี่ย ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นที่เขาถูๆแวบๆ นั่นมัน ตรง...ช่วงล่างนี้ อ๊ากกกกกกกก จ้ากกกกก กรี๊ดดดดดดด!!!~ ทำแบบนี้กับฉันได้ไง ไม่ย้อมYOY
“แง้..ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย ไม่เข้าใจเลยYOY”
“อย่ามาคร่ำครวญ เธอนั่นแหละตัวปัญหา จัดการกับฉันซะ เราจะได้รีบไปทานอาหารกันซะที ฉันหิวจะแย่อยู่แล้ว อีกอย่างนะ อยากจะชิมฝีมือเธอใจจะขาดแล้วด้วย^^” หมอนั่นพูดไปยิ้มไป ฮัมเพลงไปอย่างลั้นลามีความสุขต่างจากฉันลิบลับ! ขมขื่นมากค่ะ นอกจากฉันจะอาบน้ำให้ผู้ชาย? ไม่เป็นแล้ว การทำอาหารยังจัดได้ว่า อยู่ในระดับยื่นให้สุนัข สุนัขยังเมินหน้าอีกต่างหาก ฉันว่าให้เด็ก ป.1 มาทอดไข่ให้ยังจะกินได้มากกว่าฉันทำอีกนะ แหะๆ :’)
“ทำอาหาร?”
“ใช่สิ! หรือว่า เธออย่าบอกนะว่า...เธอห่วยจนไม่สามารถปรุงอาหารให้ฉันได้ โฮะๆ โธ่เอ๋ย! ยัยเบบี๋ ชาตินี้เธอจะได้แต่งงานออกเหย้าออกเรือนหรือเปล่าเนี่ย ฮ่าๆๆ ใครเขาจะหน้ามืดตามัวมาขอเธอเป็นแม่ของลูกกันหนอ(ถ้าไม่ใช่ฉัน)” แว้กกกก แดกดัน ดูถูกฉันสารพัดสารเพอย่างนี้ แก้วใจยอมไม่ได้คร่า>__< เอาก็เอาฟ่ะ ยอมขายผ้าเอาหน้า(สวยๆ)รอดไปก่อนก็แล้วกัน คนอย่างแก้วใจ ฆ่าได้ แต่ห้ามหยาม (เพราะฉันจะรู้สึกว่าฉันเสียศักดิ์ศรีม๊ากมาก และฉันยอมไม่ได้เด็ดขาด!) แต่เอ๊ะ เมื่อกี๊ได้ยินแว่วๆกับประโยคต่อสุดท้ายของเจขา อะไร ฉันๆ นะ ไม่ได้ยินอ่ะ! แต่ช่างเหอะ ดูถูกกันขนาดนี้ก็ออกจะเกินไปหน่อยแล้ว ชิ ฉันจะแสดงฝีมือทำอาหารให้นายดูแล้วกัน!
“เหอะ!ถอนคำพูดของนายนะโทโมะ ฉันนะทำให้คุณแม่ทานบ่อยจะตาย แถมคุณแม่ยังบอกอีกด้วยว่าอร๊อยอร่อยจนถึงขนาดเปิดร้านเป็นของตัวเองก็ยังได้!”
“ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน คุณเชฟใหญ่ ฮ่าๆๆ” -__-^^ เอ่อ..ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดเลยนะ แล้วฉันดม้ไปเยอะขนาดนั้นเกิดออกมาแล้วมันกินไม่ได้ ไม่ต้องถูกโทโมะหัวเราะเยาะตายเลยเหรอนั่น เวรแล้วYOY
ฉันค่อยๆลากสังขารโทโมะออกมาจากห้องน้ำด้วยความทุลักทุเล ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาเจ็บหลังหรือเป็นง่อยกันแน่ เห็นบอกว่าเดินไม่ถนัด-__- ...ก็ว่ากันไป กรรมซ้ำซ้อนอะไรของฉันวะเนี่ย! หมอนั่นใช้ให้ฉันแต่งตัวให้อีกอ่ะ สงสันเขาจะเป็นง่อยฉับพลันขึ้นมาทันทีทันใดเลยมั้งเนี่ย โว๊ะ! ฉันค่อยๆติดกระดุมให้เขาทีละเม็ดๆไปตามแผงอกล่ำบึกนั่น แว้กกก เขินเป็นบ้าเลย-////- หมอนี่แข็งแรงชะมัดยาดเลย
“อะแฮ่ม จ้องจะงาบฉันเหรอไง? ทำสายตาแบบนั้นเดี๋ยวฉันก็กินเธอแทนข้าวหรอก!”
“O////O บ้า! ไอ้บ้า!!”
“ฮะๆ ไปกันได้แล้ว ฉันหิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว ได้เวลาโชว์ฝีมือแล้วคุณเชฟคนเก่ง^^”
“ได้! คอยกินสปาเกตตี้ปลาเค็มที่อร่อยที่สุดในโลกได้เลย”
“ครับผม^__^” เขายิ้มกว้างก่อนจะเดินนำลงไปนั่งคอยในห้องครัว ส่วนฉันอะเหรอ ยืนสวดมนต์ภาวนาขอให้คุรพะคุณเจ้าคุ้มครองให้รอดปลอดภัยจากคำขู่ของโทโมะก่อนที่ฉันกำลังจะลงมือทำอย่างเก้ๆกัง
“จำไว้นะ ถ้าทำไม่อร่อยย่างที่พูดไว้ละก็...ฉันจะกินเธอแทนมื้อเช้า!”
O////O ไอ้บ้านี่จะให้ฉันอายไปถึงไหนกัน?
ฉันเลยรีบลงมือทำอย่างทุลักทุเลพอสมควร หยิบโน่นใส่นี้หยิบนี้ใส่นั่นผสมปนเปกันไปหมดจนไม่รู้ว่าไอที่ทำอยู่นะ มันคือสปาเกตตี้ปลากเค็มของโปรดของเขาหรือเปล่า? ไม่รู้อ่ะ กินได้ก็กิน กนไม่ได้ก็..ต้องกิน!
ไม่นานนักสปาเกตตี้หน้าตาประหลาดๆก็ถูกวางลงต่อหน้าโทโมะ หมอนั่นทำหน้าฉุนตอนที่ก้มหน้าไปสูดกลิ่นอาหาร คิ้วเข้มขมวดกันเป็นปมจนฉันชักจะหมั่นไส้ ตกลงจะกินหรือดมกันแน่
“เอาล่ะ หน้าตาก็โอเค้..ถึงแม้ว่ามันจะดูมั่วๆไปหน่อยก็ตาม”
น่านปาก-__-^ ขอบคุณนะที่ชม!
“กินๆเข้าไปเหอะน่า มันอร่อยมากแน่ๆ ฉันการันตี ฮิๆ” ฉันยืนกอดอกยืนยิ้มอย่างพอใจ ก่อนที่หมอนั่นจะกระตุกยิ้มใส่อย่างเย้ยหยัน มือหนาของเขาจับช้อนส้อม พร้อมจะกินอาหารของฉันแล้ว^^
และทันทีที่เส้นสปาเกตตี้เข้าสู่ปากของเขา โทโมะก็...
“อ๊ากกกกก ยัยเด็กผีนี่มันสปาเกตตี้ปลาเค็มหรือเส้นหมี่ดองเกลือกันหา? เค็มโว้ยยย!!!!!!!!”
..................................................................................................................................
เจี๊ยกกกกก~ หวังว่าเค้าคงไม่หายไปนานเกินไป
-/\- ขออภัยเว่อๆ แหะๆ :') ช่วงนี้ตัวขี้กเกียจ
กำลังครอบงำจิตใจและร่างกายยยยยยย~เฟี้ยวว
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ