I can say...ได้ไหมถ้าฉันจะบอกว่ารักเธอ
10)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
และในตอนนี้ฉันก็อยู่ที่ร้านอาหารเรียบร้อยแล้ว มาถึงหมอนั่นก็สั่งๆๆๆอาหารให้ฉันเป็นสิบๆ=__= ยังไม่รู้เลยว่าฉันจะกิน(ยัด)เข้าไปหมดหรือเปล่า(?) ดูเหมือนวันนี้ผีดิบจะยิ้มได้มากเป็นพิเศษ เพราะปกติก็อย่างที่รู้ๆกัน หมอนี้นะชอบตวาดแว้ดใส่ฉัน แล้วยังจะชอบทำหน้าโหดใส่ -__-; ซึ่งมันน่าหน้าหดหู่ใจเป็นอยากมาก>[]<
แล้วที่ไม่เข้าใจ .. หมอนี่จะยิ้มทำไมนักหนาฟ่ะ? ,,, แปลกใจมากตั้งแต่ตื่นมาตอนเช้าละ มองฉันงี้ตาหวานเยิ้มเลย หน้าฉันเป็นน้ำเชื่อมหรือเปล่าเนี่ย><
เมื่อคืนฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว .. ก็หมอนั่นเล่นมาทุบประตูปังๆๆๆ แถมพอเปิดประตูให้ก็กระโดดขึ้นเตียงซ้ำร้ายยังลากฉันไปนอนด้วยยันเช้า พอตื่นมาก็ทำหน้าตาประหลาดใส่>O< หมอนี่เมาค้างหรือไงนะ?
“โทโมะ”
“^___^”
“O__o นายเป็นอะไรไปอ่ะ? เห็นนั่งยิ้มมาตั้งแต่เช้าแล้ว ,, แล้วนี่อาหารนะ สั่งมาจะกินหมดอ่อ?” โทโมะมองตาฉันหวานฉ่ำก่อนที่เขาจะดุเหมือนได้สติขึ้นมาเล็กน้อย แต่เล่นเอาฉันงงหนักเลย-__-; ประสาท โทโมะ นายบ้าไปแล้วแหละ
“อาหาร? อาหาร เฮ้ย อาหารมาได้ไงเยอะแยะล่ะ?” อ้าว=[]= ก็นายไม่ใช่เหรอที่เป็นคนพาฉันมาที่ร้านอาหาร แล้วก็สั่งๆๆๆจนล้นโต๊ะแบบนี้อ่ะ แก้วใจงงนะเนี่ย...
“เอ้า! ก็นายเป็นคนสั่งมาให้ฉันนี่ นายบ้าหรือเปล่า โอ้ O__O! ไม่นะ นายต้อง..”
“ต้อง ต้องอะไรๆๆ?” โทโมะรีบถามฉันด้วยความตื่นตกใจ ฉันยกมือขึ้นปิดปากเล็กน้อยก่อนจะอุทานออกมาอย่างตกใจกับความนึกคิดของตัวเอง หมอนั่นก็ทำท่าอยากรู้เสียเต็มประดาทั้งยังเร่งเร้าให้ฉันพูดอีก นี่ก็เขย่าไหล่ฉันจนหัวจะหลุดอยู่ละ -__-‘
“เด็กบ้า ฉันเป็นอะไร? พูดมาสิ พูด!!”
“อ่า เอ่อ หยุดเขย่าก่อนเซ่-O-“ ได้ผล โทโมะหยุดเขย่าตัวฉันและกลับไปนั่งที่ของเค้า
“ว่าไงล่ะ?”
“นายต้องโดนของแน่ๆ ยัยแพทอะไรนั่นต้องทำของใส่นายชัวร์ๆ ฉันมั่นใจมาก”
= =^ โทโมะทำหน้างงๆกับสิ่งที่ฉันพูด อ่อ ที่ฉันพูดเนี่ย ภาษานางฟ้า นายคงไม่เข้าใจหรอกไอ้ซาตาน>__< และแล้วฉันก็คิดว่าอีกไม่เกิน 5 นาที โทโมะก็คงจะด่าว่าฉันเพ้อเจ้ออีกแหงๆๆ เชื่อสิ^__^
“เด็กน้อย ,, มานี่สิ”
“ห๊ะ? ขออีกรอบดิ-*-“ อ๊ากกกก อยากจะบ้า โทโมะไม่ด่าฉันด้วยเว้ยเฮ้ย>< ปลาบปลื้มๆเป็นอย่างมาก แถมยังเรียกฉันด้วยถ้อยคำประหลาด=__= คาดเดาว่าหมอนี่คงโดนของหนักเป็นแน่แท้ เมื่อเห็นว่าฉันไม่ยอมไปหาตาที่เขาเรียกเสียที คิ้วเข้มของผีดิบก็เริ่มจะผูกโบว์แล้ว แน่นอนถ้าฉันไม่ไป โทโมะฆ่าฉันแน่-__-++
ฉันก็เลยเดินไปหา และ...จ๊ากกกกกกกก>O<; โทโมะรั้งเอวฉันไปนั่งตักอ่ะ อ๊ากก กรี๊ดดดด><~ เขินเป็นนะย่ะ คนเยอะแยะขนาดนี้อายเค้าตายยยย ย’
“แอ้ ทำอะไรอ่ะ-///-“
“เมื่อคืนยังมากกว่านี้เลยเด็กน้อย^__^;” หา???? มากกว่านี้ มากกว่านี้ยังไง? หมอนี่ทำอะไรช้านนนTOT ทำไมพูดแมวๆแบบนี้ฟ่ะ T^T
“หา? ทำอะไร เมื่อคืนนายทำอะไรฉัน?”
“อ้าว .. ก็เราคบกันแล้วไงเมื่อคืนนี้จำไม่ได้หรือไง ความจำสั้นนะเรา? อ้อ แล้วเราก็,,เอ่อ ฟิทเจอริ่งกันแล้วไง ฮึๆ ไอ้เด็กสมองปลาทองเอ้ย นี่แนะ><” โทโมะบีบจมูกเรียวของฉันอย่างหยอกล้อ แต่เมื่อกี๊เขาว่าอะไรนะ? คบกันแล้ว และ ฟิทเจอริ่งกันแล้ววว><’ อ๊ากกกกกก ไอ้บ้า เมาหรือไงเนี่ย? ฉันไปมีอะไรกับนายตอนหนายยTOT
“จะบ้าเหรอ? ฉันยังเวอร์จิ้นอยู่นะ>[]< แล้วอีกอย่าง ก็ไม่ได้คบกับนายด้วย ฉันว่านายอ่ะ ฝันไปแล้ววววว!!”
“ฝัน?!!”
“-__-; ใช่ นายฝัน>O<;”
“เฮ้ย ไม่จริงอ่ะ>< บอกมานะว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น บอกมา!” แว้กกกก โทโมะตีหน้ายักษ์ใส่ฉันอีกแล้วอ่ะTTOTT สงสัยอีตานี่คงจะโดนของจามที่ฉันสัณนิฐานไว้แหงๆเลย?
“ก็เมื่อวานอ่ะนายไม่เชื่อใจฉัน หาว่าฉันไปกล่าวหายัยแพทเรื่องที่ส่งคนมาประทุษร้าย เชอะ!” พูดได้แค่นั้นฉันก็สะบัดเสียงพลางเชิดหน้าใส่อย่างงอนๆ และแล้ว..ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น-__-? คือโทโมะไม่คิดจะง้อฉันเลยไง...ชิ
“อย่าลีลา=()=”
“ชิ”
“อย่ามาชิ อย่ามาเชอะ เดี๋ยวเธอจะโดนไม่ใช่น้อยนะเด็กผี=__=” คาดเดาได้ว่า,,โทโมะน่าจะเริ่มหมดความอดทนกับลีลาชักช้าของฉันซะแล้วสิ แฮะๆ>O< อืม ตอนนี้ฉันเริ่มจะสำนึกได้แล้วเหมือนกันว่า ถ้ายังไม่อยากโดนด่าหูชาละก็ ควรรีบๆเล่าให้อีตานี้เข้าใจซะที คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ (.___.)’’
“ฉันน้อยใจ ..เอ่อ..งอนนั่นแหละเลยหนีกลับบ้านมาก่อน แล้วทีนี้ประมาณสี่ทุ่มฉันกำลังจะนอนนายก็กลับมาแล้วก็ทุบประตูห้องฉัน ปังๆๆๆ ซึ่งมันทำให้ฉันหลับไม่ด้ายยย>[]< ก็เลยต้องลุกมาเปิดประตูให้นาย นี่ บอกให้นะถ้าตอนนั้นฉันไม่กลัวนายฆ่าหมกส้วมตายละก็..ฉันกระโดงับหูนายไปแล้ว>O<;”
“เอาเนื้อๆ น้ำไม่ต้องได้ป่ะ?” โอ้ยย ใจร้อนจริงอะไรจริงค่า= = แค่ทำท่าทางประกอบการบรรยายนิดหน่อยเอง^__^ ว่าฉันอีกล่ะ เฮ้อ~
“ชิ..อุ๊บ..โอเคๆ ก้พอฉันเปิดประตูมา นายก็..เอ่อ..ก็กระโดดเข้ามากอดฉัน-///- แล้วดูเหมือนนายจะเมาๆเล็กน้อยก็เลยคว้าฉันลงไปนอนกอดที่เตียงทั้งคืน>///< จนกระทั่งเช้า .. เรื่องก็มีแค่นี้อ่ะ”
“เฮ้ย นี่แสดงว่าทั้งหมดนี่...ฉันฝันจริงเหรอ? บัดซบที่สุด-///-“ เมื่อรู้ความจริงว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน แต่โทโมะก็ยังไม่คลายมือออกจากเอวบางๆของฉัน>__< แอบเห็นหมอนี่หน้าแดงแปร๊ดเลย สงสัยจะเขินที่เขาเผลอฝันไปว่า ... อะไรนะ..มีอะไรกับฉัน O__o งะ งะ ง๊ากกกกกก>{}< มันต้องเป็นฉันที่เขินซิฟ่ะ ฝันลามกมากไอ้หื่น-..-
“นายฝันว่า...อะไรๆกับฉัน>///<”
“อือ..-///- แต่ทำไมมันเหมือนจริงขนาดนี้นะ .. ฉันยังรู้สึกเหนื่อยๆเหมือนเพิ่ง...กับเธออยู่เลย-////-“ >< แอ้ .. โทโมะก็ช่างกล้าพูดออกมาได้นะ ฉันก็อายเป็นนะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เป็นคนฝันประหลาดแบบนั้นก็ตามเหอะ!
.
.
.
.
.
ตึ้ด~
เสียงโทรศัพท์ของผีดิบดังขึ้น ทำให้เขายอมคลายอ้อมกอดจากฉันและคว้าโทรศัพท์มากดรับสาย เป็นยัยแพทนี่เองที่โทรมา สงสัยเหลือเกิ๊น ว่าชีไม่มีอะไรทำหรือไงย่ะ? หรือไม่ก็บ้านชีก็คงเป็นเจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์เพราะเธอสามารถโทรจิกโทโมะได้ทั้งวันโดยไม่เกรงกลัวค่าโทรศัพท์-__- หมั่นไส้โว้ยยยย>O<
“ครับแพท..แพท คุณเป็นอะไร แพท แพท!” โทโมะตะโกนเสียงดังด้วยความตกใจ มันทำให้ฉันเองก็ตกใจเหมือนกัน? เขารีบร้อนจ่ายเงินค่าอาหารก่อนจะผลุนผลันออกจากร้านไป ไม่วายที่จะโดนฉันซักถาม
“โทโมะ จะรีบไปไหน เกิดอะไรขึ้น?”
“แพทโทรมาหาฉัน แล้วอยู่ก็กรีดร้อง เป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ โทรไปอีกครั้งก็ปิดเครื่องไปแล้ว ..”โทโมะบอกฉันด้วยความร้อนใจ พร้อมๆกับที่เขารีบร้อนขึ้นรถไปโดยไม่รอฉันที่กำลังวิ่งตามเขาจนสะดุดล้ม หมอนั่นหันหลับมาทำหน้าเซ็งๆใส่ฉันก่อนจะตามด้วยถ้อยคำต่อว่า...
“โอ้ย”
“แก้ว .. ให้ตายเถอะ เธอนี่มันซุ่มซ่ามจริงๆ ฉันรีบนะรู้ไหม? แผลแค่นี้เธอคงไม่เป็นอะไรมาก เพราะฉะนั้นหาทางกลับบ้านไปก่อนนะ ฉันเป็นห่วงแพท!” เขาพูดเสร็จก็เดินกลับขึ้นรถไปตามเดิมทิ้งให้ฉันนั่งอึ้งอยู่ตรงนั้นคนเดียว ... ‘ฉันเป็นห่วงแพท’ คำๆนี้ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของฉัน
“นายเป็นห่วงแพท แต่นายไม่เคยแม้แต่จะเป็นห่วงฉัน...ฮึก..ดี ในเมื่อฉันมันเป็นตัววุ่นวายสำหรับนายมากนักละก็ ฉันไปก็ได้!” ฉันพยายามพยุงตัวเองออกมาจากสถานการณ์เลวร้ายนั่นด้วยความยากลำบากเนื่องจากเจ็บข้อเท้า เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลงลงนับครั้งไม่ถ้วน .. ครั้งสุดท้ายก่อนที่ฉันจะล้มลงอีกครั้ง สองมือแกร่งของใครคนนึงก็เข้าประคองตัวฉันไว้ .. คงไม่ใช่เขาหรอก เขาทิ้งฉันไม่หาแพทแล้วT__T
“แต่ฉันเป็นห่วงเธอมากกว่า” ทันใดนั้นมือแกร่งก็กระหวัดร่างบอบบางของฉันเข้าหาอ้อมอกเขาทันที โทโมะกลับมาหาฉัน ทั้งที่เขาเป็นคนบอกเองว่าจะไปหาแพท แล้วกลับมาทำไม? ถึงจะรู้สึกดีใจที่เขาไม่ทิ้งฉัน แต่มันก็อดน้อยใจกับคำพูดก่อนหน้าของเขาไม่ได้อยู่ดี
“ปล่อย .. แผลแค่นี้ฉันคงไม่เป็นอะไรมาก เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาเป็นห่วงฉัน ฉันดูแลตัวเองได้!” คำพูดประชดประชันของฉันโต้ตอบเขาไปอย่างย้อนๆกับคำพูดของเขาเมื่อครู่ ก็เขาเป็นคนบอกเองว่าแผลแค่นี้ฉันคงไม่เป็นอะไรไม่ใช่หรือ ก็ใช่ไง .. ฉันไม่ได้เป็นอะไร!
“ขอโทษ .. ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดแบบนั้น ตอนนั้นฉันเป็นห่วงแพทมากไปหน่อย แต่ตอนนี้ฉันให้ไอ้เขื่อนไปดูแพทแทนฉันแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นมันคงโทรมาบอกฉันเอง”
“แล้วนายมาบอกฉันทำไม? ฉันไม่ได้อยากรู้สักหน่อย .. แล้วอีกอย่าง ปล่อยฉันได้แล้ว!”
“อย่างอนไม่เข้าเรื่องสิ-__-; ฉันอุตส่าห์เป็นห่วงเธอ กลับมาหานะ”
“อ๋อ...แล้วฉันขอร้องนายให้มาดูดำดูดีฉันเหรอ?” ฉันจ้องตาเขาอย่างไม่เกรงกลัวต่อนัยน์ตาดำสนิทของโทโมะ เป็นครั้งรกที่ฉันกล้าที่จะต่อกรกับเขา โทโมะกระชับวงแขนเล็กน้อยก่อนจะอุ้มฉันเดินฉับๆไปขึ้นรถของเขาไม่ฟังเสียงประท้วงของฉันแม้แต่น้อย เหอะ! คนใจร้ายยยย!!!
“นี่...ฟังประสาคนไม่รู้เรื่องหรือไง? บอกให้ปล่อยฉันได้ยินไหม?”
“เดินเองได้หรือไง? ถ้าเดินเองได้จะไม่ว่าสักคำ”
“ฉันเดินได้ก็แล้วกัน เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ไปกับนาย>[]<”
“เหอะ .. เด็กปากดี นั่งนิ่งๆไปเลยนะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!” โทโมะชี้หน้าฉันอย่างอาฆาตก่อนจะกระชากเกียร์ออกรถอย่าแงรงจนหัวฉันทิ่ม-__- กับคอนโซลรถอย่าแรง
“โอ้ย ไอ้บ้าฉันเจ็บนะ”
“ฮึ ... ปากเก่งดีนัก หายซ่าหรือยัง?”
“.....” เงียบ ฉันหมั่นไส้ตาผีดิบนั่นเลยนั่งเงียบไม่พูดไม่จากับเขามาตลอดทางจนกระทั่งฉันผล็อยหลับไป
.
.
.
“ถึงแล้ว...” หันไปเห็นยัยเด็กปากดีกำลังหลับสนิทด้วยความสบาย ใบหน้าใสขึ้นสีแดงเรื่อเล็กน้อยสงสัยคงฝันว่ากำลังตามฆ่าผมด้วยความโกรธอยู่เป็นแน่แท้.. บางทีตอนหลับ ยัยตุ๊กตานี้ก็ออกจะดูดีกว่าตอนที่ตื่นขึ้นมาแล้วอ้าปากเถียงผมฉอดๆๆไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม
จะว่าไปก็รู้สึกผิดกับเรื่องเมื่อครู่อยู่เหมือนกัน ทีหลุดไปบอกเธอไปแบบนั้น..ถึงเธอจะดูแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ยังไงก็ได้ชื่อว่าเป็นเด็กผู้หญิง เด็กผู้หญิงมักจะอ่อนไหวง่าย ขี้น้อยใจเป็นเรื่องธรรมดา ฉุกคิดได้ก็โทรบอกไอ้เขื่อนให้ไปดูอาการของแพทแทน เพราะเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตัวเองเป็นห่วงใครมากกว่ากัน
แต่คงไม่ทันแล้วล่ะ แก้วคงงอนผมไปแล้ว ...
ผมค่อยๆช้อนร่างเล็กพาขึ้นห้องนอนไป จัดท่าทางให้เธอนอนอย่างสบายที่สุด สงสัยจะเพลียจริงๆถึงหลับไม่ตื่นขนาดนั้น ผมนั่งลงข้างเตียง ทอดสายตามองดวงหน้างามยามหลับ ริมฝีปากเผลอน้อยแลดุน่ารักน่าจูบ(?)
“อื้ม~” ร่างเล็กครางอื้ออึงในลำคอเล็กน้อยเมื่อผมฉกชิมริมฝีปากหวานของเธอ ริมฝีปากที่เผยอน้อยๆเป็นใบเบิกทางให้ผมได้ลุกล้ำโพรงปากเล็กนั้นด้วยความหลงใหล ดูเหมือนเธอจะยังไม่รู้สึกตัวแต่ก็ยังคงตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายใน(?) ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดซึ่งงกันและกันอย่างวาบหวาบจนผมไม่อยากจะถอนจุมพิตออก
แต่ก็ต้องตัดใจเนื่องจากเกรงว่าร่างตรงหน้าจะขาดออกซิเจนไปเสียก่อน ..เธอยังคงหลับใหลแม้ผมจะถอนริมฝีปากออกมาแล้ว ผมมองหน้าแก้วเล็กน้อยไม่รู้ว่าตัวเองเผลอระบายรอยยิ้มออกมาตอนไหน ก่อนจะเอื้อมมือเช็ดน้ำใสๆที่เลอะมุมปากของเธอออกให้...พร้อมกับกดจูบลงบนหน้าผากเนียนอีกครั้งแลกระซิบกระซาบเบาๆบริเวณใบหู
“อย่าโกรธผีดิบนะเด็กน้อย”
.........................................................................................................................
ฮี่ๆ งงไหม? ไม่งงเนอะ..
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ