I can say...ได้ไหมถ้าฉันจะบอกว่ารักเธอ
12)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
So What?
อีตาผีดิบแกล้งถามกวนประสาทฉันหลังจากการที่ฉันโม้โอ้อวดอ้างสรรพคุณตัวเองว่าทำอาหารอร่อยงั้นงี้ถึงขึ้นคุณแม่ของฉันที่ฉันเป็นคนแอบอ้างชื่อท่านมาบอกว่ามัน very good จนเปิดร้านเองได้ หมอนั่นก็นั่งอมยิ้มแกว่งเท้ามองหน้าหาเรื่องฉัน ประมาณว่า ‘เยาะเย้ยเต็มที่’ -__-; หน้าตาหมอนี่น่ากระโดดงับหูจริงๆให้ตายเหอะ=[]=
“อะไร?”
“ยัยเด็กขี้โม้ ไหนว่าอร๊อยยยยอร่อยจนถึงขึ้นเปิดร้านได้ยังไงล่ะ? นี่..อย่าบอกนะว่าเธอแอบอ้างชื่อคุณน้ามาพูด ให้ตายๆ ยัยเด็กเลี้ยงแกะ ฮึๆ” หมอนั่นลากเสียงยาวประชดสุดๆ ก่อนที่ฉันจะเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้าง ก็เขาบอกเองอ่ะว่าให้ฉันเป็นคนทำ เพราะงั้น...รสชาติมันจะออกมายังไงเขาก็ต้องกินให้ได้เซ่!
“วันนี้ฉันผิดพลาดหรอกน่า คือว่า...ปกติมันอร่อยมากอยู่หรอกนะ สาบานเลย ครั้งน่าอร่อยแน่ (.__.);”
“โอ๊ยๆๆ ครั้งนี้ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วยัยผีลูกกรอก..ขืนให้มีครั้งหน้าอีก มีหวังฉันได้ไปนอนล้างกระเพาะ ที่โรงพยาบาลกันพอดี..ถ้าจะให้ดีนะ กลับไปทำกินเองให้ได้ก่อนเหอะ ยัยขี้โม้!”
“อ๊ากกก มากไปแล้วไอ้ผีดิบ=[]= คำก็ขี้โม้ สองคำก็ขี้โม้ ฉันบอกว่ามันเป็นความผิดพลาดยังไงล่ะ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ ไอ้....อ๊า~”
O/////O
อา~โทโมะใช้ริมฝีปากร้อนซ่านของเขาปิดประกบปากของฉันอย่างตั้งใจ ด้วยเพราะตัดรำคาญเสียงของฉันที่แว้ดๆใส่เขาหรือเป็นเพราะเขาจงใจจะให้มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วก็ไม่อาจทราบได้ ฉันรู้ๆอยู่ตอนนี้คือ..หัวใจ ที่กำลังเต้นตึกตักราวกับมีวงดนตรีนับร้อยมาเปิดคอนเสริตอยู่ข้างใน มันดังอึกทึก ดังมาก..จนฉันกลัวว่าเขาจะได้ยินมัน
“ฉันบอกเธอไปแล้ว ว่าถ้าไม่อร่อย...ฉันจะกินเธอแทนมื้อ-เช้า” นิ้วเรียวของเขาช้อนปลายคางของฉันขึ้นหลังจากที่โทโมะถอนจูบหนักแน่นออกจากริมฝีปากบางๆของฉัน เขาพูดแบบนั้น...ตามที่เขาเคยบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ไม่ถึงชั่วโมง!
สายตาของฉันหลบต่ำมองเบื้องล่างไม่แม้แต่แต่จะกล้าผสานสายตาหวานเยิ้มของเขาได้แม้แต่น้อย แค่เฉี่ยวมอง หัวใจก็ทำงานหนักเสียแล้ว ไม่รู้ทำไมกัน? ร่างสูงกดจูบลงบนหน้าผากของฉันก่อนจะลากไล้จมูกโด่งเรียวของเขาลงมาตามใบหน้าของฉันที่ตอนนี้คงกำลังแดงซ่านและฉันรู้สึกว่ามันร้อนจนธาตุภายในร่างกายเริ่มจะปั่นป่วน รอเวลาที่มันจะประทุออกมาก็เท่านั้น
“เพราะเธอ...มันอร่อยกว่าอาหารพวกนั้นเยอะ” เขาส่งยิ้มหวานพลางล็อกใบหน้าของฉันให้เผชิญหน้ากับเขาอย่างที่ฉันไม่มีทางเลือกอื่นใดไปมากกว่า ‘จ้องกลับ’ โทโมะระบายยิ้มออกมาราวกับว่าเขาพอใจกับผลงานของตัวเองเป็นอย่างยิ่งที่สามารถทำให้ฉันสติแตกได้มากถึงขนาดนี้ -//////- อา...ใบหน้าของเขาช่างดูคมคายและหล่อเหลาอะไรขนาดนี้กันนะ///>[__]<///
“โทโมะ...อย่า...โทโมะ.......” เสียงของฉันถูกเขาดูดกลืนลงลำคอไปหมดแล้วเมื่อเขาตัดสินใจมอบจุมพิตแสนหวานนั่นให้อีกครั้ง มือหนาประคองใบหน้าของฉันเอาไว้เพื่อความสะดวกของเขาเอง ไม่ได้สนใจจะไถ่ถามฉันแม้แต่นิดเดียว จะไม่ถามอะไรฉันหน่อยเหรอ...ฉันหายใจไม่ออก แฮ่กๆๆๆ=__=;
////O o O////
อ๊ะ...โอ๊ะ โอ~ ฉันมาอยู่บนห้องตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า O_< หมอนั่นลากฉันขึ้นมาตอนไหน ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกตัวเลย ง่า>[]< เก่งเกินไปแล้วนะที่ทำฉันเคลิ้มได้จนลืมทุกสิ่งทุกอย่างแบบนี้อ่ะ เหวย~ฉันกระพริบตาถี่ๆก็พบว่าร่างหนากำลัง...กำลัง..เอ่อ...กำลังคร่อมฉันอยู่>__<
“เป็นอะไรไป เมื่อกี๊เธอยังเคลิ้มอยู่เลย?~”
“หา...ใครเคลิ้ม ออกไปนะ-////-”
ฉันพยายามเบหน้าหนีจากสายตาคมคายดุจเหยี่ยวล่าเหยื่อนั่นด้วยใจระส่ำ ให้ตายเถอะ..เขาอยู่ในสภาพที่ไม่น่ามองเอาเสียเลย ไร้ซึ้งเสื้อปกปิดร่างกายเผยให้เห็นแผงอกล่ำๆและมัดกล้ามเนื้อได้สัดส่วนเค้ารูปตามร่างาย ไม่ว่าจะเป็นแขน หรือแม้กระทั่ง..หน้าท้อง อา~ฉันอายจัง(..)’’
“มะ...ไม่อายบ้างหรือไงเล่า-~-”
“อ๋อ...อายทำไมล่ะ เธอเห็นของฉันเดี๋ยวฉันก็...เห็นของเธอ แฟร์ๆดี ไม่มีอะไรต้องน่าอาย^~^”
O_O! หา..เมื่อกี๊อีตาหน้าด้านจอมโมเมนี่บอกว่าจะเห็นอะไรของฉันนะ? ..กรี๊ด~ บ้าที่สุด ใครเขาจะยอมนายง่ายๆกันเล่า ให้ตายเหอะ ใครก็ได้บอกที ว่าเขาไปเรียนรู้ไอ้นิสัยหื่นๆ บ้าๆนี่มาจากไหนกัน เดี๋ยวนี้มันเริ่มจะมากขึ้นๆ จนฉันกลัวว่าวันนี้ฉันจะเสร็จโจรเข้าสักวัน --*
“ฮะ~”
ฉันร้องเสียหลงเมื่อถูฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ตั้งแต่ปลายเท้าิ ลากผ่านมาจนถึงชายเสื้อยืดสีชมพูหวานแหววของฉันแล้ว หมอนั่นลากไล้ฝ่ามืออุ่นร้อนบริเวณนั้นอย่างเชื่องเช้าพร้อมๆกับจมูกโด่งที่ฝากฝังลงบนลำคอของฉัน ให้ตาย..ตอนนี้ในหัวของฉันมันชักจะขาวโพลนจนเรียกได้ว่าแทบไม่รู้สติซะแล้วสิ ฉันควรทำไงดี?
เปลือกตาของฉันเริ่มปิดลงช้าๆไปตามจังหวะชักนำของเขา ฉันรู้สึกแปลกประหลาดกับสัมผัสที่ฉันไม่เคยได้รับและเป็นเขาที่มอบให้ เหอะ! เขาเก่งเกินไปแล้วที่สามารถทำให้ร่างกายของฉันเสียการควบคุมไปโดยสิ้นเชิง ฉันกอดรอบคอเขาเอาไว้ด้วยความสั่นสะท้าน เมื่อเริ่มรู้สึกถึงผิวเนื้อสัมผัสกับผิวเนื้อ ฝ่ามือร้อนของเขา...กับหน้าท้องแบนราบของฉัน
อ๊า...ไม่นะ >////<
ฉันกัดริมฝีปากแน่นเพื่อปิดโอกาสไม่ให้โทโมะล่วงล้ำเข้ามาได้ เพราะฉันคิดว่า...มันยังไม่ใช่! ฉันกับเขาไม่ได้รักกันแล้วจะ...ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ฉันเม้มริมฝีปากแน่นพลางเบือนหน้าหนีจากเขา แต่ดูท่าผีดิบจะไม่ยอมอะไรง่ายๆ ทั้งๆที่ฉันเม้มปากแน่นขนาดนั้น เขายังจะพยายามเอาชนะฉันอยู่ได้! เขางับริมฝีปากรอบๆบริเวณอย่างนุกสนุกโดยไม่ได้ใส่ใจแม้ฉันจะจิ๊จะใส่เขาก็ตาม
แต่...เขาว่ากันว่า ถ้าเรานิ่งเฉยศัตรูจะเบื่อและยอมถอยห่างออกไปเองนี่นา โอเค...ฉันหยุด>__<
ได้ผล..โทโมะหยุดมองหน้าฉัน พร้อมหยุดทุกๆการกระทำ เยส! ใช้ได้ผลแฮะ...หมอนั่นทำหน้าเก๊กใส่ฉันก่อนจะแค่นยิ้มออกมาหน้าตาเฉย...ก่อนจะ O__O! กรี๊ดดดดดดดด!!!~ เขาก้มลงมาจูบฉันอีกครั้ง ร้อนแรง รวดเร็ว วาบหวิว จนฉันตามไม่ทันและไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย
แง้ ทฤษฎีบ้าบออะไรหว้า~ นอกจากจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว ยังหนักกว่าเดิมอีก แง้T3T
“อื้อ~ แฮ่กๆ” ให้ตาย...เขาแรงเยอะเป็นบ้าเลย ไม่นะ อย่าบอกนะว่า..วันนี้ฉันจะต้องเสียเวอร์จิ้นจริงๆ แง้ ไม่ยอมนะคร้าT^T พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยลูกช้าง เอ้ย ลูกไก่ตัวเล็กๆด้วยเถิดค่า หนูยังไม่อยากมีฝาละมี ฮือๆๆๆ>O<;
แอ๊ดด!!~
“จะเอ๋ ^~^….O___O!!!! อ๊ากกกกกกกกกก” และแล้วเสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงทะเล้นๆของใครบางคนก่อนที่น้ำเสียงนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นตกใจ แหงสิ...เป็นใครก็คงตกใจกับสภาพอันน่าสยิวแบบนี้ของฉันกับเขา ให้ตาย...รักพี่เขื่อนจังเลยที่พี่เข้ามา
ฉันยอมอายดีกว่าเสียตัวนะบอกให้-3-
“เฮ้ย! ไอ้เขื่อน -__-; Shit! มาทำไมว่ะ” โทโมะสบถออกมาเซ็งๆที่ถูกเพื่อนรักอย่างพี่เขื่อนเข้ามาขัดจังหวะ แต่หารู้ไม่ว่าฉันนะ..ดีใจมาก ที่จะรอดพ้นเงื้อมมือแวมไพร์กระหายรักอย่างเขาออกมาได้อย่างหวุดหวิด ฟู่ววว~ โล่งมากอะไรมาก โทโมะลุกออกจากตัวฉันอย่างหัวเสีย ส่วนฉันก็ได้แต่นิ่งอึ้ง ทำหน้าไม่ถูก -/////- อา...ฉันอายนะที่พี่เขื่อนเข้ามาเห็นฉันกับเขา...แบบนี้นะ
ฉันรีบเด้งตัวออกจากเตียงก่อนจะเห็นสายตาพี่เขื่อนมองมายังเสื้อยืดของฉันที่มันเลิ่กไปเกือบถึงหน้าอก>[]< ด้วยรู้ตัวฉันจึงรีบดึงมันลงแล้ววิ่งออกจากห้องไปโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลังมามองให้ได้อับอายเป็นก๊อกสองเป็นแน่ ให้ตาย...เพราะเขาแท้ๆเลย =V=
“วะ...ว้าว พี่โทโมะครับ พี่ไม่กลัวติดคุกเหรอ พรากผู้เยาว์เนี่ย ฮ่าๆ” เขื่อนเดินเข้ามาตบบ่าผมเบาๆพลางหยอกล้อกับการกระทำของผม ไอ้บ้าเอ๊ย..เพราะมันคนเดียวแท้ๆ ที่ทำให้ยัยกระต่ายน้อยของผม? หลุดมือไปได้อย่างง่ายได้ทั้งๆที่ผมตะครุบเอาไว้และกำลังจะกลืนลงคออยู่พอดี =_=*
“กลัวทำไม..ก็เด็กมันมีใจ”
“O o O แรงนะครับพี่โทโมะ ไหนเล่าให้ฟังว่าแฟนปลอมๆไง ชอบเด็กนั่นเข้าแล้วจริงๆเหรอ ฮุๆ น่าขำเป็นบ้าเลย ว่ะ โทโมะ”
“ขำมากเหรอไงไอ้เขื่อน...แต่เดี๋ยวก่อน เมื่อกี๊ที่แกบอกว่าฉันรักยัยเด็กนั่น มันจริงเหรอฮะ?”
“อ้าว..ไอ้บ้านี่ ก็ถ้าแกไม่ได้รักเค้าแล้วแกทำแบบนั้นกับเค้าทำไมว่ะ ประสาทหรือไงไอ้โทโมะ=_= อย่าไปพูดให้เด็กน้อยได้ยินเชียว มีหวังแกโดนงอนยาวแน่”
“ฉัน...ไม่แน่ใจว่ะ”
ผมตอบไอ้เขื่อนออกไปแบบนั้นเพราะความไม่เข้าใจจริงๆ ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าไอ้ความรักที่เขาพูดๆกันนะมันเป็นแบบไหน แล้วมันต้องรู้สึกยังไง ถึงแม้ว่าผมจะเคยคบกับแพทมาก่อนก็ตาม...แต่น่าแปลกนะที่ผมไม่ได้รู้สึกกับเธอเหมือนที่รู้สึกกับยัยเด็กดื้อย่างแก้ว มันเป็นเพาะอะไรกัน! โอ๊ย..ความรักทำไมมันเข้าใจยากแบบนี้ว่ะ!
“แล้วแกมาทำไม”
“อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่องน่าไอ้เพื่อนยาก เรื่องของฉันมันไม่สำคัญมากหรอก! ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือ...เรื่องหัวใจของแก!!” ไอ้เขื่อนชี้นิ้วมายังหน้าอกด้านซ้ายของผมที่มันบรรจุก้อนเนื้อที่กำลังเต้นระรัวนั่นเอาไว้ เพื่อนรักมองหน้าผมยิ้มๆก่อนที่ผมจะทรุดตัวนั่งลงบนเตียงอย่างหมดหนทาง งานนี้..ผมคงต้องเพิ่งไอ้เขื่อนแล้วสินะ
“ว่ามา”
“แกกำลังอยากจะรู้สินะ ว่าแกรู้สึกยังไง? มันก็ไม่มีอะไรมากนักหรอก ไอ้เรื่องรักๆใคร่ๆเนี่ย...”
“ไอ้เขื่อนเอาแต่เนื้อ...น้ำไม่ต้อง” ผมเบรกไอ้เจาเขื่อนก่อนที่มันจะร่ายยาวจนผมชักรำคาญ ตอนนี้ที่ผมต้องการคือ คำตอบ! คำตอบว่ารักหรือไม่รักเท่านั้นที่ผมต้องการ ...
“ฮะๆ โอเค...อืม ฉันจะพูดยังไงก่อนดีว่ะ เอางี้...ฉันขอถามแกสักข้อก็แล้วกัน...ถ้าเปรียบเทียบน้องแก้วกับดอกไม้หนึ่งชนิด แกว่า เขาเหมาะกับดอกอะไร?”
“เกี่ยวอะไรกันว่ะ”
“ตอบๆมาเหอะน่า” ผมทำท่าครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะนึกถึงหน้ายัยเด็กผีนั่นตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน ถ้าจะให้เปรียบกับดอกไม้ เอาจริงๆนะ...อย่าเทียบเลยดีกว่า ดอกไม้เสียราคาหมด= =* ใครๆก็รู้ว่าแก้วแสบเสียยิ่งกว่าอะไรดี ให้เทียบกับดอกไม้? เทียบกับลูกลิงยังจะดีกว่านะ แต่เอาเหอะ ถ้าจะให้ตอบก็คงจะเป็น...
“ดอกป๊อปปี้ละมั้ง ...เขาซนจะตายไป-////-” พอผมตอบออกไปแบบนั้นล่ะ ไอ้เขื่อนก็หัวเราะร่าเลย ไม่รู้ว่าอารมณ์ดีอะไรหนักหนา
“ดอกป๊อปปี้?...ดอกไม้วันทหารผ่านศึกเนี่ยนะ ฮ่าๆ ท่าทางเด็กน้อยของแกคงจะซนเอาเรื่องจริงๆ จะเปรียบกับดอกกุหลาบสีหวานๆ หรือไม่ก็ ลิลลี่ผู้บอบบางหน่อยก็ไม่ได้ นี่เล่นเปรียบเทียบซะ...ฮ่าๆ”
“เออ..ว่ามาได้แล้ว มันเกี่ยวข้องกันยังไง?” ผมชักอยากจะรู้ความจริงมากขึ้นทุกทีๆ แต่ไอ้เจ้าเขื่อนก็ยังไม่ยอมเฉลยคำตอบที่ผมต้องการสักที มัวแต่เล่นล้น หยอกล้อผมอยู่ได้ จะบอกอะไรไว้ให้อย่าง...ผมก็เขินเป็นเหมือนกันนะครับ!
“ถ้าจะให้เปรียบงั้นเหรอ...ตอนนี้แกคงกำลังรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ทำให้แกเป็นตัวของตัวเองได้อย่างสุดๆ และไม่เป็นตัวเองได้อย่างสุดๆในเวลาเดียวกัน”
“แล้ว...ตกลงมันยังไงกัน?
“โอเคๆ หากคำตอบของฉันมันยังไม่ชัดเจนพอ อย่างนี้มันต้องพิสูจน์กันหน่อย ฮึๆ” ไอ้เขื่อนยิ้มร้ายก่อนจะเดินวนรอบๆตัวผมอย่างใช้ความคิด ดูท่ามันจะเชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้เอาเสียจริงๆนะ หึ! แต่พอเห็นอยู่กับเฟย์แฟนมันทีไร เป็นต้องหงอและสุดท้ายก็ยอมอ่อนข้อให้เฟย์ทุกที เหอะ...จะเชื่อฝีมือมันได้มากน้อยแค่ไหนกันเชียว
“พิสูจน์ ? พิสูจน์ยังไงไม่ทราบครับไอ้เขื่อน”
“บอกก่อนก็ไม่สนุกสิครับคุณเพื่อน ฮึๆ ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจัดการเอง”
.
................................................................................................................................
ขอโทดคับ หากมันจะนานเิกินไป
งานเค้าเยอะมากจริงๆT.T
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ