Only you! แค่เธอคนเดียว
9.8
เขียนโดย kimkii
วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 12.51 น.
15 ตอน
94 วิจารณ์
24.99K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2556 17.53 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ9
เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาไปเกือบตีห้า ตอนนี้ก็สิบเอ็ดโมงแล้ว ฉันเลยไม่ได้ไปเรียนเลย เฮ้ออ พอรู้สึกตัวก็ต้องคิดถึงเรื่องของเขาคนนั้นทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าจะคิดถึงเขาทำไมในเมื่อคิดแล้วตัวเองก็เจ็บซะเปล่าๆ ป่านนี้นายจะอยู่ที่ไหนนะโทโมะ นายจะทำอะไรอยู่? ฉันแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่านายไม่ได้ไปต่อกับผู้หญิงคนนั้นที่บ้านของเธอ ฉันคงคิดเข้าข้างตัวเองมากไปใช่มั้ย ? บางทีตอนนี้นายอาจจะกำลังมีความสุขอยู่สินะ คงไม่เหมือนตอนอยู่กับฉันที่ฉันเอาแต่ทะเลาะกับนาย ไม่เหมือนผู้หญิงคนนั้นที่เขาประคบประงมนายซะเต็มกำลัง ฉันไม่ใช่ผู้หญิงเซ็กซี่และสวยแบบนั้นสินะ นายถึงทิ้งฉันไป .
อ๊อดดดด!
“เซอร์ไพรซ์!!!! ^[++++]^” ทันทีที่เปิดประตูเพื่อดูว่าใครมา ก็พบกับพวกเพื่อนของฉันถือของกินเต็มไม้เต็มมือไปหมด มาทำอะไรกันเนี่ย ? -O-
“อะไรของพวกแกเนี่ย ?”
“วันนี้เราจะมาจัดปาร์ตี้ที่คอนโดแก้วกัน เพื่อฉลองให้กับหนุ่มๆของเราไง ! ><” ฟางพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหอบของที่อยู่ในมือไปไว้ในห้องครัว พร้อมทั้งเพื่อนอีกสามคนที่เหลือต่างพากันเดินทยอยเข้ามาให้ห้องฉัน
“ฉลองอะไรของพวกแก เกรดยังไม่ออกนิ สอบอีกทีเดือนหน้านะ”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นย่ะยัยแก้ว” เฟย์
“พวกเรามาฉลองให้กับหนุ่มๆทั้งสามคน รวมทั้งหนุ่มเจ้าของห้องนี้ด้วย” ฟางตะโกนออกมาจากห้องครัวที่มีป๊อปปี้ช่วยเอาของออกจากถุงพลาสติกที่หิ้วมา
“เรื่องอะไร?”
“พวกเรากำลังจะได้เป็นนักร้องน่ะสิคร้าบแก้วใจ ฮี่ๆๆๆ”
“ไปเป็นกันตอนไหน? -[]-” ฉันเดินมานั่งลงบนโซฟาแล้วหันไปถามเขื่อน แต่ป๊อปปี้ที่เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมทั้งถือจานเฟรนฟายและนักเก็ตออกมาด้วยตอบแทนว่า..
“ตอนที่เธอไม่รู้ไงล่ะยัยเบ๊อะ” ป๊อปปี้ด่าฉันเล่นๆแต่คำด่าของเขากลับทำให้ฉันนึกถึงใครคนหนึ่ง คนที่ชอบด่าฉันเล่นๆแบบนี้เป็นประจำ คนที่กำลังจะได้เป็นนักร้อง…
“อ่าวหรอ -3-”
“ก็ใช่น่ะสิแก้ว เดี๋ยวเดือนหน้าพวกนี้ก็จะได้ออกอัลบั้มแล้วน๊า ชื่อวงว่าเคโอติค แต่มีสมาชิกอีกสองคนที่เหลือที่ทางบริษัทยังไม่บอกเราน่ะ” ฟางเดินมานั่งลงข้างๆป๊อปปี้แล้วชี้แจงเรื่องทั้งหมดให้กระจ่างยิ่งขึ้น พร้อมทั้งหอบน้ำอัดลมและขนมต่างๆมาเพิ่มอีก = =
“อ๋อ เข้าใจละ”
“ต่อจากนี้ไปพวกนี้ก็คงจะเข้าบริษัทบ่อยขึ้น เพราะต้องไปเรียนร้องเพลง เรียนเต้น เรียนแอคติ้ง บลาๆ” เฟย์ร่ายให้ฉันฟังอีกคน ฉันว่าคนที่จะได้เป็นนักร้องคงไม่ใช่พวกผู้ชายแล้วล่ะ คงเป็นเฟย์กับฟางแน่ๆ รู้ลึกรู้ดีได้อีก -___-^^
“ได้ข่าวว่าเมื่อคืนตามหาไอ้โทโมะทั้งคืนเลยหรอ?” เขื่อนถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง
“ข่าวไวนิ” เคลวินเล่าให้พวกนี้ฟังแน่ๆ -^-
“พวกเราเป็นห่วงเธอนะแก้ว อย่าเก็บเรื่องมันมาคิดมากเลย รกสมองเปล่าๆ เนอะพวกเราเนอะ” เป็นครั้งแรกที่ป๊อปปี้พูดดีกับฉัน ฉันควรจะดีใจใช่มั้ย? - -
“ช่ายยย” พวกที่เหลือประสานเสียงกันโดยไมได้นัดหมาย
“เพราะฉะนั้นพวกเรามาเล่นเกมส์กันเถอะ !!!” เขื่อนรีบเสนอความคิดเห็นทันที เหมือนกลัวว่าจะมีใครมาแย่ง
“เอาดิ!” เฟย์หันหน้ามาพยักเพยิดเออออไปกับเขื่อนด้วย เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย มิน่าถึงอยู่ด้วยกันได้ -__-
ว่าแล้วเขื่อนก็จัดการต่อเกมส์เพลย์ที่อยู่ในตู้ด้านล่างของทีวีออกมาต่ออย่างชำนาญ และก็ยื่นจอยด์เกมส์มาให้กับฉัน
“ให้คนอื่นเล่นก่อนก็ได้นิ”
“ไม่เอาอะ หรือว่าเธอป๊อด :P” เขื่อนรู้ดีว่าฉันเป็นคนยังไงจึงเอ่ยปากท้าฉันเพราะเขารู้ดีอยู่แล้วว่ายังไงซะฉันก็ไม่มีทางปฏิเสธเป็นแน่
“ดูถูก! คิดว่าฉันกลัวนายรึไงไอ้กบป่า” เหมือนกับว่าความเศร้าเมื่อสักครู่จะหายไปเมื่อเพื่อนๆของฉันพากันย่างกรายเข้ามาในห้องของฉัน พวกนี้ไม่เคนทิ้งฉันเลย ไม่เคยเลยสักครั้ง ไม่ว่าฉันจะมีเรื่องไม่สบายใจอะไร พวกนี้ก็จะคอยปลอบและทำให้ฉันกลับมายิ้มได้เสมอ…
แล้วพวกเราก็เล่นเกมส์กันอย่างเมามันส์ จนฉันลืมคิดถึงเรื่องโทโมะไปเลย ส่วนใหญ่คนที่เล่นก็จะเป็นฉันกับเขื่อนซะมากกว่าเพราะคนที่เหลืออย่างป๊อปกับฟางก็ออกไปนั่งที่ระเบียงของคอนโดไม่ต้องบอกว่าคงแอบไปสวีทกันแหงๆ - - ยัยเฟย์น่ะหรอ ? แฟนนั่งเล่นเกมส์กับฉันอยู่หน้าทีวีแต่ยัยนั่นกลับไม่สนใจเลยสักนิด แต่กลับเดินตรงไปที่โต๊ะที่มีโน๊ตบุ๊คฉันวางอยู่แล้วกดเปิดคอมอย่างถือวิสาสะเพื่ออัพเดทเทรนส์แฟชั่นที่กำลังมาแรงในขณะนี้ตามงานอดิเรกที่เพื่อนคนนี้ของฉันทำอยู่บ่อยๆ แล้วใครกันนะที่ออกความเห็นว่าจะเล่นเกมส์ไม่ใช่ยัยหัวหอมคนนี้หรอกหรอ ? =_=
ฉันกับเขื่อนเล่นเกมส์กันไปเรื่อยๆเป็นเวลาหลายชั่วโมง จนการเล่นเกมส์ของเราทั้งสองคนต้องชะงักลงเมื่อมีเสียงประตูดังขึ้นขัดจังหวะ
“เดี๋ยวฉันไปเปิดเอง” ฉันหันไปบอกเขื่อน แล้ววางจอยส์เกมส์ลงกับพื้นก่อนจะเดินตรงไปเปิดประตูให้กับผู้มาเยือน
“…..” ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของฉันเมื่อพบว่าผู้ที่มาเยือนคือเขาคนนั้น….คนที่เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของห้องนี้
เมื่อเปิดประตูให้เขาเสร็จฉันจึงเดินกลับมานั่งข้างๆเขื่อนโดยไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
“อ่าว ไอ้โมะ หายไปไหนมาวะเนี่ย? พวกฉันมารอแกตั้งนานแล้วนะ” เขื่อนเงยหน้าขึ้นไปถามโทโมะด้วยใบหน้ายิ้มร่าเช่นเคย
“รอฉันทำไม?” เขาซึ่งก็ยังคงตอบหน้าตายเหมือนเดิม
“พวกฉันก็มาบอกแกน่ะสิเรื่องที่พวกเรากำลังจะได้เป็นนักร้องน่ะ”
“งั้นหรอ? ดีใจจังเนอะ” ผิดคาด โทโมะไม่มีสีหน้าตื่นเต้นหรือดีใจแม้แต่น้อยหลังจากที่เขื่อนได้บอกเรื่องที่เขากำลังจะได้เป็นนักร้องออกมา
“แกทำหน้าดีใจมากเลยว่ะไอ้โมะ -0-;”
“อืม”
“แก้ว ฟางจะกลับแล้วนะพอดีว่าแม่โทรตามว่ามีธุระด่วนน่ะ เฟย์กลับบ้านเร็ว” ประโยคแรกฟางก้มหน้าลงมาบอกฉันที่นั่งอยู่กับพื้น ส่วนประโยคหลังหันไปพูดกับน้องสาวตัวเองที่กำลังคลิกเข้าเว็บแฟชั่นอย่างมันส์มือ
“โอเค กลับบ้านดีๆนะฟาง ขอบคุณมากสำหรับวันนี้ ^^”
“งั้นฉันก็ต้องไปส่งฟางน่ะ กลับแล้วนะแก้ว” ป๊อปปี้หันมาบอกลาฉันอีกคนก่อนจะเดินตามฟางออกไป
“ส่วนฉันคงต้องไปส่งเฟย์ตามเคยน่ะ ไปแล้วนะแก้ว จุ๊บๆ” เขื่อนลุกขึ้นก่อนจะก้มตัวลงมาแล้วหยิกแก้มฉันก่อนจะทำปากจู๋แล้วเดินไปโอบไหล่เฟย์ที่กำลังเดินมา
“อย่ามาทำหน้าปัญญาอ่อนใกล้ฉันได้มั้ย จะอ้วก!”
“เขื่อนก็ปัญญาอ่อนแบบนี้แหละแก้ว แกยังไม่ชินรึไง -.- เออฉันกลับละ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ อย่าปล่อยให้ใครบางคนมาทำร้ายอีก” เฟย์ปรายตาแบบจิกๆไปหาคนที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทีนิ่งเฉยเหมือนไม่รับรู้อะไรจากโลกภายนอก
“อือ ขอบใจแกมาก” แล้วเขื่อนกับเฟย์ก็เดินออกจากห้องฉันไปเป็นคู่สุดท้าย เหลือไว้เพียงฉันกับโทโมะที่ตั้งแต่เจอหน้ากัน ต่างก็ไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมาสักคำ
ฉันที่ทนไม่ไหวจึงได้แต่ลุกขึ้นจากพื้นหมายจะเดินออกไปจากบริเวณนั้น ไม่อยากอยู่ให้ตัวเองอึดอัดอีกต่อไปในเมื่อคนที่อยู่ด้วยตรงนั้นไม่ได้เห็นฉันอยู่ในสายตาเลยสักนิด คำขอโทษจากปากเขายังไม่พูดมันออกมาเลย แล้วฉันจะไปสนใจเขาทำไมล่ะ จริงมั้ย?
“ว่าไงครับแพท เพิ่งถึงน่ะครับ” กลายเป็นว่าขณะที่ขากำลังก้าวเดินจะเข้าห้องนอนกลับหยุดชะงักเมื่อได้ยินเขาคนนั้นคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงที่เขาไปด้วยเมื่อคืน
“คิดถึงมาก .. ใครจะไปลืมแพทได้ลงล่ะ ลีลาร้อนแรงซะขนาดนั้น” ทำไม…ทำไมไม่เดินออกไปจากบริเวณนี้ล่ะจริญญา ปล่อยให้ตัวเองเจ็บอยู่ทำไม สมองก็สั่งให้ขาก้าวเดินออกไปข้างหน้า แต่หัวใจมันไม่เคยฟังกลับสั่งให้ขาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น หยุดยืนแล้วฟังสิ่งที่เมื่อตัวเองได้ยินแล้วกลับเจ็บปวดเปล่าๆ
“ครับ แล้วเจอกันครับ” จบบทสนทนาแล้วสินะ ฮึกก..น้ำตาของฉันตอนนี้มันเอ่อท่วมนัยน์ตาจนไม่สามารถมองภาพตรงหน้าได้ชัดเจนอีกแล้ว มันเลือนรางไปหมด เหมือนกับว่าขาที่ยืนอยู่กำลังจะหมดแรงไปด้วย ฉันจะทนได้อีกนานแค่ไหนนะ เธอจะทนได้อีกนานแค่ไหน..จริญญา ?
“พรุ่งนี้ฉันจะไปซ้อมเต้นที่บริษัทนะ ให้แฟนเธอมารับไปมหาลัยก็แล้วกัน” เขาเอ่ยประโยคแรกขึ้นมาหลังจากที่วางสายจากผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว
“อืม นายไม่ต้องไปส่งฉันอีกต่อไปแล้วล่ะ” ฉันสะกดน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด เพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังร้องไห้ ไม่อยากให้เขารู้ว่าฉัน..กำลังอ่อนแอ
“ก็ดี ฉันจะได้สบาย”
“อืม” จบบทสนทนาแค่นั้นฉันจึงก้าวขาเข้าห้องนอนแล้วปิดประตูโดยไม่ลืมล็อคประตูด้วย ก่อนที่จะเริ่มทรุดตัวลงนั่งพิงขอบประตูบานใหญ่ ฉันคิดว่าฉันจะไม่รักผู้ชายคนนี้ง่ายๆ แต่ทำไมล่ะ? กลับกลายเป็นเขาที่ทำให้ฉันหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ฉันที่ร้องไห้ฟูมฟาย เจ็บปวดอยู่คนเดียว แต่ทำไมเขาถึงไม่มีทีท่าเป็นทุกข์เป็นร้อนเลยล่ะ? คงมีแค่ฉันคนเดียวสินะที่คิดไปเองทั้งหมด การกระทำต่างๆ ความรู้สึกดีๆที่เขาเคยมีให้ฉัน มันคงเป็นแค่ภาพลวงตาที่เขาสร้างขึ้นมาปั่นหัวฉันก็แค่นั้น .
ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้สึกตัวอีกทีก็มานอนอยู่บนเตียงซะแล้ว เท่าที่ฉันจำได้ก่อนที่ฉันจะหลับไปการกระทำสุดท้ายที่ฉันทำคือนั่งร้องไห้อยู่ที่ประตูไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมถึงได้มานอนอยู่บนเตียงได้ล่ะ? ขณะที่กำลังจะขยับตัวฉันกลับรู้สึกว่ามีมือของใครบางคนพาดอยู่ที่เอวก่อนที่มือนั้นจะดึงตัวฉันเข้าไปกอดไว้แน่นจนหน้าฉันสัมผัสกับแผงอกกว้างที่คุ้นเคย อย่าบอกนะว่านายอุ้มฉันขึ้นมานอนบนเตียงน่ะโทโมะ แถมยังกอดฉันไว้แน่นขนาดนี้ นาย..กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? ฉันดึงมือโทโมะที่พากอยู่ที่เอวออกก่อนจะลุกขึ้นออกจากเตียง เหลือบไปเห็นนาฬิกาบ่งบอกเวลาว่าตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว วันนี้ฉันไม่มีเรียนหรอก แต่ก็ไม่รู้จะไปไหนดี อยากจะตามไปที่บริษัทดูโทโมะเต้นก็คงจะไม่ได้ในเมื่อเขาคงไม่อยากให้ฉันไป
[Rrrrrrrrrrrrrrrrrr]
เสียงโทรศัพท์ของโทโมะที่วางอยู่ที่โซฟาดังขึ้นทำให้ฉันเดินไปดูว่าใครโทรมา
‘ไอ้กบป่า’ เขื่อนนี่เอง โทรเข้ามา ถ้าฉันจะรับโทรศัพท์เขา เขาคงไม่ว่าใช่มั้ย? ไม่เป็นไรหรอกมั้งเขาหลับอยู่ อีกอย่างคนที่โทรมาก็เป็นเพื่อนฉันอีกคนนี่นา
“ว่าไงเขื่อน?”
(โทโมะมันหลับอยู่หรอแก้วถึงไม่มารับโทรศัพท์น่ะ)
“อื้ม เขายังไม่ตื่นน่ะ”
(ไม่เป็นไรๆ แต่ฝากบอกมันด้วยละกันว่าสิบเอ็ดโมงเจอกันที่ห้องซ้อมเลย ห้ามขาดนะ!) เขื่อนย้ำหนักแน่น คงเป็นเพราะนี่เป็นการซ้อมเต้นครั้งแรกของพวกเขาล่ะมั้ง เขื่อนถึงอยากให้ไปกันให้ครบ
“อ่าฮะ เดี๋ยวฉันบอกให้ละกัน” ยังไม่ทันที่จะได้กดวางสายเขื่อนโทรศัพท์มือถือของโทโมะก็ถูกกระชากออกไปจากมือฉันอย่างรวดเร็ว
“เธอทำอะไรของเธอ มารับโทรศัพท์ฉันทำไม ฮะ!!” มาถึงก็ใส่อารมณ์เลยงั้นสิ ฉันเป็นที่ระบายอารมณ์ของนายไปตั้งแต่เมื่อไรกันหรอโทโมะ ?
“ฉันก็แค่เห็นว่านายหลับ..”
“เห็นว่าฉันหลับแล้วก็เลยถือวิสาสะยุ่งกับของๆฉันงั้นหรอ”
“ฉันก็แค่รับโทรศัพท์ให้นายเฉยๆมันจะอะไรหนักหนาล่ะโทโมะ!” ฉันเองก็เริ่มมีน้ำโหขึ้นบ้างแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันจะเป็นฝ่ายรองรับอารมณ์เขาได้อย่างเดียวนะ ฉันก็มีลิมิตของตัวเองเหมือนกัน!
“ทีหลังอย่ามายุ่งกับของๆฉันอีกถ้าฉันไม่อนุญาต”
“ถ้านายกลัวว่าผู้หญิงของนายจะโทรมาแล้วฉันดันมารับล่ะก็นะ เสียใจด้วยเพราะถ้าผู้หญิงของนายโทรมาฉันคงไม่กล้าแตะต้องหรอก แต่เมื่อกี้เขื่อนโทรมาบอกว่าให้ไปเจอกันตอนสิบเอ็ดโมงที่ห้องซ้อมเลย มันก็แค่เนี้ย!!”
“…..”
“นายไม่ต้องกลัวว่าผู้หญิงของนายจะเข้าใจผิด ฉันรู้ตัวดีว่าฉันควรทำตัวยังไง นายสบายใจได้โทโมะฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของนายอีก”
แค่รับโทรศัพท์แทนแค่นี้นายก็หวงหรอ? นายเป็นอะไรไปนะโทโมะ โทโมะคนเดิมของฉันหายไปไหน คนที่อ่อนโยน คนที่คอยทำให้ฉันยิ้มได้ หัวเราะได้ เขาคนนั้นหายไปไหนกัน? ทำไมโทโมะคนนี้ถึงได้ใจร้ายกับฉันนัก ทำไมต้องทำท่าทางเฉยชา ไม่อยากยุ่งกับฉันขนาดนั้น ฉันเป็นตัวขยะงั้นหรอ? นายถึงไม่อยากยุ่งด้วยน่ะ ไม่อยากยุ่งแล้วเมื่อเช้าทำไมต้องมานอนกอดฉันด้วย เมื่อไม่รู้สึกอะไรกันแล้วทำไมต้องมาทำแบบนี้กับฉันด้วย ? ตอบฉันมาสิ…โทโมะ
----------------------------------------------------------------------------------------------
ดราม่้ากันอีกสักตอน(?) 55555555555ขอบคุณคนที่รอนิยายไม่ค่อยสนุกและอัพช้าเรื่องนี้น๊า
ขอบคุณที่ยังอ่านกันอยู่ ^0^
เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาไปเกือบตีห้า ตอนนี้ก็สิบเอ็ดโมงแล้ว ฉันเลยไม่ได้ไปเรียนเลย เฮ้ออ พอรู้สึกตัวก็ต้องคิดถึงเรื่องของเขาคนนั้นทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าจะคิดถึงเขาทำไมในเมื่อคิดแล้วตัวเองก็เจ็บซะเปล่าๆ ป่านนี้นายจะอยู่ที่ไหนนะโทโมะ นายจะทำอะไรอยู่? ฉันแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่านายไม่ได้ไปต่อกับผู้หญิงคนนั้นที่บ้านของเธอ ฉันคงคิดเข้าข้างตัวเองมากไปใช่มั้ย ? บางทีตอนนี้นายอาจจะกำลังมีความสุขอยู่สินะ คงไม่เหมือนตอนอยู่กับฉันที่ฉันเอาแต่ทะเลาะกับนาย ไม่เหมือนผู้หญิงคนนั้นที่เขาประคบประงมนายซะเต็มกำลัง ฉันไม่ใช่ผู้หญิงเซ็กซี่และสวยแบบนั้นสินะ นายถึงทิ้งฉันไป .
อ๊อดดดด!
“เซอร์ไพรซ์!!!! ^[++++]^” ทันทีที่เปิดประตูเพื่อดูว่าใครมา ก็พบกับพวกเพื่อนของฉันถือของกินเต็มไม้เต็มมือไปหมด มาทำอะไรกันเนี่ย ? -O-
“อะไรของพวกแกเนี่ย ?”
“วันนี้เราจะมาจัดปาร์ตี้ที่คอนโดแก้วกัน เพื่อฉลองให้กับหนุ่มๆของเราไง ! ><” ฟางพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหอบของที่อยู่ในมือไปไว้ในห้องครัว พร้อมทั้งเพื่อนอีกสามคนที่เหลือต่างพากันเดินทยอยเข้ามาให้ห้องฉัน
“ฉลองอะไรของพวกแก เกรดยังไม่ออกนิ สอบอีกทีเดือนหน้านะ”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นย่ะยัยแก้ว” เฟย์
“พวกเรามาฉลองให้กับหนุ่มๆทั้งสามคน รวมทั้งหนุ่มเจ้าของห้องนี้ด้วย” ฟางตะโกนออกมาจากห้องครัวที่มีป๊อปปี้ช่วยเอาของออกจากถุงพลาสติกที่หิ้วมา
“เรื่องอะไร?”
“พวกเรากำลังจะได้เป็นนักร้องน่ะสิคร้าบแก้วใจ ฮี่ๆๆๆ”
“ไปเป็นกันตอนไหน? -[]-” ฉันเดินมานั่งลงบนโซฟาแล้วหันไปถามเขื่อน แต่ป๊อปปี้ที่เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมทั้งถือจานเฟรนฟายและนักเก็ตออกมาด้วยตอบแทนว่า..
“ตอนที่เธอไม่รู้ไงล่ะยัยเบ๊อะ” ป๊อปปี้ด่าฉันเล่นๆแต่คำด่าของเขากลับทำให้ฉันนึกถึงใครคนหนึ่ง คนที่ชอบด่าฉันเล่นๆแบบนี้เป็นประจำ คนที่กำลังจะได้เป็นนักร้อง…
“อ่าวหรอ -3-”
“ก็ใช่น่ะสิแก้ว เดี๋ยวเดือนหน้าพวกนี้ก็จะได้ออกอัลบั้มแล้วน๊า ชื่อวงว่าเคโอติค แต่มีสมาชิกอีกสองคนที่เหลือที่ทางบริษัทยังไม่บอกเราน่ะ” ฟางเดินมานั่งลงข้างๆป๊อปปี้แล้วชี้แจงเรื่องทั้งหมดให้กระจ่างยิ่งขึ้น พร้อมทั้งหอบน้ำอัดลมและขนมต่างๆมาเพิ่มอีก = =
“อ๋อ เข้าใจละ”
“ต่อจากนี้ไปพวกนี้ก็คงจะเข้าบริษัทบ่อยขึ้น เพราะต้องไปเรียนร้องเพลง เรียนเต้น เรียนแอคติ้ง บลาๆ” เฟย์ร่ายให้ฉันฟังอีกคน ฉันว่าคนที่จะได้เป็นนักร้องคงไม่ใช่พวกผู้ชายแล้วล่ะ คงเป็นเฟย์กับฟางแน่ๆ รู้ลึกรู้ดีได้อีก -___-^^
“ได้ข่าวว่าเมื่อคืนตามหาไอ้โทโมะทั้งคืนเลยหรอ?” เขื่อนถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง
“ข่าวไวนิ” เคลวินเล่าให้พวกนี้ฟังแน่ๆ -^-
“พวกเราเป็นห่วงเธอนะแก้ว อย่าเก็บเรื่องมันมาคิดมากเลย รกสมองเปล่าๆ เนอะพวกเราเนอะ” เป็นครั้งแรกที่ป๊อปปี้พูดดีกับฉัน ฉันควรจะดีใจใช่มั้ย? - -
“ช่ายยย” พวกที่เหลือประสานเสียงกันโดยไมได้นัดหมาย
“เพราะฉะนั้นพวกเรามาเล่นเกมส์กันเถอะ !!!” เขื่อนรีบเสนอความคิดเห็นทันที เหมือนกลัวว่าจะมีใครมาแย่ง
“เอาดิ!” เฟย์หันหน้ามาพยักเพยิดเออออไปกับเขื่อนด้วย เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย มิน่าถึงอยู่ด้วยกันได้ -__-
ว่าแล้วเขื่อนก็จัดการต่อเกมส์เพลย์ที่อยู่ในตู้ด้านล่างของทีวีออกมาต่ออย่างชำนาญ และก็ยื่นจอยด์เกมส์มาให้กับฉัน
“ให้คนอื่นเล่นก่อนก็ได้นิ”
“ไม่เอาอะ หรือว่าเธอป๊อด :P” เขื่อนรู้ดีว่าฉันเป็นคนยังไงจึงเอ่ยปากท้าฉันเพราะเขารู้ดีอยู่แล้วว่ายังไงซะฉันก็ไม่มีทางปฏิเสธเป็นแน่
“ดูถูก! คิดว่าฉันกลัวนายรึไงไอ้กบป่า” เหมือนกับว่าความเศร้าเมื่อสักครู่จะหายไปเมื่อเพื่อนๆของฉันพากันย่างกรายเข้ามาในห้องของฉัน พวกนี้ไม่เคนทิ้งฉันเลย ไม่เคยเลยสักครั้ง ไม่ว่าฉันจะมีเรื่องไม่สบายใจอะไร พวกนี้ก็จะคอยปลอบและทำให้ฉันกลับมายิ้มได้เสมอ…
แล้วพวกเราก็เล่นเกมส์กันอย่างเมามันส์ จนฉันลืมคิดถึงเรื่องโทโมะไปเลย ส่วนใหญ่คนที่เล่นก็จะเป็นฉันกับเขื่อนซะมากกว่าเพราะคนที่เหลืออย่างป๊อปกับฟางก็ออกไปนั่งที่ระเบียงของคอนโดไม่ต้องบอกว่าคงแอบไปสวีทกันแหงๆ - - ยัยเฟย์น่ะหรอ ? แฟนนั่งเล่นเกมส์กับฉันอยู่หน้าทีวีแต่ยัยนั่นกลับไม่สนใจเลยสักนิด แต่กลับเดินตรงไปที่โต๊ะที่มีโน๊ตบุ๊คฉันวางอยู่แล้วกดเปิดคอมอย่างถือวิสาสะเพื่ออัพเดทเทรนส์แฟชั่นที่กำลังมาแรงในขณะนี้ตามงานอดิเรกที่เพื่อนคนนี้ของฉันทำอยู่บ่อยๆ แล้วใครกันนะที่ออกความเห็นว่าจะเล่นเกมส์ไม่ใช่ยัยหัวหอมคนนี้หรอกหรอ ? =_=
ฉันกับเขื่อนเล่นเกมส์กันไปเรื่อยๆเป็นเวลาหลายชั่วโมง จนการเล่นเกมส์ของเราทั้งสองคนต้องชะงักลงเมื่อมีเสียงประตูดังขึ้นขัดจังหวะ
“เดี๋ยวฉันไปเปิดเอง” ฉันหันไปบอกเขื่อน แล้ววางจอยส์เกมส์ลงกับพื้นก่อนจะเดินตรงไปเปิดประตูให้กับผู้มาเยือน
“…..” ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของฉันเมื่อพบว่าผู้ที่มาเยือนคือเขาคนนั้น….คนที่เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของห้องนี้
เมื่อเปิดประตูให้เขาเสร็จฉันจึงเดินกลับมานั่งข้างๆเขื่อนโดยไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
“อ่าว ไอ้โมะ หายไปไหนมาวะเนี่ย? พวกฉันมารอแกตั้งนานแล้วนะ” เขื่อนเงยหน้าขึ้นไปถามโทโมะด้วยใบหน้ายิ้มร่าเช่นเคย
“รอฉันทำไม?” เขาซึ่งก็ยังคงตอบหน้าตายเหมือนเดิม
“พวกฉันก็มาบอกแกน่ะสิเรื่องที่พวกเรากำลังจะได้เป็นนักร้องน่ะ”
“งั้นหรอ? ดีใจจังเนอะ” ผิดคาด โทโมะไม่มีสีหน้าตื่นเต้นหรือดีใจแม้แต่น้อยหลังจากที่เขื่อนได้บอกเรื่องที่เขากำลังจะได้เป็นนักร้องออกมา
“แกทำหน้าดีใจมากเลยว่ะไอ้โมะ -0-;”
“อืม”
“แก้ว ฟางจะกลับแล้วนะพอดีว่าแม่โทรตามว่ามีธุระด่วนน่ะ เฟย์กลับบ้านเร็ว” ประโยคแรกฟางก้มหน้าลงมาบอกฉันที่นั่งอยู่กับพื้น ส่วนประโยคหลังหันไปพูดกับน้องสาวตัวเองที่กำลังคลิกเข้าเว็บแฟชั่นอย่างมันส์มือ
“โอเค กลับบ้านดีๆนะฟาง ขอบคุณมากสำหรับวันนี้ ^^”
“งั้นฉันก็ต้องไปส่งฟางน่ะ กลับแล้วนะแก้ว” ป๊อปปี้หันมาบอกลาฉันอีกคนก่อนจะเดินตามฟางออกไป
“ส่วนฉันคงต้องไปส่งเฟย์ตามเคยน่ะ ไปแล้วนะแก้ว จุ๊บๆ” เขื่อนลุกขึ้นก่อนจะก้มตัวลงมาแล้วหยิกแก้มฉันก่อนจะทำปากจู๋แล้วเดินไปโอบไหล่เฟย์ที่กำลังเดินมา
“อย่ามาทำหน้าปัญญาอ่อนใกล้ฉันได้มั้ย จะอ้วก!”
“เขื่อนก็ปัญญาอ่อนแบบนี้แหละแก้ว แกยังไม่ชินรึไง -.- เออฉันกลับละ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ อย่าปล่อยให้ใครบางคนมาทำร้ายอีก” เฟย์ปรายตาแบบจิกๆไปหาคนที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทีนิ่งเฉยเหมือนไม่รับรู้อะไรจากโลกภายนอก
“อือ ขอบใจแกมาก” แล้วเขื่อนกับเฟย์ก็เดินออกจากห้องฉันไปเป็นคู่สุดท้าย เหลือไว้เพียงฉันกับโทโมะที่ตั้งแต่เจอหน้ากัน ต่างก็ไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมาสักคำ
ฉันที่ทนไม่ไหวจึงได้แต่ลุกขึ้นจากพื้นหมายจะเดินออกไปจากบริเวณนั้น ไม่อยากอยู่ให้ตัวเองอึดอัดอีกต่อไปในเมื่อคนที่อยู่ด้วยตรงนั้นไม่ได้เห็นฉันอยู่ในสายตาเลยสักนิด คำขอโทษจากปากเขายังไม่พูดมันออกมาเลย แล้วฉันจะไปสนใจเขาทำไมล่ะ จริงมั้ย?
“ว่าไงครับแพท เพิ่งถึงน่ะครับ” กลายเป็นว่าขณะที่ขากำลังก้าวเดินจะเข้าห้องนอนกลับหยุดชะงักเมื่อได้ยินเขาคนนั้นคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงที่เขาไปด้วยเมื่อคืน
“คิดถึงมาก .. ใครจะไปลืมแพทได้ลงล่ะ ลีลาร้อนแรงซะขนาดนั้น” ทำไม…ทำไมไม่เดินออกไปจากบริเวณนี้ล่ะจริญญา ปล่อยให้ตัวเองเจ็บอยู่ทำไม สมองก็สั่งให้ขาก้าวเดินออกไปข้างหน้า แต่หัวใจมันไม่เคยฟังกลับสั่งให้ขาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น หยุดยืนแล้วฟังสิ่งที่เมื่อตัวเองได้ยินแล้วกลับเจ็บปวดเปล่าๆ
“ครับ แล้วเจอกันครับ” จบบทสนทนาแล้วสินะ ฮึกก..น้ำตาของฉันตอนนี้มันเอ่อท่วมนัยน์ตาจนไม่สามารถมองภาพตรงหน้าได้ชัดเจนอีกแล้ว มันเลือนรางไปหมด เหมือนกับว่าขาที่ยืนอยู่กำลังจะหมดแรงไปด้วย ฉันจะทนได้อีกนานแค่ไหนนะ เธอจะทนได้อีกนานแค่ไหน..จริญญา ?
“พรุ่งนี้ฉันจะไปซ้อมเต้นที่บริษัทนะ ให้แฟนเธอมารับไปมหาลัยก็แล้วกัน” เขาเอ่ยประโยคแรกขึ้นมาหลังจากที่วางสายจากผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว
“อืม นายไม่ต้องไปส่งฉันอีกต่อไปแล้วล่ะ” ฉันสะกดน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด เพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังร้องไห้ ไม่อยากให้เขารู้ว่าฉัน..กำลังอ่อนแอ
“ก็ดี ฉันจะได้สบาย”
“อืม” จบบทสนทนาแค่นั้นฉันจึงก้าวขาเข้าห้องนอนแล้วปิดประตูโดยไม่ลืมล็อคประตูด้วย ก่อนที่จะเริ่มทรุดตัวลงนั่งพิงขอบประตูบานใหญ่ ฉันคิดว่าฉันจะไม่รักผู้ชายคนนี้ง่ายๆ แต่ทำไมล่ะ? กลับกลายเป็นเขาที่ทำให้ฉันหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ฉันที่ร้องไห้ฟูมฟาย เจ็บปวดอยู่คนเดียว แต่ทำไมเขาถึงไม่มีทีท่าเป็นทุกข์เป็นร้อนเลยล่ะ? คงมีแค่ฉันคนเดียวสินะที่คิดไปเองทั้งหมด การกระทำต่างๆ ความรู้สึกดีๆที่เขาเคยมีให้ฉัน มันคงเป็นแค่ภาพลวงตาที่เขาสร้างขึ้นมาปั่นหัวฉันก็แค่นั้น .
ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้สึกตัวอีกทีก็มานอนอยู่บนเตียงซะแล้ว เท่าที่ฉันจำได้ก่อนที่ฉันจะหลับไปการกระทำสุดท้ายที่ฉันทำคือนั่งร้องไห้อยู่ที่ประตูไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมถึงได้มานอนอยู่บนเตียงได้ล่ะ? ขณะที่กำลังจะขยับตัวฉันกลับรู้สึกว่ามีมือของใครบางคนพาดอยู่ที่เอวก่อนที่มือนั้นจะดึงตัวฉันเข้าไปกอดไว้แน่นจนหน้าฉันสัมผัสกับแผงอกกว้างที่คุ้นเคย อย่าบอกนะว่านายอุ้มฉันขึ้นมานอนบนเตียงน่ะโทโมะ แถมยังกอดฉันไว้แน่นขนาดนี้ นาย..กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? ฉันดึงมือโทโมะที่พากอยู่ที่เอวออกก่อนจะลุกขึ้นออกจากเตียง เหลือบไปเห็นนาฬิกาบ่งบอกเวลาว่าตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว วันนี้ฉันไม่มีเรียนหรอก แต่ก็ไม่รู้จะไปไหนดี อยากจะตามไปที่บริษัทดูโทโมะเต้นก็คงจะไม่ได้ในเมื่อเขาคงไม่อยากให้ฉันไป
[Rrrrrrrrrrrrrrrrrr]
เสียงโทรศัพท์ของโทโมะที่วางอยู่ที่โซฟาดังขึ้นทำให้ฉันเดินไปดูว่าใครโทรมา
‘ไอ้กบป่า’ เขื่อนนี่เอง โทรเข้ามา ถ้าฉันจะรับโทรศัพท์เขา เขาคงไม่ว่าใช่มั้ย? ไม่เป็นไรหรอกมั้งเขาหลับอยู่ อีกอย่างคนที่โทรมาก็เป็นเพื่อนฉันอีกคนนี่นา
“ว่าไงเขื่อน?”
(โทโมะมันหลับอยู่หรอแก้วถึงไม่มารับโทรศัพท์น่ะ)
“อื้ม เขายังไม่ตื่นน่ะ”
(ไม่เป็นไรๆ แต่ฝากบอกมันด้วยละกันว่าสิบเอ็ดโมงเจอกันที่ห้องซ้อมเลย ห้ามขาดนะ!) เขื่อนย้ำหนักแน่น คงเป็นเพราะนี่เป็นการซ้อมเต้นครั้งแรกของพวกเขาล่ะมั้ง เขื่อนถึงอยากให้ไปกันให้ครบ
“อ่าฮะ เดี๋ยวฉันบอกให้ละกัน” ยังไม่ทันที่จะได้กดวางสายเขื่อนโทรศัพท์มือถือของโทโมะก็ถูกกระชากออกไปจากมือฉันอย่างรวดเร็ว
“เธอทำอะไรของเธอ มารับโทรศัพท์ฉันทำไม ฮะ!!” มาถึงก็ใส่อารมณ์เลยงั้นสิ ฉันเป็นที่ระบายอารมณ์ของนายไปตั้งแต่เมื่อไรกันหรอโทโมะ ?
“ฉันก็แค่เห็นว่านายหลับ..”
“เห็นว่าฉันหลับแล้วก็เลยถือวิสาสะยุ่งกับของๆฉันงั้นหรอ”
“ฉันก็แค่รับโทรศัพท์ให้นายเฉยๆมันจะอะไรหนักหนาล่ะโทโมะ!” ฉันเองก็เริ่มมีน้ำโหขึ้นบ้างแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันจะเป็นฝ่ายรองรับอารมณ์เขาได้อย่างเดียวนะ ฉันก็มีลิมิตของตัวเองเหมือนกัน!
“ทีหลังอย่ามายุ่งกับของๆฉันอีกถ้าฉันไม่อนุญาต”
“ถ้านายกลัวว่าผู้หญิงของนายจะโทรมาแล้วฉันดันมารับล่ะก็นะ เสียใจด้วยเพราะถ้าผู้หญิงของนายโทรมาฉันคงไม่กล้าแตะต้องหรอก แต่เมื่อกี้เขื่อนโทรมาบอกว่าให้ไปเจอกันตอนสิบเอ็ดโมงที่ห้องซ้อมเลย มันก็แค่เนี้ย!!”
“…..”
“นายไม่ต้องกลัวว่าผู้หญิงของนายจะเข้าใจผิด ฉันรู้ตัวดีว่าฉันควรทำตัวยังไง นายสบายใจได้โทโมะฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของนายอีก”
แค่รับโทรศัพท์แทนแค่นี้นายก็หวงหรอ? นายเป็นอะไรไปนะโทโมะ โทโมะคนเดิมของฉันหายไปไหน คนที่อ่อนโยน คนที่คอยทำให้ฉันยิ้มได้ หัวเราะได้ เขาคนนั้นหายไปไหนกัน? ทำไมโทโมะคนนี้ถึงได้ใจร้ายกับฉันนัก ทำไมต้องทำท่าทางเฉยชา ไม่อยากยุ่งกับฉันขนาดนั้น ฉันเป็นตัวขยะงั้นหรอ? นายถึงไม่อยากยุ่งด้วยน่ะ ไม่อยากยุ่งแล้วเมื่อเช้าทำไมต้องมานอนกอดฉันด้วย เมื่อไม่รู้สึกอะไรกันแล้วทำไมต้องมาทำแบบนี้กับฉันด้วย ? ตอบฉันมาสิ…โทโมะ
----------------------------------------------------------------------------------------------
ดราม่้ากันอีกสักตอน(?) 55555555555ขอบคุณคนที่รอนิยายไม่ค่อยสนุกและอัพช้าเรื่องนี้น๊า
ขอบคุณที่ยังอ่านกันอยู่ ^0^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ