Me and casting.เอ๋ออย่างเธอต้องเจออย่างชั้น
8.4
7)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่เจ็ด (ยาวไปไหม)
“นี่แกไม่ได้กินข้าว3วันเชียวหรอ ไหวไหมว่ะ มาๆชั้นจะเอาให้กิน”แก้วรีบกุรีกุจอเอาข้าวมาให้แก้วต้นอ้อ ต้นอ้อนอนแน่นิ่งในหัวคิดแต่คำว่า ใช่สิ (เป็นพี่ริทหรือไงเจ๊) ก็ใช่สิ...ชั้นมันไม่ดีเท่าเค้า ไม่ค่อยน่าแคร์เท่าไร ได้แต่น้อยใจเบาๆอย่างงี้
เช้าวันใหม่
“โทโมะ”แก้วตะโกนเรียกโทโมะที่ยืนเอ๋อมองตามสาวที่เดินผ่านหน้าบ้านแก้ว
“คะ...ครับบบบ”โทโมะหันมามองหน้าแก้วแล้วยิ้ม
“มองใคร เห็นนะ”แก้วเดินทำหน้าติดงอนเข้ามาใกล้
“ปล่าวเลยนะ เค้าจะมองใครได้นอกจากตัวเอง”แหวะ แก้วทำหน้าเลี่ยนขึ้นมาก่อนจะเดินขึ้นรถไป
“พี่โทโมะคะ กรี๊ดๆๆๆๆ”เสียงกรี๊ดเกรียวกรายจนแผ่นดินแทบแยกดังผ่านลอดกระจกเข้ามาในรถ แก้วมองแฟนคลับสาวๆที่พากันกรูเข้าล้อมตัวโทโมะทันทีในพริบตา แก้วลงจากรถแล้วมองโทโมะที่กำลังถ่ายรูปกับสาวๆพวกนั้น ป้ายไฟ เสื้อกรีนรูปหน้าโทโมะ ตุ๊กตาประจำตัวที่โทโมะรัก ห๊ะ...มีแม้กระทั่งกระเป๋าสกรีนลายเจ้าไส้กรอก คลั่งจนบ้าไปแล้วมั่งยัยพวกนี้ แก้วนึกแล้วส่ายหัวเบาๆ
“พี่คะ นั่นใช่เพื่อนรักพี่โทโมะหรือปล่าวคะ”เสียงแฟนคลับตัวเล็กเสียงเล็กพูดขึ้นแล้วยิ้มแก้วบาน
“เอ่อ...ไม่ชะ...”ชั้นกำลังจะบอกว่าไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นแฟนตางหากหละ แก้วนึกแต่ดันโดนโทโมะดึงเข้ามาใกล้ตัวเขา
“ใช่ครับ สุดที่รัก ฮ่าๆๆๆ”โทโมะหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา แฟนคลับทั้งหลายพากันถ่ายรูปทั้งคู่เก็บไว้ ชั้นจะถูกเอาไปสกรีนเป็นรองเท้าไหมเนี้ย แก้วนึกแต่ก็ยิ้มให้แฟนคลับโทโมะถ่ายรูป
“น่ารักแบบนี้ไม่มีแฟนหรอคะ”สาวคนเดิมที่ตัวเล็กๆถามขึ้น
“เอ่อ....”แก้วมองหน้าโทโมะแล้วทำตาโตๆ
“มีแล้ว แฟนแก้ว...เอ่อ...ชื่อ ตี๋”อีตาบ้าๆๆ แก้วนึกก่อนจะหันหน้าออกจากโทโมะ
“พี่ตี๋ที่เป็นปาปารัสซี่ชื่อดัง และรูปหล่อ พ่อรวย ลูกครึ่งไทย-จีน และแถมเป็นนักเลงหัวโจคหรือเป็นมาเฟียก็ยังได้ใช่ไหมคะ”สาวคนเดิมทำตาโตแล้วพูด
“อ่า..ใช่คะ”แก้วยิ้มตอบแล้วสะบัดตัวออกจากโทโมะ แก้วเดินหนีในทันที โทโมะทำท่าจะเดินไปตามแต่ก็ไปไม่ได้เพราะตามไม่ทัน
เย็น
“แก้ว”ตี๋เรียกชื่อแก้วขึ้น แก้วที่นั่งอยู่ม้าหินริมรั้วมหาลัยก็ถึงกับตกใจ
“ตี๋ ปีนรั้วมาทำไม”แก้วถามเสียงสั่น
“เฮ้ย...เป็นไรหนะร้องไห้”ตี๋กระโดดลงจากรั้วมหาลัยแล้วนั่งลงบนม้าหินข้างๆแก้ว
“ตี๋”เสียงขรึมๆดังขึ้น
“อ้าว หวัดดีครับเทค”ตี๋เอ่ยเบาๆ
“เทค....!!”แก้วที่ร้องไห้อยู่ก็เงยหน้ามองเทคที่ยังคงความหล่อใสอยู่เหมือนเดิม
“เอ่อ...ผมขอเบอร์ตี๋ได้ไหม คือว่า...เอิ่ม...”
“อย่ายุ่งกับตี๋นะ ออกไป ชิ่วๆ”แก้วตวาดทั้งสายตาและน้ำเสียงขับไล่เทคเต็มที่ เทครีบวิ่งไปด้วยความกลัวในทันที
“ทำไมหละแก้ว เพื่อนกันนะ”ตี๋พูดแล้วหันมองหน้าแก้วที่กำลังเอาผ้าเช็ดหน้าปาดน้ำตาตัวเองอยู่
“ต้นอ้อไม่ได้บอกหรือยังไงว่าเทคเป็น....เอ่อ....ผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน และเค้าก็ชอบนาย”แก้วพูดขึ้นทำให้ตี๋ตาโตแล้วลุกทำท่าจะวิ่งตามเทคไป
“เดี๋ยว จะไปไหน อย่าบอกนะว่า...นายก็ชอบเทค อร้ายๆๆๆ”แก้วทำท่าปิดหูปิดตา
“จะบ้าหรือไง จะไปต่อยมัน บังอาจ”แววตาดุดันของตี๋ทำให้แก้วต้องฉุดมือไว้
“ชั่งเหอะหนะ กลับบ้านเป็นเพื่อนทีสิจะไปเยี่ยมต้นอ้อ หมอบอกว่าวันนี้ก็กลับบ้านได้แล้วหละ ความจริงแล้วกระดูกแค่ร้าว ไม่ได้หัก”แก้วเอ่ยเสียงใสแล้วจูงมือตี๋เดินไป งงจังแต่ก็ดีนะ จับมือชั้นไว้แน่นๆนะแก้ว ตี๋ยิ้มเล็กยิ้มให้แล้วเดินไปขึ้นรถตัวเอง
“แก้ว จะไปไหน”เสียงของโทโมะดังขึ้นแล้วรั้วข้อมือน้อยๆของแก้วไว้
“ว่าไงเพื่อน วันนี้จะกลับบ้านกับแฟนสุดที่รัก นายไม่ต้องมาหรอกนะ”แก้วทำหน้าใสซื่อแล้วควงตี๋ไว้แน่นทำเอาตี๋หน้าเหลอพอๆกับโทโมะ
“แก้ว อย่าประชดเค้ายังงี้สิ”โทโมะพูดแล้วทำหน้าจะร้องไห้
“จำไว้นะโทโมะ จากนี้ไปเราเป็นแค่เพื่อนกัน ชั้นจะคบกับตี๋”แก้วเอ่ยคำที่ทำให้โทโมะแทบเปนลมหงายหลังดังปึ้ง
“ไม่จริงช่ายม้ายแก้ว”โทโมะพูดแล้วใส่อารมณ์
“มันคือความจริง บ๊ายบายเพื่อน”แก้วขึ้นรถตี๋ไปโดยที่ตี๋ก็ขับรถออกไปปล่อยโทโมะยืนหน้าจ๋อยอยู่ข้างถนน
ณ โรงพยาบาล
“อ้าว แล้วต้นอ้อไปได้ยังไงคะ ในเมื่อค่ารักษาก็ยังไม่ได้จ่าย ขาก็เดินไม่ได้”แก้วต้องแปลกใจเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปไม่เจอต้นอ้อเลยเดินไปถามที่ประชาสัมพันธ์
“อ๋อ เค้าจ่ายค่ารักษาด้วยตัวเองไปแล้วคะ แล้วก็เดินกับไม้เท้ากระเพกเท้าคนเดียวขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว ชั้นก็บอกให้เค้ารอญาติมารับดีกว่าไหมแต่เค้ากลับปฏิเสธท่าเดียว”พยาบาลสาวชุดสีขาวพูดขึ้น
“ขอบคุณคะ”แก้วเอ่ยแล้วเดินไปหาตี๋ที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้ต่อกันเรียงรายแล้วเล่าเรื่องให้กับตี๋ฟัง แก้วกดโทรหาต้นอ้อแต่ก็ไม่มีใครรับ
“ช่างเถอะแก้ว ยัยนั่นไม่ไปไหนไกลหรอก ขาก็เจ็บ”ตี๋เอ่ยขึ้น ทำไมเธอต้องทำให้ชั้นห่วงด้วยนะยัยต้นไทร ตี๋นึกในใจแววตาส่อถึงความกังวลกระวนกระวายใจเป็นที่สุด
ณ บ้านต้นอ้อ
“อ้าว ป้าคะต้นอ้อไม่กลับบ้านแล้วไปไหนหละคะ”แก้วเอ่ยขึ้น เค้ากำลังคุยกับแม่บ้านที่กำลังจะปิดประตูบ้านหลังใหญ่ของต้นอ้อที่ไม่มีใครมีเพียงแต่ป้าที่เป็นแม่บ้าน แต่เขาก็กำลังจะกลับแหมือนกัน
“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันคะ เห็นคุณหนูต้นอ้อโทรมาบอกว่าให้ป้าเฝ้าบ้านให้ดีๆแล้วพอป้าถามว่าทำไมคุณหนูไม่กลับบ้านคุณหนูก็ตัดสายทิ้งไปแล้ว เบอร์ที่โทรเข้ามาก็เป็นเบอร์ตู้สารธารณะ”ป้าปิดบ้านเสร็จก็เดินไปคุยไปกับแก้วและตี๋
“ตายจริง ต้นอ้อนะต้นอ้อ ทำไมถึงไปที่อื่นนอกจากบ้านตัวเองนะ เป็นห่วงจังเลย ป้าพอมีเบอร์โทรสัพท์ของเพื่อนๆต้นอ้อหรือที่ที่ต้นอ้อชอบไปเวลาเหงาหรือไม่ใครอะไรทำนองนี้ไหมคะ”แก้วถามป้า ป้าก็จดๆๆใส่กระดาษให้ แก้วกับตี๋ไปทุกที่แต่ก็ไม่พบจนถึงที่สุดท้าย
“น้ำตกสวรรค์ ป้าแกประสาทหรือยังไงจะให้ชั้นขึ้นไปบนสวรรค์เลยหรอ”แก้วพูดคนเดียวกับกระดาษ
“น้ำตกสวรรค์อยู่ที่ไหนกัน ไม่เคยได้ยิน”ตี๋เสริมขึ้นอีกทาง
“โทรถามป้าก่อน”แก้วหยิบโทรสัพท์ออกจากกระเป๋าแล้วกดโทรไปที่เบอร์ที่ป้าให้ไว้
“น้ำตกสวรรค์อยู่ที่ไหนกันคะป้า”แก้วถามขึ้น อู้อี้ๆๆๆ เสียงดังออกจากโทรศัพท์ฟังไม่รู้เรื่องแต่แก้วพยักหน้ารู้เรื่องเพียงผู้เดียว
“ขอบคุณคะป้า”แก้ววางสายไปแล้วหันมองตี๋
“เป็นที่ที่ต้นอ้อชอบไปมาก เพราะมีรักแรกที่นั่น และต้นอ้อก็ยังไม่เคยมีรักครั้งที่สองเลย เวลาเหงา อยากมีใครสักคน อกหัก ดีใจในความรัก ทะเลาะกับแฟน ดีกับแฟน เสียใจเรื่องแฟน หรือแอบชอบใครแล้วไม่สำเร็จ ต้นอ้อชอบไปที่นั่น”แก้วมองหน้าตี๋แล้วส่อแววตาระยิบระยับพลางส่อถึงความหมายว่า ต้นอ้อชอบนายหรือปล่าว แต่ตี๋กลับหยิบแผนที่ในมือแก้วมาดูแล้วขับรถไปตามที่แก้วเขียน
ณ น้ำตกสวรรค์
“อีกครั้งแล้วสินะที่ชั้นชนะใจตัวเองไม่ได้ ชั้นมันก็คงได้แต่แอบรักคนอื่น มีสักคนไหมที่รักชั้นจริงๆจังๆ ลีฟฟี่คือรักแรกของชั้น และเค้าก็ทิ้งชั้นไป ฮือๆๆ”เสียงสะอื้นดังขึ้น
“ชั้นก็ยังคงแพ้ใจตัวเองอยู่ดี ชั้นตัดใจจากนายได้แล้วลีฟฟี่ แต่ไม่ว่ากี่ครั้งที่ชั้นเจอคนที่คิดว่าใช่แต่สำหรับเค้าชั้นไม่เคยใช่เลย ผิดกับนายแค่ยกหางคิ้วสาวๆก็รุมกันตรึม ป่านนี้นายคงจะสุขสบายทั้งกายทั้งใจ ฮึกๆๆ นายชนะชั้นทุกอย่าง ชั้นก็ยิ่งแพ้นายทุกอย่าง ลูกคุณหนูที่ใครๆก็บอกว่าสุขสบายราวกับนางฟ้า แต่ถ้าลองมาเป็นชั้นจะรู้ว่าไม่ต่างอะไรกับหมาจรจัดแม้แต่น้อย ความรักมีอยู่จริงไหมบนโลกใบนี้ ตี่ตี๋...ชั้นให้ความหวังกับนายไว้มาก นายเป็นผู้ชายคนที่2ที่เวลาชั้นมองหน้าแล้วใจสั่นไม่เป็นจังหวะ ไม่ว่ากี่คนที่ชั้นเคยแอบชอบชั้นก็ไม่เป็นแบบนี้ แต่มันแย่ตรงที่นายไม่เคยชอบชั้น ชั้นไม่เคยอยู่ในสายตาเลย ฮึ...นึกแล้วสมเพศตัวเองชะมัด ขาก็เป๊ หน้าตาก็เน่าอย่างกับหนอน พ่อแม่ก็ไม่รัก ไม่มีใครเลยที่รักชั้นนอกจากป้าแบ๋วและแก้ว....ในเมื่อตี่ตี๋รักแก้ว ชั้นก็ไม่สามารถจะรักนายต่อได้แล้ว ชั้นขอหยุดทุกความรักไว้ที่นาย ตี่ตี๋......นายคือผู้ชายที่ชั้นรักคนสุดท้ายในชีวิต ชั้นจะไม่รักใครอีก ชั้นจะตัดใจจากนายให้ได้เร็วที่สุดตี่ตี๋ และชั้นจะย้ายไปอยู่อังกฤษ ลอนดอน เดนมาร์ก ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ได้เจอหน้านายอีก ต่อให้เจอใครต่อใครผู้หญิงผู้ชายกี่คนผ่านมาในสายตาชั้นก็จะไม่มองใครอีก ชั้นขอโสดจนตายเถอะ ที่นี่คือบ้านหลังที่2ของชั้น คือที่พักหัวใจของชั้น คือพ่อ คือแม่ คือเพื่อนข้างกาย คือทุกๆอย่างในชีวิต ฮือๆๆๆ”สาวน้อยนั่งร้องไห้อย่างหน้าสงสาร ผมเผ่าปรกหน้าปรกตา นั่งห่อตัวเอาหน้าซุกหัวเข่าทั้งสองข้าง มือรวบเข่าไว้แน่นแล้วร้องไห้โฮออกมาอย่างปลดปล่อย ร่างของต้นอ้อยืนขึ้นแล้วค่อยๆก้าวเท้า ต๊อมๆๆ ค่อยๆหายลงไปในน้ำตก
“ต้นอ้อ ต้นอ้ออยู่นี่หรือปล่าว”เสียงของแก้วแปร๊นมาแต่ไกล น้ำท่วมทั้งหัวทั้งตัวของต้นอ้อไปแล้วทำให้ได้ยินแค่แว่วๆแต่ต้นอ้อก็ไม่ยอมโผล่หัวขึ้นมา
“นั่นมัน ไม้เท้าที่ใช้เท้าเวลาเดินนี่หน่า”ตี๋พูดขึ้นแล้วมองหาต้นอ้อรอบๆ น้ำใสแจ๋วทำให้เห็นร่างสาวน้อยที่จมอยู่ในน้ำ (ตั้งใจจม) ร่างแน่นิ่งขยับเท้าไปมาเป็นการลอยตัว น้ำลึกมิดหัวเป็นเมตรๆ แก้วเห็นก็แทบจะเป็นลมนึกว่าเพื่อนตัวเองคิดค่าตัวตาย ตี๋เห็นภาพตรงหน้าก็อึ้งไปสักพักก่อนจะกระโดดตูมลงไปในน้ำ ว้ายยยยย ผีหลอก กรี๊ดดดดดดด ต้นอ้อนึกในใจเมื่อเห็นร่างผู้ชายลงมาอยู่เคียงข้างเธอขาหมดแรงจากการตกใจแถมยังมีรอยเฝือกที่เปียกน้ำอยู่ก็ยิ่งถ่วงน้ำหนักให้ตัวสาวน้อยจมลงไปยันก้นบึ้ง ตี๋รีบพุ่งตามลงไป ต้นอ้อตั้งสติได้ก็แกว่งขาเป็นการดีดตัวแต่แล้ว ช็อค...!! ขาดันเกิดเจ็บอย่างรุนแรงขึ้นมา อ๊าคคคคคคค ตายแน่ชั้น ฮือๆๆๆๆ ชั้นไม่ได้จะฆ่าตัวตาย ชั้นแค่จะล้างตัว ฮือๆๆๆ ทุกครั้งที่ชั้นมาปลดปล่อยใจที่นี่ชั้นก็จะล้างความทุกข์โศกแบบนี้ทุกครั้ง ฮือๆๆๆชั้นไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ชั้นได้ตายแน่ๆ แงๆๆๆๆ >< ต้นอ้อที่จมลงไปทุกทีๆจนไปสุดกับโขดหินที่มีตะไคร่น้ำเกาะจับแน่นหนาพอควร ร่างหนักๆของต้นอ้อลอยตัวน้อยๆอยู่แต่แล้วตี๋ก็ลงมาปรากฎโฉมหน้าหล่อๆ ยิ่งอยู่ในน้ำยิ่งหล่อ ผมที่เปียกแล้วสไวกับผิวน้ำ หน้าขาวซีดเมื่ออยู่ใต้น้ำยิ่งดูดีไปใหญ่ ทั้งคู่จมลงมาลึกจนหูอื้อสนิท
“หายไปไหนกันหมด ฮือๆๆ”แก้วกลั้นน้ำตาถึงที่สุดเมื่อไม่เห็นทั้งคู่เพราะน้ำลึกเกินเหตุที่จะมองเห็น ทั้งคู่จมอยู่ที่ก้นบึ้งของน้ำตกแสนจะลึก
“อี่อี๋”(ตี่ตี๋)เสียงพูดในน้ำถึงแม้ว่าชายตรงหน้าจะไม่ได้ยินแต่เค้าก็อยากจะพูด ตี๋รวบตัวของต้นอ้อไว้แน่นแล้วประกบริมฝีปากลงไปอย่างแน่นหนา จะตายแล้วเพิ่งมาโรแมนติก ตาบ้าเอ้ย (เข้าใจผิดแล้วเจ๊ พี่เค้าจะให้อากาศเจ๊) ตี๋พ่นลมเข้าไปในปากของต้นอ้ออยู่ประมาณ20วินาที มันมีค่ามากมายสำหรับต้นอ้อ ตายก็คุ้ม ตี๋ดันตัวต้นอ้อเป็นการส่งให้ขึ้นไปอย่างแรง ฟึ่บ ต้นอ้อกระเด็นไปข้างบนจนโผล่ แรงเยอะชะมัด
“แฮ่กๆๆๆ”ต้นอ้อหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้า
“ต้นอ้อ.....เอ๋....ตี๋หละ”แก้วถามเมื่อเห็นต้นอ้อขึ้นมาคนเดียว
“ว้ายยยยยย”ฟึ่บ ขาที่ไม่มีแรงของต้นอ้อทำให้ลอยตัวไม่ได้เมื่อขึ้นมาหายใจได้สักพักพอได้ยินคำถามก็ร่วงจ๋อมไปที่ก้นบึ้งอีกครั้ง
“อ้นอ้อ”(ต้นอ้อ)ยัยประสาท ชั้นช่วยแล้วจะลงมาอีกทำไม ตี๋หงุดหงิดนิดๆ ชั้นไม่ได้อยากลงนะแต่ชั้นจม อีกครั้ง ต้นอ้อถูกตี๋โอบไว้อีกครั้ง มีวิธีเดียวที่จะรอดทั้งคู่ เอาวะ ตี๋นึกในใจอยู่นายก่อนจะประกบปากกับต้นอ้อ ต้นอ้อพ่นลมหายใจในปากใส่ให้กับตี๋ ตี๋ก็พ่นกลับให้ต้นอ้อสลับกันไปมา ตี๋ถีบโขดหินเพื่อส่งตัวของเขาแล้วต้นอ้อที่กอดกันกลมอย่างเต็มแรง ฟึ่บ ปุ๊งๆๆ ทั้งสองร่างโผล่กายขึ้นเหนือน้ำ แต่....ยัยแก้วเป็นลมซะงั้น
“แฮ่กๆๆๆ”เสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายยังกอดชั้นอยู่นะ อร้ายย^^ ต้นอ้อที่ได้สติก่อนก็มองผ่านลงไปในน้ำเห็นมือของตี๋รวบเอวเขาอยู่แน่นไม่ยอมปล่อย
“ทำบ้าอะไรของเธอ โง่จังรู้ตัวไหม”ตี๋พูดอย่างหยุดหงิดแล้วเอามือข้างนึงของตัวเองเสยผมของเค้าที่เปียกชุ่มจนลงมาปรกหน้าปรกตา
“ชั้นไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย”สายตา สายตา สายตา แว๊กกกกก เข้ม หล่อ เท่ห์ อร้ายยยยยยยยยยยยยยย อยากจูบอีกสักที ต้นอ้อที่มองเห็นสายตาอันแสนจะคมและจริงจังของตี๋ก็แทบละลายลงไปก้นบึ้งอีกครั้ง
“ฆ่าตัวตายเนี้ยนะไม่ได้ทำ ปัญญา..โอ๊ย มาตบชั้นทำไม”ตี๋ร้องขึ้น มือนึงรวบเอวต้นอ้อไว้ อีกมือลูบแก้มตัวเองที่พึ่งจะถูกฝ่ามือของสาวตรงหน้าฟาดเข้าให้เต็มๆ
“ฆ่าบ้าอะไรหละ ชั้นก็แค่ล้างทุกข์ล้างโศกให้สบายใจ ทุกครั้งที่มาที่นี่ชั้นก็จะอาบน้ำนี้หรือลงไปแช่ประจำนั่นแหละ แต่นายอ่ะ บ้าหรือไงอยู่ดีๆก็กระโดดลงมาชั้นก็ตกใจหมดร่วงลงไปจนก้นบึ้งเลย ขาก็ดันเจ็บขึ้นมาจนว่ายน้ำไม่ได้ ถ้าขาชั้นมีแรงชั้นไม่พึ่งนายหรอกนะ ชั้นแช้มป์ว่ายน้ำนะจะบอกให้”ต้นอ้อพูดแล้วมองตาตี๋โต้ตอบไป ขืนชั้นมองต่อไปอีก2วิชั้นละลายรวมกับน้ำแน่ๆ คนบ้าอะไรจะน่ารักขนาดนี้ ต้นอ้อนึกในใจ โอย ก่อนจะสวีทกันมาช่วยสนใจชั้นหน่อยก็ดีนะ เดี๋ยวบัดตื่นแล้ววิ่งหนีซะเลย (แก้ว)
“สรุปว่าชั้นผิด”ริมฝีปากชวนหลงไหลขยับเบาๆอย่างสวยงาม
“ถ้านายไม่ผิดแล้วชั้นผิดงั้นหรอที่จะมาสงบสติจากการถูกคนบางคนด่าปาวๆ และไม่เห็นค่าในสายตาเลย”ต้นอ้อโต้ตอบไปและสบตาอย่างเคียดแค้น คราวนี้หละมา ชั้นสบตาให้นานกว่า2ชั่วโมงให้ดู แค้นๆๆ
“และจะให้ชั้นทำไงถึงจะหายโกรธ”ตี๋ยื่นข้อเสนอ
“ไม่บอก”ต้นอ้อทำหน้าหมันไส้แล้วเชิดหน้าออกนิดๆ
“งั้นก็ตามใจเถอะ”(นี่ตกลงจะไม่มีใครสนใจยัยแก้วบ้างหรอ นอนสบายกับสายลมไปแล้วมั้งหนะ)
“ก็ดี งั้นก็ปล่อย”ต้นอ้อสะบัดตัวเบาๆ
“ปล่อยเธอก็จมอีกสิ ขาไม่มีแรงยังจะซ่า หมันไส้จริงๆอวดดี”ตี๋พูดจบก็โผหน้าเข้าไปเอาจมูกชนกับต้นอ้อ อร้ายยยยย นายทำชั้นหวั่นไหวอีกแล้ววววว
“ปากเปื้อนอะไร”ตี๋ลงเสียงต่ำก่อนจะกดริมฝีปากตัวเองลงไปประกบกับริมฝีปากของต้นอ้อ หืม...มีความสุขจัง ต้นอ้อนึกในใจ ดวงตาทั้งคู่พริ้มหลับสนิท ลิ้นน้อยๆของเจ้าพระเอกก็ทรอดแทรกเข้าไปในปากนางเอกน้อยอย่าเบาๆ รสริมฝีปากหวานๆจนแทบทำให้ฝ่ายหญิงที่โดนสะกดหลอมละลาย
“ฟื้ดๆๆ”ลมหายใจรินรดซึ่งกันและกัน หัวใจของต้นอ้อเพ้อละเมอคอยหาไปยันไหนต่อไหน เค้าจูบชั้นแสดงว่าเค้าต้องชอบชั้นแน่ๆ ฮิฮิ ต้นอ้อนึกในใจแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบจูบไปเพราะทำอะไรกับเค้าไม่เป็น (ตามสบายเลยนะ จูบกันไปเลย ปล่อยยัยแก้วนอนสบายไปเถอะ ไม่มีบท... 55) นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ทั้งคู่ได้ชิมความหวานของกันและกัน ตี๋ค่อยๆถอนปากออกจากต้นอ้อช้าๆๆ
“ยกโทดให้ได้หรือยัง”เสียงทุ้มต่ำนุ่มนวลถามขึ้น
“เอ่อ.....”ต้นอ้อทำตาโตอยู่ในอ้อมแขนของตี๋
“โอ๊ยยยย มึนหัว อ้าวขึ้นมาแล้วหรอ”แก้วกล่าวขึ้นเมื่อลืมตาขึ้นมา แก้วเอามือยันพื้นแล้วถาม
“กรี๊ดดดดดดดด”ต้นอ้อกรี๊ดเมื่อตี๋ปล่อยมือออกจากเค้าทันทีที่แก้วตื่น ต้นอ้อเกือบลงไปเยี่ยมชมโขดหินและตะไคร่อีกครั้งแล้วแต่ตี๋คว้าตัวไว้ทัน ตี๋พาต้นอ้อไปนั่งบนฝั่งแล้วก็ดีดตัวเองขึ้นจากฝั่งเหมือนกัน
“นี่แก้วเป็นลมหรอ”ตี๋ถามแก้วแล้วมุ่งหน้าไปประคองแก้วขึ้นยืน
“อื้ม มั้ง”แก้วตอบแล้วยิ้ม
“มึนมากไหม ไปที่รถดีกว่านะ”ตี๋พูดแล้วเอามือลูบผมของแก้วที่ดูจะยุ่งๆ
“ไปประคองต้นอ้อเถอะ ขาเจ็บอยู่”แก้วมองต้นอ้อที่นั่งแข็งทื่อไม่กระดุกกระดิกไปไหนแม้แต่น้อย
“อย่าคิดบ้าๆแบบนั้นอีกนะ ใจจะวาย”แก้วพูดแล้วยิ้มให้กับต้นอ้อ ตี๋เล่าเรื่องที่ต้นอ้อไม่ได้จะฆ่าตัวตายแค่จะลงไปล้างตัวให้แก้วฟัง
“โอ้....ก็ตกใจหมด ใจหายหมดเลย ว่าแต่ไปกลุ้มใจอะไรมา”แก้วเอ่ยถามแล้วเดินเข้าไปหาต้นอ้อที่นั่งมองน้ำตกลงกระทบกับผิวน้ำซ่าๆอยู่
“ช่างมันเถอะ กลับไปกันเถอะ ชั้นจะนอนที่นี่”ต้นอ้อทำหน้านิ่ง
“บ้าน่า....”แก้วเอ่ยขึ้นแล้วดึงแขนต้นอ้อ
“ชั้นพูดจริงๆ จะอยู่บ้านไปทำไมในเมื่อไม่มีใครอยู่ด้วยสู้นอนในที่ ที่ชั้นคิดว่ามันสบายใจแล้วยังจะดีกว่าอีกนะ”ต้นอ้อมองหน้าแก้วแล้วเหลือบไปมองตี๋ที่มองแก้วแล้วอมยิ้มอย่างเศร้าๆ
“เดี่ยวชั้นไปอยู่เป็นเพื่อนก็ได้นะ”แก้วเอ่ยขึ้นเบาๆ
“ฟ้าจะมืดแล้ว แก้วรีบกลับเถอะเดี๋ยวยุงจะกัด”ตี๋พูดขึ้น
“ไอ้ตี๋”ผลั่ว !! เสียงหมัดที่หนักหน่วงดังขึ้น
“โทโมะ”แก้วถึงกับตาค้างเมื่อเห็นโทโมะเดินมาจากทางทิศไหนไม่รู้แล้วต่อยเข้าเต็มใบหน้าของตี๋จนตี๋ล้มลง
“โอ๊ยยยย”ต้นอ้อร้องลั่นเมื่อพยายามจะลุกไปพยุงตี๋แต่ขาดันเจ็บ
“อะไรของมึงวะ”ตี๋ขึ้นเสียงดีงแล้วสวนหมัดกลับ ผลั่ว !!
“หยุดเถอะชั้นขอ!!!”ต้นอ้อตะโกนสุดเสียงแต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ยอมหยุดกัน
“หยุด”แก้วพูดขึ้นเบาๆแล้วทำหน้าเนือย ทั้งคู่ที่บ้าคลั่งเหมือนช้างตกมันก็หยุดศึก(ยุทธหัตถี)ลง นี่หละนะ ชั้นไม่มีค่าจริงๆสินะ อุสส่าตะโกนกลับไม่มีใครสนใจแต่แก้วแค่พูดเบาทุกคนก็หยุด ชั้นทำบุญมาด้วยอะไรกันนะ ลูกอมหรือขยะเปียกถึงได้เกิดมาอาภัพแบบนี้ ต้นอ้อนึกแล้วแทบจะร้องไห้
“ตี๋ กลับบ้านกันดีกว่าที่รัก”แก้วเดินเข้าไปควงตี๋ที่ตัวเปียกโชค คำลงท้าย ‘ที่รัก’ ทำให้ทั้งต้นอ้อและโทโมะถึงกับอึ้ง ทั้งคู่เดินออกไปโดยไม่รอใครปล่อยให้ทั้งสองคนที่เหลืออึ้งค้างตาโตมองสายลม
“แก้ว ๆๆๆ”โทโมะร้องเรียกแล้วทำท่าจะวิ่งตามแต่ก็อดสงสารต้นอ้อที่ไม่มีแรงจะก้าวไปไหนไม่ได้
“เธอนี่มัน”โทโมะพยุงตัวต้นอ้อ
“ไม่เป็นไรหรอกนะ ขอบคุณ ชั้นจะนอนนี่ ไปเถอะ ง้อให้สำเร็จนะ จะเป็นกำลังใจให้ สู้ๆ”ต้นอ้อชูสองนิ้ว เมื่อโทโมะเห็นใบหน้าที่มีน้ำ(ตา)ประปรายยิ้มให้ก็ยิ้มตอบ แต่เค้าก็คิดว่าคงเป็นเพียงน้ำธรรมดาเพราะทั้งตัวต้นอ้อเปียกมะรอกมะแรกเป็นผีพราย
“เธอไม่ไหวแน่ๆ ไปกับชั้นเถอะหนะ”โทโมะพยายามจะลากตัวต้นอ้อให้ได้
“บอกว่าอย่ามายุ่งก็อย่ามายุ่งสิ พูดดีๆไม่รู้เรื่องใช่ไหม ไปเลย ไปๆๆๆ ไปง้อเพื่อนชั้นซะ ถ้านายไม่ง้อนายตายแน่ไอ้โทโมะบ้า!!”เสียงของต้นอ้อตะโกนดังไปยันสามเขา โทโมะถึงกับปล่อยมือจากตัวต้นอ้ออย่างไร้เยื่อใยแล้วรีบวิ่งออกไป ชั้นพึ่งจะสั่งคนได้ก้วันนี้และมั้ง ต้นอ้อนึกและทรุดตัวลงกับพื้น ไปไหนไม่ไหวจริงๆ นอนมันตรงนี้แหละ
ณ บ้านตี๋
บ้านหลังใหญ่อย่างกับวังหลวง
“เฮ้ย ตี๋ หยุดสิวะ”โทโมะบีบแตร ปี้นๆไล่หลังของรถตี๋แล้วจ่อฝากระโปรงรถเข้าไปในรั้วบ้านของตี๋
“หยุดบ้าสักทีได้ไหม นายมันแค่เพื่อนชั้นนะ ต่อจากนี้เราขาดกัน ไม่ต้องมาเป็นเพื่อนกันอีก”แก้วตะโกนลั่นพร้อมลงจากรถตี๋ไปยืนประจันหน้าโทโมะอย่างไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด
“แก้ว ชั้นขอโทดนะแก้ว”รถทั้งสองคันคาแหงกอยู่ ครึ่งคันเข้าพ้นรั้วบ้านไปแล้วอีกคันครึ่งยังอยู่หน้ารั้ว
“นายบอกแล้วใช่ไหมว่าจะไม่ทำอย่างงี้อีก แต่นี่นายบอกพร้อมจับคู่ให้ชั้นเสร็จสรรพ ok นี่ไง ชั้นอยู่ถูกคู่ของชั้นแล้วหนิ”แก้วกอดอกทำเบ้ปาก
“แต่เธอเป็นของชั้น เป็นของชั้นคนเดียว มานี่นะ”โทโมะกระชากแขนแก้วแล้วโอบไว้
“แกจำไว้เลยนะไอ้ลูกหมาตกน้ำ แก้วคือของชั้น ชั้นได้กับเค้าแล้ว จำไว้เว้ย”เพี้ย ฝ่ามืออรหันของแก้วแล่นอย่างรวดเร็วไปที่แก้วโทโมะจนเกิดเสียงจากการกระทบกัน
“ปากหม......อุ๊บ”แก้วยังไม่ทันพูดอะไรต่อก็โดนโทโมะปิดปากด้วยปากของเขาอย่าบ้าคลั่ง
“อ้าย น่ารังเกรียจ บัดซบ!!”แก้วด่าลั่นแล้วผลักโทโมะออก เพี้ย เพี้ย เพี้ย 3เพี้ยเต็มๆที่แก้วฟาดมือลงบนใบหน้าโทโมะเต็มที่จนเกิดรอยแดง
“นายมันเลว เลวที่สุดใน3โลก ชั้นเกลียดนาย”แก้วพูดจบก็เดินหนีเข้าไปในรั้วบ้านของตี๋
“ไอ้ตี๋มึง”ผลั่ว เสียงสนั่นดังขึ้นอีกครั้งเมื่อฝ่ามือแล่นไปอัดเข้าหน้าของตี๋จนเลือดกำเดาไหล
“อะไรของมึงวะโทโมะ มึงเสือผู้หญิง จะมาจริงจังอะไรกับผู้หญิงคนนึง เท่าที่รู้มา ได้ใครแล้วก็ปล่อยไม่ใช่หรอวะ ตอนกลางคืนชั้นรักเธอ ตอนเช้ามาเธอคือใคร นี่แหละนิสัยแกไอ้เสือมืด”(พี่ป้อ กรี๊ดดดดดดด)ตี๋พูดขึ้น
“นั่นมันเมื่อก่อน แต่คนนี้มันใช่สำหรับชั้นสุดๆ อย่ามายุ่งนะเว้ย”โทโมะพูดแล้วเข้าไปกระชากคอเสื้อตี๋
“ถ้ามึงแตะต้องแก้วแม้แต่ปลายเล็บมึงเละแน่ ไอสั***”โทโมะพูดจบก็เดินกลับขึ้นรถตัวเองไป
เช้าตรู่
เมื่อคืนแก้วหลับบนเตียงของตี๋แต่ตี๋ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกดีๆที่มีต่อกันของเขาและแก้วตี๋เลยนอนที่พื้น เมื่อแก้วกินอะไรเสร็จก็ต้องตกใจในทันที
“ต้นอ้อ!!”แก้วอุทานออกมาแล้วมองหน้าตี๋
“ต้นอ้อ เราลืมต้นอ้อ”แก้วพูดแล้วตี๋ก็รีบหยิบกุญแจรถขับออกไปที่น้ำตกสวรรค์ทันที
ณ น้ำตกสวรรค์
“ฮึกๆๆ”ตัวสั่นระริกของต้นอ้อที่นอนกอดตัวเอง ปวดไปทั้งตัว ทั้งคืนเสื้อผ้าเปียกๆชื้นๆยังคงถูกสวมใส่จนแห้ง ใบหน้าซีดปากเซียวสั่นระริก ทั้งตัวสีซีดเหมือนใช้ไฮเตอร์ซักยังไงยังงั้น โอ๊ยยยย ปวดขาเหลือเกิน ปวดยิ่งกว่าตอนอยู่รพ.ซะอีก โอ๊ย ฮึก ชั้นปวดหัว ปวดไปหมดทั้งตัวแล้ว ชั้นเจ็บ ชั้นปวด โอ๊ยยย ฮือๆๆ น้ำตาถูกกลั่นออกมาเรื่อยๆอย่างไม่รู้จักหยุด แม้แต่เปลือกตายังลืมไม่ได้ปวดมากขนาดไหนก็คิดดู มือสองข้างโอบกอดตัวเองไว้แน่น ผมเผ้าฟูกระเซิงเป็นปอปหยิบ กางเกงขายาวผ้าสบายๆสีดำสนิทกับเสื้อยืดธรรมดาสีชมพูเข้มที่เคยปียกก็แห้งเป็นบางส่วน ร่างของสาวน้อยนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นหญ้าที่เมื่อคืนทรุดตัวลง โขดหินที่อยู่ใกล้ๆเป็นเครื่องช่วยในการพยายามลุกแต่ก็ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับมือออกจากตัวเอง
“ต้นอ้อ”แก้วอุทานออกมาทันทีก่อนจะโผเข้าไปหาอย่างรวดเร็วพร้อมกับตี๋
“ตายจริง ไฟไหม้แน่ๆ”เมื่อแก้วพยายามจะพยุงต้นอ้อขึ้นก็ต้องสะดุ้งเมื่ออุณภูมิในตัวต้นอ้อสูงสุดยอดร้อนจี๋ถึงร้อนมากกกกกกกก
“ไหวไหมต้นอ้อ ตายแล้ว ตี๋อุ้มต้นอ้อทีสิ”แก้วหันมามองตี๋ ตี๋พยักหน้าแล้วเข้าไปพยายามจะรวบตัวของต้นอ้อที่สั่นกระพือไม่หยุด
“ยัยต้นไทร!! ให้ตายสิ ทำไมตัวเป็นไฟแบบนี้ ลืมตามาคุยกันหน่อยสิ ยังมีสติไหม”ตี๋ที่กำลังจะอุ้มก็ต้องถอนโจ๊ะทันทีเมื่อรับอุณหภูมิต้นอ้อไม่ไหว
“ตาย”เสียงแผ่วเบาแทบจะไม่มีใครได้ยินแต่ตี๋พอจะได้ยินนั่นคือคำพูดที่ออกมาจากปากของต้นอ้อ
“ตายได้ยังไง เธอต้องไม่ตาย ลืมตาก่อน ยัยต้นไทร ชั้นสั่งให้ลืมตาไง”ตี๋ตะคอกอย่างหัวเสีย ต้นอ้อพยายามจะเบิกตาตัวเองที่หนักมากเท่ากับ10กิโลก็เป็นได้ พยายามจะยกมันขึ้น อึ๊บๆๆๆ เปลือกตาค่อยๆถูกเปิดขึ้นเพียงนิดๆพอเห็นภาพเลือนลาง ภาพที่เห็นตรงหน้าของต้นอ้อมัวไม่เห็นเป็นรูปร่างเลย
“เธอยังมีสติ ไปเร็วๆๆ”ตี๋พูดแล้วรวบต้นอ้อที่ร้อนเป็นไฟจนควันแทบขึ้นไปที่รถโดยมีแก้ววิ่งนำไปเปิดประตูให้
ณ โรงพยาบาล
Kaew talk
ยัยเพื่อนบ้านี่เดี๋ยวก็จมน้ำเดี๋ยวก็ขาหักเดี๋ยวก็ไข้ขึ้น ชั้นก็อิจฉาแกเหมือนกันนะย๊ะ ตี๋อุ้มประจำ โทโมะก็เคยเห็นใจ ชิ๊ แต่นี่มันไม่ใช่เวลานี่หว่า...*-* ชั้นต้องห่วงเพื่อนสิ ยัยเพื่อนบ้าอย่าพึ่งช็อคตายนะ จะว่าไปก็คิดถึงโทโมะนะ เค้าก็ไม่ได้ผิดอะไรมากมายสักหน่อย อย่างว่า มีแฟนเป็นดารามันต้องทน....จำทน!!
สิ้นสุด Kaew talk
“ญาติคุณเพ็ญชราสา พรปารวีเชิญด้านในค่ะ”พยาบาลแก่ๆคนนึงพูดขึ้นจากหน้าห้องฉุกเฉิน แก้วกับตี๋รีบเดินไปในห้องฉุกเฉินอย่างเร็วไว
“คือว่าคุณเพ็ญชราสาไข้ขึ้นสูงมาก มากถึงมากเลยนะคะ ถ้ามาช้ากว่านี้ประมาณ2ก้าวได้เนี้ย...คุณอาจจะต้องเสียเข้าไปแล้วก็ได้ เพราะภูมิต้านทานในตัวของคุณเพ็ญชราสาน้อยมาก เป็นคนที่อ่อนแอและต้องการได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคนรอบข้าง เป็นคนอ่อนไหวง่ายชอบคิดมาก”ตกลงเธอเป็นหมอรักษาคนหรือหมอดู แก้วนึกในใจ
“อาการที่บอกไม่ใช่ว่าชั้นเป็นหมอดูนะคะแต่ว่าคนไข้มีเส้นรอยหยักสีดำซึ่งเป็นเส้นความทรงจำที่หัวสมองจากการเอ็กซเรย์แต่เป็นความทรงจำแย่ๆอยู่เยอะมาก พวกคุณควรจะสร้างความทรงจำดีๆให้กับเค้าให้มากที่สุด ก่อนจะเสียคุณเพ็ญชราสาไปจากโรคความจำเสื่อม เพราะสมองได้รับความอ่อนไหวจากหลายๆสิ่ง เป็นคนสมองอ่อนแต่ไม่ใช่ปัญญาอ่อนนะคะแค่อ่อนไหวง่าย ช่วยกันดูแลด้วยนะคะ^^”ยิ้มทำไม...- -* ตกลงว่าชั้นต้องดูแลยัยเพื่อนบ้านี่เป็นพิเศษงั้นหรอ แค่นี้ชั้นก็อิจฉามันจนขนหัวจะร่วงแล้วนะ แก้วนึกในใจ ชั้นตางหากที่ต้องอิจฉาแก คนชอบเป็นล้านแต่ดูชั้นสิคนชอบไม่มี คนเกลียดสิบล้าน ชั้นนี่น่าสมเพ็ชจริงๆ สาวที่นอนแน่นิ่งแต่ได้ยินทุกอย่างเพราะอยากจะหลับตาเอาไว้ไม่อยากลืมตาไปเผชิญกับสิ่งชั่วร้ายตรงหน้าทั้งสององค์คนนึงก็ลืมเพื่อนอีกคนก็ไม่เคยสนใจ...เพื่อน ความจริงชั้นก็ไม่อยากจะโกรธพวกเธอทั้งสองคนหรอกนะ ชั้นไม่โกรธเลยก็ว่าได้เพียงแต่ชั้นน้อยใจอยู่บ้าง...ถึงแม้ไม่มีสิทธิ์ เฮอะ สมเพ็ชตัวเองชะมัด ต้นอ้อนึกก่อนจะค่อยๆลืมตามายอมรับภาพที่เห็น แก้วอยู่ในอ้อมแขนที่เค้าคิดว่าแสนจะอบอุ่นคืออ้อมแขนของตี๋ แก้วน้ำตาคลอเบ้าแต่ตี๋กลับอมยิ้มที่เห็นแก้วเอากายมาชิดใกล้ ชั้นน่าจะหลับไปชั่วนิรัณเลยนะ ต้นอ้อนึก ต่อมน้ำตาก็เริ่มจะทำงาน
“ต้นอ้อตื่นแล้วหรอ”แก้วพุ่งเข้าใส่เต็มๆจนร่างของแก้วกระแทกกับเตียงเหล็กแต่คนที่เจ็บไม่ใช่แก้วควรจะเป็นต้นอ้อที่ในมือโดนเจาะน้ำเกลือไปหมาดๆแล้วกระแทกจนร่างพลิกแต่ตี๋ก็เลือกที่จะประคองแก้ว ก็ใช่สิชั้นมันไม่ใช่แก้ว
“ไม่อยากตื่นหรอกนะ”ต้นอ้อพูดเบาๆเพียงได้ยินคนเดียว
“อะไรนะ”แก้วได้ยินไม่ชัดก็ถามขึ้น
“ปล่าว ไม่มีแรงพูด”ต้นอ้อหันไปมองแก้วแล้วพูดย้ำอีกครั้ง
“ต้องนอนค้างไหมครับ”ตี๋หันไปถามพยาบาล
“ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ให้ครบ24ชม.คะ สมควรจะนอนพักจนกว่าจะเป็นปกตินะคะ”พยาบาลหนังเหี่ยวพูดขึ้น
“ชั้นดูแลตัวเองได้คะ ขอกลับบ้านเถอะ ชั้นไม่อยากอยู่ที่นี่ ชั้นไม่ชอบ ชั้นไม่ชอบที่นี่จริงๆ นะคะขอร้อง นะคะๆๆๆ”ต้นอ้อลุกขึ้นนั่งช้าๆแล้วยกมือสองข้างอย่างลีแล็กขึ้นมาพนมแล้วทำท่าเขย่ามือไปมา
“เอ่อ....ไม่ควรนะคะคุณเพ็ญชราสา”พยาบาลเข้ามาหาแล้วยิ้มอ่อนๆให้
“ไม่ๆๆ นะคะ ๆๆ ขอร้อง ให้เพ็ญไหว้ก็ยอม นะคะ”เพ็ญ...ทำไมแทนตัวเองอย่างงั้นหละ แก้วนึกแต่ก็ยิ้ม
“เอ่อ...”พยาบาลหันไปมองแก้วกับตี๋
“ปล่อยเค้าไปเถอะครับในเมื่อเค้าคิดว่าจะดูแลตัวเองได้ เค้าคงไม่อยากเข้าโรงพยาบาลซ้ำซาก หรือโรคสำออยกำเริบหรอกมั้ง”ตี๋เลิกคิ้วเป็นการท้าทายแต่มองเฉไฉไปทางอื่น ฮึ่ม....
“นะคะ ชั้นขอออกชั้นจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ชั้นจะไม่ยอมให้ใครมาดูแลตัวชั้น นะคะ ชั้นมีตัวคนเดียว อยู่ตัวคนเดียว ขอรักษาตัวอยู่บ้านนะคะ ไหว้หละ”ต้นอ้อทำท่าจะกราบไหว้พระ(เหี่ยว)พยาบาลอย่างสวยงามแต่ถูกสกัดไว้จากมือพยาบาล
“ก็ได้คะ คุณนี่ดื้อจริงๆ”พยาบาลพูดจบก็ยิ้มให้กับต้นอ้อ
ณ บ้านแก้ว
“บ๊ายบายนะตี๋ ฝากไปส่งต้นอ้อด้วยนะ”แก้วพูดจบก็โบกมืหยอยๆแล้วก้าวเท้าเข้าไปหน้าบ้านรถของตี๋แล่นออกไปอย่างเร็วพอสมควร
“แก้ว...”เสียงแผ่วดังขึ้นอย่างไม่รู้ทิศทาง
“คะ...ใครหนะ”แก้วหันซ้ายหันขวา เสียงน่าวังเวงชะมัด
“แก้วจ๋า....”ยึ้ย จะลากเสียงทำไมขนหัวลุก
“ใคร ถามว่าใคร”แก้วถามย้ำอีกหนแล้วรีบก้าวเท้าไปหน้าประตูบ้านแต่ถูกอะไรบางอย่างพุ่งเข้าใส่จากหลังพุ่มไม้ ทะ...โทโมะ
“กรี๊ดดดดดดดดดดด อุ๊บ OxO”แก้วตาลุกพราวเมื่อชายหนุ่มรูปหล่อพุ่งออกมาอย่างกับลอยฟ้าแล้วมากระโจนใส่ร่างแก้วจนล้มลงแล้วร่างเค้าก็ทับตามลงมา ตามด้วยเสียงกรี๊ดและริมฝีปากนุ่มๆที่ปะกบปิดเสียงแก้ว
“คิดถึง ดีกันนะ”กี่ครั้งแล้วกับคำนี้ ชักจะเบื่อแล้วนะ แก้วนึกแล้วผลักอกโทโมะ
“เล่นบ้าอะไรของนายหนะ”แก้วนั่งและหายใจแฮ่กๆ โทโมะนั่งข้างๆแล้วเอามือรวบเอวแก้วไว้จากด้านข้างก่อนจะเอาหัวหนุนไหล่แก้วพร้อมกับโยกตัวไปมาเหมือนกล่อมเด็ก
“นะครับที่รักของกระผม จุ๊บ”โทโมะเงยหน้าไปจุ๊บแก้มแก้วเบาๆ
“และเมื่อไหร่นายจะเปิดเผย พร้อมเปิดเผยเมื่อไหร่ค่อยมาขอคืนดี”แก้วว่าร้อมกับทำหน้าเชิด
“พร้อมแล้วคร๊าบบบบ”โทโมะลากเสียงแล้วยิ้ม
“เค้าจะเปิดเผยว่าสุดที่รักที่รักที่สุดของเค้าคือแก้วใจคนเดียวเท่านั้น”โทโมะพูดแล้วยิ้มบางๆให้อย่างน่ารัก ชั้นจะละลายเป็นน้ำแล้วนะ
“ก็ดี งั้นชั้นจะหายโกรธ”แก้วพูดแล้วยิ้มบางๆตอบก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วปัดเศษหญ้าออกจากกระโปรงพอๆกับโทโมะที่ทำหน้าเคร่งกับการมองหาของ
“หาอะไรหรอ”แฮ่ๆๆ รับมุขสักที โทโมะนึกแล้วมองแก้วยิ้มๆ
“มองหาหัวใจที่ทำหล่น แต่ก็เจอแล้วอยู่นี่ไง”โทโมะชี้ไปที่แก้วแล้วโผเข้าไปจูบปากชิมรสชาติหวานๆพอสมใจแล้วก็ถอนจูบออก มันชักจะถี่และหวานไปละนะ แก้วนึกก่อนจะเดินหน้าแดงเข้าบ้านไป
“ไม่ต้องตามมาเลย ไปนอนบ้านนายไป บ้านชั้นเล็กและก็แคบมันนอนไม่ถนัดหรอก ปวดหลังอีกตางหากบ้านนายดูจะหรูหรา ไปนอนบ้านนายเถอะ”แก้วยิ้มแล้วผลักไหล่โทโมะเบาๆ
“ไม่เอา แคบแค่ไหนเค้าก็จะนอนกับแก้ว เค้าจะนอนเตียงเดียวกับแก้วด้วย”ตั้งแต่ชั้นคบกับหมอนี่มีสักวันไหมที่จะไม่แทนตัวเองว่าเค้าและทำท่าเป็นเด็กหัวดื้อพอเวลาโดนขัดใจ
“เฮ้อ....เอารถมาไหม”แก้วถามขึ้น
“เอามาครับ”โทโมะตอบหน้าบาน
“งั้นไปนอนบ้านนายกันดีกว่าเนอะ”แก้วยื่นข้อเสนอก่อนจะปิดบ้านแล้วเดินออกไปพร้อมกับโทโมะที่ดูจะดีใจ
บนรถ ตี๋
มีแต่ความเงียบ เงียบ เงียบ เงียบ เงียบ เงียบ เงียบ เงียบ (พอละ) ก็มันเงียบจริงๆ ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจ ทั้งสองคนทำอะไรก็เบาไปหมด ไม่สบตา ไม่คุย ไม่พูดจา ไม่หายใจ เอ้ย ล้อเล่น หายใจเบาๆ ต้นอ้อมองตรงไปข้างหน้าท่าเดียวพอกับตี๋ที่มองแต่ถนน
“อะไรของมันวะ”ตี๋ฉุนกึกเมื่อถูกปาดหน้าด้วยรถวีออสสีดำเงาสวย
“เฮ้ย ชนเลยไหมว่ะ มีประกันชั้น1เว้ย”ตี๋พูดเสียงลั่นในรถจนต้นอ้อเอามือปิดหู
“ว่าไงนะ”เสียงหนุ่มร่างสูง ผิวขาวเนียนยิ่งกว่าสำลีชุบลิควิทซะอีก (เว่อร์) ผมสีดำสนิทถูกปัดไปทางด้านขวาส่วนใหญ่ ดวงตากลมโตแต่ไม่ถลักออกนอกเบ้า (บ้านแกสิ คนไม่ใช่ผี) สูงพอประมาณ จมูกโด่งเป็นสัน หน้าออกจะขาวเว่อร์เลยหละ ปากชมพูสุขภาพดีดูอวบอิ่ม ต้นอ้อถึงกับค้างและหันหน้าหนีทันที
“จอดรถทำไมฟ่ะ รถติดเห็นไหม เค้าบีบแตรหมดแล้ว มารยาทสะกดบ้างสิ”กระจกที่ถูกเลื่อนออกโดยฝีมือตี๋และหนุ่มรูปงามคนนั้นก็เดินมาคุยด้วยอย่างหน้าตาฉุนเฉียวแต่ตี๋หน้ากลัวยิ่งกว่าองค์คุลีมารซะอีก เสียภาพพจหมดเล้ย....
“เพ็ญ”เสียงร่างสูงพูดขึ้นเบาๆ
“เพ็ญอะไรของแกว่ะ เพ้นท์ปากกาอะหรอ จะเอาไปทำไม จะเรียกประกันว่างั้น เอางั้นได้ รอแปป”ยังพูดไม่ทันจบตี๋ก็พุ่งรถที่อยู่ใกล้กันแค่ช่วงตัวคนไปกระทบกันจนบุบนิดๆ
“อ่ะชนละ เรียกประกันมา”กวนteen หวะไอ้ตี่ตี๋ จะจอดหาเผือกหาแย้อะไรกัน ต้นอ้อนึกในใจแต่ยังไม่ยอมหันไปมองทั้งสองคนสนทนากันเลย
“เฮ้ย มึงชนรถกูทำไมวะ”ชายร่างสูงกล่าวขึ้น
“แค่นี้ขึ้นกูมึง มึงบ้าป่าววะ”ก็พอกันนั่นแหละ จะเถียงกันทำบ้าอะไรว่ะ ต้นอ้อนึก
“เออ ประกันก็ประกัน แต่ช่วยเรียกแฟนมึงให้หันมาหาชั้นที”ร่างสูงเอ่ยอย่างหัวเสียแล้วชี้นิ้วไปที่ต้นอ้อที่นั่งหันหน้าออกไปมองทางกระจกตัวเองแล้วหลับตาปี๋
“ทำไมว่ะ เค้าไม่ใช่แฟนชั้นเว้ย”ตี๋พูดแล้วมองหน้าชายร่างสูง
“เพ็ญ เพ็ญ เพ็ญ หันมาดี๋ยวนี้นะเว้ย!!”เสียงตะคอกดังขึ้นจากชายร่างสูง ต้นอ้อสะดุ้งแล้วรีบหันไปมองในทันที
“เพ็ญจริงๆด้วย เพ็ญ”ตึกๆๆ
“เฮ้ย อะไรของมึงวะ”ตี๋อุทานขึ้นเมื่อชายร่างสูงเปิดประตูรถแล้วดันเค้าออกไปพร้อมกับยัดตัวเองขึ้นไปนั่งแทนแล้วคว้าตัวต้นอ้อมาโอบรัดเต็มที่
“คิดถึง คิดถึงที่สุด สุดที่รัก เราดีกันนะ ลีฟขอโทด”ลีฟฟี่...T^T
*ลีฟฟี่ หนุ่มสูงโปร่งจมูกโด่งขาวจั๊ว ปากชมพู ผมดำสนิทหน้าตาน่ารักยิ้มเก่ง เจ้าชู้โคตร อดีตแฟนของต้นอ้อตั้งแต่ป.5ยันมัธยมปลาย ความเจ้าชู้ทวีคูณวันทวีคูณคืนทำให้ต้นอ้อต้องถูกทิ้งไปและต้นอ้อก็หนีมากรุงเทพในทันที ความเลวร้ายครั้งนั้นฝังไมโครชิพไว้ในหัวว่าจะไม่ลืมความเจ็บที่ลึกเคยทำไว้เลย...
“เอ่อ...คุณเป็นใครหรอค่ะ”ต้นอ้อผลักลีฟฟี่ถอยห่าง ลีฟฟี่พยายามจะยื้อตัวเองไว้ให้ที่สุด
“ลีฟฟี่ไง ลีฟฟี่สุดที่รักของนางสาวเพ็ญชราสาสุดที่รักไงจ๊ะ”ลีฟฟี่ยิ้มให้แล้วทำท่าจะโผเข้าจูบแต่ถูกมือเหนียวกระชากจนหงายหลัง
“เฮ้ย ลงไปเลย รถชั้นแพงนะเว้ย เดี๋ยวต่อยหงายท้อง มายุ่งอะไรกับยัย...”ตี๋หันไปมองต้นอ้อที่ขมุบขมิบตาเป็นการส่งซิก
“ชั้นชื่อต้นมะพร้าว”ถุย เธอความคิดดีกว่าชั้นซะอีกนะ ตี๋นึกแล้วขำออกมาหน่อยๆ
“ใช่ ยุ่งอะไรกับยัยต้นมะพร้าว”และแล้วตี๋ก็ยอมรับมุข
“อย่ามาหลอกกันเลยนะเพ็ญ ชั้นจำได้นะว่าต้องเป็นเพ็ญชราสาหรือต้นอ้อของชั้นแน่นอน”ลีฟฟี่ทำท่าจะพุ่งเข้าชน (เป้าหมายมีไว้พุ่งชน)
“เฮ้ย อีกก้าวเดียวเตรียมหน้าหงาย”ตี๋ง้างมือเข้าไปขวางไว้อย่างมั่นมือ
“เฮ้ย......ฝากไว้ก่อนเถอะ เพ็ญนี่นามบัตรเรานะ จำเราได้แล้วโทรมานะ เราไม่เคยลืมเธอนะ ลีฟอยากขอโทษเพ็ญจริงๆ ลีฟเปลี่ยนเป็นโคะ...อย่า...ไปแล้วๆๆๆ”ลีฟฟี่รีบโยนนามบัตรใส่ต้นอ้อแล้ววิ่งกระเจิงขึ้นรถไปทันทีเมื่อเห็นตี๋ย่างสามขุมเข้าประชิดตัวแล้วเตรียมฟาดหมัด
“รถชนฟรี มีความสุขจริงๆ”ตี๋ก้าวขึ้นรถพร้อมกับมองต้นอ้อที่หยิบนามบัตรมาดูแล้วน้ำตาคลอ
“มันเป็นใคร”ตี๋ถามแล้วดึงนามบัตรมาดู
“ไร้มารยาท เอามานี่นะ ฮึกๆๆ บอกให้เอามานี่ เฮ้ย”เสียงสะอื้นปนน้ำตาที่หลั่งไหลมาเรื่อยๆทำให้ต้นอ้อต้องเปิดประตูลงแล้ววิ่งตามรถของลีฟฟี่ที่ห่างกันเป็นกิโลๆไปอย่างไม่รู้จักเหนื่อยแต่แล้วก็ต้องล้มลงจากความล้า ตี๋ขับรถไปประกบข้างตัวต้นอ้อแล้วเปิดกระจก
“ยัยเจ๋อ ขึ้นรถ”ตี๋พูดเสียงดังพอประมาณ
“ไม่ ฮึกๆ ชั้นจะไปหาเค้า ลีฟฟี่ ฮึกๆๆ รอชั้นด้วย ฮึกๆๆ น้ำตกสวรรค์ช่วยหนูที ฮึกๆๆๆๆแงๆๆๆๆๆ”เด็กหนอเด็ก ตี๋นึกแล้วรีบลงไปอุ้มตัวต้นอ้อขึ้นบนรถคล้ายๆการหอบกระเตงลูกอย่างไงอย่างงั้น
ณ คอนโทโมะ
“นี่มัน.....ฮึ่ย หมันไส้!!”ปิ๊ด ปึก แก้ววางรีโมทโทรทัศน์กระแทกโต๊ะอย่างแรงและปิดมันลงก่อนจะกอดอกแน่น
“เป็นอะไรหรอแก้วใจ กิ้วๆ”เสียงแห่งความรักบังเกิดขึ้นข้างหูแก้วพร้อมกับนิ้วเล็กๆที่เขี่ยแก้มแก้วไปมา
“100วัน1000ปีพึ่งจะเคยดูหนังดูละครพอได้มาดูฉากนายจูบกับผู้หญิงคนนู้นคนนี้ชั้นหละแค้น ทำไมต้องเอาฉากจูบจริงด้วยหนะ หมันไส้”แก้วหันไปวีนใส่โทโมะที่นั่งหน้าเหลออยู่ข้างๆ
“เค้าไม่รู้นะ ผู้กำกับเค้าบอกเอง เค้าไม่ผิดนะ แก้วหึงเค้าหรอ ฮิฮิ”โทโมะขำเบาๆอย่างน่ารักแล้วส่งสายตาหวานใส่แก้ว นายทำชั้นละลายอีกแล้วนะ มันน่าดึงไปเข้าห้องซะจริงๆเล้ย =//= แก้วนึกขึ้น
“ก็ถ้าชั้นไปจูบกับผู้ชายอื่นนายจะหึงไหมหละ”แก้วมองสายตาเคืองๆ
“หึงสิ แฟนเค้านะ”โทโมะเอ่ย
“เอ....ว่าแต่ นายเคยขอชั้นเป็นแฟนเมื่อไหร่หรอ”แก้วเอียงคอถาม
“งั้น...ขอเลยละกัน เป็นแฟนกับเค้านะ ok ตกลง”โทโมะพูดเองสรุปเองก่อนจะรวบตัวแก้วแล้วเดินปึ่งปั่งเข้าห้องนอนไป
“นี่ จะบ้าหรือไง พูดเองเออเองสรุปเองและจะทำอะไรชั้น ปล่อยน้าไอหมาบ้า”แก้วเขย่าขาตัวเองไปมาอย่างบ้าคลั่ง
“จุ๊บ”โทโมะวางแก้วลงบนเตียงแล้วเอาเท้าไปตวัดประตูให้ปิดก่อนจะเดินมาขโมยจุ๊บปากแก้วเร็วๆหนึ่งที
“นี่ จูบจนปากชั้นจะช้ำแล้วนะ”แก้วพูดเชิงแง่งอน
“ก็แน่อยู่แล้ว”โทโมะพูดแล้วก้มลงสโมคปากแก้วเต็มสูบ เสียงครวญจากลำคอของแก้วดังขึ้นเป็นระยะๆพอหวานหู มือซนๆของหนุ่มแสนชำนาญและช่ำชองควานหาสิ่งซ่อนเร้นในร่างกายแก้วไปจนทั่ว กระดุมเม็ดแรกถูกแกะออกอย่างช้าๆจนถึงเม็ดสุดท้ายและสิ้นสุดลงที่กระโปรง ปากต่อปาก ตัวต่อตัว สองต่อสอง เรือนร่างเชื้อเชิญมนุษย์หมาบ้าในตัวโทโมะพลุกพล่านไปทั่วจนเลือดสูบฉีดปู๊ดๆ
“รักจังเลย”โทโมะพูดเมื่อถอนจูบออกเลื่อนมาซุกไซ้ลำคอขาวของแก้วจนแก้วหน้าแดงก่ำ ร้อนก็ไม่ใช่ ออกจะเย็นช่ำจากแอร์แสนสบาย หน้าแดงๆหันไปมาอย่างเคลิบเคลิ้มโทโมะคว้าผ้าห่มมาปิดกายทั้งสองกาย สิ้นสุดเสียงพูดก็ไม่มีใครพูดต่อ มีแต่เสียงครางยามค่ำคืนที่แสนจะมีความสุข
เช้าวันใหม่
ณ บ้านตี๋
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!”เสียงกรี๊ดบ้านแตกดังสนั่นราวกับเอารถยกมาตอกเสาเข็มเต็มที่จนชายร่างสูงที่เปลือยกายอยู่ข้างๆลืมตาขึ้น
“นี่ ยัยต้นไทรจะกรี๊ดหาแป้เธอหรอ”อีบ้า>.< ต้นอ้อหันมองร่างข้างๆที่ลุกขึ้นนั่งบนเตียงช้าๆก่อนจะหันมองรอบห้องเห็นขวดเบียร์กระป๋องเบียร์จานขนมและ.....กรี๊ดดดดดดดดดดด เสื้อผ้าของคนทั้งคู่กระจายไปทั่วห้อง ห้องที่แสนกว้างแสนสะอาดกับรกคล้ายรังแมว (หนู) เสื้อผ้าปิดพื้น หัวเตียงมีขวดเบียร์ ไวน์ เหล้า (โอ้ ครบ) สิ่งสุดท้ายที่จะพิสูทธิ์ได้ว่าสิ่งที่ชั้นคิดเป็นความจริงคือร่างใต้ผ้าห่ม ต้นอ้อนึกและไม่รอช้าที่จะเปิดผ้ามองดูร่างกายตัวเอง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! ไอ้ตี่ตี๋ผู้ชายเฮงซวย อร้ายยยยยยยยยยยยย!!”เสียงสนั่นลั่นฮอลล์จนหูตี๋แทบระเปิด ขี้หูพากันบรรเลงเพลงมาร์ชกันอย่างสนุกสนานเต็มที่
“ยัยบ้า ชั้นรำคาญ มาตีชั้นทำไม เฮ้ย โอ้ยยย ชั้นจะกะอักเลือดแล้วนะ”ตี๋จับข้อมือของต้นอ้อไว้แน่น ต้นอ้อที่กำลังทุบหน้าอกแผ่นหนาและแข็งแกร่งของตี๋อยู่ก็ต้องหยุดมือลง
“ลามก นายปล้ำชั้น นายมันคนฉวยโอกาส นายทำชั้นทำไม ชั้นไปทำอะไรให้นาย ฮึๆๆๆ”ต้นอ้อเขย่าแขนตัวเองอย่างแรงจนผ้าที่คลุมกายหลุดออกเผยผิวเนียนใส ว้าวววววว ยัยนี่ทำไมถึงได้ ขาว....ว่อกเป็นเด็กแบบนี้หละ เอ๋...ไม่เล็กเลยนะ (ไอโรคจิต) เออยอมรับ ตี๋นึกแล้วตาค้างน้ำลายสอ
“กรี๊ดดดดดดดด น่าอายที่สุด!!”ต้นอ้อลากผ้าขึ้นมาอย่างไวเพื่อคลุมร่างส่วนบนไว้แน่นหนาแล้วซักถาม จนตี๋นึกออก
“เมื่อคืนเธอร้องไห้ และเธอเดินไปซดไวน์ดำในตู้เย็นชั้น1ขวด ชั้นเข้าไปห้ามแล้วเธอก็ไม่หยุดแถมหยิบทั้งเบียร์ทั้งเหล้าทั้งไวน์เดินไปกินที่เตียงชั้นอย่างสบายใจชั้นเลยหากับแก้มมาให้ด้วยความหวังดี (หวังจะแอ้ม) และก็กินกับเธอบ้างอ่ะนะแล้วเธอก็เมาก่อนชั้น ชั้นเลยจับเธอปล้ำเลย โอ้ยๆๆๆๆๆ”ตี๋ร้องขึ้นเมื่อถูกมือพิฆาตแระแทกเข้าเต็มกระโหลก
“ล้อเล่น เธอน่าปล้ำตายหละ ชั้นก็จำไม่ได้เหมือนกัน ถ้าจำได้ชั้นคงจะได้กำไรอยู่นะ ออกจะขาวซะ”ตี๋แกล้งทำสายตาเจ้าเล่ห์และสำรวจเรือนร่างของต้นอ้อจนขนลุกชัน
“ไอ้โรคจิต ชั้นจะฆ่านาย ไอ้โรคจิตๆๆๆ กรี๊ดดดดดดดด นายมอมเหล้าชั้น”
“ชั้นปล่าวววววว เธอนั่นแหละมอมชั้น ถ้าเธอไม่เริ่มชั้นคงไม่ตามและคงไม่เกิดอะไรแบบนี้”ตี๋รีบพูดก่อนจะถูกกระทำชำเรา
“ฮือๆๆๆ ลืมมันไปซะ ชั้นจะกลับบ้าน บ้านเท่านั้น ชั้นเสียเวอร์จิ้นไปแล้ว ฮือๆๆๆ ไม่ๆๆๆ ฮือ...อุสส่ารักษามาทั้งชีวิตเพื่อนจะเก็บมันไว้ให้กับคู่ครองที่แท้จริงแต่กลับต้องมาตกม้าตายเพราะไอ้บ้า ฮือ....เวอร์จิ้นจ๋าชั้นลาก่อน แงๆๆๆๆ”น้ำตาค่อยๆไหลเยิ้มจากเบ้าตาของต้นอ้อ ต้นอ้อพยายามจะลุกออกจากที่นอนแต่พอก้าวเท้าไปย่ำพื้น ฮวบ ร่างบางล้มลงกองกับพื้นผ้าหงผ้าห่มกระจุยกระจายอยู่บนกองขวดเบียร์ เกร๊ง แข็ก ก๊อง เสียงขวด กระป๋อง จาน กระทบกระทั่งกันเป็นทอดๆจนคนด้านล่างชักมึนหัว แต่ต่างจากคนด้านบนโดยสิ้นเชิง ขาวอีกแล้วอีกนิดเดียวจะเห็นช่วงล่างแล้ว เปิดสิจ๊ะ ขาวจั๊ว ยั่วยวนให้พุ่งใส่ชะมัด ได้ยัยนี่ทำไมไม่มีสติเลยว่ะ เสียดายของชะมัด ขาวราวสำลี ถ้าเป็นผู้หญิงชั้นคงจะกรี๊ดร้อยตลบ ตี๋นึกแล้วทำตาโต
“โอ๊ย เจ็บ T^T”โอ๋ น่าสงสารชะมัด มามะมาจุ๊บที ตี๋นึกในใจก่อนจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษสุดสมาทเอาผ้าคลุมกายของต้นอ้อแล้วประคองยืน
“กรี๊ดดดดดดดดดด ไอบ้าๆๆๆ กรี๊ดดดดดดดด!!”ต้นอ้อกรี๊ดลั่นเมื่อ....เอ่อ.... (ตี๋ไม่ได้ใส่กางเกงแม้แต่ตัวเดียว) ช่างกล้า ต้นอ้อชี้นิ้วไปที่ช่วงล่างของตี๋แล้วหลับตาปี๋ ตี๋รู้ตัวก็รีบเอาผ้าเช็ดตัวมาพันปิด ฮวบ ร่างที่ไร้การประคองร่วงสู้พื้นอีกครั้ง ตี๋ช่วยได้เต็มที่เลยประคองยืนอีกครั้ง
“เจ็บตรงไหนของเธอนักหนา”ตี๋ถามขึ้น
“ฮือๆๆๆ ตรง......ไม่เอาไม่บอก ฮือๆๆ”น้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆ ตี๋รวบตัวต้นอ้อขึ้นอุ้มแล้วมุ่งตรงไปยังห้องน้ำ
“เดี๋ยวอาบน้ำแล้วก็หายเองแหละ เสียดายจังที่ไม่รู้ตัว ฮึ...พึ่งรู้นะว่าเนื้อชั้นดีอยู่ตรงหน้า”ตี๋ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์มีเลศนัย
“ไอบ้า ไอ้....อื้อ..ๆๆๆๆ OxO”ยังไม่ทันพูดจบตี๋ก็เลื่อนหน้าลงไปจูบสาวในอ้อมอกอย่างเบาๆแล้วเอาไปวางในอ่างอาบน้ำก่อนจะค่อยๆแกะผ้าออกจากร่างกายสาวน้อย สาวน้อยเริ่มอาการขัดขืนอย่างเห็นได้ชัด
“อื้อๆๆๆๆๆ.......ฮึกๆ”ตี๋ถึงกับชะงักเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นฟึดฟัดเบาๆของต้นอ้อ ตี๋ถอนจูบอย่างแผ่วเบาทั้งที่ใจยังไม่อยากจะถอนมันออกเลย
“…”ความเงียบบังเกิดขึ้นเมื่อคนทั้งคู่มองตากันอยู่นาน
“....”เงียบ แล้วก็เงียบ สายตาของทั้งคู่จากเคียดแค้น กลายเป็นอ่อนโยน กลายเป็นต้องการ กลายเป็นปราถนาและเปลี่ยนกลายมาเป็นความโหยหาในที่สุด ดวงตาเปลี่ยนไปมาในไม่กี่นาที ร่างของต้นอ้อนอนนิ่งอยู่ในอ่างอาบน้ำมีตี๋นั่งชันเข่าอยู่ข้างๆทั้งสองมือจับไหล่ต้นอ้อไว้มั่น หน้าทั้งสองคนอยู่ห่างกันไม่มาก เรียวปากสวยเป็นกระจับสีชมพูอ่อนดูสุขภาพดีค่อยๆเลื่อนเข้าหากันที่ละนิดๆจนชิดกันในที่สุด ดวงตาทั้งคู่หลับพริ้มปากนุ่มๆกระทบกันสนิทเรียวลิ้นที่ชุ่มด้วยน้ำลายลอดผ่านเข้าปากของต้นอ้อไปอยู่ในโพรงปากนั้นอย่างเอาแต่ใจ ลิ้นน้อยๆวนเวียนไปทั่วโพรงปากเกี่ยวกระหวัดลากฟันบนจรดฟันล่างไปยันโพรงปาก ลิ้นทั้งคู่วางทาบกันแล้วดึงดูดกันจ๊วบๆ นานเนิ่นนานแสนนานเอ่อ.....จนนานมาก
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
โอ้ววววว เอนซีๆๆ โรแมนติก คอมมันดี้ >< แต่งเองเขินเอง
ชักจะอิจฉาริษายานางเอกสองคนนี้แล้วสิ 555+
แก้วกับต้นอ้อใครน่าอิจฉากว่ากันนะ ออกความคิดเห็นที !! muah!!
“นี่แกไม่ได้กินข้าว3วันเชียวหรอ ไหวไหมว่ะ มาๆชั้นจะเอาให้กิน”แก้วรีบกุรีกุจอเอาข้าวมาให้แก้วต้นอ้อ ต้นอ้อนอนแน่นิ่งในหัวคิดแต่คำว่า ใช่สิ (เป็นพี่ริทหรือไงเจ๊) ก็ใช่สิ...ชั้นมันไม่ดีเท่าเค้า ไม่ค่อยน่าแคร์เท่าไร ได้แต่น้อยใจเบาๆอย่างงี้
เช้าวันใหม่
“โทโมะ”แก้วตะโกนเรียกโทโมะที่ยืนเอ๋อมองตามสาวที่เดินผ่านหน้าบ้านแก้ว
“คะ...ครับบบบ”โทโมะหันมามองหน้าแก้วแล้วยิ้ม
“มองใคร เห็นนะ”แก้วเดินทำหน้าติดงอนเข้ามาใกล้
“ปล่าวเลยนะ เค้าจะมองใครได้นอกจากตัวเอง”แหวะ แก้วทำหน้าเลี่ยนขึ้นมาก่อนจะเดินขึ้นรถไป
“พี่โทโมะคะ กรี๊ดๆๆๆๆ”เสียงกรี๊ดเกรียวกรายจนแผ่นดินแทบแยกดังผ่านลอดกระจกเข้ามาในรถ แก้วมองแฟนคลับสาวๆที่พากันกรูเข้าล้อมตัวโทโมะทันทีในพริบตา แก้วลงจากรถแล้วมองโทโมะที่กำลังถ่ายรูปกับสาวๆพวกนั้น ป้ายไฟ เสื้อกรีนรูปหน้าโทโมะ ตุ๊กตาประจำตัวที่โทโมะรัก ห๊ะ...มีแม้กระทั่งกระเป๋าสกรีนลายเจ้าไส้กรอก คลั่งจนบ้าไปแล้วมั่งยัยพวกนี้ แก้วนึกแล้วส่ายหัวเบาๆ
“พี่คะ นั่นใช่เพื่อนรักพี่โทโมะหรือปล่าวคะ”เสียงแฟนคลับตัวเล็กเสียงเล็กพูดขึ้นแล้วยิ้มแก้วบาน
“เอ่อ...ไม่ชะ...”ชั้นกำลังจะบอกว่าไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นแฟนตางหากหละ แก้วนึกแต่ดันโดนโทโมะดึงเข้ามาใกล้ตัวเขา
“ใช่ครับ สุดที่รัก ฮ่าๆๆๆ”โทโมะหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา แฟนคลับทั้งหลายพากันถ่ายรูปทั้งคู่เก็บไว้ ชั้นจะถูกเอาไปสกรีนเป็นรองเท้าไหมเนี้ย แก้วนึกแต่ก็ยิ้มให้แฟนคลับโทโมะถ่ายรูป
“น่ารักแบบนี้ไม่มีแฟนหรอคะ”สาวคนเดิมที่ตัวเล็กๆถามขึ้น
“เอ่อ....”แก้วมองหน้าโทโมะแล้วทำตาโตๆ
“มีแล้ว แฟนแก้ว...เอ่อ...ชื่อ ตี๋”อีตาบ้าๆๆ แก้วนึกก่อนจะหันหน้าออกจากโทโมะ
“พี่ตี๋ที่เป็นปาปารัสซี่ชื่อดัง และรูปหล่อ พ่อรวย ลูกครึ่งไทย-จีน และแถมเป็นนักเลงหัวโจคหรือเป็นมาเฟียก็ยังได้ใช่ไหมคะ”สาวคนเดิมทำตาโตแล้วพูด
“อ่า..ใช่คะ”แก้วยิ้มตอบแล้วสะบัดตัวออกจากโทโมะ แก้วเดินหนีในทันที โทโมะทำท่าจะเดินไปตามแต่ก็ไปไม่ได้เพราะตามไม่ทัน
เย็น
“แก้ว”ตี๋เรียกชื่อแก้วขึ้น แก้วที่นั่งอยู่ม้าหินริมรั้วมหาลัยก็ถึงกับตกใจ
“ตี๋ ปีนรั้วมาทำไม”แก้วถามเสียงสั่น
“เฮ้ย...เป็นไรหนะร้องไห้”ตี๋กระโดดลงจากรั้วมหาลัยแล้วนั่งลงบนม้าหินข้างๆแก้ว
“ตี๋”เสียงขรึมๆดังขึ้น
“อ้าว หวัดดีครับเทค”ตี๋เอ่ยเบาๆ
“เทค....!!”แก้วที่ร้องไห้อยู่ก็เงยหน้ามองเทคที่ยังคงความหล่อใสอยู่เหมือนเดิม
“เอ่อ...ผมขอเบอร์ตี๋ได้ไหม คือว่า...เอิ่ม...”
“อย่ายุ่งกับตี๋นะ ออกไป ชิ่วๆ”แก้วตวาดทั้งสายตาและน้ำเสียงขับไล่เทคเต็มที่ เทครีบวิ่งไปด้วยความกลัวในทันที
“ทำไมหละแก้ว เพื่อนกันนะ”ตี๋พูดแล้วหันมองหน้าแก้วที่กำลังเอาผ้าเช็ดหน้าปาดน้ำตาตัวเองอยู่
“ต้นอ้อไม่ได้บอกหรือยังไงว่าเทคเป็น....เอ่อ....ผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน และเค้าก็ชอบนาย”แก้วพูดขึ้นทำให้ตี๋ตาโตแล้วลุกทำท่าจะวิ่งตามเทคไป
“เดี๋ยว จะไปไหน อย่าบอกนะว่า...นายก็ชอบเทค อร้ายๆๆๆ”แก้วทำท่าปิดหูปิดตา
“จะบ้าหรือไง จะไปต่อยมัน บังอาจ”แววตาดุดันของตี๋ทำให้แก้วต้องฉุดมือไว้
“ชั่งเหอะหนะ กลับบ้านเป็นเพื่อนทีสิจะไปเยี่ยมต้นอ้อ หมอบอกว่าวันนี้ก็กลับบ้านได้แล้วหละ ความจริงแล้วกระดูกแค่ร้าว ไม่ได้หัก”แก้วเอ่ยเสียงใสแล้วจูงมือตี๋เดินไป งงจังแต่ก็ดีนะ จับมือชั้นไว้แน่นๆนะแก้ว ตี๋ยิ้มเล็กยิ้มให้แล้วเดินไปขึ้นรถตัวเอง
“แก้ว จะไปไหน”เสียงของโทโมะดังขึ้นแล้วรั้วข้อมือน้อยๆของแก้วไว้
“ว่าไงเพื่อน วันนี้จะกลับบ้านกับแฟนสุดที่รัก นายไม่ต้องมาหรอกนะ”แก้วทำหน้าใสซื่อแล้วควงตี๋ไว้แน่นทำเอาตี๋หน้าเหลอพอๆกับโทโมะ
“แก้ว อย่าประชดเค้ายังงี้สิ”โทโมะพูดแล้วทำหน้าจะร้องไห้
“จำไว้นะโทโมะ จากนี้ไปเราเป็นแค่เพื่อนกัน ชั้นจะคบกับตี๋”แก้วเอ่ยคำที่ทำให้โทโมะแทบเปนลมหงายหลังดังปึ้ง
“ไม่จริงช่ายม้ายแก้ว”โทโมะพูดแล้วใส่อารมณ์
“มันคือความจริง บ๊ายบายเพื่อน”แก้วขึ้นรถตี๋ไปโดยที่ตี๋ก็ขับรถออกไปปล่อยโทโมะยืนหน้าจ๋อยอยู่ข้างถนน
ณ โรงพยาบาล
“อ้าว แล้วต้นอ้อไปได้ยังไงคะ ในเมื่อค่ารักษาก็ยังไม่ได้จ่าย ขาก็เดินไม่ได้”แก้วต้องแปลกใจเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปไม่เจอต้นอ้อเลยเดินไปถามที่ประชาสัมพันธ์
“อ๋อ เค้าจ่ายค่ารักษาด้วยตัวเองไปแล้วคะ แล้วก็เดินกับไม้เท้ากระเพกเท้าคนเดียวขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว ชั้นก็บอกให้เค้ารอญาติมารับดีกว่าไหมแต่เค้ากลับปฏิเสธท่าเดียว”พยาบาลสาวชุดสีขาวพูดขึ้น
“ขอบคุณคะ”แก้วเอ่ยแล้วเดินไปหาตี๋ที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้ต่อกันเรียงรายแล้วเล่าเรื่องให้กับตี๋ฟัง แก้วกดโทรหาต้นอ้อแต่ก็ไม่มีใครรับ
“ช่างเถอะแก้ว ยัยนั่นไม่ไปไหนไกลหรอก ขาก็เจ็บ”ตี๋เอ่ยขึ้น ทำไมเธอต้องทำให้ชั้นห่วงด้วยนะยัยต้นไทร ตี๋นึกในใจแววตาส่อถึงความกังวลกระวนกระวายใจเป็นที่สุด
ณ บ้านต้นอ้อ
“อ้าว ป้าคะต้นอ้อไม่กลับบ้านแล้วไปไหนหละคะ”แก้วเอ่ยขึ้น เค้ากำลังคุยกับแม่บ้านที่กำลังจะปิดประตูบ้านหลังใหญ่ของต้นอ้อที่ไม่มีใครมีเพียงแต่ป้าที่เป็นแม่บ้าน แต่เขาก็กำลังจะกลับแหมือนกัน
“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันคะ เห็นคุณหนูต้นอ้อโทรมาบอกว่าให้ป้าเฝ้าบ้านให้ดีๆแล้วพอป้าถามว่าทำไมคุณหนูไม่กลับบ้านคุณหนูก็ตัดสายทิ้งไปแล้ว เบอร์ที่โทรเข้ามาก็เป็นเบอร์ตู้สารธารณะ”ป้าปิดบ้านเสร็จก็เดินไปคุยไปกับแก้วและตี๋
“ตายจริง ต้นอ้อนะต้นอ้อ ทำไมถึงไปที่อื่นนอกจากบ้านตัวเองนะ เป็นห่วงจังเลย ป้าพอมีเบอร์โทรสัพท์ของเพื่อนๆต้นอ้อหรือที่ที่ต้นอ้อชอบไปเวลาเหงาหรือไม่ใครอะไรทำนองนี้ไหมคะ”แก้วถามป้า ป้าก็จดๆๆใส่กระดาษให้ แก้วกับตี๋ไปทุกที่แต่ก็ไม่พบจนถึงที่สุดท้าย
“น้ำตกสวรรค์ ป้าแกประสาทหรือยังไงจะให้ชั้นขึ้นไปบนสวรรค์เลยหรอ”แก้วพูดคนเดียวกับกระดาษ
“น้ำตกสวรรค์อยู่ที่ไหนกัน ไม่เคยได้ยิน”ตี๋เสริมขึ้นอีกทาง
“โทรถามป้าก่อน”แก้วหยิบโทรสัพท์ออกจากกระเป๋าแล้วกดโทรไปที่เบอร์ที่ป้าให้ไว้
“น้ำตกสวรรค์อยู่ที่ไหนกันคะป้า”แก้วถามขึ้น อู้อี้ๆๆๆ เสียงดังออกจากโทรศัพท์ฟังไม่รู้เรื่องแต่แก้วพยักหน้ารู้เรื่องเพียงผู้เดียว
“ขอบคุณคะป้า”แก้ววางสายไปแล้วหันมองตี๋
“เป็นที่ที่ต้นอ้อชอบไปมาก เพราะมีรักแรกที่นั่น และต้นอ้อก็ยังไม่เคยมีรักครั้งที่สองเลย เวลาเหงา อยากมีใครสักคน อกหัก ดีใจในความรัก ทะเลาะกับแฟน ดีกับแฟน เสียใจเรื่องแฟน หรือแอบชอบใครแล้วไม่สำเร็จ ต้นอ้อชอบไปที่นั่น”แก้วมองหน้าตี๋แล้วส่อแววตาระยิบระยับพลางส่อถึงความหมายว่า ต้นอ้อชอบนายหรือปล่าว แต่ตี๋กลับหยิบแผนที่ในมือแก้วมาดูแล้วขับรถไปตามที่แก้วเขียน
ณ น้ำตกสวรรค์
“อีกครั้งแล้วสินะที่ชั้นชนะใจตัวเองไม่ได้ ชั้นมันก็คงได้แต่แอบรักคนอื่น มีสักคนไหมที่รักชั้นจริงๆจังๆ ลีฟฟี่คือรักแรกของชั้น และเค้าก็ทิ้งชั้นไป ฮือๆๆ”เสียงสะอื้นดังขึ้น
“ชั้นก็ยังคงแพ้ใจตัวเองอยู่ดี ชั้นตัดใจจากนายได้แล้วลีฟฟี่ แต่ไม่ว่ากี่ครั้งที่ชั้นเจอคนที่คิดว่าใช่แต่สำหรับเค้าชั้นไม่เคยใช่เลย ผิดกับนายแค่ยกหางคิ้วสาวๆก็รุมกันตรึม ป่านนี้นายคงจะสุขสบายทั้งกายทั้งใจ ฮึกๆๆ นายชนะชั้นทุกอย่าง ชั้นก็ยิ่งแพ้นายทุกอย่าง ลูกคุณหนูที่ใครๆก็บอกว่าสุขสบายราวกับนางฟ้า แต่ถ้าลองมาเป็นชั้นจะรู้ว่าไม่ต่างอะไรกับหมาจรจัดแม้แต่น้อย ความรักมีอยู่จริงไหมบนโลกใบนี้ ตี่ตี๋...ชั้นให้ความหวังกับนายไว้มาก นายเป็นผู้ชายคนที่2ที่เวลาชั้นมองหน้าแล้วใจสั่นไม่เป็นจังหวะ ไม่ว่ากี่คนที่ชั้นเคยแอบชอบชั้นก็ไม่เป็นแบบนี้ แต่มันแย่ตรงที่นายไม่เคยชอบชั้น ชั้นไม่เคยอยู่ในสายตาเลย ฮึ...นึกแล้วสมเพศตัวเองชะมัด ขาก็เป๊ หน้าตาก็เน่าอย่างกับหนอน พ่อแม่ก็ไม่รัก ไม่มีใครเลยที่รักชั้นนอกจากป้าแบ๋วและแก้ว....ในเมื่อตี่ตี๋รักแก้ว ชั้นก็ไม่สามารถจะรักนายต่อได้แล้ว ชั้นขอหยุดทุกความรักไว้ที่นาย ตี่ตี๋......นายคือผู้ชายที่ชั้นรักคนสุดท้ายในชีวิต ชั้นจะไม่รักใครอีก ชั้นจะตัดใจจากนายให้ได้เร็วที่สุดตี่ตี๋ และชั้นจะย้ายไปอยู่อังกฤษ ลอนดอน เดนมาร์ก ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ได้เจอหน้านายอีก ต่อให้เจอใครต่อใครผู้หญิงผู้ชายกี่คนผ่านมาในสายตาชั้นก็จะไม่มองใครอีก ชั้นขอโสดจนตายเถอะ ที่นี่คือบ้านหลังที่2ของชั้น คือที่พักหัวใจของชั้น คือพ่อ คือแม่ คือเพื่อนข้างกาย คือทุกๆอย่างในชีวิต ฮือๆๆๆ”สาวน้อยนั่งร้องไห้อย่างหน้าสงสาร ผมเผ่าปรกหน้าปรกตา นั่งห่อตัวเอาหน้าซุกหัวเข่าทั้งสองข้าง มือรวบเข่าไว้แน่นแล้วร้องไห้โฮออกมาอย่างปลดปล่อย ร่างของต้นอ้อยืนขึ้นแล้วค่อยๆก้าวเท้า ต๊อมๆๆ ค่อยๆหายลงไปในน้ำตก
“ต้นอ้อ ต้นอ้ออยู่นี่หรือปล่าว”เสียงของแก้วแปร๊นมาแต่ไกล น้ำท่วมทั้งหัวทั้งตัวของต้นอ้อไปแล้วทำให้ได้ยินแค่แว่วๆแต่ต้นอ้อก็ไม่ยอมโผล่หัวขึ้นมา
“นั่นมัน ไม้เท้าที่ใช้เท้าเวลาเดินนี่หน่า”ตี๋พูดขึ้นแล้วมองหาต้นอ้อรอบๆ น้ำใสแจ๋วทำให้เห็นร่างสาวน้อยที่จมอยู่ในน้ำ (ตั้งใจจม) ร่างแน่นิ่งขยับเท้าไปมาเป็นการลอยตัว น้ำลึกมิดหัวเป็นเมตรๆ แก้วเห็นก็แทบจะเป็นลมนึกว่าเพื่อนตัวเองคิดค่าตัวตาย ตี๋เห็นภาพตรงหน้าก็อึ้งไปสักพักก่อนจะกระโดดตูมลงไปในน้ำ ว้ายยยยย ผีหลอก กรี๊ดดดดดดด ต้นอ้อนึกในใจเมื่อเห็นร่างผู้ชายลงมาอยู่เคียงข้างเธอขาหมดแรงจากการตกใจแถมยังมีรอยเฝือกที่เปียกน้ำอยู่ก็ยิ่งถ่วงน้ำหนักให้ตัวสาวน้อยจมลงไปยันก้นบึ้ง ตี๋รีบพุ่งตามลงไป ต้นอ้อตั้งสติได้ก็แกว่งขาเป็นการดีดตัวแต่แล้ว ช็อค...!! ขาดันเกิดเจ็บอย่างรุนแรงขึ้นมา อ๊าคคคคคคค ตายแน่ชั้น ฮือๆๆๆๆ ชั้นไม่ได้จะฆ่าตัวตาย ชั้นแค่จะล้างตัว ฮือๆๆๆ ทุกครั้งที่ชั้นมาปลดปล่อยใจที่นี่ชั้นก็จะล้างความทุกข์โศกแบบนี้ทุกครั้ง ฮือๆๆๆชั้นไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ชั้นได้ตายแน่ๆ แงๆๆๆๆ >< ต้นอ้อที่จมลงไปทุกทีๆจนไปสุดกับโขดหินที่มีตะไคร่น้ำเกาะจับแน่นหนาพอควร ร่างหนักๆของต้นอ้อลอยตัวน้อยๆอยู่แต่แล้วตี๋ก็ลงมาปรากฎโฉมหน้าหล่อๆ ยิ่งอยู่ในน้ำยิ่งหล่อ ผมที่เปียกแล้วสไวกับผิวน้ำ หน้าขาวซีดเมื่ออยู่ใต้น้ำยิ่งดูดีไปใหญ่ ทั้งคู่จมลงมาลึกจนหูอื้อสนิท
“หายไปไหนกันหมด ฮือๆๆ”แก้วกลั้นน้ำตาถึงที่สุดเมื่อไม่เห็นทั้งคู่เพราะน้ำลึกเกินเหตุที่จะมองเห็น ทั้งคู่จมอยู่ที่ก้นบึ้งของน้ำตกแสนจะลึก
“อี่อี๋”(ตี่ตี๋)เสียงพูดในน้ำถึงแม้ว่าชายตรงหน้าจะไม่ได้ยินแต่เค้าก็อยากจะพูด ตี๋รวบตัวของต้นอ้อไว้แน่นแล้วประกบริมฝีปากลงไปอย่างแน่นหนา จะตายแล้วเพิ่งมาโรแมนติก ตาบ้าเอ้ย (เข้าใจผิดแล้วเจ๊ พี่เค้าจะให้อากาศเจ๊) ตี๋พ่นลมเข้าไปในปากของต้นอ้ออยู่ประมาณ20วินาที มันมีค่ามากมายสำหรับต้นอ้อ ตายก็คุ้ม ตี๋ดันตัวต้นอ้อเป็นการส่งให้ขึ้นไปอย่างแรง ฟึ่บ ต้นอ้อกระเด็นไปข้างบนจนโผล่ แรงเยอะชะมัด
“แฮ่กๆๆๆ”ต้นอ้อหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้า
“ต้นอ้อ.....เอ๋....ตี๋หละ”แก้วถามเมื่อเห็นต้นอ้อขึ้นมาคนเดียว
“ว้ายยยยยย”ฟึ่บ ขาที่ไม่มีแรงของต้นอ้อทำให้ลอยตัวไม่ได้เมื่อขึ้นมาหายใจได้สักพักพอได้ยินคำถามก็ร่วงจ๋อมไปที่ก้นบึ้งอีกครั้ง
“อ้นอ้อ”(ต้นอ้อ)ยัยประสาท ชั้นช่วยแล้วจะลงมาอีกทำไม ตี๋หงุดหงิดนิดๆ ชั้นไม่ได้อยากลงนะแต่ชั้นจม อีกครั้ง ต้นอ้อถูกตี๋โอบไว้อีกครั้ง มีวิธีเดียวที่จะรอดทั้งคู่ เอาวะ ตี๋นึกในใจอยู่นายก่อนจะประกบปากกับต้นอ้อ ต้นอ้อพ่นลมหายใจในปากใส่ให้กับตี๋ ตี๋ก็พ่นกลับให้ต้นอ้อสลับกันไปมา ตี๋ถีบโขดหินเพื่อส่งตัวของเขาแล้วต้นอ้อที่กอดกันกลมอย่างเต็มแรง ฟึ่บ ปุ๊งๆๆ ทั้งสองร่างโผล่กายขึ้นเหนือน้ำ แต่....ยัยแก้วเป็นลมซะงั้น
“แฮ่กๆๆๆ”เสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายยังกอดชั้นอยู่นะ อร้ายย^^ ต้นอ้อที่ได้สติก่อนก็มองผ่านลงไปในน้ำเห็นมือของตี๋รวบเอวเขาอยู่แน่นไม่ยอมปล่อย
“ทำบ้าอะไรของเธอ โง่จังรู้ตัวไหม”ตี๋พูดอย่างหยุดหงิดแล้วเอามือข้างนึงของตัวเองเสยผมของเค้าที่เปียกชุ่มจนลงมาปรกหน้าปรกตา
“ชั้นไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย”สายตา สายตา สายตา แว๊กกกกก เข้ม หล่อ เท่ห์ อร้ายยยยยยยยยยยยยยย อยากจูบอีกสักที ต้นอ้อที่มองเห็นสายตาอันแสนจะคมและจริงจังของตี๋ก็แทบละลายลงไปก้นบึ้งอีกครั้ง
“ฆ่าตัวตายเนี้ยนะไม่ได้ทำ ปัญญา..โอ๊ย มาตบชั้นทำไม”ตี๋ร้องขึ้น มือนึงรวบเอวต้นอ้อไว้ อีกมือลูบแก้มตัวเองที่พึ่งจะถูกฝ่ามือของสาวตรงหน้าฟาดเข้าให้เต็มๆ
“ฆ่าบ้าอะไรหละ ชั้นก็แค่ล้างทุกข์ล้างโศกให้สบายใจ ทุกครั้งที่มาที่นี่ชั้นก็จะอาบน้ำนี้หรือลงไปแช่ประจำนั่นแหละ แต่นายอ่ะ บ้าหรือไงอยู่ดีๆก็กระโดดลงมาชั้นก็ตกใจหมดร่วงลงไปจนก้นบึ้งเลย ขาก็ดันเจ็บขึ้นมาจนว่ายน้ำไม่ได้ ถ้าขาชั้นมีแรงชั้นไม่พึ่งนายหรอกนะ ชั้นแช้มป์ว่ายน้ำนะจะบอกให้”ต้นอ้อพูดแล้วมองตาตี๋โต้ตอบไป ขืนชั้นมองต่อไปอีก2วิชั้นละลายรวมกับน้ำแน่ๆ คนบ้าอะไรจะน่ารักขนาดนี้ ต้นอ้อนึกในใจ โอย ก่อนจะสวีทกันมาช่วยสนใจชั้นหน่อยก็ดีนะ เดี๋ยวบัดตื่นแล้ววิ่งหนีซะเลย (แก้ว)
“สรุปว่าชั้นผิด”ริมฝีปากชวนหลงไหลขยับเบาๆอย่างสวยงาม
“ถ้านายไม่ผิดแล้วชั้นผิดงั้นหรอที่จะมาสงบสติจากการถูกคนบางคนด่าปาวๆ และไม่เห็นค่าในสายตาเลย”ต้นอ้อโต้ตอบไปและสบตาอย่างเคียดแค้น คราวนี้หละมา ชั้นสบตาให้นานกว่า2ชั่วโมงให้ดู แค้นๆๆ
“และจะให้ชั้นทำไงถึงจะหายโกรธ”ตี๋ยื่นข้อเสนอ
“ไม่บอก”ต้นอ้อทำหน้าหมันไส้แล้วเชิดหน้าออกนิดๆ
“งั้นก็ตามใจเถอะ”(นี่ตกลงจะไม่มีใครสนใจยัยแก้วบ้างหรอ นอนสบายกับสายลมไปแล้วมั้งหนะ)
“ก็ดี งั้นก็ปล่อย”ต้นอ้อสะบัดตัวเบาๆ
“ปล่อยเธอก็จมอีกสิ ขาไม่มีแรงยังจะซ่า หมันไส้จริงๆอวดดี”ตี๋พูดจบก็โผหน้าเข้าไปเอาจมูกชนกับต้นอ้อ อร้ายยยยย นายทำชั้นหวั่นไหวอีกแล้ววววว
“ปากเปื้อนอะไร”ตี๋ลงเสียงต่ำก่อนจะกดริมฝีปากตัวเองลงไปประกบกับริมฝีปากของต้นอ้อ หืม...มีความสุขจัง ต้นอ้อนึกในใจ ดวงตาทั้งคู่พริ้มหลับสนิท ลิ้นน้อยๆของเจ้าพระเอกก็ทรอดแทรกเข้าไปในปากนางเอกน้อยอย่าเบาๆ รสริมฝีปากหวานๆจนแทบทำให้ฝ่ายหญิงที่โดนสะกดหลอมละลาย
“ฟื้ดๆๆ”ลมหายใจรินรดซึ่งกันและกัน หัวใจของต้นอ้อเพ้อละเมอคอยหาไปยันไหนต่อไหน เค้าจูบชั้นแสดงว่าเค้าต้องชอบชั้นแน่ๆ ฮิฮิ ต้นอ้อนึกในใจแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบจูบไปเพราะทำอะไรกับเค้าไม่เป็น (ตามสบายเลยนะ จูบกันไปเลย ปล่อยยัยแก้วนอนสบายไปเถอะ ไม่มีบท... 55) นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ทั้งคู่ได้ชิมความหวานของกันและกัน ตี๋ค่อยๆถอนปากออกจากต้นอ้อช้าๆๆ
“ยกโทดให้ได้หรือยัง”เสียงทุ้มต่ำนุ่มนวลถามขึ้น
“เอ่อ.....”ต้นอ้อทำตาโตอยู่ในอ้อมแขนของตี๋
“โอ๊ยยยย มึนหัว อ้าวขึ้นมาแล้วหรอ”แก้วกล่าวขึ้นเมื่อลืมตาขึ้นมา แก้วเอามือยันพื้นแล้วถาม
“กรี๊ดดดดดดดด”ต้นอ้อกรี๊ดเมื่อตี๋ปล่อยมือออกจากเค้าทันทีที่แก้วตื่น ต้นอ้อเกือบลงไปเยี่ยมชมโขดหินและตะไคร่อีกครั้งแล้วแต่ตี๋คว้าตัวไว้ทัน ตี๋พาต้นอ้อไปนั่งบนฝั่งแล้วก็ดีดตัวเองขึ้นจากฝั่งเหมือนกัน
“นี่แก้วเป็นลมหรอ”ตี๋ถามแก้วแล้วมุ่งหน้าไปประคองแก้วขึ้นยืน
“อื้ม มั้ง”แก้วตอบแล้วยิ้ม
“มึนมากไหม ไปที่รถดีกว่านะ”ตี๋พูดแล้วเอามือลูบผมของแก้วที่ดูจะยุ่งๆ
“ไปประคองต้นอ้อเถอะ ขาเจ็บอยู่”แก้วมองต้นอ้อที่นั่งแข็งทื่อไม่กระดุกกระดิกไปไหนแม้แต่น้อย
“อย่าคิดบ้าๆแบบนั้นอีกนะ ใจจะวาย”แก้วพูดแล้วยิ้มให้กับต้นอ้อ ตี๋เล่าเรื่องที่ต้นอ้อไม่ได้จะฆ่าตัวตายแค่จะลงไปล้างตัวให้แก้วฟัง
“โอ้....ก็ตกใจหมด ใจหายหมดเลย ว่าแต่ไปกลุ้มใจอะไรมา”แก้วเอ่ยถามแล้วเดินเข้าไปหาต้นอ้อที่นั่งมองน้ำตกลงกระทบกับผิวน้ำซ่าๆอยู่
“ช่างมันเถอะ กลับไปกันเถอะ ชั้นจะนอนที่นี่”ต้นอ้อทำหน้านิ่ง
“บ้าน่า....”แก้วเอ่ยขึ้นแล้วดึงแขนต้นอ้อ
“ชั้นพูดจริงๆ จะอยู่บ้านไปทำไมในเมื่อไม่มีใครอยู่ด้วยสู้นอนในที่ ที่ชั้นคิดว่ามันสบายใจแล้วยังจะดีกว่าอีกนะ”ต้นอ้อมองหน้าแก้วแล้วเหลือบไปมองตี๋ที่มองแก้วแล้วอมยิ้มอย่างเศร้าๆ
“เดี่ยวชั้นไปอยู่เป็นเพื่อนก็ได้นะ”แก้วเอ่ยขึ้นเบาๆ
“ฟ้าจะมืดแล้ว แก้วรีบกลับเถอะเดี๋ยวยุงจะกัด”ตี๋พูดขึ้น
“ไอ้ตี๋”ผลั่ว !! เสียงหมัดที่หนักหน่วงดังขึ้น
“โทโมะ”แก้วถึงกับตาค้างเมื่อเห็นโทโมะเดินมาจากทางทิศไหนไม่รู้แล้วต่อยเข้าเต็มใบหน้าของตี๋จนตี๋ล้มลง
“โอ๊ยยยย”ต้นอ้อร้องลั่นเมื่อพยายามจะลุกไปพยุงตี๋แต่ขาดันเจ็บ
“อะไรของมึงวะ”ตี๋ขึ้นเสียงดีงแล้วสวนหมัดกลับ ผลั่ว !!
“หยุดเถอะชั้นขอ!!!”ต้นอ้อตะโกนสุดเสียงแต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ยอมหยุดกัน
“หยุด”แก้วพูดขึ้นเบาๆแล้วทำหน้าเนือย ทั้งคู่ที่บ้าคลั่งเหมือนช้างตกมันก็หยุดศึก(ยุทธหัตถี)ลง นี่หละนะ ชั้นไม่มีค่าจริงๆสินะ อุสส่าตะโกนกลับไม่มีใครสนใจแต่แก้วแค่พูดเบาทุกคนก็หยุด ชั้นทำบุญมาด้วยอะไรกันนะ ลูกอมหรือขยะเปียกถึงได้เกิดมาอาภัพแบบนี้ ต้นอ้อนึกแล้วแทบจะร้องไห้
“ตี๋ กลับบ้านกันดีกว่าที่รัก”แก้วเดินเข้าไปควงตี๋ที่ตัวเปียกโชค คำลงท้าย ‘ที่รัก’ ทำให้ทั้งต้นอ้อและโทโมะถึงกับอึ้ง ทั้งคู่เดินออกไปโดยไม่รอใครปล่อยให้ทั้งสองคนที่เหลืออึ้งค้างตาโตมองสายลม
“แก้ว ๆๆๆ”โทโมะร้องเรียกแล้วทำท่าจะวิ่งตามแต่ก็อดสงสารต้นอ้อที่ไม่มีแรงจะก้าวไปไหนไม่ได้
“เธอนี่มัน”โทโมะพยุงตัวต้นอ้อ
“ไม่เป็นไรหรอกนะ ขอบคุณ ชั้นจะนอนนี่ ไปเถอะ ง้อให้สำเร็จนะ จะเป็นกำลังใจให้ สู้ๆ”ต้นอ้อชูสองนิ้ว เมื่อโทโมะเห็นใบหน้าที่มีน้ำ(ตา)ประปรายยิ้มให้ก็ยิ้มตอบ แต่เค้าก็คิดว่าคงเป็นเพียงน้ำธรรมดาเพราะทั้งตัวต้นอ้อเปียกมะรอกมะแรกเป็นผีพราย
“เธอไม่ไหวแน่ๆ ไปกับชั้นเถอะหนะ”โทโมะพยายามจะลากตัวต้นอ้อให้ได้
“บอกว่าอย่ามายุ่งก็อย่ามายุ่งสิ พูดดีๆไม่รู้เรื่องใช่ไหม ไปเลย ไปๆๆๆ ไปง้อเพื่อนชั้นซะ ถ้านายไม่ง้อนายตายแน่ไอ้โทโมะบ้า!!”เสียงของต้นอ้อตะโกนดังไปยันสามเขา โทโมะถึงกับปล่อยมือจากตัวต้นอ้ออย่างไร้เยื่อใยแล้วรีบวิ่งออกไป ชั้นพึ่งจะสั่งคนได้ก้วันนี้และมั้ง ต้นอ้อนึกและทรุดตัวลงกับพื้น ไปไหนไม่ไหวจริงๆ นอนมันตรงนี้แหละ
ณ บ้านตี๋
บ้านหลังใหญ่อย่างกับวังหลวง
“เฮ้ย ตี๋ หยุดสิวะ”โทโมะบีบแตร ปี้นๆไล่หลังของรถตี๋แล้วจ่อฝากระโปรงรถเข้าไปในรั้วบ้านของตี๋
“หยุดบ้าสักทีได้ไหม นายมันแค่เพื่อนชั้นนะ ต่อจากนี้เราขาดกัน ไม่ต้องมาเป็นเพื่อนกันอีก”แก้วตะโกนลั่นพร้อมลงจากรถตี๋ไปยืนประจันหน้าโทโมะอย่างไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด
“แก้ว ชั้นขอโทดนะแก้ว”รถทั้งสองคันคาแหงกอยู่ ครึ่งคันเข้าพ้นรั้วบ้านไปแล้วอีกคันครึ่งยังอยู่หน้ารั้ว
“นายบอกแล้วใช่ไหมว่าจะไม่ทำอย่างงี้อีก แต่นี่นายบอกพร้อมจับคู่ให้ชั้นเสร็จสรรพ ok นี่ไง ชั้นอยู่ถูกคู่ของชั้นแล้วหนิ”แก้วกอดอกทำเบ้ปาก
“แต่เธอเป็นของชั้น เป็นของชั้นคนเดียว มานี่นะ”โทโมะกระชากแขนแก้วแล้วโอบไว้
“แกจำไว้เลยนะไอ้ลูกหมาตกน้ำ แก้วคือของชั้น ชั้นได้กับเค้าแล้ว จำไว้เว้ย”เพี้ย ฝ่ามืออรหันของแก้วแล่นอย่างรวดเร็วไปที่แก้วโทโมะจนเกิดเสียงจากการกระทบกัน
“ปากหม......อุ๊บ”แก้วยังไม่ทันพูดอะไรต่อก็โดนโทโมะปิดปากด้วยปากของเขาอย่าบ้าคลั่ง
“อ้าย น่ารังเกรียจ บัดซบ!!”แก้วด่าลั่นแล้วผลักโทโมะออก เพี้ย เพี้ย เพี้ย 3เพี้ยเต็มๆที่แก้วฟาดมือลงบนใบหน้าโทโมะเต็มที่จนเกิดรอยแดง
“นายมันเลว เลวที่สุดใน3โลก ชั้นเกลียดนาย”แก้วพูดจบก็เดินหนีเข้าไปในรั้วบ้านของตี๋
“ไอ้ตี๋มึง”ผลั่ว เสียงสนั่นดังขึ้นอีกครั้งเมื่อฝ่ามือแล่นไปอัดเข้าหน้าของตี๋จนเลือดกำเดาไหล
“อะไรของมึงวะโทโมะ มึงเสือผู้หญิง จะมาจริงจังอะไรกับผู้หญิงคนนึง เท่าที่รู้มา ได้ใครแล้วก็ปล่อยไม่ใช่หรอวะ ตอนกลางคืนชั้นรักเธอ ตอนเช้ามาเธอคือใคร นี่แหละนิสัยแกไอ้เสือมืด”(พี่ป้อ กรี๊ดดดดดดด)ตี๋พูดขึ้น
“นั่นมันเมื่อก่อน แต่คนนี้มันใช่สำหรับชั้นสุดๆ อย่ามายุ่งนะเว้ย”โทโมะพูดแล้วเข้าไปกระชากคอเสื้อตี๋
“ถ้ามึงแตะต้องแก้วแม้แต่ปลายเล็บมึงเละแน่ ไอสั***”โทโมะพูดจบก็เดินกลับขึ้นรถตัวเองไป
เช้าตรู่
เมื่อคืนแก้วหลับบนเตียงของตี๋แต่ตี๋ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกดีๆที่มีต่อกันของเขาและแก้วตี๋เลยนอนที่พื้น เมื่อแก้วกินอะไรเสร็จก็ต้องตกใจในทันที
“ต้นอ้อ!!”แก้วอุทานออกมาแล้วมองหน้าตี๋
“ต้นอ้อ เราลืมต้นอ้อ”แก้วพูดแล้วตี๋ก็รีบหยิบกุญแจรถขับออกไปที่น้ำตกสวรรค์ทันที
ณ น้ำตกสวรรค์
“ฮึกๆๆ”ตัวสั่นระริกของต้นอ้อที่นอนกอดตัวเอง ปวดไปทั้งตัว ทั้งคืนเสื้อผ้าเปียกๆชื้นๆยังคงถูกสวมใส่จนแห้ง ใบหน้าซีดปากเซียวสั่นระริก ทั้งตัวสีซีดเหมือนใช้ไฮเตอร์ซักยังไงยังงั้น โอ๊ยยยย ปวดขาเหลือเกิน ปวดยิ่งกว่าตอนอยู่รพ.ซะอีก โอ๊ย ฮึก ชั้นปวดหัว ปวดไปหมดทั้งตัวแล้ว ชั้นเจ็บ ชั้นปวด โอ๊ยยย ฮือๆๆ น้ำตาถูกกลั่นออกมาเรื่อยๆอย่างไม่รู้จักหยุด แม้แต่เปลือกตายังลืมไม่ได้ปวดมากขนาดไหนก็คิดดู มือสองข้างโอบกอดตัวเองไว้แน่น ผมเผ้าฟูกระเซิงเป็นปอปหยิบ กางเกงขายาวผ้าสบายๆสีดำสนิทกับเสื้อยืดธรรมดาสีชมพูเข้มที่เคยปียกก็แห้งเป็นบางส่วน ร่างของสาวน้อยนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นหญ้าที่เมื่อคืนทรุดตัวลง โขดหินที่อยู่ใกล้ๆเป็นเครื่องช่วยในการพยายามลุกแต่ก็ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับมือออกจากตัวเอง
“ต้นอ้อ”แก้วอุทานออกมาทันทีก่อนจะโผเข้าไปหาอย่างรวดเร็วพร้อมกับตี๋
“ตายจริง ไฟไหม้แน่ๆ”เมื่อแก้วพยายามจะพยุงต้นอ้อขึ้นก็ต้องสะดุ้งเมื่ออุณภูมิในตัวต้นอ้อสูงสุดยอดร้อนจี๋ถึงร้อนมากกกกกกกก
“ไหวไหมต้นอ้อ ตายแล้ว ตี๋อุ้มต้นอ้อทีสิ”แก้วหันมามองตี๋ ตี๋พยักหน้าแล้วเข้าไปพยายามจะรวบตัวของต้นอ้อที่สั่นกระพือไม่หยุด
“ยัยต้นไทร!! ให้ตายสิ ทำไมตัวเป็นไฟแบบนี้ ลืมตามาคุยกันหน่อยสิ ยังมีสติไหม”ตี๋ที่กำลังจะอุ้มก็ต้องถอนโจ๊ะทันทีเมื่อรับอุณหภูมิต้นอ้อไม่ไหว
“ตาย”เสียงแผ่วเบาแทบจะไม่มีใครได้ยินแต่ตี๋พอจะได้ยินนั่นคือคำพูดที่ออกมาจากปากของต้นอ้อ
“ตายได้ยังไง เธอต้องไม่ตาย ลืมตาก่อน ยัยต้นไทร ชั้นสั่งให้ลืมตาไง”ตี๋ตะคอกอย่างหัวเสีย ต้นอ้อพยายามจะเบิกตาตัวเองที่หนักมากเท่ากับ10กิโลก็เป็นได้ พยายามจะยกมันขึ้น อึ๊บๆๆๆ เปลือกตาค่อยๆถูกเปิดขึ้นเพียงนิดๆพอเห็นภาพเลือนลาง ภาพที่เห็นตรงหน้าของต้นอ้อมัวไม่เห็นเป็นรูปร่างเลย
“เธอยังมีสติ ไปเร็วๆๆ”ตี๋พูดแล้วรวบต้นอ้อที่ร้อนเป็นไฟจนควันแทบขึ้นไปที่รถโดยมีแก้ววิ่งนำไปเปิดประตูให้
ณ โรงพยาบาล
Kaew talk
ยัยเพื่อนบ้านี่เดี๋ยวก็จมน้ำเดี๋ยวก็ขาหักเดี๋ยวก็ไข้ขึ้น ชั้นก็อิจฉาแกเหมือนกันนะย๊ะ ตี๋อุ้มประจำ โทโมะก็เคยเห็นใจ ชิ๊ แต่นี่มันไม่ใช่เวลานี่หว่า...*-* ชั้นต้องห่วงเพื่อนสิ ยัยเพื่อนบ้าอย่าพึ่งช็อคตายนะ จะว่าไปก็คิดถึงโทโมะนะ เค้าก็ไม่ได้ผิดอะไรมากมายสักหน่อย อย่างว่า มีแฟนเป็นดารามันต้องทน....จำทน!!
สิ้นสุด Kaew talk
“ญาติคุณเพ็ญชราสา พรปารวีเชิญด้านในค่ะ”พยาบาลแก่ๆคนนึงพูดขึ้นจากหน้าห้องฉุกเฉิน แก้วกับตี๋รีบเดินไปในห้องฉุกเฉินอย่างเร็วไว
“คือว่าคุณเพ็ญชราสาไข้ขึ้นสูงมาก มากถึงมากเลยนะคะ ถ้ามาช้ากว่านี้ประมาณ2ก้าวได้เนี้ย...คุณอาจจะต้องเสียเข้าไปแล้วก็ได้ เพราะภูมิต้านทานในตัวของคุณเพ็ญชราสาน้อยมาก เป็นคนที่อ่อนแอและต้องการได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคนรอบข้าง เป็นคนอ่อนไหวง่ายชอบคิดมาก”ตกลงเธอเป็นหมอรักษาคนหรือหมอดู แก้วนึกในใจ
“อาการที่บอกไม่ใช่ว่าชั้นเป็นหมอดูนะคะแต่ว่าคนไข้มีเส้นรอยหยักสีดำซึ่งเป็นเส้นความทรงจำที่หัวสมองจากการเอ็กซเรย์แต่เป็นความทรงจำแย่ๆอยู่เยอะมาก พวกคุณควรจะสร้างความทรงจำดีๆให้กับเค้าให้มากที่สุด ก่อนจะเสียคุณเพ็ญชราสาไปจากโรคความจำเสื่อม เพราะสมองได้รับความอ่อนไหวจากหลายๆสิ่ง เป็นคนสมองอ่อนแต่ไม่ใช่ปัญญาอ่อนนะคะแค่อ่อนไหวง่าย ช่วยกันดูแลด้วยนะคะ^^”ยิ้มทำไม...- -* ตกลงว่าชั้นต้องดูแลยัยเพื่อนบ้านี่เป็นพิเศษงั้นหรอ แค่นี้ชั้นก็อิจฉามันจนขนหัวจะร่วงแล้วนะ แก้วนึกในใจ ชั้นตางหากที่ต้องอิจฉาแก คนชอบเป็นล้านแต่ดูชั้นสิคนชอบไม่มี คนเกลียดสิบล้าน ชั้นนี่น่าสมเพ็ชจริงๆ สาวที่นอนแน่นิ่งแต่ได้ยินทุกอย่างเพราะอยากจะหลับตาเอาไว้ไม่อยากลืมตาไปเผชิญกับสิ่งชั่วร้ายตรงหน้าทั้งสององค์คนนึงก็ลืมเพื่อนอีกคนก็ไม่เคยสนใจ...เพื่อน ความจริงชั้นก็ไม่อยากจะโกรธพวกเธอทั้งสองคนหรอกนะ ชั้นไม่โกรธเลยก็ว่าได้เพียงแต่ชั้นน้อยใจอยู่บ้าง...ถึงแม้ไม่มีสิทธิ์ เฮอะ สมเพ็ชตัวเองชะมัด ต้นอ้อนึกก่อนจะค่อยๆลืมตามายอมรับภาพที่เห็น แก้วอยู่ในอ้อมแขนที่เค้าคิดว่าแสนจะอบอุ่นคืออ้อมแขนของตี๋ แก้วน้ำตาคลอเบ้าแต่ตี๋กลับอมยิ้มที่เห็นแก้วเอากายมาชิดใกล้ ชั้นน่าจะหลับไปชั่วนิรัณเลยนะ ต้นอ้อนึก ต่อมน้ำตาก็เริ่มจะทำงาน
“ต้นอ้อตื่นแล้วหรอ”แก้วพุ่งเข้าใส่เต็มๆจนร่างของแก้วกระแทกกับเตียงเหล็กแต่คนที่เจ็บไม่ใช่แก้วควรจะเป็นต้นอ้อที่ในมือโดนเจาะน้ำเกลือไปหมาดๆแล้วกระแทกจนร่างพลิกแต่ตี๋ก็เลือกที่จะประคองแก้ว ก็ใช่สิชั้นมันไม่ใช่แก้ว
“ไม่อยากตื่นหรอกนะ”ต้นอ้อพูดเบาๆเพียงได้ยินคนเดียว
“อะไรนะ”แก้วได้ยินไม่ชัดก็ถามขึ้น
“ปล่าว ไม่มีแรงพูด”ต้นอ้อหันไปมองแก้วแล้วพูดย้ำอีกครั้ง
“ต้องนอนค้างไหมครับ”ตี๋หันไปถามพยาบาล
“ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ให้ครบ24ชม.คะ สมควรจะนอนพักจนกว่าจะเป็นปกตินะคะ”พยาบาลหนังเหี่ยวพูดขึ้น
“ชั้นดูแลตัวเองได้คะ ขอกลับบ้านเถอะ ชั้นไม่อยากอยู่ที่นี่ ชั้นไม่ชอบ ชั้นไม่ชอบที่นี่จริงๆ นะคะขอร้อง นะคะๆๆๆ”ต้นอ้อลุกขึ้นนั่งช้าๆแล้วยกมือสองข้างอย่างลีแล็กขึ้นมาพนมแล้วทำท่าเขย่ามือไปมา
“เอ่อ....ไม่ควรนะคะคุณเพ็ญชราสา”พยาบาลเข้ามาหาแล้วยิ้มอ่อนๆให้
“ไม่ๆๆ นะคะ ๆๆ ขอร้อง ให้เพ็ญไหว้ก็ยอม นะคะ”เพ็ญ...ทำไมแทนตัวเองอย่างงั้นหละ แก้วนึกแต่ก็ยิ้ม
“เอ่อ...”พยาบาลหันไปมองแก้วกับตี๋
“ปล่อยเค้าไปเถอะครับในเมื่อเค้าคิดว่าจะดูแลตัวเองได้ เค้าคงไม่อยากเข้าโรงพยาบาลซ้ำซาก หรือโรคสำออยกำเริบหรอกมั้ง”ตี๋เลิกคิ้วเป็นการท้าทายแต่มองเฉไฉไปทางอื่น ฮึ่ม....
“นะคะ ชั้นขอออกชั้นจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ชั้นจะไม่ยอมให้ใครมาดูแลตัวชั้น นะคะ ชั้นมีตัวคนเดียว อยู่ตัวคนเดียว ขอรักษาตัวอยู่บ้านนะคะ ไหว้หละ”ต้นอ้อทำท่าจะกราบไหว้พระ(เหี่ยว)พยาบาลอย่างสวยงามแต่ถูกสกัดไว้จากมือพยาบาล
“ก็ได้คะ คุณนี่ดื้อจริงๆ”พยาบาลพูดจบก็ยิ้มให้กับต้นอ้อ
ณ บ้านแก้ว
“บ๊ายบายนะตี๋ ฝากไปส่งต้นอ้อด้วยนะ”แก้วพูดจบก็โบกมืหยอยๆแล้วก้าวเท้าเข้าไปหน้าบ้านรถของตี๋แล่นออกไปอย่างเร็วพอสมควร
“แก้ว...”เสียงแผ่วดังขึ้นอย่างไม่รู้ทิศทาง
“คะ...ใครหนะ”แก้วหันซ้ายหันขวา เสียงน่าวังเวงชะมัด
“แก้วจ๋า....”ยึ้ย จะลากเสียงทำไมขนหัวลุก
“ใคร ถามว่าใคร”แก้วถามย้ำอีกหนแล้วรีบก้าวเท้าไปหน้าประตูบ้านแต่ถูกอะไรบางอย่างพุ่งเข้าใส่จากหลังพุ่มไม้ ทะ...โทโมะ
“กรี๊ดดดดดดดดดดด อุ๊บ OxO”แก้วตาลุกพราวเมื่อชายหนุ่มรูปหล่อพุ่งออกมาอย่างกับลอยฟ้าแล้วมากระโจนใส่ร่างแก้วจนล้มลงแล้วร่างเค้าก็ทับตามลงมา ตามด้วยเสียงกรี๊ดและริมฝีปากนุ่มๆที่ปะกบปิดเสียงแก้ว
“คิดถึง ดีกันนะ”กี่ครั้งแล้วกับคำนี้ ชักจะเบื่อแล้วนะ แก้วนึกแล้วผลักอกโทโมะ
“เล่นบ้าอะไรของนายหนะ”แก้วนั่งและหายใจแฮ่กๆ โทโมะนั่งข้างๆแล้วเอามือรวบเอวแก้วไว้จากด้านข้างก่อนจะเอาหัวหนุนไหล่แก้วพร้อมกับโยกตัวไปมาเหมือนกล่อมเด็ก
“นะครับที่รักของกระผม จุ๊บ”โทโมะเงยหน้าไปจุ๊บแก้มแก้วเบาๆ
“และเมื่อไหร่นายจะเปิดเผย พร้อมเปิดเผยเมื่อไหร่ค่อยมาขอคืนดี”แก้วว่าร้อมกับทำหน้าเชิด
“พร้อมแล้วคร๊าบบบบ”โทโมะลากเสียงแล้วยิ้ม
“เค้าจะเปิดเผยว่าสุดที่รักที่รักที่สุดของเค้าคือแก้วใจคนเดียวเท่านั้น”โทโมะพูดแล้วยิ้มบางๆให้อย่างน่ารัก ชั้นจะละลายเป็นน้ำแล้วนะ
“ก็ดี งั้นชั้นจะหายโกรธ”แก้วพูดแล้วยิ้มบางๆตอบก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วปัดเศษหญ้าออกจากกระโปรงพอๆกับโทโมะที่ทำหน้าเคร่งกับการมองหาของ
“หาอะไรหรอ”แฮ่ๆๆ รับมุขสักที โทโมะนึกแล้วมองแก้วยิ้มๆ
“มองหาหัวใจที่ทำหล่น แต่ก็เจอแล้วอยู่นี่ไง”โทโมะชี้ไปที่แก้วแล้วโผเข้าไปจูบปากชิมรสชาติหวานๆพอสมใจแล้วก็ถอนจูบออก มันชักจะถี่และหวานไปละนะ แก้วนึกก่อนจะเดินหน้าแดงเข้าบ้านไป
“ไม่ต้องตามมาเลย ไปนอนบ้านนายไป บ้านชั้นเล็กและก็แคบมันนอนไม่ถนัดหรอก ปวดหลังอีกตางหากบ้านนายดูจะหรูหรา ไปนอนบ้านนายเถอะ”แก้วยิ้มแล้วผลักไหล่โทโมะเบาๆ
“ไม่เอา แคบแค่ไหนเค้าก็จะนอนกับแก้ว เค้าจะนอนเตียงเดียวกับแก้วด้วย”ตั้งแต่ชั้นคบกับหมอนี่มีสักวันไหมที่จะไม่แทนตัวเองว่าเค้าและทำท่าเป็นเด็กหัวดื้อพอเวลาโดนขัดใจ
“เฮ้อ....เอารถมาไหม”แก้วถามขึ้น
“เอามาครับ”โทโมะตอบหน้าบาน
“งั้นไปนอนบ้านนายกันดีกว่าเนอะ”แก้วยื่นข้อเสนอก่อนจะปิดบ้านแล้วเดินออกไปพร้อมกับโทโมะที่ดูจะดีใจ
บนรถ ตี๋
มีแต่ความเงียบ เงียบ เงียบ เงียบ เงียบ เงียบ เงียบ เงียบ (พอละ) ก็มันเงียบจริงๆ ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจ ทั้งสองคนทำอะไรก็เบาไปหมด ไม่สบตา ไม่คุย ไม่พูดจา ไม่หายใจ เอ้ย ล้อเล่น หายใจเบาๆ ต้นอ้อมองตรงไปข้างหน้าท่าเดียวพอกับตี๋ที่มองแต่ถนน
“อะไรของมันวะ”ตี๋ฉุนกึกเมื่อถูกปาดหน้าด้วยรถวีออสสีดำเงาสวย
“เฮ้ย ชนเลยไหมว่ะ มีประกันชั้น1เว้ย”ตี๋พูดเสียงลั่นในรถจนต้นอ้อเอามือปิดหู
“ว่าไงนะ”เสียงหนุ่มร่างสูง ผิวขาวเนียนยิ่งกว่าสำลีชุบลิควิทซะอีก (เว่อร์) ผมสีดำสนิทถูกปัดไปทางด้านขวาส่วนใหญ่ ดวงตากลมโตแต่ไม่ถลักออกนอกเบ้า (บ้านแกสิ คนไม่ใช่ผี) สูงพอประมาณ จมูกโด่งเป็นสัน หน้าออกจะขาวเว่อร์เลยหละ ปากชมพูสุขภาพดีดูอวบอิ่ม ต้นอ้อถึงกับค้างและหันหน้าหนีทันที
“จอดรถทำไมฟ่ะ รถติดเห็นไหม เค้าบีบแตรหมดแล้ว มารยาทสะกดบ้างสิ”กระจกที่ถูกเลื่อนออกโดยฝีมือตี๋และหนุ่มรูปงามคนนั้นก็เดินมาคุยด้วยอย่างหน้าตาฉุนเฉียวแต่ตี๋หน้ากลัวยิ่งกว่าองค์คุลีมารซะอีก เสียภาพพจหมดเล้ย....
“เพ็ญ”เสียงร่างสูงพูดขึ้นเบาๆ
“เพ็ญอะไรของแกว่ะ เพ้นท์ปากกาอะหรอ จะเอาไปทำไม จะเรียกประกันว่างั้น เอางั้นได้ รอแปป”ยังพูดไม่ทันจบตี๋ก็พุ่งรถที่อยู่ใกล้กันแค่ช่วงตัวคนไปกระทบกันจนบุบนิดๆ
“อ่ะชนละ เรียกประกันมา”กวนteen หวะไอ้ตี่ตี๋ จะจอดหาเผือกหาแย้อะไรกัน ต้นอ้อนึกในใจแต่ยังไม่ยอมหันไปมองทั้งสองคนสนทนากันเลย
“เฮ้ย มึงชนรถกูทำไมวะ”ชายร่างสูงกล่าวขึ้น
“แค่นี้ขึ้นกูมึง มึงบ้าป่าววะ”ก็พอกันนั่นแหละ จะเถียงกันทำบ้าอะไรว่ะ ต้นอ้อนึก
“เออ ประกันก็ประกัน แต่ช่วยเรียกแฟนมึงให้หันมาหาชั้นที”ร่างสูงเอ่ยอย่างหัวเสียแล้วชี้นิ้วไปที่ต้นอ้อที่นั่งหันหน้าออกไปมองทางกระจกตัวเองแล้วหลับตาปี๋
“ทำไมว่ะ เค้าไม่ใช่แฟนชั้นเว้ย”ตี๋พูดแล้วมองหน้าชายร่างสูง
“เพ็ญ เพ็ญ เพ็ญ หันมาดี๋ยวนี้นะเว้ย!!”เสียงตะคอกดังขึ้นจากชายร่างสูง ต้นอ้อสะดุ้งแล้วรีบหันไปมองในทันที
“เพ็ญจริงๆด้วย เพ็ญ”ตึกๆๆ
“เฮ้ย อะไรของมึงวะ”ตี๋อุทานขึ้นเมื่อชายร่างสูงเปิดประตูรถแล้วดันเค้าออกไปพร้อมกับยัดตัวเองขึ้นไปนั่งแทนแล้วคว้าตัวต้นอ้อมาโอบรัดเต็มที่
“คิดถึง คิดถึงที่สุด สุดที่รัก เราดีกันนะ ลีฟขอโทด”ลีฟฟี่...T^T
*ลีฟฟี่ หนุ่มสูงโปร่งจมูกโด่งขาวจั๊ว ปากชมพู ผมดำสนิทหน้าตาน่ารักยิ้มเก่ง เจ้าชู้โคตร อดีตแฟนของต้นอ้อตั้งแต่ป.5ยันมัธยมปลาย ความเจ้าชู้ทวีคูณวันทวีคูณคืนทำให้ต้นอ้อต้องถูกทิ้งไปและต้นอ้อก็หนีมากรุงเทพในทันที ความเลวร้ายครั้งนั้นฝังไมโครชิพไว้ในหัวว่าจะไม่ลืมความเจ็บที่ลึกเคยทำไว้เลย...
“เอ่อ...คุณเป็นใครหรอค่ะ”ต้นอ้อผลักลีฟฟี่ถอยห่าง ลีฟฟี่พยายามจะยื้อตัวเองไว้ให้ที่สุด
“ลีฟฟี่ไง ลีฟฟี่สุดที่รักของนางสาวเพ็ญชราสาสุดที่รักไงจ๊ะ”ลีฟฟี่ยิ้มให้แล้วทำท่าจะโผเข้าจูบแต่ถูกมือเหนียวกระชากจนหงายหลัง
“เฮ้ย ลงไปเลย รถชั้นแพงนะเว้ย เดี๋ยวต่อยหงายท้อง มายุ่งอะไรกับยัย...”ตี๋หันไปมองต้นอ้อที่ขมุบขมิบตาเป็นการส่งซิก
“ชั้นชื่อต้นมะพร้าว”ถุย เธอความคิดดีกว่าชั้นซะอีกนะ ตี๋นึกแล้วขำออกมาหน่อยๆ
“ใช่ ยุ่งอะไรกับยัยต้นมะพร้าว”และแล้วตี๋ก็ยอมรับมุข
“อย่ามาหลอกกันเลยนะเพ็ญ ชั้นจำได้นะว่าต้องเป็นเพ็ญชราสาหรือต้นอ้อของชั้นแน่นอน”ลีฟฟี่ทำท่าจะพุ่งเข้าชน (เป้าหมายมีไว้พุ่งชน)
“เฮ้ย อีกก้าวเดียวเตรียมหน้าหงาย”ตี๋ง้างมือเข้าไปขวางไว้อย่างมั่นมือ
“เฮ้ย......ฝากไว้ก่อนเถอะ เพ็ญนี่นามบัตรเรานะ จำเราได้แล้วโทรมานะ เราไม่เคยลืมเธอนะ ลีฟอยากขอโทษเพ็ญจริงๆ ลีฟเปลี่ยนเป็นโคะ...อย่า...ไปแล้วๆๆๆ”ลีฟฟี่รีบโยนนามบัตรใส่ต้นอ้อแล้ววิ่งกระเจิงขึ้นรถไปทันทีเมื่อเห็นตี๋ย่างสามขุมเข้าประชิดตัวแล้วเตรียมฟาดหมัด
“รถชนฟรี มีความสุขจริงๆ”ตี๋ก้าวขึ้นรถพร้อมกับมองต้นอ้อที่หยิบนามบัตรมาดูแล้วน้ำตาคลอ
“มันเป็นใคร”ตี๋ถามแล้วดึงนามบัตรมาดู
“ไร้มารยาท เอามานี่นะ ฮึกๆๆ บอกให้เอามานี่ เฮ้ย”เสียงสะอื้นปนน้ำตาที่หลั่งไหลมาเรื่อยๆทำให้ต้นอ้อต้องเปิดประตูลงแล้ววิ่งตามรถของลีฟฟี่ที่ห่างกันเป็นกิโลๆไปอย่างไม่รู้จักเหนื่อยแต่แล้วก็ต้องล้มลงจากความล้า ตี๋ขับรถไปประกบข้างตัวต้นอ้อแล้วเปิดกระจก
“ยัยเจ๋อ ขึ้นรถ”ตี๋พูดเสียงดังพอประมาณ
“ไม่ ฮึกๆ ชั้นจะไปหาเค้า ลีฟฟี่ ฮึกๆๆ รอชั้นด้วย ฮึกๆๆ น้ำตกสวรรค์ช่วยหนูที ฮึกๆๆๆๆแงๆๆๆๆๆ”เด็กหนอเด็ก ตี๋นึกแล้วรีบลงไปอุ้มตัวต้นอ้อขึ้นบนรถคล้ายๆการหอบกระเตงลูกอย่างไงอย่างงั้น
ณ คอนโทโมะ
“นี่มัน.....ฮึ่ย หมันไส้!!”ปิ๊ด ปึก แก้ววางรีโมทโทรทัศน์กระแทกโต๊ะอย่างแรงและปิดมันลงก่อนจะกอดอกแน่น
“เป็นอะไรหรอแก้วใจ กิ้วๆ”เสียงแห่งความรักบังเกิดขึ้นข้างหูแก้วพร้อมกับนิ้วเล็กๆที่เขี่ยแก้มแก้วไปมา
“100วัน1000ปีพึ่งจะเคยดูหนังดูละครพอได้มาดูฉากนายจูบกับผู้หญิงคนนู้นคนนี้ชั้นหละแค้น ทำไมต้องเอาฉากจูบจริงด้วยหนะ หมันไส้”แก้วหันไปวีนใส่โทโมะที่นั่งหน้าเหลออยู่ข้างๆ
“เค้าไม่รู้นะ ผู้กำกับเค้าบอกเอง เค้าไม่ผิดนะ แก้วหึงเค้าหรอ ฮิฮิ”โทโมะขำเบาๆอย่างน่ารักแล้วส่งสายตาหวานใส่แก้ว นายทำชั้นละลายอีกแล้วนะ มันน่าดึงไปเข้าห้องซะจริงๆเล้ย =//= แก้วนึกขึ้น
“ก็ถ้าชั้นไปจูบกับผู้ชายอื่นนายจะหึงไหมหละ”แก้วมองสายตาเคืองๆ
“หึงสิ แฟนเค้านะ”โทโมะเอ่ย
“เอ....ว่าแต่ นายเคยขอชั้นเป็นแฟนเมื่อไหร่หรอ”แก้วเอียงคอถาม
“งั้น...ขอเลยละกัน เป็นแฟนกับเค้านะ ok ตกลง”โทโมะพูดเองสรุปเองก่อนจะรวบตัวแก้วแล้วเดินปึ่งปั่งเข้าห้องนอนไป
“นี่ จะบ้าหรือไง พูดเองเออเองสรุปเองและจะทำอะไรชั้น ปล่อยน้าไอหมาบ้า”แก้วเขย่าขาตัวเองไปมาอย่างบ้าคลั่ง
“จุ๊บ”โทโมะวางแก้วลงบนเตียงแล้วเอาเท้าไปตวัดประตูให้ปิดก่อนจะเดินมาขโมยจุ๊บปากแก้วเร็วๆหนึ่งที
“นี่ จูบจนปากชั้นจะช้ำแล้วนะ”แก้วพูดเชิงแง่งอน
“ก็แน่อยู่แล้ว”โทโมะพูดแล้วก้มลงสโมคปากแก้วเต็มสูบ เสียงครวญจากลำคอของแก้วดังขึ้นเป็นระยะๆพอหวานหู มือซนๆของหนุ่มแสนชำนาญและช่ำชองควานหาสิ่งซ่อนเร้นในร่างกายแก้วไปจนทั่ว กระดุมเม็ดแรกถูกแกะออกอย่างช้าๆจนถึงเม็ดสุดท้ายและสิ้นสุดลงที่กระโปรง ปากต่อปาก ตัวต่อตัว สองต่อสอง เรือนร่างเชื้อเชิญมนุษย์หมาบ้าในตัวโทโมะพลุกพล่านไปทั่วจนเลือดสูบฉีดปู๊ดๆ
“รักจังเลย”โทโมะพูดเมื่อถอนจูบออกเลื่อนมาซุกไซ้ลำคอขาวของแก้วจนแก้วหน้าแดงก่ำ ร้อนก็ไม่ใช่ ออกจะเย็นช่ำจากแอร์แสนสบาย หน้าแดงๆหันไปมาอย่างเคลิบเคลิ้มโทโมะคว้าผ้าห่มมาปิดกายทั้งสองกาย สิ้นสุดเสียงพูดก็ไม่มีใครพูดต่อ มีแต่เสียงครางยามค่ำคืนที่แสนจะมีความสุข
เช้าวันใหม่
ณ บ้านตี๋
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!”เสียงกรี๊ดบ้านแตกดังสนั่นราวกับเอารถยกมาตอกเสาเข็มเต็มที่จนชายร่างสูงที่เปลือยกายอยู่ข้างๆลืมตาขึ้น
“นี่ ยัยต้นไทรจะกรี๊ดหาแป้เธอหรอ”อีบ้า>.< ต้นอ้อหันมองร่างข้างๆที่ลุกขึ้นนั่งบนเตียงช้าๆก่อนจะหันมองรอบห้องเห็นขวดเบียร์กระป๋องเบียร์จานขนมและ.....กรี๊ดดดดดดดดดดด เสื้อผ้าของคนทั้งคู่กระจายไปทั่วห้อง ห้องที่แสนกว้างแสนสะอาดกับรกคล้ายรังแมว (หนู) เสื้อผ้าปิดพื้น หัวเตียงมีขวดเบียร์ ไวน์ เหล้า (โอ้ ครบ) สิ่งสุดท้ายที่จะพิสูทธิ์ได้ว่าสิ่งที่ชั้นคิดเป็นความจริงคือร่างใต้ผ้าห่ม ต้นอ้อนึกและไม่รอช้าที่จะเปิดผ้ามองดูร่างกายตัวเอง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! ไอ้ตี่ตี๋ผู้ชายเฮงซวย อร้ายยยยยยยยยยยยย!!”เสียงสนั่นลั่นฮอลล์จนหูตี๋แทบระเปิด ขี้หูพากันบรรเลงเพลงมาร์ชกันอย่างสนุกสนานเต็มที่
“ยัยบ้า ชั้นรำคาญ มาตีชั้นทำไม เฮ้ย โอ้ยยย ชั้นจะกะอักเลือดแล้วนะ”ตี๋จับข้อมือของต้นอ้อไว้แน่น ต้นอ้อที่กำลังทุบหน้าอกแผ่นหนาและแข็งแกร่งของตี๋อยู่ก็ต้องหยุดมือลง
“ลามก นายปล้ำชั้น นายมันคนฉวยโอกาส นายทำชั้นทำไม ชั้นไปทำอะไรให้นาย ฮึๆๆๆ”ต้นอ้อเขย่าแขนตัวเองอย่างแรงจนผ้าที่คลุมกายหลุดออกเผยผิวเนียนใส ว้าวววววว ยัยนี่ทำไมถึงได้ ขาว....ว่อกเป็นเด็กแบบนี้หละ เอ๋...ไม่เล็กเลยนะ (ไอโรคจิต) เออยอมรับ ตี๋นึกแล้วตาค้างน้ำลายสอ
“กรี๊ดดดดดดดด น่าอายที่สุด!!”ต้นอ้อลากผ้าขึ้นมาอย่างไวเพื่อคลุมร่างส่วนบนไว้แน่นหนาแล้วซักถาม จนตี๋นึกออก
“เมื่อคืนเธอร้องไห้ และเธอเดินไปซดไวน์ดำในตู้เย็นชั้น1ขวด ชั้นเข้าไปห้ามแล้วเธอก็ไม่หยุดแถมหยิบทั้งเบียร์ทั้งเหล้าทั้งไวน์เดินไปกินที่เตียงชั้นอย่างสบายใจชั้นเลยหากับแก้มมาให้ด้วยความหวังดี (หวังจะแอ้ม) และก็กินกับเธอบ้างอ่ะนะแล้วเธอก็เมาก่อนชั้น ชั้นเลยจับเธอปล้ำเลย โอ้ยๆๆๆๆๆ”ตี๋ร้องขึ้นเมื่อถูกมือพิฆาตแระแทกเข้าเต็มกระโหลก
“ล้อเล่น เธอน่าปล้ำตายหละ ชั้นก็จำไม่ได้เหมือนกัน ถ้าจำได้ชั้นคงจะได้กำไรอยู่นะ ออกจะขาวซะ”ตี๋แกล้งทำสายตาเจ้าเล่ห์และสำรวจเรือนร่างของต้นอ้อจนขนลุกชัน
“ไอ้โรคจิต ชั้นจะฆ่านาย ไอ้โรคจิตๆๆๆ กรี๊ดดดดดดดด นายมอมเหล้าชั้น”
“ชั้นปล่าวววววว เธอนั่นแหละมอมชั้น ถ้าเธอไม่เริ่มชั้นคงไม่ตามและคงไม่เกิดอะไรแบบนี้”ตี๋รีบพูดก่อนจะถูกกระทำชำเรา
“ฮือๆๆๆ ลืมมันไปซะ ชั้นจะกลับบ้าน บ้านเท่านั้น ชั้นเสียเวอร์จิ้นไปแล้ว ฮือๆๆๆ ไม่ๆๆๆ ฮือ...อุสส่ารักษามาทั้งชีวิตเพื่อนจะเก็บมันไว้ให้กับคู่ครองที่แท้จริงแต่กลับต้องมาตกม้าตายเพราะไอ้บ้า ฮือ....เวอร์จิ้นจ๋าชั้นลาก่อน แงๆๆๆๆ”น้ำตาค่อยๆไหลเยิ้มจากเบ้าตาของต้นอ้อ ต้นอ้อพยายามจะลุกออกจากที่นอนแต่พอก้าวเท้าไปย่ำพื้น ฮวบ ร่างบางล้มลงกองกับพื้นผ้าหงผ้าห่มกระจุยกระจายอยู่บนกองขวดเบียร์ เกร๊ง แข็ก ก๊อง เสียงขวด กระป๋อง จาน กระทบกระทั่งกันเป็นทอดๆจนคนด้านล่างชักมึนหัว แต่ต่างจากคนด้านบนโดยสิ้นเชิง ขาวอีกแล้วอีกนิดเดียวจะเห็นช่วงล่างแล้ว เปิดสิจ๊ะ ขาวจั๊ว ยั่วยวนให้พุ่งใส่ชะมัด ได้ยัยนี่ทำไมไม่มีสติเลยว่ะ เสียดายของชะมัด ขาวราวสำลี ถ้าเป็นผู้หญิงชั้นคงจะกรี๊ดร้อยตลบ ตี๋นึกแล้วทำตาโต
“โอ๊ย เจ็บ T^T”โอ๋ น่าสงสารชะมัด มามะมาจุ๊บที ตี๋นึกในใจก่อนจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษสุดสมาทเอาผ้าคลุมกายของต้นอ้อแล้วประคองยืน
“กรี๊ดดดดดดดดดด ไอบ้าๆๆๆ กรี๊ดดดดดดดด!!”ต้นอ้อกรี๊ดลั่นเมื่อ....เอ่อ.... (ตี๋ไม่ได้ใส่กางเกงแม้แต่ตัวเดียว) ช่างกล้า ต้นอ้อชี้นิ้วไปที่ช่วงล่างของตี๋แล้วหลับตาปี๋ ตี๋รู้ตัวก็รีบเอาผ้าเช็ดตัวมาพันปิด ฮวบ ร่างที่ไร้การประคองร่วงสู้พื้นอีกครั้ง ตี๋ช่วยได้เต็มที่เลยประคองยืนอีกครั้ง
“เจ็บตรงไหนของเธอนักหนา”ตี๋ถามขึ้น
“ฮือๆๆๆ ตรง......ไม่เอาไม่บอก ฮือๆๆ”น้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆ ตี๋รวบตัวต้นอ้อขึ้นอุ้มแล้วมุ่งตรงไปยังห้องน้ำ
“เดี๋ยวอาบน้ำแล้วก็หายเองแหละ เสียดายจังที่ไม่รู้ตัว ฮึ...พึ่งรู้นะว่าเนื้อชั้นดีอยู่ตรงหน้า”ตี๋ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์มีเลศนัย
“ไอบ้า ไอ้....อื้อ..ๆๆๆๆ OxO”ยังไม่ทันพูดจบตี๋ก็เลื่อนหน้าลงไปจูบสาวในอ้อมอกอย่างเบาๆแล้วเอาไปวางในอ่างอาบน้ำก่อนจะค่อยๆแกะผ้าออกจากร่างกายสาวน้อย สาวน้อยเริ่มอาการขัดขืนอย่างเห็นได้ชัด
“อื้อๆๆๆๆๆ.......ฮึกๆ”ตี๋ถึงกับชะงักเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นฟึดฟัดเบาๆของต้นอ้อ ตี๋ถอนจูบอย่างแผ่วเบาทั้งที่ใจยังไม่อยากจะถอนมันออกเลย
“…”ความเงียบบังเกิดขึ้นเมื่อคนทั้งคู่มองตากันอยู่นาน
“....”เงียบ แล้วก็เงียบ สายตาของทั้งคู่จากเคียดแค้น กลายเป็นอ่อนโยน กลายเป็นต้องการ กลายเป็นปราถนาและเปลี่ยนกลายมาเป็นความโหยหาในที่สุด ดวงตาเปลี่ยนไปมาในไม่กี่นาที ร่างของต้นอ้อนอนนิ่งอยู่ในอ่างอาบน้ำมีตี๋นั่งชันเข่าอยู่ข้างๆทั้งสองมือจับไหล่ต้นอ้อไว้มั่น หน้าทั้งสองคนอยู่ห่างกันไม่มาก เรียวปากสวยเป็นกระจับสีชมพูอ่อนดูสุขภาพดีค่อยๆเลื่อนเข้าหากันที่ละนิดๆจนชิดกันในที่สุด ดวงตาทั้งคู่หลับพริ้มปากนุ่มๆกระทบกันสนิทเรียวลิ้นที่ชุ่มด้วยน้ำลายลอดผ่านเข้าปากของต้นอ้อไปอยู่ในโพรงปากนั้นอย่างเอาแต่ใจ ลิ้นน้อยๆวนเวียนไปทั่วโพรงปากเกี่ยวกระหวัดลากฟันบนจรดฟันล่างไปยันโพรงปาก ลิ้นทั้งคู่วางทาบกันแล้วดึงดูดกันจ๊วบๆ นานเนิ่นนานแสนนานเอ่อ.....จนนานมาก
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
โอ้ววววว เอนซีๆๆ โรแมนติก คอมมันดี้ >< แต่งเองเขินเอง
ชักจะอิจฉาริษายานางเอกสองคนนี้แล้วสิ 555+
แก้วกับต้นอ้อใครน่าอิจฉากว่ากันนะ ออกความคิดเห็นที !! muah!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ