valued friend เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรักกัน
9.5
เขียนโดย Milkcake
วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.25 น.
10 ตอน
106 วิจารณ์
20.15K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 21.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
5) หินแห่งความทรงจำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความมาแล้วค่า~ ตอนที่ 5 จากที่บอกไปว่าตอนนี้เป็นของ TK หรือ นาริคและทิวลิปน้อยนั่นเอง และไรเตอร์ก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ไรเตอร์จะ"พยามยาม" แต่งให้จบค่ะ สู้ๆจากที่ตอนที่แล้วค้างๆ งั้นก็มาต่อกันเลย
“ที่นี่ที่ไหนเนี่ยทำไมมันสว่างอย่างนี้” ฉันเอามือมาป้องหน้าไว้แสงมันสว่างมากสว่างจนจะมองไม่เห็น
“นั้นใครค่ะ ใคร ใครค่ะ” ฉันวิ่งตามเงาของใครบางคนไป แสงสว่างค่อยๆเลือนหายไปเผยให้เห็นนํ้าทะเลสีฟ้าครามท้องฟ้าสีสดใส
“พ่อคะพ่อคะนั้นนํ้าทะเล ทิวอยากเล่นนํ้าทะเล ^^” มีเสียงของเด็กหญิงตัวเล็กๆลอยเข้ามา ฉันเลยละสายตาจากวิวทิวทัศน์ไปมองต้นเสียงนั้น
“พ่อ .. ” สิ่งที่ฉันเห็นคือพ่อของฉันและฉันในตอนเด็ก นี่มันอะไรกันทำไมฉันถึง ฉันงงไปหมดแล้วหรือว่านี่คือความฝัน
“หนูอยากเล่นนํ้าทะเล อยากเล่นๆๆๆๆ ” ฉันมองดูการสนทนาของฉันกับพ่อในตอนเด็ก
“เดี๋ยวนะทิว ให้พ่อกับแม่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยก่อนเดี๋ยวพ่อจะพาไป”
“แต่หนูอยากเล่นตอนนี้”
“เฮ้อ . ลูกคนนี้หนิ อย่าพึ่งไปเล่นคนเดียวนะหนูยังว่ายนํ้าไม่แข็งเลย” พ่อยังพูดไม่ทันจบฉันก็เห็นตัวของฉันวิ่งไปแล้ว
“คุณคะแล้วทิวล่ะคะ” มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นหรือว่าจะเป็นแม่
“อ้าวเมื่อกี้ยังคุยกับผมอยู่เลย ผมแค่หันไปยกของแปปเดี๋ยวเองสงสัยคงไปวิ่งซนแถวนี้มั้ง”
“เด็กคนนั้นกำลังจะจมนํ้า ช่วยด้วยๆ ” เสียงของนักท่องเที่ยวฝรั่งดังขึ้น
ตุบ เสียงกระเป๋าตกลงจากมือของพ่อ ท่านรีบวิ่งไปกลางทะเลและว่ายนํ้าไปหาฉัน และเสียงของแม่ที่ตะโกนเรียกตามพ่อเป็นทอดๆ ฉันมองดูเหตุการณ์ทั้งนํ้าตาตอนที่พ่อฉันช่วยฉันขึ้นมาได้ท่านหน้าตาซีดเซียวมากจนต้องมาคนไปช่วยอุ้มฉันและพยุงพ่อขึ้นมาพ่อเขย่าตัวฉันออกมาทั้งนํ้าตาแม่ฉันก็ร้องไห้ออกมา อยู่ดีๆพ่อก็หมดสติไปสถานการณ์ตอนนี้โกลาหลมาก ในใจของฉันมันกระวนกระวายไปหมดนํ้าใสๆก็ยิ่งเอ่อล้นออกมาจากดวงตา
“ทิว ทิว ทิวตื่นสิ” เสียงใครน่ะมันดังก้องอยู่ในหู เสียงนาริคหนิทำไม
“ทิวลิป” มีเสียงอีกเสียงหนึ่งเรียกฉันจากข้างหลังนี่ไม่ใช่เสียงของนาริคแน่นอน ฉันจำเสียงนี้ได้
“พ่อ .. ทำไม” ฉันร้องไห้ออกมาทั้งความงงแล้ววิ่งเข้าไปสวมกอดพ่อ ฉันคิดถึงออมกอดอบอุ่นนี้จัง
“ทิว ลูกยังคิดโทษตัวเองอีกหรอ ที่พ่อจากไปมันไม่ใช่ความผิดลูกเลยนะ” พ่อพูดทั้งโอบกอดฉัน
“พ่อไม่ต้องโกหกหนูหรอก หนูรู้ดี”
“ลูกยังไม่รู้ แต่จำไว้นะลูก ลูกไม่ผิด พ่อรักลูกมากนะ”
“หนูก็รักพ่อค่ะ”
“นาริคเค้าเป็นคนดีมากนะพ่อเชื่อว่าเค้าจะปกป้องและดูแลลูกแทนพ่อได้”
“..........”
“อย่าโกรธแม่เค้านะลูกที่แม่ทำไปเพราะอยากให้ลูกมีคนค่อยดูแล แม่เค้ารักลูกมากนะ พ่ออยากให้ลูกลองเปิดใจ”
“ทิวลิปลูก ลูกตื่นสิ ” นี่มันเสียงแม่นี่นา
“ตอนนี้ทุกคนกำลังเป็นหวงลูกอยู่นะ พ่อคงต้องไปแล้วล่ะ ฝากบอกแม่ด้วยนะว่าพ่อรักแม่ พ่อรักลูกนะ” ร่างของพ่อค่อยๆเลือนหายไปกับแสงจนริบสายตาฉัน
“พ่อคะ พ่อคะ อย่าพึ่งไป ฮือๆๆ พ่อ”
ฉันสะดุ้งขึ้นมาก็พบแม่ที่ยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้า และนาริคกำลังกอดฉันอยู่
“ทิวเธอไม่เป็นไรใช่มั๊ย” เสียงนาริคเอ่ยขึ้นสีหน้าและนํ้าเสียงเค้าดูเป็นห่วงฉันมาก
“ทิวลูกแม่เคาะห้องตั้งนานลูกก็ไม่ตอบแล้วอยู่ดีๆลูกก็ร้องไห้ ลูกไม่ตอบแม่เลยจนแม่ต้องโทรตามริคมาดูลูกพอเขามาในห้องปลุกแค่ไหนลูกก็ไม่ตื่น ลูกรู้มั๊ยแม่เป็นห่วงแค่ไหนแม่กลัวว่าหนูจะจากแม่ไป ฮือๆ แม่เหลือลูกอยู่คนเดียวนะ ” แม่ฉันพูดออกมาทั้งนํ้าตา ฉันเลยเข้าสวมกอดแม่
“หนูขอโทษนะคะแม่ หนูขอโทษ ฮือๆ”
“โถลูก .. ลูกไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั๊ย” เราคลายอ้อมกอดออกจากกัน แม่ลูกผมฉันอย่างอ่อนโยน
“ค่ะหนูไม่เป็นอะไรแล้ว แม่คะแม่รู้มั๊ยพ่อมาหาหนูด้วยค่ะ”ฉันพูดแล้วยิ้มออกมาบางๆ
“จริงหรอลูก” แม่ฉันก็ยิ้มตอบ
“ค่ะ ^^ พ่อบอกว่าพ่อรักแม่นะคะ”
“จ๊ะ ^^ แม่ก็รักพ่อของลูกเสมอ งั้นแม่ไม่กวนแล้วนะหนูพักผ่อนนะแล้วอย่าทำให้แม่เป็นห่วงอีก กู๊ดไนท์จ๊ะ แม่รักลูกมากนะ” แม่จุ๊หน้าผากฉัน
“ทิวก็รักแม่ค่ะ ^^” ฉันจุ๊บกู๊ดไนท์แม่ก่อนท่านจะเดินออกไปจนลับสายตา
“นายไม่กลับหรอ” ฉันหันไปข้างเตียงก็พบนาริคที่นั่งแข็งถื่อมองฉันอยู่
“ถ้าฉันกลับ เดี๋ยวคนแถวนี้ก็ทำให้เป็นห่วงอีก” เค้ามองมาทางฉัน สายตาเค้าดูอบอุ่นจัง
“ฉันไม่เป็นไรแล้วหรอกหน่า”
หมับ พรึบ อยู่ดีๆเค้าก็ดึงฉันไปกอดเฉยเลย
“นะ .. นาริค”
“เธอทำไมถึงทำให้คนอื่นเค้าเป็นห่วงอย่างนี้ เธอรู้มั๊ยว่าฉันแทบบ้า .... ทิวลิปเธอนี่มัน” นาริคกำชับกอดให้แน่นขึ้น ความห่วงใยของเค้าได้ส่งตรงมายังตัวฉันจากอ้อมกอดอบอุ่นของเค้า ทุกครั้งที่เค้ากอดฉันฉันจะนึกถึงอ้อมกอดของใครคนนึงที่ฉันรอคอยเค้ามาตลอดความอบอุ่นที่ส่งผ่านมามันเหมือนกับเป็นคนคนเดียวกัน ถึงแม้จะไม่ใช่คนคนเดียวกันแต่ .. อ้อมกอดนี้ฉันไม่อยากให้ใครได้ครอบครองเลย...ยกเว้นฉันคนเดียว นี่ฉันจะเห็นแกตัวไปรึป่าว
“เธอนอนได้แล้วล่ะนี่มันก็ตี 2 แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ตาบวมไม่รู้ด้วยนะ” เค้าคลายอ้อมกอดแล้วมายิกแก้มฉันเบาๆ
“แล้วนายไม่กลับบ้านหรอ”
“นี่เธออยากให้ฉันกลับบ้านมากเลยหรอ”
“ก็ .. แค่ถามเฉยๆน่ะแล้วมันก็ค่ำมากแล้วด้วย”
“เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะ แต่ยัยตัวแสบที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ยอมนอนซักทีเนี้ยสิ ”
“โอเคๆๆ นอนแล้วๆๆ” ฉันเอาตัวมุดเข้าไปในผ้าห่ม จัดหมอนแล้วนอนลง
“งั้นฉันไปล่ะ”
หมับ
“มีอะไรหรอ” นาริคหันมาถามฉัน เพราะมือของฉันได้คว้ามือเค้าไว้
“เอ่อ .. . คือ ว่า”
“ว่าอะไร อ๋อ รึว่าจะให้ฉันจูบกู๊ดไนท์ล่ะ ^^” เค้ายืนหน้าเจ้าเล่ห์ๆมาพูดระยะใกล้
“จะบ้าหรอ เอาหน้าออกไปเลย >///<” ฉันดันหน้าเค้าออกไป
“แล้วอะไรล่ะ” เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก เป็นไรเนี่ย
“เอ่อ .. นายช่วยอยู่เป็นเพื่อนฉันจนกว่าฉันจะหลับได้มั๊ย” ฉันพูดสิ่งที่ไม่คิดว่าจะพูดออกไป ตอนนี้ฉันยังสับสนอะไรๆหลายๆอย่างยังคงเรียบเรียงไม่ได้ แต่อยากขอเพียงให้มีคนมาอยู่ข้างและคนๆนั้นฉันอยากให้เป็นเค้า .. นาริค
“ฮ่าๆๆ แค่นี้เองหรอ”
“อย่ามาขำนะ -*- ”
“โอเคไม่ขำก็ได้นอนได้แล้ว”
“เดี๋ยวสิ” ฉันเอื้อมมือไปหยิบกล่องเล็กลายน่ารักๆที่อยู่โต๊ะข้างเตียง เปิดออกแล้วหยิบวัตถุที่มีขนาดเล็กขึ้นมา มันคือหินที่สวยมากมันเป็นสีใสเลืองแสงเป็นสีขาวในตอนกลางคืน ใสจนมองทะลุได้ รูปร่างของมันเป็นเสี้ยวครึ่งหนึ่งของรูปหัวใจ เหมือนมันเป็นหินคู่อีกครึ่งหนึ่งอยู่กับฉัน แล้วอีกครึ่งหนึ่งอยู่กับเค้า เด็กผู้ชายคนนั้น คนที่เป็นคนมอบอ้อมกอดอบอุ่มให้ฉันแม้เราจะไม่รู้จักกันก็ตาม
“เธอยังเก็บมันไว้อยู่หรอ” เสียงของนาริคถามขึ้น
“หินนี้นะหรอ ทำไมล่ะ ทำไมฉันจะเก็บไว้ไม่ได้”
“เปล่าหรอก”
“มีคนให้ฉันมาน่ะ ฉันไม่รู้จักหรอกเค้าบอกว่ามันเป็นหินนำโชคถ้าใสไว้ใต้หมอนจะทำให้นอนหลับฝันดี มันสวยใช่มั๊ยล่ะ ^^” ฉันพูดแล้วยิ้มมองหิน
“ฉันนอนดีกว่า” ฉันสอดหินไว้ใต้หมอนแล้วเอนตัวลงนอน
Naric Talk~
ผมนั่งมองเธอหลับอยู่นานแล้วล่ะ ผมควรจะกลับแต่ผมไม่อยากกลับ ผมอยากนั่งมองเธออยู่อย่างนี้ ก่อนที่ผมจะมาบ้านทิวลิปผมฝันถึงคุณลุงพ่อของทิวลิปท่านบอกว่าฝากทิวลิปด้วยผมก็รับปากท่าน ท่านยิ้มออกมาสีหน้าของคุณลุงดีมากไม่เหมือนคนป่วยเลยแต่ท่านก็ได้จากโลกนี้ไปแล้ว และเมื่อผมได้รับโทรศัพท์จากคุณน้าว่าทิวลิปว่าเกิดเรื่องกับทิวลิปผมคิดได้เพียงอย่างเดียวคือต้องไปหาเธอ ผมพึ่งจะสัญญากับคุณลุงเอง แต่ตอนนี้เธอไม่เป็นอะไรแล้วผมดีใจมาก
“กู๊ดไนท์นะ” ผมก้มลงไปจูบหน้าฝากเธออย่างอ่อนโยน
หินนั้นเธอยังเก็บไว้ หินแห่งความทรงจำของเราสองคน ..
“ที่นี่ที่ไหนเนี่ยทำไมมันสว่างอย่างนี้” ฉันเอามือมาป้องหน้าไว้แสงมันสว่างมากสว่างจนจะมองไม่เห็น
“นั้นใครค่ะ ใคร ใครค่ะ” ฉันวิ่งตามเงาของใครบางคนไป แสงสว่างค่อยๆเลือนหายไปเผยให้เห็นนํ้าทะเลสีฟ้าครามท้องฟ้าสีสดใส
“พ่อคะพ่อคะนั้นนํ้าทะเล ทิวอยากเล่นนํ้าทะเล ^^” มีเสียงของเด็กหญิงตัวเล็กๆลอยเข้ามา ฉันเลยละสายตาจากวิวทิวทัศน์ไปมองต้นเสียงนั้น
“พ่อ .. ” สิ่งที่ฉันเห็นคือพ่อของฉันและฉันในตอนเด็ก นี่มันอะไรกันทำไมฉันถึง ฉันงงไปหมดแล้วหรือว่านี่คือความฝัน
“หนูอยากเล่นนํ้าทะเล อยากเล่นๆๆๆๆ ” ฉันมองดูการสนทนาของฉันกับพ่อในตอนเด็ก
“เดี๋ยวนะทิว ให้พ่อกับแม่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยก่อนเดี๋ยวพ่อจะพาไป”
“แต่หนูอยากเล่นตอนนี้”
“เฮ้อ . ลูกคนนี้หนิ อย่าพึ่งไปเล่นคนเดียวนะหนูยังว่ายนํ้าไม่แข็งเลย” พ่อยังพูดไม่ทันจบฉันก็เห็นตัวของฉันวิ่งไปแล้ว
“คุณคะแล้วทิวล่ะคะ” มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นหรือว่าจะเป็นแม่
“อ้าวเมื่อกี้ยังคุยกับผมอยู่เลย ผมแค่หันไปยกของแปปเดี๋ยวเองสงสัยคงไปวิ่งซนแถวนี้มั้ง”
“เด็กคนนั้นกำลังจะจมนํ้า ช่วยด้วยๆ ” เสียงของนักท่องเที่ยวฝรั่งดังขึ้น
ตุบ เสียงกระเป๋าตกลงจากมือของพ่อ ท่านรีบวิ่งไปกลางทะเลและว่ายนํ้าไปหาฉัน และเสียงของแม่ที่ตะโกนเรียกตามพ่อเป็นทอดๆ ฉันมองดูเหตุการณ์ทั้งนํ้าตาตอนที่พ่อฉันช่วยฉันขึ้นมาได้ท่านหน้าตาซีดเซียวมากจนต้องมาคนไปช่วยอุ้มฉันและพยุงพ่อขึ้นมาพ่อเขย่าตัวฉันออกมาทั้งนํ้าตาแม่ฉันก็ร้องไห้ออกมา อยู่ดีๆพ่อก็หมดสติไปสถานการณ์ตอนนี้โกลาหลมาก ในใจของฉันมันกระวนกระวายไปหมดนํ้าใสๆก็ยิ่งเอ่อล้นออกมาจากดวงตา
“ทิว ทิว ทิวตื่นสิ” เสียงใครน่ะมันดังก้องอยู่ในหู เสียงนาริคหนิทำไม
“ทิวลิป” มีเสียงอีกเสียงหนึ่งเรียกฉันจากข้างหลังนี่ไม่ใช่เสียงของนาริคแน่นอน ฉันจำเสียงนี้ได้
“พ่อ .. ทำไม” ฉันร้องไห้ออกมาทั้งความงงแล้ววิ่งเข้าไปสวมกอดพ่อ ฉันคิดถึงออมกอดอบอุ่นนี้จัง
“ทิว ลูกยังคิดโทษตัวเองอีกหรอ ที่พ่อจากไปมันไม่ใช่ความผิดลูกเลยนะ” พ่อพูดทั้งโอบกอดฉัน
“พ่อไม่ต้องโกหกหนูหรอก หนูรู้ดี”
“ลูกยังไม่รู้ แต่จำไว้นะลูก ลูกไม่ผิด พ่อรักลูกมากนะ”
“หนูก็รักพ่อค่ะ”
“นาริคเค้าเป็นคนดีมากนะพ่อเชื่อว่าเค้าจะปกป้องและดูแลลูกแทนพ่อได้”
“..........”
“อย่าโกรธแม่เค้านะลูกที่แม่ทำไปเพราะอยากให้ลูกมีคนค่อยดูแล แม่เค้ารักลูกมากนะ พ่ออยากให้ลูกลองเปิดใจ”
“ทิวลิปลูก ลูกตื่นสิ ” นี่มันเสียงแม่นี่นา
“ตอนนี้ทุกคนกำลังเป็นหวงลูกอยู่นะ พ่อคงต้องไปแล้วล่ะ ฝากบอกแม่ด้วยนะว่าพ่อรักแม่ พ่อรักลูกนะ” ร่างของพ่อค่อยๆเลือนหายไปกับแสงจนริบสายตาฉัน
“พ่อคะ พ่อคะ อย่าพึ่งไป ฮือๆๆ พ่อ”
ฉันสะดุ้งขึ้นมาก็พบแม่ที่ยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้า และนาริคกำลังกอดฉันอยู่
“ทิวเธอไม่เป็นไรใช่มั๊ย” เสียงนาริคเอ่ยขึ้นสีหน้าและนํ้าเสียงเค้าดูเป็นห่วงฉันมาก
“ทิวลูกแม่เคาะห้องตั้งนานลูกก็ไม่ตอบแล้วอยู่ดีๆลูกก็ร้องไห้ ลูกไม่ตอบแม่เลยจนแม่ต้องโทรตามริคมาดูลูกพอเขามาในห้องปลุกแค่ไหนลูกก็ไม่ตื่น ลูกรู้มั๊ยแม่เป็นห่วงแค่ไหนแม่กลัวว่าหนูจะจากแม่ไป ฮือๆ แม่เหลือลูกอยู่คนเดียวนะ ” แม่ฉันพูดออกมาทั้งนํ้าตา ฉันเลยเข้าสวมกอดแม่
“หนูขอโทษนะคะแม่ หนูขอโทษ ฮือๆ”
“โถลูก .. ลูกไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั๊ย” เราคลายอ้อมกอดออกจากกัน แม่ลูกผมฉันอย่างอ่อนโยน
“ค่ะหนูไม่เป็นอะไรแล้ว แม่คะแม่รู้มั๊ยพ่อมาหาหนูด้วยค่ะ”ฉันพูดแล้วยิ้มออกมาบางๆ
“จริงหรอลูก” แม่ฉันก็ยิ้มตอบ
“ค่ะ ^^ พ่อบอกว่าพ่อรักแม่นะคะ”
“จ๊ะ ^^ แม่ก็รักพ่อของลูกเสมอ งั้นแม่ไม่กวนแล้วนะหนูพักผ่อนนะแล้วอย่าทำให้แม่เป็นห่วงอีก กู๊ดไนท์จ๊ะ แม่รักลูกมากนะ” แม่จุ๊หน้าผากฉัน
“ทิวก็รักแม่ค่ะ ^^” ฉันจุ๊บกู๊ดไนท์แม่ก่อนท่านจะเดินออกไปจนลับสายตา
“นายไม่กลับหรอ” ฉันหันไปข้างเตียงก็พบนาริคที่นั่งแข็งถื่อมองฉันอยู่
“ถ้าฉันกลับ เดี๋ยวคนแถวนี้ก็ทำให้เป็นห่วงอีก” เค้ามองมาทางฉัน สายตาเค้าดูอบอุ่นจัง
“ฉันไม่เป็นไรแล้วหรอกหน่า”
หมับ พรึบ อยู่ดีๆเค้าก็ดึงฉันไปกอดเฉยเลย
“นะ .. นาริค”
“เธอทำไมถึงทำให้คนอื่นเค้าเป็นห่วงอย่างนี้ เธอรู้มั๊ยว่าฉันแทบบ้า .... ทิวลิปเธอนี่มัน” นาริคกำชับกอดให้แน่นขึ้น ความห่วงใยของเค้าได้ส่งตรงมายังตัวฉันจากอ้อมกอดอบอุ่นของเค้า ทุกครั้งที่เค้ากอดฉันฉันจะนึกถึงอ้อมกอดของใครคนนึงที่ฉันรอคอยเค้ามาตลอดความอบอุ่นที่ส่งผ่านมามันเหมือนกับเป็นคนคนเดียวกัน ถึงแม้จะไม่ใช่คนคนเดียวกันแต่ .. อ้อมกอดนี้ฉันไม่อยากให้ใครได้ครอบครองเลย...ยกเว้นฉันคนเดียว นี่ฉันจะเห็นแกตัวไปรึป่าว
“เธอนอนได้แล้วล่ะนี่มันก็ตี 2 แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ตาบวมไม่รู้ด้วยนะ” เค้าคลายอ้อมกอดแล้วมายิกแก้มฉันเบาๆ
“แล้วนายไม่กลับบ้านหรอ”
“นี่เธออยากให้ฉันกลับบ้านมากเลยหรอ”
“ก็ .. แค่ถามเฉยๆน่ะแล้วมันก็ค่ำมากแล้วด้วย”
“เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะ แต่ยัยตัวแสบที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ยอมนอนซักทีเนี้ยสิ ”
“โอเคๆๆ นอนแล้วๆๆ” ฉันเอาตัวมุดเข้าไปในผ้าห่ม จัดหมอนแล้วนอนลง
“งั้นฉันไปล่ะ”
หมับ
“มีอะไรหรอ” นาริคหันมาถามฉัน เพราะมือของฉันได้คว้ามือเค้าไว้
“เอ่อ .. . คือ ว่า”
“ว่าอะไร อ๋อ รึว่าจะให้ฉันจูบกู๊ดไนท์ล่ะ ^^” เค้ายืนหน้าเจ้าเล่ห์ๆมาพูดระยะใกล้
“จะบ้าหรอ เอาหน้าออกไปเลย >///<” ฉันดันหน้าเค้าออกไป
“แล้วอะไรล่ะ” เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก เป็นไรเนี่ย
“เอ่อ .. นายช่วยอยู่เป็นเพื่อนฉันจนกว่าฉันจะหลับได้มั๊ย” ฉันพูดสิ่งที่ไม่คิดว่าจะพูดออกไป ตอนนี้ฉันยังสับสนอะไรๆหลายๆอย่างยังคงเรียบเรียงไม่ได้ แต่อยากขอเพียงให้มีคนมาอยู่ข้างและคนๆนั้นฉันอยากให้เป็นเค้า .. นาริค
“ฮ่าๆๆ แค่นี้เองหรอ”
“อย่ามาขำนะ -*- ”
“โอเคไม่ขำก็ได้นอนได้แล้ว”
“เดี๋ยวสิ” ฉันเอื้อมมือไปหยิบกล่องเล็กลายน่ารักๆที่อยู่โต๊ะข้างเตียง เปิดออกแล้วหยิบวัตถุที่มีขนาดเล็กขึ้นมา มันคือหินที่สวยมากมันเป็นสีใสเลืองแสงเป็นสีขาวในตอนกลางคืน ใสจนมองทะลุได้ รูปร่างของมันเป็นเสี้ยวครึ่งหนึ่งของรูปหัวใจ เหมือนมันเป็นหินคู่อีกครึ่งหนึ่งอยู่กับฉัน แล้วอีกครึ่งหนึ่งอยู่กับเค้า เด็กผู้ชายคนนั้น คนที่เป็นคนมอบอ้อมกอดอบอุ่มให้ฉันแม้เราจะไม่รู้จักกันก็ตาม
“เธอยังเก็บมันไว้อยู่หรอ” เสียงของนาริคถามขึ้น
“หินนี้นะหรอ ทำไมล่ะ ทำไมฉันจะเก็บไว้ไม่ได้”
“เปล่าหรอก”
“มีคนให้ฉันมาน่ะ ฉันไม่รู้จักหรอกเค้าบอกว่ามันเป็นหินนำโชคถ้าใสไว้ใต้หมอนจะทำให้นอนหลับฝันดี มันสวยใช่มั๊ยล่ะ ^^” ฉันพูดแล้วยิ้มมองหิน
“ฉันนอนดีกว่า” ฉันสอดหินไว้ใต้หมอนแล้วเอนตัวลงนอน
Naric Talk~
ผมนั่งมองเธอหลับอยู่นานแล้วล่ะ ผมควรจะกลับแต่ผมไม่อยากกลับ ผมอยากนั่งมองเธออยู่อย่างนี้ ก่อนที่ผมจะมาบ้านทิวลิปผมฝันถึงคุณลุงพ่อของทิวลิปท่านบอกว่าฝากทิวลิปด้วยผมก็รับปากท่าน ท่านยิ้มออกมาสีหน้าของคุณลุงดีมากไม่เหมือนคนป่วยเลยแต่ท่านก็ได้จากโลกนี้ไปแล้ว และเมื่อผมได้รับโทรศัพท์จากคุณน้าว่าทิวลิปว่าเกิดเรื่องกับทิวลิปผมคิดได้เพียงอย่างเดียวคือต้องไปหาเธอ ผมพึ่งจะสัญญากับคุณลุงเอง แต่ตอนนี้เธอไม่เป็นอะไรแล้วผมดีใจมาก
“กู๊ดไนท์นะ” ผมก้มลงไปจูบหน้าฝากเธออย่างอ่อนโยน
หินนั้นเธอยังเก็บไว้ หินแห่งความทรงจำของเราสองคน ..
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ