A moment of Romance ชาตินี้ทั้งชาติจะไม่พรากจากเธอ
8.3
9)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ผัดมาม่า ทรงเครื่องฝีมือแก้วใจมาแล้วจ้า " เสียงของแก้วเจี๊ยวจ๊าวดังออกมาจากห้องครัวในบ้านของป๊อบปี้ ผัดมาม่าที่เธอเพิ่งทำเสร็จเมื่อครู่ส่งกลิ่นหอมฉุยลอยออกมาถึงหน้าบ้านที่ป๊อบปี้กับโทโมะนั่งรออยู่ "โฮ้ว!!! กลิ่นหอมจริงๆเลย ยกมาให้ไวเลยแก้ว " ป๊อบปี้น้ำลายสอทันทีที่ได้กลิ่นหอมของเครื่องปรุงที่โชยออกมา แก้วยกจานมาม่าผัดทั้งสามจานออกมา ก่อนจะวางให้โทโมะ และ ป๊อบปี้ ก่อนที่ชายหนุ่มทั้งสองจะค่อยๆกินมาม่าผัดฝีมือแก้ว "เป็นไง รสชาติพอใช้ได้มั้ย ? " แก้วถามชายหนุ่มทั้งสองคน "อร่อยดีนี่ ฝีมือแบบนี้ถ้าเปิดร้าน ก็คงหมดไวแน่นอนอ่ะ " ป๊อบปี้พูดขึ้นมาด้วยท่าทะเล้นที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา "อร่อยแบบนี้ มาทำให้กินทุกวันที่บ้านได้มั้ย ? " โทโมะพูดบ้าง "บ้าเหรอ...!!! " แก้วพูดด้วยน้ำเสียงเขินอาย ก่อนจะก้มหน้ามุดลงไปปกปิดใบหน้าที่แดงก่ำเป็นลูกมะเขือเทศของเธอ "อุ๊ก!!! " การเอื้อนเอ่ยวาจาของโทโมะ ทำให้ป๊อบปี้ถึงกับสำลักเลยทีเดียว "นี่โทโมะ...." แก้วสลัดความเขินเงยหน้าขึ้นมาถามโทโมะ "อืม...." โทโมะรับคำ โดยที่ยังมีอาหารอยู่เต็มปาก "ฉันไม่เคยเจอพ่อแม่เธอเลย เค้าไปไหนกันหมดเหรอ ? " แก้วถาม โทโมะถึงกับนิ่งไป เมื่อได้ยินแก้วตั้งคำถามเช่นนี้ ป๊อบปี้เองก็นิ่งเหมือนกัน เพราะเขาก็รู้อดีตของโทโมะ จึงได้แต่หันมามองหน้าแก้วทำตาปริบๆ "เอ่อ...ถ้าฉันพูดอะไรผิดไปก็ขอโทษละกันนะ " แก้วพูดอย่างเซื่องซึมเมื่อเห็นโทโมะทำหน้าแบบนั้น "คือ...." โทโมะพยายามจะพูด แต่เว้นวรรคทิ้งไว้ "แม่ฉันตาย หลังจากคลอดฉันได้แค่สามชั่วโมง หมอบอกว่าแม่เสียเลือดมาก..." โทโมะเล่าความหลังให้ฟัง "พอฉันอายุได้ ขวบกว่า พ่อก็ไปมีเมียใหม่ ฉันกับพี่สาวเลยต้องไปอยู่กับป้า แต่ว่าลุงฉันน่ะ พยายามจะข่มขืนพี่สาวฉัน ป้าก็เลยแอบพาพวกเราหนีไปอยู่บ้านย่าที่พิจิตรน่ะ " โทโมะเล่า "แล้วตอนนี้พี่สาวนายล่ะ เค้าทำอะไรอยู่ " แก้วถาม "พี่สาวฉันเค้าแต่งงานได้สามปีแล้ว ตอนนี้ลูกของเขากำลังหัดพูดเลยล่ะ ว่างๆฉันจะพาเธอไปเยี่ยมเขานะ " โทโมะหันมาพูดกับแก้ว แก้วยิ้ม แต่ก็ไม่มีเสียงออกมาจากปากของเธอเลย เธอคิดว่า เธอเกิดมาโชคดีกว่าโทโมะเสียอีก ถึงแม้พ่อกับแม่จะไม่มีเวลาให้เธอเลย แต่ก็ยังมีอยู่ ผิดกับโทโมะ ที่สูญเสียพ่อแม่ไป แถมยังไร้ที่พึ่งพิง ลำบากยากเข็ญกว่าจะผ่านชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้ เธอมองดูโทโมะ ที่เล่นหัวหยอกล้อกับป๊อบปี้ด้วยแววตาปวดร้าว แม้ว่าภายนอกโทโมะจะดูเข้มแข็งสักเพียงไร แต่จะมีใครรู้บ้าง ว่าเขาเองก็ผ่านอะไรต่ออะไรมามากมาย สถานีตำรวจที่เดิม นายตำรวจวัยกลางคนผู้หนึ่ง ซึ่งมียศถึงผู้กำกับ กำลังสั่งการชายหนุ่มผู้อยู่เบื้องหน้าเขา จ่าเคลลี่นั่นเอง "มีสายรายงานมาว่า แถวนี้มีการซ่องสุมยาเสพติดล็อตใหญ่ อยากให้จ่าพาลูกน้องไปสืบดูหน่อย " ชายคนนั้นพูด "ครับ ผู้กำกับ ผมจะสืบหาเบาะแสให้ได้เอง " จ่าเคลลี่ตอบ "อืม...ดี คดีปล้นธนาคารเก็บไปก่อน ยังปิดไม่ได้ แต่งานนี้เข้ามาเร็ว ทางกรมกำลังกำชับมา ยังไงซะก็รีบเร่งหาหลักฐานด้วย เพราะการปล้นธนาคารก็อุกอาจไม่แพ้กัน " ผู้กำกับย้ำอีกรอบ "เอ่อ...ครับ เสร็จจากการสืบหาเบาะแส ผมจะเร่งรวบรวมหลักฐานครับ " จ่าเคลลี่ตอบเสียงอ่อย ที่หน้าบ้านของแก้ว โทโมะขับรถมาส่งแก้วเช่นเคย ทั้งคู่โบกมือลากันก่อนที่จะเข้าบ้านไป "ขับรถดีๆนะ " แก้วบอก "อืม....ถึงห้องแล้วจะโทรหานะ" โทโมะตอบ โทโมะขับรถไป แก้วที่มองดูโทโมะขับออกไปก็เดินเข้าบ้าน สิ่งที่อยู่ในบ้านเธอนั้น ทำให้เธอต้องตกใจเป็นอย่างมาก "คุณพ่อ.....คุณแม่......" แก้วพูดเสียงดัง แล้ววิ่งเข้าไปโผก่อนชายวัยกลางคน ผู้ซึ่งเป็นบิดาของเธอ "ฮ่าๆๆๆ เป็นไงลูก สบายดีรึเปล่า? " พ่อถามด้วยความเอ็นดู "แก้วสบายดีค่ะพ่อ แล้วพ่อกับแม่ล่ะ สบายดีรึเปล่า? " แก้วถามพ่อของเธอคืนบ้าง "สบายดีเหมือนกันจ้ะ แล้วทำไมวันนี้ถึงกลับดึกนักละ หืมส์ ? " "หนูไปบ้านเพื่อนมาค่ะคุณพ่อ " แก้วตอบ "แก้วมานี่ซิ " แม่ของแก้วเรียกหาลูก "อะไรคะแม่..." แก้วผละออกจากอ้อมกอดของพ่อ แล้วเดินมาหาแม่ของเธอที่นั่งอยู่ตรวโซฟา โต๊ะเบื้องหน้าของแม่ มีเอกสารมากมาย แม่ยื่นกระดาษเหล่านั้นให้แก้ว "นี่เป็นรายชื่อมหาลัยที่แม่หาไว้ให้ มีหลายที่เลย อาทิตย์หน้า เราจะย้ายไปอยู่สวิตเซอร์แลนด์ด้วยกัน ลูกลองเลือกดูนะ " แม่ยื่นให้แก้ว แก้วรับเอกสารเหล่านั้นขึ้นมาดูอย่างชั่งใจ "ขึ้นห้องกันเถอะพ่อ " แม่หันมาเรียกพ่อ ก่อนจะเดินนำขึ้นไป พ่อของแก้วเดินตามไปอย่างว่าง่าย ด้วยความเกรงใจภรรยา แต่ก็ยังหันกลับมากำชับลูกสาว "คราวหน้าก็อย่ากลับดึกนะลูก!!! " แก้วพยักหน้าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเป็นการตอบรับ บนห้องของแก้ว เธอมองดูเอกสารด้วยความว้าวุ่นใจ อาทิตย์หน้าเธอก็จะต้องไปอยู่ที่สวิสแล้ว แล้วโทโมะล่ะ? เธอจะตัดใจจากเค้าได้หรือ โทโมะแวะมาหาเคนตะที่บ้านของเขาเอง แต่กลับพบว่า เคนตะถูกกลุ่มอันธพาลสามคนกำลังรุมหาเรื่องอยู่หน้าร้าน "อยู่นี่แต่ไม่จ่ายค่าคุ้มครอง แกคิดว่าจะทำมาหากินได้ง่ายๆเรอะ " ไอ้นักเลงคนนึงพูดขึ้น "พวกมึงมันอะไรกันักหนาว้ะ บอกแล้วไงกูไม่จ่ายๆ มึงจะทำไม? " เคนตะพูดขึ้นด้วยความโมโห "สัสนี่ อยากโดนซัดนัดรึไงว้ะ " นักเลงคนเดิมคว้าคอเสื้อเคนตะขึ้นมาแล้วตะคอกใส่ "มึงจะเอาเรอะ!!!! " เคนตะตะคอกกลับแล้วคว้าคอเสื้อไอ้นักเลงขึ้นมาบ้าง "เฮ้ย หยุดๆๆๆ หยุดเดี๋ยวนี้ " เสียงของโทโมะดังขึ้นมา ทำเอาเคนตะกับพวกนักเลงพากันหยุดนิ่ง "พวกแกจะทำอะไรเพื่อนฉัน หา...!!! พวกแกแน่มาจากไหนกัน? " โทโมะข่มขู่พวกนักเลง "เชอะ ไปก็ได้ว้ะ แต่พวกแกอยู่ไม่สุขแน่ " พวกมันยังไม่วาย หันกลับมาหาเรื่อง เคนตะอีก เคนตะทรุดตัวนั่งลงกับพื้นหน้าร้าน เขาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย "ขนาดถอนตัวจากวงการ เลิกเป็นนักเลงแล้ว ก็ยังโดนอันธพาลมาหาเรื่องอีก " เคนตะ พูดด้วยความเซ็ง "ต่อไปถ้ามีอะไร ก็โทรบอกฉันละกัน " โทโมะบอก "อืม..." เคนตะพยักหน้าตกปากรับคำ โทโมะเห็นเพื่อนกำลังเซ็งก็ไม่อยากรบกวน เลยขับรถกลับห้องไป เมื่อกลับมาถึงห้อง โทโมะทิ้งตัวลงบนเตียง ก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วกดหาเบอร์แก้ว แล้วโทรไปหาเธอ........ "ฮัลโหลแก้ว หลับรึยัง " "ยังหรอก ก็รอนายโทรหานี่แหละ" "เหรอ...ฮ่ะๆๆ โทษที พอดีแวะไปหาเคนที่ร้านน่ะ เลยกลับถึงห้องช้าไปหน่อย แหะๆๆ " "นี่โทโมะ......" "หืมส์?...." "เธอจริงใจกับฉันรึเปล่า ?...." "แก้ว...ทำไม.....เธอคิดมากกับคำพูดของไอ้ตำรวจนั่นรึไง" "เปล่าๆๆ ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก " "........" (โทโมะเงียบ) "คือ...ว่า...คือว่าฉันง่วงแล้ว แค่นี้ก่อนนะ ฝันดีนะ" "อืมๆๆๆ ฝันดี........" แม้จะวางสายไปแล้ว แต่โทโมะก็เดาออกจากน้ำเสียงของแก้ว เธอต้องมีเรื่องกลุ้มใจแน่ๆ ถึงได้ถามแบบนี้ โทโมะยันกายอันอ่อนล้าลุกขึ้นก่อนจะไปหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดมันเพื่อสูบ ในหัวของเขาตอนนี้มันตื้อไปหมด ความกังวลบางอย่างกำลังก่อเกิดขึ้นมาภายในจิตใจของเขาอย่างช้าๆ โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ