A moment of Romance ชาตินี้ทั้งชาติจะไม่พรากจากเธอ
8)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
บ้านของแก้ว ในรุ่งเช้า
ป้าพิศเดินขึ้นมาบนห้องของแก้ว แต่ก็ไม่พบแก้วอยู่อย่างเคย
"ออกไปไหนตั้งแต่เช้านะ คุณหนูเนี่ย?..." ป้าพิศบ่นพึมพำ
-----------------
ที่บ้านของป๊อบปี้
โทโมะและแก้วที่ขับรถเข้ามาจอด ก็พบป๊อบปี้กำลังหลับอยู่บนเปลที่ขึงไว้ระหว่างเสาหน้าบ้าน
โทโมะหันมาหาแก้ว พร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นทำท่าจุ๊ปากบอกให้แก้วเงียบๆ
แก้วพยักหน้ารับ แล้วยิ้ม ราวกับรู้ว่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดต้องเป็นเรื่องสนุกแน่ๆ
โทโมะหยิบเศษกระดาษทิชชู่ที่ถูกทิ้งระเกะระกะอยู่ใกล้ๆ มาวางไว้ที่ระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้เท้าของป๊อบปี้ แล้วจุดไฟแช็คให้กระดาษไหม้
แล้วยื่นไฟแช็คมาให้แก้ว
"ฝากหน่อย...." โทโมะพูด แก้วพยักหน้ารับ แต่ก็มีเสียงหัวเราะคิกคักๆ
กระดาษชำระลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ด้วยความร้อน ป๊อบปี้สะดุ้งตื่นขึ้นมา
โทโมะชี้ไปที่แก้ว
"แก้วเป็นคนจุดน่ะ..." โทโมะบอกหน้าตาเฉย พร้อมกับชี้นิ้วโบ้ยปากไปทางแก้วที่นั่งอยู่ข้างๆ
"ฉะ..ฉันเปล่านะ " แก้วรีบโบกมือแก้ตัว
ป๊อบปี้กระโดดลงมาจากเปล แล้วไล่เตะโทโมะทันที
"คิดว่ากูโง่เรอะมึง อย่าอยู่เลยไอ้โมะ " ป๊อบปี้วิ่งไล่เตะโทโมะ
แก้วเห็นสองเพื่อนซี้หยอกล้อกันก็หัวเราะร่าอย่างมีความสุข
-----------------
วันนี้ ป๊อบปี้ และ โทโมะ ก็ลงไม้ลงมือดัดแปลงสภาพรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของป๊อบปี้
แก้วเห็นสองหนุ่มกำลังทำงานกันอย่างขะมักขะเม้นเลยพูดโพล่งขึ้นมาว่า
"นี่ๆ ทำงานเหนื่อยๆแบบนี้ เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำมาให้นะ "
"อือ ดีๆๆ ปากทางเข้าหมู่บ้านมีเซเว่นอยู่น่ะ เดินดีๆระวังหมาไล่กัดนะ" ป๊อบปี้ที่เป็นเจ้าถิ่นพูดแซวแก้ว
"จ้าๆๆ " แก้วรับคำป๊อบปี้ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป
เมื่อแก้วเดินออกไปไกลแล้ว โทโมะวางประแจในมือลง แล้วหยิบผ้าเช็ดมือที่วางอยู่ใกล้ๆมาเช็ดเอาคราบน้ำมันเครื่องที่ติดมือของเขาออก
ก่อนจะล้วงมือลงไปหยิบบุหรี่ในกระเป๋าขึ้นมา ก่อนจะตามด้วยไฟแช็คขึ้นมาจุดอย่างใจเย็น
"นี่ ป๊อบปี้!!!! " โทโมะเรียกชื่อเพื่อนของเขา ที่กำลังวุ่นวายกับการถอดท่อไอเสียอยู่
"หืมส์...? " เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกเอ่ยเสียงแสดงความงุนงงออกมาจากลำคอ แต่สายตาก็ยังจับจ้องที่ท่อไอเสียเบื้องหน้าของเขาอยู่ โดยที่มือทั้งสองข้างของเขากำลังง่วนอยู่กับงานต่อหน้าเค้านั่นเอง
"ชั้นว่าชั้นจะขายรถล่ะ..." โทโมะพูด พร้อมกับพ่นควันที่อุดมด้วยสารนิโคตินออกจากปากของเขาเป็นสายยาว
"อืม....แล้วไง" ป๊อบปี้ยังตอบด้วยท่าทางเรียบเฉย โดยที่ยังไม่ละมือออกจากงานเลย
"ช่วยหาที่รับซื้อรถให้หน่อยสิ เห็นแกแต่งรถบ่อย น่าจะพอรู้แหล่งที่ขายได้ราคาดีๆมั่ง..." โทโมะพูดก่อนจะสูดควันบุหรี่ลงปอดอีกครั้ง
"ไอ้ที่มีมันก็พอมีหรอก แต่แกนึกยังไงจะขายมันว้ะ? " คราวนี้ป๊อบปี้ผละออกจากงานของเขา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาคุยกับโทโมะ
"ชั้นจะเลิกเป็นนักเลง ชั้นจะหาทำงานอื่นบ้าง อย่างเปิดร้านขายของ เหมือนที่ไอ้เคนตะไปขายขนมเค้กไง " โทโมะกล่าวถึงจุดประสงค์ของเขาให้เพื่อนรักฟัง
"ที่คิดแบบนี้ เพราะแก้วใช่มั้ย?....." ป๊อบปี้เอ่ยคำถามขึ้นมา
โทโมะนิ่งไปหนึ่งอึดใจ เขาอัดควันบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร่ ชิพมินท์ ลงคออีกครั้ง แล้วพ่นควันออกมาอย่างเคย
ประหนึ่งว่าเขากำลังมีความในใจที่ลำบากจะพูดออกมาให้เพื่อนรักได้รับรู้
"ฉันเคยไปเห็นบ้านของแก้วมาแล้ว....." โทโมะเว้นวรรค ก่อนจะสูบบุหรี่ลงไปอีกครั้ง
"บ้านของเธอใหญ่โตมาก พ่อแม่ของเธอคงจะมีฐานะน่าดู ท่าทางของเธอก็ราวกับคุณหนูผู้สูงส่ง ไม่เหมาะกับนักเลงที่ชาวบ้านตราหน้าว่าเป็นกุ๊ยข้างถนนอย่างฉันซักนิด " โทโมะพร่ำเพ้อออกมา
"แล้วแกคิดจะทำอะไรกันแน่ว้ะ? " ป๊อบปี้ถามเพื่อนซี้ของเขาอีกครั้ง
"ฉันอยากขายรถ เพราะฉันไม่อยากให้แก้วลำบาก.....ถ้า....ฉันต้องอยู่กับเค้าจริงๆ " โทโมะพูด
"แค่อาทิตย์เดียว แกก็หลงรักแม่นั่นเข้าจนขนาดนี้แล้วเรอะ ฮ่ะๆๆๆๆ เอาเหอะๆ ฉันไม่เคยเห็นแกคิดจะมีแฟนซะที ถ้าแกตั้งใจแบบนั้นจริงๆ ฉันจะช่วยแกเอง " ป๊อบปี้ร่ายยาว
"ขอบใจนะ " โทโมะพูดพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ทางด้านแก้วที่กลับจากการออกไปซื้อเครื่องดื่ม ก็พบจ่าเคลลี่และนายตำรวจอีกคนนึงดักรอระหว่างเธอเดินกลับบ้านป๊อบปี้
"ชาติตระกูลก็สูง การศึกษาก็ดี ทำไมถึงมาเดินถิ่นอันธพาลคนเดียว " จ่าเคลลี่พูดเสียงเข้ม
"ฉะ...ฉัน...ฉันมาหาเพื่อน " แก้วพูดก่อนสะบัดตัวเดินเลี่ยงไป
"คิดว่าโทโมะมันจะรักเธอจริงรึไง มันทำดีด้วยก็เพราะเธอจะได้ไม่ชี้ตัวมันไงล่ะ " จ่าเคลลี่พูดจี้ลงไป ทำเอาแก้วถึงหยุดนิ่ง
"มันก็แค่นักเลงข้างถนนคนหนึ่ง ที่พยายามจะเอาเธอไปเป็นเกราะกำบังมัน ก็เท่านั้น เธอไม่รู้จริงๆเหรอ? " จ่าเคลลี่เห็นแก้วนิ่งไปก็ยิ่งพูดจี้ใจดำลงไปอีก
"เฮ้ย!!! แล้วพวกแกแส่อะไรด้วยว้ะ? " โทโมะที่ได้ยินก็เดินออกมา
"เฮ้ย มันจะมากเกินไปแล้วนะ....!!!!! " นายตำรวจที่มากับจ่าเคลลี่เห็นท่าทีเหิมเกริมของโทโมะก็ตรงรี่เข้าไปหา
"หยุดนะ จะรังแกประชาชนรึไง ? " ป๊อบปี้ที่เดินตามมารีบห้ามศึก ก่อนจะฉุดโทโมะกับแก้วเข้าบ้านไป
จ่าเคลลี่และลูกน้องมองดูทั้งสามคนเดินเข้าบ้าน ก่อนที่พวกเขาจะขึ้นรถแล้วขับออกไปจากที่แห่งนี้
-----------------------------------------
บ้านหลังโตรโหฐานแห่งหนึ่ง
ซึ่งเป็นฐานบัญชาการของเครือข่ายธุรกิจมืดของเจ้าสัวกวิน
"เงินปันผลก็ออกมาแล้วเรียบร้อย ส่งยาคราวนี้ไปไกลถึงพัทยา เฮียหนุ่มรับไปเลยครับ 3 ล้าน " เสียงของกวิน เจ้าสัววัยหนุ่มดังขึ้นมาอย่างร่าเรง
"เดี๋ยวนะ...3 ล้าน นี่มันก็ทั้งหมดแล้วนะ แล้วเจ้าสัวล่ะ? " เฮียหนุ่มพูดขึ้นบ้างเมื่อได้ยินว่าเจ้าสัววัยหนุ่มยกเงินทั้งหมดให้กับตน
"โถ่...เฮียคร้าบ!! คราวนี้เฮียลำบากเอายาไปส่งเอง ผมจะใจดำเก็บเงินไปทำไมล่ะคร้าบ!!!! " เสียงทะเล้นออกแววเจ้าเล่ห์ของเจ้าสัวน้อยดังขึ้นอีกคำรบ
"แหม... ผมเองก็เกรงใจเจ้าสัวนะครับ อุตส่าห์มาร่วมงานด้วยแล้วเจ้าสัวยังยกเงินทั้งหมดให้ผมอีก คือว่าผม...."
"ไม่เป็นไร ม่ายเป็นไร " กวินตัดบทของเฮียหนุ่ม
"เรายังต้องร่วมงานกันอีกนาน เรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อยครับเฮีย " กวินพูดด้วยน้ำเสียงทะเล้นเช่นเดิม
กริ๊งๆๆๆ กริ๊งๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์ตั้งโต๊ะดังขึ้นทำลายบทสนทนาระหว่างเฮียหนุ่มและกวิน
"รอประเดี๋ยวนะเฮีย สงสัยจะมีงานเข้า " กวินพูด แล้วหันหน้าไปทางมอส องครักษ์ประจำกาย
"ไม่มีการดักฟังครับ เจ้าสัว " มอสบอกเจ้านายของตนอย่างรู้ใจ
กวินยิ้มให้กับมอสก่อนจะหันมายิ้มให้เฮียหนุ่มด้วยอีกคน ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าหูโทรศัพท์ตั้งโต๊ะขึ้นมา
เฮียหนุ่มได้แต่รับยิ้มแหยๆ
"อืม..โหล กวินรับสาย........อืม.........โอเค......อืม...........เคๆๆๆ เข้าใจแล้ว พรุ่งนี้จะส่งคนไป.........เออๆๆๆ อืม..... ตกลงตามนี้นะ ได้ๆๆๆ บายครับ "
"เอ้อเฮียหนุ่มครับ ผมมีงานใหม่ให้ทำ...." กวินหันมาสนทนากับชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่เบื้องหน้า
"อะไรหรือครับเจ้าสัว ? " เฮียหนุ่มถาม
"พรุ่งนี้เราจะต้องลักลอบขนยาข้ามโขงมาจากฝั่งมุกดาหาร ไปสะหวันนะเขต ฝั่งลาว ช่วยเอาของไปส่งให้หน่อยนะครับ " เจ้าสัววัยรุ่นเอ่ยปากสั่งการกับชายตรงหน้า
"ได้เลยครับ พรุ่งนี้ผมจะรีบไปทันทีเลยครับ " เฮียหนุ่มรีบตกปากรับคำ
"เอ้อ เกือบลืมไป พอดีว่ามีออเดอร์ขนสาวน้อยจากแถวนั้นมาขายที่พัทยา เค้าให้ไปรับด้วยวันมะรืน ยังไงๆ ก็อยู่รับเค้าด้วยนะครับ เดี๋ยวเบอร์ติดต่อผมจะให้ไปทีหลังนะ " เจ้าสัวยังใช้ให้ลูกน้องคนใหม่ทำความชั่วต่อ
"ได้เลยครับ ขอให้เจ้าสัวสั่ง ผมจะทำตามทุกอย่างเลยครับ " เฮียหนุ่มพูด
"งั้นส่วนแบ่งคราวนี้ 70/30 นะครับ ผมขอ 30 เอง ส่วนที่เหลือ เฮียหนุ่มเอาไปทั้งหมดเลยนะครับ " เจ้าสัวพูด
"จะดีเหรอครับเจ้าสัว ? "
"ดีสิคร้าบ!!!! ผมทำแบบนี้เพราะผมต้องการซื้อใจเฮียไงครับ เอาละครับ ผมไม่รบกวนแล้ว เชิญเฮียกลับบ้านไปเตรียมตัวเลยครับ เดี๋ยวผมต้องไปที่บริษัทต่อ แหะๆ ขอโทษที่ไม่ได้ไปส่งหน้าบ้านนะครับ " เสียงทะเล้นของกวินยังดังออกมาเป็นระยะ
"ครับๆ ถ้างั้นผมขอตัวครับ " เฮียหนุ่มเอ่ยคำลาก่อนจะเดินออกจากห้องโถงรับแขกออกไป
หน้าบ้าน
เขื่อนที่ยืนรอพ่ออยู่ เมื่อเห็นพ่อเดินออกมา ก็เปิดประตูรถเข้าไป ก่อนจะสตาร์ทเครื่องรอ
เฮียหนุ่มเปิดประตูเข้ามา แล้วโยนกระเป๋าเจมส์บอนส์ ไปที่เบาะท้าย
"ได้เท่าไหร่ล่ะพ่อ ? " เขื่อนเอ่ยปากถามพ่อ แล้วเข้าเกียร์รถบึ่งออกจากหน้าบ้านหลังนั้น
"สามล้านบาท....." เฮียหนุ่มบอกลูกชาย
"สามล้าน!!!!!! " เขื่อนพูดด้วยความตกใจ
"เออ สามล้าน แค่งานเดียวเราก็รวยแล้ว ลูกเอ๊ย!!! " เฮียหนุ่มหัวเราะร่า
"ไม่น่าเชื่อเลยเนอะพ่อ แค่จ๊อบเดียวเราจะรวยได้เลย ฮ่าๆๆๆ " เขื่อนแผดเสียงแห่งความหฤหรรษ์ออกมาเหมือนเฮียหนุ่มผู้เป็นพ่อ
"เออ...วันนี้กลับไปเตรียมข้าวของเลย เดียวเราต้องไปรับของล็อตใหญ่ที่มุกดาหาร ทั้งยาทั้งคนเลยลูก " เฮียหนุ่มบอกลูกชาย
"โห....พ่อ!!!! มันจะไกลไปมั้ยน่ะ ? " เขื่อนทำเสียงอ่อนแรงเมื่อได้ยินชื่อสถานที่
"เออน่า ทนลำบากหน่อย คราวนี้เจ้าสัวให้ส่วนแบ่งตั้ง 70% เลยนะว้อย " เฮียหนุ่มบอกลูกอีกครั้ง
"โอ้ว งี้เราก็รับเละเลยดิพ่อ เจ้าสัวกวินนี่ รู้จักใช้คนจริงๆ มิน่า พ่อถึงมาร่วมงานกับเจ้าสัว " เขื่อนเริ่มออกลายประจบพ่อและนายใหม่พร้อมๆกัน
"หึๆ เจ้าสัวกวินน่ะนะ เค้าใช้คนเป็น แถมยังรู้จักซื้อใจลูกน้องอีก อีกไม่นานหรอกลูกเอ้ย ความฝันของเราจะเป็นจริง หึๆๆๆ " เฮียหนุ่มเริ่มออกแววความเจ้าเล่ห์อีกครั้ง
"ความฝันอะไรพ่อ ? " เขื่อนถามอย่างสงสัย
"อ้าว ก็ความฝันที่เราจะฮุบแก๊งค์ของเสี่ยนพพลยังไงเล่า ฮ่ะๆๆๆๆๆ "
ไม่มีคำถามอะไรออกมาจากปากของเขื่อนอีกแล้ว เขาแผดเสียงหัวเราะกับพ่ออยู่ในรถด้วยความสุขใจ
แผนการณ์ร้ายของสองพ่อลูกคราวนี้ จะทำให้แก๊งค์ของโทโมะนั้นต้องสั่นคลอนเช่นไร
ความรักของโทโมะและแก้วจะถูกกีดกันแบบไหน
โปรดติดตามตอนต่อไป To be continued...............
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ