A moment of Romance ชาตินี้ทั้งชาติจะไม่พรากจากเธอ
8.3
20)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความภัตตาคารอาหารจีน สถานที่ซึ่งเป็นที่ประชุมครั้งใหญ่ระหว่าง เฮียหน่ม และ พี่นกประตูหน้าร้านขึ้นป้ายและตัวอักษรไว้ว่า ปิดร้าน 1 วันภายในร้าน เหล่าลูกน้องทั้งสองฝ่าย นับสามสิบคน ต่างจ้องหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับว่าจะกลืนกินเลือดเนื้อกันเลยทีเดียวพี่นกและโทโมะ ป๊อบปี้ เคนตะ รวมลูกน้องอีกเกือบยี่สิบคน นั่งอยู่อีกฟากของร้าน โดยที่พี่นกนั้น นั่งร่วมโต๊ะเดียวกันกับ เฮียหนุ่มโทโมะสอดสายตามองหาเขื่อน ก็ไม่พบตัว เจอแต่เหล่าลูกน้องของเฮียหนุ่มในจำนวนพอๆกับฝ่ายของเขาเองบรรยากาศภายในร้านนั้นเงียบราวป่าช้า แต่ทว่า คำพูดของพี่นกก็เอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบนั้น" ไอ้หนุ่ม แกต้องการอะไร ? " พี่นกถามคู่กรณี" ไม่น่าถาม กองทัพยังต้องมีนายกอง แก๊งค์นี้มันจะขาดหัวหน้าไม่ได้โว้ย แกน่ะ เลิกจากวงการนี้ไปซะ" เฮียหนุ่มพูดเสียงดัง" แล้วแกจะเอายังไง ถึงฉันจะออกจากวงการ แต่ใช่ว่าลูกน้องฉันจะยอมรับนายทั้งหมด" พี่นกอ้างเหตุผล" จะยังไงก็เรื่องของแก แต่ฉันขอลูกน้องแกทั้งหมด ยกเว้นไอ้โทโมะ ฉันมีแค้นส่วนตัวกับมัน " เฮียหนุ่มเอ่ยวาจาอาฆาตโทโมะ" เฮ้ย !!! แกพูดยังงี้ได้ไงว้ะ ? " เสียงของเหล่าลูกน้องของพี่นก โดยมีป๊อบปี้เป็นแกนนำ ไม่พอใจ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หมายจะเข้าไปทำร้ายเฮียหนุ่ม แต่ฝั่งลูกน้องเฮียหนุ่มก็ยืนขึ้นเข้ามาประจันหน้ากัน" หยุดเดี๋ยวนี้ ป๊อบปี้ นั่งลงซะ !!! " พี่นก สั่งห้ามลูกน้องของตน" ไอ้หนุ่ม.... ถึงแกจะพูดขนาดนี้ แต่ลูกน้องฉันก็ไม่คล้อยตามแกหรอก... " พี่นกพูดต่อ" ถ้างั้น พวกแกกับฉันก็จบกันแค่นี้ " เฮียหนุ่มพูดจบก็ตบโต๊ะดังปัง แล้วลุกขึ้นยืน พี่นกลุกขึ้นตาม แต่หารู้มั้ยว่า เฮียหนุ่มชักมีดที่เหน็บอยู่ใต้โต๊ะขึ้นมาจ้วงแทงเข้าที่ลิ้นปี่ของพี่นกจนมีดปักเข้าไปแทบมิดด้าม ก่อนจะดึงมีดที่ปากแผลออกมาท่ามกวามความตกตะลึงของเหล่าลูกน้องที่ดูเหตุการณ์อยู่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น โทโมะ ป๊อบปี้ เคนตะ และเหล่าลูกน้องคนอื่นๆ ก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง โผเข้าหาพรรคพวกของเฮียหนุ่ม ที่โดดเข้ามาประจันหน้าเช่นกันเหล่านักเลงทั้งสองฝ่าย ต่างเข้าห้ำหั่นกัน ด้วยอาวุธที่มี " ถ้ากูตาย มึงลำบากแน่ ไอ้หนุ่ม อั่ก ..... " พี่นกพูดด้วยความโกรธ และมีมีดแทงอยู่ที่ท้อง ลูกน้องของเฮียหนุ่มคนหนึ่ง พยายาม พาพี่นกออกไปจากห้องนี้ โดยมีพวกโทโมะ คอยฟัดกับลูกน้องเฮียหนุ่มไว้" ฆ่ามัน ฆ่ามันให้หมด อย่าให้ไอ้หนุ่มมันหนีไปได้ " เฮียหนุ่มสั่งการลูกน้อง" พาพี่นกหนีไปหลังร้าน ข้างหน้ามีพวกมันอยู่ " ป๊อบปี้ตะโกนสั่งลูกน้องคนที่พาพี่นกหนีโทโมะหยิบเก้าอี้ขึ้นมาฟาดพวกเหฃ่าลิ่วล้อเฮียหนุ่มคนแล้วคนเล่า โดยมีป๊อบปี้ และเคนตะคอยช่วยเหลือ แต่ว่า พวกเขาไม่ได้เตรียมใจว่าจะเจอเหตุการณ์โหดร้ายขนาดนี้จึงไม่ทันตั้งตัว เพื่อนๆของโทโมะคนแล้วคนเล่า ต้องถูกทำร้ายจนล้มไปกับพื้น " ไม่ไหวแล้ว เรารีบหนีกันเหอะ " เคนตะบอกโทโมะโทโมะเองก็รู้สถานการณ์ดี จึงรีบวิ่งไปบริเวณหลังร้าน ซึ่งมีเคนตะ และ ป๊อบปี้ วิ่งตามมาด้วยพวกลูกน้องของเฮียหนุ่มเอก็ตามโทโมะไปติดๆ บริเวณหลังร้าน เป็นห้องครัว โทโมะจึงหยิบมีดขึ้นมาสู้กับพวกนักเลงที่วิ่งตามมา เขาฟาดฟัน พวกมันจนเลือดสาดเต็มพื้นโทโมะ เคนตะ ป๊อบปี้ พี่นกที่บาดเจ็บ และลูกน้องคนอื่นๆที่ยังเหลืออยู่ ต่อยตีกับพวกของเฮียหนุ่มที่เหนือกว่า อย่างไม่หวั่นเกรง
เฮียหนุ่ม ที่มีความแค้นกับโทโมะ ค่อยๆย่างสามขุมเข้ามาอย่างใจเย็น แล้วหยิบไม้นวดแป้งที่วางอยู่บนโต๊ะทำอาหารขึ้นมา โทโมะ ที่มะรุมมะตุ้มกับเหล่านักเลง จนไม่ระวังตัว ถูกเฮียหนุ่มฟาดไม้นวดแป้งเข้าไปที่ท้ายทอยอย่างจัง จนล้มทั้งยืน" โทโมะ !!!! " ป๊อบปี้ตะโกนเรียกเพื่อนดังลั่น เมื่อเห็นโทโมะค่อยๆทอดกายลงไปนอนกับพื้นพี่นก ที่เจ็บปวดบาดแผลจนแทบขาดใจ กระโดดกอดร่างของเฮียหนุ่มเอาไว้" เฮ้ย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ !!! " เฮียหนุ่มสะบัดตัวให้พ้นพันธนาการของพี่นก ที่กอดรัดอยู่เคนตะวิ่งไปประคองร่างของโทโมะขึ้นมา ป๊อบปี้เองก็วิ่งไปเปิดประตูหลังร้านออก แล้วตะโกนเรียกเคนตะ" เร็วเข้า เร็ว " เสียงตะโกนของป๊อบปี้ เรียกสติของเคนตะ ให้วิ่งไปตามต้นเสียงเคนตะ พยุงร่างของโทโมะ วิ่งออกไป ป๊อบปี้จะเข้าไปช่วยพี่นก แต่ทว่า" ไม่ต้องมาห่วงกู รีบไป ป๊อบปี้ รีบหนีไป " พี่นกที่กำลังกอดเฮียหนุ่มอยู่สั่งป๊อบปี้ด้วยน้ำเสียงดุดันป๊อบปี้กระอักกระอ่วนใจ แต่ก็ต้องจำใจหนีไปทั้งน้ำตา เขาปิดประตูดังปัง แล้ววิ่งตามโทโมะกับเคนตะที่หนีไปก่อนแล้ว" รอช้าอยู่ทำไม รีบตามไปฆ่ามันสิวะ บัดซบ !!! " เฮียหนุ่มสั่งลูกน้องที่ยังสับประยุทธ์กันกับลูกน้องของพี่นกที่เหลือเพียง 4-5 คนลูกน้องของเฮียหนุ่มส่วนหนึ่งจะวิ่งไปเปิดประตู พี่นกเห็นเช่นนั้น จึงผละออกจากร่างของเฮียหนุ่ม ไปขวางทางพวกลิ่วล้อไว้พี่นกยืนบังประตู โดยมีกระทะเพียงหนึ่งใบใช้เป็นอาวุธ พี่นกที่ตาพร่ามัว เพราะเสียเลือดไปมากมาย เหวี่ยงมือที่ถือกระทะใบนั้นไปมั่วซั่ว เป็นการประกาศเจตนารมณ์ว่า ถึงตาย ก็จะไม่ยอมให้ใครผ่านประตูบานนี้ไปได้เด็ดขาดแต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ พี่นกถูกรุมทำร้ายจากกลุ่มนักเลงนับสิบจนสิ้นลมหายใจที่หน้าประตูนั่นเอง--------------------------------------เคนตะ ที่พยุงโทโมะมาจากเหตุการณ์นองเลือด ภายในภัตคารโหด กระเสือกกระสน มายังตึกร้าง ด้านหลังของภัตตาคาร เพื่อเป็นการหลบหนีสายตาของผู้คน เป็นการป้องกันการถูกตำรวจจับกุมไปในตัวด้วยโทโมะที่อ่อนแรง พลัดหลุดมือจากเคนตะ การถูกตีที่ท้ายทอย ทำให้กะโหลกของโทโมะร้าว เลือดกำเดาจึงไหลออกมาจากจมูกของเขาไม่หยุด เคนตะ จึงพาโทโมะมาพิงกับผลังตึก" เฮ้ย !!!โทโมะ โทโมะ แกเป็นยังบ้าง ยังไหวมั้ย ? " เคนตะเขย่าร่างของเพื่อนรักเป็นการเรียกสติโทโมะ ที่สลึมสลือ ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น" ฉัน.....ไหว ยัง...ไหว...อยู่ " โทโมะขยับปากพูดอย่างยากลำบาก" เออ งั้นรออยู่นี่แป๊บนึง ฉันจะไปดูป๊อบปี้กับพวกเราที่เหลืออยู่ " เคนตะบอก" พวกแกไม่ต้องไปไหนกันหรอก " เสียงปริศนาดังขึ้นด้านหลังของเคนตะเขื่อนนั่นเอง เขื่อนแอบตามเคนตะและโทโมะมาตั้งแต่ออกจากภัตตาคารมาแล้ว" ....เพราะพวกแกจะต้องถูกฉันฆ่าที่นี่นี่แหละ หึๆๆๆๆ " เขื่อนพูดแล้วหัวเราะในลำคออย่างเลือดเย็น" แก...ไอ้เขื่อน ไอ้เลวเอ๊ย ฉันจะฆ่าแก แล้วก็จะฆ่าพ่อแกด้วย " เคนตะ กันฟันพูดด้วยความแค้น เคนตะโผจากร่างของโทโมะ แล้วเงื้อหมัดพุ่งเข้าไปหาเขื่อน หมายจะซัดกำปั้นให้หน้าหงายปัง!!!!!!เสียงปืนดังขึ้น พร้อมกับร่างของเคนตะ ที่ค่อยๆล้มลงไป โทโมะได้แต่นั่งมองอย่างตกตะลึง แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะลุกขึ้นไปช่วยสหาย" ไอ้โง่เอ๊ย.... " เขื่อนที่ถือปืนแสยะยิ้มอย่างซาตาน พูดอย่างผู้มีชัย" หึๆๆๆๆ ฮ่ะๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ " เขื่อนระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง " คราวนี้ ถึงตาแกแล้ว ไอ้โทโมะ ตายตามเพื่อนแกไปซะ " เขื่อนพูดจบ ก็ยกปืนขึ้น แล้วเล็งไปยังโทโมะ ที่ได้แต่นั่งนิ่งมองดู" แก ไอ้เขื่อน..... " โทโมะได้แต่พูด แต่ร่างกายก็ขยับไปไหนไม่ได้เขื่อนค่อยๆเหนี่ยวไกปืนแล้วแสยะยิ้มอย่างใจเย็นโครม เอี๊ยด................!!!!!!ร่างของเขื่อน ลอยละลิ่ว ไปไกลกว่าสิบเมตร เมื่อตกมากระแทกพื้น ก็แน่นิ่งไป เลือดสดๆ ไหลออกจากหัวของเขาราวกับเปิดก๊อกรถที่พุ่งเข้าชน เบรกจนล้อลาก ก่อให้เกิดควันจาการเสียดสีเหม็นขึ้นมาจนฉุนจมูก" เฮ้ย โทโมะ ฉันมาช่วยแล้ว " ป๊อบปี้ลงจากรถคันนั้น แล้ววิ่งเข้ามาดูอาการของเพื่อนโทโมะ ค่อยๆคลานเข้ามาหาเคนตะ ที่นอนนิ่งไปหลังจากถูกยิง" โทโมะ.... " เคนตะรวบรวมกำลังที่เหลือค่อยๆพูดขึ้น" คะ...เคน...นี่แกถูกยิง " ป๊อบปี้ตกตะลึง เมื่อรู้ว่าเพื่อนรักถูกทำร้ายจนปางตาย" ป๊อบปี้เรอะ...หึๆๆๆ โทษทีนะ แต่ว่า ฮึก.. " เคนตะเริ่มสะอื้น " ฉันไปต่อไม่ไหวแล้ว... ฮึกๆ ฉัน...ฉัน... ช่วยแก้แค้น....ให้พวกเรา......ทุกคนด้วย " เคนตะพูดทั้งน้ำตา" เคนตะ แก... แกต้องไม่เป็นไรนะเว้ย แข็งใจไว้ ฉันจะพาแกไปโรงบาล " ป๊อบปี้พูดอย่างตื่นตระหนก น้ำเสียงสั่นเครือ" อย่าพยายามเลย.....ฉันไม่ไหวแล้ว อั๊ค!!!! " สิ้นเสียง เคนตะก็กระอักเลือดออกมาจากปาก มือของเขาบีบแน่นกับมือของโทโมะที่จับเอาไว้" เคนตะ มึงอย่าหลับนะโว้ย เคนตะ เหิ้ย...... มึงฟังเสียงกูซี่..... ตื่น...... ตื่นเด้ มึงได้ยินมั้ย โฮๆๆๆๆๆ " ป๊อบปี้เขย่า ตัวเพื่อนรักราวกับคนเสียสติ เคนตะ ที่สิ้นใจไปแล้ว ยังหลับตาไม่สนิทนัก โทโมะ ที่เอาแต่สะอื้นน้ำตาไหล ค่อยเอามือปิดเปลือกตาของเพื่อนรักลงเสียงร่ำไห้อย่างบ้าคลั่ง ดังระงมไปทั่วบริเวณ เพื่อนรัก และลูกพี่ที่นับถือ เพื่อนร่วมอุดมการณ์มากมาย ต้องเอาชีวิตไปทิ้งในเหตุการณ์นองเลือดครั้งนี้อันธพาล ไม่เคยได้ดี.............!!!!!-------------------------------------------------------------ที่บ้านของแก้วป้าพิศ กำลังเก็บเสื้อผ้าของแก้วยัดลงกระเป๋าใบโต แต่ตัวแก้วเอง ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง ป้าพิศที่เลี้ยงดูหนูแก้วมาตั้งแต่เด็ก ก็ได้แต่สงสาร แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเพียงแค่คนรับใช้" คุณหนูค่ะ..... " ป้าพิศเรียก พร้อมลงนั่งเคียงข้าง แล้วดึงแก้วเข้ามาสวมกอด" ป้าเข้าใจความรู้สึกของคุณหนูดีค่ะ " ป้าพิศปลอบ" ป้าพิศค่ะ หนูรักเค้ามาก หนูไม่อยากพรากจากเขาไปไหนเลย ฮึก ๆ " แก้วสะอื้น" หนูแก้วของป้าโตแล้ว รักหนุ่มก็เป็นแล้ว หนูแก้วสามารถเลือกทางเดินชีวิตตัวเองได้แล้วนะ ป้าคิดว่า ที่คุณแม่พาหนูไปคราวนี้ อาจจะไม่ใช่เส้นทางที่ดีที่สุด แต่หนูแก้วต้องทำใจยอมรับมัน สักวันมันจะดีเอง ป้าเชื่ออย่างนั้น " ป้าพิศพยายามโน้มน้าวใจแก้ว" ต่อให้หนูต้องหนีไปหาเค้า หนูก็จะทำ....... ฮึก " แก้วพูดขึ้นป้าพิศเองก็หนักใจ แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้นะ จึงได้แต่ลูบหัวคุณหนูของตนอย่างเอ็นดู" โถ...หนูแก้วของป้า..... "--------------------------------------------------------------------ป๊อบปี้ ขับรถมาอย่างเรื่อยเปื่อย โทโมะที่นั่งอยู่เบาะหลัง ซึ่งยังมีอาการเลือดกำเดาไหลไม่หยุด ก็ยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดฉับพลัน เขาก็มีความรู้สึกแปลกว่ามีบางอย่างอยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขาเอง โทโมะจึงล้วงหยิบมันขึ้นมา ก็พบว่ามันเป็นจดหมาย ที่แก้วเขียนเอาไว้เมื่อวาน เขาอ่านจนจบ น้ำตาก็ไหลออกมา เขาสูญเสียเพื่อน และลูกพี่ที่เคารพยังไม่พอ หนำซ้ำยังต้องมาเสียคนรักตามไปอีกป๊อบปี้มองผ่านกระจกมองหลัง ก็เอ่ยปากถาม" เป็นอะไรของมึงว่ะ ? " " ปล่าว...ฉันแค่.....รู้สึกว่าตัวเองมันไร้ค่า " โทโมะพูดตัดพ้อ" เกิดเป็นนักเลง ถึงจะมีศักดิ์ศรีที่เราภูมิใจ แต่คนอื่นก็มองเราไม่มีค่าของความเป็นคน มันก็ถูกแล้วที่แกจะคิดอย่างนั้น " ป๊อบปี้พูด ยิ่งตอกย้ำให้โทโมะน้ำตาไหลมากกว่าเดิม" แล้วเราจะเอาไงต่อไปดี ? " โทโมะถามป๊อบปี้ ป๊อบปี้ไม่ตอบ เขาหักรถไปจอดข้างทาง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาขึ้นมา กดหาเบอร์โทรที่คุ้นเคย" ...............ฟางเหรอ ? " ป๊อบปี้ถาม เมื่อปลายทางรับสาย" จ้า........พี่ป๊อบ พี่หายไปไหนมาทั้งวัน ฟางโทรไปก็ปิดเครื่อง " เสียงใสๆในโทรศัพท์พูดขึ้น " ......................... " ป๊อบปี้เงียบเหมือนใช้ความคิด" พี่ป๊อบ พี่ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมเสียงพี่แปลกๆ " เสียงของฟางเอ่ยถาม" ฟาง......พี่ว่าเราเลิกกันเหอะ " ป๊อบปี้ตัดสินใจพูด" พี่ป๊อบ......พี่เล่นตลกอะไร ฟางไม่เล่นด้วยนะ " เสียงใสๆ เริ่มสั่น ราวกับกำลังจะสะอื้นไห้" พี่พูดจริง ต่อไปนี้ เราจบกัน แล้วไม่ต้องมาถามอะไรจากพี่อีก เราเลิกกัน แค่นี้นะ "" เดี๋ยวก่อน...พี่ป๊อบ เดี๋ยว....!!!!! "ป๊อบปี้กดตัดสายทิ้ง น้ำตาก็ไหลออกมา เขาเปิดประตูรถแล้วเดินลงมา ขว้างโทรศัพท์ลงกับพื้น" โถ่.....โว้ย............!!!!!!!!!!!!! โฮๆๆๆๆ " ป๊อบปี้ตะโกนขึ้นฟ้าอย่างบ้าคลั่งชายหนุ่มพิงตัวกับรถอย่างเหนื่อยล้า แล้วค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลง จากนั้นก็เริ่มทึ้งผมตัวเอง เอาท้ายทอยโขกกับประตูรถอย่างกับคนบ้า" โฮๆๆๆๆ ฮือๆๆ โฮๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ ทำไม ทำไมกัน.......โฮๆๆๆๆๆๆๆ " ป๊อบปี้คุ้มคลั่งไปเสียแล้วโทโมะที่นั่งมองดูการกระทำของเพื่อนตั้งแต่ต้น ก็รู้ว่านี่คือเส้นทางสุดท้าย ที่ป๊อบปี้จะเลือกเขาหยิบ กระดาษจดหมายของแก้วมานั่งดูอย่างเศร้าใจ---------------------------------------- ที่บ้านของแก้วในเวลาเย็นย่ำลุงเริงยกกระเป๋าขึ้นรถ ตามด้วยแก้วที่เดินออกจากบ้านอย่างเหม่อลอยแม่ของแก้ว ก็เดินสั่งงานกับป้าพิศ ตามแก้วมาติดๆ" แก้ว ไปรอแม่ที่รถก่อนไป.... " แม่สั่ง แก้วจึงค่อยๆ เดินมาที่รถอย่างช้าๆ ราวกับร่างกายที่ไม่มีวิญญาณ" นี่ป้าพิศ ท่อประปา อย่าลืมเรียกช่างมาซ่อมนะ........บลาๆๆๆ ฯลฯ " แม่ของแก้วร่ายยาว ป้าพิศก็ก้มหัวรับคำ เหมือนกับกิ้งก่าที่ได้ยินเสียงผิวปากแก้วเดินมาจะเปิดประตูรถ ก็มีบางอย่างดลใจ ให้เธอมองไปที่หน้าบ้านสิ่งที่สายตาของเธอเห็น คือรถมอเตอร์ไซต์ ฮายาบุสะ สีส้ม ของโทโมะนั่นเอง โทโมะที่นั่งหันหลังให้ ก็มีความรู้สึกว่ามีสายตาจับจ้องตนอยู่ จึงค่อยๆ หันหน้ากลับมามองดู
เพลงประกอบฉาก
แก้วที่มองเห็นสภาพของคนรักที่ราวกับซากศพเดินได้เธอเอามือขึ้นป้องปาก ป้องกันเสียงสะอื้นไม่ให้แม่ได้ยิน แล้วก็วิ่งเข้ามาสวมกอดชายคนรัก น้ำตาก็ไหลไม่หยุดสาวน้อยเอามือขึ้นปัดผม เอามือลูบไล้ใบหน้าที่ฟกช้ำดำเขียวของชายหนุ่ม เป็นสภาพที่น่าสงสารเหลือเกิน
" เธอจะไปกับฉันมั้ย.... " โทโมะเอ่ยปาดพูดอย่างเหนื่อยแรงแก้วพยักหน้าเป็นการตอบตกลง แทรมไปด้วยเสียงสะอื้นในลำคอของเธอ" เธอจะไม่เสียใจแน่....นะ " โทโมะถามย้ำอีกครั้ง" ไม่ว่าโทโมะจะไปไหน ฮึก..... แก้วก็จะไปด้วย เราจะไม่พรากจากกัน ฮึกๆ " แก้วพูดพลางร้องไห้พลาง
ป้าพิศแอบแว้บไปเห็นพอดี จึงทำเนียนชี้ให้คุณหญิงดูสวนดอกไม้" แล้วต้นไม้นี่ จะให้ตัดเลยมั้ยค่ะ...... " ป้าพิศทำเนียนพาคุยคุณหญิงวิชุดา ก็ชี้โบ๊ชี้เบ๊ ไปตามเรื่องราวพลัน ก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์ดังขึ้น คุณหญิงหันหลังมา ก็พบว่าแก้วไม่ได้อยู่ในรถ " แก้ว.... กลับมาเดี๋ยวนี้ " คุณหญิงวิ่งตามลูกสาวออกไป แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วบนท้องถนนยามค่ำคืน แก้วที่ซ้อนท้ายคนรักของเธอมา ก็มีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าของเธอเสียทีสาวน้อยซบใบหน้าขาวเนียนของเธอลงบนแผ่นหลังของชายหนุ่ม แล้วกอดเอาไว้แนบแน่น
โทโมะ เอารถมาจอดหน้าร้านรับจัดงานแต่งงาน เขาใช้เงินที่เหลือทั้งหมดเช่าชุดแต่งงานมาสองตัว
แก้วมองดูอยู่ข้างนอกร้านก็ยิ้มทั้งน้ำตา เธอยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาแห่งความสุขที่พราั่งพรูออกมา
โทโมะในชุดสูทแต่งงานสีขาว และแก้วในชุดเจ้าสาวขาวสวย ขับรถซ้อนกันบนถนนที่เต็มไปด้วยแสงสีของเมืองหลวงในยามค่ำคืนเลือดกำเดาของโทโมะ ที่เหมือนว่าหยุดไหลไปแล้ว กลับเริ่มหยดลงบนมือของแก้ว ที่สวมกอดชายหนุ่มเอาไว้
-------------------------------------------
เฮียหนุ่ม โทรหาลูกชายอย่างร้อนใจ แต่ก็ไม่มีการรับสาย " มันหายไปไหนของมันในเวลาแบบนี้นะ ไอ้ลูกคนนี้ " เฮียหนุ่มพูดขึ้นอย่างโมโห" เฮียครับ ได้เวลาไปเก็บส่วยที่ดาวดึงส์อาบอบนวดแล้วครับเฮีย " ลูกน้องเดินเข้ามาบอกหัวหน้าของตน ที่นั่งอยู่บนโซฟา" เออๆๆ ไปก็ไป " เฮียหนุ่มรับคำอย่างฉุนเฉียว
---------------------------------------
รถของโทโมะ มาจอดอีกครั้ง ที่โบสถ์คริสต์แห่งหนึ่ง เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น " เออ....ป๊อบเหรอ ว่าไง...... อืม....... โอเค เสร็จธุระแล้วฉันจะรีบไป " พูดจบโทโมะก็กดวางสาย
โทโมะหันมายิ้มให้แก้ว แก้วเองก็ยิ้มรับโทโมะ
น้ำตาเธอยังไม่หยุดไหล มันเป็นน้ำตาแห่งความยินดี
นี่คือสิ่งที่เธอต้องการจากชายคนรักของเธอมากที่สุด
ชายหนุ่มจูงมือสาวน้อย คนรักของเขา มาที่หน้ารูปปั้นพระแม่มารีย์โทโมะค่อยๆล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกง เขาหยิบแหวนขึ้นมา แล้วดึงมือซ้ายของแก้วขึ้นมาด้วยโทโมะบรรจงสวมแหวนลงไป แก้วยิ้มเขิน แต่น้ำตาก็พรั่งพรูตามมา
โทโมะเงยหน้าขึ้นมา ชายหนุ่มร่างสูง ค่อยๆโน้มตัวลงมาจุมพิตคนรักของเขาแก้วหลับตาพริ้ม รอรับจูบอันดูดดื่มของชายหนุ่มที่เธอรักนักหนาริมฝีปากของโทโมะ บรรจงประทับลงบนฝีปากนุ่มนวลของแก้วอย่างแผ่วเบา และเนิ่นนาน...........................................
โปรดติดตามตอนอวสาน
ปล. ตอนนี้ จัดเต็ม ให้อ่านกันยาวๆ เลยครับ
ไม่รู้จะถูกใจกันหรือเปล่า ยังไงๆ ก็ช่วยคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ อีกตอนเดียวก็จะอวสานแล้ว
เฮียหนุ่ม ที่มีความแค้นกับโทโมะ ค่อยๆย่างสามขุมเข้ามาอย่างใจเย็น แล้วหยิบไม้นวดแป้งที่วางอยู่บนโต๊ะทำอาหารขึ้นมา โทโมะ ที่มะรุมมะตุ้มกับเหล่านักเลง จนไม่ระวังตัว ถูกเฮียหนุ่มฟาดไม้นวดแป้งเข้าไปที่ท้ายทอยอย่างจัง จนล้มทั้งยืน" โทโมะ !!!! " ป๊อบปี้ตะโกนเรียกเพื่อนดังลั่น เมื่อเห็นโทโมะค่อยๆทอดกายลงไปนอนกับพื้นพี่นก ที่เจ็บปวดบาดแผลจนแทบขาดใจ กระโดดกอดร่างของเฮียหนุ่มเอาไว้" เฮ้ย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ !!! " เฮียหนุ่มสะบัดตัวให้พ้นพันธนาการของพี่นก ที่กอดรัดอยู่เคนตะวิ่งไปประคองร่างของโทโมะขึ้นมา ป๊อบปี้เองก็วิ่งไปเปิดประตูหลังร้านออก แล้วตะโกนเรียกเคนตะ" เร็วเข้า เร็ว " เสียงตะโกนของป๊อบปี้ เรียกสติของเคนตะ ให้วิ่งไปตามต้นเสียงเคนตะ พยุงร่างของโทโมะ วิ่งออกไป ป๊อบปี้จะเข้าไปช่วยพี่นก แต่ทว่า" ไม่ต้องมาห่วงกู รีบไป ป๊อบปี้ รีบหนีไป " พี่นกที่กำลังกอดเฮียหนุ่มอยู่สั่งป๊อบปี้ด้วยน้ำเสียงดุดันป๊อบปี้กระอักกระอ่วนใจ แต่ก็ต้องจำใจหนีไปทั้งน้ำตา เขาปิดประตูดังปัง แล้ววิ่งตามโทโมะกับเคนตะที่หนีไปก่อนแล้ว" รอช้าอยู่ทำไม รีบตามไปฆ่ามันสิวะ บัดซบ !!! " เฮียหนุ่มสั่งลูกน้องที่ยังสับประยุทธ์กันกับลูกน้องของพี่นกที่เหลือเพียง 4-5 คนลูกน้องของเฮียหนุ่มส่วนหนึ่งจะวิ่งไปเปิดประตู พี่นกเห็นเช่นนั้น จึงผละออกจากร่างของเฮียหนุ่ม ไปขวางทางพวกลิ่วล้อไว้พี่นกยืนบังประตู โดยมีกระทะเพียงหนึ่งใบใช้เป็นอาวุธ พี่นกที่ตาพร่ามัว เพราะเสียเลือดไปมากมาย เหวี่ยงมือที่ถือกระทะใบนั้นไปมั่วซั่ว เป็นการประกาศเจตนารมณ์ว่า ถึงตาย ก็จะไม่ยอมให้ใครผ่านประตูบานนี้ไปได้เด็ดขาดแต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ พี่นกถูกรุมทำร้ายจากกลุ่มนักเลงนับสิบจนสิ้นลมหายใจที่หน้าประตูนั่นเอง--------------------------------------เคนตะ ที่พยุงโทโมะมาจากเหตุการณ์นองเลือด ภายในภัตคารโหด กระเสือกกระสน มายังตึกร้าง ด้านหลังของภัตตาคาร เพื่อเป็นการหลบหนีสายตาของผู้คน เป็นการป้องกันการถูกตำรวจจับกุมไปในตัวด้วยโทโมะที่อ่อนแรง พลัดหลุดมือจากเคนตะ การถูกตีที่ท้ายทอย ทำให้กะโหลกของโทโมะร้าว เลือดกำเดาจึงไหลออกมาจากจมูกของเขาไม่หยุด เคนตะ จึงพาโทโมะมาพิงกับผลังตึก" เฮ้ย !!!โทโมะ โทโมะ แกเป็นยังบ้าง ยังไหวมั้ย ? " เคนตะเขย่าร่างของเพื่อนรักเป็นการเรียกสติโทโมะ ที่สลึมสลือ ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น" ฉัน.....ไหว ยัง...ไหว...อยู่ " โทโมะขยับปากพูดอย่างยากลำบาก" เออ งั้นรออยู่นี่แป๊บนึง ฉันจะไปดูป๊อบปี้กับพวกเราที่เหลืออยู่ " เคนตะบอก" พวกแกไม่ต้องไปไหนกันหรอก " เสียงปริศนาดังขึ้นด้านหลังของเคนตะเขื่อนนั่นเอง เขื่อนแอบตามเคนตะและโทโมะมาตั้งแต่ออกจากภัตตาคารมาแล้ว" ....เพราะพวกแกจะต้องถูกฉันฆ่าที่นี่นี่แหละ หึๆๆๆๆ " เขื่อนพูดแล้วหัวเราะในลำคออย่างเลือดเย็น" แก...ไอ้เขื่อน ไอ้เลวเอ๊ย ฉันจะฆ่าแก แล้วก็จะฆ่าพ่อแกด้วย " เคนตะ กันฟันพูดด้วยความแค้น เคนตะโผจากร่างของโทโมะ แล้วเงื้อหมัดพุ่งเข้าไปหาเขื่อน หมายจะซัดกำปั้นให้หน้าหงายปัง!!!!!!เสียงปืนดังขึ้น พร้อมกับร่างของเคนตะ ที่ค่อยๆล้มลงไป โทโมะได้แต่นั่งมองอย่างตกตะลึง แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะลุกขึ้นไปช่วยสหาย" ไอ้โง่เอ๊ย.... " เขื่อนที่ถือปืนแสยะยิ้มอย่างซาตาน พูดอย่างผู้มีชัย" หึๆๆๆๆ ฮ่ะๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ " เขื่อนระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง " คราวนี้ ถึงตาแกแล้ว ไอ้โทโมะ ตายตามเพื่อนแกไปซะ " เขื่อนพูดจบ ก็ยกปืนขึ้น แล้วเล็งไปยังโทโมะ ที่ได้แต่นั่งนิ่งมองดู" แก ไอ้เขื่อน..... " โทโมะได้แต่พูด แต่ร่างกายก็ขยับไปไหนไม่ได้เขื่อนค่อยๆเหนี่ยวไกปืนแล้วแสยะยิ้มอย่างใจเย็นโครม เอี๊ยด................!!!!!!ร่างของเขื่อน ลอยละลิ่ว ไปไกลกว่าสิบเมตร เมื่อตกมากระแทกพื้น ก็แน่นิ่งไป เลือดสดๆ ไหลออกจากหัวของเขาราวกับเปิดก๊อกรถที่พุ่งเข้าชน เบรกจนล้อลาก ก่อให้เกิดควันจาการเสียดสีเหม็นขึ้นมาจนฉุนจมูก" เฮ้ย โทโมะ ฉันมาช่วยแล้ว " ป๊อบปี้ลงจากรถคันนั้น แล้ววิ่งเข้ามาดูอาการของเพื่อนโทโมะ ค่อยๆคลานเข้ามาหาเคนตะ ที่นอนนิ่งไปหลังจากถูกยิง" โทโมะ.... " เคนตะรวบรวมกำลังที่เหลือค่อยๆพูดขึ้น" คะ...เคน...นี่แกถูกยิง " ป๊อบปี้ตกตะลึง เมื่อรู้ว่าเพื่อนรักถูกทำร้ายจนปางตาย" ป๊อบปี้เรอะ...หึๆๆๆ โทษทีนะ แต่ว่า ฮึก.. " เคนตะเริ่มสะอื้น " ฉันไปต่อไม่ไหวแล้ว... ฮึกๆ ฉัน...ฉัน... ช่วยแก้แค้น....ให้พวกเรา......ทุกคนด้วย " เคนตะพูดทั้งน้ำตา" เคนตะ แก... แกต้องไม่เป็นไรนะเว้ย แข็งใจไว้ ฉันจะพาแกไปโรงบาล " ป๊อบปี้พูดอย่างตื่นตระหนก น้ำเสียงสั่นเครือ" อย่าพยายามเลย.....ฉันไม่ไหวแล้ว อั๊ค!!!! " สิ้นเสียง เคนตะก็กระอักเลือดออกมาจากปาก มือของเขาบีบแน่นกับมือของโทโมะที่จับเอาไว้" เคนตะ มึงอย่าหลับนะโว้ย เคนตะ เหิ้ย...... มึงฟังเสียงกูซี่..... ตื่น...... ตื่นเด้ มึงได้ยินมั้ย โฮๆๆๆๆๆ " ป๊อบปี้เขย่า ตัวเพื่อนรักราวกับคนเสียสติ เคนตะ ที่สิ้นใจไปแล้ว ยังหลับตาไม่สนิทนัก โทโมะ ที่เอาแต่สะอื้นน้ำตาไหล ค่อยเอามือปิดเปลือกตาของเพื่อนรักลงเสียงร่ำไห้อย่างบ้าคลั่ง ดังระงมไปทั่วบริเวณ เพื่อนรัก และลูกพี่ที่นับถือ เพื่อนร่วมอุดมการณ์มากมาย ต้องเอาชีวิตไปทิ้งในเหตุการณ์นองเลือดครั้งนี้อันธพาล ไม่เคยได้ดี.............!!!!!-------------------------------------------------------------ที่บ้านของแก้วป้าพิศ กำลังเก็บเสื้อผ้าของแก้วยัดลงกระเป๋าใบโต แต่ตัวแก้วเอง ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง ป้าพิศที่เลี้ยงดูหนูแก้วมาตั้งแต่เด็ก ก็ได้แต่สงสาร แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเพียงแค่คนรับใช้" คุณหนูค่ะ..... " ป้าพิศเรียก พร้อมลงนั่งเคียงข้าง แล้วดึงแก้วเข้ามาสวมกอด" ป้าเข้าใจความรู้สึกของคุณหนูดีค่ะ " ป้าพิศปลอบ" ป้าพิศค่ะ หนูรักเค้ามาก หนูไม่อยากพรากจากเขาไปไหนเลย ฮึก ๆ " แก้วสะอื้น" หนูแก้วของป้าโตแล้ว รักหนุ่มก็เป็นแล้ว หนูแก้วสามารถเลือกทางเดินชีวิตตัวเองได้แล้วนะ ป้าคิดว่า ที่คุณแม่พาหนูไปคราวนี้ อาจจะไม่ใช่เส้นทางที่ดีที่สุด แต่หนูแก้วต้องทำใจยอมรับมัน สักวันมันจะดีเอง ป้าเชื่ออย่างนั้น " ป้าพิศพยายามโน้มน้าวใจแก้ว" ต่อให้หนูต้องหนีไปหาเค้า หนูก็จะทำ....... ฮึก " แก้วพูดขึ้นป้าพิศเองก็หนักใจ แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้นะ จึงได้แต่ลูบหัวคุณหนูของตนอย่างเอ็นดู" โถ...หนูแก้วของป้า..... "--------------------------------------------------------------------ป๊อบปี้ ขับรถมาอย่างเรื่อยเปื่อย โทโมะที่นั่งอยู่เบาะหลัง ซึ่งยังมีอาการเลือดกำเดาไหลไม่หยุด ก็ยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดฉับพลัน เขาก็มีความรู้สึกแปลกว่ามีบางอย่างอยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขาเอง โทโมะจึงล้วงหยิบมันขึ้นมา ก็พบว่ามันเป็นจดหมาย ที่แก้วเขียนเอาไว้เมื่อวาน เขาอ่านจนจบ น้ำตาก็ไหลออกมา เขาสูญเสียเพื่อน และลูกพี่ที่เคารพยังไม่พอ หนำซ้ำยังต้องมาเสียคนรักตามไปอีกป๊อบปี้มองผ่านกระจกมองหลัง ก็เอ่ยปากถาม" เป็นอะไรของมึงว่ะ ? " " ปล่าว...ฉันแค่.....รู้สึกว่าตัวเองมันไร้ค่า " โทโมะพูดตัดพ้อ" เกิดเป็นนักเลง ถึงจะมีศักดิ์ศรีที่เราภูมิใจ แต่คนอื่นก็มองเราไม่มีค่าของความเป็นคน มันก็ถูกแล้วที่แกจะคิดอย่างนั้น " ป๊อบปี้พูด ยิ่งตอกย้ำให้โทโมะน้ำตาไหลมากกว่าเดิม" แล้วเราจะเอาไงต่อไปดี ? " โทโมะถามป๊อบปี้ ป๊อบปี้ไม่ตอบ เขาหักรถไปจอดข้างทาง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาขึ้นมา กดหาเบอร์โทรที่คุ้นเคย" ...............ฟางเหรอ ? " ป๊อบปี้ถาม เมื่อปลายทางรับสาย" จ้า........พี่ป๊อบ พี่หายไปไหนมาทั้งวัน ฟางโทรไปก็ปิดเครื่อง " เสียงใสๆในโทรศัพท์พูดขึ้น " ......................... " ป๊อบปี้เงียบเหมือนใช้ความคิด" พี่ป๊อบ พี่ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมเสียงพี่แปลกๆ " เสียงของฟางเอ่ยถาม" ฟาง......พี่ว่าเราเลิกกันเหอะ " ป๊อบปี้ตัดสินใจพูด" พี่ป๊อบ......พี่เล่นตลกอะไร ฟางไม่เล่นด้วยนะ " เสียงใสๆ เริ่มสั่น ราวกับกำลังจะสะอื้นไห้" พี่พูดจริง ต่อไปนี้ เราจบกัน แล้วไม่ต้องมาถามอะไรจากพี่อีก เราเลิกกัน แค่นี้นะ "" เดี๋ยวก่อน...พี่ป๊อบ เดี๋ยว....!!!!! "ป๊อบปี้กดตัดสายทิ้ง น้ำตาก็ไหลออกมา เขาเปิดประตูรถแล้วเดินลงมา ขว้างโทรศัพท์ลงกับพื้น" โถ่.....โว้ย............!!!!!!!!!!!!! โฮๆๆๆๆ " ป๊อบปี้ตะโกนขึ้นฟ้าอย่างบ้าคลั่งชายหนุ่มพิงตัวกับรถอย่างเหนื่อยล้า แล้วค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลง จากนั้นก็เริ่มทึ้งผมตัวเอง เอาท้ายทอยโขกกับประตูรถอย่างกับคนบ้า" โฮๆๆๆๆ ฮือๆๆ โฮๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ ทำไม ทำไมกัน.......โฮๆๆๆๆๆๆๆ " ป๊อบปี้คุ้มคลั่งไปเสียแล้วโทโมะที่นั่งมองดูการกระทำของเพื่อนตั้งแต่ต้น ก็รู้ว่านี่คือเส้นทางสุดท้าย ที่ป๊อบปี้จะเลือกเขาหยิบ กระดาษจดหมายของแก้วมานั่งดูอย่างเศร้าใจ---------------------------------------- ที่บ้านของแก้วในเวลาเย็นย่ำลุงเริงยกกระเป๋าขึ้นรถ ตามด้วยแก้วที่เดินออกจากบ้านอย่างเหม่อลอยแม่ของแก้ว ก็เดินสั่งงานกับป้าพิศ ตามแก้วมาติดๆ" แก้ว ไปรอแม่ที่รถก่อนไป.... " แม่สั่ง แก้วจึงค่อยๆ เดินมาที่รถอย่างช้าๆ ราวกับร่างกายที่ไม่มีวิญญาณ" นี่ป้าพิศ ท่อประปา อย่าลืมเรียกช่างมาซ่อมนะ........บลาๆๆๆ ฯลฯ " แม่ของแก้วร่ายยาว ป้าพิศก็ก้มหัวรับคำ เหมือนกับกิ้งก่าที่ได้ยินเสียงผิวปากแก้วเดินมาจะเปิดประตูรถ ก็มีบางอย่างดลใจ ให้เธอมองไปที่หน้าบ้านสิ่งที่สายตาของเธอเห็น คือรถมอเตอร์ไซต์ ฮายาบุสะ สีส้ม ของโทโมะนั่นเอง โทโมะที่นั่งหันหลังให้ ก็มีความรู้สึกว่ามีสายตาจับจ้องตนอยู่ จึงค่อยๆ หันหน้ากลับมามองดู
เพลงประกอบฉาก
แก้วที่มองเห็นสภาพของคนรักที่ราวกับซากศพเดินได้เธอเอามือขึ้นป้องปาก ป้องกันเสียงสะอื้นไม่ให้แม่ได้ยิน แล้วก็วิ่งเข้ามาสวมกอดชายคนรัก น้ำตาก็ไหลไม่หยุดสาวน้อยเอามือขึ้นปัดผม เอามือลูบไล้ใบหน้าที่ฟกช้ำดำเขียวของชายหนุ่ม เป็นสภาพที่น่าสงสารเหลือเกิน
" เธอจะไปกับฉันมั้ย.... " โทโมะเอ่ยปาดพูดอย่างเหนื่อยแรงแก้วพยักหน้าเป็นการตอบตกลง แทรมไปด้วยเสียงสะอื้นในลำคอของเธอ" เธอจะไม่เสียใจแน่....นะ " โทโมะถามย้ำอีกครั้ง" ไม่ว่าโทโมะจะไปไหน ฮึก..... แก้วก็จะไปด้วย เราจะไม่พรากจากกัน ฮึกๆ " แก้วพูดพลางร้องไห้พลาง
ป้าพิศแอบแว้บไปเห็นพอดี จึงทำเนียนชี้ให้คุณหญิงดูสวนดอกไม้" แล้วต้นไม้นี่ จะให้ตัดเลยมั้ยค่ะ...... " ป้าพิศทำเนียนพาคุยคุณหญิงวิชุดา ก็ชี้โบ๊ชี้เบ๊ ไปตามเรื่องราวพลัน ก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์ดังขึ้น คุณหญิงหันหลังมา ก็พบว่าแก้วไม่ได้อยู่ในรถ " แก้ว.... กลับมาเดี๋ยวนี้ " คุณหญิงวิ่งตามลูกสาวออกไป แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วบนท้องถนนยามค่ำคืน แก้วที่ซ้อนท้ายคนรักของเธอมา ก็มีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าของเธอเสียทีสาวน้อยซบใบหน้าขาวเนียนของเธอลงบนแผ่นหลังของชายหนุ่ม แล้วกอดเอาไว้แนบแน่น
โทโมะ เอารถมาจอดหน้าร้านรับจัดงานแต่งงาน เขาใช้เงินที่เหลือทั้งหมดเช่าชุดแต่งงานมาสองตัว
แก้วมองดูอยู่ข้างนอกร้านก็ยิ้มทั้งน้ำตา เธอยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาแห่งความสุขที่พราั่งพรูออกมา
โทโมะในชุดสูทแต่งงานสีขาว และแก้วในชุดเจ้าสาวขาวสวย ขับรถซ้อนกันบนถนนที่เต็มไปด้วยแสงสีของเมืองหลวงในยามค่ำคืนเลือดกำเดาของโทโมะ ที่เหมือนว่าหยุดไหลไปแล้ว กลับเริ่มหยดลงบนมือของแก้ว ที่สวมกอดชายหนุ่มเอาไว้
-------------------------------------------
เฮียหนุ่ม โทรหาลูกชายอย่างร้อนใจ แต่ก็ไม่มีการรับสาย " มันหายไปไหนของมันในเวลาแบบนี้นะ ไอ้ลูกคนนี้ " เฮียหนุ่มพูดขึ้นอย่างโมโห" เฮียครับ ได้เวลาไปเก็บส่วยที่ดาวดึงส์อาบอบนวดแล้วครับเฮีย " ลูกน้องเดินเข้ามาบอกหัวหน้าของตน ที่นั่งอยู่บนโซฟา" เออๆๆ ไปก็ไป " เฮียหนุ่มรับคำอย่างฉุนเฉียว
---------------------------------------
รถของโทโมะ มาจอดอีกครั้ง ที่โบสถ์คริสต์แห่งหนึ่ง เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น " เออ....ป๊อบเหรอ ว่าไง...... อืม....... โอเค เสร็จธุระแล้วฉันจะรีบไป " พูดจบโทโมะก็กดวางสาย
โทโมะหันมายิ้มให้แก้ว แก้วเองก็ยิ้มรับโทโมะ
น้ำตาเธอยังไม่หยุดไหล มันเป็นน้ำตาแห่งความยินดี
นี่คือสิ่งที่เธอต้องการจากชายคนรักของเธอมากที่สุด
ชายหนุ่มจูงมือสาวน้อย คนรักของเขา มาที่หน้ารูปปั้นพระแม่มารีย์โทโมะค่อยๆล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกง เขาหยิบแหวนขึ้นมา แล้วดึงมือซ้ายของแก้วขึ้นมาด้วยโทโมะบรรจงสวมแหวนลงไป แก้วยิ้มเขิน แต่น้ำตาก็พรั่งพรูตามมา
โทโมะเงยหน้าขึ้นมา ชายหนุ่มร่างสูง ค่อยๆโน้มตัวลงมาจุมพิตคนรักของเขาแก้วหลับตาพริ้ม รอรับจูบอันดูดดื่มของชายหนุ่มที่เธอรักนักหนาริมฝีปากของโทโมะ บรรจงประทับลงบนฝีปากนุ่มนวลของแก้วอย่างแผ่วเบา และเนิ่นนาน...........................................
โปรดติดตามตอนอวสาน
ปล. ตอนนี้ จัดเต็ม ให้อ่านกันยาวๆ เลยครับ
ไม่รู้จะถูกใจกันหรือเปล่า ยังไงๆ ก็ช่วยคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ อีกตอนเดียวก็จะอวสานแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ