A moment of Romance ชาตินี้ทั้งชาติจะไม่พรากจากเธอ
20)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความภัตตาคารอาหารจีน สถานที่ซึ่งเป็นที่ประชุมครั้งใหญ่ระหว่าง เฮียหน่ม และ พี่นก
ประตูหน้าร้านขึ้นป้ายและตัวอักษรไว้ว่า ปิดร้าน 1 วัน
ภายในร้าน เหล่าลูกน้องทั้งสองฝ่าย นับสามสิบคน ต่างจ้องหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับว่าจะกลืนกินเลือดเนื้อกันเลยทีเดียว
พี่นกและโทโมะ ป๊อบปี้ เคนตะ รวมลูกน้องอีกเกือบยี่สิบคน นั่งอยู่อีกฟากของร้าน โดยที่พี่นกนั้น นั่งร่วมโต๊ะเดียวกันกับ เฮียหนุ่ม
โทโมะสอดสายตามองหาเขื่อน ก็ไม่พบตัว เจอแต่เหล่าลูกน้องของเฮียหนุ่มในจำนวนพอๆกับฝ่ายของเขาเอง
บรรยากาศภายในร้านนั้นเงียบราวป่าช้า แต่ทว่า คำพูดของพี่นกก็เอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบนั้น
" ไอ้หนุ่ม แกต้องการอะไร ? " พี่นกถามคู่กรณี
" ไม่น่าถาม กองทัพยังต้องมีนายกอง แก๊งค์นี้มันจะขาดหัวหน้าไม่ได้โว้ย แกน่ะ เลิกจากวงการนี้ไปซะ" เฮียหนุ่มพูดเสียงดัง
" แล้วแกจะเอายังไง ถึงฉันจะออกจากวงการ แต่ใช่ว่าลูกน้องฉันจะยอมรับนายทั้งหมด" พี่นกอ้างเหตุผล
" จะยังไงก็เรื่องของแก แต่ฉันขอลูกน้องแกทั้งหมด ยกเว้นไอ้โทโมะ ฉันมีแค้นส่วนตัวกับมัน " เฮียหนุ่มเอ่ยวาจาอาฆาตโทโมะ
" เฮ้ย !!! แกพูดยังงี้ได้ไงว้ะ ? " เสียงของเหล่าลูกน้องของพี่นก โดยมีป๊อบปี้เป็นแกนนำ ไม่พอใจ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หมายจะเข้าไปทำร้ายเฮียหนุ่ม แต่ฝั่งลูกน้องเฮียหนุ่มก็ยืนขึ้นเข้ามาประจันหน้ากัน
" หยุดเดี๋ยวนี้ ป๊อบปี้ นั่งลงซะ !!! " พี่นก สั่งห้ามลูกน้องของตน
" ไอ้หนุ่ม.... ถึงแกจะพูดขนาดนี้ แต่ลูกน้องฉันก็ไม่คล้อยตามแกหรอก... " พี่นกพูดต่อ
" ถ้างั้น พวกแกกับฉันก็จบกันแค่นี้ " เฮียหนุ่มพูดจบก็ตบโต๊ะดังปัง แล้วลุกขึ้นยืน พี่นกลุกขึ้นตาม แต่หารู้มั้ยว่า เฮียหนุ่มชักมีดที่เหน็บอยู่ใต้โต๊ะขึ้นมาจ้วงแทงเข้าที่ลิ้นปี่ของพี่นกจนมีดปักเข้าไปแทบมิดด้าม ก่อนจะดึงมีดที่ปากแผลออกมา
ท่ามกวามความตกตะลึงของเหล่าลูกน้องที่ดูเหตุการณ์อยู่
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น โทโมะ ป๊อบปี้ เคนตะ และเหล่าลูกน้องคนอื่นๆ ก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง โผเข้าหาพรรคพวกของเฮียหนุ่ม ที่โดดเข้ามาประจันหน้าเช่นกัน
เหล่านักเลงทั้งสองฝ่าย ต่างเข้าห้ำหั่นกัน ด้วยอาวุธที่มี
" ถ้ากูตาย มึงลำบากแน่ ไอ้หนุ่ม อั่ก ..... " พี่นกพูดด้วยความโกรธ และมีมีดแทงอยู่ที่ท้อง
ลูกน้องของเฮียหนุ่มคนหนึ่ง พยายาม พาพี่นกออกไปจากห้องนี้ โดยมีพวกโทโมะ คอยฟัดกับลูกน้องเฮียหนุ่มไว้
" ฆ่ามัน ฆ่ามันให้หมด อย่าให้ไอ้หนุ่มมันหนีไปได้ " เฮียหนุ่มสั่งการลูกน้อง
" พาพี่นกหนีไปหลังร้าน ข้างหน้ามีพวกมันอยู่ " ป๊อบปี้ตะโกนสั่งลูกน้องคนที่พาพี่นกหนี
โทโมะหยิบเก้าอี้ขึ้นมาฟาดพวกเหฃ่าลิ่วล้อเฮียหนุ่มคนแล้วคนเล่า โดยมีป๊อบปี้ และเคนตะคอยช่วยเหลือ แต่ว่า พวกเขาไม่ได้เตรียมใจว่าจะเจอเหตุการณ์โหดร้ายขนาดนี้
จึงไม่ทันตั้งตัว เพื่อนๆของโทโมะคนแล้วคนเล่า ต้องถูกทำร้ายจนล้มไปกับพื้น
" ไม่ไหวแล้ว เรารีบหนีกันเหอะ " เคนตะบอกโทโมะ
โทโมะเองก็รู้สถานการณ์ดี จึงรีบวิ่งไปบริเวณหลังร้าน ซึ่งมีเคนตะ และ ป๊อบปี้ วิ่งตามมาด้วย
พวกลูกน้องของเฮียหนุ่มเอก็ตามโทโมะไปติดๆ
บริเวณหลังร้าน เป็นห้องครัว โทโมะจึงหยิบมีดขึ้นมาสู้กับพวกนักเลงที่วิ่งตามมา เขาฟาดฟัน พวกมันจนเลือดสาดเต็มพื้น
โทโมะ เคนตะ ป๊อบปี้ พี่นกที่บาดเจ็บ และลูกน้องคนอื่นๆที่ยังเหลืออยู่ ต่อยตีกับพวกของเฮียหนุ่มที่เหนือกว่า อย่างไม่หวั่นเกรง
เฮียหนุ่ม ที่มีความแค้นกับโทโมะ ค่อยๆย่างสามขุมเข้ามาอย่างใจเย็น แล้วหยิบไม้นวดแป้งที่วางอยู่บนโต๊ะทำอาหารขึ้นมา
โทโมะ ที่มะรุมมะตุ้มกับเหล่านักเลง จนไม่ระวังตัว ถูกเฮียหนุ่มฟาดไม้นวดแป้งเข้าไปที่ท้ายทอยอย่างจัง จนล้มทั้งยืน
" โทโมะ !!!! " ป๊อบปี้ตะโกนเรียกเพื่อนดังลั่น เมื่อเห็นโทโมะค่อยๆทอดกายลงไปนอนกับพื้น
พี่นก ที่เจ็บปวดบาดแผลจนแทบขาดใจ กระโดดกอดร่างของเฮียหนุ่มเอาไว้
" เฮ้ย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ !!! " เฮียหนุ่มสะบัดตัวให้พ้นพันธนาการของพี่นก ที่กอดรัดอยู่
เคนตะวิ่งไปประคองร่างของโทโมะขึ้นมา ป๊อบปี้เองก็วิ่งไปเปิดประตูหลังร้านออก แล้วตะโกนเรียกเคนตะ
" เร็วเข้า เร็ว " เสียงตะโกนของป๊อบปี้ เรียกสติของเคนตะ ให้วิ่งไปตามต้นเสียง
เคนตะ พยุงร่างของโทโมะ วิ่งออกไป ป๊อบปี้จะเข้าไปช่วยพี่นก แต่ทว่า
" ไม่ต้องมาห่วงกู รีบไป ป๊อบปี้ รีบหนีไป " พี่นกที่กำลังกอดเฮียหนุ่มอยู่สั่งป๊อบปี้ด้วยน้ำเสียงดุดัน
ป๊อบปี้กระอักกระอ่วนใจ แต่ก็ต้องจำใจหนีไปทั้งน้ำตา เขาปิดประตูดังปัง แล้ววิ่งตามโทโมะกับเคนตะที่หนีไปก่อนแล้ว
" รอช้าอยู่ทำไม รีบตามไปฆ่ามันสิวะ บัดซบ !!! " เฮียหนุ่มสั่งลูกน้องที่ยังสับประยุทธ์กันกับลูกน้องของพี่นกที่เหลือเพียง 4-5 คน
ลูกน้องของเฮียหนุ่มส่วนหนึ่งจะวิ่งไปเปิดประตู พี่นกเห็นเช่นนั้น จึงผละออกจากร่างของเฮียหนุ่ม ไปขวางทางพวกลิ่วล้อไว้
พี่นกยืนบังประตู โดยมีกระทะเพียงหนึ่งใบใช้เป็นอาวุธ
พี่นกที่ตาพร่ามัว เพราะเสียเลือดไปมากมาย เหวี่ยงมือที่ถือกระทะใบนั้นไปมั่วซั่ว เป็นการประกาศเจตนารมณ์ว่า
ถึงตาย ก็จะไม่ยอมให้ใครผ่านประตูบานนี้ไปได้เด็ดขาด
แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ พี่นกถูกรุมทำร้ายจากกลุ่มนักเลงนับสิบจนสิ้นลมหายใจที่หน้าประตูนั่นเอง
--------------------------------------
เคนตะ ที่พยุงโทโมะมาจากเหตุการณ์นองเลือด ภายในภัตคารโหด กระเสือกกระสน มายังตึกร้าง ด้านหลังของภัตตาคาร
เพื่อเป็นการหลบหนีสายตาของผู้คน เป็นการป้องกันการถูกตำรวจจับกุมไปในตัวด้วย
โทโมะที่อ่อนแรง พลัดหลุดมือจากเคนตะ การถูกตีที่ท้ายทอย ทำให้กะโหลกของโทโมะร้าว
เลือดกำเดาจึงไหลออกมาจากจมูกของเขาไม่หยุด เคนตะ จึงพาโทโมะมาพิงกับผลังตึก
" เฮ้ย !!!โทโมะ โทโมะ แกเป็นยังบ้าง ยังไหวมั้ย ? " เคนตะเขย่าร่างของเพื่อนรักเป็นการเรียกสติ
โทโมะ ที่สลึมสลือ ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น
" ฉัน.....ไหว ยัง...ไหว...อยู่ " โทโมะขยับปากพูดอย่างยากลำบาก
" เออ งั้นรออยู่นี่แป๊บนึง ฉันจะไปดูป๊อบปี้กับพวกเราที่เหลืออยู่ " เคนตะบอก
" พวกแกไม่ต้องไปไหนกันหรอก " เสียงปริศนาดังขึ้นด้านหลังของเคนตะ
เขื่อนนั่นเอง เขื่อนแอบตามเคนตะและโทโมะมาตั้งแต่ออกจากภัตตาคารมาแล้ว
" ....เพราะพวกแกจะต้องถูกฉันฆ่าที่นี่นี่แหละ หึๆๆๆๆ " เขื่อนพูดแล้วหัวเราะในลำคออย่างเลือดเย็น
" แก...ไอ้เขื่อน ไอ้เลวเอ๊ย ฉันจะฆ่าแก แล้วก็จะฆ่าพ่อแกด้วย " เคนตะ กันฟันพูดด้วยความแค้น
เคนตะโผจากร่างของโทโมะ แล้วเงื้อหมัดพุ่งเข้าไปหาเขื่อน หมายจะซัดกำปั้นให้หน้าหงาย
ปัง!!!!!!
เสียงปืนดังขึ้น พร้อมกับร่างของเคนตะ ที่ค่อยๆล้มลงไป
โทโมะได้แต่นั่งมองอย่างตกตะลึง แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะลุกขึ้นไปช่วยสหาย
" ไอ้โง่เอ๊ย.... " เขื่อนที่ถือปืนแสยะยิ้มอย่างซาตาน พูดอย่างผู้มีชัย
" หึๆๆๆๆ ฮ่ะๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ " เขื่อนระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง " คราวนี้ ถึงตาแกแล้ว ไอ้โทโมะ ตายตามเพื่อนแกไปซะ " เขื่อนพูดจบ ก็ยกปืนขึ้น แล้วเล็งไปยังโทโมะ ที่ได้แต่นั่งนิ่งมองดู
" แก ไอ้เขื่อน..... " โทโมะได้แต่พูด แต่ร่างกายก็ขยับไปไหนไม่ได้
เขื่อนค่อยๆเหนี่ยวไกปืนแล้วแสยะยิ้มอย่างใจเย็น
โครม เอี๊ยด................!!!!!!
ร่างของเขื่อน ลอยละลิ่ว ไปไกลกว่าสิบเมตร เมื่อตกมากระแทกพื้น ก็แน่นิ่งไป เลือดสดๆ ไหลออกจากหัวของเขาราวกับเปิดก๊อก
รถที่พุ่งเข้าชน เบรกจนล้อลาก ก่อให้เกิดควันจาการเสียดสีเหม็นขึ้นมาจนฉุนจมูก
" เฮ้ย โทโมะ ฉันมาช่วยแล้ว " ป๊อบปี้ลงจากรถคันนั้น แล้ววิ่งเข้ามาดูอาการของเพื่อน
โทโมะ ค่อยๆคลานเข้ามาหาเคนตะ ที่นอนนิ่งไปหลังจากถูกยิง
" โทโมะ.... " เคนตะรวบรวมกำลังที่เหลือค่อยๆพูดขึ้น
" คะ...เคน...นี่แกถูกยิง " ป๊อบปี้ตกตะลึง เมื่อรู้ว่าเพื่อนรักถูกทำร้ายจนปางตาย
" ป๊อบปี้เรอะ...หึๆๆๆ โทษทีนะ แต่ว่า ฮึก.. " เคนตะเริ่มสะอื้น " ฉันไปต่อไม่ไหวแล้ว... ฮึกๆ ฉัน...ฉัน... ช่วยแก้แค้น....ให้พวกเรา......ทุกคนด้วย " เคนตะพูดทั้งน้ำตา
" เคนตะ แก... แกต้องไม่เป็นไรนะเว้ย แข็งใจไว้ ฉันจะพาแกไปโรงบาล " ป๊อบปี้พูดอย่างตื่นตระหนก น้ำเสียงสั่นเครือ
" อย่าพยายามเลย.....ฉันไม่ไหวแล้ว อั๊ค!!!! " สิ้นเสียง เคนตะก็กระอักเลือดออกมาจากปาก มือของเขาบีบแน่นกับมือของโทโมะที่จับเอาไว้
" เคนตะ มึงอย่าหลับนะโว้ย เคนตะ เหิ้ย...... มึงฟังเสียงกูซี่..... ตื่น...... ตื่นเด้ มึงได้ยินมั้ย โฮๆๆๆๆๆ " ป๊อบปี้เขย่า ตัวเพื่อนรักราวกับคนเสียสติ
เคนตะ ที่สิ้นใจไปแล้ว ยังหลับตาไม่สนิทนัก โทโมะ ที่เอาแต่สะอื้นน้ำตาไหล ค่อยเอามือปิดเปลือกตาของเพื่อนรักลง
เสียงร่ำไห้อย่างบ้าคลั่ง ดังระงมไปทั่วบริเวณ เพื่อนรัก และลูกพี่ที่นับถือ เพื่อนร่วมอุดมการณ์มากมาย ต้องเอาชีวิตไปทิ้งในเหตุการณ์นองเลือดครั้งนี้
อันธพาล ไม่เคยได้ดี.............!!!!!
-------------------------------------------------------------
ที่บ้านของแก้ว
ป้าพิศ กำลังเก็บเสื้อผ้าของแก้วยัดลงกระเป๋าใบโต
แต่ตัวแก้วเอง ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง ป้าพิศที่เลี้ยงดูหนูแก้วมาตั้งแต่เด็ก ก็ได้แต่สงสาร แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเพียงแค่คนรับใช้
" คุณหนูค่ะ..... " ป้าพิศเรียก พร้อมลงนั่งเคียงข้าง แล้วดึงแก้วเข้ามาสวมกอด
" ป้าเข้าใจความรู้สึกของคุณหนูดีค่ะ " ป้าพิศปลอบ
" ป้าพิศค่ะ หนูรักเค้ามาก หนูไม่อยากพรากจากเขาไปไหนเลย ฮึก ๆ " แก้วสะอื้น
" หนูแก้วของป้าโตแล้ว รักหนุ่มก็เป็นแล้ว หนูแก้วสามารถเลือกทางเดินชีวิตตัวเองได้แล้วนะ ป้าคิดว่า ที่คุณแม่พาหนูไปคราวนี้ อาจจะไม่ใช่เส้นทางที่ดีที่สุด แต่หนูแก้วต้องทำใจยอมรับมัน สักวันมันจะดีเอง ป้าเชื่ออย่างนั้น " ป้าพิศพยายามโน้มน้าวใจแก้ว
" ต่อให้หนูต้องหนีไปหาเค้า หนูก็จะทำ....... ฮึก " แก้วพูดขึ้น
ป้าพิศเองก็หนักใจ แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้นะ จึงได้แต่ลูบหัวคุณหนูของตนอย่างเอ็นดู
" โถ...หนูแก้วของป้า..... "
--------------------------------------------------------------------
ป๊อบปี้ ขับรถมาอย่างเรื่อยเปื่อย
โทโมะที่นั่งอยู่เบาะหลัง ซึ่งยังมีอาการเลือดกำเดาไหลไม่หยุด ก็ยกแขนเสื้อขึ้นเช็ด
ฉับพลัน เขาก็มีความรู้สึกแปลกว่ามีบางอย่างอยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขาเอง
โทโมะจึงล้วงหยิบมันขึ้นมา ก็พบว่ามันเป็นจดหมาย ที่แก้วเขียนเอาไว้เมื่อวาน เขาอ่านจนจบ น้ำตาก็ไหลออกมา เขาสูญเสียเพื่อน และลูกพี่ที่เคารพยังไม่พอ หนำซ้ำยังต้องมาเสียคนรักตามไปอีก
ป๊อบปี้มองผ่านกระจกมองหลัง ก็เอ่ยปากถาม
" เป็นอะไรของมึงว่ะ ? "
" ปล่าว...ฉันแค่.....รู้สึกว่าตัวเองมันไร้ค่า " โทโมะพูดตัดพ้อ
" เกิดเป็นนักเลง ถึงจะมีศักดิ์ศรีที่เราภูมิใจ แต่คนอื่นก็มองเราไม่มีค่าของความเป็นคน มันก็ถูกแล้วที่แกจะคิดอย่างนั้น " ป๊อบปี้พูด ยิ่งตอกย้ำให้โทโมะน้ำตาไหลมากกว่าเดิม
" แล้วเราจะเอาไงต่อไปดี ? " โทโมะถามป๊อบปี้
ป๊อบปี้ไม่ตอบ เขาหักรถไปจอดข้างทาง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาขึ้นมา กดหาเบอร์โทรที่คุ้นเคย
" ...............ฟางเหรอ ? " ป๊อบปี้ถาม เมื่อปลายทางรับสาย
" จ้า........พี่ป๊อบ พี่หายไปไหนมาทั้งวัน ฟางโทรไปก็ปิดเครื่อง " เสียงใสๆในโทรศัพท์พูดขึ้น
" ......................... " ป๊อบปี้เงียบเหมือนใช้ความคิด
" พี่ป๊อบ พี่ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมเสียงพี่แปลกๆ " เสียงของฟางเอ่ยถาม
" ฟาง......พี่ว่าเราเลิกกันเหอะ " ป๊อบปี้ตัดสินใจพูด
" พี่ป๊อบ......พี่เล่นตลกอะไร ฟางไม่เล่นด้วยนะ " เสียงใสๆ เริ่มสั่น ราวกับกำลังจะสะอื้นไห้
" พี่พูดจริง ต่อไปนี้ เราจบกัน แล้วไม่ต้องมาถามอะไรจากพี่อีก เราเลิกกัน แค่นี้นะ "
" เดี๋ยวก่อน...พี่ป๊อบ เดี๋ยว....!!!!! "
ป๊อบปี้กดตัดสายทิ้ง น้ำตาก็ไหลออกมา เขาเปิดประตูรถแล้วเดินลงมา ขว้างโทรศัพท์ลงกับพื้น
" โถ่.....โว้ย............!!!!!!!!!!!!! โฮๆๆๆๆ " ป๊อบปี้ตะโกนขึ้นฟ้าอย่างบ้าคลั่ง
ชายหนุ่มพิงตัวกับรถอย่างเหนื่อยล้า แล้วค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลง จากนั้นก็เริ่มทึ้งผมตัวเอง เอาท้ายทอยโขกกับประตูรถอย่างกับคนบ้า
" โฮๆๆๆๆ ฮือๆๆ โฮๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ ทำไม ทำไมกัน.......โฮๆๆๆๆๆๆๆ " ป๊อบปี้คุ้มคลั่งไปเสียแล้ว
โทโมะที่นั่งมองดูการกระทำของเพื่อนตั้งแต่ต้น ก็รู้ว่านี่คือเส้นทางสุดท้าย ที่ป๊อบปี้จะเลือก
เขาหยิบ กระดาษจดหมายของแก้วมานั่งดูอย่างเศร้าใจ
----------------------------------------
ที่บ้านของแก้วในเวลาเย็นย่ำ
ลุงเริงยกกระเป๋าขึ้นรถ ตามด้วยแก้วที่เดินออกจากบ้านอย่างเหม่อลอย
แม่ของแก้ว ก็เดินสั่งงานกับป้าพิศ ตามแก้วมาติดๆ
" แก้ว ไปรอแม่ที่รถก่อนไป.... " แม่สั่ง แก้วจึงค่อยๆ เดินมาที่รถอย่างช้าๆ ราวกับร่างกายที่ไม่มีวิญญาณ
" นี่ป้าพิศ ท่อประปา อย่าลืมเรียกช่างมาซ่อมนะ........บลาๆๆๆ ฯลฯ " แม่ของแก้วร่ายยาว ป้าพิศก็ก้มหัวรับคำ เหมือนกับกิ้งก่าที่ได้ยินเสียงผิวปาก
แก้วเดินมาจะเปิดประตูรถ ก็มีบางอย่างดลใจ ให้เธอมองไปที่หน้าบ้าน
สิ่งที่สายตาของเธอเห็น คือรถมอเตอร์ไซต์ ฮายาบุสะ สีส้ม ของโทโมะนั่นเอง
โทโมะที่นั่งหันหลังให้ ก็มีความรู้สึกว่ามีสายตาจับจ้องตนอยู่ จึงค่อยๆ หันหน้ากลับมามองดู
เพลงประกอบฉาก
แก้วที่มองเห็นสภาพของคนรักที่ราวกับซากศพเดินได้
เธอเอามือขึ้นป้องปาก ป้องกันเสียงสะอื้นไม่ให้แม่ได้ยิน แล้วก็วิ่งเข้ามาสวมกอดชายคนรัก น้ำตาก็ไหลไม่หยุด
สาวน้อยเอามือขึ้นปัดผม เอามือลูบไล้ใบหน้าที่ฟกช้ำดำเขียวของชายหนุ่ม
เป็นสภาพที่น่าสงสารเหลือเกิน
" เธอจะไปกับฉันมั้ย.... " โทโมะเอ่ยปาดพูดอย่างเหนื่อยแรง
แก้วพยักหน้าเป็นการตอบตกลง แทรมไปด้วยเสียงสะอื้นในลำคอของเธอ
" เธอจะไม่เสียใจแน่....นะ " โทโมะถามย้ำอีกครั้ง
" ไม่ว่าโทโมะจะไปไหน ฮึก..... แก้วก็จะไปด้วย เราจะไม่พรากจากกัน ฮึกๆ " แก้วพูดพลางร้องไห้พลาง
ป้าพิศแอบแว้บไปเห็นพอดี จึงทำเนียนชี้ให้คุณหญิงดูสวนดอกไม้
" แล้วต้นไม้นี่ จะให้ตัดเลยมั้ยค่ะ...... " ป้าพิศทำเนียนพาคุย
คุณหญิงวิชุดา ก็ชี้โบ๊ชี้เบ๊ ไปตามเรื่องราว
พลัน ก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์ดังขึ้น คุณหญิงหันหลังมา ก็พบว่าแก้วไม่ได้อยู่ในรถ
" แก้ว.... กลับมาเดี๋ยวนี้ " คุณหญิงวิ่งตามลูกสาวออกไป แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
บนท้องถนนยามค่ำคืน แก้วที่ซ้อนท้ายคนรักของเธอมา ก็มีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าของเธอเสียที
สาวน้อยซบใบหน้าขาวเนียนของเธอลงบนแผ่นหลังของชายหนุ่ม แล้วกอดเอาไว้แนบแน่น
โทโมะ เอารถมาจอดหน้าร้านรับจัดงานแต่งงาน เขาใช้เงินที่เหลือทั้งหมดเช่าชุดแต่งงานมาสองตัว
แก้วมองดูอยู่ข้างนอกร้านก็ยิ้มทั้งน้ำตา เธอยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาแห่งความสุขที่พราั่งพรูออกมา
โทโมะในชุดสูทแต่งงานสีขาว และแก้วในชุดเจ้าสาวขาวสวย ขับรถซ้อนกันบนถนนที่เต็มไปด้วยแสงสีของเมืองหลวงในยามค่ำคืน
เลือดกำเดาของโทโมะ ที่เหมือนว่าหยุดไหลไปแล้ว กลับเริ่มหยดลงบนมือของแก้ว ที่สวมกอดชายหนุ่มเอาไว้
-------------------------------------------
เฮียหนุ่ม โทรหาลูกชายอย่างร้อนใจ แต่ก็ไม่มีการรับสาย
" มันหายไปไหนของมันในเวลาแบบนี้นะ ไอ้ลูกคนนี้ " เฮียหนุ่มพูดขึ้นอย่างโมโห
" เฮียครับ ได้เวลาไปเก็บส่วยที่ดาวดึงส์อาบอบนวดแล้วครับเฮีย " ลูกน้องเดินเข้ามาบอกหัวหน้าของตน ที่นั่งอยู่บนโซฟา
" เออๆๆ ไปก็ไป " เฮียหนุ่มรับคำอย่างฉุนเฉียว
---------------------------------------
รถของโทโมะ มาจอดอีกครั้ง ที่โบสถ์คริสต์แห่งหนึ่ง
เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
" เออ....ป๊อบเหรอ ว่าไง...... อืม....... โอเค เสร็จธุระแล้วฉันจะรีบไป " พูดจบโทโมะก็กดวางสาย
โทโมะหันมายิ้มให้แก้ว แก้วเองก็ยิ้มรับโทโมะ
น้ำตาเธอยังไม่หยุดไหล มันเป็นน้ำตาแห่งความยินดี
นี่คือสิ่งที่เธอต้องการจากชายคนรักของเธอมากที่สุด
ชายหนุ่มจูงมือสาวน้อย คนรักของเขา มาที่หน้ารูปปั้นพระแม่มารีย์
โทโมะค่อยๆล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกง
เขาหยิบแหวนขึ้นมา แล้วดึงมือซ้ายของแก้วขึ้นมาด้วย
โทโมะบรรจงสวมแหวนลงไป
แก้วยิ้มเขิน แต่น้ำตาก็พรั่งพรูตามมา
โทโมะเงยหน้าขึ้นมา ชายหนุ่มร่างสูง ค่อยๆโน้มตัวลงมาจุมพิตคนรักของเขา
แก้วหลับตาพริ้ม รอรับจูบอันดูดดื่มของชายหนุ่มที่เธอรักนักหนา
ริมฝีปากของโทโมะ บรรจงประทับลงบนฝีปากนุ่มนวลของแก้วอย่างแผ่วเบา และเนิ่นนาน...........................................
โปรดติดตามตอนอวสาน
ปล. ตอนนี้ จัดเต็ม ให้อ่านกันยาวๆ เลยครับ
ไม่รู้จะถูกใจกันหรือเปล่า ยังไงๆ ก็ช่วยคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ อีกตอนเดียวก็จะอวสานแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ