ยัยน่ารัก หวานใจ....นายผู้กำกับขาโหด♥
8.9
13) "สาเหตุ"
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 13 ‘สาเหตุ (NC 18+)’
หลังจากที่โดนยกเลิกกองเร็วเพราะอารมณ์ขึ้นๆลงๆของผู้กำกับ เธอก็เลือกที่จะมาปลอดปล่อยความเครียดที่ผับ
เหมือนทุกที ทั้งที่อยากจะมานั่งสงบๆก็ทำไม่ได้แต่เพราะความที่เริ่มจะมีคนจำได้และมันทำให้เธอลำบากไม่น้อย
“สวัสดีครับ” ฟางเพียงแค่ปรายตามองชายหนุ่มที่เดินเข้ามาทัก
“คุณ ฟางใช่มั้ยครับ”
“ไม่ใช่”
“ไม่นะ ผมว่าผมจำได้”
“ก็บอกว่าไม่ใช่ไง”
ฟางขึ้นเสียงกับอาการช่างตื้อของชายหนุ่มที่ไม่ยอมเลิกวุ่นวายกับเธอง่ายๆ ให้ตายเหอะ ขอเธออยู่เงียบๆซัก
10นาทีจะไม่ได้หรือไงกันนะ
“ดังแล้วทำเป็นหยิ่ง”
“ไอ้...” ฟางมองตามชายคนนั้นไปอย่างไม่สบอารมณ์ ดาราไม่ใช่คนหรือไงกันนะ
“เธอมาทำอะไรที่นี่” ฟางเงยหน้ามองเจ้าของเสียง
“....” เลือกที่จะไม่ตอบโต้ ยกแก้วในมือขึ้นดื่มจนหมด
“อะไรกัน แค่ไม่เท่าไหร่ ทำเป็นลืมกันแล้วหรือไงกัน คุณหนูฟาง”
ฟางหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า ก่อนจะแค่นยิ้มดูถูกให้อีกฝ่าย
“นายต้องการอะไรกัน วิน” จ้องหน้าอดีตแฟนหนุ่มตรงๆ
“ฉันคิดถึงเธอนะ”
คำพูดของชายหนุ่มยิ่งทำให้เธอรู้สึกดูถูกชายตรงหน้ามากขึ้นไปอีก คงเห็นเธอดังซินะ ถึงคิดจะกลับมาหา ทั้งๆที่
ก่อนหน้านี้เขาทิ้งเธอไปหาเพื่อนของเธอเองที่เป็นดาราหนังใหญ่ นี่ก็เป็นอีกสาหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจรับข้อเสนอ
ของพี่เอน่ามาเล่นละคร เรื่อง ‘สุดสาย ปรายรุ้ง’ เธอต้องการพิสูจน์ว่าคนตรงหน้าพร้อมจะผละออกจากที่เก่าใน
ทันที ที่เห็นที่ใหม่ที่ดีกว่า ผู้ชายโลเล เห็นแก่ได้
“หึ นายมันก็ทุเรศไม่ต่างจากคนอื่นๆ” ฟางพึมพำก่อนจะหนีออกมา
เดินทะลุออกมาทางด้านหลังผับ ที่ๆเธอเคยยอมตามคนแปลกหน้าไปที่ห้องเขา คนที่เธอ...
ฟางหลับตากั้นน้ำตาที่กำลังจะหยดลงมาได้ทัน เธอไม่ยากต้องเสียน้ำตาเพราะคนที่เห็นเธอเป็นเพียงดอกไม้ริม
ทางอีก เธอไม่อยากต้องโง่อีกเป็นหนที่สอง ที่เผลอหวั่นไหวไปกับอาการที่เขาแสดงออกมาในวันนี้
“เธอออกมาล่าเหยื่อแบบนี้ประจำหรือไง”
ฟางมองต้นเสียงที่ยืนหลบมุมสูบบุหรี่อยู่ เพียงแค่เห็นเสี่ยวหน้าของชายหนุ่มเธอก็จัดการหมุนตัวเดินกลับเข้าไป
ด้านใน แต่กลับโดนมือหนาของป็อปปี้ฉุดแขนเธอเอาไว้ ก่อนจะดันเธอเข้าหากำแพงหินเย็นๆด้านหลัง
“นอกจากฉันเธอยังไม่พออีกหรือไง”
‘เพียะ’ ฝ่ามือเล็กสะบัดใส่หน้าชายหนุ่มทันที ที่ได้ยินคำพูดดูถูกจากปากเขา
“เมื่อไหร่นายจะเลิกยุ่งกับฉันซะที ป็อปปี้”
“ถ้านายเกลียดฉันมาก ก็เลิกยุ่งกับฉันซักที นายจะทำร้ายฉันไปถึงไหน”
ฟางเอ่ยออกมาอย่างอ่อนแรง
ป็อปปี้ดึงใบหน้าเล็กเข้ามาประกบจูบกลิ่นบุหรี่จากปลายลิ้นของเขาคลุ้งไปทั้งปากเธอ ฟางยืนนิ่งๆให้เขาจูบจน
พอใจ เพราะถึงเธอดิ้นหนีไปเธอก็ไม่วันหนีพ้นหัวใจตัวเอง หัวใจที่สั่นไหวทุกครั้ง ยามที่เขาเข้ามาใก้ล
“ฉันไม่ได้เกลียดเธอ”
“ฮึก แล้วนายทำทั้งหมดไปเพื่ออะไรป็อปปี้ อ้อ เพราะแค่อยากนอนกับฉันทั้นซินะ นายทำสำเร็จ
แล้วไง นายจะเอาอะไรอีก นายยังอยากได้อะไรอีกป็อปปี้”
ฟางเอ่ยทั้งน้ำตา ป็อปปี้กุมใบหน้าเล็กด้วยมือที่สั่นเทา น้ำตาของเธอกำลังทำให้คลั่ง คลั่งเพราะความเจ็บที่เขา
เป็นคนก่อ
“ฉันขอโทษ” กระซิบออกมาเพียงแผ่วเบา
“ไม่ ฉันไม่ต้องการ ฮึก นายเลิกยุ่งกับฉันซักที แค่นี้นายก็ทำให้ฉันแทบตายทั้งเป็นอยู่แล้ว”
“ได้โปรด”
ฟางเอ่ยขอร้องชายหนุ่มอย่างหมดหนทาง ถ้าเขาไม่หยุดทำให้เธอสับสนแบบนี้เธอจะก้าวต่อไปกับหนทางข้าง
หน้าได้ยังไง
ป็อปปี้มองน้ำตาของเธออย่างเจ็บปวด มือของเขาชะงักอยู่ที่กลางอากาศก่อนที่มันจะทันได้สัมผัสน้ำตาของเธอ
ชายหนุ่มกำมือเขาหากัน มือเขาสั่นเทา เขาไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องน้ำตาของเธอด้วยซ้ำ เพราะทุกๆอย่างที่เขา
ทำมันมากมายเกินที่จะให้อภัย
“นายปล่อยฉันไปเถอะนะ ป็อปปี้”
“ไม่ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้”
“ป็อปปี้ นายต้องเลือกซักอย่าง ถ้านายไม่คิดจะปล่อยฉัน ก็เลิกทรมานฉันซักที”
“ฉันทนให้มันเป็นแบบไม่ไหวแล้วนะ”
ชายหนุ่มดึงเธอเข้ามากอดไว้แน่น ฝังหน้าลงกลับกลุ่มผมนุ่มของเธอ หลับตาลงอย่างใช้ความคิด ก่อนจะลืมตาขึ้น
เมื่อตัดสินใจได้ในที่สุด
“ฉันต้องคุยกับเธอ”
ลากร่างบางขึ้นรถตัวเอง ก่อนจะขับมาจอดที่คอนโด
“นายจะพูดอะไรก็พูดมาป็อปปี้”
ฟางเป็นฝ่ายเอ่ยถามหลังจากที่เธอนิ่งเงียบมานาน
“ทุกอย่างที่ฉันทำมันมีเหตุผล”
“เหตุผล ใช่เหตุผลที่นายอยากฟันแล้วทิ้งรึเปล่าล่ะ”
ป็อปปี้รั่งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด กอ่นจะตตัดสินใจเล่าทุกเรื่องที่เขาเก็บงำมาตลอดออกมา
“พ่อฉันสั่งให้เปลี่ยนนางเอกจากเธอไปเป็นจินนี่...”
“แล้วไง ถ้านายอยากเปลี่ยน นายก็เปลี่ยนไปซิ”
“ฟังฉันก่อนได้มั้ยฟาง”
“แต่ฉันไม่ยอม พ่อรู้เรื่องที่ฉันพาเธอไปเที่ยว เพราะไม่ต้องการให้มีข่าวของเธอออกมาก่อนที่
ละครจะเปิดกล้องกล้องพ่อถึงสั่งให้เปลี่ยนตัวนางเอก แต่ฉันยืนยันจะให้เธอเล่นบทเดิม โดยเอาตำแหน่งผู้กำกับ
เป็นประกันว่าเธอจะทำงานนี้ออกมาได้ดี แต่แค่นั้นพ่อยังไม่พ่อใจ ท่านไม่ต้องการให้ฉันทำเสียงานเพราะไปยุ่งกับ
คนในการปกครองของฉันเองอย่างเธอ ท่านบอกว่าถ้าฉันยังติดต่อเธออยู่ ท่านจะถอนเธอออกจากละครเรื่องนี้
และงานอื่นๆที่กำลังจะตามมา ฉันไม่อยากเอาอนาคตของเธอมาแลกกับความต้องการของฉัน”
ป็อปปี้ปล่อยร่างบางออกจากอ้อมกอด จ้องลึกเข้าไปในดวงตา แสดงถึงความจริงใจที่เขามีให้เธอเห็น
“นี่มันแค่เรื่องตลกหรือไงป็อปปี้” ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่เธอกลับหัวเราะไม่ออกซักนิด
นี่ใช่มั้ย สาเหตุที่เขาทำเย็นชา ตีตัวออกห่างจากเธอ ทั้งคำพูดทั้งการกระทำ ก็เพื่อรักษาอนาคตของเธอไว้ เขา
เองก็เจ็บปวดไม่ต่างจากเธอซินะ
“นายจริงใจกับฉันรึเปล่าป็อปปี้”
“หึ เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะยอมทำตัวเป็นหมาบ้า หึงที่เธอต้องจูบไอ้โมะทั้งๆที่รู้ดีว่ามันเป็นงาน
เพราะความสนุกหรือไงฟาง” ป็อปปี้ตอบกลับมาอย่างหว้นจัด
“ฉันจะมั่นใจได้ไง ว่าพรุ่งนี้นายจะไม่ตอกหน้าฉันว่า ฉันเป็นแค่คนโง่ที่ยอมนอนกับนายอีก ป็อปปี้”
“ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่ามันทำให้เธอเจ็บปวด แต่ฟาง ฉันเองก็เจ็บไม่ต่างจากเธอหรอกนะ”
“งั้น นายก็พิสูจน์ซิ” เอ่ยเสียงเบาเหมือนกระซิบออกมา
“ฉันรักเธอ”
เลือกที่จะพูดออกมาตรงๆ สบตานัยตาหวานของหญิงสาวอย่างสื่อความหมายของใจ ตามที่ได้เอ่ยออกมา
เพียงแค่ประโยคเดียวของชายหนุ่มก็ทให้เธอลืมเลือนทุกการกระทำของป็อปปี้ก่อนหน้านี้ไปได้จนหมด
ฟางเป็นฝ่ายพุ่งเข้ามากดจูบที่ปากหนา ป็อปปี้ช้อนอุ้มเธอขึ้นมาก่อนจะแลกจูบด้วยความคิดถึง โหยหา และรักกับ
คนในอ้อมกอด อุ้มร่างบางมาวางบนเตียงก้วางฟางยกมือคล้องคอหนาเอาไว้
ทั้งคู่ต่างสัมผัสกันอย่างร้อนรน เธอและเขาต่างรู้ดีว่าในสัมผัสของกันและกันมันแฝงไปด้วยความโหยหาอีกฝ่าย
มากแค่ไหน
ป็อปปี้ไล้สัมผัสร่างบางทั้งๆที่เธอยังคงอยู่ในชุดเต็มยศ แต่เพียงเท่านี้ก็ปลุกไฟปรถนาของเธอได้แล้ว
“อือ...” มือหนาไล้ปลดเสื้อผ้าของคนใต้ร่างและตัวเองอย่างรวดเร็ว
ฟางบิดร่างหนีปลายลิ้มที่ครอบครองยอดอกเธออยู่ อย่างเสี่ยวซ่าน
“มะ ไม่ได้นะ ห้ามทำรอยนะ” เอ่ยปากห้ามป็อปปี้ที่ขบเม้นซอกคอเธอเสียงแผ่ว ชายหนุ่มยอม
หักใจไม่ทำร่องรอย ก่อนจะวนกลับมาหาปากบางที่เริ่งบวกเจ่อจากรสจูบของเขา อย่างติดใจ
“อือ ทรมาน ปะ ป็อป ได้โปรด”
ป็อปปี้สอดใส่เข้ามาตามคำร้องขอ ขยับสะโพกเป็นจังหวะร้อนแรงให้สมกับความคิดถึงที่เขาต้องเก็บมานาน
“อือ...ฮึก ปะ ป็อป มัน...”
ยิ่งเธอครางเรียกชื่อเขามากเท่าไหร่ จังหวะรักของชายหนุ่มยิ่งรุ่นแรงมากขึ้นเท่านั้น
“อือ..อ่า” สองเสียงสอดประสานหลังจากพานพบความสุขเป็นรอบที่เท่าไร่ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆมันสูบ
เรี่ยวแรงจากเธอไปจนหมด
“ฉันรักนายนะ ป็อปปี้” กระซิบออกมา ก่อนที่เธอจะหลับไปเพราะความเพลีย...
ToP ♥ “นอกจากฉันเธอยังไม่พออีกหรือไง” BY POPPY
♪♫ ^_________________________^ ♪♫
อัพเบิ้ลให้เพราะ โดนทวง และเรียกร้องอยากอ่านคู่นี้กันเหลือเกิน
เราอัพเบิ้ลก็ขอ เม้นเบิ้ลบ้างน้าาาาา ทำตาปริบๆ *^*
เจอกันตอนหน้าคร้า ^^
หลังจากที่โดนยกเลิกกองเร็วเพราะอารมณ์ขึ้นๆลงๆของผู้กำกับ เธอก็เลือกที่จะมาปลอดปล่อยความเครียดที่ผับ
เหมือนทุกที ทั้งที่อยากจะมานั่งสงบๆก็ทำไม่ได้แต่เพราะความที่เริ่มจะมีคนจำได้และมันทำให้เธอลำบากไม่น้อย
“สวัสดีครับ” ฟางเพียงแค่ปรายตามองชายหนุ่มที่เดินเข้ามาทัก
“คุณ ฟางใช่มั้ยครับ”
“ไม่ใช่”
“ไม่นะ ผมว่าผมจำได้”
“ก็บอกว่าไม่ใช่ไง”
ฟางขึ้นเสียงกับอาการช่างตื้อของชายหนุ่มที่ไม่ยอมเลิกวุ่นวายกับเธอง่ายๆ ให้ตายเหอะ ขอเธออยู่เงียบๆซัก
10นาทีจะไม่ได้หรือไงกันนะ
“ดังแล้วทำเป็นหยิ่ง”
“ไอ้...” ฟางมองตามชายคนนั้นไปอย่างไม่สบอารมณ์ ดาราไม่ใช่คนหรือไงกันนะ
“เธอมาทำอะไรที่นี่” ฟางเงยหน้ามองเจ้าของเสียง
“....” เลือกที่จะไม่ตอบโต้ ยกแก้วในมือขึ้นดื่มจนหมด
“อะไรกัน แค่ไม่เท่าไหร่ ทำเป็นลืมกันแล้วหรือไงกัน คุณหนูฟาง”
ฟางหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า ก่อนจะแค่นยิ้มดูถูกให้อีกฝ่าย
“นายต้องการอะไรกัน วิน” จ้องหน้าอดีตแฟนหนุ่มตรงๆ
“ฉันคิดถึงเธอนะ”
คำพูดของชายหนุ่มยิ่งทำให้เธอรู้สึกดูถูกชายตรงหน้ามากขึ้นไปอีก คงเห็นเธอดังซินะ ถึงคิดจะกลับมาหา ทั้งๆที่
ก่อนหน้านี้เขาทิ้งเธอไปหาเพื่อนของเธอเองที่เป็นดาราหนังใหญ่ นี่ก็เป็นอีกสาหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจรับข้อเสนอ
ของพี่เอน่ามาเล่นละคร เรื่อง ‘สุดสาย ปรายรุ้ง’ เธอต้องการพิสูจน์ว่าคนตรงหน้าพร้อมจะผละออกจากที่เก่าใน
ทันที ที่เห็นที่ใหม่ที่ดีกว่า ผู้ชายโลเล เห็นแก่ได้
“หึ นายมันก็ทุเรศไม่ต่างจากคนอื่นๆ” ฟางพึมพำก่อนจะหนีออกมา
เดินทะลุออกมาทางด้านหลังผับ ที่ๆเธอเคยยอมตามคนแปลกหน้าไปที่ห้องเขา คนที่เธอ...
ฟางหลับตากั้นน้ำตาที่กำลังจะหยดลงมาได้ทัน เธอไม่ยากต้องเสียน้ำตาเพราะคนที่เห็นเธอเป็นเพียงดอกไม้ริม
ทางอีก เธอไม่อยากต้องโง่อีกเป็นหนที่สอง ที่เผลอหวั่นไหวไปกับอาการที่เขาแสดงออกมาในวันนี้
“เธอออกมาล่าเหยื่อแบบนี้ประจำหรือไง”
ฟางมองต้นเสียงที่ยืนหลบมุมสูบบุหรี่อยู่ เพียงแค่เห็นเสี่ยวหน้าของชายหนุ่มเธอก็จัดการหมุนตัวเดินกลับเข้าไป
ด้านใน แต่กลับโดนมือหนาของป็อปปี้ฉุดแขนเธอเอาไว้ ก่อนจะดันเธอเข้าหากำแพงหินเย็นๆด้านหลัง
“นอกจากฉันเธอยังไม่พออีกหรือไง”
‘เพียะ’ ฝ่ามือเล็กสะบัดใส่หน้าชายหนุ่มทันที ที่ได้ยินคำพูดดูถูกจากปากเขา
“เมื่อไหร่นายจะเลิกยุ่งกับฉันซะที ป็อปปี้”
“ถ้านายเกลียดฉันมาก ก็เลิกยุ่งกับฉันซักที นายจะทำร้ายฉันไปถึงไหน”
ฟางเอ่ยออกมาอย่างอ่อนแรง
ป็อปปี้ดึงใบหน้าเล็กเข้ามาประกบจูบกลิ่นบุหรี่จากปลายลิ้นของเขาคลุ้งไปทั้งปากเธอ ฟางยืนนิ่งๆให้เขาจูบจน
พอใจ เพราะถึงเธอดิ้นหนีไปเธอก็ไม่วันหนีพ้นหัวใจตัวเอง หัวใจที่สั่นไหวทุกครั้ง ยามที่เขาเข้ามาใก้ล
“ฉันไม่ได้เกลียดเธอ”
“ฮึก แล้วนายทำทั้งหมดไปเพื่ออะไรป็อปปี้ อ้อ เพราะแค่อยากนอนกับฉันทั้นซินะ นายทำสำเร็จ
แล้วไง นายจะเอาอะไรอีก นายยังอยากได้อะไรอีกป็อปปี้”
ฟางเอ่ยทั้งน้ำตา ป็อปปี้กุมใบหน้าเล็กด้วยมือที่สั่นเทา น้ำตาของเธอกำลังทำให้คลั่ง คลั่งเพราะความเจ็บที่เขา
เป็นคนก่อ
“ฉันขอโทษ” กระซิบออกมาเพียงแผ่วเบา
“ไม่ ฉันไม่ต้องการ ฮึก นายเลิกยุ่งกับฉันซักที แค่นี้นายก็ทำให้ฉันแทบตายทั้งเป็นอยู่แล้ว”
“ได้โปรด”
ฟางเอ่ยขอร้องชายหนุ่มอย่างหมดหนทาง ถ้าเขาไม่หยุดทำให้เธอสับสนแบบนี้เธอจะก้าวต่อไปกับหนทางข้าง
หน้าได้ยังไง
ป็อปปี้มองน้ำตาของเธออย่างเจ็บปวด มือของเขาชะงักอยู่ที่กลางอากาศก่อนที่มันจะทันได้สัมผัสน้ำตาของเธอ
ชายหนุ่มกำมือเขาหากัน มือเขาสั่นเทา เขาไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องน้ำตาของเธอด้วยซ้ำ เพราะทุกๆอย่างที่เขา
ทำมันมากมายเกินที่จะให้อภัย
“นายปล่อยฉันไปเถอะนะ ป็อปปี้”
“ไม่ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้”
“ป็อปปี้ นายต้องเลือกซักอย่าง ถ้านายไม่คิดจะปล่อยฉัน ก็เลิกทรมานฉันซักที”
“ฉันทนให้มันเป็นแบบไม่ไหวแล้วนะ”
ชายหนุ่มดึงเธอเข้ามากอดไว้แน่น ฝังหน้าลงกลับกลุ่มผมนุ่มของเธอ หลับตาลงอย่างใช้ความคิด ก่อนจะลืมตาขึ้น
เมื่อตัดสินใจได้ในที่สุด
“ฉันต้องคุยกับเธอ”
ลากร่างบางขึ้นรถตัวเอง ก่อนจะขับมาจอดที่คอนโด
“นายจะพูดอะไรก็พูดมาป็อปปี้”
ฟางเป็นฝ่ายเอ่ยถามหลังจากที่เธอนิ่งเงียบมานาน
“ทุกอย่างที่ฉันทำมันมีเหตุผล”
“เหตุผล ใช่เหตุผลที่นายอยากฟันแล้วทิ้งรึเปล่าล่ะ”
ป็อปปี้รั่งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด กอ่นจะตตัดสินใจเล่าทุกเรื่องที่เขาเก็บงำมาตลอดออกมา
“พ่อฉันสั่งให้เปลี่ยนนางเอกจากเธอไปเป็นจินนี่...”
“แล้วไง ถ้านายอยากเปลี่ยน นายก็เปลี่ยนไปซิ”
“ฟังฉันก่อนได้มั้ยฟาง”
“แต่ฉันไม่ยอม พ่อรู้เรื่องที่ฉันพาเธอไปเที่ยว เพราะไม่ต้องการให้มีข่าวของเธอออกมาก่อนที่
ละครจะเปิดกล้องกล้องพ่อถึงสั่งให้เปลี่ยนตัวนางเอก แต่ฉันยืนยันจะให้เธอเล่นบทเดิม โดยเอาตำแหน่งผู้กำกับ
เป็นประกันว่าเธอจะทำงานนี้ออกมาได้ดี แต่แค่นั้นพ่อยังไม่พ่อใจ ท่านไม่ต้องการให้ฉันทำเสียงานเพราะไปยุ่งกับ
คนในการปกครองของฉันเองอย่างเธอ ท่านบอกว่าถ้าฉันยังติดต่อเธออยู่ ท่านจะถอนเธอออกจากละครเรื่องนี้
และงานอื่นๆที่กำลังจะตามมา ฉันไม่อยากเอาอนาคตของเธอมาแลกกับความต้องการของฉัน”
ป็อปปี้ปล่อยร่างบางออกจากอ้อมกอด จ้องลึกเข้าไปในดวงตา แสดงถึงความจริงใจที่เขามีให้เธอเห็น
“นี่มันแค่เรื่องตลกหรือไงป็อปปี้” ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่เธอกลับหัวเราะไม่ออกซักนิด
นี่ใช่มั้ย สาเหตุที่เขาทำเย็นชา ตีตัวออกห่างจากเธอ ทั้งคำพูดทั้งการกระทำ ก็เพื่อรักษาอนาคตของเธอไว้ เขา
เองก็เจ็บปวดไม่ต่างจากเธอซินะ
“นายจริงใจกับฉันรึเปล่าป็อปปี้”
“หึ เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะยอมทำตัวเป็นหมาบ้า หึงที่เธอต้องจูบไอ้โมะทั้งๆที่รู้ดีว่ามันเป็นงาน
เพราะความสนุกหรือไงฟาง” ป็อปปี้ตอบกลับมาอย่างหว้นจัด
“ฉันจะมั่นใจได้ไง ว่าพรุ่งนี้นายจะไม่ตอกหน้าฉันว่า ฉันเป็นแค่คนโง่ที่ยอมนอนกับนายอีก ป็อปปี้”
“ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่ามันทำให้เธอเจ็บปวด แต่ฟาง ฉันเองก็เจ็บไม่ต่างจากเธอหรอกนะ”
“งั้น นายก็พิสูจน์ซิ” เอ่ยเสียงเบาเหมือนกระซิบออกมา
“ฉันรักเธอ”
เลือกที่จะพูดออกมาตรงๆ สบตานัยตาหวานของหญิงสาวอย่างสื่อความหมายของใจ ตามที่ได้เอ่ยออกมา
เพียงแค่ประโยคเดียวของชายหนุ่มก็ทให้เธอลืมเลือนทุกการกระทำของป็อปปี้ก่อนหน้านี้ไปได้จนหมด
ฟางเป็นฝ่ายพุ่งเข้ามากดจูบที่ปากหนา ป็อปปี้ช้อนอุ้มเธอขึ้นมาก่อนจะแลกจูบด้วยความคิดถึง โหยหา และรักกับ
คนในอ้อมกอด อุ้มร่างบางมาวางบนเตียงก้วางฟางยกมือคล้องคอหนาเอาไว้
ทั้งคู่ต่างสัมผัสกันอย่างร้อนรน เธอและเขาต่างรู้ดีว่าในสัมผัสของกันและกันมันแฝงไปด้วยความโหยหาอีกฝ่าย
มากแค่ไหน
ป็อปปี้ไล้สัมผัสร่างบางทั้งๆที่เธอยังคงอยู่ในชุดเต็มยศ แต่เพียงเท่านี้ก็ปลุกไฟปรถนาของเธอได้แล้ว
“อือ...” มือหนาไล้ปลดเสื้อผ้าของคนใต้ร่างและตัวเองอย่างรวดเร็ว
ฟางบิดร่างหนีปลายลิ้มที่ครอบครองยอดอกเธออยู่ อย่างเสี่ยวซ่าน
“มะ ไม่ได้นะ ห้ามทำรอยนะ” เอ่ยปากห้ามป็อปปี้ที่ขบเม้นซอกคอเธอเสียงแผ่ว ชายหนุ่มยอม
หักใจไม่ทำร่องรอย ก่อนจะวนกลับมาหาปากบางที่เริ่งบวกเจ่อจากรสจูบของเขา อย่างติดใจ
“อือ ทรมาน ปะ ป็อป ได้โปรด”
ป็อปปี้สอดใส่เข้ามาตามคำร้องขอ ขยับสะโพกเป็นจังหวะร้อนแรงให้สมกับความคิดถึงที่เขาต้องเก็บมานาน
“อือ...ฮึก ปะ ป็อป มัน...”
ยิ่งเธอครางเรียกชื่อเขามากเท่าไหร่ จังหวะรักของชายหนุ่มยิ่งรุ่นแรงมากขึ้นเท่านั้น
“อือ..อ่า” สองเสียงสอดประสานหลังจากพานพบความสุขเป็นรอบที่เท่าไร่ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆมันสูบ
เรี่ยวแรงจากเธอไปจนหมด
“ฉันรักนายนะ ป็อปปี้” กระซิบออกมา ก่อนที่เธอจะหลับไปเพราะความเพลีย...
ToP ♥ “นอกจากฉันเธอยังไม่พออีกหรือไง” BY POPPY
♪♫ ^_________________________^ ♪♫
อัพเบิ้ลให้เพราะ โดนทวง และเรียกร้องอยากอ่านคู่นี้กันเหลือเกิน
เราอัพเบิ้ลก็ขอ เม้นเบิ้ลบ้างน้าาาาา ทำตาปริบๆ *^*
เจอกันตอนหน้าคร้า ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ