i'm not&you don't [Yaoi NC18+] END หนังสือถามได้คะ

9.2

เขียนโดย Pierre

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 02.28 น.

  49 chapter
  69 วิจารณ์
  260.02K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 22.56 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

29) 25 - Answer

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

25 - Answer

 

 

ผมมองหน้าคนพูดที่ขยับเข้ามาเรื่อยๆพร้อมกับรอยยิ้มละไมแต่ไม่น่าพิสมัยเอาซะเลย

 

“เหอะ! แล้วฐานะอะไรล่ะ?” ผมสะบัดเสียง ต้องการให้มันรู้ว่าผมไม่พอใจอย่างมาก แต่เหมือนมันจะไม่รับรู้ เพราะมันยังยิ้มเหมือนเดิม

 

“ขอมือซ้าย”

 

ห๊ะ!? อะไรของมันวะครับ? อยู่ดีๆก็มาขอมือ กูไม่ใช่หมานะเฟ้ย ไม่ต้องมาหลอกซะให้ยาก

 

มันคงรู้ว่าผมไม่เชื่อใจ คราวนี้เลยล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วชูสิ่งหนึ่งขึ้นมา

 

ผมอึ้ง

 

 

ก็แค่ด้ายเส้นหนาสีแดงเลือดหมูสลับพันเกลียวนั่นแหละครับ ที่ก่อนหน้านี้มันมีเป็นกระบุง ไหนผู้หญิงที่ซุบซิบกันบอกว่าด้ายหมดแล้วไงวะ?

 

ผมว่าผมเข้าใจอะไรบางอย่าง

 

สถานะที่มันมอบให้ผมคือ ‘รุ่นพี่-รุ่นน้อง’ ใช่ไหม?

 

ทำไมจะไม่ใช่ละ ในเมื่อมันขอข้อมือผมแถมยังชูหลักฐานเด่นคาตาซะขนาดนั้น

 

เหอะๆ กูหวังอะไรอีกแล้วเนี่ย?

 

แต่ก็ดีแล้วล่ะ...จะได้ชัดเจน ไม่มีอะไรกวนใจและไม่ต้องค้างคากันอีกต่อไป

 

“ห่า แค่บายศรี ...” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ “จะผูกก็รีบผูก” ผมยื่นข้อมือซ้ายที่เต็มไปด้วยเส้นด้ายหลายสี โบว์ ลูกปัดร้อยเต็มไปหมด อันที่จริงบางคนก็ผูกข้อมือขวากัน แต่ผมไม่ชอบอะ แบบว่าเวลาเขียนหนังสือมันไม่ถนัด เลยเลือกที่จะให้ผูกข้อมือซ้ายดีกว่า

 

คนตรงหน้ายิ้มน้อยๆ ผมมองหน้ามัน สายตาไม่ได้จ้องที่ข้อมือแบบตอนที่พี่วอร์มผูกให้ แต่มันกลับไม่สบสายตาผม ก้มลงมองข้อมือ ตั้งใจผูกเส้นด้ายนั่น

 

อะไรบางอย่างถูกสอดลอดระหว่างนิ้วกลางกับนิ้วนางและนิ้วนางกับนิ้วก้อย...

 

ตอนนี้คนที่กำลังตั้งใจผูกเงยหน้าขึ้นมาสบตาแล้วพูดว่า

 

.

.

.

 

 

หมั้นไว้ก่อนนะครับ

 

 

ไม่รู้เพราะรอยยิ้มที่ยิ้มเพื่อผมคนเดียวหรือเพราะประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่...มันทำให้ผมอึ้งอีกครั้ง

 

นิ้วนางข้างซ้ายผมมีเส้นด้ายที่คนตรงหน้าชูเมื่อสักครู่ผูกวน2รอบ มัดเงื่อนตายอีก2ชั้น ก่อนที่มือหนานั้นจะกอบกุมทั้งมือ

 

 

“อย่าเรียกสินสอดแพงนักล่ะ” มันยังมีหน้าล้อเลียนผม “อ้อ..แล้วก็อย่าถอดอย่าหายจนกว่าแหวนจริงจะมาด้วยนะครับ” คนพูดปล่อยมือแล้วมองหน้าผม ผมก้มลงมองมือตัวเอง เส้นด้ายที่โดดเด่นเพิ่มความเตะตาเข้าไปอีกเมื่อมันถูกผูกบนนิ้วนางข้างซ้าย

 

คนที่ทำให้ผมอึ้งเดินไปหยิบกรรไกรตรงโต๊ะคอม เดินมาตัดส่วนที่เหลือ เพื่อไม่ให้เกะกะ ก่อนจะนำไปวางที่เดิม เท่านี้จากเส้นด้ายบายศรีธรรมดาๆก็กลายเป็นแหวนโดยสมบูรณ์แบบ

 

ไม่แพง ไม่สวย ไม่หรูหรา ... แต่มันทำให้ผมรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งตัวและ...

 

หัวใจ

 

 

“เฮ้ย พูดไรหน่อยดิ .. แบบนี้กูก็เขินเป็นนะเว้ย”

 

โอ๊ยยยย เอาบรรยากาศเมื่อกี้กลับคืนมานะ แม่งจะพูดขึ้นมาทำเชี่ยไรเนี่ยยยยยย

 

“สัด หายหัวไป5วัน จู่ๆมาบอกขอหมั้น ไอ้บ้า! ประสาทแดก”

 

ทำไมนับวันผมยิ่งด่าเหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกทีวะ

 

“ฮ่าๆๆๆ ด่าแก้เขินเหรอมึง” ยังมีหน้ามาหัวเราะ

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง” ผมพูดด้วยเสียงนิ่งๆ ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ไอ้เหี้ยพอสยังคงหัวเราะ แล้วเดินมานั่งข้างๆตาม

 

อย่าคิดว่าทำให้กูเขินได้แล้วเรื่องจะจบง่ายๆนะเฟร้ยยยย

 

 

“ขอโทษ”

 

คำขอโทษที่ออกมาจากปากชายคนนี้เป็นครั้งที่2 และคนเดิมที่ได้ฟังซึ่งก็คือผม...

 

“ขอโทษที่หายไปหลายวัน กูไม่อยากติดต่อมึง กูอยากให้ตัวเองมั่นใจ” คนข้างๆล้มตัวลงนอน โดยที่ห้อยขาไว้ สอดมือไว้ใต้หัว “...ว่ากูขาดมึงไม่ได้จริงๆ”

 

“กล้าพูด”

 

“ห๊ะ อะไรของมึง” ไอ้เหี้ยพอสมันเด้งตัวขึ้นมาทันที ผมหันหน้าไปบอกมันตรงๆ “ทำมาเป็นพูดว่าขาดกูไม่ได้ วันนั้นกูยังเห็นมึงเดินกับพี่เจนน่าอยู่เลยนะ”

 

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” มันระเบิดหัวเราะเลยครับ

“เชี่ย หัวเราะไรเนี้ย?”

“กะ ก็.. โอ๊ย.. ฮ่าๆๆๆ” มันยังขำไม่หยุด ผมนั่งหน้าบึ้ง

 

แม่งงง หัวเราะให้ตายไปเลยนะสัด ขำไรนักหนาวะ

 

“โอเคๆ กู...หยุดหัวเราะและ...พี่เจนน่าที่มึงเห็นอะ...เค้าเป็นกระเทยโว๊ยยยย”

“แล้วไงวะ สวยขนาดกูเข้าใจผิด ก็ไม่แปลกที่มึงจะชอบ”

“อ๋อ กูเข้าใจละ”

“เข้าใจอะไร?”

“มึงหึงกู หึหึหึหึ” 2หึก็น่าขนลุกพอแล้วสัด

“หลงตัวเอง กูแค่สงสารผู้หญิงในคลังของมึง” ...หรือพูดให้ถูก กูสมเพชตัวเอง

“แล้วอีกอย่างนะ...” ไอ้พอสเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจัง “ที่กูหายไปหลายวันเพราะกูมัวแต่ไปเคลียร์เรื่องผู้หญิงเนี้ยละ ไม่อยากให้ใครบางคนแถวนี้น้อยใจอีก”

“หึ ใครน้อยใจ? สำคัญตัวเองผิดไปแล้วมั้ง” ผมพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ทั้งๆที่ในใจมันรู้ลึกโล่งเหมือนยกอะไรออกจากอก แต่ก็ยังไม่วายกวนตีนมันตบท้าย “แต่ถ้ามึงไม่เอาผู้หญิงพวกนั้นแล้วส่งต่อให้กูก็ได้นะ”

“มึงมีปัญญาก็เอาไปเถอะ”

 

หนอยยยยย ดูถูกกูเรอะ?

 

“แต่ตอนนี้ขอกูเอามึงก่อนนะ ถ้ามีแรงไปเอาหญิงต่อก็เชิญเลย หึหึ”

 

สิ้นคำมันก็กดริมฝีปากหนักๆมาประกบกับริมฝีปากผมที่กำลังจะเถียงมันทันที ทำให้ลิ้นร้อนๆของมันเข้ามากวาดทั่วโพรงปากผมอย่างง่ายดาย ดูดดึงคลึงซ้ำหนักๆ เน้นย้ำที่ริมฝีปากบนและล่าง เรา2คนต่างจูบแบบโหยหากันมานาน แม้ว่าจะรุนแรงตามอารมณ์ดิบ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บเลย กลับรู้สึกอย่างอื่นเข้ามาแทนที่มากกว่า

 

ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนที่มายังซอกคอ มือของมันเคลื่อนเข้ามาใต้เสื้อ ผมรู้งานทันทีโดยการชูแขนทั้ง2ขึ้น เสื้อยืดถูกปลดออกไป ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคคนตรงหน้าแล้ว ริมฝีปากหันมาสนใจกับยอดอก ดูดดึงจนแข็งเป็นไต ลิ้นไล่ไปทั่วบริเวณหน้าท้อง ผมหอบหายใจครางกระเซ่า

 

“เดี๋ยว...” ขอเบรกตอนนี้จะทันไหม

“ไม่เดี๋ยวแล้วครับ” คนที่ง่วนอยู่กับยอดอกหยุดขึ้นมามองหน้าผม “หลังสอบ แกรนด์ทำผิดไว้หลายกระทง พี่ยังไม่ได้ชำระคดีเลยนะครับ”

 

กรรม!

 

ปลายลิ้นลากไล้จนผมต้องโอนอ่อนตามมันอีกครั้ง ทุกจุดที่โดนสัมผัสอุณหภูมิในกายก็สูงขึ้นเรื่อยๆ

 

“อ๊ะ!”

 

ผมแอ่นอกเด้งรับเมื่อมันดันแกล้งลูบไล้น้องชายผมจากภายนอก มือเค้นคลึงจนปลุกให้แกรนด์น้อยลุกขึ้นมาสู้ อารมณ์ของผมเริ่มกระเจิง แต่มือหนาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะถอดกางเกงให้แต่อย่างใด ด้านบนก็โดนทรมานจากลิ้นที่ช่ำชอง ด้านล่างก็ถูกคุกคามด้วยมือที่พริ้วไหว

 

“แกรนด์ครับ...”

 

ผมโคตรชอบเลยเวลาที่ไอ้เหี้ยพอสมันมีอารมณ์แล้วพูดเพราะๆเนี่ย ยิ่งประกอบกับใบหน้าหล่อๆของมันด้วยแล้ว มันทำให้ผมแทบคุมตัวเองไม่อยู่

 

แต่ดูเหมือนคนที่ควบคุมร่างกายผมตอนนี้จะไม่ยอมให้ผมไปถึงสวรรค์ได้ง่ายๆดั่งใจคิด เพราะเดี๋ยวมันก็ขบยอดอกเจ็บๆบ้าง คลึงที่น้องชายผมหนักๆบ้าง บอกตรงๆมันทำให้ผมทรมาน ทั้งเจ็บและเสียวไปพร้อมๆกัน

 

“พี่อยากทำให้แกรนด์มั่นใจ...และเชื่อใจในตัวพี่นะครับ”

 

“อึก..อ๊ะ...” ผมจะตอบรับ แต่ทำไมเสียงกลับเป็นแบบนี้ไปได้

 

มันยังไม่สาแก่ใจ เพิ่มความทรมานเข้าไปอีกด้วยการใช้นิ้วลากไปตามลำแท่งที่ตั้งตรง ผ่านไปจนถึงพวงไข่ทั้ง2 และลามมาจนถึงร่องก้น บีบเฟ้นจนความร้อนส่งผ่านมาตามเนื้อผ้า ผมเถิบตัวหนี แต่ไอ้คนที่ควบคุมร่างกายผมไม่ยอมง่ายๆ มันดึงตัวให้เข้าไปใกล้มากขึ้น ผมเลยได้แต่จิกหลังมัน

 

“จะถอดแล้วนะครับ”

 

มันส่งสัญญาณเตือน  แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะ? ก็ต้องอยู่เฉยๆ บิดตัวและส่งเสียงครางออกไปตามทิศทางที่มันกำหนด กางเกงถูกถอดไปพร้อมกับบ๊อกเซอร์ โยนลงพื้นอย่างไม่ใยดี ผมหุบขาแต่ก็ไม่มีประโยชน์เพราะมันสามารถบังคับขาผมได้ด้วยเช่นกัน

 

“อายอะไรอีก..หืม?”

 

ก็คนมันอายนี่หว่า...

 

ในเมื่อปิดช่วงล่างไม่ได้ งั้นขอปิดหน้าละกัน!

 

ผมหยิบหมอนมาปิดหน้าตัวเอง อย่างน้อยไอ้เหี้ยพอสมันก็ไม่เห็นหน้าผมละวะ แต่มันดันจับหมอนออกแล้วเขวี้ยงไปยังประตูน่ะสิครับ อะไรของเมิงเนี้ยยยยยยยยย

 

“พี่อยากเห็นหน้าแกรนด์...อย่าปิดเลยนะครับ”

 

พูดเพระใส่กูแบบนี้...ไม่ละลายให้มันรู้ไป หน้าเริ่มร้อนๆและคาดว่าคงจะแดงในอีกไม่ช้า

 

ไอ้เหี้ยพอสมันเคลื่อนตัวลงไปเรื่อยๆ แกรนด์น้อยตั้งโด่เด่เพราะฝีมือมัน ลมหายใจอุ่นๆกระทบ ผมรู้ว่ามันกำลังจะทำอะไรต่อไป

 

“ยะ..อย่า...ไม่ต้อง”

“ทำไมละครับ?”

 

แต่มันไม่รอคำตอบ น้องชายผมถูกครอบด้วยโพรงปากที่เปียกชื้น ผมสะดุ้งเฮือก ไม่คิดว่ามันจะจัดการผมด้วยวิธีนี้ แกรนด์น้อยตอนนี้ถูกดูดดึงและเลียไปจนหมดจด ตั้งแต่โคนจรดยอด ไม่มีตรงไหนที่ริมฝีปากนี้เข้าไม่ถึง ทุกครั้งที่แก่นกายรูดรั้งด้วยฝีปากสะโพกผมก็จะยกขึ้นเองอัตโนมัติ ราวกับเรียกร้อง อยากได้มากกว่านี้ อยากเข้าไปในปากนั่นให้ลึกมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่บางครั้งไอ้เหี้ยพอสมันก็จับสะโพกผมไว้ไม่ให้ยกขึ้นสูงมากนัก เพราะแก่นกายผมจะเข้าไปลึกเกินกว่าเหตุ และอาจทำให้มันสำลักได้

 

ผมพยายามดันมันออกไป ให้รู้ว่าผมใกล้จะถึงแล้ว แต่มันกลับห่อริมฝีปากและดูดรัวเร็วขึ้น

 

“อ๊ะ..อ๊า...”

 

แกรนด์น้อยปลดปล่อยความสุขออกมาจนล้นทะลัก ลูกของผมนับล้านกำลังเข้าสู่ปากที่กำลังกลืนกินอย่างไม่รังเกียจ เป็นผมเองซะอีกที่เบือนหน้าหนี

 

ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำถึงขนาดนี้เลยสักนิด

 

เมื่อทำความสะอาดจนเกลี้ยง ผมก็ยันตัวเองขึ้น มองใบหน้าหล่อเหลาที่จ้องกลับมาเช่นกัน

 

“พี่จะทำออรัลให้กับคนที่พี่รักเท่านั้น...”

 

คนที่พี่รักเท่านั้น... 

 

มันเข้ามาสวมกอดอย่างแนบแน่น มือโอบหลังผมที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ถึงแม้ว่าคนที่สวมกอดนั้นจะใส่เสื้อ แต่ผมก็สามารถรับรู้ได้ถึงใจที่เต้นแรงอยู่ทางฝั่งขวาออกอกผม และแน่นอนเช่นกันว่าในอกซ้ายของผมก็เต้นแรงไม่แพ้มัน

 

ใช่...ครั้งก่อนๆที่เคยมีเซ็กส์ด้วยกัน...มันใช้แต่มือ ไม่เคยใช้ปากเลยสักครั้ง

 

ผมพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะตอบมันยังไง ให้การกระทำเป็นตัวตัดสินก็แล้วกัน

 

ค่อยๆดันตัวออกอย่างเบามือ เลื่อนใบหน้าเข้าไปจูบ มันหลับตาลง ผมค่อยๆแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตนักศึกษาที่ละเม็ดๆ จนเม็ดสุดท้ายก็ถอดออกแล้วเอาไปกองรวมกับเสื้อผ้าผมที่พื้น มือผมจับท้ายทอยให้รับจูบได้ถนัดขึ้น ส่วนอีกมือที่มีแหวนทำจากเส้นด้ายสีแดงสลับขาวธรรมดาๆก็คอยลูบไล้ไปตามแนวหลังหู ลาดไหล่ กระดูกไหปลาร้าที่สวยงาม เรื่อยลงมาจนถึงแผ่นอกและกล้ามท้องที่แข็งแกร่ง ทั้งหมดนี้ ผมกระทำโดยริมฝีปากยังเชื่อมกันและลิ้นก็ตวัดพันเกี่ยวอย่างไม่มีใครยอมใคร

 

ผมถอดริมฝีปากออกเพียงครู่เดียวเพื่อตั้งตัว แต่มันคงไม่อยากละห่างจากผมแม้แต่วินาเดียว เราจูบกันเนิ่นนาน เหมือนสูบไปทั้งชีวิต จนในที่สุดก็ยอมปล่อยให้ริมฝีปากผมได้ไปสำรวจจุดอื่นบ้าง

 

แม้จะเคยเห็นร่างกายนี้มาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังต้องขอชมว่ามันงดงามไร้ที่ติจริงๆ

 

มันทำให้ผมแบบไหน ผมก็ทำกลับให้มันคืนเป็นเท่าตัว เสียงครางในลำคอนั่นบ่งบอกได้ดีว่ามันเองก็ทรมาน สมน้ำหน้า อยากแกล้งผมก่อนทำไม

 

มือทั้ง2ค่อยๆเคลื่อนไปปลดเข็มขัดและกางเกง เจ้าตัวให้ความร่วมมืออย่างดี แต่เมื่อถอดเสร็จแล้วก็พบกับกางเกงชั้นในสีเข้มห่อหุ้มมังกรน้อยอีกชั้น แอบสงสัยเล็กน้อยถึงปานกลางว่าทำไมวันนี้มันถึงเลือกใส่กางเกงในมา แต่ช่างเถอะ ให้กามกิจเสร็จก่อนแล้วค่อยถามก็ยังไม่สาย

 

ผมเลือกที่จะยังไม่ถอดปราการด่านสุดท้าย จงใจให้มังกรน้อยถูกขังเล่น แม้ว่าเจ้ามังกรจะอยากออกจากกรงจนดันนูนขึ้นมาเด่นชัดมากแค่ไหนก็เหอะ

 

เป็นอีกครั้งที่ผมขึ้นคร่อมมัน ครั้งก่อนไม่สำเร็จ แต่ครั้งนี้มันต้องเสร็จผม! หึหึ

 

แผ่นหลังกว้างล้มตัวแนบกับเตียง แตกต่างจากเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เพิ่งผ่านพ้นมาไม่กี่นาที โดยที่มันเป็นคนนอนราบและผมเป็นคนคร่อมตัวมัน และต่างกันตรงที่ว่า...ผมหลับตาปี๋ แต่มันกลับลืมตา จ้องมองทุกการกระทำ คอยดูว่าผมจะทำอะไรต่อไป ไม่มีหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย จนผมเริ่มจะใจแป้ว

 

นี่กูฝีมือตกเหรอวะเนี่ย?

ไม่ได้ๆ มาพิสูจน์ฝีมือกันเลยว่าใครเจ๋งกว่าใคร ใครกันที่แน่และใครกันที่แย่

 

ผมเริ่มทำการปลุกสัญชาตญาณดิบในตัวลูกผู้ชายของมันอีกครั้ง มันไม่ยากเลย แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะฝืนตัวเองไว้ นั่นทำให้ผมไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง คนใต้ร่างกัดริมฝีปากตัวเอง

 

“ซี้ดดด”

 

มันร้องเบาๆ มันไม่เคยมาดหลุดขนาดนี้ ต่อให้เสียวจนจะขาดใจแค่ไหนมันก็จะครางในลำคอต่ำๆ แต่ครั้งนี้เป็นเพราะผมกำลังนั่งทับมันอยู่นี่ไงละ

 

ไม่ได้ทับแบบเต็มแรง แต่ก็จงใจบดเบียดร่องก้นไปตามเนื้อผ้าที่ดันนูนออกมา ไม่ให้ครางยังไงไหว ผมลงทุนทุ่มหมดตัวเลยนะงานนี้

 

“เฮ้ยยยยยยย” ผมร้องเสียงหลง

 

ชิบหายแล้วงานนี้!!!

 

จู่ๆมันก็เด้งตัวขึ้นมาแล้วพลิกกลับให้ผมไปอยู่ใต้ร่าง เงาทะมึนทาบทับตัวผมคล้ายกับลางร้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ มันจัดการถอดชิ้นส่วนชิ้นสุดท้ายออกจากร่างเองโดยที่ผมยังไม่ทัยจะเอ่ยปากห้ามด้วยซ้ำ

 

มังกรก็ยังคงเป็นมังกร จะให้หดเป็นหนอนน้อยก็ต่อเมื่อไม่ได้ใช้งานเท่านั้นแหละ (แต่ผมว่ามันก็ยังคงใหญ่กว่าหนอนน้อยอยู่ดี) เอาละ เราจะไม่พูดถึงเรื่องขนาดกันนะครับ สั้นยาวสุดแท้แต่บุญกรรมที่สั่งสมมา และแปรผันตรงกับความสูงของร่างกายด้วย

 

ทำไมขนาดแก่นกายมันไม่แปรผกผันกับความสูงมั่งว้า?

 

คิดแล้วก็เศร้าใจ แต่ช่างเถอะ สะดือชนกันเป็นใช้ได้

 

ตะ..แต่...สะดือชนกันแบบนี้ ผมหวาดเสียวนะครับ

 

“หาวิธียั่วได้น่ารักมากนะครับ” ไอ้เหี้ยพอสยิ้มเจ้าเล่ห์

 

กรี๊ดดดดดดดดดด แต๋วแตกเลยกู มึงช่วยชมด้วยคำอื่นจะได้มั้ย กูไม่ปลื้มว่ะ

 

ผมยังทันได้ตั้งตัวมันก็จับปั่นแกรนด์น้อยให้ตั้งขึ้นมาอีกครั้ง ลากไล้ลงไปเรื่อยๆจนถึงช่องทางที่มันเคยสำรวจมาแล้ว มันยกสะโพกผมขึ้นแล้วนำหมอนข้างมารอง

 

นิ่มสบายตูดดีจัง

 

เอ๊ยยยยย นี่ไม่ใช่เวลามาเคลิ้มนะเฟร้ยยยยย

 

แต่ไม่ทันแล้วครับ แก่นกายของไอ้เหี้ยพอสจงใจมาจ่อที่ประตูผมเพื่อทำแต้ม

 

นะ .. นี่มึงจะไม่มีสารหล่อลื่นอะไรให้กูเลยเหรอไงวะ!

 

เหมือนมันจะอ่านความคิดผมออก มันถอยแก่นกายห่างออกไปนิดนึง หยิบหลอดเควาย ที่มันเอามาจากไหนก็ไม่รู้ (แต่ที่แน่ๆห้องผมไม่มี ไม่ต้องมามองแบบนั้น!!) บีบพอประมาณแล้วป้ายมายังช่องทาง

 

เฮือก!!

 

ทำยังไงก็ไม่คุ้นซักที

 

นิ้วเรียวยาวสอดแทรกเข้ามาในกายผม สร้างความอึดอัดเล็กน้อย แต่ยังพอทนไหว นิ้วที่2ตามมา ไม่รู้ว่านิ้วอะไร เริ่มสร้างความคับแน่นจนผมคิดว่านิ้วที่3มันต้องเข้ามาไม่ได้แน่ๆ แต่ผมคิดผิด นิ้วที่3ตามมาทันที

 

“อึก!!”

 

ริมฝีปากร้อนๆลากไปตามง่ามขา ขณะที่นิ้วในตัวผมค่อยๆขยับ สร้างความคุ้นชินก่อนที่สิ่งที่ใหญ่กว่านี้จะเข้ามาแทนที่ ลิ้นเปียกนุ่มตวัดแผ่วเบา โดยเฉพาะที่ยอดของแก่นกายผม

 

เอาอีกแล้ว ... มันทรมานผมอีกแล้ว

 

ขณะที่ผมเคลิ้ม นิ้วก็ถูกถอนออกไปจนหมด ร่างสูงยืดตัวอีกครั้ง จับจ่อความเป็นชายเข้าสู่ช่องทางของผม

 

“ดะ...เดี๋ยว...”

“ครับ?”

“ถุงยาง...”

“บอกแล้วใช่มั้ยว่าให้เชื่อใจพี่”

 

น้ำเสียงราวกับปลอบโยน ทำให้ผมต้องโอนอ่อนตามมันทุกทีสิน่า

 

หัวมังกรค่อยๆกดเข้ามาเพื่อสำรวจถ้ำแห่งนี้ แม้ว่าจะติดขัดเล็กน้อย จุกจนผมแทบน้ำตาเล็ด พยายามไม่เกร็งแล้วแต่ก็ยังเจ็บ คล้ายกับว่าช่องทางจะฉีกขาดให้ได้

 

“เจ็บ..อึก!!”

“อดทนนะครับคนดี”

 

สารหล่อลื่นช่วยไว้ได้มาก หัวมังกรสามารถเข้ามาได้แล้ว เหลือแต่ลำตัวที่พยายามจะแทรกเข้ามาเรื่อยๆ จนที่สุดก็เข้ามาได้ทั้งหมด ไม่อยากเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ

 

แช่ไว้เฉยๆ ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ให้ผนังที่โอบล้อมตอดรัดเป็นไปตามธรรมชาติ

 

“อื้อออออ อย่ารัดพี่แน่นสิครับ”

 

ครั้งที่ถึงจะทรมานและเจ็บ แต่ก็รู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัยมากกว่าครั้งไหนๆ เมื่อช่องทางเริ่มปรับสภาพให้เข้ากับแก่นกายร้อนที่อยู่ในตัวผมได้แล้ว เจ้าของร่างก็เริ่มขยับตัวเข้าออกช้าๆ เป็นจังหวะ

 

จากที่ช้าก็เร่งให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ

 

“อ๊ะ...”

 

ผนังที่เสียดสีกับท่อนเนื้อทำให้สมองของผมว่างเปล่า คิดอะไรไม่ออก ได้ยินแต่เสียงเข้าจังหวะที่ร่วมมือกันระหว่างมันและผม ผมแอบลืมตาขึ้นมานิดนึงก็พบว่าคนตรงหน้าหลับตาพริ้ม เหงื่อชุ่มเต็มกาย บ่งบอกถึงความสุขสม

 

“อื้ออออ”

“อึก..อ๊ะ...อ๊า”

 

จนมาถึงจุดๆนึง ความสุขที่ร่วมกันสร้างก็ได้ไหลทะลักออกมาเต็มไปหมด เพียงแต่อีกคนปลดปล่อยในกายผม ไม่ยอมถอนออกมาก็แค่นั้น

 

กายที่เชื่อมต่อกันไม่ได้เป็นอุปสรรคขัดขวางในการที่ไอ้พอสมันจะเข้ามาระดมจูบผมทั่วใบหน้าแต่อย่างใด ซ้ำยังจะยิ่งกดลึกเข้าไปอีก มันคว้ามือข้างซ้ายมากดจูบลงบนแหวนที่มันสร้างขึ้นเอง

 

 

 

“พี่รักแกรนด์นะครับ”

 

 

 

ตัวผมชาวาบ ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนที่หัวใจจะเต้นแรงสูบฉีดเลือดโดยไม่ต้องอาศัยการออกกำลังกายแต่อย่างใด

 

ไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่ที่ผมอึ้ง

ไม่รู้ว่าไอ้คนที่บอกรักผมมันจูบผมไปกี่ครั้ง

ไม่รู้ว่าหัวใจเต้นกี่ครั้งต่อนาที แต่ผมว่าถ้าหากเต้นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมอาจหัวใจวายได้

 

ผมรู้แต่ว่า

 

 

 

“...แกรนด์ก็รักพี่ครับ...” 

 

 

 

 

คนบอกรักไม่คิดว่าจะถูกบอกรักกลับ ผลก็คือจูบที่เร่าร้อนและเรียกหายิ่งกว่าครั้งไหนๆ

 

หลายวันที่ขาดมันไป ผมเอาผู้หญิงมาทดแทนมัน คำพูดสวยหรูปลอบใจตัวเองว่า ผมเข้มแข็ง ผมจะต้องไม่ต้องหลุมรักผู้ชายคนนี้

 

แต่นั่น...ผมโกหกตัวเองทั้งเพ

 

ในใจผมต้องการมันตลอดเวลา ไม่สามารถควบคุมไม่ให้คิดถึงมัน

 

หากวันนี้  มันไม่มา ผมก็ไม่เสียใจ ผมรักตัวเองพอๆกับที่รักมัน ผมสามารถรับได้กับทุกสถานะที่มันหยิบยื่นให้ ลดศักดิ์ศรีตัวเองโดยการยกขาให้มัน หากใครรู้เข้า ผมก็คงอยู่ในสังคมนี้ต่อไปไม่ได้

 

แต่มันกลับมาหา ถึงแม้จะปล่อยให้ผมรอนาน แต่บางคนเค้ารอนานกว่านี้ เจ็บปวดกว่านี้ เค้ายังรอได้ แล้วผม...เป็นผู้ชาย อดทนรอเพื่อคนที่ตัวเองรักแค่นี้ไม่ได้ก็อย่ารักใครเลย

 

มันบอกว่าเลิกติดต่อกับผู้หญิงทุกคนแบบเด็ดขาดแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่าหากเชื่อก็จะโดนด่าว่าโง่ แต่มันบอกว่าให้เชื่อใจ ผมก็พร้อมที่จะเชื่อใจมัน ในเมื่อมันทำเพื่อผม แล้วผมล่ะ ? ทำอะไรเพื่อมันได้บ้าง ?

 

แหวนที่ไม่มีมูลค่าอะไรแต่กลับแพงในจิตใจผม ผมจะรักษามันไว้อย่างดี ให้สมกับที่เจ้าของตั้งใจมอบให้

 

คำว่า ‘รัก’ ที่ออกมาจากปากผมและมัน...ใครจะคิด ว่าคนที่ได้ฟังกลับเป็นซึ่งกันและกัน

 

จากที่เคยเกลียดการผูกมัด รักอิสระ แต่ ณ ตอนนี้ ผมอยากจะลองมีพันธะดูกับเค้าสักครั้ง...

 

 

 

 

“คิดอะไรอยู่ หืม?” เสียงจากคนที่กำลังกอดผมดังขึ้น

“คิดว่าถ้าท้องมึงจะบอกให้กูไปทำแท้งไหม” ผมขยับตัวเล็กน้อย

“กวนตีน”

 

บอกรักกันแล้วต้องหวานกัน ?

บ้าปะครับ?

ผมขอสงวนคำพูดคำจาหวานๆเลี่ยนๆนั่นไว้ใช้ตอนสำคัญจริงๆก็พอ ใช่พร่ำเพรื่อแล้วกูจะอ้วก

 

“กูจะไปอาบน้ำ เหนียวตัววะ” .. ไหนจะต้องทำความสะอาดรูตูดอีกแม่มมมม แตกในใส่กู สาดด คนลำบากก็กูอีกนี่แหละ

“อาบให้”

“ไม่ต้อง!”

“น่า...เดี๋ยวกูช่วยทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมเลย”

“สัด!!”

 

เนี่ยละครับ หวานสุดแล้ว

 

 

 

 

 

 

Talk

ตอนหน้าเจอกับ The Dark Side :: Answer นะคะ

ความเร็วในการอัพแปรผันตรงกับคอมเม้นต์เด้ออออ

^__________^

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา