Just a Dream…หรือแค่ฝันไป
เขียนโดย koala
วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.59 น.
แก้ไขเมื่อ 17 มกราคม พ.ศ. 2556 00.09 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) ตกหลุมรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแกไม่คิดจะตามหาฉันบ้างเลยหรือไงวะไอ้โมะ...หรือจริงๆแล้วแกต้องการให้เป็นแบบนี้ใช่ไหม
หนุ่มหน้าเข้มค่อยๆพลิกตัวหันหลังกลับจากร่างที่ยังนอนหลับสนิทก่อนก้าวเท้าด้วยความเร่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ทิ้งให้แพทย์สาวที่แอบดูสถานการณ์อยู่ห่างๆได้แต่มึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ร่างที่ไม่มีใครมองเห็นยังคงก้าวเท้าต่อไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย
คำถามมากมายเกิดขึ้นในสมอง
นี่หรือคนที่เขาไว้ใจมากที่สุด คนที่เป็นทั้งเพื่อน พี่ชาย ครอบครัว...
แต่ทำไมวันนี้ความรู้สึกบางอย่างบอกว่าคนที่เขาเพิ่งเดินจากมาไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป...
ร่างหนาได้แต่กำมือแน่นก่อนจะปล่อยหมัดไปยังต้นไม้ใหญ่ตรงหน้าแต่มวลของหมัดนั้นเป็นเพียงแค่อากาศธาตุที่ผ่านพัดต้นไม้ใหญ่นั้นไป
ชายหนุ่มจ้องมองมือตัวเองที่ไม่สามารถแม้แต่จะจับต้องวัตถุใดๆได้แล้วได้แต่เจ็บปวดในใจ
เขาค่อยๆทรุดเข่าลงก่อนจะตะโกนอย่างคับแค้นใจ “ทำไม...”
ระหว่างที่แพทย์สาวกำลังเกิดคำถามมากมายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็มีเสียงคนกำลังเดินเข้ามาทางห้องนี้ เธอจึงรีบหลบตัวเข้าไปในมุมหนึ่งเพื่อดูว่าใครกำลังเดินมาทางนี้ แล้วก็พบชายหนุ่มหน้าขาวตี๋สวมแว่นหนาหน้าตาภูมิฐานกำลังเข็นรถเข็นของผู้หญิงที่สูงวัยกว่าเข้าไปในห้องที่หนุ่มหน้าเข้มเพิ่งเดินออกมา
พวกเขาเป็นใครกันนะ แพทย์สาวเดินตามไปอย่างห่างๆด้วยความอยากรู้
“ตาโมะเป็นไงบ้างลูก” สาวสูงวัยกล่าวด้วยความเป็นห่วงอาการของคนตรงหน้า
“เออ ก็ดีนะฮะ” คนไข้ที่เพิ่งถูกปลุกให้ตื่นมาตอบด้วยความงุนงงว่าคนสูงวัยทราบได้อย่างไรว่าเขาอยู่ที่นี่
“โชคดีนะที่จงเบไปเจอเรานอนหมดสติอยู่ที่สุสานนั่นน่ะ ไม่งั้นเราคงเป็นปอดบวมตายแน่ๆ”
แล้วคำตอบที่คนป่วยสงสัยก็เฉลยออกมาแต่เขากลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรแม้แต่น้อย
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคนป่วยคงจะกระตือรือร้นและซาบซึ้งถึงน้ำใจของผู้ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก
แต่หลังจากหนุ่มหน้าตี๋เข้ามามีบทบาทในครอบครัวของเขามากขึ้นทำให้ความรู้สึกเคารพนับถือเปลี่ยนไปเป็นชิงชัง
“ความจริงปล่อยให้ผมตายๆไปซะก็ดีนะครับคุณแม่ จะได้ไม่ต้องติดหนี้บุญคุณใคร” หนุ่มหน้าหวานกล่าวประชดด้วยเสียงเรียบ
“พูดแบบนี้ได้ไงกันฮะโทโมะ ขอโทษจงเบเดี๋ยวนี้เลยนะ” มารดาเริ่มเอ็ดบุตรชายที่พูดจาไม่เหมาะสม
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” หนุ่มแว่นหน้าตี๋ที่ดูเหมือนอายุจะไม่ห่างจากคนป่วยสักเท่าไหร่เอ่ยขึ้น
“ผมว่าผมขอตัวดีกว่า ให้พวกคุณคุยกันตามประสาแม่ลูก ถ้าจะกลับแล้วโทรเรียกผมละกันนะครับ” หนุ่มหน้าตี๋บอกสาวสูงวัย
“ขอโทษแทนลูกชายพี่ด้วยนะ” คนสูงวัยส่งยิ้มพร้อมกล่าวขอโทษให้คนที่มาส่ง
สร้างความคับข้องใจให้แก่บุตรชายของเธอเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ใช่ไม่อยากให้ใครมาแทนที่ตำแหน่งบิดาของเขา เพราะท่านก็เสียชีวิตไปนานแล้ว
ไม่ใช่เพราะจงเบเป็นคนไม่ดี จงเบเป็นคนดีมากคนหนึ่ง เป็นรุ่นพี่ที่รุ่นน้องต่างให้ความนับถือและยกย่องในความสามารถ
เป็นนายแพทย์หนุ่มฝีมือดีที่ใครๆต่างต้องการตัวไปร่วมงาน และเป็นพี่ชายที่แสนดีของคนที่เขารัก
แต่มันน่าแปลกใจที่ทำไมหนุ่มหน้าตาดีมีความสามารถแถมมีสาวๆสวยๆมาให้เลือกมากมายจึงมาตกหลุมรักแม่หม้ายสาวอย่างมารดาของเขา
หลังจากที่จงเบเดินออกจากห้องสาวสูงวัยก็ส่งเสียงเข้ม
“แม่อยากให้แกยอมรับว่าเขาเป็นหนึ่งในครอบครัวของเรา”
“ไม่ ผมรับไม่ได้” หนุ่มหน้าหวานตอบกลับด้วยเสียงเข้มเช่นกัน
“ทำไม” คนสูงวัยถามต่อ
“คุณแม่รู้ได้ไงครับว่าหมอนั่นจะรักคุณแม่จริงๆ” ลูกชายกล่าวอย่างเป็นห่วง
“แม่ไม่รู้หรอกแต่ความรู้สึกข้างในมันบอก แกน่าจะรู้ไม่ใช่หรอเวลาที่แกรักใครสักคนน่ะมันเป็นยังไง”
คำตอบของมารดาทำให้ชายหนุ่มหน้าหวานถึงกับอึ้ง
ใช่ เวลามีความรักไม่มีใครที่จะรู้ดีที่สุดเท่าหัวใจของเราเอง...
“แต่ความรักของผมมันจบไปแล้ว คุณแม่น่าจะทราบดีอยู่” สายตาของหนุ่มหน้าหวานเริ่มหม่นลง
“แม่รู้ แต่ชีวิตเรายังเดินต่อไปและก็พร้อมจะเริ่มใหม่ได้เสมอไม่ใช่หรอ”
หนุ่มหน้าหวานพยักหน้าน้อยๆเห็นด้วยแต่ประโยคถัดมากลับทำให้อารมณ์ของหนุ่มหน้าหวานที่กำลังคล้อยตามกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง “จงเบบอกแม่ว่าอย่างนั้น”
“คุณแม่ดูเริ่มใหม่ง่ายจังเลยนะฮะ ผมคงไม่ใช่คนเริ่มอะไรใหม่ๆง่ายๆหรอก” ลูกชายกล่าวประชด
“นี่แกย้อนฉันอีกแล้วนะ” มารดาเริ่มของขึ้นบ้าง
“ผมเถียงเฉพาะเรื่องที่ผมไม่เห็นด้วยและมันก็มีอยู่ไม่กี่เรื่องหรอกนะครับ” หนุ่มหน้าหวานชี้แจงเหตุผลของตัวเองบ้าง
“อ๋อ งั้นแสดงว่าเรื่องที่แม่จะเสนอชื่อแกเป็นประธานบริหารพี.ซี.กรุ๊ปแทนตาป๊อปเพราะไม่รู้ว่าป่านนี้หายหัวไปไหนงานการก็ไม่มาทำ แกก็ไม่เห็นด้วยงั้นสิ”
“ครับ ผมไม่เห็นด้วย” ลูกชายตอบกลับเสียงเรียบ
“ผมก็บอกคุณแม่แล้วไงครับว่าป๊อปกำลังไปศึกษาแผนงานของบริษัทอยู่มันต้องใช้เวลา” เขาชี้แจงต่อ
“ศึกษางานบ้าอะไรจะเป็นเดือนอยู่แล้ว ติดต่อก็ไม่ได้เนี่ยฮะ” สาวสูงวัยเถียงกลับบ้างทำเอาลูกชายได้แต่อึ้งกิมกี่เพราะไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาอธิบายสาเหตุได้
ก๊อก ก๊อก...เสียงสวรรค์มาโปรดทันเวลาพอดี ประตูห้องค่อยๆเปิดขึ้นพร้อมกับแม่บ้านคนเดิมที่เดินเข้ามาอย่างงงๆ
“ขอโทษค่ะ พอดีดิฉันจะมาทำความสะอาดห้อง แต่อาจจะไม่สะดวก เดี๋ยวดิฉันมาทำใหม่ก็ได้ค่ะ” พร้อมหันหลังกลับไปทางเดิม
“ไม่เป็นไรครับคุณป้า ทำได้เลยครับ” ชายหนุ่มบอกให้แม่บ้านปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม
เสียงการโต้เถียงในห้องเงียบลงแต่ในสมองของสาวร่างเล็กที่แอบฟังเหตุการณ์อยู่ข้างนอกกลับตีกันจนแทบจะระเบิด
นายโทโมะยังอยากให้อีตาหน้าหมีป๊อปเป็นประธานอยู่นี่นา
ทั้งที่เขาก็มีโอกาสที่จะคว้าตำแหน่งนั้นไว้แต่หมอนี่ก็ไม่ทำ เป็นคนดีนะเนี่ย
แล้วใครทำให้นายเป็นแบบนี้นะป๊อปปี้ ฉันปวดหัวจริงๆเลยกับเรื่องของนายเนี่ย
โอ๊ย...ว่าแต่ตอนนี้นายหายไปไหนนะ
แพทย์สาวเริ่มก้าวเท้าออกจากตำแหน่งที่ยืนอยู่เพื่อไปตามหาคนที่กำลังคิดถึงอยู่เมื่อครู่ ระหว่างนั้นเธอรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามมา แต่หันกลับไปมองก็ไม่เจออะไร แพทย์สาวเร่งฝีเท้ามากขึ้นเพื่อเข้าไปในห้องทำงานรวม
ไม่ใช่เพราะกลัวหรอกนะ แต่อยู่ในที่ชุมชนคนเยอะๆดีกว่าปลอดภัยดี
.............................................................
ณ งานแต่งงานสุดหรูกลางกรุงลอนดอน
ญาติพี่น้องและเพื่อนพ้องที่สนิทกับบ่าวสาวต่างมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง
เช่นเดียวกับหนุ่มหน้ายาวจอมทะเล้นและอดีตสาวขี้แยจอมจุ้น
“ดีใจด้วยนะครับเฮียเคน ดูแลเจ๊แจมผมดีๆนะอย่าให้กินเยอะจนอ้วนอืดล่ะ” ยังไม่วายที่เขาจะกวนญาติตัวเอง
“เดี๋ยวแกจะโดนไอ้หน้ายาว” เจ้าสาวเริ่มหมายหัวน้องชายสุดแสบ
“ล้อเล่นนะเจ๊ ยินดีด้วยนะครับ วันนี้เจ๊สวยสุดๆไปเลย แบบที่เขื่อนไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
“ขอบใจจ๊ะ แต่เดี๋ยวแกหมายความว่าไงไม่เคยเห็นมาก่อน ฉันออกจะสวยทุกวันอยู่แล้ว” เจ้าสาวแอบชมตัวเองต่อ
สร้างรอยยิ้มให้กับคนที่เพิ่งออกปากชมและเจ้าบ่าวที่ยืนอยู่ข้างกาย
“ครับ สวยที่สุดอยู่แล้วเจ้าสาวของผมเนี่ย” เจ้าบ่าวสนับสนุนว่าที่ภรรยา
“อ้าว น้องเฟย์มาถ่ายรูปกับพี่หน่อยเร็ว” เจ้าสาวเรียกน้องสาวคนสนิทมาร่วมวง
“อ้อ ค่ะๆ” สาวร่างโปร่งที่เพิ่งเข้ามาในงานเดินเข้ามาอย่างงงๆแต่ทำเอาหนุ่มปากหวานที่เพิ่งชมเจ้าสาวเมื่อครู่ถึงกับตาค้าง
“สวยจริงๆเลยสุดที่รักของพี่” เจ้าสาวเดินเข้าไปกอดผู้มาใหม่อย่างสนิทสนม
“สู้พี่แจมไม่ได้หรอกค่ะ วันนี้พี่สาวหนูสวยมากกกก...” สาวร่างโปร่งกอดตอบพร้อมยิ้มจนเห็นรอยลักยิ้มของเธอ
ศรรักปักอกนายเขื่อนเข้าแล้วสิ... แต่เสียงชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายเขาดันแทรกทำลายจังหวะความสุขขึ้นมา
“เฮ้ย ไอ้เขื่อนแกเป็นไรวะ มองซะตาเยิ้มเลย นี่แกรู้จักน้องเฟย์หรือยัง เดี๋ยวฉันแนะนำให้เอาเปล่า น้องเค้าน่ารักนะเว้ย...”
หนุ่มหน้ายาวอยากจะตอบกลับว่าเขาเนี่ยรู้จักคนที่เพิ่งมาใหม่ดีกว่าคนที่เสนอตัวมาแนะนำซะอีกแต่ก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร
เขากำลังจะก้าวเท้าเข้าไปทักทายสาวผู้มาใหม่แต่ก็มีหนุ่มอีกคนที่เร็วกว่าเดินเข้าไปทักเธอก่อน
“สวัสดีครับน้องเฟย์” หนุ่มลูกครึ่งรูปหล่อทักสาวร่างโปร่งที่วันนี้เธอใส่เดรสยาวสีครีมปล่อยชายกระโปรงพริ้ว
“สวัสดีค่ะพี่กวิน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ” คนถูกทักกล่าวแก้ขัด
“พี่เพิ่งไปดูงานที่เยอรมันมา มีของฝากมาให้เราด้วยนะ” หนุ่มลูกครึ่งส่งสายตาเป็นประกายไปที่หญิงสาวที่เขาคุยด้วย
“ขอบคุณนะคะ แต่รบกวนพี่กวินเปล่าๆ ไม่ต้องลำบากซื้อมาฝากเฟย์ก็ได้” เธอตอบอย่างเกรงใจ
“ไม่หรอกครับ เรื่องของน้องเฟย์ไม่เป็นเรื่องลำบากของพี่หรอก” เขายังไม่วายหยอดคำหวานต่อ
บทสนทนาที่ได้ยินกลับทำให้คนที่กำลังจะเดินเข้าไปร่วมวงถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะ รู้สึกอารมณ์ไม่ค่อยดี
นี่เราเป็นอะไรนะ หนุ่มจอมทะเล้นได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเอง
“อะแฮ่ม...จีบกันไม่เกรงใจหัวหลักหัวตอกันเลยนะคะคุณกวิน” เสียงเจ้าสาวคนสวยแทรกขึ้น
“อะไรของเธอ ฉันแค่เข้ามาทักทายน้องเฟย์เฉยๆ ไม่ได้เจอกันนาน เสียงหัวใจมันเรียกร้อง”
คำหยอดหวานของคนพูดเล่นเอาร่างโปร่งที่ได้ยินไปไม่ถูก แต่พี่สาวที่รักของเธอก็ช่วยแก้สถานการณ์ให้ผ่านไปได้
“อ้วกกกก...เลี่ยนไปแล้วค่ะ คุณกวินขา”
“ฮ่าๆ พี่กวินนี่เป็นคนโรแมนติกจังเลยนะครับ” สมาชิกร่วมวงสนทนาคนใหม่กล่าวแทรกขึ้นมา
“อ้าวเขื่อนมาด้วยเหรอเนี่ย ไม่ได้เจอนานเลย” หนุ่มลูกครึ่งถามหนุ่มหน้ายาว
“เพิ่งมาเหมือนกันครับ เจ๊เป็นฝั่งเป็นฝาทั้งทีไม่มาเห็นคงนอนตายตาไม่หลับ” หนุ่มที่มาใหม่กวนพี่สาวคนสวยของเขาต่อ
“นี่แกหมายความว่าไงไอ้เขื่อนฮะ” เจ้าสาวเริ่มถามด้วยความสงสัย
“ก็จะได้มาฝากฝังเจ้าบ่าวให้เขาดูแลเจ๊ให้ดีๆไง ไม่งั้นเขื่อนคงนอนตายตาไม่หลับ” ชายหนุ่มเริ่มไหลไปเรื่อยๆ
สาวร่างโปร่งได้แต่ขำการลื่นเป็นปลาไหลของคนตรงหน้า ไม่แปลกที่เขาจะได้รับฉายาว่าคาสโนว่าจริงๆ
งานแต่งงานดำเนินไปจนกระทั่งถึงพิธีการสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่สาวๆในงานต่างเฝ้ารอ นั่นคือ การโยนดอกไม้
“ต่อไปนี้ขอเชิญทุกท่านหน้าเวทีเลยนะครับ เรากำลังจะเปิดศึกแย่งชิงดอกไม้กันแล้ว” เสียงพิธีกรกล่าวอย่างติดตลก
“เอ้า 1 2 3…” ดอกไม้ค่อยๆหลุดลอยจากมือเจ้าสาวไปกลางอากาศตามแรงโปรเจคไทล์
ดอกไม้ค่อยๆกระเด็นกระดอนผ่านมือหลายๆมือจนกระทั่งหยุดลงที่มือของ...
....................................................
สาวร่างเล็กเดินหาหนุ่มร่างหนาจนขาแทบลากแต่ก็ยังไม่เจอ สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจเดินกลับไปที่ห้องร่างไร้สติของเขา
แล้วสมมติฐานของเธอก็เป็นจริง
หนุ่มหน้าเข้มจอมกวนนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง สายตาที่ดูหมองเศร้าลงทำให้เธอรู้สึกสงสารเขาจับใจ
“อยู่ที่นี่เอง ฉันตามหานายขาแทบหลุดเลยรู้ไหมเนี่ย” แพทย์สาวร่างเล็กเอ่ยทำลายความเงียบแต่กลับไม่มีสัญญาตอบกลับ
“นายอย่าคิดมากเลยน่าป๊อป บางทีเรื่องมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่นายคิดก็ได้นะ” เขายังคงนิ่งต่อไป
“ฉันเพิ่งรู้ว่าฉันกำลังบ้าพูดคนเดียว” คนตัวเล็กเริ่มอารมณ์ขึ้นมานิดหน่อย
“คุณเพิ่งรู้หรอว่าคุณบ้าน่ะ ไม่เชื่อก็ถามคุณป้าแม่บ้านดูสิ” ร่างที่ไม่ยอมตอบสนองเมื่อครู่เริ่มเอ่ยขึ้นอย่างติดตลก
“ไม่ขำ นี่พูดได้แล้วเหรอไง” เธอยังคงงอนต่อ
“ก็พูดแล้วพอใจยัง” หนุ่มจอมกวนเอ่ยยิ้มๆก่อนจะถามต่อ “ถามจริง นี่ฟางเป็นห่วงป๊อปหรอ”
“ใครบอกว่าฉันเป็นห่วงนาย” คนตัวเล็กรีบปฏิเสธพัลวัน “ฉันกลัวนายไปผูกคอตายใต้ต้นผักชีมากกว่า”
“ถ้าตายแล้วได้อยู่แบบนี้ ป๊อปก็ยอมนะ” หนุ่มหน้าเข้มส่งสายตาหวานมาให้เธอ
“แต่ถ้านายตาย นายก็เป็นผีน่ะสิ ไม่เอา ฉันหลอน” คำตอบของคนตัวเล็กกลับทำลายบรรยากาศโรแมนติกลงอย่างสิ้นเชิง
“ถ้าป๊อปตายจริงๆ ฟางจะกลัวป๊อปไหม” เขาพูดด้วยเสียงที่จริงจังจนน่าขนลุก
“ทำไมนายพูดอย่างนั้นล่ะ นายยังไม่ตายสักหน่อย นี่ไงร่างนายยังมีชีพจรอยู่เลย” ร่างเล็กเถียงกลับ
“ป๊อปไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ป๊อปจะสามารถกลับเข้าร่างได้ หรือว่ามันอาจจะไม่มีแล้วก็ได้นะ” คนพูดพูดอย่างอ่อนใจ
“ไม่สิมันต้องมีวิธี ก็ฉันบอกแล้วว่าฉันจะช่วยนาย” คนตัวเล็กให้กำลังใจเขาอีกครั้ง
หนุ่มหน้าเข้มยิ้มรับคำของแพทย์สาว
น่าแปลกที่คำพูดไม่กี่คำของเธอทำให้เขารู้ดีขึ้นจากเรื่องหดหู่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าได้ในพริบตา
ความรู้สึกบางอย่างที่ก่อเกิดในหัวใจของเขาและมันก็ดูมากขึ้นทุกที
นี่ผมกำลังตกหลุมรักคุณอยู่ใช่ไหมครับ...ฟาง
========================================================
ขอโทษที่มาอัพช้านะคะ แต่งแต่ละตอนช่างยากเย็นเลือดตาแทบกระเด็น
ใครจะได้ดอกไม้ดี แล้วใครกันที่ทำร้ายป๊อป รอติดตามนะคะ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์เลยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ