Fiction Rewrite
9.3
11) Count' Down THE END
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ Count ' Down
18.00 น.
หกโมงตรง...
เฟย์โทรเข้ามาหาแก้วที่นั่งเหม่อใจลอยอยู่ภายในร้านของเธอ หญิงสาวรับสายเพื่อนตัวดีที่โทรมาบอกสวัสดีปีใหม่เหตุเพราะวันนี้เธอจะไปเดทกับเขื่อน เพราะปกติแล้วแก้วกับเฟย์ก็มักอยู่ฉลองด้วยกันทุกๆปี หญิงสาวตอบรับพร้อมแสดงความยินดีกับเพื่อนสายพร้อมๆกับวางสายลง ตามติดด้วยอาการเหม่อลอยเช่นเคย
[ แฮปปี้นิวเยียร์นะยัยแก้ว ขอโทษทีที่ปีนี้ฉันมีแฟนพาไปเคาท์ดาวน์ด้วย ฮ่าๆ ไม่เหมือนแกที่ยังคงเล่นตัวกับเค้าอยู่ได้ อิอิ] เพื่อนสาวหัวเราะเสียงใสเล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์ ทำให้แก้วถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เพื่อนรักของเธอพูดเป็นความจริงทุกประการ บางที 2 ปีที่ผ่านมา เธอควรจะรู้ใจตัวเองได้แล้ว .. ไม่มากก็ต้องน้อย!
“ไม่พูดมากน่า ไปหาพี่เขื่อนของแกเถอะ เท่านี้แหละ มีความสุขมากๆนะเฟย์ ส่วนเรื่องฉัน ฉันจัดการเองได้ ไม่ต้องห่วง”
[ยะ..บอกไว้ก่อนนะถ้าแกปฏิเสธเขาอีก ฉันจะยอมเลิกกับพี่เขื่อนแล้วตามไปฉกชิงโทโมะมาจากแกเลยคอยดู]
“อย่างแกเนี่ยนะจะยอมทิ้งพี่เขื่อน เฮอะ..!”
[ช่วยไม่ได้ โทโมะเพอร์เฟคแบบนั้นใครไม่รักก็โง่แล้ว และถ้าแกไม่อยากเป็นคนโง่ที่ไม่ยอมเปิดใจให้คนดีๆแบบเขา..ก็รีบๆถามใจตัวเองเสียทีว่าที่จริงแล้ว แกลืมไอ้กวินมันไม่ได้จนรักไม่ยอมรักโทโมะหรือเป็นเพราะแกไม่ยอมลืมมันแล้วเปิดใจกันแน่! แค่นี้นะยัยแก้ว..มีความสุขกับสิ่งที่แกตัดสินใจด้วยหัวใจตัวเอง บาย~]
เฟย์พูดด้วยความรวดเร็วหวังให้เพื่อนรักอย่างแก้วยอมเข้าใจมันเสียที ก่อนจะวางสายลง … นัยน์ตาสีหวานของแก้วทอดมองถนนใจกลางเมืองหลวงที่มีผู้คนเดินขวักไขว่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานวันปีใหม่ที่กำลังจะถึงภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ พลันคำพูดของเฟย์เมื่อครู่ก็ผุดขึ้นอีกครั้ง ‘อันที่จริงแล้วเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับโทโมะเลยอย่างนั้นนะหรือ?’
ย้อนกลับไปหนึ่งปีที่แล้ว
31 ธันวา 2553 เวลา 23.59 น.
ที่เดิม เวลาเดิม กับคนๆเดิม
ท่ามกลางผู้คนพลุกพล่านฉบับเดิมที่ไม่ว่าจะกี่ปีต่อกี่ปีในช่วงเทศกาลสำคัญๆแบบนี้ หญิงสาวคนเดิมที่เขาเฝ้ารอมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่เธอยังไม่พร้อมที่จะรักเขา และเขาหวังว่าปีนี้เธอคงจะยอมให้โอกาสผู้ชายแบบเขาดูสักครา
แค่วันนี้...เธอยอมมาตามนัด เขาก็คิดว่า ‘มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว’
“โทโมะจะไม่พูดซ้ำแล้วนะแก้ว เพราะโทโมะคิดว่า...แก้วรู้ว่าโทโมะจะพูดอะไร”
“ใช่! แก้วรู้” หญิงสาวตอบเขาเสียงเรียบพลางก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงยสบพบกับเขา
“คำถาม! ของโทโมะยังคงเหมือนเดิม ‘แก้วจะรักโทโมะได้ไหม?’ แต่รู้ไหม..ว่าโทโมะอยากให้คำตอบของแก้วเปลี่ยนไป เปลี่ยนจากไม่รักมาเป็นรัก เปลี่ยนจากไม่พร้อมมาเป็นพร้อม หากโทโมะสามารถบังคับจิตใจแก้วได้ โทโมะจะสั่งให้แก้วรัก ... ทั้งๆที่รู้ว่าแก้วคงยังไม่พร้อมใช่ไหม?” โทโมะเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทันว่าปีนี้คงไม่พ้นที่แก้วจะปฏิเสธอีกเป็นแน่ แค่ได้เห็นสีหน้า ท่าทางขาดความมั่นใจแบบนั้น...เชื่อสิ เขาดูไม่ผิดหรอก
“แก้ว ... ขอโทษที ขอโทษจริงๆ ฮึก แก้วไม่พร้อมจริงๆ” มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาตัวเองทิ้งอย่างลวกๆก่อนจะโผเข้ากอดโทโมะไว้แน่นด้วยความรู้สึกผิด โทโมะยิ้มน้อยๆให้กับตัวเองก่อนจะลูบผมปลอบปะโลมคนในอ้อมกอดให้เธอใจเย็นๆ
“ไม่เป็นไรแก้ว ไม่เป็นไร...งั้น ถ้าโทโมะมีอะไรจะขอเป็นอย่างสุดท้าย แก้วจะให้ได้ไหม”
“ฮึก อะไรหรือ?” แก้วผละออกจากแผงอกล่ำซัมของเขาก่อนจะเงยหน้ามองโทโมะทั้งที่น้ำตายังคงคลอหน่วยเต็มดวงตาคู่สวย นิ้วเรียวของคนที่เธอกำลังเผชิญหน้าเอื้อมมาปาดเม็ดน้ำตาให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน
“ปีหน้า ปีสุดท้าย..หากแก้วยังคงยืนยันว่าจะไม่มีวันรักโทโมะได้ โทโมะจะไปให้พ้นจากชีวิตของแก้ว จะไม่มาให้แก้วต้องรำคาญใจอีกต่อไป ได้ไหม?” เขาถามเสียงนุ่มแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่นจนแก้วออกอาการใจหายวูบวาบเมื่อได้ยินคำที่เขากำลังจะล่ำลา นิ่งงันไปนานโขจนโทโมะต้องเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง
“ว่าไง”
“ตกลง”
ปัจจุบัน ปี 2554 วันที่ 31 ธันวาคม เวลา 23.30 น.
ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับโอกาสสุดท้ายของโทโมะ ไม่สิ..ถ้าจะให้ถูกมันต้องเรียกว่าโอกาสของฉันมากกว่า ในระยะเวลาครึ่งชั่วโมงสุดท้ายกับการตัดสินใจอันแสนยากเย็นของฉัน แต่หากเป็นผู้หญิงคนอื่นแล้ว..คงไม่มีใครมานั่งรีรอให้มากความอย่างฉันหรอก เฟย์พูดถูก โทโมะดีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา ฐานะ รวมถึงการศึกษา ผู้หญิงมากหน้าหลากตาคงต้องการที่จะครอบครองเขา หากแต่ว่า..เขาไม่ได้สนใจพวกหล่อนก็เท่านั้น
ผู้ชายคนนี้ขอความรักจากฉันมาสองปีเต็มและฉันก็ปฏิเสธเขาเสียทุกครั้ง เหตุผลก็เพราะว่าฉันยังลืมผู้ชายที่เป็นรักแรกของฉันอย่างกวินไม่ได้ หรืออาจจะไม่ใช่หรอก..ฉันลืมเขาได้สนิทใจแล้วละ คนเสเพลแบบนั้นไม่คู่ควรแห่งการจดจำสำหรับฉันเลยแม้แต่นิดเดียว คงเป็นฉันเองที่กลัว..กลัวว่าการให้โอกาสเขาในครั้งนี้มันจะซ้ำรอยกับเรื่องของกวิน กลัวว่าหากฉันตกลงปลงใจคบกับเขาง่ายๆ เขาก็จะทิ้งฉันไปง่ายๆฉันกัน ‘รักง่ายๆ ทิ้งก็ง่ายๆเช่นกัน’ ฉันเลยไม่กล้าที่จะไว้ใจใครในตอนนั้น...
ตอนนี้..ฉันรู้แล้วว่าผู้ชายอย่างโทโมะเป็นคนอย่างไร เขาเป็นคนดีมากพอที่ฉันจะยอมฝากชีวิตและหัวใจได้ แต่...หากสิ่งที่ฉันคิดทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริงเพียงครึ่งเดียว ฉันจะทำอย่างไร? ฉันเคยร้องไห้ ฟูมฟายตอนที่กวินเดินเข้ามาหาพร้อมกับผู้หญิงคนใหม่ของเขา ‘เราไปกันไม่ได้’ ตลอดเวลา 3 ปีที่คบกันมาละ เรามาด้วยกันได้ยังไง? ณ ตอนนั้นมีเพียงคำพูดของเฟย์ที่คอยปลอบใจฉันในวันที่ฉันอ่อนล้า ไร้เรี่ยวแรง ‘เราร้องไห้ เสียใจ มากมายเสียเท่าไหร่ เขาคนนั้นไม่มารับรู้อะไรด้วยหรอก!’
เพราะฉะนั้นการตัดสินใจของฉันในครั้งนี้..ไม่เขาก็ฉันที่ต้องเจ็บกันไปข้าง!
เพราะฉันคงไม่พร้อมอีกต่อไปกับเรื่องความรัก... ความรักที่ไม่มีตันตน สัมผัสไม่ได้ มีแต่เราเท่านั้นที่คิดไปเองว่ามันคือความรัก!
ติ้ดๆ!!~
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นอีกครั้ง จนฉันหยุดความนึกคิดของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะเคลื่อนย้ายร่างกายไปรับมันด้วยความรู้สึกโหวงเหวงในจิตใจ
[ยินดีด้วยนะเพื่อนรัก ป่านนี้แกคงมีความสุขกับโทโมะไปแล้วใช่ไหม?] ปลายสายเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงระรื่น เดาได้ไม่ยากว่าเฟย์คงกำลังเข้าใจว่าฉันตกลงปลงใจกับโทโมะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แหงละก็นี่มัน 23.47 น. แล้วนี่นา
“เปล่า! แกเข้าใจผิดมหันต์แล้วเฟย์”
[เห...ทำไมล่ะ? ไม่นะแก้ว แกอย่าบอกนะ ว่าแก...] น้ำเสียงตระหนกของเฟย์บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหล่อนกำลังตกใจราวกับรู้ล่วงหน้าว่าฉันจะพูดอะไรต่อจากนี้ ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบรัวคำถาม คำพูดต่างๆนานาหวังจะให้ฉันเปลี่ยนใจ แต่เปล่าเลย! ไม่มีประโยชน์หรอก ฉันคงไม่กล้าที่จะให้โอกาสและรักใครอีกต่อไป ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ฉันยืนอยู่คนเดียวได้โดยไม่มีกวินเคียงข้าง แล้วต่อจากนี้..ทำไม ฉันจะอยู่ไม่ได้ หากโทโมะต้องไป!
[ไม่ว่าแกกำลังคิดจะทำอะไร ฉันขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย ขอให้แกใช้หัวใจคิด ไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดด้านลบของแก! ไม่มากหรอกนะแก้วที่จะมีใครมาเฝ้ารอคนที่ตัวเองรักเป็นสามสี่ปีแบบนี้! ฉันไม่ได้พูดให้แกไปรักโทโมะนะ เพราะฉันรู้ว่าความรักมันบังคับกันไม่ได้ ฉันก็แค่อยากให้แกทบทวนอีกครั้ง ..วินาทีสุดท้าย!]
“....”
[และหากเขาจะต้องไป แกคิดเหรอ ว่าแกจะไม่คิดถึงเค้า?]
นั้นสินะ...หากโทโมะเดินออกไปจากชีวิตของฉัน ฉันจะเป็นอย่างไร? ลองนึกดูสิ ว่าทุกๆเย็นจะมีผู้ชายหน้าหล่อคนนึงเข้ามาสั่งกาแฟดื่มทุกครั้ง ฉันเคยถามเขาอยู่ครั้งหนึ่งว่าทำไมกันที่ขาชอบมาจวนเจียนร้านจะปิด ดึกดื่นคืนค่อนแบบนั้น และคำตอบของเขาทำเอาหัวใจของฉันกระตุกข้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ...
“เปล่าหรอก แค่อยากให้แก้วเป็นคนเสิร์ฟให้ก็เท่านั้น!” เขาบอกกับฉันแบบนี้..ใช่แล้วละ หากเป็นตอนเช้าถึงบ่ายๆลูกค้าจะเยอะมากเป็นพิเศษ หากเขามาตอนนั้นฉันคงง่วนง่านอยู่กับการดูแลลูกค้าและคงให้เด็กในร้านเป็นคนบริการเขาแทน หากแต่เป็นตอนเย็นช่วงค่ำแบบนี้ลูกค้าเริ่มน้อยลงและฉัน...มีเวลาที่จะคุยกับเขามากกว่าเดิม
[แกจะบอกกับฉันว่า ที่แกจูบกับเขาเมื่อวาน แกไม่รู้สึกอะไรเลยว่างั้น?]
“เฟย์...” ให้ตายเถอะ นี่เฟย์เห็นเลิฟซีนของฉันด้วยหรือนี่? คำพูดแกมหยอกล้อของยัยเฟย์เรียกเลือดให้สูบฉีดบนใบหน้าฉันอย่างที่ฉันก็ห้ามมันไม่ได้เลย จริงสิ...ฉันไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ? หากฉันไม่รู้สึกอะไรจริงๆ ทำไมแนยังคงจดจำได้ขึ้นใจโดยที่ไม่สามารถลบมันออกไปได้เลย ทำไมฉันถึงยังรู้สึกถึงรสความหอมหวานอ่อนโยนนั่นอยู่ไม่เสื่อมคลาย ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าความอุ่นร้อนจากริมฝีปากของเขายังครอบครองฉันอยู่แม้ขณะนี้ก็ตาม แล้วความคิดน่าละเอียดละอายของฉันตอนนี้ที่อยากให้เขาจูบอีกสักครั้งมันคืออะไร?
[ฉันรู้ว่าหากแกไม่รัก ไม่คิดอะไรด้วย อย่าว่าแต่จูบเลย แค่จับมือแกยังสะบัดจนมือผู้ชายคนนั้นพลิกมาแล้ว หรือสิ่งที่ฉันพูดมันไม่ใช่เรื่องจริง ยัยแก้ว?] อืม...ตั้งแต่ฉันเลิกกับกวิน ผู้ชายหลายคนอยู่เหมือนกันที่เข้ามาแสดงความสนอกสนใจในตัวฉัน โดนฉันเล่นงานมาก็ตั้งหลายราย ช่วยไม่ได้ คนพวกนั้นอยากลวนลามฉวยโอกาสจากฉันเองทำไม จะว่าไปแล้ว..โทโมะก็ทำแบบนั้นนี่?
“เฟย์ ถ้าเขาไม่รักฉัน....”
[ถ้าเขาไม่รักแก เขาจะไม่รอ เชื่อฉันสิ!] ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบเฟย์ก็ดักขึ้นมาเสียก่อน แล้วไง..ฉันแสดงความอ่อนไหวให้เฟย์ได้รู้จนได้ ใช่!..ฉันรู้สึกดีกับเขา ฉัน...
“ฉันไม่แน่ใจ”
[หมดเวลาแล้วแก้ว มันจะหมดเวลาแล้ว แกรักเขา ไปบอกเขาซะ!] เพื่อนตัวดีสรุปให้ฉันเสร็จสรรพ ฉันเหลือบมองนาฬิกาอยู่ก็พบว่า เหลืออีกแค่ 5 นาทีเท่านั้น! หากฉันที่จะลังเลฉันก็จะต้องเสียเขาไป เวลา 5 นาทีอาจดูไม่มากนักสำหรับคนอื่นทั่วไป แต่สำหรับฉันแล้วมันหมายถึงการตัดสินใจที่จะมอบหัวใจให้ใครคนนึงได้เชียวละ เคยมีคนบอกไว้ว่า...รักเป็นสิ่งที่อยู่ในตัวเรา ไม่จำเป็นจะต้องเปิดเผยให้คนอื่นได้รับรู้ มันเป็นความรู้สึกที่มาจากใจ เหมือนกับฉันตอนนี้...ความรักสำหรับฉันไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้!
“เท่านี้นะเฟย์!” ฉันรีบกดวางสายพร้อมกับวิ่งออกไปทันที วิ่งไปยังจุดนัดพบระหว่างเขากับฉัน ผ่านผู้คนนับร้อยนับพันที่มารวมตัวกันในงานดนตรี ใจกลางเมืองแกเช่นทุกๆปี ฉันวิ่งล้มลุกคลุกคลานมาตลอดทางเนื่องจากต้องเบียดเสียดเฉียดชนกับบุคคลในที่สาธารณะ มาตามทาง ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาข้อมืออีกครั้งก็พบว่า...มันสายเกินไป
หมดเวลาแล้ว 23.58 น.
เขาคงไม่รอฉันอีกแล้ว นับจากนี้จะไม่มีผู้ชายที่ชื่อโทโมะคอยยืนเคียงข้างฉันอีกต่อไป ทั้งๆที่บอกตัวเองว่าจะไม่รัก..แล้ววันนี้ฉันจะมาฟูมฟายเพื่ออะไรกัน? ตอนนี้มันเหมือนเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนระหว่างฉันกับกวิน ร้องไห้ น้ำตา พร้อมกับหัวใจที่แตกสลายเมื่อคนที่รักเดินจากไป คนที่รักงั้นหรือ?..เดินจากไป คนที่รัก ....โทโมะ คนที่รัก .....เดินจากไป ‘เขาคือคนที่ฉันรัก’
“ฮึก...ฉันมันโง่ที่สุดจริงๆ อย่างที่เฟย์พูด ฉันโง่ ฮึก โง่ๆจริงๆ” ฉันทรุดลงกับพื้นถนนด้วยหมดหนทางจะตามหาโทโมะ ในเมื่อกวาดสายตาไปทั่วอาณาบริเวณนี้แล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลย สายตาของฉันกำลังพร่าเบลอไปด้วยม่านน้ำตาที่กำลังจะรินไหลอาบแก้มของฉันเอง ความรู้สึกอุ่นร้อนบริเวณผิวหน้าสร้างความรวดร้าวเจ็บปวดให้กับฉันราวกับโดนใครสาดน้ำกรดใส่จนใบหน้าเฟะฟะด้วยน้ำร้อนอานภาพร้ายแรง
พร้อมๆกับการเสียงตีระฆังดังกังวานเพื่อเป็นชัยและเริ่มนับถอยหลังเพื่อก้าวสู่วันใหม่ ในปีพ.ศ. 2555
10 .... 9 .... 8 .... 7
หัวใจของฉันกระตุกวูบทุกครั้งเมื่อตัวเลขที่พวกเขานับลดหลั่นลงมากทุกที ๆ ฉันยกมือกอดตัวเองทั้งที่ยังไม่ลุกไปไหนด้วยหัวใจที่กำลังหนาวเหน็บ หากไม่ใช่ความผิดของฉัน...มันจะเป็นความผิดของใคร ? คนโง่เท่านั้นที่ยอมปล่อยมือจากคนที่ตัวเองเพียงเพราะความไม่แน่ใจ!
5 .... 4 .... 3
“2.....1.....” เสื้อคลุมตัวใหญ่ทาบทับลงบนตัวของฉันพร้อมเสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหู ริมฝีปากของเขาแนบชิดกับแก้มใสขนาบใบหูของฉัน ฉันจำได้...มันคือสัมผัสของเขา...โทโมะ!!!
“โทโมะ ฮึกๆ แก้วรักโทโมะนะ แก้วรักโทโมะแล้ว รัก..ฮึก” ฉันโผเข้ากอดเข้าไว้แน่นกำสาบเสื้อของเขาไว้ราวกับว่ากลัวเขาจะเดินหายไปท่ามกลางฝูงชนนับร้อยพัน แล้วฉันจะหาเขาไม่เจอ! สัมผัสอุ่นจากมือร้อนของเขากอดตระกองโอบรอบแผ่นหลังของฉันเอาไว้แน่นเสมือนกับต้องการปลอบโยนฉันด้วยสัมผัสอ่อนโยน
“Coun’t Down” โทโมะส่งรอยยิ้มหวานให้ฉันก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมา ‘เคาท์ดาวน์’ มันมาพร้อมกับเสียงพลุหลากหลายที่แต่ละคนจุดเพื่อเฉลิมฉลองรับวันใหม่ วันที่แห่งการเริ่มต้นของทุกๆคนบนสากลโลก รวมทั้งฉันกับเขาด้วยเช่นกัน ท่ามกลางเสียงพลุ เสียงดนตรี และเสียงจอแจของผู้คนที่ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ แต่น่าแปลกที่ฉันกลับรู้สึกได้แค่เพียง...เสียงหัวใจของฉันกับเขาที่มันกำลังเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน...
“อย่าหายไปจากชีวิตแก้วเลย ได้โปรดนะโทโมะ”
“หากโทโมะจะหายไป โทโมะจะหายไปเลยไม่มีวันจะหันกลับมาอีกเป็นแน่! โทโมะไม่แน่จริงขนาดนั้นหรอก รู้ไว้ด้วย! เพราะต่อให้แก้วไม่รัก โทโมะก็จะรักแก้วอยู่ดี เลิกร้องไห้นะคนดีต่อจากนี้ จะไม่มีคำว่า ‘รอ’ และจะไม่มีคำว่า ‘รัก’ อีกต่อไป ” ฉันเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาฉงนกับคำพูดของเขา พลางส่งสายตาสงสัยเป็นเชิงถาม โทโมะหัวเราะน้อยๆก่อนที่มืออบอุ่นของเขาจะเอมมาสัมผัสเส้นผมของฉันบางเบา
“มันจะมีแค่คำว่า ‘เข้าใจ’ และคำว่า ‘เราสองคน’ เท่านั้น!” โทโมะว่าอย่างนั้นก่อนที่เขาจะดึงฉันเข้าไปกอดอีกครั้ง และฉันไม่คิดจะปฏิเสธสัมผัสนั่นเลยแม้แต่น้อย ฉันกอดเขาตอบไปอย่างรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างแปลกประหลาด ผู้คนก็ออกจะเยอะแต่ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ฉันคิดแค่ว่า..ตอนนี้มีเพียงเราะสองคน
ฉันไม่ได้บอกว่าฉันรักเขานะ....แค่ฉันขาดเขาไม่ได้ก็เท่านั้น
THE END
...............................................................................................................................
เย่ๆ ดองไว้นานก็จบละ-3-
หนุกไหม? ไม่หนุกไหม?
หากไม่ชอบใจขออภัย ณบัด NOW-..-
[เรื่องต่อไปๆๆ ไม่ดราม่าาาา'าาา จัดเขินๆสักตอน-0-]
18.00 น.
หกโมงตรง...
เฟย์โทรเข้ามาหาแก้วที่นั่งเหม่อใจลอยอยู่ภายในร้านของเธอ หญิงสาวรับสายเพื่อนตัวดีที่โทรมาบอกสวัสดีปีใหม่เหตุเพราะวันนี้เธอจะไปเดทกับเขื่อน เพราะปกติแล้วแก้วกับเฟย์ก็มักอยู่ฉลองด้วยกันทุกๆปี หญิงสาวตอบรับพร้อมแสดงความยินดีกับเพื่อนสายพร้อมๆกับวางสายลง ตามติดด้วยอาการเหม่อลอยเช่นเคย
[ แฮปปี้นิวเยียร์นะยัยแก้ว ขอโทษทีที่ปีนี้ฉันมีแฟนพาไปเคาท์ดาวน์ด้วย ฮ่าๆ ไม่เหมือนแกที่ยังคงเล่นตัวกับเค้าอยู่ได้ อิอิ] เพื่อนสาวหัวเราะเสียงใสเล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์ ทำให้แก้วถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เพื่อนรักของเธอพูดเป็นความจริงทุกประการ บางที 2 ปีที่ผ่านมา เธอควรจะรู้ใจตัวเองได้แล้ว .. ไม่มากก็ต้องน้อย!
“ไม่พูดมากน่า ไปหาพี่เขื่อนของแกเถอะ เท่านี้แหละ มีความสุขมากๆนะเฟย์ ส่วนเรื่องฉัน ฉันจัดการเองได้ ไม่ต้องห่วง”
[ยะ..บอกไว้ก่อนนะถ้าแกปฏิเสธเขาอีก ฉันจะยอมเลิกกับพี่เขื่อนแล้วตามไปฉกชิงโทโมะมาจากแกเลยคอยดู]
“อย่างแกเนี่ยนะจะยอมทิ้งพี่เขื่อน เฮอะ..!”
[ช่วยไม่ได้ โทโมะเพอร์เฟคแบบนั้นใครไม่รักก็โง่แล้ว และถ้าแกไม่อยากเป็นคนโง่ที่ไม่ยอมเปิดใจให้คนดีๆแบบเขา..ก็รีบๆถามใจตัวเองเสียทีว่าที่จริงแล้ว แกลืมไอ้กวินมันไม่ได้จนรักไม่ยอมรักโทโมะหรือเป็นเพราะแกไม่ยอมลืมมันแล้วเปิดใจกันแน่! แค่นี้นะยัยแก้ว..มีความสุขกับสิ่งที่แกตัดสินใจด้วยหัวใจตัวเอง บาย~]
เฟย์พูดด้วยความรวดเร็วหวังให้เพื่อนรักอย่างแก้วยอมเข้าใจมันเสียที ก่อนจะวางสายลง … นัยน์ตาสีหวานของแก้วทอดมองถนนใจกลางเมืองหลวงที่มีผู้คนเดินขวักไขว่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานวันปีใหม่ที่กำลังจะถึงภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ พลันคำพูดของเฟย์เมื่อครู่ก็ผุดขึ้นอีกครั้ง ‘อันที่จริงแล้วเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับโทโมะเลยอย่างนั้นนะหรือ?’
ย้อนกลับไปหนึ่งปีที่แล้ว
31 ธันวา 2553 เวลา 23.59 น.
ที่เดิม เวลาเดิม กับคนๆเดิม
ท่ามกลางผู้คนพลุกพล่านฉบับเดิมที่ไม่ว่าจะกี่ปีต่อกี่ปีในช่วงเทศกาลสำคัญๆแบบนี้ หญิงสาวคนเดิมที่เขาเฝ้ารอมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่เธอยังไม่พร้อมที่จะรักเขา และเขาหวังว่าปีนี้เธอคงจะยอมให้โอกาสผู้ชายแบบเขาดูสักครา
แค่วันนี้...เธอยอมมาตามนัด เขาก็คิดว่า ‘มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว’
“โทโมะจะไม่พูดซ้ำแล้วนะแก้ว เพราะโทโมะคิดว่า...แก้วรู้ว่าโทโมะจะพูดอะไร”
“ใช่! แก้วรู้” หญิงสาวตอบเขาเสียงเรียบพลางก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงยสบพบกับเขา
“คำถาม! ของโทโมะยังคงเหมือนเดิม ‘แก้วจะรักโทโมะได้ไหม?’ แต่รู้ไหม..ว่าโทโมะอยากให้คำตอบของแก้วเปลี่ยนไป เปลี่ยนจากไม่รักมาเป็นรัก เปลี่ยนจากไม่พร้อมมาเป็นพร้อม หากโทโมะสามารถบังคับจิตใจแก้วได้ โทโมะจะสั่งให้แก้วรัก ... ทั้งๆที่รู้ว่าแก้วคงยังไม่พร้อมใช่ไหม?” โทโมะเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทันว่าปีนี้คงไม่พ้นที่แก้วจะปฏิเสธอีกเป็นแน่ แค่ได้เห็นสีหน้า ท่าทางขาดความมั่นใจแบบนั้น...เชื่อสิ เขาดูไม่ผิดหรอก
“แก้ว ... ขอโทษที ขอโทษจริงๆ ฮึก แก้วไม่พร้อมจริงๆ” มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาตัวเองทิ้งอย่างลวกๆก่อนจะโผเข้ากอดโทโมะไว้แน่นด้วยความรู้สึกผิด โทโมะยิ้มน้อยๆให้กับตัวเองก่อนจะลูบผมปลอบปะโลมคนในอ้อมกอดให้เธอใจเย็นๆ
“ไม่เป็นไรแก้ว ไม่เป็นไร...งั้น ถ้าโทโมะมีอะไรจะขอเป็นอย่างสุดท้าย แก้วจะให้ได้ไหม”
“ฮึก อะไรหรือ?” แก้วผละออกจากแผงอกล่ำซัมของเขาก่อนจะเงยหน้ามองโทโมะทั้งที่น้ำตายังคงคลอหน่วยเต็มดวงตาคู่สวย นิ้วเรียวของคนที่เธอกำลังเผชิญหน้าเอื้อมมาปาดเม็ดน้ำตาให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน
“ปีหน้า ปีสุดท้าย..หากแก้วยังคงยืนยันว่าจะไม่มีวันรักโทโมะได้ โทโมะจะไปให้พ้นจากชีวิตของแก้ว จะไม่มาให้แก้วต้องรำคาญใจอีกต่อไป ได้ไหม?” เขาถามเสียงนุ่มแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่นจนแก้วออกอาการใจหายวูบวาบเมื่อได้ยินคำที่เขากำลังจะล่ำลา นิ่งงันไปนานโขจนโทโมะต้องเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง
“ว่าไง”
“ตกลง”
ปัจจุบัน ปี 2554 วันที่ 31 ธันวาคม เวลา 23.30 น.
ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับโอกาสสุดท้ายของโทโมะ ไม่สิ..ถ้าจะให้ถูกมันต้องเรียกว่าโอกาสของฉันมากกว่า ในระยะเวลาครึ่งชั่วโมงสุดท้ายกับการตัดสินใจอันแสนยากเย็นของฉัน แต่หากเป็นผู้หญิงคนอื่นแล้ว..คงไม่มีใครมานั่งรีรอให้มากความอย่างฉันหรอก เฟย์พูดถูก โทโมะดีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา ฐานะ รวมถึงการศึกษา ผู้หญิงมากหน้าหลากตาคงต้องการที่จะครอบครองเขา หากแต่ว่า..เขาไม่ได้สนใจพวกหล่อนก็เท่านั้น
ผู้ชายคนนี้ขอความรักจากฉันมาสองปีเต็มและฉันก็ปฏิเสธเขาเสียทุกครั้ง เหตุผลก็เพราะว่าฉันยังลืมผู้ชายที่เป็นรักแรกของฉันอย่างกวินไม่ได้ หรืออาจจะไม่ใช่หรอก..ฉันลืมเขาได้สนิทใจแล้วละ คนเสเพลแบบนั้นไม่คู่ควรแห่งการจดจำสำหรับฉันเลยแม้แต่นิดเดียว คงเป็นฉันเองที่กลัว..กลัวว่าการให้โอกาสเขาในครั้งนี้มันจะซ้ำรอยกับเรื่องของกวิน กลัวว่าหากฉันตกลงปลงใจคบกับเขาง่ายๆ เขาก็จะทิ้งฉันไปง่ายๆฉันกัน ‘รักง่ายๆ ทิ้งก็ง่ายๆเช่นกัน’ ฉันเลยไม่กล้าที่จะไว้ใจใครในตอนนั้น...
ตอนนี้..ฉันรู้แล้วว่าผู้ชายอย่างโทโมะเป็นคนอย่างไร เขาเป็นคนดีมากพอที่ฉันจะยอมฝากชีวิตและหัวใจได้ แต่...หากสิ่งที่ฉันคิดทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริงเพียงครึ่งเดียว ฉันจะทำอย่างไร? ฉันเคยร้องไห้ ฟูมฟายตอนที่กวินเดินเข้ามาหาพร้อมกับผู้หญิงคนใหม่ของเขา ‘เราไปกันไม่ได้’ ตลอดเวลา 3 ปีที่คบกันมาละ เรามาด้วยกันได้ยังไง? ณ ตอนนั้นมีเพียงคำพูดของเฟย์ที่คอยปลอบใจฉันในวันที่ฉันอ่อนล้า ไร้เรี่ยวแรง ‘เราร้องไห้ เสียใจ มากมายเสียเท่าไหร่ เขาคนนั้นไม่มารับรู้อะไรด้วยหรอก!’
เพราะฉะนั้นการตัดสินใจของฉันในครั้งนี้..ไม่เขาก็ฉันที่ต้องเจ็บกันไปข้าง!
เพราะฉันคงไม่พร้อมอีกต่อไปกับเรื่องความรัก... ความรักที่ไม่มีตันตน สัมผัสไม่ได้ มีแต่เราเท่านั้นที่คิดไปเองว่ามันคือความรัก!
ติ้ดๆ!!~
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นอีกครั้ง จนฉันหยุดความนึกคิดของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะเคลื่อนย้ายร่างกายไปรับมันด้วยความรู้สึกโหวงเหวงในจิตใจ
[ยินดีด้วยนะเพื่อนรัก ป่านนี้แกคงมีความสุขกับโทโมะไปแล้วใช่ไหม?] ปลายสายเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงระรื่น เดาได้ไม่ยากว่าเฟย์คงกำลังเข้าใจว่าฉันตกลงปลงใจกับโทโมะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แหงละก็นี่มัน 23.47 น. แล้วนี่นา
“เปล่า! แกเข้าใจผิดมหันต์แล้วเฟย์”
[เห...ทำไมล่ะ? ไม่นะแก้ว แกอย่าบอกนะ ว่าแก...] น้ำเสียงตระหนกของเฟย์บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหล่อนกำลังตกใจราวกับรู้ล่วงหน้าว่าฉันจะพูดอะไรต่อจากนี้ ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบรัวคำถาม คำพูดต่างๆนานาหวังจะให้ฉันเปลี่ยนใจ แต่เปล่าเลย! ไม่มีประโยชน์หรอก ฉันคงไม่กล้าที่จะให้โอกาสและรักใครอีกต่อไป ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ฉันยืนอยู่คนเดียวได้โดยไม่มีกวินเคียงข้าง แล้วต่อจากนี้..ทำไม ฉันจะอยู่ไม่ได้ หากโทโมะต้องไป!
[ไม่ว่าแกกำลังคิดจะทำอะไร ฉันขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย ขอให้แกใช้หัวใจคิด ไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดด้านลบของแก! ไม่มากหรอกนะแก้วที่จะมีใครมาเฝ้ารอคนที่ตัวเองรักเป็นสามสี่ปีแบบนี้! ฉันไม่ได้พูดให้แกไปรักโทโมะนะ เพราะฉันรู้ว่าความรักมันบังคับกันไม่ได้ ฉันก็แค่อยากให้แกทบทวนอีกครั้ง ..วินาทีสุดท้าย!]
“....”
[และหากเขาจะต้องไป แกคิดเหรอ ว่าแกจะไม่คิดถึงเค้า?]
นั้นสินะ...หากโทโมะเดินออกไปจากชีวิตของฉัน ฉันจะเป็นอย่างไร? ลองนึกดูสิ ว่าทุกๆเย็นจะมีผู้ชายหน้าหล่อคนนึงเข้ามาสั่งกาแฟดื่มทุกครั้ง ฉันเคยถามเขาอยู่ครั้งหนึ่งว่าทำไมกันที่ขาชอบมาจวนเจียนร้านจะปิด ดึกดื่นคืนค่อนแบบนั้น และคำตอบของเขาทำเอาหัวใจของฉันกระตุกข้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ...
“เปล่าหรอก แค่อยากให้แก้วเป็นคนเสิร์ฟให้ก็เท่านั้น!” เขาบอกกับฉันแบบนี้..ใช่แล้วละ หากเป็นตอนเช้าถึงบ่ายๆลูกค้าจะเยอะมากเป็นพิเศษ หากเขามาตอนนั้นฉันคงง่วนง่านอยู่กับการดูแลลูกค้าและคงให้เด็กในร้านเป็นคนบริการเขาแทน หากแต่เป็นตอนเย็นช่วงค่ำแบบนี้ลูกค้าเริ่มน้อยลงและฉัน...มีเวลาที่จะคุยกับเขามากกว่าเดิม
[แกจะบอกกับฉันว่า ที่แกจูบกับเขาเมื่อวาน แกไม่รู้สึกอะไรเลยว่างั้น?]
“เฟย์...” ให้ตายเถอะ นี่เฟย์เห็นเลิฟซีนของฉันด้วยหรือนี่? คำพูดแกมหยอกล้อของยัยเฟย์เรียกเลือดให้สูบฉีดบนใบหน้าฉันอย่างที่ฉันก็ห้ามมันไม่ได้เลย จริงสิ...ฉันไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ? หากฉันไม่รู้สึกอะไรจริงๆ ทำไมแนยังคงจดจำได้ขึ้นใจโดยที่ไม่สามารถลบมันออกไปได้เลย ทำไมฉันถึงยังรู้สึกถึงรสความหอมหวานอ่อนโยนนั่นอยู่ไม่เสื่อมคลาย ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าความอุ่นร้อนจากริมฝีปากของเขายังครอบครองฉันอยู่แม้ขณะนี้ก็ตาม แล้วความคิดน่าละเอียดละอายของฉันตอนนี้ที่อยากให้เขาจูบอีกสักครั้งมันคืออะไร?
[ฉันรู้ว่าหากแกไม่รัก ไม่คิดอะไรด้วย อย่าว่าแต่จูบเลย แค่จับมือแกยังสะบัดจนมือผู้ชายคนนั้นพลิกมาแล้ว หรือสิ่งที่ฉันพูดมันไม่ใช่เรื่องจริง ยัยแก้ว?] อืม...ตั้งแต่ฉันเลิกกับกวิน ผู้ชายหลายคนอยู่เหมือนกันที่เข้ามาแสดงความสนอกสนใจในตัวฉัน โดนฉันเล่นงานมาก็ตั้งหลายราย ช่วยไม่ได้ คนพวกนั้นอยากลวนลามฉวยโอกาสจากฉันเองทำไม จะว่าไปแล้ว..โทโมะก็ทำแบบนั้นนี่?
“เฟย์ ถ้าเขาไม่รักฉัน....”
[ถ้าเขาไม่รักแก เขาจะไม่รอ เชื่อฉันสิ!] ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบเฟย์ก็ดักขึ้นมาเสียก่อน แล้วไง..ฉันแสดงความอ่อนไหวให้เฟย์ได้รู้จนได้ ใช่!..ฉันรู้สึกดีกับเขา ฉัน...
“ฉันไม่แน่ใจ”
[หมดเวลาแล้วแก้ว มันจะหมดเวลาแล้ว แกรักเขา ไปบอกเขาซะ!] เพื่อนตัวดีสรุปให้ฉันเสร็จสรรพ ฉันเหลือบมองนาฬิกาอยู่ก็พบว่า เหลืออีกแค่ 5 นาทีเท่านั้น! หากฉันที่จะลังเลฉันก็จะต้องเสียเขาไป เวลา 5 นาทีอาจดูไม่มากนักสำหรับคนอื่นทั่วไป แต่สำหรับฉันแล้วมันหมายถึงการตัดสินใจที่จะมอบหัวใจให้ใครคนนึงได้เชียวละ เคยมีคนบอกไว้ว่า...รักเป็นสิ่งที่อยู่ในตัวเรา ไม่จำเป็นจะต้องเปิดเผยให้คนอื่นได้รับรู้ มันเป็นความรู้สึกที่มาจากใจ เหมือนกับฉันตอนนี้...ความรักสำหรับฉันไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้!
“เท่านี้นะเฟย์!” ฉันรีบกดวางสายพร้อมกับวิ่งออกไปทันที วิ่งไปยังจุดนัดพบระหว่างเขากับฉัน ผ่านผู้คนนับร้อยนับพันที่มารวมตัวกันในงานดนตรี ใจกลางเมืองแกเช่นทุกๆปี ฉันวิ่งล้มลุกคลุกคลานมาตลอดทางเนื่องจากต้องเบียดเสียดเฉียดชนกับบุคคลในที่สาธารณะ มาตามทาง ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาข้อมืออีกครั้งก็พบว่า...มันสายเกินไป
หมดเวลาแล้ว 23.58 น.
เขาคงไม่รอฉันอีกแล้ว นับจากนี้จะไม่มีผู้ชายที่ชื่อโทโมะคอยยืนเคียงข้างฉันอีกต่อไป ทั้งๆที่บอกตัวเองว่าจะไม่รัก..แล้ววันนี้ฉันจะมาฟูมฟายเพื่ออะไรกัน? ตอนนี้มันเหมือนเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนระหว่างฉันกับกวิน ร้องไห้ น้ำตา พร้อมกับหัวใจที่แตกสลายเมื่อคนที่รักเดินจากไป คนที่รักงั้นหรือ?..เดินจากไป คนที่รัก ....โทโมะ คนที่รัก .....เดินจากไป ‘เขาคือคนที่ฉันรัก’
“ฮึก...ฉันมันโง่ที่สุดจริงๆ อย่างที่เฟย์พูด ฉันโง่ ฮึก โง่ๆจริงๆ” ฉันทรุดลงกับพื้นถนนด้วยหมดหนทางจะตามหาโทโมะ ในเมื่อกวาดสายตาไปทั่วอาณาบริเวณนี้แล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลย สายตาของฉันกำลังพร่าเบลอไปด้วยม่านน้ำตาที่กำลังจะรินไหลอาบแก้มของฉันเอง ความรู้สึกอุ่นร้อนบริเวณผิวหน้าสร้างความรวดร้าวเจ็บปวดให้กับฉันราวกับโดนใครสาดน้ำกรดใส่จนใบหน้าเฟะฟะด้วยน้ำร้อนอานภาพร้ายแรง
พร้อมๆกับการเสียงตีระฆังดังกังวานเพื่อเป็นชัยและเริ่มนับถอยหลังเพื่อก้าวสู่วันใหม่ ในปีพ.ศ. 2555
10 .... 9 .... 8 .... 7
หัวใจของฉันกระตุกวูบทุกครั้งเมื่อตัวเลขที่พวกเขานับลดหลั่นลงมากทุกที ๆ ฉันยกมือกอดตัวเองทั้งที่ยังไม่ลุกไปไหนด้วยหัวใจที่กำลังหนาวเหน็บ หากไม่ใช่ความผิดของฉัน...มันจะเป็นความผิดของใคร ? คนโง่เท่านั้นที่ยอมปล่อยมือจากคนที่ตัวเองเพียงเพราะความไม่แน่ใจ!
5 .... 4 .... 3
“2.....1.....” เสื้อคลุมตัวใหญ่ทาบทับลงบนตัวของฉันพร้อมเสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหู ริมฝีปากของเขาแนบชิดกับแก้มใสขนาบใบหูของฉัน ฉันจำได้...มันคือสัมผัสของเขา...โทโมะ!!!
“โทโมะ ฮึกๆ แก้วรักโทโมะนะ แก้วรักโทโมะแล้ว รัก..ฮึก” ฉันโผเข้ากอดเข้าไว้แน่นกำสาบเสื้อของเขาไว้ราวกับว่ากลัวเขาจะเดินหายไปท่ามกลางฝูงชนนับร้อยพัน แล้วฉันจะหาเขาไม่เจอ! สัมผัสอุ่นจากมือร้อนของเขากอดตระกองโอบรอบแผ่นหลังของฉันเอาไว้แน่นเสมือนกับต้องการปลอบโยนฉันด้วยสัมผัสอ่อนโยน
“Coun’t Down” โทโมะส่งรอยยิ้มหวานให้ฉันก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมา ‘เคาท์ดาวน์’ มันมาพร้อมกับเสียงพลุหลากหลายที่แต่ละคนจุดเพื่อเฉลิมฉลองรับวันใหม่ วันที่แห่งการเริ่มต้นของทุกๆคนบนสากลโลก รวมทั้งฉันกับเขาด้วยเช่นกัน ท่ามกลางเสียงพลุ เสียงดนตรี และเสียงจอแจของผู้คนที่ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ แต่น่าแปลกที่ฉันกลับรู้สึกได้แค่เพียง...เสียงหัวใจของฉันกับเขาที่มันกำลังเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน...
“อย่าหายไปจากชีวิตแก้วเลย ได้โปรดนะโทโมะ”
“หากโทโมะจะหายไป โทโมะจะหายไปเลยไม่มีวันจะหันกลับมาอีกเป็นแน่! โทโมะไม่แน่จริงขนาดนั้นหรอก รู้ไว้ด้วย! เพราะต่อให้แก้วไม่รัก โทโมะก็จะรักแก้วอยู่ดี เลิกร้องไห้นะคนดีต่อจากนี้ จะไม่มีคำว่า ‘รอ’ และจะไม่มีคำว่า ‘รัก’ อีกต่อไป ” ฉันเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาฉงนกับคำพูดของเขา พลางส่งสายตาสงสัยเป็นเชิงถาม โทโมะหัวเราะน้อยๆก่อนที่มืออบอุ่นของเขาจะเอมมาสัมผัสเส้นผมของฉันบางเบา
“มันจะมีแค่คำว่า ‘เข้าใจ’ และคำว่า ‘เราสองคน’ เท่านั้น!” โทโมะว่าอย่างนั้นก่อนที่เขาจะดึงฉันเข้าไปกอดอีกครั้ง และฉันไม่คิดจะปฏิเสธสัมผัสนั่นเลยแม้แต่น้อย ฉันกอดเขาตอบไปอย่างรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างแปลกประหลาด ผู้คนก็ออกจะเยอะแต่ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ฉันคิดแค่ว่า..ตอนนี้มีเพียงเราะสองคน
ฉันไม่ได้บอกว่าฉันรักเขานะ....แค่ฉันขาดเขาไม่ได้ก็เท่านั้น
THE END
...............................................................................................................................
เย่ๆ ดองไว้นานก็จบละ-3-
หนุกไหม? ไม่หนุกไหม?
หากไม่ชอบใจขออภัย ณบัด NOW-..-
[เรื่องต่อไปๆๆ ไม่ดราม่าาาา'าาา จัดเขินๆสักตอน-0-]
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ