Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ
8.6
เขียนโดย StrawberryTKCuTe
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.
43 ตอน
2163 วิจารณ์
116.40K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
27) ล้านคำรัก ร้อยคำลวง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความล้านคำรัก ร้อยคำลวง
นับตั้งแต่นาทีที่ฉันลืมตาขึ้นมาก็พบเข้ากับเจ้าของนัยน์ตาสีดำคู่เฉี่ยวที่กำลังเฝ้ามองทุกการกระทำของฉันทุกฝีก้าว ยังไม่พอนอกจากจะจับตามองฉันตลอดเวลาแล้วเขายังไม่ยอมปล่อยให้ฉันออกนอกห้องอีกด้วย ให้ตายเถอะ! โทโมะดื้อด้านและเอาแต่ใจมากขึ้นทุกวันแล้วนะ เกลียดจริงเลย..รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กับแววตาแพรวพราวนั้นน่ะ
“นี่...โรคจิตหรือไงถึงเที่ยวมากักขังคนอื่นเขาแบบนี้น่ะ!” ฉันตวาดแว้ดอย่างฉุนๆใส่หน้าคนตัวโตที่ยืนยิ้มหน้าระรื่น
“แก้วก็ให้ชอบกักขัง” คำพูดของนายตัวร้ายทำให้หน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมาเชียวล่ะ!
“บ้า!”
“อย่าแว้ดไปหน่อยเลยน่าสาวน้อยขออยู่ด้วยวันนึง...”
ถ้อยคำอ่อนหวานพร้อมกับร่างสูงนั่นเดินเข้ามาโอบกอดฉันด้วยอ้อมแขนแข็งแกร่งของเขายิ่งทำให้ฉันหัวใจเต้นแรง ไม่ว่าจะดิ้นหนียังไงก็ไม่หลุดออกจากพันธนาการที่คนเอาแต่ใจสร้างขึ้นแม้แต่นิดเดียว เขากอดฉันไว้จากทางด้านหลัง...พร้อมก้มกระซิบเบาๆว่า ‘รัก’ หัวใจของฉันกระตุกวูบไหว ร่างกายรู้สึกสั่นสะท้านอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อรู้สึกว่าลมหายใจอันแสนเร่าร้อนของเขาที่เป่ารดผิวกายมันช่างสร้างความปั่นป่วนให้ฉันได้มากเหลือเกิน!
“ไม่เอาน่า...ปล่อยนะ” ด้วยความเขินจัดและฉันเป็นคน ‘เขินง่าย ร้อนง่าย’ จึงจำเป็นจะต้องอยู่ห่างเขา เราสองคนก็เป็นเหมือนน้ำมันกับไฟ เขาร้อนแรงทุกเมื่อในขณะที่ฉันคือหัวเชื้อชั้นดีที่พร้อมจะจุดติดกันทุกครั้งที่เข้าใกล้!
“ถ้าแก้วยังไม่ลืมบทลงโทษสำหรับเด็กดื้อด้านแล้วละก็...เชิญเลยครับ เชิญก้าวออกจากห้องนี้ไป”
“โทโมะบ้า!” เรื่องที่เขาขุดขึ้นมาพูดสร้างความปั่นป่วนในท้องไส้ฉันได้มากล้น อยากจะตรงเข้าไปตะปบหน้าหวานๆช่างแสนจะเอาแต่ใจนั้นเต็มประดา แต่ด้วยพละกำลังที่น้อยกว่าเกินจะต้านทานเขาไว้ทำให้ฉันจำเป็นต้องหยุดความคิดนั้น
“เขิน เขินใหญ่เลยคนตัวเล็ก”
“ถ้ายังไม่เลิกแกล้ง...แก้วจะปาดอกไม้กับข้อความหวานเลี่ยนนั่นลงถังขยะ!” ฉันต่อรองเขาด้วยแววตามุ่งมั่น แต่ทว่า...
“สงสัยแก้วจะจำบทลงโทษนั่นไม่ได้จริงๆสินะ งั้นเดี๋ยวจะทำให้ดู...”
“ว้าย!” มือหนาเลิกเสื้อยืดของฉันขึ้นจนเกือบเห็นบราเซียและแววตาของเขาก็ดูเจ้าเล่ห์แพรวพราวแฝงไปด้วยความมั่งมั่นที่หมายความว่าเขาพูดจริงและทำจริงแน่หากฉันยังคงดื้อดึงใส่อยู่แบบนี้
ฉันร้องออกมาเบาๆก่อนจะฟาดแรงๆที่ต้อนแขนแข็งแรงของเขา แน่นอน..เจ้าตัวปล่อยฉันเป็นอิสระแต่ก็ยังไม่วายจะกดริมฝีปากร้อนๆทาบทับกลีบปากของฉันอย่างฉวยโอกาส!
“ไม่ต้องกังวลแล้วนะเด็กดี...โทโมะเคลียร์กับเบลล์เรียบร้อยแล้ว ต่อไปนี้เขาจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับเราอีก”
ฉันนิ่งไปเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น ลึกๆแล้วดีใจแทบบ้าอย่างจะเต้นเร่าไปรอบห้อง แต่อีกใจก็ยังไม่พร้อมจะเชื่ออย่างสนิทนัก เพราะดูท่าแล้วผู้หญิงคนนั้นคงไม่ปล่อยเรื่องของฉันกับเขาไว้ให้จบง่ายๆแบบนี้แน่
“แน่ใจเหรอ?”
“ทำหน้าแบบนี้ไม่เชื่อเหรอ จะโทรไปถามเขามั้ยล่ะ”
คนตัวสูงทำหน้ามุ่ยใส่ฉันอย่างงอนๆ เขามักจะเป็นแบบนี้เสมอลองฉันทำท่าไม่ไว้ใจอะไรเข้าหน่อยก็หาเรื่องงอนให้ฉันง้อได้ตลอดเวลา และฉันก็ชักติดนิสัยเหล่านั้นจากเขามาเยอะพอสมควรแล้วน่ะ!
“ไม่เอาน่าอย่ามางอนนะสุดหล่อ”
ฉันเอื้อมมือไปบีบจมูกรั้นสูงของเขาไปมาอย่างหมั่นไส้ เจ้าตัวเองก็เริ่มมีรอยยิ้มออกมาบ้างแล้วล่ะ เขารั้งร่างของฉันเข้าไปหา ใบหน้าของเราอยู่ห่างกันไม่ถึงสามเซน ลมหายใจร้อนผ่าวของเขารินรดใบหน้าฉันจนร้อนตามมัน นัยน์ตาสีดำสนิทอันแสนมีเสน่ห์ดึงดูดฉันไว้ทุกวินาทีที่เราใกล้ชิดกัน
ฉันไม่อาจะละสายตาไปจากเขาได้เลย...
ไม่ต้องรอให้ใครพูดอะไรขึ้นมาเพื่อสลายความเงียบนั้น ริมฝีปากร้อนผ่าวของคนเอาแต่ใจก็ทาบทับริมกลีบปากของฉันจนแนบสนิทไปทุกอณู เขาจูบฉันไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้สึกเบื่อมันสักครั้งกับริมฝีปากอันแสนคุ้นเคยที่เขาต้องจูบมันอยู่ทุกวี่วัน ฉันเองก็เช่นเดียวกัน
ฉันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฉันต้องการให้เขาจูบแบบนี้ไปเรื่อยๆ ลมหายใจของเราหล่อหลอมเป็นอันหนึ่งอันเดียวทุกครั้งยามที่ฉันเริ่มหมดลมหายใจ ต้นเหตุมาจากเขาที่ดึงดูดลมหายใจของฉันไปด้วยจุมพิตร้อนแรงแต่หวานละมุนเกินกว่าจะหยุดยั้งมันได้ง่ายๆ และก็เป็นเขาอีกเช่นเดียวกันที่มอบลมหายใจอุ่นๆแทนกลับมา...
ฉันกอดร่างสูงแกร่งของเขาไว้แน่นอย่างต้องการหาที่พึ่งพายามที่สองขาอ่อนแรงจวนเจียนจะล้มปกองกับพื้นด้วยความหวามไหวที่เขาหยิบยื่นให้ และแล้วอ้อมแขนแข็งแรงของเขาก็ช่วยโอบประคองร่างของฉันให้กลับคืนมาก่อนจะถอนจุมพิตออกอย่างอ้อยอิ่ง
“คะ..คนบ้า!” ฉันต่อว่าเขาพร้อมทั้งหลบหน้างุดด้วยความอายต่อสายตาเจ้าชู้แบบนั้น
“รู้น่าว่าชอบ...ไม่เห็นต้องโวยวายเลย” เอาอีกแล้วน่ะ! โทโมะทำให้ฉันรู้สึกร้อนผะผ่าวที่ใบหน้าได้อีกแล้ว ร่างสูงทำหน้ากวนโอ๊ยพลางใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มอย่างกวนประสาท
“นี่...!”
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้จัดการไอ้คนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าเสียงข้อความจากโทรศัพท์กลับดังขึ้นเสียก่อน ฉันชี้หน้าคนตัวยุ่งว่าห้ามมายุ่งโน่นนี่กับเรื่องของฉัน โทโมะพยักหน้ารับอย่างอารมณ์เสียก่อนจะยอมเดินไปนั่งรอฉันที่โซฟาและฉัน...เดินเลี่ยงมาเปิดข้อความอ่านอีกมุมนึงของห้อง
‘ออกมาเจอกันหน่อยมั้ยสาวน้อย เธอน่าจะรู้ว่าฉันเป็นใคร ถ้าอยากเคลียร์ทุกอย่างก็ไปเจอฉันที่xxx’
ความหมายในข้อความบ่งชัดให้ฉันรู้ว่าคนที่ส่งมันมาหาฉันคือใคร ‘เบลล์’ แน่ๆ เป็นเธอแน่นอน! แล้วไหนโทโมะบอกฉันว่าเขาเคลียร์เรื่องทุกอย่างจบแล้วไง นี่อะไร...อดีตผู้หญิงของเขายังตามก่อกวนฉันอยู่อีก หรืออันที่จริงโทโมะเป็นคนจบทุกอย่างเองโดยที่เบลล์ไม่ได้จบไปกับเขาด้วย เธอถึงได้นัดฉันออกไป ‘เคลียร์’ แบบนี้
และฉันก็เป็นพวกที่ไม่ชอบอะไรที่มัน ‘ค้างคา’ เหมือนกัน อยากจะรู้นักว่าเธอมีเรื่องอะไรที่ต้องเรียกฉันออกไปพบด้วย และลางสังหรณ์บางอย่างบอกฉันว่ามันไม่น่าจะใช่เรื่องที่ดีเลยล่ะ! ฉันนิ่งไปอย่างใช้ความคิดและก็ตอบตกลงทันทีด้วยการส่งข้อความกลับไป
‘ก็ได้ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ’
หลังจากที่ส่งข้อความตอบกลับเธอไปเรียบร้อยฉันก็ลืมไปอีกเรื่องว่าจอมวายร้ายยังคงนั่งหน้าหงิกอยู่บนโซฟานั่น นี่ฉันยังไม่ได้คิดหาวิธีออกจากคอนโดของเขาเลยนะ แย่ล่ะ!
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น จะออกไปเที่ยวไหนหรือไง?!” เขาถามด้วยน้ำเสียงหาเรื่อง ดูเหมือนว่าพ่อคนเอาแต่ใจคนนี้จะเดาสีหน้าและท่าทางฉันออกได้ทุกระเบียดนิ้ว
“เปล่านะ...แค่เริ่มไปว่ามีรายงานด่วนที่ต้องทำ แก้วไปก่อนนะพอดีเพื่อนแมสเซจมาตามน่ะ”
“เพื่อนคนไหนครับ เอามือถือมาดูซิ” ร่างสูงทำหน้าไม่เชื่อแถมยังจะเข้ามาแย่งโทรศัพท์มือถือของฉันไปดูอีก ไม่ได้นะ! ถ้าให้เขาดูก็เป็นเรื่องนะสิ
“อย่านะ เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อใจกันแล้วเหรอ?”
“เดี๋ยวแก้วหนีเที่ยว”
“บ้าน่า แก้วไปแปปเดียวเดี๋ยวกลับนะ...นะ...” ฉันรีบเข้าไปเกาะแขนแข็งแรงเพื่อออเซาะเขา แต่ดูท่าแล้วจะเป็นเรื่องยากมากเลยล่ะ
“งั้นไปด้วย จะไปช่วยทำไง”
“ไม่ต้องเลย...แก้วจะไปทำที่หอกับเพื่อน ผู้ชายเข้าได้ที่ไหน เอาน่าไปแค่ครึ่งวันโอเคนะคะคนตัวใหญ่~” เขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดก่อนจะยอมพยักหน้าตกลงแต่มีเงื่อนไขว่าต้องให้เขาไปส่งและฉันก็บอกให้เขาไปส่งที่หน้าหอเพื่อนของฉันจริง...
เสร็จแล้วฉันจึงนั่งรถมาหาเบลล์ตามจุดที่เรานัดพบกันอีกทีน่ะ...
ฉันมานั่งรอผู้หญิงคนนั้นอยู่ภายในร้านอาหารที่ค่อนข้างแบ่งสัดส่วนเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวเพราะเธอเพิ่งแมสเซจมาบอกฉันว่าเธอจะมาล่าช้าไปประมาณ 15 นาที ไม่นานนัก...ผู้หญิงสวยเปรี้ยวท่าทางระหงรสนิยมเลิศคนนึงที่ฉันเคยพบเจอเธอบ่อยๆที่บริษัท เพราะเมื่อก่อนนั้น...เธอมาหา ‘แฟน’ ของเธออยู่ประจำ
เธอเหยียดยิ้มให้ฉันมาแต่ไกลและดูท่าแล้วรอยยิ้มนั้นคงจะอาบไว้ด้วยยาพิษดีๆนี่เอง!
“ขอโทษที่ให้รอนะสาวน้อย”
“ไม่เป็นไรค่ะว่าธุระของคุณมาดีกว่า พอดีแก้วมีเวลาไม่มาก...” ฉันบอกไปตามความจริงเพราะสัญญากับคนเอแต่ใจเอาไว้ว่าจะมาแค่ครึ่งวันเท่านั้น
“ใจร้อนจริง คงเพราะเขาสินะเธอถึงต้องรีบกลับ โทโมะคงหวงเธอมากละสิ” เบลล์แค่หัวเราะออกมาอย่างฝืนใจ อาการนั้นฉันดูก็พอจะรู้
“ไม่ใช่หรอกค่ะ พอดีแก้วมีนัดทำรายงานกับเพื่อน มันเป็นงานด่วนไม่ใช่เพราะโทโมะมาหวงอะไรแก้วหรอก”
“เหรอ...” เธอยิ้มอีกครั้ง “เขาคงบอกเธอว่าเคลียร์เรื่องของฉันกับเขาเรียบร้อยแล้วงั้นสิ ถ้าเดาไม่ผิดน่ะนะ”
ผู้หญิงคนนี้เก่งชะมัดยาด! เธอเดาสถานการณ์ทุกอย่างออกได้อย่างตรงเผง ฉันคาดว่าเขาน่าจะรู้จักโทโมะดีพอสมควรเลยล่ะถึงได้รู้ว่าเขานิสัยยังไง ก็เขานะ...ถ้าอยากให้คนที่ตัวเองรักเชื่อใจ เขาจะเรียบพูดทันทีไม่รอให้ฉันเป็นฝ่ายถาม
“ก็แล้วเรื่องมันเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่าคะ ไม่ใช่อะไรหรอก...แก้วไม่อยากฟังความข้างเดียวถึงโทโมะจะบอกแบบนั้นก็จริงแต่แก้วก็ต้องฟังคุณด้วย”
“โทโมะรักเธอแล้วทิ้งฉันไปเพราะเหตุผลนี้สิน่ะ”
“อะไรนะคะ”
“เพราะเธอชอบทำให้เขาหวั่นไหว ไม่ว่าจะท่างทาง คำพูดหรือน้ำเสียง! เหอะ แต่ขอบอกเอาไว้เลยว่าคนอย่างโทโมะไม่ได้เป็นแบบที่เธอเข้าใจหรอก”
“คุณกำลังจะบอกอะไรกับแก้วกันแน่”
ผู้หญิงคนนี้ดูลึกลับซับซ้อนยังไงชอบกล แววตาคมกริบหากแต่แอบแฝงอะไรบางอย่างจนบางทีฉันก็เริ่มรู้สึกกลัวสายสวยตรงหน้านี่เสียแล้ว เธอกรีดยิ้มอีกครั้ง...และฉันก็ยังไม่เข้าใจกับท่าทางแบบนั้น และก่อนที่อะไรๆจะทำให้ฉันสับสนไปมากว่าที่ควรจะเป็น พี่เคนตะก็เดินเข้ามาทางเราสองคนดี...
นี่มันเรื่องอะไรกัน!
“สวัสดีครับน้องแก้ว ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง”
“ค่ะพี่เคนตะ” ฉันตอบรับคำทักทายที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ค่อยยินดีที่ได้เจอกับฉันตามคำที่ปากเขาพูด สีหน้าของพี่เคนตะดูหม่นหมองและไม่ค่อนร่าเริงเหมือนตอนที่ฉันเจอเขาที่บ้านเลย
“มีอะไรก็พูดไปเลยเคน...แก้วเขามีเวลาไม่มากน่ะ” เป็นเสียงของผู้หญิงคนนั้นที่เอ่ยขึ้นทำให้ฉันถึงกับต้องมองสองคนสลับไปมาด้วยความงุนงง นี่พี่เคนจิมาเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ด้วยล่ะเนี่ย!
“ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันคะแก้วงงไปหมดแล้ว”
“เมื่อวานที่โทโมะบอกเธอว่าเขาเคลียร์เรื่องของฉันกับเขาแล้วน่ะ มันไม่ใช่ความจริงหรอกสาวน้อย...”
“...!!!”
ฉันนิ่งไปอย่างช่วยไม่ได้แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อทีเดียวว่าโทโมะจะโกหกฉัน น้ำเสียงและแววตาที่ดูขึงขังจริงจังจนฉันไม่อาจปรามาสว่าเขาโกหกฉันได้เลยแม้แต่น้อย แล้วจู่ๆผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาบอกว่าทุกอย่างยังไม่จบ…บ้าเอ้ย! ทำไมลางสังหรณ์ฉันแม่นขนาดนี้เนี่ย!
“ฉันไม่อยากให้เขาโกหกเธออีกต่อไป เพราะความจริงแล้วเราสองคน ‘รักกันมาก’ เกินกว่าที่เขาจะปล่อยฉันไป และที่เขาคบเธอไว้ก็เพียงแก้เหงา...”
“ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นคนแบบนั้น ขอโทษด้วยที่ฉันต้องพูดว่า...ขอตัวก่อนคะ” ฉันรู้ว่าฉันเสียมารยาที่พูดออกไปแบบนั้นแต่การที่ผู้หญิงคนนี้จะมานั่งโกหกเพื่อให้ฉันกับเขาแตกหักกันแล้วล่ะก็...ขอบอกว่ายาก ฉันเชื่อใจเขามากขึ้นทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน!
ฉันก็มีสิทธิ์คิดแบบนั้นไม่ใช่เหรอ ในเมื่อเราสองคนเป็นคนรักกัน!
“แต่เรื่องที่เบลล์พูดเป็นความจริง” ฉันที่กำลังจะลุกขึ้นออกจากโต๊ะกลับต้องชะงักฝีเท้าเมื่อเสียงที่พูดโต้กลับมานั้นไม่ใช่เสียงของเบลล์แต่กลับเป็นพี่เคนตะแทน
“ว่าไงนะคะ” ฉันถามย้ำอีกครั้งขณะที่มองหน้าสองคนสลับกันไปมา
“โทโมะบอกกบพี่ว่ามันจะหมั้นกับเบลล์และถ้าแก้วไม่เชื่อ ก็ลองฟังนี่...” พี่เคนตะหยิบมือถือของตนเองออกจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะกดเพลย์เล่นอะไรบางอย่างให้ฉันได้ฟัง ถึงจะรู้สึกเป็นกังวลและหัวใจออกจะเต้นระรัวด้วยความสับสน มือฉันดันเอื้อมไปคว้ามือถือนั้นมาจนได้
‘ผมจะหมั้นกับเบลล์ก็ได้ โอเคๆครับพี่ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกน่า ผมกับแก้วไม่ได้มีอะไรกัน’
เสียงนั้นราวกับคมดาบร้อนที่เพิ่งถูกตีเสร็จหมาดฟาดผ่าลงที่กลางหัวใจของฉัน ฉันจดจำได้ดีว่าเสียงทุ้มนุ่มหูนั่นเป็นเสียงของโทโมะแน่ๆ! ตอนนี้ทุกอย่างกลับตาลปัดไปหมด คนที่เคยบอกว่ารักฉันนักหนาแท้จริงแล้วมันก็แค่ลมปากของผู้ชายคนนึงเท่านั้น! ฉันอุตส่าห์ไว้ใจเขา เชื่อใจเขาแล้วสุดท้าเป็นไง...นี้นะหรือคือผลตอบแทนของความไว้เนื้อเชื่อใจ!
พอกันทีกับคำหลอกลวง ฉันควรจะขอบคุณเบลล์กับพี่เคนจิสินะที่ช่วยเปิดหูตาของฉันจนมันสว่างชัดเจนแบบนี้! น้ำตาที่ฉันพยายามกลั้นหลังจากฟังคลิปเสียงนั่นจบกลับรินไหลลงราวกับทำนบแตก ฉันจำใจต้องปาดมันทิ้งเงียบๆก่อนจะวิ่งออกมากจากที่นั้นโดยไม่สนใจเสียงเรียกของพี่เคนตะ เสียงหัวเราะอย่างสะใจของเบลล์และท่ามกลางสายตาของผู้คนนับร้อยที่อยู่ในร้าน!
ถ้าหลักฐานไม่มัดเขาแน่นฉันก็พอจะทำใจเชื่อว่าเรื่องวันนี้ที่มันเกิดขึ้นเป็นเพราะเขาสองคนจงใจปั่นหัวฉัน แต่มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรมาลบล้างความรู้สึกของฉันได้เลยสักนิด ไม่มีเลย! เขาทำลายความไว้ใจของฉันจนขาดสะบัดและทำให้หัวใจดวงนี้ของฉันที่มีแต่เขาต้องย่อยยับลงคามือผู้ชายลหลอกลวงคนนั้น!
พอกันทีกับความรู้สึกบ้าบอของฉัน พอกันทีกับความรักบ้าๆที่ไม่มีวันเป็นจริง!
กลับมาอีกครั้งเมื่อปิดเทอมคับผมมมมม :')
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ