Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ
เขียนโดย StrawberryTKCuTe
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.
แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
26) Bad Valentine
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Bad Valentine
14 Feb. 2013
“โทโมะ คืนนี้ว่างหรือเปล่าไปอาฟเตอร์ปาร์ตี้งานแต่งเพื่อนกับเบลล์หน่อยสิ” เสียงข้อความที่ฝากไว้ในไอโฟนตัวเก่งถูกเปิดฟังโดยร่างเล็กที่นั่งหน้าง้ำหลังจากเสียงสนทนาของผู้หญิงอีกคนจบลง แม้จะรู้ดีว่าออกจะเสียมารยาทไปสักนิดที่ถือวิสาสะกับโทรศัพท์ของเขาแต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ
“คืนนี้อย่าลืมไปปาร์ตี้กับแฟนนะเดี๋ยวเขาจะรอเก้อหนึ่งทุ่มเขาบอกให้ไปรับที่บ้านด้วย”
“....”
“แต่งตัวหล่อๆล่ะเผื่อเขาจะพาไปเปิดตัวที่งานแต่งเพื่อน!”
น้ำเสียงนั้นดูเหมือนจะเป็นเพียงการบอกกล่าวหากแต่นัยยะที่แฝงอยู่นั้นบ่งบอกได้ดีว่าคนพูดกำลังประชดใส่สุด”ฤทธิ์ อันที่จริงก่อนหน้านั้นเบลล์โทรมาชวนเขาก่อนหน้านี้แล้วและนี้ก็คงจะโทรมาย้ำกับเขากันเขาจะเบี้ยว
“ครับ”
“....” เขาทำเพียงแค่ตอบรับและเฝ้าดูอาการของเธอนิ่งๆ
ร่างเล็กหมุนตัวเตรียมเดินไปที่ประตูแต่กลับถูกมือหนาคว้าข้อมือเล็กเอาไว้แล้วดึงเธอเบาๆเข้าสู่อ้อมกอด เธอดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนเมื่อถูกเขาจองจำเอาไว้ด้วยความอบอุ่นที่พร้อมจะหล่อหลอมให้เธอละลายไปกับเขาอยู่ ณ ที่ตรงนั้น โทโมะโน้มใบหน้าหล่อจัดลงมากระซิบชิดริมหูสวยนั้นเสียงแหบพร่าพร้อมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“ไปแปปเดียวนะครับรอโทโมะอยู่ที่นี่นะ ห้ามดื้อ”
“นี่!...”
“อยากจะกลับไปไม่สบายอีกรอบก็ลองเถียงออกมาอีกคำสิครับ” เขายื่นคำขาด แก้วหันไปจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่องดวงตาคมปลาบมองเธอยิ้มๆอย่างคนถือไพ่เหนือกว่าในขณะที่แก้วทำได้เพียงกัดฟันกรอดและยอมจำนน
“เผด็จการ!!”
“แก้วก็ชอบให้โทโมะเผด็จการ...”
“บะ...บ้า!!” ใบหน้าสวยสั่นระริกกับความหมายที่แอบแฝงของเขา แก้มปลั่งสูบฉีดเลือดจนขึ้นสีแดงฝาดระเรื่อ
“จูบกันหน่อยมั้ย?”
“...!!”
เจ้าของคำตอบมองเขาด้วยแววตาเข่นเขี้ยว คนเจ้าเล่ห์ยังไงก็เจ้าเล่ห์อยู่ยันวันยันค่ำ แต่ถึงกระนั้นก็เถอะทุกคำพูดที่หลุดจากปากเขา ทุกการกระทำอ่อนหวานเวลาที่เขาอยู่กับเธอ ทุกความหมายในแววตาพราวระยิบคู่นั้นสร้างความหวามไหวให้กับเธอได้ตลอดเวลา ดวงหน้าหวานละมุนเคลื่อนคล้อยเข้าหาอีกนิด ก่อนริมฝีปากร้อนผ่าวจะมอบจุมพิตอ่อนหวานให้สาวน้อยของเขา
“ให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะสาวน้อยของโทโมะ” เขาถอนริมฝีปากออกเพียงเล็กน้อยก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว
หญิงสาวมึนงงด้วยรสจุมพิตของเขาราวกับถูกวางยากล่อมให้เคลิบเคลิ้มตามไป ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อย เสียงที่ผ่านออกจากลำคอแผ่วเบาราวเสียงกระซิบฟังไม่รู้ศัพท์เมื่อถูกจู่โจมจนมึนตื้อ หูอื้อตาลายไปหมด
“อื้อ!”
“หมดเวลาแล้วเด็กดี”
“...อย่า”
โทโมะมองดวงหน้าใสด้วยแววตาเอ็นดู เขาคลี่ยิ้มบางๆก่อนจะหอมเข้าฟอดใหญ่ที่แก้มนิ่มของหญิงสาว มือหนายกขยี้กลุ่มผมของงคนในอ้อมกอดอย่างหมั่นเขี้ยว นึกหมั่นไส้ระคนเอ็นดูคนตรงหน้านี้จนไม่อยากห่างไปไหนเลยให้ตาย
“น่ารักจังเลยให้ตายเหอะ....ยัยหมาน้อย”
“โทโมะ....ว่าแก้วเป็นหมาเหรอ!” เขาหัวเราะขบขันกับท่าทางฟึดฟัดนั่นน้อยๆก่อนจะหายกลับเข้าไปในห้องน้ำและออกมาแต่งตัวเพื่อไปงานเลี้ยง
ไม่อยากให้เขาไปเลย...ให้ตายสิ! นี่ถ้าไม่ใช่วันวาเลนไทน์เธอก็คงจะไม่อารมณ์เสียมากขนาดนี้ แต่อย่างว่าล่ะผู้หญิงคนนั้นก็คงอยากควงคนรักของเขาไปเปิดตัวกับเพื่อนๆบ้างอะไรบ้าง เธอไม่มีสิทธิ์คิดมากอะไรอยู่แล้วนี่เพราะฐานะของเธอในวันนี้ก็แค่ตัวสำรองอยู่ยันวันยันค่ำ!
“แฮปปี้วาเลนไทน์เดย์นะครับสาวน้อย” โทโมะเอี้ยวตัวลงมาหอมฟอดใหญ่ที่พวงแก้มนิ่มของคนตัวเล็กที่นั่งคิดอะไรเพลินๆจนเจ้าตัวสะดุ้งเฮือกและค้อนใส่เขาอย่างมึนตึง
“มันก็แค่สิบสี่กุมภาไม่เห็นจะมีอะไรผิดแปลกจากวันอื่นๆตรงไหน ไม่ได้สำคัญอะไรหรอก”
“งั้นเหรอ...”
“ใช่!” สาวน้อยยืนกรานเสียงแข็งพลอยทำให้เขาอมยิ้มตามไปด้วยเมื่อสิ่งที่ปากพูดกับสิ่งที่ใจคิดไม่ตรงกับสักนิดเดียว
“งั้นของขวัญวาเลนไทน์ก็....อด”
“!!!”
“ไปนะครับ” เขายิ้มเย้ยนิดๆก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปทิ้งให้แก้วนั่งหน้างอเป็นจวัก นึกว่าเธออยากได้ของจากเขานักหรือไง ไม่หรอกไม่มีทาง คนใจร้าย! หญิงสาวบริภาษคาดโทษเขาอยู่ในใจ
After Party
“วาเลนไทน์ทั้งทีไม่คิดจะมีของขวัญเล็กๆน้อยๆติดมือมาบ้างเหรอโทโมะมัวแต่ให้คนอื่นจนลืม ‘แฟน’ ตัวเองล่ะสิท่า”
ร่างเพรียวระหงในชุดราตรีสั้นพลิ้วสีโอล์ดโรสยืนคล้องแขนโทโมะที่อยู่ในชุดสูทลำลองสีขาวให้เข้ากับคอนเซปต์ของงาน หญิงสาวกรีดยิ้มหวานท้าทายสายตาบรรดาเพื่อนๆของเธอหากแต่ความจริงแล้วเธอกำลังเหน็บแหนมผู้ชายข้างกายอย่างแนบเนียน
“ก็...พอดีรีบออกมากะทันหันยังไงก็แฮปปี้วาเลนไทน์น่ะ”
“เต็มใจหรือเปล่า ถ้าไม่เต็มใจก็กองเอาไว้ตรงนั้น!” เมื่อเห็นท่าทางเมินเฉยของโทโมะ เบลล์ก็ยิ่งอารมณ์เสีย งานนี้ก็เหมือนกันเธอทั้งโทรไปขอร้องแกมบังคับพอเขาย้ำนักหนาว่าจะไม่มาเจ้าหล่อนก็วิ่งแจ้นไปบอกพี่ชายเขามาให้ช่วยพูด สุดท้ายเขาก็ต้องมาเพื่อเห็นแก่พี่ชายและไม่เป็นการเสียมารยาทต่อเธอมากเกินไปนัก
“ถ้าเราคุยกันแล้วสร้างความอึดอัดใจให้กันแบบนี้ โทโมะว่า....เราเลิกคุยกันจะดีกว่า” โทโมะแกะมือของเบลล์ที่กำลังคล้องแขนเขาเอาไว้อย่างสุภาพก่อนจะหันหน้าหนี หากแต่สาวเจ้ากลับไม่ยอมเอาเสียง่ายๆ
“เดี๋ยว! เลิกคุยน่ะหมายถึงยังไง เลิกคุยวันนี้หรือว่าเลิกกันไปเลย!!”
“เบลล์...หยุด” เขาปรามเสียงขรึมเมื่อเห็นว่าคนในงานเริ่มมองมายังคนทั้งคู่
“ไม่! ตอบมาว่าสิ่งที่เธอพูดมันคืออะไร เลิกคุยกันแค่วันนี้หรือเลิกกันไป ตอบมา!”
“เบลล์!!”
“ทำไม รักมันมากนักหรือไงถึงขนาดต้องรีบกลับไปฉลองรักกับมันแล้วทิ้งฉันให้อยู่ที่นี่คนเดียว อย่ามาอ้างเหตุผลให้ฉันหยุด เราคบกันมากี่ปีทำไมฉันจะไม่รู้ว่าเธอคิดยังไง เธออึดอัดมากใช่มั้ยเวลาที่ต้องอยู่กับฉันนะ...”
เสียงที่เริ่มสั่นเครือและระดับความดังของมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนทุกคนหันมาให้ความสนใจของทั้งสอง โทโมะส่ายหน้าน้อยๆอย่างเหนื่อยใจและเขากำลังจะหันหนีเธออีกครั้งเมื่อปรามเท่าไหร่เบลล์ก็ไม่ยอมหยุด หากแต่เสียงแรกที่สั่นเครือและแฝงไปด้วยความเสียใจที่ล้นเปี่ยมทำให้เขาไม่กล้าที่จะเดินหนีออกไปจากตรงนั้น
พระเจ้า!! เขาอยากจะบ้าจริงๆ
“เราคุยกันไม่รู้เรื่องแน่....ไว้ไปคุยกันที่บ้าน”
“คุยกับใครที่บ้าน มัน...หรือฉัน!”
“เบลล์! โทโมะว่าเราควรพอได้แล้วไม่อายคนอื่นเขาบ้างหรือไง” หญิงสาวแค่นยิ้มทั้งน้ำตา รอยยิ้มกระตุกที่เธอส่งมาราวกับจะขำเขาอย่างไงอย่างงั้น
“เธออึดอัดทุกครั้งที่อยู่กับฉัน....เธอทำเป็นดีกับฉันทุกอย่าง...เธอเลือกที่จะปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองทั้งที่จริงมันเป็นสิ่งที่คนรักเขาทำ ได้เป็นตัวของตัวเอง...ได้ทำอะไรที่อยากทำร่วมกัน แต่เธอไม่รู้หรอกโทโมะว่าฉันกลับไม่รู้สึกแบบนั้นเลย...ฉันเป็นแฟนของเธอหรือเปล่า....ฮึก”
“....เบลล์”
“ทั้งที่ฉันยืนเคียงข้างเธอในฐานะคนรัก แต่เธอกลับเลือกที่จะยืนเคียงข้างคนอื่น...ผู้หญิงคนนั้นได้รับทุกอย่างจากนาย ความรัก ความเอาใจใส่ เวลา และทุกสิ่งอย่างที่คนรักเขาทำให้กัน เธอทำให้ฉันรู้สึกว่าคนที่เป็นคนรักของเธอคือผู้หญิงคนนั้น....ไม่ใช่ฉัน!!”
“เบลล์! พอได้แล้ว...แล้วฟังโทโมะ...”
“ไม่! ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เธอมีความสุขกับมัน เธอยิ้มให้มันทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันฉันไม่เคยเห็นริ้วรอยของความอึดอัดเหมือนตอนที่เธออยู่กับฉัน เธอเป็นตัวของเธอทุกอยอ่างเวลาที่เธออยู่กับมัน นังนั่นมันมีอะไรดีก็แค่ผู้หญิงบ้านๆ จืดๆชืดๆไม่มีอะไรสู้ฉันได้สักอย่าง มันทำเสน่ห์ใส่เธอหรือไงถึงได้หลงมันจนโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้น่ะ!!”
“เพราะเค้าคือคนที่โทโมะรักต่างหาก!!!” เขาตะโกนออกไปอย่างทนต่อแรงกดดันไม่ไหว ทุกอย่างเงียบสงัดไปทันตา
“.....”
“โอเค...พอได้แล้วเบลล์แค่นี้เรื่องมันก็วุ่นมากพอแล้ว...” เขาไม่สนใจใครทั้งนั้นโทโมะเดินหนีออกจากงานท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนนับสิบ ทุกอย่างยังคงไม่จบแค่นี้เมื่อเบลล์ไม่ยอม หญิงสาววิ่งไปดักหน้าเขาก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถ
“ยอมรับออกมาแล้วเหรอมาเธอนอกใจฉัน?”
“...ไม่...ไม่ได้นอกใจ” นัยน์สีดำสนิทมีแววสั่นไหวเมื่อต้องกล่าวประโยคนั้นออกมา หากมันก็เป็นความจริงเพียงหนึ่งเดียวที่เขามีอยู่ตอนนี้
“หมายความว่ายังไง เหอะ ไม่ได้นอกใจอย่างนั้นเหรอแล้วเรื่องของเธอกับนังนั่นมันเกิดขึ้นได้ยังไง คิดว่าฉันโง่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยงั้นสิ?”
“ใช่...เบลล์ไม่รู้เรื่องอะไรเลย...ไม่รู้อะไรมาตั้งแต่ต้น”
“ก็บอกมาสิ...บอกมา!” หญิงสาวคาดคั้นจะอาคำตอบจากเขาให้ได้ ใบหน้าหล่อตีกันยุ่งอย่างคิดไม่ตกไม่คิดว่าเรื่องที่เขาต้องพูดจะมาถึงแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ อย่างไรก็ตามเขาคงต้องเลือกบอกความจริง เบลล์จะได้เลิกเข้าใจเขากับแก้วผิดเสียที
“โทโมะรักแก้ว รักมาตั้งนานแล้วและรักมาก่อนที่เราจะรู้จักกัน....”
ประโยคที่ได้ฟังราวกับพายุลมร้อนลูกใหญ่ที่โหมซัด ขาเรียวเริ่มอ่อนแรงคล้ายจะเซทรุดลงกับพื้นหัวใจที่แตกสลายเรียกคืนกลับมาไม่ได้อีกแล้วเมื่อได้ยินชัดที่จากปาก ‘คนที่เคยรัก’ เขาไม่เคยรักเธอเลย เขารักผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขามาแสนนาน รักก่อนที่เขาจะเจอกับเธอ
ลมหายใจที่เริ่มติดขัดทำให้หญิงสาวจุกจนพูดอะไรไม่ออก น้ำตาที่รินไหลออกจากดวงตาคู่สวยราวกับน้ำกรดที่ไหลรดผิวแก้มจนแสบร้อนไปหมด เจ็บเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
“แต่เพราะเขาเป็นเพื่อน...โทโมะเลยเลือกที่จะเก็บความรู้สึกเอาไว้ จนกระทั่งเราเจอกันและพี่เคนจิก็สนับสนุนให้เราคบกัน อาจจะดูเห็นแก่ตัวที่โทโมะทำแบบนั้นลงไปแต่อยากให้รู้ว่าไว้โทโมะเสียใจและคนที่เสียใจกว่าเราทั้งคู่ก็คือ....”
“พอ พอเสียที! ฉันไม่อยากฟัง!” หญิงสาวกรีดร้องเมื่อมันเหลือทน แค่ฟังเขาพูดว่าไม่รักก็มากเกินพอแล้วยังจะสาธยายว่ารักผู้หญิงคนนั้นมากเท่านั้นเท่านี้อีก เขาไม่คิดจะสงสารเธอบ้างเลยหรือไง
“ไม่! เบลล์...ฟัง โทโมะขอโทษที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนโทโมะก็รักเบลล์เกินกว่าคำว่าพี่น้องและเพื่อนไม่ได้ ความรู้สึกของโทโมะเมื่อสามปีก่อนยังคงเหมือนเดิมตั้งแต่ต้นมา...ไม่เคยมีวันไหนที่โทโมะจะลืมแก้วได้สักครั้ง”
“พอได้หรือยัง! เธอจะพูดว่ารักมันให้ฉันฟังทำไม...ฮึก แค่นี้ฉันยังเจ็บไม่พอใจเธอใช่มั้ย? เธอจะเอาอะไรจากฉันอีกต้องให้ฉันไปกราบแทบเท้าขอโทษมันที่แย่งเธอมางั้นหรือไง? ....แล้วฉันถามสักคำถ้าเธอไม่ได้รักฉันแล้วมาคบกับฉันทำไม ทำไม!!!”
“......” ร่างสูงเม้มริมฝีปากแน่นอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ ไม่ใช่เรื่องยากกับการที่จะพูดในสิ่งที่ไม่สมควรพูดออกไป
“ตอบมา ตอบมาสิ เงียบไปทำไมๆๆๆ ตอบฉันๆๆ!!!” มือบางรัวทุบที่แผงอกกว้างของเขาอย่างสุดแสนจะเสียใจ
“เพราะพี่เคนจิขอร้องโทโมะไว้ไง!!!”
“.....”
“.....”
“.....”
เนิ่นนานที่ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไรออกไป ความรู้สึกที่ถูกกักเก็บมานานสร้างความทรมานใจให้เขาจนโทโมะไม่สามารถเก็บมันต่อไปได้อีก รู้ทั้งรู้ว่าเขาคงกลายเป็นคนใจร้ายในสายตาเธอไปแล้ว หากแต่ความจริงก็คือความอยู่ยันวันยันค่ำ เขายืนยันว่าเขารักแก้วและไม่เคยคิดจะรักใครอีก ข้อนี้ก็คือความจริงอีกประการ
“อะไร....นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน”
“ถ้าเบลล์รู้สึกเจ็บที่วันนี้โทโมะทำให้เบลล์เสียใจ เบลล์ก็ควรรู้ไว้ว่ามีอีกคนที่เขาเสียใจกว่าเบลล์ เสียใจมาตั้งแต่ต้น เสียใจที่คนที่ตัวเองรักมองข้ามความรู้สึกของเขาไปทุกอย่าง เห็นเขาเป็นแค่เพื่อนคนนึงเท่านั้นทั้งที่เขาต่างหากที่ทำทุกอย่างเพื่อเบลล์”
“เคนจิทำแบบนั้นทำไม เขาขอร้องให้เธอคบกับฉัน ไม่ ไม่จริง!”
“คนที่รักเบลล์มีคนเดียวเท่านั้นก็คือ....พี่เคนจิ”
“บ้า! พูดบ้าๆเธออย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะโทโมะ”
“พี่เคนจิรักเบลล์มาตั้งแต่ต้น พี่ชายโทโมะทำทุกอย่างเพื่อเบลล์มาโดยตลอด เขารู้ว่าเบลล์คิดยังไงกับโทโมะและเขาก็พยายามจะช่วยเหลือมาตลอด สุดท้ายเขาก็มาขอร้องให้โทโมะคบกับเบลล์เพื่อความสุขของผู้หญิงที่ตัวเองรัก พี่เคนจิทนดูเราคบกันมาเกือบสามปีทั้งๆที่เขาทำได้เพียงแค่มองความรักของเราอยู่ไกลๆ...เจ็บมั้ย “
“ฉันสิต้องพูดคำว่าเจ็บมากกว่า!”
ยอมรับว่าเธอเองก็อึ้งไปไม่น้อยที่ได้รู้ว่าจริงจากปากเขา หากแต่ทิฐิในใจยังไม่เสื่อมคลาย ทั้งเจ็บที่เขาไม่ได้รัก ทั้งอายที่นอกจากเขาไม่รักแล้วเพื่อนที่ไว้ใจที่สุดกลับมาขอร้องให้คนที่เธอรักคบกับเธอทั้งที่เขาไม่เคยแม้แต่จะชายตามองเธอ!
“ไม่...เราเจ็บเท่าๆกัน”
“เท่ากันเหรอ เธอคิดว่าฉันจะมีหน้าไปมองใครที่ไหนได้อีก เหอะ แฟนที่คบกันมาเกือบสามปีเขาไม่เคยรัก ซ้ำที่คบด้วยก็เพราะถูกบังคับจากพี่ชาย น้ำเน่าสิ้นดี!”
“แล้วเบลล์ไม่คิดบ้างเหรอว่าโทโมะจะเสียใจแค่ไหน? ในเมื่อต้องทนคบกับผู้หญิงที่ตัวเองเห็นเป็นแค่เพื่อนพี่ชาย....”
“พอ หยุดนะ!”
“ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆแต่เรื่องนี้ควรจะจบเสียที ยื้อกันต่อไปก็ทำให้เราเจ็บทั้งสามคน ไม่ว่าจะโทโมะ พี่เคนจิ หรือแม้กระทั่งตัวเบลล์เอง ต่อไปนี้เราเป็นเพียงแค่เพื่อนกันเถอะ โทโมะมีคนที่รักรออยู่แล้ว เมื่อในวันนี้โทโมะมีเขาอยู่ข้างๆ โทโมะจะไม่มีวันปล่อยเขาหายไปอีก”
“เห็นแก่ตัว เธอมันเห็นแก่ตัวที่สุด แล้วฉันจะเอาหน้าไว้ที่ไหน!”
“โทโมะทำเพื่อคนอื่นโดยตลอด ไม่เคยได้ทำตามหัวใจตัวเองสักที ไม่ได้รักคนที่อยากรักมันทรมานแค่ไหนเบลล์ก็น่าจะรู้ ต่อให้ใครจะมองว่าโทโมะเป็นคนเห็นแก่ตัวก็คงพูดอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ ...”
“....”
“และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นโทโมะก็ยังยืนยันว่าคนที่โทโมะรักมีคนเดียวก็คือ...แก้ว”
“พอแล้ว พอที!”
“ลองกลับไปคิดทบทวนให้ดีๆ ว่าคนที่เขารักและหวังดีกับเบลล์มาโดนตลอดคนนั้นเขาคือใครและเบลล์เก็บเขาไว้ตรงส่วนไหนกัน”
โทโมะขับรถมาตามเส้นทางจราจรที่มีคนค่อนข้างพลุกพล่านเนื่องจากสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านดอกไม้ที่ผู้คนต่างมาเลือกซื้อให้กับคนพิเศษในค่ำคืนแห่งความรักเช่นนี้ ร่างสูงจอดรถข้างทางพลางเลื่อนกระจกลงเพื่อดูดอกไม้สองข้างทางนั่น เขาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อสิ่งที่ค้างคาในใจถูกกำจัดออกไปจนหมดสิ้น ริมฝีปากหนายกยิ้มน้อยๆก่อนจะก้าวลงจากรถและมุ่งหน้าไปตามทางเดินที่คึกครื้นไปด้วยผู้คนอลหม่าน
ดอกไม้ละลานตาแข่งกันชูช่อสีสดสร้างรอยยิ้มให้โทโมะได้มากหลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายมาชั่วครู่ แค่นึกถึงหน้าใครอีกคนที่เฝ้ารอเขาอยู่แค่นั้นก็มีความสุขมากพอแล้ว โทโมะเลิกแขนเสื้อขึ้นดูนาฬิกาบ่งบอกว่านี่มันห้าทุ่มกว่าแล้วไม่รู้ป่านนี้แก้วจะหลับปุ๋ยไปแล้วหรือยัง เขาคิดไปยิ้มไปจนแม่ค้าเจ้าของร้านดอกไม้ยังต้องเอ่ยแซว
“คิดถึงแฟนอยู่หรือค่ะ เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว”
“เอ่อ...คะ ครับๆ” เขาตอบรับด้วยท่าทางเก้อเขินพลางลูบท้ายทอยตัวเองนิดๆ
“ไม่ดูดอกไม้ไปให้เธอหน่อยเหรอค่ะ เธอคงดีใจมากแน่ๆ”
“เขาจะชอบดอกไม้เหรอครับ?” โทโมะถามกลับอย่างลังเล ปกติแก้วไม่ใช่ผู้หญิงหวานๆเหมาะกับของพวกนี้เท่าไหร่ นิสัยคนรักของเขาเป็นยังไงโทโมะรู้อยู่แก่ใจดี
“อ้าว แล้วแม่หนูน้อยคนนั้นเป็นคนยังไงกันล่ะ เผื่อป้าจะช่วยคิดอะไรได้”
“ป้ามีดอกไม้สำหรับผู้หญิงดื้อๆบ้างมั้ยล่ะครับ”
“โอ้ย พ่อคุณจะดื้อไม่ดื้อยังไงผู้หญิงร้อยทั้งร้อยก็แพ้ดอกไม้จากผู้ชายที่ตัวเองรักอยู่แล้วล่ะ เชื่อป้าเถอะ ป้าอาบน้ำร้อนมาก่อนเราป้ารู้ดี”
“งั้นเหรอครับ...” โทโมะคุร่นคิดพลางกวาดสายตามองดอกไม้ช่อโตที่วางเรียงรายอย่างชั่งใจ
และในที่สุด.......
ไม่นานนักดอกกุหลาบช่อโตก็ถูกเจ้าของหมาดๆพากลับไปให้อีกคนที่เขาเฝ้าอยากจะเจอหน้าเร็วๆอยู่ทุกนาที โทโมะค่อยๆเปิดประตูห้องเขาไปอย่างเบามือเมื่อเขากลับมาถึงคอนโด สาวน้อยของเขาหลับผล็อยไปแล้วบนเตียงกว้าง โทโมะยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะถือช่อดอกไม้ไปวางไว้ตรงข้างเตียงของเจ้าตัว
“แฮปปี้วาเลนไทน์อีกครั้งนะครับเด็กน้อยของโทโมะ โทโมะรักแก้วนะครับ” เขาก้มกระซิบเสียงแผ่วข้างแก้มก่อนจะจุมพิตเบาๆบนหน้าผากเนียนเรียบ และหายไปห้องน้ำไปเพื่อชำระร่างกายหลังจากเหนื่อยอ่อนมาทั้งวัน
ดวงตาคู่สวยกระพริบปริบๆเมื่อรับรู้ได้ว่าเสียงฝีเท้าของคนโตกว่าหายลับเข้าไปภายในห้องน้ำแล้ว ร่างเล็กยันตัวลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะยิ้มร่าออกมาเมื่อทุกอย่างที่เขาพูดเธอได้ยินทุกถ้อยคำและมันอบอุ่นหัวใจมากเหลือเกิน ขนาดเธอแกล้งหลับหัวใจเธอยังเต้นแรงได้ถึงขนาดนี้ไม่อยากคิดเลยว่าอยู่ต่อหน้าจะทำหน้ายังไงไม่ให้เขาจับได้ว่าเธอเขินจนใจสั่น
บ้าเอ้ย! ทำไมใจเต้นแรงนักนะ!!
“อ่ะ”
คิ้วสวยขมวดมุ่นเมื่อช่อดอกไม้ช่อโตวางอยู่ตรงหัวเตียง หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาพร้อมมองดูด้วยความแปลกใจ เพราะในดอกไม้ช่อนั้นมีดอกไม้อยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชนิด! ถึงมันจะดูแปลกหากแต่แก้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเมื่อเห็นการ์ดสีชมพูที่ห้อยอยู่
ดอกกุหลาบสีแดง...แทนความหมายว่าโทโมะรักเธอและอยากใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกันกับแก้ว
ดอกกุหลาบสีชมพู...แทนความรักของเราที่ต่อแต่นี้มันจะมีแต่เจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ดอกกุหลายสีเหลือง...แทนความสดใสของแก้วที่ทำให้โทโมะตกหลุมรักได้ตลอดเวลา
ดอกกุหลาบสีขาว...แทนความบริสุทธิ์ของแก้วและความรักของโทโมะที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน
ดอกทิวลิปสีแดง...แทนความรักที่เปิดเผยที่ต่อแต่นี้จะไม่มีคำว่าปิดบังอีกต่อไป
ดอกฟอร์เก็ทมีนอท...แทนความลึกซึ้งของเรา รักแท้ของเราและเป็นเสมือนตัวแทนที่คอยย้ำเตือนว่าอย่าลืมกัน
ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู...แทนความหมายว่าโทโมะยังรักแก้วและแก้วก็อยู่ในหัวใจของโทโมะเสมอมา
และสุดท้ายดอกลิลลี่สีขาวที่แก้วแสนจะชอบ...แทนความอ่อนหวานของเรา แทนความรักและความรู้สึกดีๆทุกเกิดขึ้นทุกครั้งเวลาที่โทโมะอยู่กับแก้ว
แปลกใจใช่มั้ยว่าทำไมดอกไม้ถึงได้เยอะแยะขนาดนี้ เพราะแก้วไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น แก้วมีทุกอย่างในขณะที่ผู้หญิงหลายๆคนมีเพียงแค่อย่างเดียว และทุกสิ่งที่มีในตัวแก้วมันไม่เคยทำให้โทโมะหยุดรักได้เลยสักครั้ง
Happy Valentine นะครับเด็กน้อยของโทโมะ
หญิงสาวอมยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะล้มตัวลงนอนพร้อมกอดช่อกุหลาบของเขาเอาไว้แน่นพร้อมที่จะฝันดีไปกับมันในค่ำคืนแห่งความรักอันแสนหวานนี้
เดี๋ยวตอนต่อไปจะตามมาแต่ไม่รู้ว่าเรื่องไรอะไรยังไงน้า :)
หายไปนานเพื่อขอเวลาทำใจกับบางสิ่งบางอย่าง แง้งงง ToT
รีดฯ : อิบ้า -^- *เขวี้ยงเกิบ*
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ