Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ
เขียนโดย StrawberryTKCuTe
วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.
แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) กับเขาคือรักกัน?...กับฉันแค่หวั่นไหว?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
กับเขาคือรักกัน?...กับฉันแค่หวั่นไหว?
เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวสุดห้าวหลุดอาการหวานๆ อ้อนๆ แบบหญิงสาวทั่วไปออกมา เขาก็อดที่จะอมยิ้มขำๆไม่ได้ จะว่าไป บรรยากาศรอบๆตัวถือได้ว่า...สดใสขึ้นมากทีเดียว บ่อยครั้งที่โทโมะได้เห็นรอยยิ้มของแก้ว แน่ละ..เธอยิ้มง่าย ร่างเริง เข้ากับคนอื่นได้โดยไม่เป็นเรื่องยาก สำหรับโทโมะแล้ว แก้วถือได้ว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากสำหรับเขาคนนึง?
แต่วันนี้ดูจะน่ารักกว่าวันอื่นๆเป็นพิเศษ..ไม่รู้สิ?
“เชื่อก็ได้^^ เอากลับไปนอนที่บ้านด้วยเลยไหม?”
“หืม?????” แก้วเงยหน้าสบสายตากับเขาด้วยแววตาฉงนเล็กน้อย เธอไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เขาพูดสักเท่าไหร่? ‘เอากลับไปนอนที่บ้านด้วยเลยไหม?’ ถ้าเธอฉลาดพอ...เขาหมายถึง ตัวเขาเองนะเหรอ?
พูดเป็นบ้าเถอะ! >///<
“ฮะๆ ไปเถอะ สายแล้วนะ วันนี้เราถ่ายปกอะไรนะแก้ว?”เมื่อนั่งอยู่ในรถเขาจึงหันมาพูดคุยกับแก้วแทนบรรยากาศอึมครึมในรถ แก้วเองก็ไม่กล้าพูดอะไรกับโทโมะมากนักเนื่องจากยังเขินไม่เลิก><
เวลาเขินนี่มันทรมานสุดๆ ระบบในร่างกายมันตีรวนจนเธออยากจะอาเจียน? รู้ว่าเขินแล้วทรมาน แก้วก็ยังจะเขินโดยไม่ทราบสาเหตุ เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ..จริญญา
“เอ่อ....เบอรรี่! แล้ว...”
ตื้ดๆ
ไม่ทันที่บทสนทนาของทั้งคู่จะจบลง เสียงโทรศัพท์ของโทโมะก็ดังขึ้นไม่ขาดสาย เจ้าตัวเสมองสายเรียกเข้าก่อนจะกดรับอย่างทันท่วงที
ไม่รู้หรอกว่าทำไม?หัวใจของฉันจึงรู้สึกสั่นไหวได้อย่างแปลกประหาด เหมือนกับว่ามันรู้ดีว่ากำลังจะรองรับความเจ็บปวด? บางสิ่งที่อยู่ข้างในมันบีบเค้นจนฉันรู้สึกแน่นหน้าอกจนเกือบหายใจไม่ออก เมื่อได้ยินประโยคสนทนาโดยไม่ได้ตั้งใจฟัง...
“คิดถึง”
ฉันได้แต่เบือนหน้าหนี ไม่รู้สิ? ก็มันไม่อยากฟังอ่ะ?! ใครมีปัญหาไหมเล่า? ดูเอาเถอะ! ฉันพาลใส่ได้แม้กระทั่งความคิดของตัวเอง เธอบ้าไปแล้วจริญญา รู้สึกแบบนั้นไปเพื่ออะไรกันไม่ทราบ?!
“แต่แค่นี้ก่อนนะ...เบลล์”
เขาวางสายลงพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะตั้งท่ามาคุยกับเธอต่อ แต่ขอโทษแก้วหมดอารมณ์ที่จะคุยไปด้วยแล้วล่ะ! ไม่ได้พาลนะ<<<ไม่มีใครเขาว่าอะไรเลย แม่แก้วร้อน-*-
ก็บอกว่าไม่ได้พาลไงเล่า! (ก็บอกว่าเชื่อไง-.-)
“แก้ว...หลับ???”
ไม่ได้อยากจะหลับหรอก แค่ไม่อยากรับรู้บางสิ่งบางอย่างก็เท่านั้น! เธอไม่อยากขึ้นชื่อว่าเสียมารยาทในขณะที่คนอื่นเขาคุยโทรศัพท์กัน
เมื่อถึงสถานที่ที่เราทั้งคู่ต้องมาทำงานร่วมกัน? ทำไมอะ? ให้อยู่ห่างๆกันบ้างไม่ได้หรือไง รู้ดีว่าเราทั้งคู่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนคลับ พวกเขามักจับคู่ให้เราต่างๆนานาจนหลายครั้งจิตใจที่มั่นคงอย่างฉันก็เริ่มเอนเอียง เหมือนกับหินแกร่งที่ไม่ว่าจะแข็งแรงเพียงไหน? เมื่อถูกน้ำกัดเซาะหินมันก็ยังกร่อน แต่นี่จิตใจคนเรา...มันช่างบอบบางยิ่งกว่าอะไรดี!
หัวใจก็แค่ก้อนเนื้อที่จะรับรู้ได้ก็ต่อมเมื่อถูกกระตุ้น? หรือมันไม่จริง???
ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เรารู้จักกัน
แต่ก็ขอถามอะไรสักอย่าง?....พอใจหรือยังคะพรเจ้า ถ้าจริญญาจะรู้สึกเจ็บกับความรู้สึกนึกคิดอันแสนงี่เง่าของตัวเอง?!
“แหม...รู้หน้าที่ ถึงแล้วก็ตื่นเชียวนะ^__^”
อย่ามาแซว อารมณ์ไม่ดีนะ--;
“แก้วรู้ตัวอยู่หรอกน่า...รู้ตัวเองดีทุกอย่าง!”แล้วฉันก็เก็บกักเก็บอารมณ์บ้าบอของตัวเองไว้ไม่ไหว เผลอไปขึ้นเสียงดังใส่เขา บ้าไปแล้วแหละฉัน-*- แต่...จะทำไงได้จะให้ปั้นหน้าขอโทษเขาเธอคงไม่ทำเหมือนกัน งี่เง่า! ฉันได้แต่พร่ำด่าตัวเองอยู่คนเดียว ก่อนจะเบือนหน้าหนีสายตาของโทโมะพร้อมๆกับที่เดินเข้าไปในสตูโดยไม่รอเขาเช่นเดียวกัน!
ร่างสูงเดินตามมาติดๆแม้จะไม่เข้าใจอาการของเพื่อสาวเท่าไหร่แต่เขาก็ไม่คิดจะซักถามเพียงเพราะคิดว่า แก้วอาจมีเรื่องกังวลใจที่ไม่อยากให้ใครใครรู่ เพราะฉะนั้นเมื่อเธอไม่ร้องขอความช่วยเหลือเนื่องจากสิ่งที่อยู่ในใจมันเหนือบ่ากว่าแรงแล้วไซร้ เขาก็จะไม่อย่ากรายเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเธอ ไม่ใช่ว่าไม่เป็นห่วง แต่ไม่อยากละเมิดสิทธิ์ของความเป็นเพื่อนก็เท่านั้น!
“ครับ...จ้าๆ^O^”เขื่อนกำลังหัวเราะเริงร่าอยู่กับบรรดาเหล่าแฟนคลับของเขา ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะร่าเริงเกินมนุษย์มนา =_= ถ้าเขื่อนเงียบนี่สิผิดปติ (ขั้นรุนแรง)
“พี่เขื่อน...พี่โทโมะไปไหนอ่ะ?”
“เห...?? อ้อ...ไปถ่ายปกหนังสือกับแก้วจ้า^^” เมื่อแฟนคลับเอ่ยถามเขื่อนจึงตอบหมดแม็ก แน่ละ...เขาไม่เคยมีความลับกับใครอยู่แล้ว หรือที่เรียกง่ายๆว่า เก็บความลับไม่อยู่ ประมาณนั้น==
“จริงเหรอ?? แล้วพี่ไม่ถ่ายคู่กับพี่เฟย์บ้างอ่ะ หนูอยากเห็น ฮิๆ”แฟนคลับตัวเล็กวัยมัธยมใส่คอซองของเขาเอ่ยแซวด้วยรอยยิ้ม เขื่อนยิ้มกลับพร้อมหยอกล้อตามประสาของเขาอย่างเคยทุกที ไม่ใช่ว่าอะไรหรอกนะ ...บางที การหัวเราะนี่มันก็กลบเกลื่อนความเขินได้เหมือนกัน?!! >///<
“ฮ่าๆ อยู่แล้วล่ะ แต่...ยังไม่มีใครจ้าง ฮ่าๆๆๆ”
“ฮ่าๆ เอ่อ..แล้ว..พี่เขื่อน พอจะรู้บ้างป่ะ?ว่า.....พี่เขา เป็นอะไรกัน????”เมื่อเห็นว่าถูกซักเข้าจนได้ เขื่อนก็ยิ้มฝืดๆกลับไปให้ ก็ขนาดเจ้าตัวทั้งคู่ยังไม่รู้ตัวเองเล้ยยย ย’! คนนอกอย่างเขาคงไม่มีสิทธิ์เข้าไปบงการ หรือ ซักถามอะไรที่มันเป็นส่วนตัวระหว่างคน 2 คน แต่บ่อยครั้งที่เขาก็แอบยิ้มกับเพื่อนทั้งคู่เวลาถูกล้อ ถูกแซว แม้เขาจะเคยเขินอยู่บ่อยครั้งเรื่องเฟย์ แต่เจ้าตัวก็เอาตัวรอดมาได้โดยทุกครั้ง (เชื่อเถอะว่าเขื่อนฉลาดจริงๆ><) แต่แก้วใจ....เก็บอาการไม่มิดเอมเสียเลย~
อ่า....ไว้จะถามโทโมะกับแก้วให้นะน้องนะ-__-!!!
“ฮ่าๆ หลอกถามกันนิ...พี่ไม่รู้หรอก^__^”
“พี่เขื่อนโม้-3- ”
แน้...ยังจะไม่เชื่ออีก ถ้าพี่อ่านใจคนได้ ป่านนี้พี่ไปเป็นหมอดูแล้วอีกหนูเอ๋ยยยยยย!
“อ้าว??=[]= พูดจริงนะเนี่ย? ไว้จะถามให้แล้วกัน ฮ่าๆ วันนี้พี่ไปก่อนนะ มีซ้อมเต้น”
“ค่า^O^ บ๊าย บาย”แฟนคลับโบกมือให้หยอยๆแต่ก็ยังไม่วายตะโกนกลับมาอีกว่า ‘ พี่เขื่อนอย่าลืมถามนะ’ น่านไง เล่นไม่เลิกจริงๆ ยัยเด็กน้อย><
เดี๋ยวพี่จะถ่ายคลิปเก็บไว้ให้ดูเลยเอ้า=o=
การถ่ายปกนิตยาสารวันนี้ คอสตูมจัดเสื้อผ้าให้ทั้งโทโมะและแก้วให้อยู่ในชุดสุดเท่ห์ เพื่อให้บาลานซ์กับบทบาทในภาพยนตร์ของทั้งคู่ จัดท่าจัดทางกันอยู่นานจนแก้วเองก็เริ่มล้า แสงไฟที่ส่องเข้าหน้าอยู่นานทำเอาแก้วต้องหลับตาปี๋ทันที เมื่อได้เวลาพัก
“อื้อ..แสบๆ>_<”มือบางขยี้ตาจนน้ำตาไหลซึม ไม่ใช่ไม่ชิน แต่ครั้งนี้คงจะถ่ายนานเกินไปหน่อยแสงไฟเพิ่มความสว่างเลยทำพิษเสียได้ อันที่จริงแก้วก็ขาวอยู่แล้วนะ โทโมะดำเองอ่ะ! แก้วเลยซวยไปด้วยเลยToT
“นี่..ขยี้อย่างนั้นมันจะแสบกว่าเก่านะ แก้วหลับตา.....” ร่างสูงเดินเข้ามาหาพร้อมให้แก้วหยุดกระทำวิธีการผิดๆนั่นเสีย ถึงแม้จะรู้สึกกระดากกระเดื่องที่ต้องอยู่ใกล้เขาแต่เธอก็ทำตามโดยง่ายเพียงเพราะมันแสบจนเกินจะบรรยายนะสิ เมื่อคืนยิ่งนอนไม่ค่อยหลับอยู่เสียด้วย
หมดกัน แก้ว หมดกันTT
ฟู่ว~….ฉันรู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนบริเวณเปลือกตาเหมือนมีใครบางคน?พ่นลมร้อนเป่ารดอยู่ ไม่เหมือนหรอกเขานั่นแหละ โทโมะนั่งข้างเบาะที่ฉันใช้เอนหลังหลับตา (ตามคำสั่งของเขา) อยู่ รู้สึกได้เลยว่ามือร้อนของเขาแตะอยู่บริเวณปลายๆหางตาของฉัน ก่อนจะพ่นลมอุ่นๆใส่เปลือกตาของฉันเมื่อครู่ เพื่ออะไรกัน??
“เอาล่ะ ลืมตาได้แล้ว รู้สึกผ่อนคลายบ้างหรือยัง?”เขาเอ่ยถามทันทีที่แก้วลืมตา อีกฝ่ายพยักหน้านิดๆก่อนจะเอ่ยขอบคุณเขา
ขอบคุณลมหายใจอุ่นร้อนที่ช่วยให้เธอผ่อนคลาย
ขอบคุณ นะ เพื่อน...
“อือ ดีขึ้นมากแล้วล่ะ ขอบใจนะโทโมะ^^ ปะ...ทำงานกันต่อเหอะ เดี๋ยวจะเสร็จมืดค่ำกันพอดี”
“ ไปดิ รอแก้วนานแล้วนะเนี่ย”
“โทโมะToT”
ร่างบางฟาดเขาที่หัวไหล่ของเขาเบาๆเป็นเชิงบอกว่าเธอ..งอนๆ เขาอ่ะ! พูดแบบนั้นจะหาว่าแก้วชักช้าใช่ไหมล่ะ? แน่สิ ตัวเองไม่ได้มาแสบตาแบบเค้าด้วยนี่นา...โทโมะ ใจร้ายเกินไปแล้วTT
“ฮ้าวววว~ ง่วงเป็นบ้าเลยว่ะ”เขื่อนเดินบ่นกระปอดกระแปดหลังจากแยกกับน้องแฟนคลับ เข้ามาภายในห้องซ้อมเต้นที่มีป๊อปปี้ เคนตะ และจองเบอยู่ในห้องก่อนหน้านี่แล้ว
“ซ้อมเลยๆไอ้เขื่อน==”เมื่อหัวหน้าวงอย่างป๊อปปี้กระตุ้น เขื่อนก็ยิ่งขี้เกียจ ยิ่งกระตุ้นเข้าเรื่อยๆ เขื่อนก็ยิ่งขี้เกียจๆๆๆ (เขื่อน- -*)
“โหหหห~ โทโมะก็ยังไม่มาเลยอ่ะ เดี๋ยวเขื่อนรอโทโมะก่อนไง*O*”
“ข้ออ้างปัญญาอ่อน =o=”
“ง่ะ>O< เค้าป่าวนะ เดี๋ยวของีบแปปนึงดินะๆ”เอาอีกแล้วไอ้นิสัยจอมอู้นี่ก็ขอยกให้เขื่อนไว้ ณ ที่นี้เลยจริงๆ
“ไอ้เขื่อน-O- โทโมะมีธุระ ส่วนแกไม่มี เพราะฉะนั้นมาซ้อมบัดนาว เดี๋ยวโดนเตะ นี่มันคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ของ วงเราเลยนะ จริงจังหน่อยเซ่-O-“
“จ้า=[]=” ทั้ง 4 ซ้อมเต้นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย และแน่นอนคนที่อู้บ่อยๆก็คือ...เขื่อนT^T// ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันมานั่งพักสักแปปพอให้กล้ามเนื้อได้คลายตัว สักพักพี่หนึ่งผู้จัดการวงก็เดินเข้ามาหาทั้งหมดด้วยสีหน้าหม่นๆ ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
“ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าพี่? หน้าเครียดๆ”ป๊อปปี้เอ่ยถามสบทบด้วยจองเบ แม้เจ้าตัวจะพูดไม่ค่อยชัดแลดูฟังยากไปสักนิดแต่เขาก็มีความพยายามและตั้งใจจริง (อ๊ายย เว่อร์><)
“ก็ไม่เชิง...เออนี่ ข่างมันเถอะ แล้วซ้อมกันไปถึงไหนแล้ว?”
“เยอะพอสมควรแล้วครับ เดี๋ยวโทโมะคงตามมาซ้อมทีหลัง รายนั้นเขาเต้นเก่งเป็นทุนคงไม่ใช่เรื่องยากแน่ครับ”เคนตะตอบผู้จัดการวง ก่อนที่อีกฝ่ายจะมีสีหน้าหม่นๆ(อีกครั้ง) แต่ก็ไม่ได้ให้คำตอบที่ยังค้างคาใจกับทั้ง 4 แต่อย่างใด แล้วเฮียแกก็เดินออกไปอีกครั้ง
“มันต้องมีเรื่องอะไรซักอย่างที่พี่หนึ่งไม่ยอมบอกเรา”
“รู้ดีเชียวนะไอ้เขื่อน-.- ซ้อมต่อๆ”ป๊อปปี้เบี่ยงประเด็นความสนใจของเขื่อนทันที ก่อนที่อีกฝ่ายจะทำหน้าโอดโอย จนทั้งเคนตะและจองเบหมั่นไส้ยิ่งนัก...
เดี๋ยวเตะเลยไอ้นี่-*-
Koen Parts
ผมอยากจะบ้าตาย ให้ตายเหอะซ้อมมาทั้งวันปาดขาชะมัด อย่าว่าผมขี้เกียจอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ เขื่อนก็มนุษย์โลกเหมือนกันยังตัดกิเลศไม่ได้หรอก ความปวดเมื่อยและความขี้เกียจ(ที่ดูจะเยอะมาก) ก็มีเป็นธรรมดาของสัตว์โลก <<เยอะไปเขื่อน-*- เวลาเหนื่อยๆอย่างนี้ก็ต้องการกำลังใจเหมือนกันดูป๊อปปี้ดิ ฟางก็ยังอุตส่าห์เอาน้ำเอาท่ามาให้ แล้วเฟย์ล่ะ ไม่เห็นเอามาให้บ้างเลย น้อยใจนะเนี่ยT^T อ้าว?ลืม เฟย์ไปสอบ=[]=
ขอโทษคร้าบบบบ-.-
หลังจากที่งุ่นง่านกับการถ่ายแบบมาพักใหญ่ๆ งานของเราทั้งคู่ก็สิ้นสุดลงจนได้ ทั้งแก้วและโทโมะนั่งพักและรอรถตู้ของบริษัทที่เกิดอาการน้ำมันหมดกลางคัน== จนต้องวิ่งวุ่นไปหาซื้อน้ำมันเป็นการใหญ่ สักพักเสียงโทรศัพท์ของร่างสูงก็ดังขึ้นอีกครั้ง จ้าตัวรับสายด้วยรอยยิ้มเช่นเคยก่อนจะเดินห่างออกไปเพื่อความเป็นส่วนตัวในการสนทนา
“มีความสุขเหลือเกินนะ...โทโมะ” เธอเอ่ยถามเมื่อเขาเดินกลับมานั่งที่ อีกฝ่ายพยักหน้าน้อยๆและไม่ได้พูดอะไรต่อ ไม่เลย...แก้วไม่ได้อยากรู้เรื่องของเขาสักนิด! แต่ทำไมกัน? ก้อนเนื้อข้างในหัวใจมันเริ่มส่งสัญญาณเตือนอีกแล้วว่า....เธอกำลังจะเจ็บ!
ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขา เธอไม่รู้หรอกว่าปลายสายเป็นใคร...ถ้าเขาไม่เอ่ยชื่อ! ไม่น่าเชื่อเลยว่าเสียงโทรศัพท์เบาๆไม่ได้เสียงดังอะไรมากมาย แก้วกลับรู้สึกเหมือนมันดังก้องอยู่ในโสตประสาตตลอดเวลา....
กลัวทุกครั้งที่จะได้ยิน.....
“ร้อนปะเนี่ย?หน้าแดงอีกแล้ว”
“หือ...?? ไม่อ่ะ ปกติแก้มแก้วมันก็แดงอยู่แล้วละน่า-.-”
“ไม่จริงนะ ตอนนี้มันแดงจริงๆ” และเขาก็ยังจะคงเถียงต่อไป...บ้าเหอะ มายุ่งอะไรกับหน้าของเธอเล่า? ไม่พอนะ นิ้วเรียวของเขายังมาจิ้มแก้มนิ่มๆของฉันเสียอีก เกินไปแล้ว>/////<
“ฮ่าๆ แก้มนิ่มจริงๆอ่ะ ใช้โฟมยี่ห้ออะไรเหรอ?”
“สบู่!”น่านปาก>[]< ร่างสูงหัวเราะคิกคักกับคำตอบสิ้นคิด? ของแก้ว ไม่จริงหรอกน่า เธอจะใช้สบู่ได้ยังไงกัน เป็นไปไม่ได้หรอก
“สบู่เหรอ????? หอมดี สบู่อะไร?”อีกฝ่ายนึกอยากจะแกล้งเธอขึ้นมาเสียแล้ว เขาเลื่อนใบหน้าหล่อเหลา เนียนใสจนน่าอิจฉา ของเขาเข้ามาใกล้กับร่างบางมากขึ้น พลางเชยคางอีกฝ่ายเอาไว้ สายตาคมกริบที่จดจ้องทำเอาแก้วเขินจนแทบหลอมละลาย เธอเกลียดเวลานี้ที่สุดเลย เวลาเขิน!
“หือ???”
“หอมจริงๆนะ” เขาหลับตาลงพลางสูดดมความหอมจากใบหน้าของอีกฝ่าย ให้ตายเถอะ! แก้วจะตายอยู่แล้วนะ เลิกทำบ้าๆแบบนี้สักทีได้ไหมเล่า?
“......”
เนิ่นนานที่เขาไม่ยอมถอนใบหน้าออก เนิ่นนานที่แก้วยังนั่งนิ่งพูดอะไรไม่ออก! ความรู้สึกข้างในกระตุ้นให้เธอผลักใสเขา แต่สิ่งที่กำลังเต้นอยู่ในอกกลับสั่งการให้เธออยู่เฉยๆ
นี่หัวใจมันเป็นเจ้านายเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน???
เป็นเพราะเขาขยับหรือเธอขยับก็ไม่รู้ จมูกโด่งของเขาจึงปะทะกับแก้มเนียนของเธออย่างแผ่วเบา หากแต่ว่าถ้าเขาไม่ถอนใบหน้าออกไป เธอจะต่อยเขาให้หน้าคว่ำเลยคอยดู!
คนบ้านี่...>///<
“เอิ่ม....คือ...บะ เบลล์” ฉันจะไม่ลืมตาเด็ดขาดถ้าเขาไม่เรียกชื่อใครคนนั้น? ขึ้นมา สายตาของแก้วทอดมองไปยังเบื้องหน้าเห็นผู้หญิงร่างเล็กหน้าตาน่ารักคนนึงหอบหิ้วถุงขนมมากมายเข้ามาทางที่เธอกับเขานั่งอยู่ เมื่อเธอเดินมาถึงก็เอ่ยทักโทโมะทันที
“ขนมไหม?^^ หวัดดีค่ะ”เธอเอ่ยถามโทโมะ พร้อมหันกลับมาทักทายแก้วที่นั่งอยู่ด้วย นี่สินะ...เจ้าของรอยยิ้มของเขาเมื่อครู่
นี่สินะ..ที่เขาเรียกกันว่า...คนรัก?
“ดีค่ะ^^ เอ่อ...แก้วขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”อาจะจะเป็นเพราะกลัวบางอย่างจะถูกเปิดเผย อาจจะเป็นเพราะเกรงว่าแฟนสาวของเขา?จะขุ่นเคืองเมื่อเห็นผู้หญิงอย่างฉัน กับ ผู้ชายอย่างเขา อยู่ใกล้กันเกินไป? ร้อยทั้งร้อย ความรักต่อรักกันมากมายขนาดไหน แต่ผู้หญิงก็คือผู้หญิงไม่มีใครเขาชอบนักหรอกที่แฟนตัวเองใกล้ชิดกับคนอื่น แม้จะเป็นเพื่อนอย่างฉันก็ตาม!
เปล่าเลยฉันไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำ แค่เลือกที่จะเลี่ยงมานั่งห่างๆก็เท่านั้นเอง หน้าที่ของส่วนเกินที่ควรทำคือ....ถอยออกไป!
เขาพูดคุยกันด้วยรอยยิ้ม แต่ทำไมในใจของคนที่แอบมองมันยิ้มไม่ออกตามเขานะ ทั้งที่เมื่อก่อนเวลาที่เห็นเขายิ้มเธอละอยากเหลือเดินที่จะยิ้มตาม เพราะโทโมะไม่ได้เป็นคนยิ้มง่ายๆอย่างเขื่อนเสียเมื่อไหร่กัน==
แต่ดูท่าผู้หญิงคนนั้นเขาจะไม่ชอบฉันเอาเสียเลย ทั้งที่เมื่อกี๊เธอเป็นคนยิ้มให้ฉันแท้ๆ แต่พอลับหลังโทโมะเขากลับจิกสายตาใส่ฉันราวกับฉันเป็นตัวเชื้อโรค ! อีกละ...ยิ่งเวลาเห็นเขาสัมผัสกับผู้หญิงข้างๆกายเขา หัวใจของฉันถ้าเปรียบได้กับภูเขาไฟ มันคงรอเวลาที่จะระบิดออกมาก็เท่านั้น ! รถตู้เว้ย! เมื่อไหร่จะกลับมา แก้วอยากกลับบ้าน!!!!!!(พาลอีกแล้ว-*-)
แล้วเมื่อกี๊สิ่งที่เขาทำกับเธอมันคืออะไร?.....หวั่นไหวนะเหรอ? เฮอะ! น่าสมเพชสิ้นดี!!
“เบลล์กลับละนะ เดี๋ยวคอนเสิร์ต ไปเป็นกำลังใจให้ถึงหลังเวทีเลย^^”
แอบได้ยินเขาพูดกันนะ! เฮอะ! คนนอกห้ามเข้าค่ะ-.- แลดูฉันจะชั่วร้ายเนอะ แก้วไม่ได้เป็นคนแบบนั้นนะ แค่ความรู้สึกนึกคิดด้านลบมาพุ่งออกมาต่างหากเล่า-*-
“ให้ได้เลยนะ...ไม่มาโทโมะงอน”
“จ้า ไปนะ”ยังไม่วายจะหยิกแก้มหยอกล้อกันอีก ให้ตายพรเจ้าจะทรมานจริญญาคนนี้ไปถึงไหนกัน?? แค่นี้ยังไม่พอใจอีกใช่ไหมเจ้าค่ะTT ใจก็แค่ก้อนเนื้อ เสียใจ และเจ็บเป็นนะเว้ย(ค่ะ)
หลังจากที่เขาสั่งเสียล่ำลา?(ไปแขวะเขาทำไม?) กันเสร็จรถตู้ก็มารับพอดี ฉันเลยรีบวิ่งเข้าไปมุดตัวอยู่ด้านใน เอ่อ...แอร์เย็นไปนะ นี่ก็จะค่ำล่ะ อากาศหนาวเป็นบ้า สักพักคนเป็นเพื่อน! ก็ตามขึ้นมานั่งขนาบข้างด้วยใบหน้าเรียบเฉย เหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้า
รอยยิ้มที่ระบายอยู่ตรงมุมปากของเขาเมื่อครูไปไหนล่ะ?
จะบอกว่าพอเขากลับก็ถึงกับยิ้มไม่ออก!
จะบอกว่าอยู่กับฉันแล้วน่าเบื่อมากจนไม่อยากยิ้มให้เมื่อย?! ว่างั้น!!! พูดออกมาเซ่ พูด!!!!!
“แก้ว” เฮือก~ ไม่คิดว่าจะพูดจริงๆ เธอทำได้เพียงหันหน้าไปหาเขาก็เท่านั้น ความมืดภายในรถเพราะดวงตะวันค่อยๆลับขอบฟ้าบวกกับหน้าหนาวแบบนี้เป็นธรรดาถ้าฟ้าจะมืดเร็ว....
“มีอะไร?” ตอบเขา...ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ยังไม่ตอบเลยนะ ว่าใช้สบู่อะไร?”
นายก็ยังไม่ตอบเลยนะ ว่าถามทำไมเนี่ย?????
“เอ่อ...จะอยากรู้ไปทำไมไม่ทราบ???”
“ไม่รู้สิ อยากหอม เลยถาม”
เดี๋ยวนะเมื่อกี๊เขาพูดว่า...อะไร??????
เอิ่ม-___* ถ้าตอนนี้มันจะไม่มีอะไรเลยก็...ขอโทษค้าบTT
แก้วดูจะพาลและร้อนตัว(เล็กน้อย) โปรดอย่างสงสัยว่าแก้วชอบโทโมะหรือเปล่า เพราะ....
ไรเตอร์ก็ยังไม่รู้ แฮ่ๆ-3-
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ