Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ

8.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.

  43 ตอน
  2163 วิจารณ์
  116.40K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

11) ไม่ใช่อาการที่เธอเรียกว่า[หึง]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
                                             ไม่ใช่อาการที่เธอเรียกว่า [หึง]
 
 
 
1 อาทิตย์ผ่านไป
 
 
 
      ตกลงกันไว้ว่าจะยังคงเป็นแค่เพื่อนกันก่อน เป็นเพื่อนที่เธอไม่รู้ใจ...ห่วงได้ แต่ห้ามหึง
 
 
 
 
 
 
 
          วันนี้แก้วมีคิวถ่ายละคร บันทึกรักซุปเปอร์สตาร์ ที่แสดงประกบนักแสดงสุดฮอตรุ่นพี่ในค่าย อย่างพี่ฟิล์ม  ฉากสุดท้ายของวันนี้เป็นฉากอวสานของละคร จุดถ่ายทำ ณ สวนสาธารณะที่รายล้อมไปด้วยไม้ชอุ่มสีเขียว บวกกับสายลมยามเย็น ช่วยสร้างบรรยากาศภายในฉากให้มีความโรมานซ์มากขึ้น
 
 
 
 
          ช่างไฟ ทีงานรวมถึงบรรดานักแสดง ผู้กำกับพร้อมกันหมดแล้ว ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเพื่อทำสมาธิก่อนจะเริ่มถ่ายทำจริง  เธอออกจะใจหายเล็กน้อยเมื่อมาทราบภายหลังว่า ฉากสุดท้ายของเลิฟซีน...จูบจริงอะไรจริง!
 
 
 
 
          ลำพังก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากเพราะเคยผ่าฉากนี้มาแล้วหนึ่งครั้งแต่ออกจะกลัวเสียมากกว่าเมื่อรู้ว่ามีใครบางคนอยู่ที่กองถ่ายใกล้เคียงบริเวณเดียวกัน....K-OTIC  คร้าTOT
 
 
 
“มินนี่...”
 
 
          เสื้อคู่ที่แอบควงกันไปซื้อวันก่อนถูกนำมาใส่โดยเขา  เจ้าตัววิ่งผ่ากลางกองละครมาจากอีกมุมหนึ่งซึ่งกลุ่มแก็งค์ของเขาทำภารกิจกันเสร็จเรียบร้อย คนหล่อรีบวิ่งมาหาแก้วที่ยืนหน้านิ่งไม่ทันเตรียมใจมาก่อน ถ้าเขาเห็นฉากนั้น...จะเป็นอะไรไหมนะ?
 
 
 
“อะ...เอ่อ”
 
 
 
“ไม่ใส่เสื้อละ? เสียใจนะ”
 
 
 
          เห็นเขาทำหน้าเง้างอดเธอก็อดที่จะอมยิ้มอกมาบางๆไม่ได้ หลายคนอาจมองว่าเขาเป็นผู้ชายนิ่งๆเงียบๆและอาจจะดูหน้ากลัวเกินไปสำหรับคนที่ไม่สนิทคุ้นเคย ใครจะรู้ดีเท่าเธอในตอนนี้...ผู้ชายคนนี้นะ ขี้อ้อน และขี้งอนเป็นที่หนึ่งเลย ให้ตายเถอะ!
 
 
 
“เดี๋ยวใครต่อใครก็สงสัยกันหมด”
 
 
 
“ช่างสิ ไปคุยกันหน่อยนะๆ” เห็นคนสวยของเขาหน้านิ่งไปจึงถือวิสาสะฉวยคว้าข้อมือเล็กก่อนจะสาวเท้าหลบหนีผู้คนไปอย่างรวดเร็ว อีกฟากนึง.....เขื่อนมองตามไปอย่างไม่ละสายตา
 
 
 
 
       ไอ้เสือ.....ว้ากกแน่ ฮ่าๆๆๆ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“อ่า ปล่อยเลย พามาทำไมเนี่ย?”
 
 
 
“คิดถึง...”
 
 
 
           คำพูดสั้นๆออกแนวหวานเลี่ยนถูกกลั่นกรองออกมาจากริมฝีปากหนา ดวงตากลมโตของแก้วส่อแววสั่นไหวเหมือนประสานสบตากับชายหนุ่มฝั่งตรงข้าม  เขาระบายรอยยิ้มจนแก้มปริ  มีความสุขจริงๆที่ได้อยู่ใกล้กับมินนี่ของเขา?
 
 
 
“>///< เลี่ยนน่า..เอ่อ..ไอ้เสือ! แบร่ :’P” คิดคำก่นด่าคนเลี่ยนไม่เลือกที่ไม่ออก เลยต้องต่อว่าเค้าไปแบบนั้น ชิ...เค้ามันเสือจริงๆ พ่อเสือซ่อนเล็บ!
 
 
 
“อะไรๆ -__-;; ไปซ้อมได้แล้วไป เด็กดี^__^”
 
 
 
“แล้วใครเรียกมาไม่ทราบ ชิ”
 
 
 
          พาเธอมาแล้วอยู่ๆก็ไล่กลับเสียอย่างนั้น ประหลาด! เขานี่มันซับซ้อนเดาใจยากตัวพ่อเลย  ใบหน้าสวยเชิดขึ้นน้อยๆก่อนจะกอดอกอย่างไม่แคร์เขา ริมฝีปากอวบอิ่มสีเชอร์รี่น่าสัมผัสเผยอเล็กๆ ดวงตาแข็งกร้าวบวกกับจมูกรั้นๆ ยิ่งทำให้เขาชอบใจ
 
 
 
“งอนเหรอ?”
 
 
“อยากให้งอนไหมเล่า?!”
 
 
 
“อยากสิ”
 
 
 
“....”
 
 
 
“อยากให้งอน เพราะอยากง้อไง” จากที่โมโหเขาอยู่แท้ๆ แต่เพียงแค่คำพูดหวานๆหลุดมาไม่กี่คำ มันกลับทำให้ใจอ่อนทุกทีสิน่า เนี่ยแหละ...จุดอ่อนของแก้วใจ 
 
 
 
 
              เลือดร้อนในกายสูบฉีดไปทั่วใบหน้าใสๆที่บัดนี้ขึ้นสีแดงแปร๊ดอย่างเห็นได้ชัด จะอ้างโทษดินฟ้าอากาศก็ไม่ได้ ลมพัดโกรกขนาดนี้ถ้าจะอ้างว่าร้อนจนหน้าแดงมันก็จะกระไรอยู่ จริงไหม?
 
 
 
 
          ลมกรรโชกแรงเรื่อยๆปะทะเข้ากับใบหน้าใสที่ซ่อนสายตาเขินอายอยู่ภายใต้เรือนผมที่ปลิวสยาย ท่าทางขัดเขินจนยืนบิดเป็นเกลียวคลื่นแบบนั้นมันช่างน่ารักเสียจริงๆ...ผู้หญิงเท่ห์ ลุคส์ห้าวคนก่อนหายไปไหนหนอ? เลหือแต่เพียงเด็กขี้เขิน...เขินได้ทุกครั้งที่ถูกเขาแกล้ง
 
 
 
 
          ถือโอกาสตอนที่เธอเผลอสูดดมความหอมจากพวงแก้มเนียนๆหนึ่งฟอด ก่อนจะหันกลับมาเกลี่ยไรผมที่ปลิวตามแรงลมของเธอให้อยู่ในทรงเดิม  คนสวยรีบตะปปห้าตัวเองด้วยความตกใจเมื่อถูกปากหนาๆกดจูบลงเสียได้ ถ้าใครผ่านมาเห็นเข้า...เป็นเรื่องแน่!
 
 
 
“ฉวยโอกาสนะ ผีดิบ” ฝากรอยแดงไว้ตรงต้นขนของเสือร้ายสักปื้นใหญ่ ๆ  คนโคฟาดลูบแขนตัวเองป้อยๆพลางทำหน้าแหยๆปนกับเสียงหัวเราะระคนด้วยรอยยิ้ม จนอีกฝ่ายนึกหมั่นไส้....
 
 
 
“ไปซ้อมดีกว่า..ผีดิบ แบร่”
 
 
          แก้วเอ่ยตัดบทกับโทโมะก่อนจะหาข้ออ้างหลีกเลี่ยงจากการถูกรัดกุม? ของคนฉวยโอกาส อีกฝ่ายพยักห้ารับก่อนจะเตี๊ยมกันโดยการที่ให้เธอเดินนำหน้าไปก่อน ส่วนเขาจะตีเนียนเดินอ้อมไปทางด้านหลังเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย
 
 
 
“ไปรอดูนะ มินนี่” กระซิบข้างูเอแผ่วเบาก่อนจะเดินเลี่ยง ไป
 
 
 
        อา....ตายแล้วแก้วใจT^T
 
 
 
 
“ทุกคน สแตนบายด์” เสียงผู้กำกับสุดเข้มตะโกนเรียกเหล่าบรรดานักแสดงให้เตรียมพร้อม แก้วรีบวิ่งไปทันทีโดยผ่านหน้าเขื่อนที่ยืนหลบมุมอยู่ตรงต้นไม้ นายกบพูดขึ้นมาลอยๆทั้งที่ยังวุ่นวายกับพีเอสพีในมือ
 
 
 
“บอกไอ้เสือหรือยัง? ไม่บอกระวังโดนดี”
 
 
 
พูดแค่นั้น..นายกบเคโระก็เดินออกไปรวมกลุ่มกับมิกกี้ของเธอ? เขื่อนรู้เรื่องบทละครด้วยเหรอ...T^T เหลือก็แต่โทโมะสินะ ดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกคนทั้งกองจะรู้หมดแล้ว แม้แต่คนนอกกองอย่างเขื่อนก็ตามที เหลือแต่คนในหัวใจนี่แหละ...ที่ยังไม่รู้ตักว่าของหวงกำลังจะถูกแบ่งปัน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“น้อยๆหน่อย...ยิ้มหน้าบานไม่หุบเลยนะคุณเพื่อน”
 
 
 
“อะไรของแกว่ะเขื่อน ว่างมากก็ไปหายัยเฟย์เลยไป”
 
 
 
“แล้วใครที่ชวนผมมากองนี้ละคร้าบบบ!!”
 
 
 
“....”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ปาล์ม.........” ถึงบทที่พระเอกสุดฮอตเดินตามหานางเอกจนทั่วสวนสาธารณะ เจอกันก็โผเข้ากอดตามแบบฉบับละครไทย  ฝ่ายหญิงร้องไห้สะอึกสะอื้นก่อนที่พระเอกจะเกลี่ยหยาดน้ำตาออกให้ ด้วย...รอยจูบ!
 
 
 
 
          เห...ดูเหมือนนั่นจะไม่มีอยู่ในบทกระมัง แม้ถูกคนจะตื่นตกใจกันสักเล็กน้อย แต่ด้วยสปิริตงานต้องดำเนินต่อไป  บรรยากาศภายในกองเริ่มเงียบสงัด ทุกสายตาต่างเพ่งเล็งไปยังใบหน้าหล่อของพระเอกหนุ่มที่กำลังโค้งเข้าหาแก้มเนียนที่ไหลเปรอะด้วยคราบน้ำตา หวังจะจูบซับให้แทนเรียวนิ้วที่ตกลงกันไว้แต่แรก
 
 
 
 
          คนสวยในอ้อมกอดของพี่ชายคนสนิททางฐานะแต่เหินห่างทางจิตใจออกจะกระวนกระวายเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าเขาต่อเติมบทนี้เอาเอง...
 
 
 
 
          ไม่ต่างจากคนที่นั่งดูอยู่ข้างๆไม่ห่างจากจอมอนิเตอร์ คนหล่อเริ่มมีอาการหงุดหงิดไม่ชอบใจ ตอนที่เธอเอาบทให้เขาช่วยดู? มันไม่มีแบบนี้นี่หว่า!
 
 
 
 
          บ้าชะมัด! อะไรของผู้กำกับวะเนี่ย..เปลี่ยนบทตอนไหนทำไมไม่บอกกันบ้าง หา???? อุตส่าห์ยื้อแย่งบทของมินนี่มาดูแล้วเชียว เชคสักหน่อยว่ามีฉากหวือหวาแบบนี้หรือเปล่า ?? ลำพังแค่ตอนนั้นมินนี่ของผมโดนจูบไปหนึ่งทีก็แทบจะบ้าตายอยู่แล้วนะ!
 
 
 
“เฮ้ย ดูดิ จะจูบแล้วๆ” เสียงเด็กเสิร์ฟน้ำในกองออกอาการดี๋ด๋ายกใหญ่เมื่อเห็นหนุ่มฮอตกำลังจะจูบมินนี่ของเขา? ฮึ่ยๆๆๆๆๆ ขัดใจโว้ย!
 
 
 
“นอกบทนี่นา แก”
 
 
 
“หา? นอกบทเหรอ? บังอาจมาก!” เผลอหลุดพูดเสียงดังไปจนคนรอบข้างหันมามองไม่เว้นแม้กระทั่งเขื่อนยังอดจะแซวไม่ได้ เห็นคนหล่อนั่งไม่ติดเก้าอี้นี่มันสนุกจริงเลยว่าไหม?
 
 
 
“ไง...นั่งไม่ติดเก้าอี้เลย ฮะๆ”
 
 
 
 
          โทโมะหันมาจิ๊ปากใส่เพื่อนสนิทเล็กน้อยก่อนจะทนไม่ไหวขึ้นมาจริงๆเมื่อริมฝีปากของใครที่ไหนก็ไม่รู้กำลังจะสัมผัสแก้มใสของเธอ อ๊ากกกกกก
 
 
 
 
“ไม่ได้นะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
 
 
 
 
 
 
           เผลอตะโกนออกไปเสียงดังก่อนจะลุกขึ้นยืนมองตามด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด? ทำให้พระนางทั้งคู่หยุดชะงักไปอย่างเสียมิได้ แก้วรีบผละออกจากอ้อมกอดของพี่ชายคนสนิท? ส่วนคุณพระเอกดูท่าจะงงไปเล็กน้อย ...ท่ามกลางสายตางุนงงของบุคคลที่รายล้อม  ทำให้โทโมะรู้สึกตัว...
 
 
 
 
“เอ่อ...ขอโทษครับ”   ก้มหัวให้ทุกคนเล็กน้อยเป็นการขอภัยที่เผลอทำอะไรงี่เง่าลงไป ก่อนจะกลับมานั่งสงบสติอารมณ์กับเขื่อนที่กำลังอี๋อ๋อกับเฟย์ที่เพิ่งจะเดินทางมาดูเพื่อนสาว เหตุเกิดจากความว่าง อันที่จริงมาดูเพื่อนหรือมาหาเคโระก็ไม่อาจทราบได้?
 
 
 
  ใบหน้าเรียวมองมายังเขาเล็กน้อย กลัวเหลือเกินว่าเขาจะโกรธ...รู้สึกผิดนะเนี่ย
 
 
 
“เอ่อ....ฉากต่อไปเลยดีกว่าครับ”  เสียงผู้กำกับตะโกนเปลี่ยนฉาก ฉากสุดท้าย คราวนี้แหละ...สิ่งที่แก้วกลัวที่สุด
 
 
 
“โทโมะ นายทำบ้าอะไรอ่ะ?”
 
 
 
          คนตัวเล็กข้างกายเขื่อนเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าหงุดหงิด ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าบุคคลตรงหน้าคิดไม่ซื่อกับเพื่อนสาวของเธอเลยออกอาการหวงเป็นธรรมดา แต่เห็นแบบนี้ก็กลัวแก้วไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานเสียมากกว่าเลยกล่าวเตือน
 
 
 
“เรื่องของฉัน”
 
 
 
“ชิ เขื่อน ดูแลเพื่อนนายบ้างก็ดี ...” เมื่อถูกเขาตอบคำถามยอกย้อนก็อดที่จะโมโหไม่ได้ แต่ไอ้ครั้นจะไปอาละวาดใส่คนหัวดื้ออย่างโทโมะเห็นทีจะไม่ไหว เฟย์ก็วีนได้แค่เขื่อนคนเดียวละน่า  ชายหนุ่มหันควับไปมองคนตัวเล็กด้วยงุนงง แน่สิ...เขาไม่ผิดนี่นา แต่เธอเลือกที่จะมาลงกับเขาเอง จะทำไงได้ก็นอกเสียจาก...น้อมรับคำสั่งจากยอดยาหยีT^T
 
 
 
“จ้าTOT”
 
 
 
“ฮึ”
 
 
 
“ไอ้โทโมะเพื่อนเวร!!”
 
 
 
 
           เออออห่อหมกเห็นด้วยกับยาหยีของตัวเองก่อนจะหันมาด่า?เพื่อนรัก อีกฝ่ายไม่ได้โต้กลับแต่อย่างใด สายตาเหยี่ยวจดจ้องมองนางเอกของเขาไม่วางตา เอาอีกแล้ว กอดอีกแล้ว! ไม่ไหวแล้วโว้ย!...ไอ้ครั้นจะลุกขึ้นอาละวาดก็ทำไม่ได้ คนขี้หวงนั่งเหงื่อแตกพรากลุ้นกับเหตุการณ์ตรงหน้าใจจดใจจ่อ
 
 
 
 
          อา...O__O อ๊ากกกกกกกกกก!!!!  คนชำนาญบทเลิฟซีนอย่างพี่ฟิล์มค่อยๆบรรจงจูบลงบนกลีบปากนุ่มของแก้วอย่างนานเนิ่น คนสวยตกใจเล็กน้อย การแสดงเลยดูเกร็งไปนิดจนต้องสั่งคัท!
 
 
 
คัท?...แปลว่า ต้องเริ่มใหม่อีกรอบ!!!! ไม่อ๊าววววววT^T
 
 
 
“ฮึ่ย!” คนหล่อขี้หวงสะบัดตัวหนีอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินออกไปด้วยความโกรธปนหงุดหงิด แก้วไม่บอกให้เขารู้ถึงฉากนี้เลยนี่นา...ทำใจไม่ได้ครับTT
 
 
 
“สมน้ำหน้า ชิ” เฟย์แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ตามหลังเขาไปด้วยความหมั่นไส้จนเขื่อนต้องแอบดุน้อยๆ
 
 
 
“ไม่น่ารักเลย อย่าไปแหย่มันสิ” นิ้วเรียวดีดหน้าผากเนียนของคนตัวเล็กเบาๆ แอบค้อนคนสนิทเล็กน้อยก่อนจะกระทุ้งข้อศอกใส่หน้าท้องแกร่งของคนข้างกายไปเป็นของรางวัล ชิ!
 
 
 
จุก....T//T
 
 
 
 
 
 
 
 
Rrrr
 
             เสียงไอโฟนเครื่องโปรดดังขึ้นไม่ขาดสาย  สร้างความรำคาญให้กับป๊อปปี้เป็นอย่างมาก รีดเดอร์วงทำหน้าที่รับโทรศัพท์แทนเจ้าของมันที่กำลังซดแอลกอฮอลล์ไม่ขาดปาก โทรนัดเขาออกมาเที่ยวหลังจากกระชากเกียร์ลีมูซีนคันงามของมันมาด้วยท่าทีปึงปังเหมือนโกรธใครมาแต่ชาติปางก่อน...สุดท้ายก็มาจบชีวิตที่ผับเดิม!
 
 
 
ถามก็ไม่ตอบไอ้เพื่อนเวร...My Girl ของมันโทรมาก็ไม่รับ!
 
 
 
หมั่นไส้เล็กๆที่เพื่อนรักเมมเบอร์เด็กแสบอย่างแก้ว ว่า มายด์เกิร์ล เฮอะ!  
 
 
 
 
          เพราะแกสองคนแท้ๆ แทนที่ฉันจะได้อยู่กับฟางกี้ กลับกลายเป็นว่าต้องมาทำหน้าที่ปอเต็กตึ้งตามเก็บศพคุณชายโทโมะเสียได้...ให้เดาเลย ถ้าทะเลาะกับยัยแก้วแหงๆ และถ้าเดาไม่ผิด คงเป็นเพราะความหึงละมั้ง!
 
 
 
“ฮัลโหล”
 
 
 
[โทโมะ]
 
 
 
“ฉันเอง....ป๊อปปี้”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ปล่อย” 
 
 
 
          คนเมาสะบัดแขนทันทีที่มองเห็นด้วยสายตาพร่าเบลอ คนตัวเล็กอุตส่าห์ตามมาง้อถึงที่แต่ยังคงความโกรธเอาไว้เสมอต้นเสมอปลายไม่ว่าเธอจะง้อด้วยวิธีใด ป๊อปปี้มองตามด้วยความระอาเมื่อรู้สึกว่าเพื่อนตัวเองไม่มีเหตุผลเอาเสีย ละครก็คือละคร!
 
 
 
“เคลียกันเองนะ....ฮัลโหลฟาง หิวอ่ะ ออกมาหาไรกินกันไหม?”
 
 
 
[ไม่ไปย่ะ]
 
 
 
“ใจร้าย..ถ้าเธอไม่ออกมา ฉันบุกไปหาถึงที่บ้านจริงๆด้วย!!!” 
 
 
 
          ยกโทรศัพท์โทรหาหญิงสาวผู้เป็นหนึ่งในใจ หวังว่าเธอจะยอมออกไปกับเขาหลังจากตั้งใจจะชวนตั้งแต่เมื่อเย็นแล้ว  แต่ดันมีตัวปัญหามากวนเสียได้ เห็นว่าเป็นเพื่อนหรอก ถึงยอมนะ..เป็นคนอื่นซัดตายไปแล้ว
 
 
 
 
          เอ่ยชวนเจ้าตัวก็ปฏิเสธ ฮึ เลยต้องบอกไปว่าจะไปหาถึงบ้านเจ้าตัวก็ตอบกลับมาว่าไม่เชื่อ..แล้วคอยดู ว่าป๊อปปี้จะกล้าไหมครับ^^
 
 
 
“เดี๋ยวสิป๊อป...พาเขากลับบ้านก่อนสิ” กำลังจะเดินหนีแต่ถูกแก้วรั้งไว้ให้ช่วยพยุงซากศพกลับไปฝังที่บ้านก่อน  เลยจำต้องเลทกับยัยหมูกระต่ายไปก่อน
 
 
 
“ไม่ต้องโว้ย!”
 
 
 
“นิสัย”  เธอแอบค้อนเขาเล็กๆที่คนเอาแต่ใจไม่ยอมฟังจนแก้วหน่ายใจ พยายามอธิบายเขาก็ไม่ฟัง คนอะไร?ขี้งอนเป็นบ้าเลย!
 
 
 
“ทำไม...ที่เธอยังไปกอดไปจูบกับคนอื่นได้...แล้วทำไมฉันจะทำตามใจตัวเองบ้างไม่ได้”
 
 
 
“ไม่มีเหตุผล นั่นก็แค่ละคร แล้วอีกอย่างบอกแล้วไง...เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน! เพราะฉะนั้นนายไม่มีสิทธ์หึง!” ตวาดใส่หน้าเขาน้อยๆ ดวงตากลมโตคลอปริ่มไปด้วยหยาดน้ำตาที่ล้นเอ่อ น้อยใจเขาเหลือเกินที่ยกเอาเหตุผลนี้มาอ้าง ถ้าคิดจะชอบพอ คบกัน ทำไมถึงทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่กันเล่า?!
 
 
 
“เอ่อ...ใจเย็นกันก่อนสิ แกก็เหมือนกันมันก็แค่ละครจะอะไรนักหนา แก 2 คนคบกันแล้วหรือไง? ถึงต้องหวงขนาดนั้น ทำอะไรไม่คิดว่ะ!”
 
 
 
“........”
 
 
 
“ไม่ได้หึง...ไม่หึง” 
 
 
 
 
           เปรยออกมาก่อนจะคว้าเอวบางเข้ามากอดไว้ คนสวยขัดขืนเล็กน้อยก่อนจะใช้ สองมือทุบตีเขาไม่ยั้ง ยิ่งเห็นท่าทีเดียดฉันท์อ้อมกอดของเขาแล้วก็ยิ่งน้อยใจสุดแสน ที่พ่อพระเอกคนนั้นยังกอดได้เลยนี่นา เขากอดแค่นี้จะเป็นไรไป....มือหนาลดลงคลายอ้อมกอดจนเธอเป็นอิสระ...
 
                           
 
 
 
 
 
 
 
 
            มีเพียงเสียงเพลงที่คลอจากวิทยุภายในรถคันหรูของโทโมะ ป๊อปปี้ที่ขอแยกตัวไปหาฟางก่อนหน้านั้น อีกอย่างเจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่ได้เมาอะไรมาก พอขับรถไหว .... ไม่มีการพูดจาระหว่างคนขับและคนนั่งร่วมทาง
 
 
 
“โทโมะ....”มือน้อยเอื้อมแตะฝ่ามืออุ่นของเขาขณะที่เจ้าตัวจับเกียร์ คนหล่อสะบัดมือหนีก่อนจะหันกลับไปบังคับพวงมาลัยต่อ แก้วกลับมาสงบอีกครั้ง ไม่รู้จะง้ออย่างไรดี? ถูกเขาปฏิเสธการงอนง้อแบบนี้ทุกครั้งเธอก็ใจเสียเหมือนกันนะ
 
 
 
“.......”
 
 
 
“แก้วไม่ได้ตั้งใจจะปิดบัง เพิ่งรู้เหมือนกันว่ามีบทนั้น”
 
 
 
“......”
 
 
 
“ไม่เชื่อก็ได้นะ ....แต่แก้วพูดเรื่องจริง” เอ่ยความจริงออกไปจนหมดสิ้นได้แต่หวังว่าคนที่อาแต่ตีหน้าเครียดจะเข้าใจ  .... ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้จากอีกฝ่ายเหมือนเฉกเช่นเคย ยังคงเงียบ....
 
 
 
“.....”
 
 
 
“.....”
 
 
 
“ไม่ได้โกรธเรื่องนั้น..ทำไมต้องพูดว่าไม่มีสิทธิ์!!!!??”  ไอ้อาการเฉยชาไม่ได้เป็นเพราะบทจูบอะไรนั่น แค่โกรธที่เธอบอกต่อหน้าป๊อปปี้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์หึง! โอเค...ไม่หึงก็ได้
 
 
 
“คือ....เรายังไม่”
 
 
 
“ต้องรอให้ได้กันก่อนหรือไงถึงจะหึงได้!”
 
 
 
“โทโมะ!!”
 
 
 
          อยากจะตะปปหน้าหวานๆของเขาเสียจริง พูดหยาบคายแบบนั้นกับเธอได้อย่างไร?  จะก่นด่าก็ไม่ได้ผลคนไม่มีหัวใจไม่สะทกสะท้านอะไรอยู่แล้วนี่  คนสวยกอดอกตัวเองพลางเฉสายตามองไปยังนอกรถด้วยน้ำตาที่ล้นปริ่ม  กว่าจะรู้สึกตัวว่าเป็นคนผิดอยากจะขอโทษก็กลัวเธอจะไม่รับฟัง...ปากหนอปากT^T
 
 
 
“ว้ายยยย!!!!!” เสียงใสเล็ดลอดออกจากเรียวปากเล็กนั่นด้วยความตกใจเมื่อถูกคนเอาแต่ใจเบรกรถกะทันหันพลางข้ามเกียร์มาช้อนตัวเธอขึ้นนั่งบนตักแกร่งส่วนเขาแทรกตัวลงไปนั่งที่ของเธอแทน
 
 
 
 
           คำขอโทษกลั่นกรองออกจากปาหนาๆของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า หวังเหลือเกินที่จะให้เธอเห็นใจเขา มือหนากอบกุมเอวบางไว้แนบชิดเกรงว่าเธอจะดิ้นหนีเขา...
 
 
 
“ขอโทษ...ขอโทษ...โทโมะขอโทษนะมินนี่”
 
 
 
“....”
 
 
 
 
            เมื่อไม่ได้รับการตอบโต้จากร่างเพรียวบนตัก คนหล่อก็เริ่มใจเสีย เธอคงโกรธเขามากเป็นแน่แท้ที่พูดจาละลาบละล้วงไม่ให้เกียรติเธอแบบนั้น ... ใบหน้าหล่อซบลงบนเนินอกของหญิงสาวบนตักพลางร้องโวยวายขอความเห็นใจเด็กน้อยให้เธออภัย ...ยอมแล้ว
 
 
 
“โทโมะไม่ได้หึงแก้วนะ  ไม่ใช่อย่างที่แก้วเรียกแบบนั้น”
 
 
 
“......”
 
 
 
“ให้อภัยสักครั้งนึง เธอคงไม่ใจร้าย ....ใช่ไหมคนดี?”
 
 
 
          เงยหน้าสบตากับคนตัวเล็กที่มีท่าทีหวั่นไหวอยู่บ้าง ในเมื่อเธอไม่ตอบเขาจะขอสรุปเอาเองเลยแล้วกันว่าเธอยอมให้อภัย ....  ใบหน้าคมคายโน้มเข้าหาริมฝีปากสีเชอร์รี่แสนเย้ายวนนั่นด้วยอยากสัมผัสลิ้มรส หวานหอมทุกครั้งที่ได้สัมผัส อมให้เขาล่วงเกินแบบนี้...หายโกรธแล้วใช่ไหม?
 
 
 
“หายโกรธหรือยัง?”
 
 
 
          ไม่อยากจะล่วงเกินหากเพียงเพราะเธอแค่เคลิ้มตาม อยากให้คนตรงหน้าเต็มใจรับสัมผัสด้วยความยินยอมจริงๆมากกว่า คนสวยหลบสายตาขี้อ้อนซุกซนนั่นเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากจะขยับเขยื้อนเมื่อเธอกลั่นคำพูดออกมา
 
 
 
“คนนิสัยไม่ดี...ไม่ใช่หึงแล้วคืออะไร?”
 
 
 
“หวงไง”
 
 
 
“วันหลังมีเหตุผลบ้างก็หน้าจะดี แก้วให้อภัยนะ แต่ก็ใช่ว่าจะลืมไปเลย อย่าได้ใจเชียว!”
 
 
 
“ครับ ...คนดี มิกกี้ขอโทษนะมินนี่”
 
 
 
 
            ก่อนจะฉวยโอกาสฉกขิมโพรงปากหวานของคนตัวเล็กด้วยความชำนาญ ลิ้นร้อนอุกอาจคนควานทั่วโพรงปากหวานรู้จักจบสิ้น ไม่รู้จักคำว่าพอ... ริมฝีปากหนาขยับจูบบนริมฝีปากบางจนเธอหายใจแทบไม่ทัน อาศัยการลอบหายใจถี่ๆเมื่อเขาเคลื่อนย้ายริมฝีปาก...
 
 
 
“อื้อ...พอแล้ว”   ตีแขนคนเอาแต่ใจที่ไม่ยอมเลิกรา  ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเชื่อฟังเธอเสียเหลือเกิน...เขากดจมูกโด่งได้รูปลงบนซอกคอหอมเนียนด้วยความหลงใหลแม้เธอจะยังไม่ผ่านการชำระร่างกายในคืนนี้ ... หอมได้ตลอดเวลาสิน่า
 
 
 
 
           เลื่อนขึ้นจูบที่เรียวปากอวบอิ่มที่เริ่มบวมเจ่อเพราะถูกเขารุกรานเป็นเวลานานเกินไป ด้วยความหมั่นไส้เจ้าลิ้นหนาซุกซนนั่นเลยกัดเข้าให้จนเจ้าตัวร้องโอย~
 
 
 
“โอ้ย~กัดทำไมยัยตัวแสบบ ซี้ดด~”
 
 
 
“สมน้ำหน้าไอ้ลามก พาแก้วกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ ไอ้เสือ แบร่ๆๆ”
 
 
 
           ตอนแรกกะจะพาเลี้ยวเข้าโรงแรมแล้วเชียว แต่เจอคนสวยดักคอไว้ถ้าไม่อยากให้เธอเกลียดเขาไปจนวันตาย คนหล่อก็ยอมสิครับ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน อดปล้ำไว้กินแก้ว...
 
 
 

 
 มาละคร้าบบ เค้าเพิ่งเข้าขีดเขียนได้ ขอโทดทุกคนก้าบบ^^
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา