The Bets Love เดิมพันรัก เดิมพันหัวใจ
10.0
18) She is sick.
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความมาอัพต่อแล้วน้า!!! ไปอ่านกันเลยจ้า^_^
Part’s Faye
เฟย์/เขื่อน : เฮ้ย!! พี่ฟาง!!/ไอป๊อป!!
ฉันกับเขื่อนอุทานออกมาด้วยเสียงที่ดังมากในเวลาเดียวกัน เพียงแค่ประโยคเท่านั้นที่ต่างกัน ทำให้
ทุกคนหันมามอง ส่วนเคนตะกับจินนี่ที่ยืนอยู่ใกล้กับพวกเราที่สุดรีบวิ่งมาดูอย่างรวดเร็ว
ปึง! โครม!
เคนตะที่วิ่งมาชนประตูของห้องเย็นอย่างรุนแรง ส่งผลให้ประตูห้องเย็นปิดลงไปอย่างแรง
ทุกคน : เฮ้ย! ซวยแล้ว!!
พวกเราที่ตกตะลึงอยู่กับสิ่งที่ได้เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ก็รีบตั้งสติแล้วช่วยกันหาทางเปิดประตูห้องเย็นทันที
แต่พอเดินไปดูที่ประตู ประตูของห้องเย็นเป็นแบบใส่รหัส และเป็นแบบไขกุญแจ จึงไม่สามารถทำให้พวกเรา
เปิดประตูห้องเย็นแห่งนี้ได้เลยไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
มิน : นี่พวกแกทำกันยังไงเนี่ย! ยัยฟางกับพี่ป๊อปถึงได้เข้าไปติดอยู่ด้านในห้องเย็นได้เนี่ย!!
มินเริ่มเอ่ยเอ็ดพวกเราออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด ฉันเข้าใจนะว่ามินเป็นคนที่เป็นห่วงเพื่อนๆมาก
แล้วยิ่งเป็นพี่ฟางด้วยแล้ว มินยิ่งห่วงกว่าเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่ม เพราะมินกับพี่ฟางมักจะช่วยเหลือกันมาตั้งแต่
ไหนแต่ไรแล้ว เวลาพี่ฟางเกิดอันตรายมินมักจะเป็นห่วงพี่ฟางมากกว่าคนอื่นๆ
เฟย์ : ก็เขื่อนอ่ะ มาแกล้งเฟย์ เฟย์เลยวิ่งไล่เขื่อน แล้วเฟย์วิ่งไปชนเขื่อน เขื่อนจึงเซไปชนพี่ฟางกับพี่ป๊อป
แล้วช่วงเวลานั้นประตูห้องเย็นมันเปิดอยู่พอดี พี่ฟางกับพี่ป๊อปเลยเซแล้วล้มเข้าไปอยู่ในห้อง
เขื่อน : ใช่ๆ แล้วเคนตะกับจินนี่ที่ได้ยินฉันกับเฟย์อุทานออกมาจึงวิ่งมาดู แล้วไอเคนพวกแกก็รู้กันอยู่ว่ามันแรง
เยอะขนาดไหน แล้วมันดันวิ่งมาแบบไม่ดูตามาตาเรือ จึงวิ่งไปชนประตูเข้าพอดี มันเลยปิดลงอย่างที่เห็นๆกัน
เนี่ยแหละ!!
ฉันกับเขื่อนอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้พี่ฟางกับพี่ป๊อปเข้าไปติดอยู่ในห้องเย็น ณ ตอนนี้ มินที่ได้ยินถึง
ถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา แล้วทำท่าทางเหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรซักอย่าง ส่วนพวกเราก็ไม่รอให้
เวลาผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ ช่วยกันแกะ ดึง ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ประตูมันเปิดให้ได้ แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้
ประตูเปิดได้ซักที
มิน : พวกแกโง่หรือฉลาดกันเนี่ย! เห็นๆกันอยู่ว่าต้องใช้รหัสกับกุญแจเท่านั้นถึงจะเปิดประตูนั้นได้ แล้วทำไม
พวกแกยังจะซื่อไปแกะ ไปดึงประตูอยู่อีก
มินที่เจ้าแม่เริ่มองค์ลง ตวาดพวกเราออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินกระทืบเท้าเดินมุ่งตรงไปยัง
ห้องของเชฟ พวกเราที่โดนมินตวาดถึงกับยืนนิ่งอึ้งไม่กล้าขยับตัว ถ้าไม่หายใจแล้วไม่ตาย พวกเราก็คงจะหยุด
หายใจไปแล้ว มินหน่ะ! น่ากลัวเป็นอันดับ 3 รองลงมาจากพี่ฟางและพี่จีนเลยนะจะบอกให้
เขื่อน : ไอเบ แฟนแกน่ากลัวว่ะ!!
เขื่อนพูดออกมา พร้อมกับทำหน้าสยดสยองประกอบคำพูดไปด้วย พวกเราเอ่ยนินทามินได้ซักพัก
มินก็เดินกลับมาพร้อมกับเชฟสาวสวยอีกหนึ่งคน
เชฟ : น้องๆค่ะ ห้องเย็นมันปิดได้ยังไงกันคะ!!
ทันทีที่พี่เชฟสาวคนสวยเดินมาถึง ก็เอ่ยถามพวกเราออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นๆ ฉันกับเพื่อนๆจึงได้เล่า
เรื่องราวไปให้พี่เชฟคนนั้นฟังอีกครั้ง
เชฟ : น้องคะ พี่ไม่สามารถเปิดประตูให้น้องได้ตอนนี้นะค่ะ
จินนี่ : ทำไมหล่ะค่ะพี่!
เชฟ : พี่มีรหัสก็จริงนะคะ แต่กุญแจห้องน่ะ พี่ไม่มีหรอกค่ะ
โทโมะ : พี่ครับ! แล้วใครเป็นคนถือกุญแจหล่ะครับ!
เชฟ : หัวหน้าเชฟเป็นคนถือกุญแจค่ะน้อง แต่ตอนนี้หัวหน้าออกไปเอาของสดที่ตลาดค่ะ อีกซักพักคงกลับล่ะ
ค่ะ ตอนนี้ทางเดียวที่น้องๆจะทำได้คือ ต้องรอหัวหน้าเชฟกลับมาค่ะ ถึงจะสามารถเปิดประตูให้เพื่อนน้องออกมา
ได้
พวกเราเมื่อได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนที่มินจะพูดขอบคุณพี่เชฟสาวคนนั้น และ
เมื่อพี่เชฟสาวคนนั้นเดินออกไป มินเจ้าแม่ก็องค์ลงอีกครั้งได้หันกลับมาสวดพวกเราเป็นเวลานานหลายนาที
เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงหลังจากที่ได้โดนมินเทศนาจบไปแล้ว พี่เชฟสาวคนนั้นก็เดินกลับมาพร้อมกับเชฟผู้ชาย
อีกหนึ่งคน ซึ่งฉันคาดว่าน่าจะเป็นหัวหน้าเชฟของที่นี่
เชฟ : น้องค่ะ หัวหน้าเชฟกลับมาแล้วค่ะ
มิน : พี่ช่วยเพื่อนหนูด้วยค่ะ เขาสองคนติดอยู่ในห้องเย็นนี่น่ะค่ะ
หัวหน้าเชฟเมื่อได้ยินมินพูดแล้วก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะกดรหัสประตู แล้วใช้กุญแจไขเปิด
ประตูเข้าไป มินรีบวิ่งเข้าไปในห้องทันทีที่ประตูห้องเปิด
Part’s Poppy
หลังจากที่ผมกับฟางติดอยู่ภายในห้องเย็นเป็นเวลาเกือบๆ 2 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อนๆของผมก็ได้ช่วยกัน
หาทางเปิดประตูเข้ามาช่วยผมกับน้องฟาง เมื่อประตูห้องเปิดแล้ว มินก็รีบวิ่งเข้ามาหาพวกเราที่ติดอยู่ภายใน
ห้องทันที และเมื่อมินเห็นลักษณะของฟางตอนนี้แล้ว เธอได้แต่เบิกตากว้างอย่างตกใจ เพราะตอนนี้น้องฟาง
หน้าซีด ตัวเย็นเฉียบ และที่สำคัญตอนนี้ร่างกายของเธอสั่นเทาไปด้วยความหนาวเย็น ผมรีบช้อนตัวอุ้มน้องฟาง
ออกไปจากห้องเย็น พร้อมกับมุ่งตรงไปยังห้องพักทันที โดยมีมินและเพื่อนๆวิ่งตามมาด้วยความห่วงใย
ฟาง : หนาว หนาว
น้องฟางเมื่อสติเริ่มกลับมาแล้ว เธอได้แต่พร่ำบ่นไปตลอดทางพร้อมกับเอามือมากอดตัวเองแน่นขึ้น
ผมเมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบสาวเท้าให้เดินไปให้ถึงห้องพักอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทันทีที่มาถึงห้องพัก
ผมรีบนำตัวน้องฟางไปวางยังเตียงริมระเบียง ก่อนที่ตัวผมเองจะวิ่งเข้าไปเอาน้ำใส่กะละมังแล้วหยิบผ้าเช็ดตัว
ผืนเล็กมาเช็ดตัวให้เธอ แล้ววางผ้าอีกผืนตั้งไว้บนหน้าผากของน้องฟาง
มิน : ป๊อป! ไปอาบน้ำเถอะ! เดี๋ยวฉันเปลี่ยนชุดให้ฟางเอง
มินเดินมาสะกิดบอกผมที่นั่งเฝ้าน้องฟางอยู่ที่ข้างๆเตียง ผมจึงพยักหน้าให้กับเธอ ก่อนจะเดินไปหยิบ
ชุดและของใช้ส่วนตัว เดินออกไปอาบน้ำที่ห้องพักของมินกับจองเบ
Part’s Min
ฉันบอกให้ป๊อปปี้เดินไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะลำพังเฉพาะตัวของป๊อปปี้เองก็เกือบจะแย่อยู่แล้ว แต่
ด้วยความที่นายป๊อปรักยัยฟางมาก ฉันดูออกนะ มันจึงนั่งเฝ้ายัยฟางไม่ยอมลุกไปไหน ฉันเดินไปหยิบชุดมา
เปลี่ยนให้ยัยฟาง และเมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จ ฉันจึงลงมือเช็ดตัวให้กับยัยฟางใหม่อีกครั้ง ทุกคนอย่ามองว่ายัยเฟย์
เป็นน้องสาวที่ไม่ดีนะคะ แต่ที่ยัยเฟย์ไม่มาดูแลยัยฟาง เพราะโดนฉันไล่ให้กลับไปนอนซะ ยัยเฟย์มาดูแลยัยฟาง
ทีไร ยัยฟางไข้ขึ้นมากกว่าปกติทุกที
มิน : หายไวๆนะฟาง หายให้ทันพรุ่งนี้หล่ะ! ไม่งั้นอดไปเที่ยวเกาะไม่รู้ด้วยนะ!
ฉันพูดกับฟางที่นอนหลับอยู่ที่เตียง ฉันนั่งเฝ้ายัยฟางได้ซักพัก นายป๊อปปี้ก็เดินเข้ามาบอกให้ฉัน
กลับไปพักผ่อน ส่วนเขาจะอยู่เฝ้าฟางให้เอง ฉันจึงพยักหน้าให้ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง และด้วยความที่ฉัน
เป็นห่วงยัยฟาง ฉันจึงไม่ปิดประตูสนิท เพื่อที่ฉันจะได้แวบมาดูยัยฟางได้ตอนกลางดึก
@ 02.30 น.
ฉันตื่นขึ้นมาตอนกลางดึกเพราะฉันเป็นห่วงยัยฟางมาก ฉันจึงลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกจากห้อง
มุ่งตรงไปยังห้องพักของยัยฟางทันที หน้าห้องของยัยฟางมีน้องสาวสุดแสบของเธอยืนอยู่ด้วยท่าทางที่ดูเหมือน
จะเป็นห่วงคนเป็นพี่ที่นอนอยู่ภายในห้องพักไม่ใช่น้อยๆ
มิน : เฟย์ ทำไมยังไม่นอนอีกหล่ะ!
เฟย์เมื่อได้ยินเสียงฉันดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ ทำให้เธอสะดุ้งตัวโยน ก่อนจะหันหลังกลับมาดู
พร้อมกับเอามือแตะที่หน้าอกของตนเอง แล้วตอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เฟย์ : มินนั่นเอง! ฉันตกใจนึกว่าเป็นผีซะอีก!
มิน : แกก็บ้า คิดไปได้ ว่าแต่ทำไมยังไม่นอนอีก
เฟย์ : ฉันเป็นห่วงพี่ฟางนี่นา!
มิน : แล้วทำไมไม่เข้าไปดูฟางหล่ะ!
เฟย์ : ฉันกลัวพี่ฟางจะไข้หนักกว่าเดิมหน่ะสิ!!
ฉันไม่รอให้ยัยเฟย์พูดปรโยคอื่นต่อไป รีบลากยัยเฟย์ตรงไปที่ประตูห้องพักทันที แต่ก็ยังไม่เปิดประตู
เข้าไปรบกวนคนไข้ภายในห้องอยู่ดี ฉันกับยัยเฟย์แอบลอบมองเข้าไปในห้อง ก็เห็นป๊อปปี้ยังนั่งเช็ดตัวให้ยัยฟาง
อยู่เหมือนเดิม
@ 03.30 น. --> @ 04.30 น. --> @ 05.30 น.
ฉันกับยัยเฟย์ตกลงกันว่าจะลุกขึ้นมาดูยัยฟางทุกๆ 1 ชั่วโมง แต่ภาพภายในห้องทุกๆ 1 ชั่วโมงที่ผ่าน
มาที่ได้เห็นกันก็จะเป็นเหมือนเดิมคือ ป๊อปปี้จะคอยนั่งอยู่ข้างๆเตียงของยัยฟาง แล้วคอยเช็ดตัวให้ยัยฟางตลอด
เวลา จนเวลา 05.40 น. ป๊อปปี้ถึงได้ฟุบตัวลงนอนข้างๆเตียงของฟาง
มิน : เป็นไงยัยเฟย์ คนนี้ผ่านหรือป่าว
เฟย์ : ผ่านฉลุยเลยแหละ!!
ฉันกับยัยเฟย์ยิ้มให้กัน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปนอนหลับพักอีกซักนิด หลักจากที่ฝืนตัวเองลุกขึ้นมา
แวบดูยัยฟางทุกๆหนี่งชั่วโมง
ขอแสดงความเสียใจสำหรับคนที่ทายผิดด้วยนะค่ะ!!
ช่วยกันเม้น โหวต ให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
เจอกันตอนหน้าจ้า ^_^
Part’s Faye
เฟย์/เขื่อน : เฮ้ย!! พี่ฟาง!!/ไอป๊อป!!
ฉันกับเขื่อนอุทานออกมาด้วยเสียงที่ดังมากในเวลาเดียวกัน เพียงแค่ประโยคเท่านั้นที่ต่างกัน ทำให้
ทุกคนหันมามอง ส่วนเคนตะกับจินนี่ที่ยืนอยู่ใกล้กับพวกเราที่สุดรีบวิ่งมาดูอย่างรวดเร็ว
ปึง! โครม!
เคนตะที่วิ่งมาชนประตูของห้องเย็นอย่างรุนแรง ส่งผลให้ประตูห้องเย็นปิดลงไปอย่างแรง
ทุกคน : เฮ้ย! ซวยแล้ว!!
พวกเราที่ตกตะลึงอยู่กับสิ่งที่ได้เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ก็รีบตั้งสติแล้วช่วยกันหาทางเปิดประตูห้องเย็นทันที
แต่พอเดินไปดูที่ประตู ประตูของห้องเย็นเป็นแบบใส่รหัส และเป็นแบบไขกุญแจ จึงไม่สามารถทำให้พวกเรา
เปิดประตูห้องเย็นแห่งนี้ได้เลยไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
มิน : นี่พวกแกทำกันยังไงเนี่ย! ยัยฟางกับพี่ป๊อปถึงได้เข้าไปติดอยู่ด้านในห้องเย็นได้เนี่ย!!
มินเริ่มเอ่ยเอ็ดพวกเราออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด ฉันเข้าใจนะว่ามินเป็นคนที่เป็นห่วงเพื่อนๆมาก
แล้วยิ่งเป็นพี่ฟางด้วยแล้ว มินยิ่งห่วงกว่าเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่ม เพราะมินกับพี่ฟางมักจะช่วยเหลือกันมาตั้งแต่
ไหนแต่ไรแล้ว เวลาพี่ฟางเกิดอันตรายมินมักจะเป็นห่วงพี่ฟางมากกว่าคนอื่นๆ
เฟย์ : ก็เขื่อนอ่ะ มาแกล้งเฟย์ เฟย์เลยวิ่งไล่เขื่อน แล้วเฟย์วิ่งไปชนเขื่อน เขื่อนจึงเซไปชนพี่ฟางกับพี่ป๊อป
แล้วช่วงเวลานั้นประตูห้องเย็นมันเปิดอยู่พอดี พี่ฟางกับพี่ป๊อปเลยเซแล้วล้มเข้าไปอยู่ในห้อง
เขื่อน : ใช่ๆ แล้วเคนตะกับจินนี่ที่ได้ยินฉันกับเฟย์อุทานออกมาจึงวิ่งมาดู แล้วไอเคนพวกแกก็รู้กันอยู่ว่ามันแรง
เยอะขนาดไหน แล้วมันดันวิ่งมาแบบไม่ดูตามาตาเรือ จึงวิ่งไปชนประตูเข้าพอดี มันเลยปิดลงอย่างที่เห็นๆกัน
เนี่ยแหละ!!
ฉันกับเขื่อนอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้พี่ฟางกับพี่ป๊อปเข้าไปติดอยู่ในห้องเย็น ณ ตอนนี้ มินที่ได้ยินถึง
ถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา แล้วทำท่าทางเหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรซักอย่าง ส่วนพวกเราก็ไม่รอให้
เวลาผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ ช่วยกันแกะ ดึง ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ประตูมันเปิดให้ได้ แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้
ประตูเปิดได้ซักที
มิน : พวกแกโง่หรือฉลาดกันเนี่ย! เห็นๆกันอยู่ว่าต้องใช้รหัสกับกุญแจเท่านั้นถึงจะเปิดประตูนั้นได้ แล้วทำไม
พวกแกยังจะซื่อไปแกะ ไปดึงประตูอยู่อีก
มินที่เจ้าแม่เริ่มองค์ลง ตวาดพวกเราออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินกระทืบเท้าเดินมุ่งตรงไปยัง
ห้องของเชฟ พวกเราที่โดนมินตวาดถึงกับยืนนิ่งอึ้งไม่กล้าขยับตัว ถ้าไม่หายใจแล้วไม่ตาย พวกเราก็คงจะหยุด
หายใจไปแล้ว มินหน่ะ! น่ากลัวเป็นอันดับ 3 รองลงมาจากพี่ฟางและพี่จีนเลยนะจะบอกให้
เขื่อน : ไอเบ แฟนแกน่ากลัวว่ะ!!
เขื่อนพูดออกมา พร้อมกับทำหน้าสยดสยองประกอบคำพูดไปด้วย พวกเราเอ่ยนินทามินได้ซักพัก
มินก็เดินกลับมาพร้อมกับเชฟสาวสวยอีกหนึ่งคน
เชฟ : น้องๆค่ะ ห้องเย็นมันปิดได้ยังไงกันคะ!!
ทันทีที่พี่เชฟสาวคนสวยเดินมาถึง ก็เอ่ยถามพวกเราออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นๆ ฉันกับเพื่อนๆจึงได้เล่า
เรื่องราวไปให้พี่เชฟคนนั้นฟังอีกครั้ง
เชฟ : น้องคะ พี่ไม่สามารถเปิดประตูให้น้องได้ตอนนี้นะค่ะ
จินนี่ : ทำไมหล่ะค่ะพี่!
เชฟ : พี่มีรหัสก็จริงนะคะ แต่กุญแจห้องน่ะ พี่ไม่มีหรอกค่ะ
โทโมะ : พี่ครับ! แล้วใครเป็นคนถือกุญแจหล่ะครับ!
เชฟ : หัวหน้าเชฟเป็นคนถือกุญแจค่ะน้อง แต่ตอนนี้หัวหน้าออกไปเอาของสดที่ตลาดค่ะ อีกซักพักคงกลับล่ะ
ค่ะ ตอนนี้ทางเดียวที่น้องๆจะทำได้คือ ต้องรอหัวหน้าเชฟกลับมาค่ะ ถึงจะสามารถเปิดประตูให้เพื่อนน้องออกมา
ได้
พวกเราเมื่อได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนที่มินจะพูดขอบคุณพี่เชฟสาวคนนั้น และ
เมื่อพี่เชฟสาวคนนั้นเดินออกไป มินเจ้าแม่ก็องค์ลงอีกครั้งได้หันกลับมาสวดพวกเราเป็นเวลานานหลายนาที
เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงหลังจากที่ได้โดนมินเทศนาจบไปแล้ว พี่เชฟสาวคนนั้นก็เดินกลับมาพร้อมกับเชฟผู้ชาย
อีกหนึ่งคน ซึ่งฉันคาดว่าน่าจะเป็นหัวหน้าเชฟของที่นี่
เชฟ : น้องค่ะ หัวหน้าเชฟกลับมาแล้วค่ะ
มิน : พี่ช่วยเพื่อนหนูด้วยค่ะ เขาสองคนติดอยู่ในห้องเย็นนี่น่ะค่ะ
หัวหน้าเชฟเมื่อได้ยินมินพูดแล้วก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะกดรหัสประตู แล้วใช้กุญแจไขเปิด
ประตูเข้าไป มินรีบวิ่งเข้าไปในห้องทันทีที่ประตูห้องเปิด
Part’s Poppy
หลังจากที่ผมกับฟางติดอยู่ภายในห้องเย็นเป็นเวลาเกือบๆ 2 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อนๆของผมก็ได้ช่วยกัน
หาทางเปิดประตูเข้ามาช่วยผมกับน้องฟาง เมื่อประตูห้องเปิดแล้ว มินก็รีบวิ่งเข้ามาหาพวกเราที่ติดอยู่ภายใน
ห้องทันที และเมื่อมินเห็นลักษณะของฟางตอนนี้แล้ว เธอได้แต่เบิกตากว้างอย่างตกใจ เพราะตอนนี้น้องฟาง
หน้าซีด ตัวเย็นเฉียบ และที่สำคัญตอนนี้ร่างกายของเธอสั่นเทาไปด้วยความหนาวเย็น ผมรีบช้อนตัวอุ้มน้องฟาง
ออกไปจากห้องเย็น พร้อมกับมุ่งตรงไปยังห้องพักทันที โดยมีมินและเพื่อนๆวิ่งตามมาด้วยความห่วงใย
ฟาง : หนาว หนาว
น้องฟางเมื่อสติเริ่มกลับมาแล้ว เธอได้แต่พร่ำบ่นไปตลอดทางพร้อมกับเอามือมากอดตัวเองแน่นขึ้น
ผมเมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบสาวเท้าให้เดินไปให้ถึงห้องพักอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทันทีที่มาถึงห้องพัก
ผมรีบนำตัวน้องฟางไปวางยังเตียงริมระเบียง ก่อนที่ตัวผมเองจะวิ่งเข้าไปเอาน้ำใส่กะละมังแล้วหยิบผ้าเช็ดตัว
ผืนเล็กมาเช็ดตัวให้เธอ แล้ววางผ้าอีกผืนตั้งไว้บนหน้าผากของน้องฟาง
มิน : ป๊อป! ไปอาบน้ำเถอะ! เดี๋ยวฉันเปลี่ยนชุดให้ฟางเอง
มินเดินมาสะกิดบอกผมที่นั่งเฝ้าน้องฟางอยู่ที่ข้างๆเตียง ผมจึงพยักหน้าให้กับเธอ ก่อนจะเดินไปหยิบ
ชุดและของใช้ส่วนตัว เดินออกไปอาบน้ำที่ห้องพักของมินกับจองเบ
Part’s Min
ฉันบอกให้ป๊อปปี้เดินไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะลำพังเฉพาะตัวของป๊อปปี้เองก็เกือบจะแย่อยู่แล้ว แต่
ด้วยความที่นายป๊อปรักยัยฟางมาก ฉันดูออกนะ มันจึงนั่งเฝ้ายัยฟางไม่ยอมลุกไปไหน ฉันเดินไปหยิบชุดมา
เปลี่ยนให้ยัยฟาง และเมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จ ฉันจึงลงมือเช็ดตัวให้กับยัยฟางใหม่อีกครั้ง ทุกคนอย่ามองว่ายัยเฟย์
เป็นน้องสาวที่ไม่ดีนะคะ แต่ที่ยัยเฟย์ไม่มาดูแลยัยฟาง เพราะโดนฉันไล่ให้กลับไปนอนซะ ยัยเฟย์มาดูแลยัยฟาง
ทีไร ยัยฟางไข้ขึ้นมากกว่าปกติทุกที
มิน : หายไวๆนะฟาง หายให้ทันพรุ่งนี้หล่ะ! ไม่งั้นอดไปเที่ยวเกาะไม่รู้ด้วยนะ!
ฉันพูดกับฟางที่นอนหลับอยู่ที่เตียง ฉันนั่งเฝ้ายัยฟางได้ซักพัก นายป๊อปปี้ก็เดินเข้ามาบอกให้ฉัน
กลับไปพักผ่อน ส่วนเขาจะอยู่เฝ้าฟางให้เอง ฉันจึงพยักหน้าให้ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง และด้วยความที่ฉัน
เป็นห่วงยัยฟาง ฉันจึงไม่ปิดประตูสนิท เพื่อที่ฉันจะได้แวบมาดูยัยฟางได้ตอนกลางดึก
@ 02.30 น.
ฉันตื่นขึ้นมาตอนกลางดึกเพราะฉันเป็นห่วงยัยฟางมาก ฉันจึงลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกจากห้อง
มุ่งตรงไปยังห้องพักของยัยฟางทันที หน้าห้องของยัยฟางมีน้องสาวสุดแสบของเธอยืนอยู่ด้วยท่าทางที่ดูเหมือน
จะเป็นห่วงคนเป็นพี่ที่นอนอยู่ภายในห้องพักไม่ใช่น้อยๆ
มิน : เฟย์ ทำไมยังไม่นอนอีกหล่ะ!
เฟย์เมื่อได้ยินเสียงฉันดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ ทำให้เธอสะดุ้งตัวโยน ก่อนจะหันหลังกลับมาดู
พร้อมกับเอามือแตะที่หน้าอกของตนเอง แล้วตอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เฟย์ : มินนั่นเอง! ฉันตกใจนึกว่าเป็นผีซะอีก!
มิน : แกก็บ้า คิดไปได้ ว่าแต่ทำไมยังไม่นอนอีก
เฟย์ : ฉันเป็นห่วงพี่ฟางนี่นา!
มิน : แล้วทำไมไม่เข้าไปดูฟางหล่ะ!
เฟย์ : ฉันกลัวพี่ฟางจะไข้หนักกว่าเดิมหน่ะสิ!!
ฉันไม่รอให้ยัยเฟย์พูดปรโยคอื่นต่อไป รีบลากยัยเฟย์ตรงไปที่ประตูห้องพักทันที แต่ก็ยังไม่เปิดประตู
เข้าไปรบกวนคนไข้ภายในห้องอยู่ดี ฉันกับยัยเฟย์แอบลอบมองเข้าไปในห้อง ก็เห็นป๊อปปี้ยังนั่งเช็ดตัวให้ยัยฟาง
อยู่เหมือนเดิม
@ 03.30 น. --> @ 04.30 น. --> @ 05.30 น.
ฉันกับยัยเฟย์ตกลงกันว่าจะลุกขึ้นมาดูยัยฟางทุกๆ 1 ชั่วโมง แต่ภาพภายในห้องทุกๆ 1 ชั่วโมงที่ผ่าน
มาที่ได้เห็นกันก็จะเป็นเหมือนเดิมคือ ป๊อปปี้จะคอยนั่งอยู่ข้างๆเตียงของยัยฟาง แล้วคอยเช็ดตัวให้ยัยฟางตลอด
เวลา จนเวลา 05.40 น. ป๊อปปี้ถึงได้ฟุบตัวลงนอนข้างๆเตียงของฟาง
มิน : เป็นไงยัยเฟย์ คนนี้ผ่านหรือป่าว
เฟย์ : ผ่านฉลุยเลยแหละ!!
ฉันกับยัยเฟย์ยิ้มให้กัน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปนอนหลับพักอีกซักนิด หลักจากที่ฝืนตัวเองลุกขึ้นมา
แวบดูยัยฟางทุกๆหนี่งชั่วโมง
ขอแสดงความเสียใจสำหรับคนที่ทายผิดด้วยนะค่ะ!!
ช่วยกันเม้น โหวต ให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
เจอกันตอนหน้าจ้า ^_^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10.0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ