The revenge แค้นร้ายกลายรัก
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 12.57 น.
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 17.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
21)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความThe revenge แค้นร้ายกลายรัก ตอนที่ 21 ความรู้สึกที่เธอเองก็ไม่แน่ใจ...
“คุณภาณุ!!!” “มานี่!!!!”แรงกระชากที่เขากระชากเธอนั้นแรงเสียจนร่างบอบบางปลิวไปปะทะแผ่นหลังของคนที่
ลากเธอไป ขาที่ไม่แข็งแรงและไม่มั่นคงนั้นเป็นเหตุให้เธอลงไปนั่งกองอยู่บนพื้น ป๊อปปี้หันมามองคนตัวเล็กที่นั่ง
ร้องไห้อยู่บนพื้น ข้อเท้าที่บาดเจ็บนั้นมีเลือดซึมออกอย่างเห็นได้ชัด หากเป็นก่อนหน้าที่เธอไม่ได้ติดต่อกับคนที่
บ้านเขาคงมีเมตตาดูแผลให้เธออยู่หรอก แต่นี่เธอทำให้เขาไม่พอใจเอง...ก็ช่วยไม่ได้ แขนแกร่งตวัดช้อนอุ้มร่าง
เล็กขึ้นอย่างง่ายดายราวกับเธอเป็นเพียงตุ๊กตายัดนุ่นตัวหนึ่ง เขาจัดการยัดเธอเข้าไปในรถคันสูง ก่อนจะออกรถ
ด้วยความเร็วสูงความอารมณ์โกรธที่พุ่งสูงของเขา แต่ละที่ที่รถเคลื่อนตัวผ่านยิ่งน่ากลัวไปทุกทีเมื่อเขามุ่งหน้าจาก
บ้านหลังงามผ่านสวนองุ่นนับพันไร่เข้ามาในป่าที่เริ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ
“คุณจะพาฟางไปไหน”หญิงสาวถามอย่างตื่นกลัวกับเส้นทางที่มีแต่ป่ารกทึบเป็นทิวทัศน์ข้างทาง “เดี๋ยวก็รู้...”
.......................................................................................................................................
สายตาคมจับจ้องไปที่ถนนอย่างมันน่าสนใจเสียเต็มประดา ต่างกับหัวใจที่ไม่ได้จดจ่ออยู่กับถนนเบื้องหน้าสักนิด
แต่มันกลับลอยไปอยู่กับหญิงสาวผู้ถือดี พลันสายตาก็สะดุดเข้ากับรถคันคุ้นตา ร่างบางนั้นยกมือขึ้นปาดเหงื่อด้วย
อากาศที่ร้อนจัด เธอหันมาเมื่อเจอกับรถของเขา สิ่งที่น่าแปลกคือ เธอเลือกที่จะหันหลังกลับไปสนใจรถของเธอ
ต่อ ไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากเขาแม้แต่น้อย ยิ่งถนนทางออกไร่ของเขายิ่งน่ากลัวอยู่นานๆทีจะมีรถผ่าน ซึ่ง
มันก็ห่างจากบ้านเธออยู่พอควร แต่หญิงสาวไม่แม้แต่จะกลัวเลย เขาตัดสินใจจอดรถเพื่อ...อะไรสักอย่างเนี่ย
แหละ อย่าสนใจ ขอแค่ให้รู้ว่าเขาไม่ได้ห่วงเธอก็พอ!
“รถเป็นอะไร”เขากอดอกถามร่างบางที่ยังไม่ยอมหันมาแลเขาแม้แต่น้อย เขาเดินเข้าไปประชิดเธอก่อนจะเค้น
เสียงถามอีกรอบ
“หูแตกรึไง ฉันถามว่ารถเป็นอะไร”เธอหันขวับมาทางเขา พร้อมๆกับค้อนปะหลับปะเหลือก ก่อนจะยอมตอบออก
มาด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
“ก็เสียสิ...ถามได้”นี่สิถึงจะเรียกว่าคุณหนูจริญญาไม่อย่างนั้นคงไม่ตอบคำถามได้กวนเบื้องล่างถึงเพียงนี้หรอก
เมื่อเขาเองก็เบื่อที่จะต่อล้อต่อคำกับเธอจึงเลือกที่จะไปเปิดฝากระโปรงรถที่เปิดขึ้นพ้อมๆกับควันสีขาวที่พวยพุ่ง
ออกมาอย่างมากมายจากหม้อน้ำ
“หม้อน้ำแตก”เขาพึมพำคนเดียวก่อนจะหันมาถามหญิงสาวที่มองดูอยู่อย่างสนใจ
“เรียกช่างหรือยัง”
“เรียกคนขับรถที่บ้านมาแล้ว คุณกลับไปเถอะฉันอยู่คนเดียวได้ ถึงแถวนี้จะเปลี่ยวแต่ตอนนี้มันยังสว่างโร่อยู่เลย
ฉันคงไม่ถูกฉุดหรอก”เธอกล่าวอย่างถือดี ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง
“โจรมันคงจะเลือกเวลาหรอกนะ แล้วเรื่องอะไรฉันจะปล่อยเมียตัวเองให้ถูกฉุด”เขาว่าแล้วก็ย่างสามขุมเข้าไป
กระชากร่างบางที่นั่งอยู่ในรถที่เปิดประตูอ้าซ่า โจรมันเห็นคงจะเลี่ยงหรอกนะ เมื่อได้ร่างของเธอแล้วก็จัดการปิด
และล็อกประตูรถ ก่อนจะยัดเธอเข้าไปในรถ
“อย่าคิดจะหนีลงมาเชียวนะ”เขาชี้หน้าเธออย่างคาดโทษ ก่อนจะปิดประตูรถ แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งมานั่งประจำตำแหน่ง
คนขับรถ ก่อนจะออกรถวิ่งไปตามสายถนนที่ออกจากไร่
“คุณจะพาฉันไปไหน”เป็นคำแรกที่หญิงสาวหันมาถามเขาตั้งแต่ออกรถมานานนับครึ่งชั่วโมง
“เธอต้องชอบแน่” แก้วแทบไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อชายหนุ่มข้างกายเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ใครต่อใครก็ยากที่จะ
ได้ยินจากผู้ชายคนนี้ หัวใจไม่รักดีก็กลับพองโตขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่อเส้นทางข้างหน้าเริ่มจะเข้าป่าลึกเรื่อยๆ สองข้าง
ทางมีแต่ต้นไม่ใหญ่ที่เขียวชอุ่มจนทำให้หน้าร้อนนี้เย็นสบายขึ้นมาทันตา เขาจอดรถลงก่อนจะหันมาพูดกับเธอ
“ลงมาเถอะเดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปกัน”เขาพูดก่อนจะก้าวลงรถนำหน้าไปก่อน เธอที่ไมมั่นใจว่าเขาพามาทำอะไรที่
นี่ ความกลัวถึงกลับเข้าแทรก เขาคงไม่ใจร้ายขนาดพาเธอมาห่าหมกป่าหรอกนะ
“ลงมาสิ สาบานว่าไม่ได้พาเธอมาฆ่าหมกป่าหรอกน่า”คำพูดของเขาทำเอาเธอสะดุ้งโหยง เขาอ่านความคิดของ
คนเป็นด้วยหรอเนี่ย เธอสูดลมหายใจเข้าก่อนจะเปิดประตูรถตามลงไป
“คุณไม่ล็อกรถก่อนหรอคะ”
“ไม่ต้องหรอก ป่าลึกขนาดนี้ไม่มีขโมยหรอก กุญแจก็อยู่นี่ ไปกันเถอะ”เขาเอื้อมมือมากุมมือของเธอไว้ก่อนจะเดิน
นำพาไปตามเส้นทางที่เรียกว่าค่อนข้างลำบาก แต่มือใหญ่ที่เกาะกุมเธอไว้ก็สามารถประคับประคองให้เธอผ่าเส้น
ทางที่ลำบากไปได้อย่างง่ายดาย และอกความรู้สึกหนึ่งที่เธอไม่รู้ว่าจะเรียกมันว่าอะไร มันจะใช่ความอุ่นใจรึเปล่า
นะ เมื่อเธอรู้สึกปลอดภัยเมื่อมีเขาอยู่ข้างกายอย่างนี้...
“ถึงแล้ว”เสียงทุ้มข้างใบหูเรียกเธอคืนกลับสู่โลกของความเป็นจริง...
สวย...ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าไม่ต่างไปจากภาพวาดเลยสักนิด น้ำตกสูงชันที่มีสายน้ำไหลรินลงมากระทบโขดหิน
ใหญ่เบื้องล่างเสียงของมันราวกับเสียงดนตรีของธรรมชาติที่ขับกล่อมให้ผู้พบเห็นได้เคลิบเคลิ้มและหลงใหล สาย
น้ำใสที่มองเห็นหินกรวดน้อยใหญ่เรียงกันอย่างสวยงามราวกับจับวางใต้สายน้ำที่ไม่ได้เชี่ยวกราด
“อยากเล่นน้ำรึเปล่า”ชายหนุ่มถามเธอข้างใบหูของเธอ เธอพยักหน้าเบาๆก่อนเขาจะจับจูงมือของเธอลงไปในน้ำ
ใส เขาปล่อยให้เธอเล่นน้ำอยู่ตรงนั้น โดยไม่ลืมที่จะกำชับเสียงเข้มว่าห้ามไปไหนไกลกว่านั้นเพราะสายน้ำจะเริ่ม
เชี่ยวกราด เธอก็ได้แต่เล่นอยู่ตรงนั้นโดยไม่รู้ว่าเขาไปไหนเสีย เมื่อเล่นจนเบื่อแล้วเธอจึงเลือกที่จะเดินไปนั่งบน
โขดหินและหย่อนเท้าลงแช่น้ำเย็นฉ่ำ มงกุฎดอกไม้ป่าสีม่วงสดใสถูกสวมลงบนศีรษะทุยสวยของแก้วอย่างเบามือ
พร้อมๆกับโทโมะที่ทรุดตัวลงนั่งข้างเธอ ก่อนจะตวัดมือหนายกร่างบางมานั่งบนตักอย่างง่ายดาย
“ชอบรึเปล่า”เธอจับมงกุฎดอกไม้บนศีรษะก่อนจะพยักหน้าเบาๆ พวงแก้มที่แดงระเรื่ออย่างน่ารักทำเอาเขาอดใจ
ไม่ไหวที่จะก้มลงหอมอย่างเต็มรัก
“คุณทำให้ฉันหรือคะ”
“อืม ฉันเห็นว่ามันสวยดี เธออยากกลับหรือยัง”เมื่อแสงแดดที่เคยเจิดจ้ากลับหายไปกลายเป็นท้องฟ้าที่มืดครึ้มลง
อย่างเห็นได้ชัด คงไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดฤดูร้อนฝนถึงได้ตก หากฤดูกาลไม่แปรปรวนคงไม่ได้เรียกว่าประเทศ
ไทย
“ค่ะ”เขาพยุงเธอขึ้นก่อนจะพาไปที่รถเพื่อพาเธอกลับให้เร็วที่สุด ก่อนที่ฝนจะตกลงมาเสียก่อน...
...............................................................................................................................
จัดมาตามคำขอโทโมะ-แก้ว ป๊อปฟางรอตอนหน้านะจ้ะ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ