The revenge แค้นร้ายกลายรัก

8.6

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 12.57 น.

  33 ตอน
  692 วิจารณ์
  131.87K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 17.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

19)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
The revenge แค้นร้ายกลายรัก ตอนที่ 19 ข้อแม้
 
“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกธนันต์ธรญ์ และไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องเอาบริษัทมาแลกกับชีวิตไร้ค่าของเธอ แต่ถ้าเป็น
 
อย่างอื่นล่ะไม่แน่...” หญิง สาวเองก็รู้สึกร้อนๆหนาวๆ เมื่อสายตาดุคมมองโลมเลียร่างกายของเธออย่างโจ่งแจ้ง
 
“คุณหมายถึงอะไร”เมื่อพยายามออกแรงกระถดกายหนีจากระยะอันตรายนี้ แต่ชายหนุ่มกลับรั้งเอวเล็กให้เข้า
 
ประชิดตัวมากขึ้น มือเล็กที่พยายาม ดันอกแกร่งที่กำลังจะแนบชิดกับเธอเป็นเนื้อเดียวไว้ได้ทันอย่างหวุดหวิด เขา
 
สบถอย่างขัดใจ
 
“อย่าเล่นตัว เธอก็รู้ว่านางบำเรอเขามีไว้ทำอะไร”พูดจบใบหน้าหล่อคมก็ก้มลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นอย่างไม่รีรอ
 
มือหนาไล้ไปตามส่วนเว้า ส่วนโค้งอย่างถูกใจ ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไรเธอก็ยังหอมหวานไม่เปลี่ยนไปจากเดิม
 
เลยสักนิด มือหนาคุกคามเข้าในสาบเสื้อตัวเล็กของเธอ อย่างคึกคะนอง
 
“หยุดนะ!!!”เธอตะโกนสุดเสียง ในขณะที่ยังหลับตาปี๋ เมื่อรู้สึกว่าชายหนุ่มหยุดการเคลื่อนไหว เธอจึงค่อยๆลืมตา
 
ขึ้น นี่ยังถือว่าเป็นบุญของ เธอนักหนา ต่อจากนี่ยังไม่รู้เลยว่าจะเกิดเรื่องน่าอายอะไรขึ้น หากเขาไม่ยอมหยุดขึ้นมา
 
ศักดิ์ศรีที่เหลือเพียงน้อยนิดก็คงถูกย่ำยีเสียจนไม่มีแม้แต่ ร่องรอยให้เห็นเลยด้วยซ้ำไป เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตาร่าง
 
สูงหัวใจดวงน้อยก็พลันหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ปีศาจตัวไหนเข้ามาสิงร่างของเขากันนะ ดวงตาคู่นั้นฉายแววดุดันน่า
 
เกรงขาม ไม่ต่างไปจากเปลวเพลิงที่กำลังโหมไหม้สักนิด
 
“ฉันบอกว่าฉันจะรับปากยอมเป็น...เอ่อ นางบำเรอของคุณก็ต่อเมื่อคุณจะไม่เอาเรื่องคุณพ่อ เข้าใจไหมคะ”เธอ
 
กลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ รวบ รวมความกล้าก่อนที่จะเอ่ยประโยคที่ไม่ต่างไปจากการเอาคมมีดจ้วงเข้าใส่ตัวเอง
 
สักนิด
 
“ไม่เข้าใจ! นึกว่าฉันอยากได้เธอขนาดต้องยอมทุกอย่างเลยหรือไง เฮอะ ไม่ได้ก็ไม่เอา ไปหาเอาข้างนอกก็ได้
 
เร้าใจกว่าเธอตั้งหลายเท่า ”ว่าแล้วมือแกร่งก็ผลักร่างเล็กลงจากตัก จนร่างบอบบางที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวนั้นกลิ้ง
 
หลุนๆไปนั่งจุมปุ๊กอยู่ที่พื้นรถ ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองหน้า ชายหนุ่มอย่างเจ็บปวด ไม่รู้ทำไม แค่เขาบอกว่าจะ
 
สัมพันธ์กับหญิงอื่น เธอก็ทนไม่ได้ น้ำตาที่ไม่คิดว่าจะไหลกลับหยาดลงมาอาบแก้มนวลทั้ง สองข้างอย่างไม่น่าให้
 
อภัย นานหลายนาทีกว่าเธอจะรู้สึกตัวและพาตัวเองไปนั่งเบาะข้างๆคนใจร้าย กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ประตูรถ
 
เปิดออก เธอมองไปรอบๆก่อนจะจำได้ว่าที่แท้แล้วสถานที่ตรงหน้าคือ ไร่องุ่นจิระคุณ ยามตะวันใกล้ลับขอบฟ้าช่าง
 
สวยและน่ามองนัก
 
“ลงไปสิ ฉันเมื่อยจะตายอยู่แล้ว”คนตัวโตข้างๆที่บ่นเสียงดุๆทำให้เธอรีบก้าวขาลงจากรถ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึง
 
ทำให้ลงไปทรุดฮวบลงกับพื้น เสียอย่างนั้น ความเจ็บที่ข้อเท้าทำเอาใบหน้าหวานเบ้ มือเล็กกุมข้อเท้าไว้อย่าง
 
ต้องการจะช่วยบรรเทาความเจ็บ
 
“เป็นอะไรอีกฮะ”ชายหนุ่มถามอย่างหงุดหงิด เพิ่งเดินทางมาถึงแท้ๆแทนที่จะได้พักผ่อนเสียที แต่สาวน้อยนี่กลับ
 
แสดงอาการเจ็บป่วยเสียอย่าง นั้น แล้วแววตาก็ต้องลุกวาวเมื่อไอ้เมฆคนขับรถคู่ใจของเขาก้มลงไปช้อนอุ้มเมีย
 
ของเขา เขารีบปราดเข้าไปขวางหน้าก่อนที่เมฆจะทันได้แตะ ต้องร่างเล็กที่เป็นของเขา
 
“แกไปพักเถอะ เมียฉันฉันจะดูแลเอง”เขาออกคำสั่งเสียงเข้ม แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางพิรุธอะไรออกไปมาก...มั้ง
 
“ครับนาย คุณผู้หญิงดูท่าจะข้อเท้าแพลงนะครับ”เขาพยักหน้ารับ ก่อนจะหันมาหาตัวปัญหา เมื่อลูกน้องคนสนิท
 
เดินลับสายตาไปแล้ว แต่เมื่อ หันหลังกลับมาทำให้เขายิ่งช็อก เมื่อคนตัวเล็กเอาแต่ร้องห่มร้องไห้
 
“เจ็บหรอฟาง”เขาพูดขณะก้มลงดูข้อเท้าที่บวมเป่งของหญิงสาว เธอพยักหน้าเบาๆก่อนจะยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตา
 
ป้อยๆ ดูเหมือนเด็กน้อยอายุ สามขวบวิ่งเล่นแล้วหกล้มร้องไห้อย่างไรอย่างนั้น มันน่าแกล้งนักเชียว แต่ยังไม่ใช่
 
ตอนนี้หรอก เขาจัดการช้อนอุ้มร่างบอบบางขึ้นมาแนบอก ก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจด้วย
 
ซ้ำว่าเขาจะพาที่ไหน เพราะเจ้าหล่อนเอาแต่ร้องไห้ แต่ก็น่าอยู่หรอกข้อเท้าบวมอย่าง กับลูกมะนาว มิหนำซ้ำยัง
 
ไปล้มตอนลงจากรถอีก
 
“อ้าวพี่ป๊อป เห้ย พี่พาผู้หญิงที่ไหนมาน่ะ”น้องชายตัวดีที่กำลังยิ้มแฉ่งให้กับหน้าจอโทรศัพท์เสร็จเงยหน้าขึ้นทัก
 
เขาอย่างตกอกตกใจ แปลก ตรงไหน...แค่พาชีวิตมาชดใช้ด้วยชีวิต
 
“เมีย ไปนะ”เขาตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินอาดๆไปยังชั้นบนของบ้าน ทิ้งโทโมะให้มากตามอย่างุนงง เมีย...อ้อ คงจะ
 
เป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก สาวน้อยน่าหวานอย่างฟาง ดูเหมือนช่วงนี้ชีวิตของเขาดูจะลงตัว เพราะสาวเจ้าที่เฝ้า
 
ตามจีบอยู่หลายปีดูเหมือนจะใจอ่อน ก็แค่เหมือน ทั้งพี่ชาย จอมโหดก็พาเมียรักมาอยู่เสียที่บ้าน แต่ เขายังไม่
 
อยากจะคิดเลย หากพระมารดารู้เรื่องนี้เข้าระเบิดจะลงไร่จิระคุณสักกี่ไร่กัน คิดแล้วก็อดขนลุก ขนพองไม่ได้ ขอ
 
เก็บฝังหลุมกลบดินสักพันกิโลเมตรก่อนดีกว่า อันที่จริงคืนนี้เขาก็คงจะได้นอนกอดร่างนุ่มนิ่มของภรรยาทาง
 
พฤตินัยอย่างสบายใจ เฉิบ หากเจ้าตัวไม่ชักแม่น้ำทั้งห้ามารั้งเขาไว้เสียก่อน...น่าเสียดายชะมัด
 
          
 
 
               ประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดขึ้นด้วยเท้าแกร่งของชายหนุ่มที่ย่างสามขุมมาที่เตียงเพื่อวางกระต่ายน้อยที่
 
กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นลง บนเตียงอย่างทะนุถนอม ก่อนจะเดินไปปิดประตูแล้วเดินกลับมาทรุดตัวลงนั่งตรงหน้า
 
สาวน้อยหน้าหวาน ยกข้อเท้าบอบบางของเธอที่บวมเป่ง ขึ้นมาดู ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่เห็นมัน
 
บวมเป่งขนาดนี้ไม่กระดูกหักก็บุญโขแล้ว เขาลุกขึ้นอีกครั้งเพื่อหายาทาให้คนตัวเล็ก
 
“ไม่ต้องค่ะ เอ่อ ฟางทาเองได้”น้ำเสียงที่แหบแห้งเนื่องจากการร้องไห้อย่างหนักร้องเตือนเขา อวดเก่งเป็นบ้าเลย
 
เหมือนเด็กเล็กๆไม่มีผิดสิน่า
 
“อยู่เฉยๆเหอะน่า”เขาเอ็ดเธอเบาๆก่อนจะทายาให้ และดูเหมือนเจ้าตัวยังคงไม่เลิกร้องไห้ง่ายๆดูจากแรงสะอื้นที่
 
ส่งผลให้ร่างบอบบางสั่นไหว อะไรนักหนาวะเนี่ย มันเจ็บขนาดนั้นเลยหรอวะ ร้องอย่างกับจะเป็นจะตาย ผู้หญิงนี่
 
อะไร อ่อนแอชะมัด เขาเดินไปล้างมือในห้องน้ำ ก่อนจะ กลับมาหาหญิงสาวที่มองไปรอบๆห้องอย่างตื่นกลัว
 
หยาดน้ำตาที่รินไหลลงมาอย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีท่าทีจะหยุดเลย อะไรวะเนี่ย
 
“มันเจ็บขนาดนั้นเลยรึไง เลิกร้องซะทีเหอะ รำคาญ!”เสียงเอ็ดตะโรของชายหนุ่มยิ่งทำให้หญิงสาวร้องไห้หนักขึ้น
 
กว่าเดิม ไม่ใช่ว่าเธออยาก ร้องหรอกนะ หากแต่ความอ่อนแอที่กัดกินหัวใจของเธอตอนนี้กลับมีอิทธิพลเหนือสิ่ง
 
ใดทั้งปวง ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่มนุษย์...เขาไม่มี หัวใจ เขาคนเดิมของเธออยู่ที่ไหนกัน เขาซ่อนอยู่ในตัว
 
ของผู้ชายตรงหน้าจริงๆหรือ...ไม่มีวี่แววสักนิดเลย
 
“ขอโทษ ฮึก ทะ ทำไมต้องเสียงดังด้วยเล่า”เธอตวัดค้อนให้เขาปะหลับปะเหลือก ก่อนจะยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตา
 
อย่างลวกๆ เอะอะก็ตวาด เธอเป็นคนนะไม่ใช่สัตว์ เชอะ
 
“มีสิทธิ์ต่อรองรึไง หุบปาก”
 
“มีสิ อย่างน้อยฟางก็เป็นคนเหมือนกับคุณนั่นแหละ”เธอเถียงออกไปอย่างไม่คิดชีวิต และคงจะได้ตายในอีกไม่กี่
 
วินาทีข้างหน้าเมื่อเขา กระชากร่างของเธอเข้าหาเต็มแรง
 
“เธอไม่เหมือนกับฉัน เธอมันไม่ใช่คน ไม่มีค่า ไม่มีราคา จำเอาไว้!”ว่าแล้วริมฝีปากหยักสวยได้รูปก็ฉกลงประกบ
 
กับริมฝีปากนุ่มนิ่มอย่าง รุนแรง ส่งผลให้น้ำตาที่เพิ่งแห้งเหือดไปคลอเบ้าขึ้นมาอีกหน เรียวลิ้นใหญ่ไล่กวาดต้อนน้ำ
 
หวานในโพลงปากนุ่มของหญิงสาว แต่มันกลับเต็มไป ด้วยความป่าเถื่อนและรุนแรง มันทั้งเจ็บและทรมาน เมื่อ
 
อากาศภายในร่างกายกำลังจะหมดไป มือเล็กพยายามทุบตีเพื่อท้วงติงซาตานร้ายที่ไม่มี ท่าทีจะหยุดทรมานเธอ
 
เสียที ความเค็มปร่าของเลือดทำเอาเธอกระอักกระอ่วนจนแทบทนไม่ไหว ในที่สุดวินาทีที่รอคอยก็มาถึงเมื่อเขา
 
ปล่อย เรียวปากของเธอให้เป็นอิสระ แต่ที่ร้ายกว่าคือเขาผลักเธอลงกับเตียงพร้อมๆกับร่างหนาของเขาที่ตามทาบ
 
ทับลงมา
 
“คุณมันก็ไม่ใช่คน!!!”เธอตะโกนใส่หน้าของเขาอย่างแค้นเคือง เขามีสิทธิ์อะไรกัน!
 
“หึ อมนุษย์กับอมนุษย์ก็เหมาะสมกันดีนี่เธอว่ามั้ย”ว่าแล้วมือหนาก็ออกแรงกระชากเสื้อผ้าของเธอจนขาดวิ่น สาป
 
เสื้อที่แยกออกจากกันจนเผย ให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มที่บดเบียดกันอยู่ในบราเซียร์ตัวจิ๋วที่บดบังไว้ซึ่งก็ทำหน้าที่
 
ของมันได้ไม่ดีนัก ไม่รอช้าใบหน้าหล่อคมก้มลงคลุกเคล้ากับ หน้าอกนุ่มนิ่มทันที มือเล็กที่พยายามผลักไสกลับ
 
ไม่เป็นผล ไม่ว่าจะออกแรงเท่าไรก็ไม่มีผลต่อเขาเลย ณ ตอนนี้คงมีแต่น้ำตาที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด มันเข้าใจเธอยิ่ง
 
กว่าอะไรทั้งหมด ป๊อปปี้รู้สึกได้ถึงแรงสะอื้นของคนตัวเล็กที่สะอื้นฮักไม่ยอมหยุด ในเมื่อเธอไม่หยุด ก็คงต้องเป็น
 
เขาเองที่ต้องหยุด ให้ตาย สิ เธอร้องอย่างกับเขากำลังจะข่มขืนเธออย่างนั้นแหละ คงจะกลายเป็นผู้ชายหน้าตัว
 
เมียไปเสียง่ายๆ หากจะนอนกับผู้หญิงที่เธอไม่เต็มใจ...
 
“เลิกร้องซะที!! ทำอย่างกับว่าไม่เคย โธ่เว้ย!!!เลิกร้องสิวะ”มือหนาเขย่าร่างเล็กจนหัวสั่นหัวคลอน แต่มันก็ไม่ได้
 
ช่วยให้ร่างบอบบางหยุด ร้องไห้เลย มิหนำซ้ำกลับร้องหนักกว่าเดิม
 
“ถ้าไม่หยุดก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”น้ำเสียงเย็นเยียบปลุกความตื่นกลัวของหญิงสาวได้ทันที เธอยกมือขึ้นอุดเรียว
 
ปากที่กลั้นเสียงสะอื้นไว้ แต่ น้ำตาและแรงสะท้านของร่างกายยังบ่งบอกได้ดีว่าเธอไม่ได้หยุดร้องไห้ทันที เขาไม่
 
เคยมีอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามประกาศิตของเขาอย่างไม่มีข้อแม้ รวมถึงเธอด้วยเช่นกัน
 
“เงียบอย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย”เขายังตั้งใจแกล้งคนตัวเล็กอย่างไม่ย่อท้อ นิ้วเรียวสวยเกลี่ยเส้นผมนุ่มสลวยออก
 
จากใบหน้างาม ก่อนจมูกโด่ง เรียวจะไล้ไปตามหน้าผากมน จมูกโด่งที่เชิดรั้น แก้มสาวที่ยังคงมีคราบน้ำตาเปรอะ
 
เปื้อน ก่อนจะหยุดลงที่ริมฝีปากเล็กบางน่าจุมพิต
 
“จูบฉันสิ...”
 
“!!!”
 
 
 
 
...........................................................................................................................
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา