The revenge แค้นร้ายกลายรัก

8.6

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 12.57 น.

  33 ตอน
  692 วิจารณ์
  131.84K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 17.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

18)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

The revenge แค้นร้ายกลายรัก ตอนที่ 18 ไม่ใช่จุดจบ...

 

ชายหนุ่มพับแขนเสื้อเชิ้ตสีเทาขึ้นก่อนจะส่องกระจกตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเอง พลางแสยะยิ้มที่มุมปากอย่าง

 

มีความสุข เท้าเรียวก้าวออกจากบ้านไม้สักทองหลังงาม

 

ก่อนจะก้าวขึ้นบนรถคันหรูแล้วเคลื่อนตัวออกจากไร่องุ่นจิระคุณมุ่งหน้าสู่จุดหมายที่เขารอคอย...

 

                 ใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงเท่านั้นสำหรับการขับรถจากไร่องุ่นมาถึงหน้าคฤหาสน์นีระสิงห์ เขาก้าวลง

 

จากรถคันหรูพร้อมๆกับก้าวอาดๆเข้าไปในตัวคฤหาสน์

 

พลั่ก

 

เขาก้มลงมองร่างเล็กๆที่เขาเดินชนจนล้มลงกับพื้น

 

ภาพใบหน้าสวยหวานที่กำลังเบ้เพราะความเจ็บนั้นดูยังไงก็น่ารัก เธอพยุงตัวลุกขึ้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขา

 

ปากเล็กน่ารักนั่นอ้าค้างกลางอากาศ ในขณะเดียวกันฝ่ามือเล็กก็ตวัดเข้าใบหน้าของชายหนุ่มอย่างเต็มแรงจนใบ

 

หน้าหล่อคมนั้นหัน น้ำตาเจ้ากรรมก็พลันไหลลงมาอาบแก้มนวลอย่างน่าสงสาร

 

“คุณกลับมาทำไม!!!!”หญิงสาวแหวชายหนุ่มที่กุมใบหน้าหล่อคมของตัวเองที่เธอเพิ่งตบไปหมาดๆ เขาหันหน้า

 

มองเธอด้วยดวงตาแข็งกร้าว ก่อนจะกระชากใบหน้าสวยหวานเข้ามาใกล้ด้วยมือทั้งสองที่ประคองอยู่ข้างแก้มนวล

 

“ไม่ได้กลับมารับผิดชอบเด็กใจแตกอย่างเธอก็แล้วกัน...ธนันต์ธรญ์”เขาพูดด้วยน้ำเสียงสุดแสนจะเย็นชา อย่างที่

 

ใครก็ไม่คิดว่าจะมีอยู่ในตัวผู้ชายตรงหน้าแน่นอน

 

“ปล่อยนะ ปล่อยสิ ไอ้บ้า ฉันบอกว่าให้ปล่อยไง ปละ...”ปากหยักได้รูปฉกลงประกบเรียวปากจิ้มลิ้มทันที รสจูบ

 

แสนป่าเถื่อนนั้นยิ่งทำให้น้ำตาไหลพรากมากกว่าเดิม แรงขัดขืนที่มียิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อรู้สึกถึงความทรมานจาก

 

ความเจ็บปวดผ่านจูบที่เขามอบให้ มือเล็กทุบตามอกแกร่งที่บดเบียดเข้ากับหน้าอกของเธอจนหายใจแทบไม่ออก

 

“หยุดนะ!!!!!!!”เสียงเอ็ดตะโร ทำให้ชายหนุ่มผละออกจากสาวน้อยตรงหน้า ก่อนจะมองไปที่ชายวัยกลางคนที่มี

 

สีหน้าถมึงทึง เขาแสยะยิ้มก่อนจะดึงร่างเล็กที่กำลังจะวิ่งไปหาอนุพงศ์ให้กลับเข้าสู่อ้อมกอด ก่อนจะกอดเธอไว้

 

ชนิดที่เรียกว่าแนบแน่นจนอากาศไม่สามารถผ่านเล็ดลอดเข้ามาได้

 

“แหม ใจเย็นสิครับคุณพ่อตา ผัวเมียเขาคิดถึงกัน ก็ต้องทำอย่างนี้เป็นธรรมดา”

 

“นายต้องการอะไร”ชายวัยกลางคนถามน้ำเสียงติดจะโมโห เขายิ้มออกมาน้อยๆ ก่อนจะเอ่ย

 

“ทุกอย่างที่เคยเป็นของจิระคุณ”ดูเหมือนคำตอบของเขาจะทำให้คู่สามี-ภรรยาตรงหน้าตกใจไม่น้อย ทั้งคู่เงียบไป

 

พักใหญ่ ก่อนคุณอนุพงศ์จะเอ่ยถามต่อ

 

“คุณเป็นลูกของคุณประวิทย์หรอกหรือ”เขาแสยะยิ้มออกมา...อย่างสมเพชตัวเอง

 

“ใช่สิ...ลูกของคนที่คุณทรยศเขาไง ในขณะที่พวกคุณใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบาย คุณเคยนึกถึงพวกเราบ้างไหม

 

เฮอะ...เอาล่ะ ผมจะไม่พูดถึงอดีตอีกแล้ว คุณคงรู้ว่าคนทำผิดสมควรได้รับโทษ ผมจะฟ้องศาลเรียกทุกอย่างที่เคย

 

เป็นของผมคืน คุณคงไม่ว่าอะไรนะ หึ ผมคิดว่าพวกคุณมีความสุขมากพอแล้ว”เขาเอ่ยอย่างคับแค้นใจ ความแค้น

 

ที่สะสมมานานนับสิบปีกำลังถูกสะสาง ดวงวิญญาณพ่อของเขาจะได้เป็นสุขเสียที เมื่อวันนี้ เวลานี้ทุกอย่างที่เคย

 

เป็นของจิระคุณกำลังกลับคืนมา

 

“...ได้สิ.... คือ ผมต้องขอโทษหากวันนั้นผมไม่ตัดสินใจทำอย่างนั้น พวกคุณคงไม่ต้องลำบาก”

 

“คุณไม่ควรคิดที่จะทำด้วยซ้ำ ทั้งๆที่พ่อท่านไว้ใจคุณมาก แต่คุณกลับหักหลังท่าน รู้ใช่มั้ยว่าบทเรียนแค่นี้มันยัง

 

น้อยเกินไป”เขาแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายอีกหน เมื่อชีวิตของบิดาที่ต้องสูญเสียไป เพราะอนุพงศ์ มันก็ต้องแลกด้วย

 

ชีวิตเช่นกัน

 

“คุณยังต้องการอะไรอีก”

 

“ธนันต์ธรญ์...”คนตัวเล็กในอ้อมกอดที่ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องอะไรด้วยกลับดิ้นเสียดื้อๆ ดูเหมือนทั้งสองสามี-ภรรยา

 

ก็จะลำบากใจไม่แพ้กัน

 

“คุณอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ ยัยหนูแกไม่รู้เรื่องอะไรด้วย”คุณปวีณาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ สายตาของคนเป็น

 

 

แม่และพ่อจ้องมองลูกสาวตัวน้อยที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายในอ้อมกอดของเขาอย่างเจ็บปวด

“หึ รู้สึกหรือยัง ว่าความสูญเสียมันเป็นยังไง นี่มันยังน้อยเกินไป ผมสูญเสียพ่อไปอย่างไปมีวันหวนคืน แต่นี่พวก

 

คุณยังดี ไว้ผมพอใจจะทิ้งขว้างลูกสาวของพวกคุณเมื่อไร เธอคงได้กลับมาหาพวกคุณแน่ ไปละ...”เขาก้าวออก

 

มาจากตัวคฤหาสน์ช้าๆ เสียงร้องไห้ของคนตัวเล็กทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวแปลกๆ มือเล็กที่พยายามแกะมือของ

 

เขาออก พร้อมกับทุบตีเมื่อไม่เป็นผล

 

“ขอฟางกอดพวกท่านก่อนได้ไหมคะ ฟางสัญญาว่าจะไม่ตุกติก นะคะ”เสียงหวานเอื้อนเอ่ยขอร้องอย่างน่าเห็นใจ

 

เขาถอนลมหายใจอย่างยาวเหยียดก่อนจะยอมปล่อยเธอไป ร่างเล็กวิ่งเข้ากอดคนเป็นพ่อและแม่อย่างน่าสลด

 

“ฮือๆ ฟางขอโทษ ฟางขอโทษนะคะ”คนเป็นพ่อและแม่พยักหน้าอย่างรับรู้ว่าลูกสาวตัวน้อยขอโทษด้วยเหตุใด

 

หากแต่มันไม่ใช่ความผิดของลูกน้อย

 

“ฟางไม่ผิดหรอกนะลูก หนูไม่จำเป็นต้องไปหรอกนะ พ่อจะไปคุยกับเขาให้หนูเอง”คนเป็นพ่อเอ่ยอย่างยากลำบาก

 

เมื่อน้ำตาลูกผู้ชายหยดลงมาหยดแล้วหยดเล่า เขาเองก็รู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึง แต่ไม่นึกว่าภาณุจะพรากแก้วตาดวงใจ

 

ของเขาไปด้วย เขาคิดว่าหลังจากนี้เมื่อคืนทุกอย่างไปแล้วเขาจะพาลูก

 

และภรรยาออกไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัดซื้อบ้านหลังเล็กๆที่นั่น แต่ทำไม ทุกอย่างถึงไม่เป็นอย่างที่คิดไว้

 

“ไม่ค่ะฟางจะไป บางทีฟางอาจจะต่อรองกับเขาได้ ฟางจะไม่ยอมให้บริษัทของคุณพ่อต้องล้มลงแน่นอน เชื่อใจ

 

ฟางนะคะ ฟางสัญญาว่าจะกลับมา คุณพ่อกับคุณแม่ต้องดูแลตัวเองดีๆนะ อย่าทานของหวานเยอะนะคะ เดี๋ยวเบา

 

หวานจะขึ้น ฟางสัญญาว่าจะติดต่อกลับมา”ลูกสาวตัวน้อยสั่งลาเสียยาวเหยียด แต่มิวายบังคับเขาและภรรยาให้

 

ดูแลตัวเอง ไม่รู้ว่าถ้าลูกน้อยไปอยู่ที่โน่นแล้วเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง แกยังอ่อนต่อโลกเกินไป เขาคิดว่า...

 

“หมดเวลาแล้ว กลับมาเสียทีธนันต์ธรญ์ฉันไม่อยากรอนาน”คนตัวเล็กหันมามองชายหนุ่ม ก่อนจะกอดลาพ่อและ

 

แม่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะย่างกรายเดินเข้ามาหาเขาช้าๆ เขาเดินนำเธอไปขึ้นรถที่คนขับรถสตาร์ทรออยู่แล้ว

 

“ขึ้นมา!”คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงกับเสียงตวาดแกมบังคับของเขา เธอก้าวขึ้นรถก่อนจะหันไปมองคนเป็นพ่อและแม่ที่

 

หน้าคฤหาสน์ เมื่อลับสายตาแล้ว เธอก็เลือกที่จะหันหน้าหนีเข้า เสมองไปยังข้างถนนแทน เขาดึงผ้าม่านกั้น

 

ระหว่างคนขับและผู้โดยสาร ก่อนจะกระชากร่างเล็กที่เอาแต่เหม่อมองออกนอกหน้าต่างขึ้นมานั่งบนตัก

 

เธอไม่ขัดขืน แต่ก็ไม่มองหน้าเขาอยู่ดี

 

“มองหน้าฉัน!”เขาเอ็ดคนตัวเล็กที่ยังดื้อรั้นอยู่ดี มือหนาที่เปรียบดังคีมเหล็กบีบปลายคางมนจนแทบแตกออกเป็น

 

เสี่ยงๆ เขาไม่ได้ต้องการจะให้เธอเจ็บสักนิด หากเธอจะเลิกดื้อรั้นแล้วหันมาสบตากันเสียดีๆ เพราะอะไรก็ไม่รู้ทำ

 

ให้ครั้งแรกที่เขาพบเธอ ความรู้สึกแรกคืออยากจะชิดเนื้อตัวนุ่มนิ่มนั้นให้มากที่สุด กลิ่นหอมหวานของเจ้าตัวที่ยัง

 

ตามหลอกหลอนเขาไม่เลิกนั้นทำให้เขาแทบคลั่งตาย หากวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่เขาจะเอาคืนร่างเล็กที่ทำให้ชีวิต

 

ของเขาปั่นป่วนได้ถึงเพียงนี้

 

“รู้รึเปล่าว่าที่ตามฉันมาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง”เขาถามคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้างุดๆ อย่างนึกอยากจะแกล้ง ยิ่ง

 

ท่าทางอย่างกระต่ายน้อยตื่นสิงห์อย่างนี้ ยิ่งน่าแกล้งเข้าไปอีก

 

“ฟางไม่รู้ คะ...คุณจะทำอะไร”หญิงสาวเอียงใบหน้าหลบจมูกโด่งเรียวที่ไล้มาตามพวงแก้มอย่างพยายามเต็มที่

 

หากแต่ดูจะไม่เป็นผล เมื่อลมหายใจอุ่นๆยังรินรดพวงแก้มที่แดงระเรื่อของเธออย่างแนบชิด หัวใจไม่รักดีกลับเต้น

 

ไม่เป็นส่ำ เขากำลังทำให้เธอหวั่นไหว แต่ที่สำคัญกว่าเธอไม่มีสิทธิ์หวั่นไหว เมื่อผู้ชายตรงหน้านี้ไม่ใช่ พี่ป๊อป คน

 

เดิมของเธออีกต่อไปแล้ว เขากลับเป็นใครสักคนที่เธอไม่เคยรู้จัก เขาไม่เหมือนพี่ป๊อปของเธอสักนิดทั้งนิสัย วาจา

 

กริยา และหัวใจ หากจะเหมือนก็คงไม่พ้นหน้าตา ถึงแม้ครั้งนี้ผมที่เคยถูกเซ็ตทรงสั้น ตอนนี้กลับยาวระต้นคอแกร่ง

 

ซึ่งก็ถูกเซ็ตดูภูมิฐานมากกว่าคนเก่า หนวดเคราที่เขียวครึ้มที่ปลายคางบึกบึนที่ยาวขึ้นกว่าเดิมไม่มากนัก แต่เขา

 

กลับเปลี่ยนเป็นคนละคน

 

“ภรรยาของฉัน ตามพฤตินัย คงรู้ใช่มั้ยว่ามันเป็นยังไง”เธอเงยหน้าขึ้นสบตาของเขาอย่างงุนงง นี้เขากำลังเล่นตลก

 

อะไรกับชีวิตของเธออีก

 

“ไม่มีทะเบียนสมรส ไม่มีงานแต่งงาน ไม่มีความผูกพันธ์ ไม่มีความสำคัญและ...ไม่มีความรัก”ความจริงที่เธอรู้อยู่

 

แก่ใจ ทั้งหมดนี้ที่เธอต้องทนแบกรับ ต่อให้หนักหนาแค่ไหนเธอก็ไม่มีสิทธ์ท้วงติง เมื่อสถานะตอนนี้มันไม่ได้ต่าง

 

ไปจาก...

 

“นางบำเรอ”ไม่ต้องรอให้คิดจบ สถานะที่เธอควรจะเป็นก็หลุดออกจากปากเขาแล้ว จริงสินะไม่ได้ต่างไปจากกันสัก

 

นิด ดูจากที่เขาบอกมาแล้ว ไม่มีอะไรสักอย่างที่บ่งบอกว่าเธอคือภรรยาของเขา แต่ถ้าหากนี้คือหนทางเดียวที่จะ

 

ทำให้บริษัทที่พ่อท่านสร้างมากับมือไม่พังไปต่อหน้าต่อตา...เธอก็ยินดี

 

“ค่ะ...แต่ฟางขออะไรคุณสักอย่างได้ไหมคะ”เขาขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจ ที่เธอต่อรอง ดูเหมือนจะไม่ยุติธรรม

 

สำหรับเขาสักนิด สิ่งที่มันสมควรจะเป็นของเขา แต่เธอกลับขอร้องมันมาเสียเฉยๆ แต่ถึงอย่างไรแล้ว ก็คงไม่มี

 

อะไรเสียหายมากไปกว่านี้แล้ว ต่อให้ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอาย แต่เพื่อบุพการีแล้ว เธอไม่ลังเล

 

ที่จะทำมันสักนิด

 

“อะไร!”น้ำเสียงที่ดูเหมือนจะไม่พอใจสักนิด ให้เดาก็รู้ว่าคำตอบจะเป็นเช่นไร

 

“ฟางขอบริษัทของคุณพ่อ อย่า...”

 

“ไม่!!”ไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบด้วยซ้ำไป ไม่ต้องรอเวลาให้ชายหนุ่มตัดสินใจ เขาก็พร้อมที่จะโพล่งคำตอบออก

 

มาทันที

 

“ขอเถอะนะคะ ให้ฟางทำอะไรฟางยอมทั้งนั้น อย่าฟ้องคุณพ่อเลยนะคะ ถ้าต้องแลกด้วยชีวิตฟางก็ยอม”

 

“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกธนันต์ธรญ์ และไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องเอาบริษัทมาแลกกับชีวิตไร้ค่าของเธอ แต่ถ้าเป็น

 

อย่างอื่นล่ะไม่แน่...”

 

 

 

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

อิอิ เรื่องนี้แต่งแล้วมีความสุข พระเอกโหดได้ใจ ไม่รู้ว่าจะมีใครบ้าเหมือนเรารึเปล่า แต่ยังไงก็ติดตามกันต่อไปนะ

 

อย่าทิ้งกันซะก่อนล่ะ สุดท้ายเราต้องขอบคุณทุกกำลังใจเลยนะ สัญญาว่าจะแต่งมันออกมาให้ดีที่สุดเลย^^

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา