Love Forever ชาติไหนก็รักเธอ

9.4

เขียนโดย Fakfaeng_love_TK

วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 18.30 น.

  20 ตอน
  328 วิจารณ์
  40.20K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) น้องบังคับ(?)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ทบทวนตัวละครก่อนอ่านนนน(เนื่องจากกระแสจำชื่อตัวละครไม่ได้ มาแรง)

ภาณุ = ป๊อปปี้              ปลายฟ้า = ฟาง

ธานนท์ = โทโมะ          กอหญ้า = แก้ว

ดนัย = เขื่อน               ม่านแก้ว = เฟย์

รินลดา = จินนี่              ภาพร = พิม

กานดา = ขนมจีน           นิภพ = จองเบ

ริสา = หวาย

 

 

 

 

ตอนที่ 6

 

 

“หมอบอกว่าพรุ่งนี้พี่ก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ดีใจมั้ยพี่ฟ้า?”หลังจากอยู่โรงพยาบาลได้สักอาทิตย์กว่าๆก็เริ่มไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อาการปวดหัวมีน้อยลง คุณหมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้

 

“. . . . . . . . . . . . .”

 

“เฮ้? พี่ฟ้า?”งงกับสีหน้าครุ่นคิดของพี่สาว เงียบแบบนี้นี่ไม่ได้ฟังเธอเลยใช่ไหม?

 

“. . . . . . . . . . . . .”

 

“พี่ฟ้าาาาาาา!!! >[]<”

 

“เฮ้ย!  ม่านแก้ว! เรียกเบาๆก็ได้ พี่ตกใจหมดเลย”

 

“ม่านแก้วต้องบอกพี่ฟ้ามากกว่า ว่าพี่ฟ้าควรจะฟังม่านแก้วบ้าง ไม่ใช่เอาแต่นั่งเหม่อ คิดเรื่องนู่นเรื่องนี้ จนปล่อยให้ม่านแก้วพูดคนเดียวเหมือนคนบ้า -3-”น้องสาวร่ายย๊าวววววจนไปถึงเมืองลาว(เวอร์ - -) พี่สาวก็ได้แต่นั่งปากเหวอกับสิ่งที่น้องพูด

 

 

‘อ้าว . . . เมื่อกี้หัวหอมพูดหรอ? พี่ไม่เห็นได้ยินอะไรเลยนะ -0- ’

 

 

“โอ๋ๆ พี่ขอโทษ พี่ก็คิดไปเรื่อยแหละ ว่าแต่เมื่อกี้เราพูดว่าอะไรหรอ?”

 

“ม่านแก้วบอกว่าพรุ่งนี้พี่จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว พี่ดีใจรึเปล่า?”

 

“ดีใจสิ อยู่ที่นี่น่าเบื่อจะตาย”บอกน้องสาวด้วยใบหน้าสดใส ก่อนที่คุณหมอเจ้าของไข้จะเข้ามา

 

“เป็นยังไงบ้างครับคุณฟ้า ยังมีอาการปวดหัวอยู่รึเปล่า?”

 

“ก็ดีขึ้นค่ะ แต่ก็ยังมีอาการอยู่บ้าง”

 

“อืม ครับ งั้นคุณฟ้าต้องจำไว้นะครับว่าเมื่อไรที่ปวดหัว ให้หายใจเข้าลึกๆ ตั้งสติให้ดีๆ พยายามไม่คิดมากนะครับ”เธอพยักหน้ารับ ถึงแม้จะยังงงๆกับสิ่งที่หมอบอก

 

 

‘ตั้งสติ? . . . . มันเกี่ยวกับอาการปวดหัวด้วยหรอค่ะหมอ?’

 

 

“ตกลงว่าพรุ่งนี้พี่ฟ้ากลับบ้านได้ใช่มั้ยค่ะหมอ?”ม่านแก้วถามอย่างตื่นเต้น รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า ทำให้ผู้เป็นพี่อดที่จะยิ้มตามไม่ได้

 

“ดูจากอาการแล้ว กลับวันนี้เลยก็ได้ครับ”

 

“จริงหรอค่ะหมอ?! รักคุณหมอที่สุดเลยยย! พี่ฟ้า! เก็บของเร็วๆ!”ร้องออกมาอย่างดีใจ เผลอกระโดดกอดคุณหมอจนเจ้าตัวตาโตเป็นไข่ไดโนเสาร์(- -) ก่อนจะ(ตะโกน)บอกพี่สาวให้รีบเก็บของ ที่จริงควรจะเป็นเธอที่ต้องดีใจไม่ใช่หรอ?!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อเก็บของเสร็จ ก็เที่ยงพอดี สองสาวทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลทันที ทั้งคู่แวะทานข้าวที่ศูนย์อาหารของโรงพยาบาล แต่ยังไม่ทันจะได้ทานก็ดูเหมือนว่าอาหารและขนมในช่วงเช้าจะทำพิษกับน้องสาวซะแล้ว . .

    

    ปุ๊ด!~

 

“อี๋! ม่านแก้ว! พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าให้เก็บอาการต่างๆเวลาอยู่ในที่สาธารณะ โดยเฉพาะ . . ตด!”ดุน้องเสียงเบา เมื่อกลิ่นและเสียงเริ่มมาเตะหูและจมูก

 

“แหะๆ เอ่อ พี่ฟ้า รอ อู๊ยยยย! ม่านแก้วตรงนี้ก่อนนะ ข้าศึกโจมตีแล้ว ถ้าไม่รีบไป มีหวังประตูเมืองคงพัง อู๊ยยย! ระ รอตรงนี้นะ! ”ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็คงหยุดเธอไม่ได้ ขายาวเรียวรีบวิ่งตรงไปยังห้องน้ำทันที ถ้าช้ากว่านี้ มีหวังได้อายหัวมุดขยะแน่ๆ

 

“หึๆ ยัยหัวหอมเอ๊ย”นั่งรอน้องสาวที่ไม่มีทีท่าว่าจะมาสักที เวลาผ่านไปเกือบ 10 นาทีก็ยังไรวี่แวว ท้องร้องถี่ขึ้น จึงต้องเดินไปหาอะไรทานรอน้องสาวก่อน

 

“ข้าวราดแกงเขียวหวานไก่สองจานค่ะ!/หนึ่งถุงครับ!”เดินเลือกร้านอาหารจนมาเจอร้านที่ถูกใจ สั่งเมนูโปรดแต่ใครกันนะที่มาสั่งพร้อมเธอ?

 

“นาย . . . อะ! เอาอีกแล้ว”ทั้งสองหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย อาการปวดหัวพร้อมกับภาพต่างๆนานาผุดขึ้นมา จนเธอแทบตั้งตัวไม่ทัน

 

 

‘หายใจลึกๆ . . สติมา  อาการหาย สติมา อาการหาย . . . โอ๊ยยยย! ไอ้สติบ้า! มาสักทีสิ!’

 

 

“เอ่อ . . . คุณเป็นอะไรรึเปล่า?”

 

“เปล่าค่ะๆ  อะ เอ่อ . . . . แกงเขียวหวานได้แล้ว ขอตัวนะค่ะ”

 

 

 

 

 

 

 

[Panu talk]

 

“เอ่อ . . . คุณเป็นอะไรรึเปล่า?”พอผมหันไปหาผู้หญิงคนนั้น . . ทำไมกัน? ผมพูดอะไรไม่ออกเลย

 

“เปล่าค่ะๆ  อะ เอ่อ . . . . แกงเขียวหวานได้แล้ว ขอตัวนะค่ะ”เธอคนนั้น . . . ใช่แน่ๆ! คนที่ผมเดินชนเมื่ออาทิตย์ก่อน!

 

“พ่อหนุ่มจ๊ะ! แกงเขียวหวานไก่ใส่ถุงได้แล้วจ้า”อะ อ้าว ป้าทำเสร็จตอนไหนเนี่ย?  พอผมหันไปหาเธออีกที . . . หายไปไหนแล้ว?! 

 

“ได้เวลาแล้วสิ”วันนี้ผมมีประชุมตอนบ่าย เลยมาเยี่ยมคุณแม่ก่อน เวลาก็เหลืออีกไม่นาน เฮ้อ~ เหนื่อยจริงๆ

 

 

 

 

 

 

“แม่ครับ”ผมเปิดประตูเข้ามาก็เห็นคุณหมอกำลังคุยกับคุณแม่อยู่

 

“อ้าว คุณภาณุมาพอดีเลย ตอนนี้คุณหญิงสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะครับ แต่ต้องระวังเรื่องการเดินขึ้นลงบันได”

 

“จริงหรอครับ แล้วเรื่องโรคมะเร็งล่ะ?”

 

“หะ?! โรงมะเร . . . ”

 

“อ๋อ! หมอบอกแม่ว่าให้มาตรวจทุกเดือนน่ะลูก”คุณหมอพูดยังไม่จบคุณแม่ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน ผมมองหน้าคุณหมอที่ทำหน้างงกับคุณแม่ที่เหงื่อตกสลับกัน

 

“คะ ครับๆ ผมวันนี้ผมซื้อแกงเขียวหวานไก่มาฝากแม่ด้วย เดี๋ยวให้แจนใส่ถ้วยให้นะครับ พอดีผมมีประชุม”

 

“ไปเถอะลูก เดี๋ยวจะเข้าประชุมสาย”

 

“ครับแม่ เดี๋ยวตอนเย็นผมจะให้ลุงหมายมารับนะครับ”ลุงหมายคือคนขับรถที่บ้านผมเอง ผมลาท่านแล้วเดินออกมาจากห้อง . . . มันแปลกๆนะ คุณว่ามั้ย?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แจน ฉันอยากกินผลไม้ ลงไปซื้อให้หน่อยสิ”หลังจากที่ลูกชายสุดที่รักออกไปได้สักพัก เธอก็บอกให้คนใช้ลงไปซื้อของเพื่อจะได้เปิดทางคุยเรื่องส่วนตัวกับคุณหมอได้สะดวก

 

“ค่ะ คุณผู้หญิง”

 

“คุณหญิงครับ นี่มันเรื่องอะไรกัน?”หลังจากคนใช้ออกไป หมอก็เปิดประเด็น

 

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณหมอ”

 

“แต่ผมงงมากเลยนะที่คุณภาณุพูด มะเร็งอะไรกัน? คุณหญิงไม่ได้เป็นมะเร็งสักหน่อย ร่างกายก็ออกจะแข็งแรง”

 

“ฉันอยากลองใจลูกชาย เลยโกหกว่าเป็นมะเร็งและจะอยู่ได้อีกไม่นาน คุณหมอช่วยเล่นตามฉันหน่อยแหละกัน แล้วก็อย่าบอกภาณุด้วย”เธอโกหกคำโตออกไป คุณหมอทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย

 

“มันจะดีหรอครับ?”ถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ

 

“ถือซะว่าฉันขอนะ”แล้วสุดท้ายก็ต้องใจอ่อน ยอมเล่นตามเกมของเธอ ก่อนจะขอตัวไปตรวจคนไข้รายอื่น สักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น รายชื่อที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอทำให้รอยยิ้มผุดขึ้นมาทันที

 

“สวัสดีค๊าคุณพี่ เป็นยังไงบ้างค่ะ?”

 

“ก็เรื่อยๆค่ะคุณน้อง แต่วันนี้ความลับของพวกเราเกือบแตกแล้วสิค่ะ ดีที่พี่คิดคำพูดออก”

 

“โชคดีนะเนี่ย แต่ก็เกิดว่าตาภาณุรู้เรื่องที่เราโกหกขึ้นมาจะทำยังไงล่ะค่ะ?”

 

“แหม! คุณน้องค๊า ถ้าเกิดว่าเราไม่บอก ทำตัวไม่มีพิรุธ ลูกชายพี่ก็ไม่มีวันรู้หรอกค่ะ 555 ”บทสนทนายังคงไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ทั้งสองกำลังทำ อาจทำให้ลูกๆของพวกเธอทรมาณทั้งกายและใจโดยที่พวกเธอไม่รู้ตัว . . .

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อ่าาา~ ขอโทษนะพี่ฟ้าที่มาช้า ^0^”เดินกลับมาที่เดิมก็เห็นพี่สาวตนเองนั่งเขี่ยข้าวไปมา  ความสงสัยเกิดขึ้นทันที คิ้วสวยผูกกันเป็นโบว์ ฝ่ามือผ่านหน้าสวยหลายครั้งแต่ไม่มีปฏิกริยาโต้ตอบ

 

“. . . . . . . . . . . . .”

 

“เป็นอะไรอีกแล้วเนี่ย? พี่ฟ้า พี่ฟ้า! . . .”

 

“. . . . . . . . . . . . .”

 

“เฮ้ออ~ เหม่ออีกแล้ว . . . เอ๊ะ! ข้าวราดแกงเขียวหวานไก่นิ! *0* พี่ฟ้าต้องซื้อมาให้เราแน่ๆเลย ง่ำๆ >)-(<” ล่ะสายตาจากพี่สาวมาสนใจจานอาหารแทน กว่าผู้เป็นพี่จะรู้ตัว อาหารที่ตนซื้อมาให้น้องสาวก็หมดเกลี้ยงเสียแล้ว

 

“อะ อ้าว . . . ม่านแก้ว มาตอนไหนเนี่ย?”

 

“แหม! กว่าจะรู้ตัว - - มาตอนที่พี่ฟ้านั่งเหม่อนั่นแหละ เป็นอะไรรึเปล่า หรือว่าปวดหัว?”

 

“ก็ปวดบ้าง ไม่เป็นไรหรอก . . . .ว่าแต่เราเถอะ ไปเข้าห้องน้ำหรือไปทำอะไรกันแน่ นานมากเลย - -”

 

“ก็ช่วงนี้ระบบขับถ่ายมันไม่ค่อยดีอ่ะพี่ฟ้า มาแต่ล่ะทีเหมือนสึนามิซัดเข้าฝั่งเลย -0-”กลั้นขำกับประโยคที่น้องพูด ถ้าไม่ติดว่ามีคนอยู่เยอะ ระเบิดหัวเราะไปนานแล้ว - -

 

“สมน้ำหน้า กินเยอะก็เป็นแบบนี้แหละ”

 

“ง่า พี่ฟ้าอ่ะ -3- . . . . อ่อพี่ฟ้า! เย็นวันนี้เราไปบริษัทของธานนท์กันนะ”ตอนแรกเหมือนมีทีท่าว่างอน แต่พอนึกเรื่องสำคัญได้ก็เปลี่ยนโหมดทันที

 

“บริษัทคุณธานนท์? ไปทำไม?”คิ้วผูกเป็นโบว์ทันทีที่น้องสาวพูด

 

“พี่ฟ้าจำเรื่องที่ยัยกอหญ้าพูดได้มั้ยว่าอยากให้พี่ไปร่วมงานด้วย”

 

“อืมมมมมม อ๋อ! จำได้ๆ . . . อย่าบอกนะว่า . .”

 

“พอดีมันมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย ยัยกอหญ้าบอกว่างานมีการเลื่อนให้เร็วขึ้น จะเริ่มอีกไม่กี่อาทิตย์แล้ว ก็เลยโทรมาถามอาการพี่ ตอนนั่นม่านแก้วออกจากห้องน้ำพอดี พอรู้ว่าพี่ออกจากโรงพยาบาลวันนี้ ก็รีบบอกให้ม่านแก้วพาพี่ไปหาที่บริษัทตอนเย็น” พูดไปจนผู้เป็นพี่กระจ่าง

 

 

‘ไหนตอนนั้นบอกว่าไม่รีบไง -*-’

 

 

“เอ่อ. . . เอาตรงๆนะม่านแก้ว พี่ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย”

 

“พี่ฟ้าก็ตกลงไปเลยสิ แค่ถ่ายภาพเองนะ”

 

“มันก็จริง แต่ถ้าพลาดเนี่ย งานเค้าล่มเลยนะ ยิ่งเป็นงานใหญ่ด้วย เกิดพี่ปวดหัวขึ้นมากะทันหันล่ะ จะทำยังไง?”

 

“พี่ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะน้องสุดที่รักคนนี้จะไปด้วย ;D”

 

“ห๊า? แล้วเราไม่ไปทำงานรึไง?”ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ เมื่อน้องสาวพูดประโยคที่ฟังดีๆเหมือนเป็นการบังคับทางอ้อม -*-

 

“จริงสิ ม่านแก้วลืมบอกพี่นินา พอดีอาทิตย์หน้าหมอริสาลาพักร้อน ก็เลย . . . ถือโอกาส หยุดซะเลย ><”

 

“ =___= แล้วหมอริสาเค้าหยุดนานมั้ย?”

 

“อาทิตย์สองอาทิตย์เอง เพราะฉะนั้นพี่ฟ้าต้องรับงานนี้!”จ้องหน้าน้องสาวอย่างเซ็งๆ ไม่รู้ว่าเป็นน้องหรือแม่กันแน่ - -

 

“ถ้าจะพูดแบบนี้ พี่ว่าบังคับพี่ตั้งแต่แรกก็จบ -..-”

 

“เออน่าๆ เรากลับบ้านไปเก็บของกันดีกว่านะ ตกเย็นเมื่อไรก็ไปเมื่อนั่นเลย ^^”ดูเหมือนเธอจะมีความสุขอยู่เพียงคนเดียว ไม่หันมามองใบหน้าอันบูดบึ้งของพี่สาวเล๊ย! - -

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ว่าไงม่านแก้ว คุณฟ้าตกลงมั้ย?”

 

“คนอย่างม่านแก้ว มีหรือจะเกลี้ยกล่อมพี่ฟ้าไม่ได้ หึๆ”เมื่อมาถึงบ้าน พี่สาวก็ขอหลับเอาแรง ส่วนตนก็ไปหลังบ้านเพื่อติดต่อหาเพื่อนสาวที่วานให้เธอช่วยขอร้องพี่สาวให้มาร่วมงานด้วย

 

“แกเกลี้ยกล่อมหรือบังคับกันแน่ =..=”ฟังจากน้ำเสียงก็พอจะเดาออกว่าม่านแก้วต้องใช้วิธีบังคับแน่ๆ

 

“ทั้งสองอย่าง ฮ่าๆๆ เดี๋ยวตอนเย็นฉันจะพาไปหาแหละกัน”

 

“ไม่ต้องๆ! เดี๋ยวนายธานนท์จะส่งคนไปรับ”

 

“รบกวนเปล่าๆน่า ฉันไปกับพี่ฟ้าสองคนก็ได้”

 

“แกปฏิเสธฉันไม่ทันแล้ว เพราะนายธานนท์สั่งกับคนขับรถเรียบร้อยแล้ว แถมตอนนี้คนๆนั้นก็ไม่อยู่ นายธานนท์เข้าประชุม อีกนานกว่าจะประชุมเสร็จ”

 

“แล้วแกทำไมไม่เข้าประชุมด้วยล่ะ”หลังจากฟังเพื่อนพูดมานาน ก็ถามกลับบ้าง

 

“ก็ฉันปวดท้องอ่ะ ถ้าฉันเข้าประชุมด้วย ฉันคงฟังไม่รู้เรื่อง จับใจความไม่ได้แน่ๆ”

 

“อ่ะๆ งั้นก็ได้ -3-”

 

“โอเคคคคค! สี่โมงเย็นเจอกันนะ ;3”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ๊ะ! จะสี่โมงเย็นแล้ว หัวหอมไปไหน?”เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบแต่ความว่างเปล่า นัดเธอไว้สี่โมงเย็นแท้ๆ หายไปไหนกัน?

 

“กระดาษอะไร?”รู้สึกกระหายน้ำจึงเดินไปที่ตู้เย็น แต่กลับเห็นกระดาษโน้ตแปะไว้

 

 

“พี่ฟ้า พอดีหมอริสาโทรตามให้ไปช่วย วันนี้มีคนไข้เยอะ เรื่องที่บริษัทไม่ต้องห่วง จะมีคนมารับพี่ ม่านแก้วเห็นพี่หลับอยู่เลยไม่อยากปลุก หัวหอมขอโทษนะ :3”

 

 

“เฮ้อ! ทิ้งพี่ตลอดเลย”

   

  ติ๊งน๊อง ๆ ~

 

“อ่ะ! สงสัยจะมาแล้ว”เธอรีบเดินไปหยิบเอกสารต่างๆพร้อมกล้องถ่ายรูปด้วย มันก็ต้องเตรียมพร้อมเสมอสินะ

 

“เอ่อ . . . สวัสดีค่ะ”ออกมาจากบ้านก็เจอชายร่างสูงใส่ชุดสูทดูดี นี่หรอคนขับรถ บระเจ้าาา!~ *0* เทพบุตรชัดๆ!

 

“คุณ เอ่อ ม่านแก้วหรือคุณฟ้าครับ?”

 

“ฉันฟ้าค่ะ :)”

 

“อ่อครับ เชิญครับ”เปิดประตูให้ เธอมองอย่างอึ้งๆ เกิดมาไม่เคยมีใครทำให้แบบนี้เลย T^T  แต่ก็ขึ้นไปนั่งแต่โดยดี

 

“แล้วคุณม่านแก้วไปไหนล่ะครับ?”พอขับรถไปได้สักพัก เขาก็ชวนเธอคุย คงเป็นเพราะเห็นเธอนิ่งๆเกรงๆล่ะมั้ง?

 

“ไปทำงานน่ะค่ะ พอดีว่ามีงานเยอะ ทางนู่นเลยโทรตาม แล้วคุณ . . เอ่อ . .”

 

“อ่อ ผมนิภพครับ เป็นคนขับรถของคุณธานนท์ นานๆคุณธานนท์ถึงจะเรียกใช้ที ฮ่าๆ”

 

“อ๋อค่ะ 5555”ทั้งสองคุยกันไปเรื่อยๆจนถึงบริษัท

 

“คุณฟ้าไปที่ห้องคุณธานนท์ถูกมั้ยครับ?”

 

“ไม่ค่ะ ฟ้าไม่เคยมา”มองตึกสูงตรงหน้าอย่างกลัวๆ

 

“งั้นเดี๋ยวผมจะขึ้นไปส่งนะครับ :D”

 

“ขอบคุณค่ะ ^^”รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา ก่อนจะเดินตามนิภพไป  . . หลังจากขึ้นลิฟท์ไปจนถึงชั้นสูงสุดของตึกสูง เสียงโทรศัพท์ของนิภพก็ดังขึ้น บทสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะหยุดเดินแล้วพูดกับปลายสายด้วยความเคารพ

 

“ครับคุณท่าน ผมจะรีบไป . . . . . เอ่อ คุณฟ้า . .”

 

“ถ้ามีธุระก็รีบไปเถอะค่ะ :-)”บอกกับคนข้างๆ เขาพยักหน้าก่อนจะบอกทางไปห้องของธานนท์

 

“ขอบคุณนะครับที่เข้าใจผม ผมไปก่อนนะครับ”

 

“บ๊ายบายค่ะ ^_^”ส่งยิ้มหวานๆให้ทีนึง ก่อนจะหันมาเผชิญกับความจริง . . . . .  - -

 

“เฮ้อออ~ ปลาทองจริงๆเลยฉัน คุณนิภพเพิ่งบอกเมื่อกี้แท้ๆ ลืมได้ยังไง! แล้วไปทางไหนล่ะเนี่ย? TT”ในเมื่อพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก ก็ต้องเดินไปมั่วๆแหละ เผื่อไปถูก(-*-)

 

“โอ๊ย!”แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหน ก็ดันมีคนมาเดินชนซะแล้ว

 

“ผมขอโทษครับ . . . . . . อ้าว คุณ. . . !”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

-ถ้าจะพูดแบบนี้ พี่ว่าบังคับพี่ตั้งแต่แรกก็จบ-

-Paifah-

 

 

 

 

 

 

 

----------------------------------------------------------------------------------------------

 

ปลายฟ้าภาษาอังกฤษถูกมั้ยอ่า TT  เฮ้ออออ ชั่งเถอะๆ! -3-

 

รู้สึกดีใจลึกๆนะ ที่มีคนพอจะเดาเนื้อเรื่องออก ;)

 

ว่าแต่ . . . ใครกันหน๊อออ? ที่เดินมาชนแม่กระต้ายน้อย?      . . .

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา